หุบเขาคนโฉด ไม่ใช่ไอศครีม ไม่ต้องเข้ามาเลีย หรือเชียร์จนละเหี่ยใจ แต่ขอแค่ความจริงใจ ของคนกล้าคิด ไม่ติดอยู่ในกรอบ
30108 Happy New Year 2010 ชุ่ยๆ





Happy New Year 2010





ตั้งแต่ต้นปีมานี่ ไม่ค่อยมีเวลาว่างเลย
ขนาดหายใจยังต้องจ้างคนอื่นทำให้เลย
ช่วงนี้ก็เลยขอทำชุ่ยๆ ผ่านๆไปก่อน
ทำ blog เป็นแนวเขียนไดอารี่มีสาระ ไปก่อนก็แล้วกัน
(เขาว่าคนเรามีความชอบที่จะรู้เรื่องของคนอื่นเป็นทุนกันอยู่แล้ว 555)
แต่บอกก่อนนะที่เขียนเอาไว้ อย่าไปเชื่อหรือตีความให้มากไป
เพราะแกล้งเขียนวกไปวนมา และใช้ภาษาให้สับสน
ถ้าอยากรู้เรื่องจริง ต้องเจอกันหลังโรงเรียน เอ้ย...หลังไมค์
ใครอยากคุยอะไร ฝาก comment เอาไว้นะจ๊ะ



Create Date : 08 มกราคม 2553
Last Update : 17 มิถุนายน 2554 19:17:22 น. 44 comments
Counter : 1673 Pageviews.

 

04-01-2010

วันนี้พาแม่ไปยิงเลเซอร์ตารักษาต้อหิน
หมอบอกว่ายังไม่เป็นอะไร
แต่หมออยากทำให้
สงสัยหมออยากลองวิชา
หรือไม่ก็กลัวว่าสนิมจะกินเครื่องเลเซอร์

ตอนบ่ายโวยวายแม่
เพราะออกมาตากลม ตากผ้า ตากแดด
หมอบอกให้นอนเฉยๆ
อย่าโดนลม อย่าโดดแดด อย่าเพิ่งทำงานอะไร
แม่ผมก็ลองของหมดทุกอย่าง
เตือนแล้วก็ทำเป็นงอน
แม่ใครนะ ช่างดื้อเหลือเกิน


โดย: zoomzero วันที่: 8 มกราคม 2553 เวลา:18:31:08 น.  

 

05-01-2010

เช้า ไปตลาด ไปร้านโจ๊กเจ้าดัง แต่สั่งข้าวต้มกระดูกหมูกิน
สาย ไปจ่ายประกันสังคม
9โมง ไปไหว้พระวัดพระราม9
11โมง ไปหาป้าที่รพ.กรุงเทพ
บ่าย จ่ายค่ามือถือ


โดย: zoomzero วันที่: 8 มกราคม 2553 เวลา:18:32:59 น.  

 

06-01-2010

วันที่ 3 ที่ไปรพ.ติดๆกัน ดีจริงๆ
เช้าตรู่ ไปรพ.ราม เจาะเลือด หาหมอ
เช้ากว่านั้น ทานอาหารร้านแถวหน้ารพ. ซัดข้าวขาหมูเน้นที่หนังมันๆกับคากิ
เช้าแดดแรงอีกหน่อย กลับไปฟังผล หมอส่ายหน้า ถามว่า อยากเดินสายพานตรวจระบบหัวใจหรือเปล่า
เราก็ตอบไปว่า เอาไว้วันหลังนะครับ หมอก็ก้มหน้าจัดยาให้ เหมือนเดิม

สายมากๆ ไปเอาเสื้อกางเกงชุดสูทที่ร้านทรงสมัย
ตัดชุดมาแล้ว พอลองก็รู้สึกว่าอึดอัด ทำไมช่างชอบตัดเสื้อผ้าฟิตๆ
หรือว่าเราอ้วนขึ้นกันแน่ ช่างเหอะ

ก่อนเที่ยง ไปไหว้พระ ลพ.โต วัดบางพลีใหญ่ใน
เที่ยงกว่า เดินชมตลาดโบราณ แวะร้านก๋วยเตี๋ยวหมูเจ้าดัง
คนขายชอบทะเลาะกัน แถมเขียนป้ายประกาศต่างๆเต็มไปหมด ดุชิบเป้ง ไม่ง้อลูกค้าเลย
มีแม้กระทั้ง ก็ยังมาดุลูกค้าว่า ถ้าย้ายโต๊ะอาจจะไม่ได้อาหาร (เพราะจำไม่ได้ว่าโต๊ะไหน)

บ่าย ไปดูนกนางนวล สถานพักตากอากาศบางปู
ซื้อหนังไก่ทอดให้นกกินกลางอากาศ เหวี่ยงทีละ 2-3 อัน ให้ัมันบินชนกันเอง
ได้ทรมานสัตว์แล้ว สบายใจ

บ่ายกว่านั้น ไปหาป้าที่โรงงาน
ขับรถวนจนงงทิศไปหมด ซอยมันถี่เหลือเกิน
ได้ของฟรีมาอื้อ เพราะเราหน้าด้าน ไม่มีความเกรงใจ 555

บ่ายมากๆ ไปธนาคาร เบิกเงิน
เอาไปจ่ายค่าไฟฟ้าก่อนที่จะโดนตัดมิเตอร์
พนักงานธนาคารว่าทำไมมาถอนเงินที่นี้ บ้านอยู่ กทม นี่หน่า (มีการถามแบบนี้ด้วย)
เราก็บอกว่าจะรีบเอาเงินไปจ่ายค่าไฟ
พอเขาเห็นว่าถอน 3 หมื่น เขาก็ทำท่างงๆว่า ค่าไฟบ้านคนหรือโรงงานกันแน่ฟระ
ตอนเย็น ฝนตก น้ำท่วมศรีนครินทร์
รถติด ลำสาลี
เหนื่อยมาก
มือยังเหม็นกลิ่นหนังไก่ทอดอยู่เลย


โดย: zoomzero วันที่: 8 มกราคม 2553 เวลา:18:40:22 น.  

 

07-01-2010

ตื่นเช้ามืด ไปหาลูกสาวคนแรกและคนเดียวที่บ้านแม่ยายที่ยานนาวา
ลูกถามว่ามาทำไม???
เลยบอกว่าวันครบรอบที่พาแม่เธอหนีไปจากบ้านคุณยายของเธอไง
ลูกหัวเราะ บอกว่า เย็นนี้ไม่ต้องพาไปไหน เพราะจะดูหนังสือ อ้าว...มันรู้ทัน
เลยใส่บาตรกันหน้าบ้าน แล้วไปส่งลูกที่ศาลายา
ลูกขอให้เอาน้องอีกสองคนไปส่งโรงเรียนแถวเซ็นทรัลด้วย
ถามว่าพ่อของเจ้าสองคนนี้ไปไหน
คำตอบคือนอนอยู่ เมื่อคืนดูบอลล์จนเช้า จบข่าว!!
เลยต้องเอาลูกของชายอื่นไปส่งพ่วงไปด้วย

ส่งเด็กๆเสร็จ ไปหาก๋วยเตี๋ยวเป็ดทานที่ตลาดดอนหวาย ร้านนายหนับ
ทานอิ่มเสร็จขี้เกียจเดินไปถวายสังฆทานที่วัดดอนหวาย อิ้มแล้วไม่อยากเดิน

ก็เลยขับรถไปไหว้ ลพ.วัดไร่ขิง ไหว้พระ
และถวายทาน (ขี้เกียจรอคนเข้าคิวถวายสังฆทานเลยกลับ)

ออกจากวัดก็ซื้อปลาดุกเผือก เอาไปปล่อยวัดท่าพูด อยู่ใกล้ๆกัน
ปล่อยปลาเสร็จก็ลื่นล้มริมตลิ่ง เสื้อผ้่าเละและเลอะ หมดหล่อไปเลย
กะว่าจะลงไปว่ายในแม่น้ำนครชัยศรีซะหน่อย
ตกลงมาสะเดาะเคราะห์หรือมาหาเคราะห์ก็ไม่รู้
ตะไคร่น้ำนี่น่ากลัวจริงๆ ดีว่าไม่เอาหัวลงพื้น

ใกล้เที่ยงก็ไปไหว้พระราหูที่วัดศรีษะทอง อยู่ทางไปนครปฐม เลยแยกนครชัยศรีไปนิดหน่อย
อยู่ขวามือ บนซุ้มประตูมีรูปยักษ์ราหูตัวใหญ่มาก
ซื้อของดำ 8 อย่าง บานศรี 1 คู่ เอาของกินกลับบ้านได้ เขามีถุงให้ใส่ของด้วย

บ่ายโมงตรง ไปไหว้ศพ ลป.เจือ วัดกลางบางแก้ว นครชัยศรี
โบสถ์สูงมาก เดินไปเหมือนขึ้นภูเขาเลย
น้ำอ้อยคั้นสดๆตรงหน้าศาลาสวดศพอร่อยและหอมมาก

จากนั้นก็กลับเข้า กทม รถติดที่สะพานพระราม8 นานมาก
ลงจากสะพานแล้ววนรถอ้อมมาเข้าวัดอินทร์ ไหว้ ลพ.โต พระยืนองค์ใหญ่ที่สุดในกทม
ซื้อปลาทูมาจากดอนหวาย ก็เลยเอามาไหว้พระวัดนี้แหละ
(นี่แหละทำไมต้องไปตลาดดอนหวาย เพราะไปซื้อปลาทูัตัวใหญ่ๆ)
เข้าไปไหว้ สมเด็จโต ในห้องสวดมนตร์ คนแน่นมาก กลับดีกว่า ไม่ได้สวดอะไรเลย

แวะซื้อซาลาเปากับขนมจีบเจ้าอร่อยที่ซอยพะเนียง ใกล้ตลาดนางเลิ้ง
อยากจอดรถ ข้ามไปซื้อของในตลาด แต่สมาชิกในรถไม่ยอมให้จอด บ้าจริงๆ

เอ้ย...ยังไม่ได้กินข้าวกลางวันเลย กินแต่ของจุกจิกมาตลอดทาง
คณะทัวร์อยากไปทานข้าวที่ร้านกัลปพฤกษ์ สีลม
แต่เราอยากไปไหว้พระพิฆเณศร์วัดแขก เลยไปทานร้านตะลิงปิง อยู่ในซอยวัดแขกนั่นเอง
โอ้ย...ร้านก็เล็กๆ แต่คนแน่น แถมมีแต่พวกฝรั่ง คุยกันไร้มารยาทมาก
เสียงดังยังกับอยู่ในโรงหนังที่ฉายหนังซาวด์แทร็ก ปวดหู

มาดูเวลา ไปไหว้พระวัดแขกไม่ทันแล้ว ต้องโทษว่าอาหารมาช้าไปนิด
เลยต้องข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา มุ่งหน้าศาลายา อีกรอบ

คราวนี้รถไม่ยักกะติด เลยเหลือเวลาอีกเกือบชั่วโมง
เลยต้องแวะโลตัสสาขาศาลายา กินไอติมจนง่วงนอนเต็มที
ออกมาก็ไปรับลูกสาวที่มหาวิทยาลัย

กลับมาถึงบ้านแม่ยาย
ไม่เห็นลูกจะอ่านหนังสือสอบเลย เห็นเปิดคอมฯเล่นเกมซะงั๊น
เลยบอกลูกว่า พ่อไปหละ
ลูกออกมายืนส่ง
แล้ววิ่งกลับไปเล่นคอมฯก่อนที่แมบ้านจะปิดประตูหน้าบ้านเสียอีก

ตอนนี้ก็กลับมาเป็นคนโสด
ไม่มีลูกเหมือนเดิม
ชีวิตก็วนไปเวียนมาแบบนี้ 555


โดย: zoomzero วันที่: 8 มกราคม 2553 เวลา:18:45:35 น.  

 

08-01-2010

เช้าไปทานข้าวร้านข้าวแกงในซอยแถวฟูดแลนด์
ซื้อข้าวกับกับข้าว
เอาของไปถวายหลวงพี่ที่วัดบึง
นั่งคุยกับท่านพอรากใกล้จะงอกเลยนมัสการลากลับ

เนื่องจากเมื่อวันพุธฝนตกหนักมาก
พื้นหลังบ้านทรุด รั้วทรุด หลังคาครัวโก่ง
น้ำซึมไหลท่วมห้องครัว กล่องกระดาษเละไปหมด
วันนี้เลยต้องไปตามหาช่างมาซ่อมหลังคา
ปรากฎว่าร้านที่เคยจ้างกันไว้แถว รพ.ลาดพร้าว เจ้งไปแล้ว

โทรไปหาแม่ขอเบอร์ช่างอีกคน
โทรไป ปรากฎว่าช่างปิดมือถือ โทรไป 10 รอบก็ไม่ยอมโทรกลับ ซวยจังเลย

ตอนเที่ยงพาแม่ไปหาหมอ
ระหว่างรอเลยไปหาอาหารญวนทาน
แหนมเนือง ก๋วยจั๊บกระดูกหมู ส้มตำ ลาบหมู ข้าวเกรียบปากหม้อ ไอ้ติมกระทิสด ฯ
กลับมารับแม่ที่ รพ
พาแม่ไปส่งบ้าน

ออกมาหาช่างที่กำลังก่อสร้างแถวละแวกบ้าน
เจอบ้านหลังใหญ่เขากำลังทำโรงรถ
เลยหิ้วช่างมาดูบ้านเราเลย
ช่างบอกว่างานลูกช้าง ขอแค่ หมื่นสอง
เราไม่ต่อ แต่บอกว่า ต้องทำด่วนที่สุด ก่อนครัวจะกลายเป็นสระว่ายน้ำ
เขาขอค่าซื้อของ หกพัน โอ้...โหดนะนี่
เอาไปเลย หมูขึ้นเขียงแล้วนี่หว่า
แล้วถ้าช่างมันล่องหน เราจะทำอย่างไร
หวังว่าเงินหกพันคงไม่ใช่ค่าโง่
ใครจะเชื่อว่า น้องเขยของเราเป็นผู้รับเหมาเหมือนกัน
แต่ถือเคล็ดลับว่า อย่าจ้างญาติมาทำงาน เพราะด่ามันไม่ได้
และมันก็ไม่ได้กำไร เพราะเกรงใจเราอีก
เลยไม่พึ่งญาติ

ตอนเย็นฝนตกพร่ำๆ
ต้องรีบปูผ้ายางในครัวอย่างไว
ดีว่าฝนตกไม่หนักมาก
แต่คืนนี้ ไม่แน่ ถ้าตกหนัก อาจจะไม่ได้นอนเต็มตา

ทำไม ปีนี้มันมีแต่เรื่อง ฟระ


โดย: zoomzero วันที่: 8 มกราคม 2553 เวลา:18:58:05 น.  

 
จะเอ๋! ชีวิต มีอะไรให้ทำเยอะเลยน่ะลุงซูมมม

ไม่เห็นจะชุ่ยๆ ตรงไหนเลย เขียนไดอารี่ ก็แปลกตาไปอีกแบบสำหรับหุบเขาคนโฉด

องค์ประกอบภาพฉากหลัง ในc-box ที่เป็นภาพวัฒนธรรมไทย ในวันขึ้นปีใหม่ ดูอบอุ่น สีเย็นตาดี อีกทั้งรูปดอกบัวลอยเหนือน้ำกับ ปลาสามสี่ตัวที่แหวกว่ายอย่างสบายใจ ในน้ำ เข้ากันได้ดีกับฉากหลัง เอ! เห็นมีหัวใจลอยๆอยู่ด้วยน่ะ สงสัย ของเจ้าของ c-box แหง แหง!

ไปล่ะ ทางโน้นฝนไม่ตก มีแต่หิมะตก อ่ะ!
หวังว่าห้องครัวที่บ้าน คงสมบูรณ์ในเร็ววัน


โดย: นกสีขาว IP: 79.66.35.201 วันที่: 11 มกราคม 2553 เวลา:9:16:54 น.  

 
Tags Maker is a Text Image Generator to write Messages, Comments or Tags on Pictures

หวัดดีค่ะเฮีย
ฮ่า ๆ ๆ เปิดประเดิมปีใหม่มาด้วยอารมณ์เซ็ง ๆ เลยเหรอคะ อิอิ
ไม่ได้เยาะเย๊ยนะ ตั้งใจจะแหย่ให้เฮียอารมณ์ดีต่างหากค่ะ
มินก็เพิ่งกลับมาเมื่อวานนี้เหมือนกัน พาคุณนายแม่ไปเที่ยวเก็นติ้งมาค่ะ
อากาศดี๊ดี แต่น่าแปลกที่ไม่ค่อยมีคนพลุกพล่านเลยอ่ะ
ไม่รู้เป็นที่พิษเศรษฐกิจหรือป่าว มันโล่ง ๆ ชอบกลอ่ะนะมินว่า
เช้า ๆ ตีห้า นึกว่าผีหลอก เสียงออย ๆ ๆ ๆ เหมือนเสียงสวดดังขรมไปหมดอ่ะค่ะ ฮ่า ๆ ๆ
และก็เป็นเสียงสวดจริง ๆ ด้วยจิคะ ฮ่า ๆ ๆ
วันนี้ยังเหนื่อย ๆ อยู่เลยค่ะ ไอ้คอมพ์ที่ทำงานเนี่ย
มันก็ไม่ค่อยเป็นใจเล๊ย โคตะระช้าเลย สงสัยมันเล๊าท์เตอร์กันหลายตัวมั๊ง
ไม่รู้มันจะเกี่ยวกันหรือป่าวอ่ะค่ะ แต่ว่าที่บ้านมิน มันเร็วกว่านี้เยอะเลยค่ะ
เดี๋ยวค่ำ ๆ ค่อยมาคุยใหม่นะคะ เพราะต้องไปขอบคุณอีกหลายบ้านอ่ะค่ะ
ทำใจให้สบาย ๆ มีความสุขมาก ๆ นะคะอาเฮียอ่ะนะ ฮ่า ๆ ๆ


โดย: มินทิวา วันที่: 11 มกราคม 2553 เวลา:10:28:49 น.  

 
ขอย้อนกลับไปก่อนปีใหม่ 2-3 วัน
เพราะบรรยากาศสิ้นปีกับปีใหม่ก็คล้ายๆกัน
คือ ไม่ต้องทำงาน กินและเที่ยวเท่าที่เงินในกระเป๋าจะพาเราไปได้


วันนั้นเป็นวันที่ 27-12-2552
พอดีคุณนายกับคุณหนูว่าง และอยากไปเที่ยวชายทะเล
เอาแบบไม่ไกลมาก คนไม่มาก แต่อาหารอร่อยมาก
เลยต้องจัดให้....ไปบางแสน ชลบุรี
เป้าหมายหลักคือ ไปไหว้เจ้า และอยากไปไหว้เจ้าที่เป็นเด็ก
อ้าว...มีคนหาว่ากวนโอ๊ย
เจ้าที่ไหนฟระ เป็นเด็ก
ไม่เชื่อก็ตามมา

วันนั้น เพิ่งรู้ว่าค่าผ่านทางมอเตอร์เวย์ ไม่คิดตังค์ วิ่งฟรี ในช่วงปีใหม่
แหมนอกจากโกงเงินค่าผ่านทางเป็นแล้ว ยังใจดีให้ผู้ใช้บริการอีกนะ พี่ๆทางด่วน
ถ้าไม่ติดว่าต้องพาเจ้านายไปชายทะเลนะ ผมจะวิ่งไปกลับมอเตอร์เวย์ซัก 10 รอบ

ก่อนอื่นต้องไปหาอาหารอร่อยๆก่อน
ร้านนี้ชื่อ ร้านเจ้อ่วย
เข้าไปทางเส้นแยกสุขุมวิท ไปทางอ่างศิลา
พอเห็นทะเล ขวามือจะเป็นทางเข้าตลาดโบราณอ่างศิลา 133 ปี ซึ่งกำลังบูม (ต้องมาเสาร์-อาทิตย์)

(รูปนี้ แอบไปฉกมาจากเว็ปตากล้อง)


ปัญหาของการมาตลาดนี้ก็คือ อาหารทะเลสดและคุณภาพดีมาก
แต่ต้องขับรถฝ่าจราจรที่ห่วยๆ แล้วยังต้องเอาไปปิ้งหรือย่างอีก
เหนื่อยและหิวจนหมดความอร่อย สู้ซื้ออาหารที่เขาทำตามสั่งทานตรงนั้นดีกว่า
แพงหน่อยแต่ก็ได้อิ่มตรงนั้น
เหมือนจีบสาว ถ้ารอถึงวันวิวาห์มันซื่อเซ่อกันเกินไปสำหรับชายโฉดอย่างเรา
ต้องรีบกินโยค(yolk)ของแฟนดีกว่า อย่างน้อยคนอื่นได้เธอไป ก็เป็นของใช้แล้ว 555
เฮ้ย...ออกแนวโฉดได้ยังไงเนี๊ยะ (นี่หละหนา ปิดยังไงก็ไม่มิด สานดานดิบ)

พอมาถึงสุดปลายถนน เราก็เลี้ยวซ้าย วิ่งเรียบชายฝั่ง (ไม่ใช่ชายหาดนะ)
ผ่านศาลเจ้าหน่าจา ตอนนี้ยังไม่ต้องจอด
พยายามมองทางซ้าย ไม่เกิน 500 เมตร จะมีซอย และป้ายชื่อร้านเจ้อ่วย
เข้าซอยไปประมาณ 300 เมตร ร้านอยู่ในซอยเล็กๆทางซ้ายมือ
ขับเข้าไปอีก 100 เมตร หาที่จอดรถได้เลย จอดรถได้มากกว่า 30 คัน

ถ้าเงยหน้า มองบนต้นไม้หรือบนหลังคาร้านนี่แหละ จะมีธงชาติไทย สูงเด่นเป็นสง่า



ร้านเขาก็เป็นแบบลูกทุ่ง คล้ายร้านคาราโอเกะหนะ
มีแค่ชั้นเดียว หลังคาเตี้ยๆ ตอนกลางวันเดือนเมษายน ร้อนมั๊กมาก



วันนั้นไปกันเลยไก่โห่ แต่ยังไม่มีลูกค้า เลยสั่งอาหาร อย่างสบายใจ
บรรยากาศในร้านก็เป็นแบบนี้



อาหารทะเลอร่อยทุกอย่าง เพราะสด ราคาไม่แพง เมนูแนะนำ ทอดมันกุ้ง ปลากระบอกต้มส้ม ข้าวผัดปู หมึกไข่มะนาว ฯ
(ลืมถ่ายรูปอาหารมื้อนี้ เพราะหิวจนจะเป็นลม)
พอเรียกเก็บเงิน ทางร้านจะแจกผลไม้ให้ด้วย วันนั้นได้ทานเงาะ
เขามาให้ 1 จาน แต่ก็หน้าด้านขออีกจานจนได้ 555



โดย: zoomzero วันที่: 11 มกราคม 2553 เวลา:13:15:21 น.  

 
27-12-2553 ภาค 2

ออกมาจากร้านเจ้อ่วย ก็เลี้ยวขวาปากซอยมุ่งหน้าเขาสามมุข
เขานี้เดิมชื่อ สมมุก แล้วต่อมาทำไมถึงเป็น สามมุข ก็จำไม่ได้
อย่าให้เล่าเลย เดี่ยวเล่ายาวนะจ๊ะ
แต่ถ้าใครอยากฟัง ก็ต้องยอมให้หอมแก้มหนึ่งที 555
แต่คนมักจะเขียนว่า เขาสามมุก ซึ่งก็ไม่ทราบเหมือนกันว่า อันไหนถูกกว่ากัน
รู้สึกว่าวันนั้นแดดจะร้อนมาก เลยไม่อยากแวะขึ้นไปไหว้เจ้าแม่เขาสามมุขกัน
อีกอย่างก็แอนตี้เรื่องลิงเดินเพ่นพ่านตามถนน เพราะคนไปวุ่นวายกับลิงพวกนั้น
กลัวว่าจะขับไปทับลูกลิงตาย เป็นบาปเปล่าๆ เลยเลี่ยงไปก่อน เอาไว้วันหลังค่อยมาไหว้ท่านดีกว่า
ตั้งใจขับเลยจนถึงไปบางแสน อาจจะแวะดูปลาที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทร์ แต่ก็ยังไม่ได้กำหนดแน่นอน
แต่แล้วก็เกิดเปลี่ยนใจ เลี้ยวรถขวาตรงสี่แยกข้างหน้า เขาไปทางแหลมแท่น ไปดูว่าเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร
จริงๆก็มีร้านอาหารอร่อยที่เคยมาทานบ่อยๆ อยู่ตรงทางโค้งที่ดูแล้วก็น่ากลัวนิดๆ
ชื่อร้านปะการัง ราคาไม่แพง เป็นร้านใหญ่ คนจะนึกว่าราคาโหด
แต่ลูกค้าขาประจำของเขาเพียบ จอดรถแล้วต้องเดินข้ามถนน แต่มีรปภ.คอยดูแลเด็กๆให้ข้ามอย่างปลอดภัย
ร้านนี้ถ้าไป ขอแนะนำกรรเชียงปูนึ่ง จานละ 200-250 บาท สด+อร่อย
พนักงานในร้านแต่งตัวแบบฮาวายๆเหมือนกันหมด ดูเพลินตาดี

พอผ่านซุ้มประตูเข้าเขตบางแสน มองไปทางซ้าย ด้านชายหาด
เห็นว่าคนน้อยดี เลยหาที่จอดรถ เช่าเตียงผ้าใบ นอนรับลมทะเลกันดีกว่า

มองย้อนออกไปทางเขาสามมุข เส้นทางที่เพิ่งผ่านเข้ามา



ลานจอดรถ



ร้านอาหารตรงที่จอดรถ น่าจะมีอยู่แค่ 2 ร้าน ร้านนี้คนขายสวย เลยเลือกร้านนี้

ร้านน้องแอน


สุดลานอิฐตัวหนอนก็เป็นชายหาด ที่ไม่น่าจะลงไปว่ายน้ำได้

ชายหาดด้านแหลมแท่น


ด้านหน้า มองเห็นเป็นหาดทรายและลานหิน
บริเวณลานหินและชายหาดแหลมแท่นที่เหลืออยู่น้อยนิด


อยู่ๆก็มีนกบินมาเดินให้ชมเล่นเพลินตา
นกน้อยหลงทาง


เห็นเด็กชายหลายคุณยายที่ร้านนั้นไปตกปลามา
ก็เอามาย่างไฟ กลิ่นหอมฉุย
เลยเดินไปถามว่าปลาอะไร ฟังชื่อไม่ถนัดว่า ปลาสีกุน หรืออย่างไรนี้แหละ
หน้าตาเหมือนปลาทู ขอชิมหนึ่งชิ้น พอบอกว่าอร่อย เขาก็แบ่งให้ทาน แต่เกรงใจหยิบมาแค่ 1 ตัว
เลยต้องสั่งยำวุ้นเส้น ยำรวมมิตรทะเล มาม่าผัดขี้เมา ส้มตำไทย ส้มตำปู ฯ

เด็กชายคนนั้น เขาบอกว่าใช้เหยื่อปลอม ตกมาจากอ่างศิลา ตรงที่มีสะพานยื่นไปในทะเล
ตอนกลางคืน ช่วงนี้ก็เป็นหน้าปลาหมึก ตกที่เดิมก็ได้อีก
แปลว่าน้ำทะเลบางแสนก็สะอาดพอสมควรแล้วนะซิ
ปลาสีกุนที่ตกได้ ขนาดยังเป็นตัวเล็ก เขาบอกว่าตัวจริงเสียงจริงมันใหญ่กว่าปลาทูเสียอีก

ปลาที่ตกมาได้ เอามาย่าง




โดย: zoomzero วันที่: 11 มกราคม 2553 เวลา:13:36:44 น.  

 
27-12-2553 ภาค 3
ออกจากแหลมแท่นก็ขับรถย้อนไปทางอ่างศิลา แวะศาลเจ้าหน่าจาไท้จื้อ
ซึ่งเป็นศาลเจ้าเด็ก ตามที่ได้บอกไว้ในตอนแรก

มองมาเจอป้ายห้ามถ่ายรูปในวิหาร ก็เลยเกิดความงง และเซ็ง
ทำไมหนอ แค่ถ่ายรูป ถึงไม่มีเมตตาให้กันเลย แปลกใจจัง
เราเอาเงินมาทำบุญให้พวกคุณตั้งมากมาย และมากันหลายครั้ง
คนทีมาก็อยากมาไหว้พระ ไหว้เทพ และถ่ายรูปสิ่งศักดิ์สิทธิ์เอาไว้ดูและเป็นที่ระลึก
ใครช่างใจร้ายห้ามคนมีกล้องอย่างเราได้ โถ่...สงสารกล้อง
แล้วคราวนี้เชื่อหรือยังว่า ความใจร้ายนั้นไม่ได้มีแค่ที่หุบเขาคนโฉดเท่านั้น 555

ศาลหน่าจา


สัญลักษณ์ของเขาก็ต้องเสามังกรสูงๆแบบนี้



ด้านซ้ายมือเป็นส่วนทำบุญบริจาคเงินและแก้เคล็ดแก้ปีชง มีผักสดๆขายด้วย


ด้านหน้าอาคารสูง จะมีสระน้ำและเทวรูป


ขากลับก็ขับรถย้อนเส้นทางไปทางอ่างศิลา พอใกล้ทางโค้งหักขวา90องศา ซ้ายมือจะมีร้านขายของฝากมากมาย
ตรงนั้นจะมีลานจอดรถได้หลายคัน และมีอาหารและของฝากครบครัน

ขนม


พวกหอยห้อย ก็น่าซื้อไปแขวนเล่น


ตรงหัวมุมแผงลอย จะมีร้านขายข้าวหลาม คนขายเป็นสาวประเภทสอง
หน้าตาดี ของที่ขายก็ใหม่ และอร่อย โดยเฉพาะขนมหม้อจากที่มีหลายไส้ให้เลือก
น่าจะเป็นสาขาย่อยของเจ้าอร่อยที่หนองมน

ข้าวหลามอ่างศิลา





โดย: zoomzero วันที่: 11 มกราคม 2553 เวลา:14:09:09 น.  

 
ตอบ comment จาก entry ก่อนหน้านี้
To มินทิวา

เรื่องลงประกาศเอ็นทรีใหม่ของบล็อก
เฮียก็ติดปัญหาคล้ายๆอามิน ก็คือ พอเลยวันนั้นๆไป ก็ไม่อยากแก้ไขหรือเอาข้อความนั้นๆลง
อยากจะโม้ว่า ยังมีเรื่อง แพนด้า ไข้หวัดนก นาธาน มาบตาพุด ฯ ซึ่ง พอเวลาผ่านไป อะไรๆมันก็
ไม่ได้อารมณ์ตามอย่างที่เราเจตนาจะสื่อสาร และบางทีข้อมูลของเราก็ล้าสมัยไปแล้วอีกด้วย
แต่จริงๆเป็นคนที่ชอบทำแบบ ทำวันนั้นรวดเดียว แล้วโพสต์วันนั้นเลย
เพราะถ้ารอหลายวัน มันจะใส่จริตมากเกินไป แก้ข้อความและหาข้อมูลเพิ่ม
จนบางทีเหมือนงานวิทยานิพันธ์ของคนบ้า 555
สิ่งที่ต้องบอกตัวเองก็คือ ไม่ต้องไปห่วงมันมาก เราไม่ใช่ดารา ไม่ใชอาชีพ
แค่ได้คุยกันกับเพื่อนๆก็พอแล้ว ไม่ต้องเน้นประเด็นอะไรที่ อินเทรนด์ก็ได้

เรื่องแม่ลูกคุยกันไม่ไพเราะ
เฮียว่ามันติดเป็นนิสัยถาวรไปแล้ว เรื่องท่าทีที่เฮียคุยกันแม่
ถ้าให้เป็นสุภาพชน มันก็ไม่ใช้เรา
เพราะเรามันเป็นลูกชังที่ผ่านเรื่องร้ายๆมามากมาย
ใครบอกว่าพ่อแม่รักลูกเท่ากัน เฮียนี่หละคนหนึ่งที่ขอเถียง ไม่จริงหรอก
พ่อแม่เป็นคนธรรมดาๆ ไม่ใช่เทวดาหรืออรหันต์ หรือหุ่นยนต์คอมพิวเตอร์
ไม่ใช่ศาลสถิตย์ยุติธรรม ท่านรักลูกทุกคน อันนี้ถูก
แต่สำหรับคนที่เอาไปเติมว่า รักลูกเท่ากันทุกคน เฮียว่าเมายากันยุงแล้วหละ ถ้าคิดแบบนั้น
ท่านก็ดีบ้าง ร้ายบ้าง ไปตามนิสัยของท่าน บวกกับสภาพแวดล้อม ณ ช่วงเหตุการณ์นั้นๆ
แล้วกรรมที่ลูกๆได้กระทำเอาไว้ในอดีต และในวันนั้นๆ มันก็เปลี่ยนอารมณ์และคำพูดของพวกท่านได้
เฮียมักจะเป็นลูกที่กล้าว่าพ่อแม่แรงๆ
เพราะเราคิดว่าเราหวังดี และเราก็โดนด่ามามากกว่าพี่น้องทุกคน
ถ้ามันจะมีเรื่อง ที่ท่านเหม็นหน้าเรา เราก็ไม่ได้เสียใจกับคำพูดของพวกท่านมากไปกว่านี้
และอีกอย่าง เรื่องที่เฮียเอามาพูดกับพวกท่านก็มักจะเป็นเรื่องจริง ที่พวกท่านไม่ยอมเชื่อ
อย่างคุณพ่อ พอเกษียณก็กลับไปอยู่บ้านคุณย่า(เสียไปนานแล้ว)ที่ต่างจังหวัด 1 ปี
พอกลับมาอยู่กรุงเทพนก็ติดที่ต้องมีเหล้าไว้บนโต๊ะอาหาร 1 ขวด หรือ 1 แก้ว
เพราะคนเฒ่าที่บ้านนอกบ้านนาเขาทำกัน สังคมชนบทไทยนี้อ่อนแอเต็มที
พ่อจะชอบอ้างว่า เหล้าเป็นยาช่วยให้ทานอาหารได้ดีขึ้น แก้อาการปวดท้อง ฯ
เฮียก็ว่าพ่อ ห้ามพ่อ พ่อก็ด่าเฮีย โดยให้เฮียกลับไปถามครูสอนสุขศึกษาว่าเฮียเกิดมาจากอะไร 555
เฮียลองถามว่าอายุพ่อเยอะแล้ว เดี๋ยวตับไตมันจะพัง สุขภาพเป็นเรื่องใหญ่นะ
ลูกๆคนอื่นนอกจากไม่ห้าม แต่กลับขยันซื้อเหล้าเอามาฝากท่าน พ่อก็บอกว่า ขอบใจๆๆๆ เออดีๆๆๆ
สุดท้ายพ่อก็ตายเพราะมะเร็งตับ ผมก็ด่าได้พวกที่ซื้อยาพิษมาให้พ่อกิน
พวกเขาก็ทำหูทวนพระพายไปกันหมด แถมวันอะไรๆพวกเขาก็ดื่มกินกันอย่างเอร็ดอร่อย
พอมาเรื่องแม่ ทั้งๆที่รู้ว่าแม่ไปเลเซ่อร์ตา พวกเขาก็ยังอยากให้แม่ทำอาหารอร่อยๆให้ทานกัน
แค่ทนอดกินฝีมือแม่ไปแค่ 5-6 วัน ก็รอกันไม่ได้
อ้างว่ากับข้าวถุงไม่อร่อย สกปรกบ้างหละ
พอแม่ทำให้ทาน พวกเขาก็ชมแม่ แม่ก็ยิ้มหน้าบาน
ส่วนผม แม่มองค้อนแล้ว ค้อนอีก หาว่าอิจฉาน้องๆ เออ..กรรม
ไม่เป็นไร เป็นลูกรักลูกชัง อยากให้เราเป็นลูกเบอร์อะไร เราก็ยังเป็นลูกท่านเสมอ
แค่เวลาที่ท่านจะเจ็บจะตาย เรียกหาเราก่อนเป็นเบอร์หนึ่ง เราก็ภูมิใจแล้ว 555

ส่วนอันนี้ตอบของใหม่ของวันที่ 11 ตอนเช้า
ดีจังเลยนะได้พาคุณแม่ไปเที่ยวเก็นติ้ง
แล้วได้พาท่านไปเล่นคาซิโนหรือเปล่าหละ
หรือว่าพากันไปตีกอล์ฟ
เฮียไม่ชอบตีกอล์ฟ แต่ชอบดูกอล์ฟกับไมค์ร้องเพลงนะคะ 555

คอมฯที่ทำงานที่ช้าๆ ก็อาจจะเป็นเพราะ server มันอายุเป็นรุ่นปู่ของเครื่องในปัจจุบันไปแล้วก็ได้
จริงๆปีนี้ผมก็ว่าจะยันเจ้าเพนเที่ยมสองของเก่าที่ใช้อยู่ที่บ้านออกไปนอกเคหะสถานอยู่เหมือนกัน
แต่พอไปดูเครื่องรุ่นใหม่ๆ กลับต้องกลับมาตั้งหลัก เพราะมันมีอะไรแปลกใหม่จนงงไปหมด
ทูคอร์ ดูออลคอร์ ควอทคอร์ ดีวีดีบลูเรย์ หรือ ดีดีอาร์แรมสาม ฟังแล้วตามเทคโนโลยี่ไม่ทัน
เครื่องคอมฯเปล่าๆไม่มีจอ ขายกันที่ 15,000 - 18,000 บาท
เน็ทบุ๊ค ราคา 12,000 บาท โน๊ตบุ๊ก ราคา 20,000 บาท(ครบทุกอย่างที่อยากให้มี)
ถ้าเอาแบบไม่หรู ไม่มีกล้อง โน๊ตบุ๊กมีราคาไม่ถึง 12,000 ด้วยซ้ำ
ส่วนคอมฯที่ทำงานของอามินมันใช้เหลาเต้อ(router) ก็ไม่รู้ว่ามันแก่เหลาเหย่ ขนาดไหน
บอกให้เขาเปลี่ยนๆของใหม่ที่ไวว่องกว่าเก่าเสียเหอะ

Mintita RoyalBlue 4169E1


โดย: zoomzero วันที่: 11 มกราคม 2553 เวลา:15:02:57 น.  

 
ตอบ comment จาก entry ก่อนหน้านี้
To haiku
สวัสดีปีใหม่ครับคุณไฮกุ
จะเรียกผมว่าอะไรก็ตามสบายเลยนะครับ
แต่ขอร้องว่า อย่าเรียก "ที่รัก" ก็พอ
เดี๋ยวจะมีสาวๆกรี๊ดกันลั่นกุฏิ เอ้ย...หุบเขาคนโฉด

คุณไฮกุจะเป็นกูรู กูรู้ หรือ กรูม่ายรู้ ก็ยังเป็นเพื่อนผมเหมือนเดิม
เพราะผมชอบมีคนรู้จักเป็นคนมีระดับ เผื่อจะได้เอาไปโม้ได้ว่า คนนี้ๆๆ ผมรู้จักๆๆ

ขอบคุณที่เป็นกำลังใจให้คุณแม่ของผม
ตอนนี้ท่านก็น่าจะไม่เป็นอะไรแล้ว
เมื่อวันศุกร์ หมอก็ไม่ได้ว่าอะไร ให้ยามาทานเป็นถุงๆ หลายถุง
ไม่รู้ว่ายาบำรุงหรือขนมให้ทานตอนดูทีวีหลังสองทุ่มก็ไม่ทราบ 555

haiku DarkGrenn 006400


โดย: zoomzero วันที่: 11 มกราคม 2553 เวลา:15:14:22 น.  

 
ตอบ comment จาก entry ก่อนหน้านี้ และวันนี้
To นกสีขาว
สวัสดีปีใหม่ครับ น้องแอน
ขอโทษที่ด้วยที่เมื่อเช้า ไม่ได้ตอบ M
เปิดเครื่องแต่คนกับเครื่องอยู่กันคนละที่

เมื่อวานดูข่าว เห็นว่าอังกฤษหนาวมากๆ
ระวังจะเป็นป่วยอีกนะ
อยากนอนในคืนที่หิมะโปรยปรายอย่างในนิทานนิยายบ้างจัง
แต่ทำไมคนที่อยู่ในเหตุการณ์กลับบอกว่าไม่สนุกเลย หุหุ

Entry นี้ ชุ่ยๆจริงๆ
เพราะคิดว่าจะทำแบบอลังการงานสร้างพันเจ็ดร้อยล้าน
แต่มาเลือกเอาแบบเรียบง่าย และก็เขียนเล่าแต่เรื่องของตัวเอง
ก็คือประชดหักมุมไอเดียเสียเลย เอาแบบที่เราไม่อยากทำ
ก็ลองทำดู
แต่ดูแล้ว มันเป็นเหมือนคนดีมากไปหน่อย
รู้สึกคันๆตัวยังไงๆก็ไม่ทราบ

ห้องครัวกำลัง ปวดหัว
ช่างมารื้อหลังคา แล้วก็หายหัวไปเลย
บอกว่าจะไปสั่งซื้อกระเบื้องหลังคา
มันไปซื้อที่โรงงานแถวสระบุรีหรือเปล่านะ

ตอนแรกคุยกัน
ช่างบอกว่าจะเปลี่ยนโครงสร้างหลังคาใหม่
ใช้เหล็กให้เบาลงกว่าเดิม เปลี่ยเป็นหลังคาใสๆ น้ำหนักเบา
เขาคำนวนค่าเหล็กออกมาตั้ง 4-5 พันบาท
แต่ไปๆมาๆบอกว่าใช้ของเดิมก็ได้
ถ้ารื้ออาคารจะแตกร้าวกว่าเดิม ขู่เรา นึกว่าเราจะเชื่อ หึหึ
แล้วเขาก็เอาเหล็กสี่เหลี่ยมมาค้ำยันแค่ 2 ท่อน
ท่อนกว้างเท่าขาหมาเอง น่าจะราคาไม่เกิน 1 พันบาท
ตกลงหมื่นสองนี่ เป็นค่าโง่หมื่นหนึ่งหรือไงหนอ
ทำไม คนเรามันโกงกันหน้าด้านๆแบบนี้ เฮ้อ...

นกสีขาว AnnEng DeepPink FF1493


โดย: zoomzero วันที่: 11 มกราคม 2553 เวลา:15:40:28 น.  

 
ตอบ comment จาก entry อันเก่า
To หนูหลิน
Happy New Mea เอ้ย New Year ครับ หนูหลิน เจ๊า

เห็นเขาว่าช่วงสิ้นปีกับปีใหม่
คนไทยไปเที่ยวภาคเหนือกันตรึมเลยใช่หรือเปล่า?
สงสัยคนไทยคงเป็นโรคกลัวทะเลกันไปหมดแล้ว
แต่ถ้าเทียบความเสี่ยงหรืออุบัติเหตุแล้ว
ไปทางบก ไม่น่ากลัวเท่าทะเล
ก็ลองคิดดูนะ เรือเฟอร์รี่ลำเท่าสนามบาส สนามวอลเลย์
จะมีเสื้อชูชีพกี่อัน และถึงจะมีเป็นพันอันด้วยซ้ำ จะมีคนใส่ติดตัวกี่คน
ยิ่งเรือ speed boat แล่นฉิว กระแทกคลื่น ซะมดลูกพี่แทบอักเสบ ไม่เห็นมีใครใส่ชูชีพกันเลย

ปีนี้ฟ้าดินมาแปลกๆเน๊อะ
ฝนตกตอนปีใหม่ได้ยังไงกัน
เหมือนฟ้ามาร้องไห้บอกเราว่า ปีนี้เมืองไทยจะมีเรื่องเศร้าแน่ๆ
แถมปีนี้ครัวบ้านพี่ก็ดันถึงวัยที่ต้องซ่อมแซมซะด้วย
เงินไม่มาแต่เงินดันไหลออกจากกระเป๋าเฉยเลย

แล้วหนูหลินไปโดนละอองฝนมาอีกหรือเปล่า?
หวัดคราวก่อนหายดีหรือยัง?
อย่าประมาทนะ ถ้าเชื้อไข้หวัดมันย้อนมาอีก อาจจะไม่โชคดีอย่างคราวที่แล้ว
เห็นพวกหมอบอกว่า เป็นแล้วเราก็จะมีภูมิ จะไม่เป็นอีก
แต่พี่เองเป็นหวัดมาร่วม 100 ปี มันก็ยังเป็นอยู่ทุกปี จะเชื่อหมอได้ยังไง?
แล้วไอ้เรื่องไข้หวัด2009 ตอนแรกก็บอกว่า ถ้าคนไทยเป็นแล้ว เดี๋ยวก็มีภูมิคุ่มกันกันทั้งประเทศ
มันจะกลายเป็นแค่หวัดตามฤดูกาล แล้วมันก็จะหายไปเอง
แต่เห็นว่าวันสองวัน มาเที่ยวไล่ฉีดวัคซีนกันอีก แถมบอกว่ามีเป็นแสนเป็นล้านขวด
ตกลงหวัด2009 มันน่ากลัวหรือไม่น่ากลัวกันแน่
พอคนกลัว ก็บอกว่าไม่น่ากลัว
พอคนเลิกกลัว ก็ออกมาทำเรื่องเหมือนว่ามันน่ากลัว
แล้วฉีดๆกันนี่ ทำไมไม่รวมเอาเราเป็นกลุ่มเสี่ยง หรือกลุ่มที่ต้องได้รับการดูแลอันดับหนึ่ง
แมวที่ไหนชอบเขียนชอบพูดว่า คนเรามีศักดิ์ศรีเท่าเทียมกัน
เมืองไทยเรานี้ มีเรื่องแปลกๆให้เห็นแทบทุกวัน

ปีใหม่นี้พี่ก็ขอให้หนูหลิน
ขอให้สวยวันสวย(กลับ)คืน กลับไปกลับมา 555
ขอให้ร่ำรวย มีทรัพย์อย่างที่อยากได้ทุกอย่างนะ
สรุปว่าก็ขอให้มีความมั่นคงในชีวิต ทั้งหน้าที่การงานและครอบครัว

หนูหลิน MediumVioletRed C71585


โดย: zoomzero วันที่: 12 มกราคม 2553 เวลา:9:46:52 น.  

 
ตอบ comment จาก entry อันเก่า
To นู๋ Beee
ส.ว.ด. ปีใหม่นะยายนู๋บี

ได้ข่าวว่าปีนี้ไม่ได้ไปนั่งกินเหล้าเคล้าดาวน์กับคอลลีค
แต่พี่ว่าเราไม่เสียใจหรอกนะ
เพราะว่าคงไปคลอเคลียร์ไข่ดาวกับกะเพราะไก่ที่บ้านชายหนุ่มเป็นแน่
แล้วชายคนไหนหละที่โชคดีมีชัยคนนั้น 555
สงสัยจะเป็นอีตาลุงฟร๊อกของเราแน่ๆ
ปีที่ผ่านมารู้สึกว่าเราจะทำตัวเหินห่างจากพี่ๆน้องๆชาวบอร์ดนะ
ระวังจะเป็นแมวหัวเน่านะยะ

เรื่อง countdown ผ่านไปแล้ว
ไม่อยากออกความเห็นมากนัก
เอาเป็นว่าขอประณามพวกที่หาเรื่องกินเหล้าและฟันหญิงก็แล้วกัน
แถมขอด่าสาวๆที่ชอบลองของและเปลี่ยนคู่ในวันปีใหม่อีกซักกะนิด หึหึ
อ้อ...ที่ไปว่าเขา เพราะพี่ชายอิจฉาพวกเขา อะดิ 555
โชคดีปีนี้ไม่มีใครมาชวนไปนับเวลาถอยหลังเที่ยงคืน
เพราะพวกนั้นคงจำคำถามของพี่ได้ว่า ไปนั่งนับเวลาแล้วได้อะไร
จะตายวันไหนก็ไม่รู้ น่าจะไปอยู่ดูแลพ่อแม่ลูกเมียตัวเองในวันนั้นดีกว่า
แต่ถ้าไม่รู้จะทำอะไร ปีหน้าบอกกันได้ จะชวนมาล้างส้วมในวัดแถวพระราม9

แล้วปีนี้มีเกณฑ์จะได้ไปทำงานต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ หรือเปล่า?
ถ้าได้ไปก็ไปหาหนุ่มๆต่างประเทศมาฝากกันด้วยนะจ๊ะ
เกิดโชคดีขึ้นมา แต่งกันแล้ว ก็พาอาโกวกับเจ้าเบลล์ไปอยู่เมืองนอกเลย
แต่ถ้าบีต้องไปอยู่เมืองนอก ก็ไม่ต้องห่วงยายเบลล์หรอกนะ
แล้วพี่จะตามไปดูแลน้องเบล์ให้เอง อิอิ

นู๋ Beee fuchsia FF00FF


โดย: zoomzero วันที่: 12 มกราคม 2553 เวลา:10:06:16 น.  

 
เช้าวันที่ 2 มกราคม 2553

ตอนเช้าไปถวายสังฆทาน จอว. วัดด่าน พระราม3
บรรยากาศริมแม่น้ำเจ้าพระยาช่วงเช้าๆ น่าชมมาก







แถมด้วยทำบุญหล่อระฆังใบเล็ก อีก 1 ใบ


ท่าน จอว. ลพ.หนุ่ม กำลังให้พร



โดย: zoomzero วันที่: 12 มกราคม 2553 เวลา:13:34:58 น.  

 
2 ม.ค. 2553 ภาค 2
เวลาประมาณ 9 นาฬิกา
ไปถวายสังฆทาน ท่านเจ้าคุณสมชาย จอว. วัดปริวาส
วัดนี้ก็อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาเหมือนกับวัดด่าน แต่มีที่ให้อาหารปลา



รูปถ่ายของท่านเจ้าคุณ สมัยยังเป็นพระครู และรูปหลวงพ่อวงษ์ จอว.รุ่นก่อน


ท่านเจ้าคุณในวันนี้


ที่ด้านหลังวัดจะมีเจดีย์ หลังเจดีย์จะเป็นท่าน้ำ มีอาหารปลาขาย

ปลาสวาย


สำหรับอาหารปลามีหลายอย่าง ที่นิยมที่สุดก็เป็นอาหารเม็ด
ขายกันถุงละ 10 บาท
กระป๋องละ 100
แต่ถ้้าไปกันเป็นสิบคน แนะนำให้ซื้อเป็นกระสอบๆละ 450 บาท
เงินกำไรที่ได้ก็เป็นของวัด ไม่ใช่เอกชนหรือชาวบ้านมาทำสัมประทานอาหารปลา

อาหารปลา


โป๊ะเหล็ก หรือ แพเหล็ก


นกพิราปก็กินอาหารปลาได้


ด้านหลังมีเทพวรูป พระพิฆเณศวร ด้วย


ป้ายสอนใจ




โดย: zoomzero วันที่: 12 มกราคม 2553 เวลา:13:48:02 น.  

 
2 ม.ค. 2553 ภาค 3
จากนั้นก็ไปไหว้พระไหว้เจ้าที่วัดโพธิ์แมน
พวกที่โดนปีเกิดเป็นปีชง อย่างเช่น ปีขาล ฯ ก็ต้องไปทำพิธีให้พระสวดสะเดาะเคราะห์กัน
พวกที่ไม่เกี่ยวก็เดินเที่ยวชมศิลปะของวัดซึ่งเป็นแบบจีนหรือญวนก็ไม่ทราบเหมือนกัน















โดย: zoomzero วันที่: 12 มกราคม 2553 เวลา:13:49:02 น.  

 


หวัดดีค่ะอาเฮียซูม
เมื่อก่อนมินก็เขียนไดอารี่เหมือนกันนะ
แต่ พักหลัง ๆ (เกือบ 10 ปี แล้วมั๊ง) ที่ไม่ได้เขียนเลยค่ะ
มันไม่มีเวลาอ่ะ ไอ้ตอนที่ว่าง บางทีก็นึกไม่ออกอีกอ่ะ ฮ่า ๆ ๆ
ขนาดว่าจะเขียนรายจ่ายแต่ละวัน ว่าใช้ไรไปบ้าง วัน ๆ นึง ยังทำอยู่ได้แค่พักเดียวอ่ะ
เหมือนกันเลยค่ะ ไอ้เรื่องเขียนบล๊อคอ่ะ ชอบแบบรวดเดียวจบไปเลย แต่มันมีข้อเสียนะเฮีย
คือ บางครั้ง คำพูดคำจาอาไรมันอาจรุนแรงไปอ่ะนะ หมายถึงตัวมินอ่ะ
พออารมณ์ไม่ใช่ตอนนั้นแล้ว กลับมาอ่านอีกที ขนาดตัวเองเขียนเองอ่านแล้วยังสะดุ้งเลยอ่ะ
เมื่อปีก่อนนั้น มินโดนไอ้ดอกเตอร์มันหลอกมาเช่ารถที่บริษัท เช่ามาแล้วหายจ้อยไปเลย
มินเขียนละเลงประจานซะ ทางกระทรวงต้องโทรมาขอให้มินช่วยลบข้อความที่กล่าวพาดพิงถึงกระทรวงออกไปด้วยอ่ะค่ะ
ว่าไปไอ้หมอนี่ มันก็เป็นด๊อกเตอร์นักเรียนทุนนอกจริง ๆ นะ แต่ว่าพอชีวิตมาโดนผีพนันเข้าสิง
มันเลยกลายไปเป็นผีบ้าซาตานที่เที่ยวหลอกลวงไปหมดทุกคนแม้กระทั่งพ่อแม่ของตัวเค้าเองอ่ะค่ะ..เฮ๊อ...
วกกลับมาเรื่องเหล้าบ้าง มินคงโชคดีไปอย่างที่เกิดมาในครอบครัวที่ พ่อ แม่ พี่ น้อง ไม่มีใครดื่มเหล้าซักคน
แม้กระทั่งพ่อเลี้ยงก็ไม่ดื่มค่ะ เวลามินไปกินไปเที่ยวกับเพื่อน ๆ ก็ประเภทเมากับแกล้มอ่ะนะ ฮ่า ๆ ๆ
ใครอยากเปิดเหล้าก็เปิดไป อั๋วเล่นกับแกล้มลูกเดียว ชงแก้วเดียวอยู่ยันเลิกอ่ะค่ะ ฮ่า ๆ ๆ
เวลาหารทีไร ก็มักจะเจอแบบ..เฮ๊ย มันไม่กินเหล้า เอามาแค่นี้พอ..เออดี...ฮ่า ๆ ๆ
เรื่องที่ลูกชอบให้แม่ทำกับข้าวให้กินเนี่ย เหมือนกันหมดทุกบ้านค่ะ
บางทีเสาร์-อาทิตย์ ไปบ้านแม่ อ้าวแม่ทำไรอีกอ่ะเนี่ย ทำแกงเนื้อ เดี๋ยวพี่สาว เดี๋ยวน้องสาว เขาอยากกิน
บางทีเผลอ ๆ มินเนี่ยแหละ ต้องเป็นคนหิ้วปิ่นโตเอาไปให้ซะอีกอ่ะ กรรม...(ของมิน) ฮ่า ๆ ๆ
แม่มินชอบเล่นสล๊อตค่ะ นาน ๆ ที มินจะพาไปเกนติ้งซักครั้งนึง
สมัยก่อนหลานชายเรียนหนังสืออยู่ที่ NZ บางครั้งแม่ไปอยู่ที่นั่นเป็นเดือน
พอ เสาร์ หรือ อาทิตย์ พี่สาวก็จะพาไปเที่ยวสกายซิตี้คาสิโน
ที่โน่นจะมีแต่คนสูงอายุไปนั่งเล่นเพื่อพักผ่อน และการเล่นของเค้าก็จะมีวินัยและลิมิท
ไม่ได้เล่นกันบ้าเลือดแบบเอาเป็น เอาตาย หวังจะให้รวย แต่อันที่จริงมันจะเจ๊งมากกว่านะมินว่า ๆ ๆ ๆ
มินไปเก็นติ้ง เที่ยวนี้ไม่ได้ไปตีกอล์ฟค่ะ ไปกัน 3 คน มิน แม่มิน แล้วก็พ่อเลี้ยง
มินว่าสนามกอล์ฟที่โน่นสู้ของบ้านเราไม่ได้ วิวอาจสวยแต่หญ้าเขาเหนียวมาก ๆ อ่ะค่ะ
ไปถึงวันแรกก็เกือบค่ำแล้วค่ะ นอนบนเก็นติ้งแค่คืนเดียว พูดจริง ๆ ก็เบื่อแล้ว มันไม่มีที่ไปไหน
นอกจากคาสิโนอ่ะนะ มินเล่นสล๊อตกันตู้นึงนั่งเชียร์กัน 3 คนเลยอ่ะ ฮ่า ๆ ๆ
ลงมานอนที่เมโทรโปลคืนนึงค่ะ ไม่ได้อาไรมาหรอกนอกจากหมูแผ่น คล้าย ๆ หมูสวรรค์บ้านเราอ่ะ
อ้อ ได้น้ำเก๊กฮวย น้ำสละ น้ำฝรั่ง และน้ำผลไม้รวมยี่ห้อ yeo มาอีก 3 แพ็ค แต่แพ็คละ 24 กล่องนะคะ ฮ่า ๆ ๆ
กลับไปเขาสามมุก สมัยก่อนตอนมินเด็ก ๆ ที่บ้านจะกินกันแต่ร้านวิเชียรที่อยู่บนเขาสามมุกอ่ะค่ะ อ้อ ร้านดีพร้อมอีกร้านนึง
ตอนหลัง ๆ ก็เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ สุดท้ายก็จะประจำที่ร้านวังมุก ซึ่งสุดแพง สุดเขี้ยว
แม้กระทั่งทิชชู่ ก็ขายให้ลูกค้า มานั่งปั๊บเอาทิชชู่มาวาง ลูกค้าจะไปรู้ได้ไง
ทานอาหารก็ต้องใช้ทิชชู่ พอคิดตังค์ คิดค่าทิชชู่ด้วย และอย่าไปขอลดซะให้ยาก
เคยได้ยินมาแล้ว กินอาหาร 2 พัน มาขอลดกะอีแค่ทิชชู่กล่องละ 15 บาท ...
เออ จริงของมัน รีบให้ ๆ มันไป แล้วรีบมุดออกจากร้านไปไว ๆ เลยอ่ะนะ ฮ่า ๆ ๆ
เบื่อแล้วค่ะ ไอ้พวกร้านดัง ๆ อ่ะ กินมันไปแบบเรื่อยเปื่อยดีกว่า ไอ้ประเภทไก่ย่างที่อร่อยที่สุดในโลกอีกอย่าง
จุ๋ย..อยากจะอ๊วกออกมาให้หมด ใครไปบอกเค้าหรือใครไปตั้งฉายาให้ก็ไม่รู้ เผลอ ๆ อาจมุบมิบ ๆ ตั้งเองก็ได้
เหนียวยังกะหนังกะติ๊ก ไก่บ้าอาไรก็ไม่รู้อ่ะดิ เวงเอ๊ย...
เฮียชอบดูกอล์ฟกะไมค์ ร้องเพลงจริง ๆ เหรอ
มินว่าเด็ก 2 คนนี่อาจหน้าตาอินเทรนด์นะ แต่ว่ามินว่า เค้าร้องเพลงยังไม่ได้อ่ะนะ ไม่รู้จิคะ..
พรุ่งนี้ไม่อยู่นะคะ ไประยอง ประชุมอีกแล้ว ทั้งวันไม่นัด ผ่ามานัดตอน 4 โมงเย็น โห..แล้วข้าพเจ้าจะถึงบ้านกี่โมงกี่ยามกันละคะเนี่ยอาเฮีย..
เฮ๊อ..ชีวิตลูกจ้าง กะ ชีวิตเรือจ้าง เนี่ย ไม่รู้ใครมันจะรันทดกว่ากันนะเนี่ย ฮ่า ๆ ๆ
จะไปนอนแล้วนะคะ เด็กอนามัยได้เวลานอนแล้วค่ะ เพราะต้องตื่นตี 3 มาเปิดเพลงฟัง นั่งหน้าจอ(คอมพ์) อีกอ่ะ ฮ่า ๆ ๆ
เฮียก็นอนหลับฝันดีด้วยเหมือนกัน นะคะ ขยันไหว้พระจริงจริ๊ง ๆ บุญรักษาพระคุ้มครองค่ะ


โดย: มินทิวา วันที่: 12 มกราคม 2553 เวลา:20:25:23 น.  

 
To มินทิวา

เรื่องไดอารี่ นี่ไม่ชอบเขียนเท่าไหร่หรอกคะ
เพราะรายละเอียดมันเยอะมากถ้าเราจำได้
แต่ถ้าเวลาผ่านไป 2-3 วัน มันก็ไม่อยากจะเขียนอะไรเพราะชักจะลืมๆ
และก็จะมีอีกบางเรื่องที่เป็นความลับ เขียนออกมาไม่ได้ เพราะว่ามันผิดศีลธรรม 555
พอดีมีรูปถ่ายอยู่ก็อยากเอามาแปะ (จริงๆกำลังสนุกกับโปรแกรม Photoscape ต่างหาก หุหุ)
และอีกเหตุผลก็คือ การที่มีคนมาอ่านหรือดูรูปแล้ว เขารู้สึกดีๆ (กล่าวสาธุๆๆ) หรืออยากไปไหว้พระตามเรา
อันนี้แหละที่ ท่านผู้อ่านได้ทำบุญแล้วหละ (เขาว่าทำบุญได้ตั้ง 10 วิธี จริงหรือเปล่า)
เราก็พลอยได้กลิ่นอายบุญไปกับเขาด้วย

เรื่องคาซิโน เฮียไม่เคยไปเลย เพราะเลี่ยงและบ่ายเบี่ยงมาตลอดชีวิต
ตอนเด็กๆเคยอาศัยบ้านเช่าแถวคลองเตย ได้เห็นคนที่ติดการพนัน
เห็นผู้หญิงที่นับถือเป็นพี่สาวซึ่งเราเคยวิ่งเล่นกันมาตั้งแต่เด็กต้องกลายเป็นภรรยานอกกฎหมายของชายคนหนึ่ง
ยังมีเรื่องโฉดๆที่ผ่านตาเฮียอีกเป็นร้อยๆเรื่อง
เรื่องของคนจนกับอบายมุข มันทำให้เฮียกลัวจนเป็นโรคหวาดระแวงจนเกินเหตุ
แล้วทำไมเฮียถึงซื้อล๊อตเตอรี่ อันนี้ต้องขอบอกว่า มันต้องมีลางสังหรณ์ แล้วก็มักจะซื้อแล้วได้เงิน
แต่ไม่เคยได้ใช้เงินที่ได้มาจากล็อตเตอรี่ซักกะที เพราะให้คนอื่นไปหมด 555

เรื่องตีกอล์ฟ หมดสิทธิ์ เพราะหลังไม่ดี เพื่อนไม่มี และเงินก็ไม่มี (สงสัยอันหลังจะสำคัญที่สุด)
ส่วนกอล์ฟ-ไมค์ ไม่ได้ชื่นชอบน้องเขามากมาย ไม่ได้เป็นแฟนคลับ
ชอบเรื่องราวที่เขาฝึกฝนจนมาถึงวันนี้ ยอมรับว่าพวกเขาฝึกหนักและมีวินัยมาก
แต่พอมาทราบเรื่องราวของค่ายเพลงวัยรุ่นเกาหลี ก็เข้าใจว่าวงการดนตรีแบบธุรกิจดนตรี เขาก็ทำกันแบบนี้
หาเด็กๆที่มีแวว แล้วเอามาฝึก ร้อง เต้น อัดเพลง แสดงละคร เล่นหนัง ฯ
จะสังเกตว่าเพลงของสองหนุ่มไกด์กับม๊อฟของเรา เพลงจะดังในช่วงเวลานั้นๆ
แต่จะไม่สามารถเป็นเพลงอมตะ ผิดกับเพลงของพี่เบิร์ด-ธงไชย ยิ่งเก่ายิ่งน่าฟัง ชิมิ๊

ร้านอาหารที่เขาสามมุข ช่วงโค้งรอบๆศาลเจ้าแม่
รู้สึกว่าจะลองทานมาเกือบหมดแล้วทุกร้าน
อร่อยตรงที่ของมันสด
แต่ไม่ชอบตรงเรื่องการจอดรถ ที่บางทีต้องเอารถเข้าไปจอดในบ้านใครก็ไม่รู้
ถอยเข้า ถอยออก ยากเย็นแสนเข็ญ ทานอาหารมาอิ่มๆ ต้องมาเกร็งตอนเอารถออกจากบ้าน
เครียดมั๊กมาก เลยไม่อยากทานร้านอาหารที่ต้องใช้ความสามารถในการจอดรถมากแบบนั้น
อ้อ..ร้านวังมุข นี่กั๊งทอดกระเทียม อร่อยมั๊กมาก แต่ต้องมีตังค์แบบไม่เสียดาย ถึงจะอร่อยจริงๆ
ส่วนเรื่องทิชชู่ จำไม่ได้ หรือเป็นเพราะตอนจ่ายเงิน คุณนายเป็นคนจ่าย เฮียเลยไม่รู้เรื่องก็ได้ 555

ไก่ยาง กับ ไก่ทอด อะไรน่าทานกว่ากันนะ?
วันก่อนลองซื้อ ไก่ยางอบน้ำผึง มาลองทาน
โหย...มันเหนียวเหนอะๆ สู้ไก่ย่างห้าดาวก็ไม่ได้
เด็กๆที่บ้านชอบไก่ทอดสูตรหาดใหญ่มั๊กมาก
พวกผู้ใหญ่ก็ชอบตับไก่ทอด
แต่เฮียกลับเป็นพวกนอกคอก ชอบไก่ต้มน้ำปลา
วันไหนผ่านทางเมืองชล วิ่งสายนอกเมือง จะต้องขอแวะซื้อไก่ต้มมาทาน
และก็ไม่ค่อยมีคนมาแย่งทาน เพราะเขาหาว่ามันเป็นไก่ไข่ที่ปลดระวาง
เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับร้าน ถ้าเป็นร้านเพิงเล็กๆ มักจะไม่ใช้ไก่เนื้อ ต้องดูร้านที่ดูดีมีสกุลหน่อย
แต่เรื่องนี้ ขอให้เป็นไก่ต้ม เฮียก็ทานได้หมด จะเป็นไก่เกษียณแล้วก็ไม่ว่ากัน 555

วันนี้ก็ขอให้คุณมินเดินทางปลอดภัยนะ
ที่ระยอง เขายังทำมาหากินกันอยู่อีกเหรอคะ?
อ่านข่าวเรื่องมาบตาพุดแล้วปวดหัวแทนชาวบ้านและเจ้าของโรงงาน
มลพิษก็เยอะ ข้อกฎหมายก็แปลกๆอ่อนๆแข็งๆ
ฝรั่งเขาจะไม่กล้ามาลงทุนก็งานนี้แหละ
ต่างประเทศเขาอยู่กันได้เลย ชุมชนกับโรงงาน
ดูอย่างญี่ปุ่น เมืองโยโกฮาม่า ยังเป็นเมืองท่องเทียวได้เลย
ไม่รู้ว่าผู้ใหญ่บ้านเราเขาทำอะไรกัน
น่ารีบช่วยแก้ไข

เห็นว่า เฮียขยันไปไหว้พระแบบนี้ มันก็เป็นช่วงๆหรอกจ๊ะ
ในแต่ละวัน มันก็มีเรื่องเจ็บปวดทั้งกายและใจผ่านมาอยู่เรื่อยๆ
กรรมเก่ามันเยอะมาก ต้องก้มหน้ารับกรรม เพราะไม่ชอบพิธีแก้กรรมอะไรแบบนั้น
บางวันก็ท้อจนนอนเครียดปวดท้อง กรดเต็มกระเพาะอาหาร
แต่ก็หนีมันไม่ได้

ขอพรพระรักษาคุณมินและครอบครัวเช่นกัน

Mintiva RoyalBlue 4169E1


โดย: zoomzero วันที่: 13 มกราคม 2553 เวลา:9:37:58 น.  

 
อู้ยยยยย อ่านที่พี่ซูมไปเที่ยว พร้อมรูปภาพ คิคิ
แม่น้ำเจ้าพระยาตอนเช้าสวยจังนะคะ
นกพิราบที่ไหนก็กินอาหารปลาเน๊าะ นึกว่ามีแต่ที่นี่ คิคิ
blog พี่ลุงซูมมีสมาชิกมากมายจัง อิอิ
ขอทักทายหน่อยนะค่ะ

หวัดดีปีใหม่ค่ะคุณมินทิวา
หวัดดีปีใหม่ค่ะคุณหนูบี
หวัดดีปีใหม่ค่ะคุณนกสีขาว
หวัดดีปีใหม่ค่ะคุณที่ไม่ได้เอ่ยนาม คิคิ

ไปล่ะ ทำงานก่อนเน้อออออ
คิดถึงนะคะคุณพี่ บับบุย


โดย: หนูหลิน IP: 118.172.48.74 วันที่: 13 มกราคม 2553 เวลา:16:32:54 น.  

 
To หนูหลิน
สวัสดีค่ะหนูหลิน

พี่ว่าแม่น้ำนี่ สวยตอนเช้าๆ ไม่ว่าจะเป็นแม่น้ำอะไร
แต่เดี๋ยวนี้หาภาพพระสงฆ์พายเรือออกบิณฑบาตไม่ค่อยเจอเลย
อยากสะสมรูปภาพแบบนั้นนี้จัง
เมื่อก่อนในคลองแถวบ้าน สมัยขวัญกับเรียมยังแก้ผ้าโดดน้ำคลองกันตูมๆ
พี่ยังเคยเห็น...ไม่ใช่ ไม่ได้หมายถึงคุณเรียมเธอแต่งนู๊ดโดดน้ำ ป๊าดโถ่!
พี่ยังเคยเห็นพระท่านพายเรือลำเล็กๆ หัวแหลมท้ายแหลมมาตอนเช้าตรู่เลย
ที่เห็นเพราะต้องนั่งเรือจ้างข้ามฟากที่หน้าวัดกลางเพื่อไปโรงเรียน สมัยนั้นตื่นเช้าได้เพราะไม้เรียวแท้ๆ
แต่พอมีเรือหางย้าวยาว เครื่องยนต์แรงม้าแรงช้างมหาศาล มาเป็นเรือด่วนเรือเมล์ หรือ BusBoat
ขนาดตลิ่งยังถล่มทะลาย ชาวบ้านกับกทม.ต้องรีบสร้างเขื่อนปูนกั้นดินกันวุ่นวาย
ถ้าขืนหลวงพ่อหลวงพี่มาพายเรือในคลอง
มีหวังเรือล่มในคลอง จีวรกับบาตรพระลอยน้ำทุกวันแน่ๆ

เรื่องสมาชิกในBlog หุบเขาฯ
คนไม่เยอะหรอก(ถ้าเทียบกับของคนอื่น)
แต่รู้สึกว่ามีความสุขและอบอุ่นใจดี
เพราะพวกเราไม่ต้องเก็กท่าเป็นคนที่แสนดีมากนัก
เพลงที่เปิดเป็นซาวด์อยู่ข้างหลังนี่ไง
อาจจะบอกความรู้สึกของพี่ได้นะ
ลองฟังดีๆ 555

บุ๊บบุ๊บ จั๊บจุ๋ย

หนูหลิน MediumVioletRed C71585



โดย: จอมมารแห่งหุบเขาคนโฉด (zoomzero ) วันที่: 14 มกราคม 2553 เวลา:8:45:45 น.  

 
แวะมาแซวเรื่องเพลง

วัยรุ่นซะ.....

คิคิ ไปล่ะ ทำงานก่อน บับบุย


โดย: หนูหลิน IP: 118.172.27.170 วันที่: 14 มกราคม 2553 เวลา:9:37:16 น.  

 
3 มกราคม 2553

เช้าตื่นมาเตรียมของไปใส่บาตรอาหารแห้ง
วันนี้จะไปงานทอดผ้าป่าสามัคคีของพระอาจารย์มิตซูโอะ

พูดถึงตักบาตรอาหารแห้ง
ไปมาหลายที่ ก็เจอพวกที่สมองแมวปัญญามดทุกที
เขาประกาศปาวๆว่า อาหารแห้ง
พวกก็เตรียมข้าวสวยร้อนๆก็มี
ส้ม+องุ่น ก็มี
พอใส่ในกระสอบมันก็เละตุ้มเปะ
ยังมีพวกใส่ดอกไม้ธูปเทียนอีก ยัดลงไปได้อย่างไร
พระไม่มีเป้เอ้ยย่ามติดตัว จะเอาถุงที่ไหนใส่ของ
คนก็เยอะ เหตุการณ์ก็วุ่นวาย คนเอาของใส่กระสอบก็ทั้งเหนื่อยทั้งร้อน ไม่มีอารมณ์คัดแยกสิ่งของหรอก
หลายคนบอกว่า ถ้าเราเจตนาดี เราใส่บาตรอะไรก็ได้ คิดมาก เรื่องมาก มันจะเป็นบาป
แล้วอย่างไรหละ เอาของสดของคาวยัดเยียดลงกระสอบผ้า
เขาเรียกว่าศรัทธาแต่ไร้ปัญญา

วันนี้มูลนิธิของหลวงพ่อเขามีคนฉลาดมา management
เขาทำเต้นท์รับประเคนของสดหรือของที่่ไม่ใช่ข้าวสารอาหารกล่อง ดักเอาไว้ก่อนอยู่ด้านหน้าทางเข้าเลยหละ
ใครอยากจะถวายอะไรไปก็ได้เลย
แถม เขายังมีข้าวสารเป็นถุงๆเอาไว้ให้เป็นของแถมคนละ 9 ถุง เพื่อจะได้ไม่ต้องยืนมองเขาใส่บาตรทำตาปริบๆ
ก็เท่ากับว่าเราเอากล่องไวไว มาม่า น้ำส้ม กาแฟ ไมโล โอวัลติน แบบแพคยักษ์ส่งให้เขาไป ไม่ต้องแบ่งออกมา
แล้วเราก็มายืนรอใส่บาตรพระด้วยข้าวสารเป็นถุงๆ ไม่วุ่นวาย ไม่ต้องคัดแยกของที่ใส่บาตร เพราะมีแต่ข้าว กับ ข้าว
คนอะไร ฉล๊าดฉลาด ทำงานเป็นระบบ

มาดูบรรยากาศยามเช้าแถวบ้านงานกัน


ซอยที่จะไปนั้นอยู่ในถนนกรุงเทพกรีฑา แถวๆทางไปสนามบินสุวรรณภูมิ
ในซอยมีสนามกอล์ฟอยู่ 2 แห่ง
สมัยก่อนผมชอบมาซื้อลูกกอล์ฟมือสองที่เขางมขึ้นมาจากบ่อหรือคูน้ำ
ขายกันในราคาเหมือนลูกปิงปอง ผมก็เอาไปขายต่อเจ้านาย
เจ้านายก็เอาไปอวดเพื่อนๆ เพราะตีทิ้งตีขว้าง ไม่ต้องวอรี่อะเบ้าท์แดท
ต่อมาคนไทยเริ่มเห่อกีฬากอล์ฟ คงอยากเป็นไทเกอร์วู๊ดกัน
แต่พวกเศรษฐีใหม่หรือมือใหม่หัดตีกอล์ฟ กลับมาจอดรถซื้อลูกกอล์ฟใช้แล้ว
คนขายก็เริ่มฉลาด เริ่มคัดแยกยี่ห้อ และขายราคาต่างกัน
แบบนี้ธุรกิจที่เราเคยมีรายได้ 200% ก็เลยต้องล้มเลิกไป เซ็งเป็ด อุอุ

บ้านงานอยู่ในซอย 20 พอไปถึงก็ไม่มีที่จอดรถแล้วหละ
ต้องจอดซอยตรงข้ามแล้วเดินเข้าไปเป็นกิโลๆ

รถเยอะนะ


มีทีมงานมาแนะนำว่าให้ทำอย่างไร หมายกำหนดการอย่างไร ตรงทางแยก 7


จุดตัวเบา หรือ จุดรับประเคนหมายเลข 1


ของต่างๆก็เอามากองเอาไว้เป็นหมวดหมู่ ขนย้ายและนับสต๊อกได้ง่าย


เราก็จะได้ข้าวมา 9 ถุง (แต่หยิบกี่ถุงเขาก็ไม่ว่าหรอก)


คนที่เตรียมพร้อมมาแล้วก็ตั้งโต๊ะ ปูเสื้อ วางเก้าอี้ ตามแต่ความสามารถกันเอง


หลวงพ่อมา คนแตกฮือ แต่เราวิ่งเข้าไปขอถ่ายรูป (แหกสังคมจริงๆ)
หลวงพ่อพระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก





ถัดเข้าไปในซอย จะเป็นบ้านของคนนี้


เขาเปิดบ้านให้เป็นจุดลงทะเบียนรับของที่ระลึก (อย่างกับงานคอนเสิร์ทเลยหละ)
ภายในบริเวณบ้านก็มีซุ้มแจกกาแฟบดสดๆ มีร้านขายหนังสือ และร้านขายผลิตภัณฑ์ซาโอริ




ผ้าซาโอริ เป็นของที่นำเงินรายได้ไปช่วยผู้ประสบภัยซึนามินะครับ



ถัดเข้าไปมีอาหารหวานคาว น้ำ เครื่องดื่มร้อนเย็น มีคนมาเปิดเป็นเคาท์เตอร์หลายสิบราย
ล้วนแต่เป็นอาหารมีชื่อ หรือไม่ก็เป็นร้านดังๆ เช่น เอสแอนพี เป็นต้น








ผมติดใจอาหารเจ้านี้มาก
เป็นโรตีทอด ซุปถั่วโชเล่ย์ และ ข้าวมธุปายาส ซึ่งเป็นข้าวที่นางสุาดาเคยถวายพระพุทธเจ้ามาแล้ว


สำหรับข้าวมธุปายาส ต้องขอเติมถึง 2 ครั้ง อร่อยมาก ดังที่เขาเรียกว่า ข้าวทิพย์ จริงๆ


มีรถห้องน้ำหรือสุขาสี่ล้อบริการให้ด้วย (รู้สึกว่าจะมีถึง 3 คัน)




โดย: zoomzero วันที่: 14 มกราคม 2553 เวลา:13:36:56 น.  

 
3 มกราคม 2553 ภาค 2

หลังจากทานอาหารฟรีจนพุงปลิ้น
ก็เดินเข้าไปรอเขาทำพิธีการถวายผ้าป่ากัน
พอถึงตอนที่่หลวงพ่อรับผ้าป่าเสร็จ
ท่านก็แสดงธรรม
พวกเราก็แสดงตัวเป็นนกขมิ้นบินกลับรังในทันที
แต่ก่อนออกไปก็คว้าซาละเปา หอหมก และผัดไทยติดมือไปกันอีก

จากนั้นไปเยี่ยมญาติๆแถวๆนั้นแล้วก็เลยไปซื้อไข่
ซึ่งเราได้ซื้อกระเช้ารูปไก่เอาไว้แล้ว
แต่ไข่ที่ว่า เราต้องการ ไข่ใบใหญ่
ซึ่งต้องเป็นไข่แฝด
สถานที่ขายไข่แฝดซึ่งมีกำลังการผลิตเพียงพอกับความต้องการของเรา
ก็มีแห่งเดียวที่เรานึกได้ นั่นก็คือ สหฟาร์ม นวมินทร์
มีปัญหานิดหน่อย เพราะเราเก็บกวาดไข่แฝดมาหมดทุกแผงๆละ 15 ฟอง
ได้มาแค่ 10 แผง แต่เราอยากได้ 20 แผง
ความจริงเขามีแบบแพคละ 10 ฟอง กับ 15 ฟอง
แต่ 15 ฟองราคาถูกว่า นี่ครับท่าน
เลยต้องรอเขาทำการแพ็คให้ใหม่
คนที่เป็นแคชเชียร์ก็งงว่าเราซื้อไปทำอะไรกันมากมายขนาดนั้น
เพราะถ้าเอาไปขายเขาก็จะซื้อแค่ไข่ไก่ธรรมดาเบอร์ 1 หรือ เบอร์ 2 กัน

คำถามไม่ได้ถามออกมาจากปาก แต่ออกมาจากแววตาและสีหน้า
ส่วนเราเองก็อยากจะตอบว่า เอาไปให้ญาติๆนี่แหละ จ๊า
แต่ให้ญาติครึ่ง เราเองเก็บเอาไว้ทานเองอีกครึ่ง
เพราะเด็กๆบอกว่า ปริมาณเยอะดี
แต่พวกผู้ใหญ่ชอบเอาไปทำยำไข่ดาว เคี้ยวได้เต็มปากดี 555







โดย: zoomzero วันที่: 14 มกราคม 2553 เวลา:14:14:30 น.  

 
เกิดอะไรก็ไม่ทราบ
รูปภาพข้างบนโน้น ตอนไปใส่บาตร+ผ้าป่าพระอาจารย์มิตซูโอะ
ImageShack เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า
ภาพคนขายสินค้าช่วยสึนามิ
โดนลบ เพราะว่า violation
ผ้าทอมือนี่นะ เป็นภาพน่ากลัว
(หรือว่าคนในภาพเขา ขอให้แบนนะ เป็นงงจริงๆ)


โดย: zoomzero วันที่: 15 มกราคม 2553 เวลา:10:19:36 น.  

 
วันที่ 3 มกราคม 2553 ภาค 3

ช่วงไปทานอาหาร
วันนั้นไปทานก๋วยเตี๋ยวปลา
ที่ไปทานเพราะนอกจากอาหารร้านนี้รสเผ็ดจัดจ้านแล้ว
คนที่บ้านบอกว่า ให้ผมหัดทานปลาเยอะๆ
จะได้ไม่โง่อย่างทุกวันนี้ อีกต่างหาก
วุ้ย....อย่างแรง นะคุณนายเจ้าของบ้านนี่

ไม่ว่าร้านนี้จะชื่ออะไร แต่ผมเรียกว่า ร้านเตี๋ยวปลาแฮปปี้
เพราะอยู่แถวตลาดแฮปปี้แลนด์ แต่ค่อนไปทางสำนักงานที่ดินโน้น

ป้ายชื่อร้านของจริง


ในร้านจะมีปลาตัวเล็ก(กว่าช้าง)แขวนโชว์ น่าจะมาจากปลาเป็นๆนี่แหละ


บรรยากาศภายในร้าน


ลูกค้าส่วนใหญ่มีการสั่งเอาไปทานที่อื่น พวกถุงใส่เครื่องปรุงจึงพร้อมเสมอ


หนังปลากรอบก็มีให้ลองซื้อไปฝากคนที่บ้าน


เครื่องปรุงพวกต้มยำ เห็นพริกแล้ว รับรองว่าเผ็ดคูณสอง


ร้านนี้คนขายเป็นเอาเจ้ เสียงดัง ฟังแล้วน่าเกรงขาม
และปัญหาสำหรับพวกปากอย่างใจอย่างก็คือ
อยากทานเนื้อปลาต้มแบบ ข้าวต้มปลากะพง แต่ดันสั่ง ต้มยำปลา
พอยกมาก็กินไม่ได้เพราะมันเผ็ดมาก พริกมากกว่า 2 ล้านเม็ด แบบเนี๊ยะ
ส่วนพวกที่อยากทานต้มแซบๆเผ็ดๆ ก็ดันมีคนสั่งเป็นเกาเหลาปลา เพื่อเอามากินกับข้าวเปล่า
เมื่อสั่งผิด มันคืนกันไม่ได้ เพราะไม่ใช่ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นหมูนะเฟ้ย
จะได้เอาลูกชิ้นออกไป
ปลาสดๆถ้าต้มหรือลวกแล้ว ทำซ้ำหรือรีไซเคิล มันจะไม่อร่อยครับ
เจ้าของร้านเลยต้องติดป้ายเตือนแบบนี้
แต่คนก็ยังสั่งผิดอยู่ โดยเฉพาะผู้ใหญ่ที่สั่งให้เด็กทานต้มยำปลารสเผ็ดจัดนี่แหละ

ป้ายเตือนใจ




โดย: zoomzero วันที่: 15 มกราคม 2553 เวลา:17:30:01 น.  

 
สวัสดีปีใหม่ค่ะคุงซูม

ต้องกราบขออภัยเป็นอย่างยิ่งนะคะ ทำให้ผู้หลักผู้ใหญ่ต้องมาสวัสดีก่อน ((ไม่รู้จักหน้าที่จริงๆ เล้ยยย ยัยเมฆาเอ๊ย ))

ว่าแต่จ้างคนมาช่วยหายใจนี่จ้างที่ไหนคะ ฮุ้งว่าจะไปขอใช้บริการบ้าง เผื่อจะมีเวลาเพิ่มขึ้นอีกนิดนึง

นี่ฮุ้งก็เพิ่งกลับมาจากไปทำงานที่โคราชค่ะ ไปถึงซะเกือบเที่ยง ลงแปลงตอนแดดเปรี้ยงๆ ร้อนได้ใจดีจริงๆ ค่ะ


สวัสดี ปีใหม่ เจ้าหุบเขา
ลืมปีเก่า ที่ผ่านไป ไม่หันหลัง
ก้าวไปสู่ วันข้างหน้า บ้าพลัง
มาร่วมสร้าง โกลาหล ให้โลกเอย ((ตาม concept ค่ะ))


โดย: aquaworld วันที่: 15 มกราคม 2553 เวลา:21:17:53 น.  

 
To aquaworld
เมฆา มาเยือนเยี่ยมหุบเขาฯ ทำให้เจ้าหุบเขาฯดีจั๊ยดีใจ (ถ้าไม่ไปหาก่อน จะมามั๊ยเนี๊ยะ)

เรื่อง หน้าที่ นี่ท่าจะตำหนิตัวเองมากไปแล้วหละ ใครไปสวัสดีกันก่อนหรือหลังไม่เป็นไรหรอกจ้า

เรื่อง จ้างคน จนบัดนี้ยังต้องให้เขาหายใจแทนอยู่เลย เพราะซ่อมบ้านทีเดียว 2 หลัง เดินกลับไปกลับมาเช้าจรดเย็น

ที่ โคราช คาดว่าอากาศจะร้อนตอนกลางวัน พอกลางคืนก็หนาวเย็นเจี๊ยบ อากาศร้อนๆระวังจะเป็นหวัดแดดนะ

วันหน้า ว่ากันใหม่นะ แวะมาเยี่ยมกันบ้าง เพราะเวลาคิดถึงเจ้าหญิงทีไร แล้ว...เราอยากจะร้องไห้แบบพระเอกเกาหลี(ใต้) 555

ref code: ฮุ้ง aquaworld navy 000080


โดย: จอมมารแห่งหุบเขาคนโฉด (zoomzero ) วันที่: 16 มกราคม 2553 เวลา:9:26:04 น.  

 


หวัดดีค่ะอาเฮีย
มินมาซะเกือบค่ำเลย
วันนี้ เพื่อนมันมารับไปตึกอล์ฟที่ธัญญะค่ะ
แล้วก็มีเลี้ยงปีใหม่กันต่อที่ อาไรนะ
รร. เอ็น สิริปาร์ค หรือไงเนี่ย อยู่ปากทางหนามกอล์ฟอ่ะ
ฟรีตลอดรายการค่ะ ถ้าไม่ฟรีอาจไม่ไป เพราะถ้าเสียเงินค่ากรีนฟีแล้ว
ตีแบบวันนี้ละก็ เสียดายเงินชิ๊บเป๋ง ห่วยเรียกพี่ก็แล้วกันอ่ะค่ะ ฮ่า ๆ ๆ
มันฉึก มันฉัก เดี๋ยวแช๊งค์ซ้าย แช๊งค์ขวา ให้มั่วไปหมดอ่ะเฮีย
เฮ๊อ...อ่อนซ้อมก็แบบนี้แหละ วันนี้มาหาเฮียแบบเหี่ยว ๆ อีกแล้วอ่ะ
กลับถึงบ้านเปิดคอมพ์เข้าบล๊อคตัวเอง เจอเพื่อนคนนึงมาส่งข่าวเศร้าสุด ๆ
ว่า น้องมาร์ค เสียแล้วค่ะ (น้องมาร์ค คือ น้อง Markiiz เพื่อนบล๊อครุ่นหลานเลยก็ได้ค่ะ)
และที่ตกใจ จนมินมือไม้สั่น ใจสั่น ตามไปด้วยก็คือ เมื่อวานนี้น้องมาร์คยังเข้ามา
แฮ๊ปปี้นิวเยียร์ พร้อม HBD ให้มินอยู่เลยอ่ะ แต่เข้ามาแบบไม่ได้ล๊อคอิน นะคะ
มินอัพบล๊อคใหม่แล้ว เม๊นท์ของน้องมาร์คจึงอยู่ในบล๊อคก่อนหน้านี้ ที่เป็นบล๊อควันเกิดของมินอ่ะค่ะ
มินรู้ว่าน้องมาร์คเป็น cancer แต่ก็รู้ว่า ไม่ได้ถึงกับซีเรียสอาไร น้องก็ฉายแสงและรักษาไปตามสเต็ปอ่ะ
รู้จักกันมา 2 ปีแล้ว ตั้งแต่น้องเป็นนักเรียน ม.6 และสอบตรงเข้าที่จุฬาได้ อยู่พวกเกี่ยวกับออกแบบแฟชั่น แต่มินก็ไม่รู้ว่าคณะอาไร
เดี๋ยววันจันทร์ จะลองโทรไปถามเพื่อนดูว่ามันพอได้ข่าวมั่งไม๊ เพราะเพื่อนมินสอนอยู่จุฬา 2 คนแหนะ
ถ้าเรื่องนี้ เป็นเรื่องจริง มินก็เศร้าและซึมสุด ๆ อีกเหมือนกัน เมื่อ 2 อาทิตย์ก่อนยังกระดี้กระด้าอยู่เลย
มาวันนี้ ใจหายและใจเสียซะแล้วค่ะ ขอพูดเรื่องน้องมาร์คหน่อยนะคะเฮีย
ไม่รู้จะคุยกับใครอ่ะ เรื่องแบบนี้มันเศร้าเกินกว่าที่จะโทรไปเล่าให้ใครฟัง
และเพื่อนมินคนที่เล่นบล๊อคก็ไม่รู้จักน้องมาร์คด้วย เฮียก็ไม่รู้จัก แต่มินคุยกับเฮียแล้วโล่งใจกว่าอ่ะนะ
เดี๋ยวขอไปอาบน้ำก่อนนะคะ ยิ่งมืดก็ยิ่งวังเวงโหวง ๆ ยังไงชอบกล
แล้วจะมาคุยอีกนะคะ Goodnight นะเฮีย



โดย: มินทิวา วันที่: 16 มกราคม 2553 เวลา:18:47:13 น.  

 


หวัดดีวันอาทิตย์ค่ะเฮีย
เมื่อคืน ตามฟอร์ม คนโรคประสาทนิด ๆ
นอนไม่ค่อยหลับเลยค่ะ หลับ ๆ ตื่น ๆ
คิดถึงแต่น้องมาร์คอ่ะ ว่ามันจริง ๆ หรือ
ทำไม มันถึงได้กระทันหันแบบนี้อ่ะ
โทรไปหาเพื่อนที่จุฬา มันก็บอกว่าต้องรอวันจันทร์
แต่เช็คลำบากมาก ๆ เพราะไม่รู้ชื่อจริงนามสกุลอ่ะค่ะ
วันนี้บ่าย ๆ ว่าจะไปซื้อปลาตลาดไปปล่อยให้น้องมาร์คค่ะ
ปล. ถ้ามินทำให้วันอาทิตย์ของเฮียหดหู่ไปด้วยละก็ ขอโทษนะก๊าบ...


โดย: มินทิวา วันที่: 17 มกราคม 2553 เวลา:8:32:11 น.  

 
To มินทิวา
อาหมวยมิน
อ่าน comment แล้วนะ
เข้าไปอ่านในบล็อกวันเกิด comment ที่ 91 แล้วนะ
เข้าไปอ่านในบล็อกอันใหม่ comment ที่ 2

งานนี้มีบุคคลภายนอก เพิ่มมาอีก 2 ท่าน
ท่านหนึ่งมีข่าวว่า เขาได้จากไป
อีกท่าน...เป็นคนมาบอกข่าวแบบสั้นๆ
แต่เขาเขียน comment แปลกๆนะ
ทำไมต้องบอกเราว่า ไม่ต้องสงสัยว่าเขารู้ได้อย่างไร

ไม่กล้าออกความเห็นมากในตอนนี้
บอกได้คำเดียวว่า แปลก
เพราะผู้นำสารขาด detail ที่ควรจะบอกเรา
เช่น วัน เวลา สถานที่ ที่น้องเขาเสีย
และงานที่ญาติๆเขาจะจัดการ

ขอเวลาอึ้ง 1 วันนะ
เราน่าจะเมล์หากันนิ
แต่เอาไว้เป็นช๊อยส์ก่อนดีกว่า

ไม่ต้องเกรงใจ
เดินข้ามคำว่า คนแปลกหน้ามาได้เลย
เราเป็นพี่น้องกันแล้วนี่
เฮียรู้ว่า เราแชร์ความรู้สึกเห็นใจผู้อื่นร่วมกันได้

มินทิวา Mintiva RoyalBlue 4169E1


โดย: zoomzero วันที่: 17 มกราคม 2553 เวลา:9:36:12 น.  

 
Mr. Zoom, my dear...

ฮิ้วววว อ่านเม้นท์ตอบแล้ว อิฉันไปไม่เป็นเลยเจียว คุณแม่สอนไว้ เป็นกุนละสะตรีไทย อย่าไปเรียกใครว่าที่รักง่าย ๆ แต่สำหรับคุณซูมแล้ว เรียกได้ฮ่ะ ก็คุณซูมน่ารักออก ไม่กลัวสาว ๆ มากรี๊ดลั่นหุบเขา เพราะดูลาดเลาแล้ว คงมีอยู่ไม่กี่มากน้อย อิ อิ

ดูรูปกะอ่านที่เรื่องที่คุณซูมพาเที่ยวแล้ว เพลินดีจัง ขอบคุณที่พาคนไม่ค่อยจะไปเที่ยวไหนได้เปิดหูเปิดตานะคะ ปกติไม่ค่อยจะได้ไปเที่ยวไหน อยู่กทม.โดยมากก็เข้าห้างซะส่วนใหญ่ ที่จริงก็ชอบเที่ยวต่างจว.เหมือนกันนะคะ ต้องเป็นเมืองที่ไม่ใหญ่มาก อากาศจะบริสุทธิ์ แถมวิวก็สวย ไม่มีตึกสูง ๆ แต่เบื่อก็ตอนนั่งรถนาน ๆ นี่แหละ

ขอแสดงความเสียใจกับคุณมินเรื่องน้องมาร์คนะคะ แต่อ่านเม้นท์คุณซูมแล้วแอบสงสัยตาม อยากรู้ต้นสายปลายเหตุ ถ้าคุณมินกะคุณซูมคุยกันได้เรื่องว่าไงก็บอกให้รู้ด้วยนะคะ



โดย: haiku วันที่: 17 มกราคม 2553 เวลา:21:01:51 น.  

 
คิดถึงพี่ชาย
รักน่ะ จุ๊บ จุ๊บ! ปวดหัว ตุ๊บ ตุ๊บ!
ตีหนึ่งครึ่งแล้วล่ะ ไปนอนก่อนน๊า

ไปเที่ยวไหน อย่าหม่ำเยอะเดี๋ยวอ้วน คริ คริ


โดย: นกสีขาว IP: 79.66.83.39 วันที่: 18 มกราคม 2553 เวลา:8:30:20 น.  

 
To haiku

จ๊ากส์..จ๊ะอุ้ยส์...วันจันทร์
โห..ดาร์ลิ้ง เล่นสะบัดโจงกระเบน แล้วโชว์ยีนขาสั้น เลยนะเนี๊ย
ผมเองของเป็นฝ่ายกรี๊ดก็แล้วกัน

ว๊าย....กรี๊ด กรี๊ด กรี๊ด (ชักจะออกแนวนะยะ มากไปหน่อย)

เฮ้อ..มุกฮาแบบนี้ นึกไม่ถึงจริงๆว่า กรูรูของผมจะเล่นสวนหมัดได้แสนแสบขนาดนี้ 555
เอ้า my dear ก็ my dear แต่ผมคงไม่กล้าไป my dear ที่บ้านของดาร์ลิ่งหรอกนะจ๊ะ
เดี๋ยวชาวบ้านไม่ขำ อาจจะทีโดนคาร์บอมบ์ 555

เรื่องไปเที่ยว เมื่อก่อนจะเป็นไปไกล ไกลๆ ไกลมาก และโคด(ตร)ไกล
พอตอนนี้ คุณหนูของคุณผู้หญิง ท่านเรียนชั้นอุดมสมบูรณ์ศึกษาแล้ว ก็เลยไปเที่ยวใกล้ๆ กทม.
กิจกรรมก็จะไปเช้าเย็นกลับ เว้นแต่จะมีเรื่องไปเยี่ยมญาติผู้ใหญ่ที่ป่วยในต่างจังหวัด
เพราะพื้นเพครอบครัวของท่านเจ้าคุณพ่อกับคุณหญิงแม่ของกระผม
ทั้งสองท่านเป็นลูกชาวนาแถวๆอีสานตอนล่าง
ไปเยี่ยมเครือสาแหรกกันที ค่าน้ำมันรถ 3 พันบาท
ค่าอาหาร ค่าของฝาก และตามธรรมเนียมต้องให้เงินท่านเอาไว้ทำบุญก่อนที่เราจะลากลับ
ซึ่งจริงๆนอกจากฝากท่านทำบุญโดยซื้อของมาใส่บาตรพระแทนเราแล้ว
ก็เป็นค่าหยูกค่ายา หรือเงินที่ท่านจะต้องแจกเด็กๆลูกหลานของท่าน
ใครคิดอย่างไรผมไม่ทราบ แต่ที่ผมสัมผัสมา
คนแก่ๆนี่ ถ้าจะให้หลานๆเข้าหา ต้องมีเงิน ขนม หรือของเล่นมาล่อ
ไม่อย่างนั้นเด็กๆไม่เข้าไปหาหรอก
อย่าว่าแต่เด็กเลย ลูกแท้ๆของท่านก็เหมือนกัน พอรู้ว่าพ่อแม่มีตังค์
ก็สามารถปรากฏกายออกจากเงาเสาเรือน มาไถ่เงินพ่อแม่กันได้อย่างว่องไว
ยามพ่อแม่เจ็บไข้ ไม่รู้ไปมุดหัวอยู่ที่ไหน พวกนี้เหมือนสังกะสี เอ้ย..สัมภะเวสี ซะนี่กระไร
(ความจริง คำว่า สัมภะเวสี ไม่ได้หมายความอย่างที่พวกเราหลายๆคนคิดนะ ไว้จะเล่าให้ฟังวันหน้า)

เรื่องการไปเยี่ยมญาตินี่ ผมมีปัญหากับเจ้ เจ้าของบ้านของผมจริงๆ
เขาเป็นคนเชื้อสายจิ๋นซี เขาก็ว่าทางบ้านเขาเราต้องซื้อของไปเยี่ยมญาติผู้ใหญ่เยอะๆ
และจะไม่ให้เงินกันง่ายๆ เพราะเป็นการดูถูกเขา ถ้าเขาร้อนเงิน เขาต้องเอ่ยปากขอเราก่อน
แต่ทางบ้านผมเป็นเชื้อสายชัยวรมันที่ 3 พวกเราชอบให้เงินกันง่ายๆ
ผู้ใหญ่ให้เงินเด็กๆ และเมื่อเด็กโตขึ้นทำมาหากินได้ ก็ต้องให้เงินผู้ใหญ่กลับกันเป็นขนบธรรมเนียม
ซึ่งถึงแม้เขาจะไม่ใช่พ่อแม่ตรงๆของเรา เราก็ต้องให้เงินท่านเอาไว้ใช้
ไม่ใช่เห็นว่าท่านจน หรือดูถูกว่าเป็นพวกขอทาน อะไรหรอก
ส่วนเรื่องลูกหลานตัวเป็นๆของท่าน จะเป็นนายก หรือคนหนีคุก ผมก็ไม่สนใจหรอก
เพราะการให้ทาน นอกจากจะเป็นการทำบุญแล้ว มันยังแสดงความกตัญญูอีกด้วย
แต่เจ้ แกก็ไม่ค่อยจะเห็นด้วยกับผมเท่าไหร่
ผมเลยต้องแอบให้เงินลุงๆป้าๆ ตาๆยายๆ ในตอนที่เจ้แกเผลอ 555

ถ้าดาร์ลิ้งสนใจ สถานที่ไหน เดี๋ยวผมจะได้ลง detail ให้
แต่ส่วนใหญ่ที่เอารูปมาลงก็เพราะคิดว่า คงรู้จัก หรือ ไปหากันได้ไม่ยาก
ไม่ได้ลงเพราะว่าสำคัญหรือมีความโดดเด่นอะไรหรอก
อยู่ในรัศมี 60 กม. จากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ไปเช้าเย็นกลับได้สบายๆ
(แต่อาหมวยมินไม่สามารถขับรถจากทิศเหนือของกรุงเทพฯไปทิศตะวันตกวันละ 2 รอบได้นะ
เขาบ่นว่าขับรถเหนื่อย แต่เห็นว่าไปประชุมที่ระยองไปได้ สงสัยนั่งฮอหรือเรือสปี๊ดโบทไปก็ไม่ทราบ 555)
ช่วงนี้แค่อยากทำ blog ให้เป็นแบบเรียวลิตี้ไร้สาระ ไปเจออะไรก็เอามาเล่าๆแปะๆเขียนๆ
แต่ update ไม่มีทางไล่ทันวันต่อวันเสียที 555

เรื่องน้องมาร์ค
แน่นอน ขั้นตอนแรกก็อยากแชร์ความห่วงใย ความกังวล ความสงสาร กับอาหมวยมินเค้า
เนื่องด้วย zoomzero เป็นคนมองนอกกรอบ
ชอบแหกกฎ
เลยมีหลากหลายอารมณ์ใน 1 วินาที
และไม่เข้าใจความหมายอีกคำใน comment อีกอันของผู้นำสาร
อย่างที่บอก ไม่กล้าวิจารณ์ เดี๋ยวโดนสหบาทาจากคนแปลกหน้า 555
แต่ก็...อดไม่ได้ จะแค่อ่านเฉยๆ หรืออ่านแล้วก็เมคตัวหนังสือว่า อือ..อือ..เศร้าด้วยคน ทำไม่ได้
อย่างไรก็รออาหมวยมาส่งข่าวตอนสายๆ บ่ายๆ นี่ก่อน เน๊อะ

เรื่องเด็กชื่อมาร์ค เป็นมะเร็ง นี่ผมก็มีเรื่องจะเล่า
ชื่อมาร์คเหมือนกัน เป็นมะเร็งตับ อายุแค่ 5 ขวบเอง
ตอนนี้ทำการรักษาโดยฉีดสารเคมีกันอยู่ แต่โอกาสรอดแทบไม่มี
แปลกจัง ชีวิตของอาหมวยนี่เหมือนกระจกส่องเงาของผมเลยแฮะ
ถูกหวย ก็งวดเดียวกัน 555
มีข่าวร้ายๆ ก็ช่วงเดียวกัน
นี่เมื่อวานขนาดไปงานมงคลมา งานขึ้นบ้านใหม่ญาติๆกันนะครับ
กลางงาน ตอนพระสวดมนต์
ยังได้รับโทรศัพท์ว่า แม่ของพี่ที่มีพระคุณและนับถือกันมากเสียด้วยโรคมะเร็งซะแล้ว
พอรับโทรศัพท์เสร็จ ถึงกับต้องมาหาที่นั่งเป่าปาก
ฟิ้ว...อะไรกันนะ
ทำไมมีเรื่องตาย ซ้ำๆวนๆเวียนๆรอบตัวเราแบบดีได้อย่างไร

haiku DarkGreen 006400

เข้าใจว่า my dear ... คงจะหมายถึง my dear friend
หรือจะให้เป็น my dear brother ก็ได้กระมัง
แต่ที่เรียกกลับว่า ดาร์ลิ้ง อาจจะเป็นการล่วงเกิน
แต่ไม่ขออภัยหรอก เพราะเป็นแค่ความคิดของคนโฉดคนหนึ่ง
หวังว่าคงไม่ถือสาคนบ้านะคะ


โดย: dear ของใครบางคน (zoomzero ) วันที่: 18 มกราคม 2553 เวลา:8:41:35 น.  

 


หวัดดีเช้าวันจันทร์ค่ะอาเฮีย
ยังไม่ได้โทรไปหาเพื่อนที่จุฬาเลย มันยังเช้าไป เดี๋ยวบ่าย ๆ ก่อนค่ะ
ว่าแต่ เฮียลองไปบล๊อคมินแล้วอ่านเม๊นท์ล่าง ๆ จิคะ..เหวอ
เมื่อวานเย็นไปเดินตลาดนัดตรงบ้านแม่ ซื้อ ซีดี เอ หรือจะเรียกว่า ดีวีดี อ่ะ แผ่นละ 8, 3 แผ่น คิด 220
ซื้อ เรื่อง แวมไพร์ทไวไล๊ท์ , อวตาร์, และการ์ตูนเรื่อง up อ่ะค่ะ ไอ้เจ้าของร้านโม๊ว่าแผ่นมาสเตอร์นะ
ไม่ใช่เป็นแผ่นไร๊ท์ ภาพคมชัดแจ๋วแหว๋ว กลับมาบ้านดูไม่ได้ซักแผ่นนึง
ภาพอ่ะชัดแจ๋วจริงค่ะ แต่มันจะเสียงดังครืด ๆ ดังมาก ๆ จนกลัวว่าเครื่องมินมันจะเจ๊งก็อีคราวเนี๊ยะแหละ..จนดูไม่ได้เลย
ทะแม่ง ๆ ตั้งแต่ขอนามบัตรก็ไม่มี ขอเบอร์โทรก็ไม่ได้ บอกผมขายตรงนี้ทุกเสาร์-อาทิตย์เลย
ไม่รู้อาทิตย์หน้ากลับไปมันจะจำเราได้ป่าวก็ไม่รู้ เฮ๊อ..แบบนี้เรียกว่า ซวย ได้ป่ะ เฮีย
ปกติซื้อในเน็ท แผ่นละไม่เกิน 35 บาท ชัดแจ๋ว แต่ เบื่อ ต้องรอวันส่งของ ถ้าซื้อไม่ถึง 700 มีค่าส่งอีก นี่มินมันดิ้นรนไปหาที่เองนี่นา... ฮ่า ๆ ๆ
เรื่อง "ตาย" เนี่ย ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่ แต่ บางครั้งก็เกิดอาการเดียวกันเหมือนกันค่ะ คือ "นะจังงัง นั่งนิ่งอึ้ง" ไปเหมือนกัน
ตอนพ่อมินเสียไม่ค่อยเท่าไร เพราะท่านป่วยนอน รพ. เป็นเดือน ๆ คือ พอทำใจไว้ได้บ้างแล้ว
ตอนเพื่อนขนาดพอทำใจเพราะรู้ว่าเป็นโรคร้าย แต่ ก็ยังเศร้าและหดหู่ไปพักนึง
แต่ถ้าถึงกับคุยกันอยู่แหมบ ๆ เห็นกันอยู่หลัด ๆ เนี่ย ทั้งตกใจ ทั้งช๊อค และมึน เสียศูนย์ไปเลยอย่างช่วยไม่ได้อ่ะค่ะ เฮ๊อ...
จะโม๊อีกซักนิด นายเข้ามาปั๊ป เรียกหาปุ๊ป เด็กชงกาแฟก็แบบนี้แหละค่ะ
ไปก่อนนะจ๊ะ..จุ๊บ ๆ ๆ ค่ำ ๆ มาใหม่ค่า


โดย: มินทิวา วันที่: 18 มกราคม 2553 เวลา:10:45:09 น.  

 
Tags Maker is a Text Image Generator to write Messages, Comments or Tags on Pictures

เหอะ เหอะ..อีโฟโต้บัค ตั้งธงรบกับมินอีกแล้ว
เช๊อะ..นึกว่าง้อเร๊อะ...รอก่อนเหอะน่า
วันหลังก็ได้(ฟระ)...ฮ่า ๆ ๆ


โดย: มินทิวา วันที่: 18 มกราคม 2553 เวลา:11:04:23 น.  

 
To นกสีขาว

หวัดดีจ๊ะ น้องแอน
พี่ก็คิดถึงน้องแอนเหมือนกัน ซิบอกไห่
แต่ความคิดถึงของพี่...
คงจะน้อยกว่าของชายอีกคนที่อยู่ภาคเหนือของเมืองไทยเน๊อะ 555

บอกไม่รู้กี่ครั้งว่า อย่านอนดึก
ทำงานเหนื่อยมาทั้งวัน น่าจะรีบๆพักผ่อน
แล้ว...ก็ต้องมารอให้คนๆนั้นตื่นนอนตอนเช้า เพื่อมาทักทายเรา
พี่เข้าใจนะว่าเวลามันต่างกันตั้ง 6-7 ชั่วโมง
ทางนี้ 5-6 โมงเช้า แต่บ้านแอนมันเลยเที่ยงคืน
เขียนเมล์หากันก็ได้นี่หน่า
แต่เรื่องของฟามลัก คนโฉดอย่างพี่มันคงไม่เข้าใจหรอกนิ
ความรัก นี่มันต้องอดทน และเสียสละ กันขนาดนี้เลยเหรอ
โห้ย...ขอเป็นพวกจิ้งจอกสังคมแบบนี้ดีฝ่า ฟร๊ะ...

ไปเที่ยว ไม่ค่อยได้หม่ำเยอะหรอก
เพราะถ้าอิ่มมากๆแล้วมันจะขับรถไปไหว มันจะง่วง
แล้วคนไทยใจเร็วเดี๋ยวนี้ ขับรถเหมือนเล่นเกม speed underground
เลนซ้ายอยากไปเลนขวา
เลนขวาอยากคลาน 40 กม./ชม.
สิบแปดล้อกลับรถทีใช้พื้นที่ 8 เลน
มอไซด์ขับสวนเลนแถมปาก้อนหินก้อนใหญ่ๆให้อีก 1 ก้อนทะลุกระจกหน้ารถเรา แต่เขาบอกว่าไม่ได้ตั้งใจ
รถตกข้างทาง ชาวบ้านชนบทที่เขาว่าซื่อๆเซ่อๆนั้น รีบวิ่งมากระชอกสร้อย แหวน นาฬิกา อย่างกะสายฟ้าผ่า
ขนาดเครื่องบินเลาด้าตกกลางป่า ยังมีเดนคนสามารถเข้าถึงจุดเกิดเหตุก่อนตำรวจ
แถมยังปลดทรัพย์คนที่ยังไม่ตายได้อีกเป็นกอบเป็นกำ

บางทีไปเที่ยวต่างจังหวัดก็ไม่รู้ว่าจะต้องกลัวอะไรบ้าง
กลัวตำรวจทางหลวงและกล้องตรวจจับความเร็ว?
กลัวรถที่ขับมาชนเรา?
กลัวคนหรือวัวควายที่ฉลาดเท่ากันข้ามถนนตัดหน้า
กลัวรถอีแต๋นวิ่งจากข้างถนนแล้วขึ้นมาขวางเต็มเลนภายใน 3 วินาที
กลัวแม่ค้าพ่อค้าขายอาหารแพง
กลัวเรือที่แล่นจะไปชนกับเรืออีกลำ แล้วเราไม่มีชูขีพ หรือมีแต่มันไม่ลอยเพราะมันเก่ามากๆ
กลัวทำกระเป๋าเงิน มือถือ หรือของมีค่า หล่นหายหรือโดนลักทรัพย์ (ที่ เวนิช อิตาลี่ เห็นมันล้วงกระเป๋ากันซึ่งๆหน้าเลย)
กลัวลูกหลานเดินหลงพลัดหาย หรือโดนจับตัวไปเรียกค่าไถ่
กลัวสินค้าหมดสภาพแต่ยังหน้าด้านขายกัน คิดว่านักท่องเที่ยวกินหญ้าเป็นอาหารหลักเหมือนบิดาพวกมัน
อย่างแคบหมูทอด ช.ม. ตอนชิม ก็ใหม่เอี่ยม กรอบ หอม อร่อย
แต่พอให้แพ็คใส่ลัง ยัดลงท้องเครื่องบิน
พอมาถึงกรุงเทพฯ กลายเป็นหนังหมาขี้เรื้อนทอดเหม็นหืนไปได้ยังไง ชั่วจริงๆ Eเปร็ดเอ้ยยยย
รีสอร์ทหรูๆ นึกว่าดี แต่กลับมียุงเป็นล้านตัว กลัวว่าขากลับไปจะได้ไข้จับสั่นกลับไปด้วย
เรื่องท่องเที่ยว ถ้าให้บ่น พี่ชายสามารถบนได้ 50 แผ่นกระดาษ A4 เลยหละ
ทางที่ดีอยู่บ้าน นอนดูหนังแผ่นผี แผ่นละ 80 บาท เสียเงินน้อยกว่าไปห้างเสียอีก
ใครจะต่อต้านของปลอมอย่างไร แต่พี่นี่แหละจะขอใช้ของปลอม เพราะเรามันจนจริยธรรมยังไงหละ

ref code: นกสีขาว AnnEng DeepPink FF1493



โดย: จอมมารแห่งหุบเขาคนโฉด (zoomzero ) วันที่: 18 มกราคม 2553 เวลา:11:39:13 น.  

 
To Mintiva

555 วันนี้ก็บังเอิญอีกแล้ว
เฮียก็เมาท์เรื่อง เทปผีซีดีเถื่อนกับคุณนกสีขาว
โดยยังไม่อ่าน comment ของอาหมวยเลยนะ (ไม่ได้โม้)
พอดีเขียน comment ด้วย NotePad และ run งานอื่นเป็น background
เขียนเสร็จก็เอามา paste ใส่ bloggang ทันที
เลยไม่ทันได้อ่านข้อความของหมวยมิน อันข้างบน

พออ่านแล้ว
เฮ้ย....ฝอยเรื่องเดียวกันอีกแล้ว
นี่ถ้าถอยไปเป็นอายุ 41 ได้นะ
จะซื้อกุหลาบขาวช่อใหญ่แล้วบึ่งไปหาที่ทำงานเลยนะ (แผนนี้ใช้ได้เสมอ 555)
คือไม่ได้จะจับไปทำกิ๊กหรอก
แต่จะขอร้องว่า เวลามีเรื่องร้ายๆเกิดขึ้นให้รีบโทรฯมาบอกกันทันที
ทางนี้จะได้เตรียมตัวทัน เพราะ ดวงชะตา ฝาแฝดกัน ยังกับฝันดีฝันเด่น หนะ 555

เรื่องฝากรูป
เฮียก็งอนเจ้า โฟโตบักเก็ต ไปนานแล้ว แต่ก็ยังมีรูปบรรดากิ๊กๆฝากเอาไว้เหมือนกันนะ
ส่วนเมื่อวานก่อน อิเมจเช็ค ก็มาแบนรูปคนขายผ้าซาโอริใน entry เหมือนกัน
ไม่รู้ว่า ภาพมันน่ากลัวตรงไหน


เฮียได้อ่าน comment ที่ 25 แล้ว
อ้าว...กลายเป็นเรื่องเดาผิดพลาด
แต่ก็ไม่วาย ยังเป็นประเด็นเดิม จะเอาแบบเก่าให้ได้
มินจ๋า เรื่องนี้มัน complecate complex perplexed multiplex อะไร ยังไง ซะไง หรือเปล่า?
เราไปคุยอะไรกับเขามาหละ น่าตีนักเราเนี๊ยะ
เฮ้ย...เข้าไปดู profile zOOmzerO แล้ว mail มาคุยกับเฮียได้นะ (ถ้ามันหนักหนาสาหัส)
แต่ระวังนะ เฮียไม่ค่อยตอบเมล์คนหรอก 555

เออ...พ่อเราสองคนก็ไม่เป็นเพื่อนกันบนสวรรค์แล้ว เหมือนกันเลยนิ

วกกลับมาเรื่องแผ่น
บางทีมันก็เป็นเรื่องตลก คือว่า เครื่องมียี่ห้อ มันจะไม่อ่านแผ่นผี
เหมือนอย่างที่เขาโฆษณาเลย แผ่นมันไม่ได้เป็นอะไรหรอก
เครื่องของเรามันไม่ยอมอ่านเอง
ต้องยี่ห้อที่เขาบอกนั่นแหละ
ตอนแรกก็ไม่เชื่อเพราะที่บ้านเป็น Sony และอีกอันเป็น Philips
เครื่องเกรดเอของแท้ และมันก็ล็อกให้อ่านแผ่นแค่เอเชียเอาไว้ทั้งสองเครื่องเสียด้วย
มันบอกว่ามันอ่านได้ฌโฉพาะโซนนี้เท่านั้น ดูมันทำ
ดังนั้นขนาดแผ่นแท้ๆ ของเมืองนอก มันยังไม่มีปัญญาอ่านเลย
บางทีมันก็เล่นได้นะ แต่พอไปครึ่งเรื่อง มันก็หยุดทำงาน ซะงั๊น
วันหนึ่งเลยไปที่โลตัส กระชากยี่ห้อ A... ราคา 2 พันบาท เอากลับมาบ้าน
ปรากฏว่า เขาอ่านได้ เล่นได้ ไม่มีสะดุด เสียงดังยังกับงานวัดหรือเปิดในสนามหลวง
เออ...แผ่นราคาถูก ก็ต้องเล่นกับเครื่องราคาถูก
ลองเอาไปเล่นกับ computer ดูซิ เพราะว่า คอมฯมันมักจะเล่นได้ทุกฟอร์แม็ท
ถ้าเราเอาแผ่นไปคืนเขา เขาก็ให้แผ่นใหม่มา
ซึ่งเขาก็ก็อปมาพร้อมๆกัน ยังไงก็ไม่หายหรอก มันก็ Lot เดียวกันแหละ
ทางที่ดี เอาไปห้อยท้ายตัวเอง กันรถหรือคนเขาเดินชนก้นเราดีกว่านะ
ทุกวันนี้แผ่น dVd ผีที่ซื้อดูอยู่ จะฝากเขาซื้อที่มาบุญครอง ร้านเขาไว้ใจได้
รู้สึกว่าเขามีบุญคุณกับเฮียมากๆ เพราะช่วยทำให้เราประหยัดเงินไปได้เยอะเลย

มาฟังเรื่องหนูมาร์คกันดีกว่า

ครอบครัวนี้มีด้วยกัน 5 คน
มาร์คเป็นเด็ก 1 ใน 3 เด็กๆของครอบครัว
พ่อทำอาชีพช่างรับเหมาทำผนังกระจกและประตูกระจก
พ่อของมาร์คชอบดื่มและเล่นการพนัน
ตอนหลังเลยกลายเป็นพวกรับเหมางานขยะๆ
ส่วนแม่ของมาร์คเคยเป็นเด็กช่วยร้านทำอาเฮีย
เลยลองไปหัดเรียนทำอาเฮีย แล้วก็จบออกมาเปิดร้าน
มาร์คเป็นน้องคนเล็กสุดอายุ 5 ขวบ
พี่คนรองอายุ 6 และคนโตอายุ 10 ขวบ
มาร์คเป็นเด็กที่ซนและดื้อมากที่สุดในพี่น้อง และก็มีนิสัยการทานที่ประหลาดมาก
คือชอบทานก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ลาดหน้า
อ่า...จะถามว่า มันแปลกตรงไหน ใช่หรือเปล่า?
เอาเป็นว่า อ่านต่อไป อย่าสงสัยเดี๋ยวโดนโบก

ตอน 2-3 ขวบ มาร์คเคยแอบขโมยทานลาดหน้าของแม่ที่เก็บไว้ในตู้กับข้าว
โดยทานทุกอย่างแล้วเหลือหมูชิ้น ผักคะน้า และเส้นอีกเล็กน้อยเอาไว้
เออ...คงคิดว่า ก็เด็ก มันก็ทานเส้นกับน้ำลาดหน้า แปลกอะไร

ที่แปลก ก็คือ ลาดหน้าร้านนี้เขาจะใส่ตับหมูมาด้วย และใส่เยอะ
โดยแม่ของมาร์คเป็นคนชอบทานตับหมู
แต่เป็นการชอบทาน หลังจากแพ้ท้องน้องมาร์คนะ
ก่อนหน้า ก็ไม่ได้พิศวาสตับหมูตับแมวอะไรเลย
เหตุการณ์การขโมยทานลาดหน้าเกิดขึ้น 3-4 ครั้ง แม่เลยจับได้และเข้าใจแล้วว่า
มาร์คเป็นเด็กที่ชอบทานตับหมูมาก ทานโดยไม่ต้องสอน และทานเป็นตอนอายุ 3 ขวบเท่านั้น
พอวันหลังแม่ทดลองสั่งลาดหน้าเส้นใหญ่ใส่ตับหมูอย่างเดียว
และนั่งดูลูกที่หยุดวิ่งเล่นทันทีเพื่อมาทานลาดหน้า
มาร์คก็ทานตับจนหมดทุกชิ้น โดยจะทานตับให้หมดก่อนเลย
เห็นแล้วคนนึกภาพของเด็กที่ทานของคาวๆดิบๆกันซิเน๊อะ
เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องตลกที่แม่ของเขาชอบเอามาเล่าว่า
มิน่าตนเองถึงแพ้ท้องชอบทานตับหมู เพราะเจ้ามาร์คอยากทานตอนอยู่ในท้องนี้่เอง

แต่มาประมาณ 3 เดือนที่ผ่านมา
มาร์คเกิดอาการท้องแน่น และแข็งมาก
แม่พาไปหาหมอคลินิกมา 2-3 รอบก็ไม่หาย
เลยพาไปโรงพยาบาล หมอก็ส่งไปอีกแผนก นัดให้ไปหาใหม่
เอาเป็นว่า สรุปเลยว่า หมอบอกว่า มาร์คเป็นมะเร็งตับ
หมอขอนัดผ่าตัดอีก 20 วันข้างหน้า โดยไม่ขอทำเคมีบำบัด
เรื่องเหตุผลและอาการโดยละเอียดนั้นอาเฮียทราบ แต่ไม่ขอเล่าให้ยืดยาว

แม่ถึงกับเป็นลมไม่มีแรงเปิดร้านเป็นสัปดาห์
แม่ของมาร์คพามาร์คไปในที่ๆมาร์คเคยขอ แต่แม่บอกว่าเอาไว้ไปวันหลัง
ไปกันแค่แม่และลูกๆ เพราะพ่อหายหัว กลับบ้างไม่กลับบ้าง
แม่เล่าเรื่องอาการของลูกให้พ่อฟัง พ่อก็ทำเป็นไม่สะทกสะท้านอะไร
มาร์คได้ไปเขาดิน แดนเนรมิต สวนสยาม
ได้ดูหนังในโรงภาพยนตร์เรื่องที่มาร์คอยากดู
พอผ่าตัดเสร็จ หมอออกมาบอกแม่ว่า
....

มะเร็งก้อนใหญ่มาก
และได้ลามเข้าไปยังอวัยวะส่วนอื่นแล้ว
หมอเลยไม่ได้ตัดอะไรออกมา และเย็บแผล
อันนี้ ชาวบ้าน ก็คงจะงงว่า ทำไม หมอไม่เลาะเอาไอ้ที่มันเป็นมะเร็งบางส่วนออก
เรื่องนี้ก็ไปหาความรู้กันเอาเอง อาเฮียไม่ใช่หมอ และไม่ได้มีกิ๊กเป็นหมอ 555

หมอแนะนำให้ทำเคมีบำบัดกับมาร์ค
ซึ่งตอนแรกหมอบอกว่าใช้วิธีนี้กับมาร์คไม่ได้
แต่แล้วหมอก็กลับมาใช้วิธีนี้ ซึ่งคนเป็นแม่ ก็ร้องไห้ตลอด 24 ชั่วโมง
ร้องด้วยความไม่รู้ ร้องด้วยความกลัว ร้องด้วยความสงสารลูก

มาร์คไปหาหมอต่ออีก 2 สัปดาห์กว่า
ผมบนศีรษะร่วงหมดหัว
ตัวผอมเป็นโครงกระดูกเดินได้
มาร์คไม่มีแรงวิ่งเล่น ได้แต่นั่งเล่นตุ๊กตา

อาเฮียเคยถามว่าแม่ของมาร์คว่า
ทำไม ไม่เอาลูกไว้ที่โรงพยาบาล
แม่บอกว่า ถ้าอยู่ที่โน่น แปลว่า ลูกจะไม่ได้กลับมา
แต่พอทำเคมีต่่ออีก 2 ครั้ง มาร์คต้องไปนอนโรงพยาบาล
เพระาอาการแย่ลง ต้องมีการเจาะเอาน้ำออกจากช่องท้ิอง
แม่ไปนอนเฝ้าตอนกลางคืน
พ่อไม่ว่างสักกะวัน งานยุ่งจริงๆ แต่เงินไม่เคยจ่ายให้แม่ของมาร์คเลย
กลางวัน ยายของมาร์คซึ่งถูกตามตัวมาจากต่างจังหวัด ต้องมาเฝ้ามาร์คแทนแม่
ตอนเย็นเจ้าไมค์พี่ชายคนโต เลิกเรียนแล้วก็จะไปหามาร์คและพายายนั่งแท็กซี่กลับมาบ้าน
เจ้ามิ๊คอยู่บ้านเพราะให้ไปไหนไม่ได้ เดี๋ยวจะไปก่อเรื่องขึ้น
ประมาณ 2 ทุ่มกว่าๆ แม่ก็จะไปถึงโรงพยาบาล ซึ่งตอนนั้นยายกับหลาน 2 คน ก็นอนดูทีวีอยู่ที่บ้าน
มาร์คต้องนอนร้องไห้รอญาติมาอยู่ด้วยในตอนเย็นๆค่ำๆแบบนั้น วันละ 2 ชั่วโมง
พอแม่ไปถึง พยาบาลก็มาบอกว่า วันนี้น้องมาร์คร้องตลอด 2 ชั่วโมง
เหมือนเมื่อวาน
เหมือนเดิม

มาร์คชอบถามแม่ว่า หนูต้องไปนอนในห้องเดี่ยวหรือเปล่าแม่
ไม่มีใครรู้ว่ามาร์คถามทำไม ถามเล่นๆ ถามเฉยๆ ถามเพราะรู้อะไรบางอย่าง
แม่ไม่ได้ตอบ
แต่แม่และเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลต่างรู้กันดีว่า
ห้องเดี่ยว เป็นห้องกระจก 3 ด้าน อยู่มุมตึก ใกล้ห้องพยาบาลเวร
เด็กคนไหนเข้าไปนอนห้องนี้
จะไม่ได้กลับบ้าน
พวกเขาต้องไปที่วัดเท่านั้น
เพราะเป็นการรักษาขั้นสุดท้าย

เมื่อวันปีใหม่ อาเฮียเจอแม่ของมาร์ค ก็ถามไถ่ดู
สรุปคำตอบ ที่ต้องอาศัยการประติดประต่อ เพราะแม่ของมาร์คเล่าไปบ่นไป ปลงไป หยุดเล่าไป
เหมือนคนทำใจได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ท่าทางเธอจะสับสนอย่างหนัก
แต่ก็รู้ว่า มาร์คยังไม่ได้เข้าห้องเดี่ยว
แต่ก็ไม่รู้ว่าเขาจะรักษามาร์คอย่างไร
ไม่รู้ว่าวันไหนมาร์คจะได้นอนห้องเดี่ยว

ref code: มินทิวา Mintiva RoyalBlue 4169E1


โดย: zoomzero วันที่: 18 มกราคม 2553 เวลา:13:28:11 น.  

 
6 มกราคม 2553

วันนี้ต้องไปหาหมอเจาะเลือด ตรวจหาความโฉด

พอดีช่วงปีใหม่ เลยซื้อของขวัญไปฝากคุณหมอ
หวังว่าคุณหมอคงจะไม่รีบปิด Job
ส่งเราให้แผนก ICU ง่ายๆนะครับ
อันนี้ไม่ได้เป็นสินน้ำใจหรือติดสินบนอะไร
แต่รู้สึกว่า ท่านเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เรายังมีลมหายใจอยู่ทุกวันนี้
ถึงแม้ว่าท่านจะทำกับเราเหมือนการประกอบอาชีพก็ตาม
แต่ความรู้สึกสำนึกพระคุณมันห้ามกันไม่ได้ (นี่หว่า)

กระเช้านี้ ต้องกัดฟันซื้อเพราะแพงจริงๆ


วันนี้ไม่ค่อยมีคนมาหาหมอเท่าไหร่
แต่ถ้าเป็นเสาร์อาทิตย์คนจะเยอะเหมือนมาดูคอนเสิร์ตไมเคิลเจ็คสัน
แปลกจริงๆว่าทำไมคนเราต้องป่วยวันเสาร์อาทิตย์มากกว่าวันทำงานด้วยนะ 555
โรงพยาบาลนี้ไม่เห็นจะมีใครคาดหน้ากันเลย สงสัยประเทศเราจะปลอดภัยจากไข้หวัด2009แล้วหละ
เรื่องที่ไม่ชอบเลยคือ พยาบาลสาวๆที่นี่ใส่กระโปรงยาวๆด้วยกันทั้งนั้น
ไม่เหมือนโรงพยาบาลในเมืองเลย ทั้งขาว สวย และกระโปรงซั้นสั้น
แค่มองพยาบาลแบบนั้นก็แทบจะหายป่วยแล้ว เฮ้อ...

บรรยากาศห้องตรวจ


ผลตรวจออกมาโอเค ได้ยามากินถุงใหญ่
จากนั้นก็ไปเอาเสื้อผ้าที่ตัดเอาไว้ที่ร้านตัดชุดสูท
พอเสร็จภารกิจหมด วันนี้ก็ฟรีเดย์ เลยต้องหาวัดเพื่อไหว้พระ
เลยเลือกเอาวัดบางพลีใหญ่ใน
ที่ไปไม่ ก็ไม่ใช่ศรัทธาในพระพุทธศาสนา หรือ เชื่อในความศักดิ์สิทธิ์ขององค์หลวงพ่อหรอก
จะไปซื้อปลาสลิดกับไปเดินดูตลาดโบราณ (นี่แหละคือความจริง ที่ทำไมยอมเสียค่าน้ำมันรถ)

หน้าวัด



หลวงพ่อโต วัดบางพลี


พระกริ่ง องค์ละ 1 พันบาท


ต้นไม้ที่ถูกพันผ้า ไม่ทราบว่าเพราะอะไร


พระในวิหารข้างๆโบสถ์ คนบางคนไม่เคยเข้าไปไหว้ ทั้งๆที่มาวัดนี้หลายครั้ง


จากนั้นก็เดินไปริมคลอง
มีร้านขายแกงส้มมะรุม และมะรุมปอกเปลือก อร่อยมาก
ซื้อมาทานกับปลาสลิดทอด และไข่เจียว แค่นี้ก็ลืมอาหารฝรั่งไปได้เลย

ทางเข้าตลาดโบราณอยู่ติดคลอง ออกจากโบสถ์มาก็เดินไปหาคลอง
แล้วเลี้ยวขวา เดินข้ามสะพานไม้ไปเลย

ตลาดโบราณ


ข้างใน เมื่อร้อยกว่าปีจะมีเครื่องมือของใช้สำหรับการเกษตรขายมากมาย
แต่เดี๋ยวนี้มีไม่กี่ร้าน ส่วนใหญ่จะเป็นขนม ของเล่น และอาหาร
อ้อ..มีร้านขายหิ้งพระร้านใหญ่เหมือนกัน
ร้านขายเสื่อน้ำมันก็มี ขายข้าวสารก็มี
ร้านริมคลองเข้าไปประมาณ 300 เมตร จะมีเรือให้เช่า เป็นเรือถีบแบบในเขาดินหรือสวนลุมพินี

จากนั้นก็เดินไปหาก๋วยเตี๋ยวหมูที่ว่าอร่อยมากๆในนั้น
ร้านเล็กๆ เจ้าของร้านชอบว่ากัน
แถมในร้านมีป้ายเตือนลูกค้า มากกว่าในสถานกักกันเยาวชนเสียอีก
มีเตือนแม้กระทั้ง ให้นั่งเฉพาะโต๊ะที่เก็บชามและทำความสะอาดแล้วเท่านั้น
ใครไปนั่งแล้ว โวยวายให้เขารีบๆมาเก็บโต๊ะ อันนี้มีได้ฮา
ย้ายโต๊ะก็ไม่ได้ เพราะเขาเขียนว่า ไม่รับผิดชอบว่าจะได้กินหรือเปล่า (ฮั่นแน่)
ถ้าเข้าไปถึงแล้วแหกปากสั่งอาหารเลย ก็จะโดนดุสวนออกมาว่า "รอคนมาจดก่อน"
เรื่องความอร่อยก็ประมาณ 7-8
แต่ไม่มีความเป็นมิตร และพูดไม่มีหางเสียงเลย
ใครสั่งแห้งแล้วขอน้ำซุปอีกชาม(แบบที่ในเมืองเขาให้กันฟรีๆ) คิดเงินอีก 10 บาท
ไม่น่าเชื่อว่าร้านใกล้วัด จะมีบรรยากาศดุร้าย ไร้ความปราณี ปานนั้น
ถ้าผมโกหกก็ขอให้บ้านผมไฟไหม้ได้เลยพี่ แต่ถ้าผมพูดจริง...หุหุ
ก๋วยเตี๋ยวว่าเผ็ดร้อน ก็ไม่เท่าลีลาการขาย
คงเป็นเพราะว่าเขามีร้านขายอาหารในตลาดเหลืออยู่ไม่กี่เจ้านี่เอง
เลยคิดว่าตัวเองเป็นแบบโมโนเซลเล่อร์
อ้อ...ราคาก็ไม่ใช่ชนบทนะขอรับ
ราคาก็ ฮึ้ม...พอสมควรเมื่อเทียบกับปริมาณอาหารที่ให้มา ผู้ชายต้องทาน 3 ชามถึงจะอิ่ม ขอบอก
ร้านนี้คงได้เงินจากจอมมารแค่ครั้งนี้ครั้งเดียว
รูปเริบเลยไม่ถ่ายมันเลยหละ ต้องบอกว่าลบทิ้งออกไปเกือบหมดเลย

ออกจากตลาดมาก็ซื้อปลาสลิดมีทั้งสดๆและทอดให้ฟรี
ตัวเล็กราคาพอได้ แต่ตัวโตราคา 300-350 บาทต่อโล
ผมชอบทานตัวใหญ่ๆ เลยยอมจ่ายและให้เขาทอดให้เลย

ปลาสลิดแดดเดียว


ปลาสลิดทอด


ร้านของพี่วรรณ (เป็นใครก็ไม่รู้ มั่วนับถือเขาไปเรื่อย)


ระหว่างรอปลาทอด
ก็ไปเข้าห้องน้ำที่เย็นที่สุดในวัด
เขาให้ชื่อว่า ห้องน้ำไฮเทค
สะอาดมาก ติดแอร์ ปลูกต้นไม้ มีน้ำพุ น้ำตก
ก๊อกน้ำเป็นแบบออโต้
ตกแต่ง สวยงามมากน่าเอาเสื่อไปปูนอนจริงๆ

ป้ายสุขา


ภายในห้องน้ำ


ตัวอย่างลายประตู (มีแต่ลายสวยๆทั้งนั้น)


ก่อนกลับ เดินย้อนมาเอาปลาสลิดที่สั่งให้ทอดเอาไว้
เจอเด็กชายขายของ พูดเก่งมาก ลีลากวนอารมณ์ยิ่งนัก ทำให้นึกถึงตัวเราเอง
เขาขายทีเดียว 3 อย่าง ปลาทู บัว และ ผักสะเดา
ผมแกล้งให้อ้อนขายอยู่นาน แต่ผมก็ไม่ซื้อของเขาหรอก
ก่อนไปแกเลยโวยวาย ซะยกใหญ่

เจ้าหนูยอดนักขายที่ดันมาเจออีตาลุงใจร้าย




โดย: zoomzero วันที่: 18 มกราคม 2553 เวลา:17:48:08 น.  

 

วันนี้
อยู่ๆก็มีสาวสวยมาเรียกจอมมารว่า my dear
เลยอารมณ์เป็นสีชมพูทั้งวัน
พอดีเปิดวิทยุเจอเพลงที่ถูกใจใช่เลย
เลยต้องทำการ update แก้ไขเพลงใน entry นี้ใหม่ซะหน่อย
(ขี้เกียจเปลี่ยนบล็อกใหม่ 555)

เพลงนี้เป็นเพลงดังเมื่อประมาณปี 1974
หรือ 36 ปีมาแล้ว ว๊าวเกิดไม่ทัน 555 หละซิ
เท่าที่จำได้ สมัยเรียนหนังสือ
พอค่ำไหนได้ไปทานอาหารร้านที่มีตู้เพลง (ส่วนมากก็ร้านขายสุรานะแหละ)
จำได้ว่ายังไม่มีปัญญาหาเงินเลี้ยงตัวเองเลย
แต่กล้าไปกินเหล้าเมายากันเหมือนสุนัขได้บ่อยๆ
ตอนนั้นเห็นเขาทำก็อยากทำตาม
อีกอย่างรถรามันก็ติดมาก เลยต้องหาอะไรทำ เพื่อให้มันมืดๆก่อน
อย่าบอกว่าให้เล่นกีฬาเลย พอพระอาทิตย์ตกก็เล่นอะไรไม่ได้แล้ว

ครานั้นจำได้ว่า ถ้าเจอสาวโต๊ะอื่นๆสวยและมากับแฟนปั๊บ
เราก็จะควักเงิน 5 บาท กดเพลง Bad time (to be in love) ของวง Grand Funk
เพลงนี้ดังมากในปี 1980 ก่อนพวกเพลงดิสโก้จะมาแรงกว่า
ในร้านอาหาร บางแห่งมีวงดนตรีสตริงเล่นสด ก็สามารถขอเพลงนี้ได้เลย
เหตุผล ก็เพื่อให้สาวสวยคนนั้น ได้รับทราบว่า
เค้าปิ้งตัวเองนะ แต่ตัวดันมีคนอื่นแล้วอะดิ 555

แต่วันนี้
เค้าก็ปิ้งตัวเองนะ
แต่เค้ามากับผู้คุมนะจ๊ะ หุหุ


โดย: zoomzero วันที่: 18 มกราคม 2553 เวลา:18:41:25 น.  

 


หวัดดีเช้าวันอังคารที่อากาศเย็น ๆ อีกแล้วค่ะเฮีย
วันก่อน ลืมบอก ว่า ถ้ามินออกต่างจังหวัด มินไม่ได้ขับรถเองค่ะ
จะมีคนขับคู่ใจ หมายถึงรู้ว่ามินต้องไปที่ไหน และ สามารถรอได้ บางทีเป็นวัน ๆ
และ ถ้าไปกับมินแล้ว ไม่เคยมีอาไรแน่นอน ว่าจะค้างหรือไม่ค้าง พี่เค้าต้องเตรียมกระเป๋าไว้ด้วยเหมือนกัน
บางทีบอกค้าง ก็ไม่ค้าง ให้ตีรถกลับซะงั๊น บางทีไม่ได้บอกว่าค้าง แต่ก็ค้างเฉย ๆ เลยก็มีอ่ะค่ะ
อย่างไประยองล่าสุดนี่ ความจริงน่าจะค้าง เพราะ เกือบ 4 ทุ่มแล้วที่กว่าจะทานข้าวเสร็จกับลูกค้า
แต่ มินบอกว่ากลับเฉย ๆ เลยค่ะ ฮ่า ๆ ๆ ขากลับมินเคลียร์ของลงข้างล่างที่เบาะหลัง นอนมาเลยอ่ะ แต่มันก็ไม่ค่อยหลับค่ะ
เพราะแอร์มันเย็นมาก ขนาดเบาจนน้ำยาแอร์เกือบสุดแล้วอ่ะ และก็เป็นห่วงลุงว่าจะไม่มีเพื่อนคุยด้วย
กลับมาถึงบ้านกว่าจะนอนจริง ๆ เกือบตีหนึ่ง ดันผ่าไม่ยอมหลับอีก เพราะปกติมินจะตื่นประมาณ ตี 3 ครึ่ง เกือบตี 4 อาไรแบบนั้น
เรื่องน้องมาร์คของมินอ่ะ กำลังเช็คกับเพื่อนอยู่ค่ะ แต่ยังไม่ได้ข่าวคืบหน้าอาไรเลย
ส่วนเพื่อนอีกคนที่มาส่งข่าวอ่ะ อ่าน ๆ ไป แล้ว พอจับใจความได้ว่า
เธอนั่งสมาธิแล้ว เกิดความรู้สึกอย่างนั้น ( อ้าว..) แต่ก็รู้ว่าเธอไม่ได้มีเจตนาที่ไม่ดีอาไรหรอกค่ะ
เธอเองก็รู้จักน้องมาร์คมาในระยะเวลาใกล้ ๆ กันกับมิน แต่มินก็ไม่รู้ว่าเธอสนิทกับน้องมาร์คแค่ไหน ตรงนี้มันวัดกันได้ยากค่ะ
แต่ มินเองกับน้องมาร์คอ่ะ เรามีคุยกันทั้งหน้าบล๊อคและหลังไมค์อยู่เสมอ ๆ
แต่ มาร์คเคยบอกว่า เรื่อง cancer ของมาร์คอ่ะ ที่มาเขียนลงบล๊อคนั้น เพื่อเป็นความรู้ให้กับคนทั่ว ๆ ไป มาร์คเลยเขียนให้มันสนุกและขำ ๆ
แต่อาการของเค้าอยู่ในเกณฑ์ที่ยังไม่ได้ซีเรียส ร้ายแรงอาไร เป็นในขั้นที่ยังสามารถควบคุมรักษาได้ค่ะ
พอวันนั้นได้ยินแบบนั้น มินถึงได้ตกใจมาก ๆ อ่ะค่ะ แต่ เรื่องนี้ ถ้าได้ความคืบหน้ายังไงจะมาบอกให้เฮียทราบนะคะ
เฮีย รู้ป่าว มินไม่ชอบกินปลาทุกชนิดเลยค่ะ ยกเว้นปลาจาระเม็ดทอด หรือพวกปลาทอด ๆ ก็ได้นิด ๆ หน่อย ๆ
เพราะตั้งแต่เด็ก ๆ มาแล้ว ที่บ้านไม่เคยฝึกให้กินปลาอ่ะนะ เอะอะอาไรก็หมูทอด เนื้อทอด ไข่เจียว แกงจืด
ตอนไปเป็นนักเรียนประจำก็อีกับข้าวแบบเดิมอีกนั่นแหละ เอ..แต่ว่า ได้กินปลาทอดมันบ่อยเหมือนกันค่ะ
สมัยก่อนโน๊น (หลบเร็ว..น้ำมันกำลังจะกระเด็นอีกแล้วค่ะ ฮ่า ๆ ๆ) เคยไปกินกับเพื่อนที่ยกยอทีนึง
แบบที่ต้องสั่งอาหารแล้วนั่งเรือไปกินลมชมวิวกว่าเรือจะกลับเข้ามาที่ร้านอีกทีก็เกือบ 5 ทุ่มอ่ะ
เขาสั่งยำปลาดุกฟูไปกินกัน มินมันเฮงซะไม่มีเจือกก้างปลาในยำปลาดุกฟูเนี่ยนะ ติดคอ โหย...
จำด้าย..และยังขนลุกมาจนเดี๋ยวนี้ ถ้านึกถึงขึ้นมาทีไร มันทั้งเจ็บทั้งทรมาน และยังพาเอาเพื่อนร่วมโต๊ะไม่สนุกและกังวลไปกับมินด้วยอ่ะจิคะ
พอเรือถึงฝั่งแทนที่จะได้กลับบ้าน ต้องแห่กันไป รพ.อีก เพื่อไปให้หมอล้วงก้างออกอ่ะ
ออกมาเป็นก้างบาง ๆ แค่ปลายนิ้วก้อย แต่พิษมันช่างร้ายลึกแสบสันต์ดีเหลือเกินอ่ะดิ..ฮ่วย
รุ่งขึ้น ไขขึ้น ทั้งเจ็บ ทั้งระบมไปหลายวันเลย เพราะก่อนที่เรือจะกลับถึงฝั่ง ผู้หวังดีทั้งหลายพากันประเคนข้าวก้อนให้มินกลืนกันซะ..
ตั้งแต่นั้น เธอกับฉัน (ปลากะมิน) ไม่ถูกกันเลยค่ะ ฮ่า ๆ ๆ แล้วอีกอย่างจมูกมินนี่ มันดีผิดชาวบ้านเขาด้วย
แต่ ไม่เกี่ยวกันกับเรื่องที่มินชอบซื้อปลาที่ตลาดปล่อยนะคะ มินคิดของมินเองว่า
ไอ้พวกปลาหน้าวัดที่มีขาย หรือ เดี๋ยวนี้ บางตลาดก็มีขายไว้เพื่อเอาไปปล่อยอ่ะ
ปลาพวกเนี๊ย ยังไงก็ไม่ถูกฆ่าอยู่แล้ว รอคนมาซื้อเพื่อเอาไปปล่อยอย่างเดียว
ส่วนปลาที่ตลาดที่ขายกันเป็นโล ๆ อ่ะ ไอ้พวกนั้นรอคนมาซื้อแล้วตายแหงแก๋
บางตัวสิ้นชีพตั้งแต่เมื่อคนตกลงใจซื้อที่ตลาดแล้วก็มีอ่ะ คือพอซื้อแล้วให้แม่ค้าทำให้เลยไงคะ....
กลับไปบล๊อคมินมั่ง จอหน์ เลนนอน ยังไม่ได้ไปไหน ยังอยู่ในใจของพวกเราเสมอ
มินชอบเพลงของเค้าทุกเพลงเลยค่ะ เคยเห็นเอ็มวี จากยูทู๊บเพลงนี้ไม๊คะเฮีย
ถ้าไม่ผิดเพลงนะ เขาเล่นกับโยโกะนะ เฮียลองดูสายตาที่สองคนนี่เขามองกันจิคะ
โห..วาว..มันช่าง un spoken จริง ๆ เลยนะมินว่า...
มันจะพูดได้ไม๊อ่ะว่า " คนบางคนอาจเกิดมาเพื่อให้เรารัก และเค้าก็รักเรา แม้ว่า เราสอง อาจจะไม่ได้ครอบครองกันก็ตาม"...
เฮ๊ย..ใครจะคิดว่าเราจีบกันหรือป่าว...ฮ่า ๆ ๆ ไปดีกว่า ขี้เกียจโดนขุดค้น profile อ่ะนะคะ ฮ่า ๆ ๆ
แต่ ระหว่างเราอ่ะ สำรวจกันไปตั้งแต่ครั้งแรกแล้วนี่นา ว่าม๊ะคะ..ฮ่า ๆ ๆ


โดย: มินทิวา วันที่: 19 มกราคม 2553 เวลา:8:42:49 น.  

 
ซาหวัดดีคร้าพี่ชาย มาแว๊ว ๆ ม่ายได้หายไปไหนหน้า นอกจากทำงาน เล่นเกมส์ออนไลน์ สับราง และนอนกลิ้งอ่านหนังสือแล้วเนี่ยะ อิอิ

อ่านหมดแว๊วที่เขียนไดอารี่เยอะแยะ อ่านแล้วเพลินดีค่ะ ชอบจังเลย ไปไหนก็เอามาเล่าให้ฟังกันเน๊อะ แหม เพิ่งรู้ว่าเดี๋ยวนี้พี่ชายพกกล้องไปไหนก็ถ่ายรูปแล้วนะนี่แฮะ แปลกใจ ไม่เคยเห็นเลย ดีแว๊ว คราวหน้าเจอกันจะได้ถ่ายรูปคู่(สยอง)ขวัญมาโชว์หน้าบ๊อกกันม่างเน๊อะ อิอิ

พูดถึงวันแล้วพี่ชายไปมาเยอะแยะหลากหลายมากมายมากค่ะ นู๋เองแทนไม่ได้ไปไหนเล้ยยย เฮ้ออ อยากมีคนคอยขับรถพาไปเที่ยวโน่นเที่ยวนี่แบบนี้บ้างจังเลยน้า เมื่อไหร่จามีมั่งเนี่ยะ *-* ที่อ่าน ๆ มาเคยไปแค่ศาลเจ้านาจา ที่เดียวเองค่ะ ตรงอ่างศิลาเนี่ยะ ส่วนบางแสนครั้งหลังสุดที่ไปมาเกือบสิบปีได้แล้วมั๊ง ไปแล้วไม่ถูกใจเอาซะเลยเพราะน้ำดำจนสงสัยว่านี่น้ำทะเลหรือน้ำคลองแสนแสบ พอเดินลงทะเลไปได้ไม่ถึงห้านาทีตัวแสบร้อนไปหมด รีบขึ้นมาและหาห้องอาบน้ำจืดแทบไม่ทัน หลังจากนั้นก็เข็ดไม่ลงทะเลที่ไปบางแสนอีกเลย *-* แต่แปลกจังที่พี่ชายถ่ายรูปมาทะเลดูสวยขึ้นนะ เขาพัฒนาปรับปรุงแก้ไขแล้วหรือคะนี่

ขออนุโมทนาบุญกับพี่ชายที่ไปทำบุญมาทุกที่เลยนะคะ ตัวเองไม่ได้ไป เกาะบุญพี่ชายเอาก็แล้วกัน อิอิ

พูดถึงเรื่องไข่แฝดแล้วนะคะ พี่ชายชอบกินเหรอ บีเป็นคนนึงที่ไม่ชอบเอาซะเลย เคยมีอยู่ที่นึงโกวนู๋ดันซื้อไข่แพ๊คที่เป็นไข่แฝดมามั๊งคะ เพราะทั้งแพ็คมันแฝดหมดเลย แล้วทุกวันที่โกวทำข้าวกะเพราหมูสับ+ไข่ดาว ที่ไม่ใส่ใบกะเพราให้นู๋กิน ก็จะได้กินแต่ไข่แฝดทุกวัน ๆ เป็นที่ขัดใจมาก เพราะนู๋ไม่ชอบกินไข่แดง ชอบกินไข่ขาว แล้วไอ้เจ้าไข่แฝดนี่มันทำให้เนื้อที่ไข่ขาวมันน้อยลงไปเพราะถูกเบียดด้วยไข่แดงถึงสองใบ ชิ อาม่านู๋ว่าตั้งแต่เด็ก ๆ แล้วว่าแปะยิ้ง หรือยัยไข่ขาว แรก ๆ ก็ไม่เข้าใจหรอกว่าไข่ขาวมันทำไมหร๋อ มันก็กรอบอร่อยดีออก อิอิ แต่จริง ๆ แล้วความหมายของมันคือยัยโง่นั่นเอง ที่ของดี ๆ ไม่รู้จักกิน เอ๋า ก็คงชอบไม่เหมือนกันเน๊อะ

มาโม้ยาวเกินไปแล้ว ไปดีกว่า คิดถึงนะคะพี่ชาย จุ๊บ ๆ ๆ


โดย: นู๋ Beee น้องสาวจอมแก่น (Beee_bu ) วันที่: 19 มกราคม 2553 เวลา:14:15:47 น.  

 
สำหรับ คุณมิน กับ นู๋บี
เอาไว้ไปคุยใน entry ใหม่ดีกว่า
entry นี้ชักจะอืดๆ เพราะภาพเยอะเกินไปแล้ว
คิดว่าเย็นนี้คงจะได้ update อันใหม่ได้

เมื่อเช้า ตอนตี1
ต้องไปรับหลานชายที่แอร์พอร์ท-สุวรรณฯ
ตอนนี้ เลยง่วงนอนเป็นกำลัง


โดย: zoomzero วันที่: 20 มกราคม 2553 เวลา:10:11:16 น.  

zoomzero
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ของทุกอย่างในโลกมี 2 ด้าน ถ้าเริ่มต้นก็คิดแต่ว่า สิ่งนั้นมีแต่ด้านดีด้านเดียว หรือเลวสุดขีด ต่อให้ศึกษาสิ่งนั้นไปอีกพันๆปี ก็ไม่มีวันเข้าใจ แต่ถ้าเปิดใจมองให้เห็นทั้งสองด้าน และหาความพอดีกับการอยู่กับสิ่งนั้นได้
...
ความสุขย่อมมาคู่กับความทุกข์ เพราะสุขเป็นของไม่เที่ยง เมื่อติดสุข แล้วไม่มีสุขมาให้ชื่นใจ จิตก็จะเป็นทุกข์ ความสงบจึงเป็นของที่เราท่านควรปฏิบัติ
...
การตั้งตัวเป็นจอมมารแห่งหุบเขาคนโฉด จึงไม่หวังให้ผู้ใดมีสุข ไม่อยากให้คนยึดติดกับสุข หากแต่อยากให้พ้นทุกข์ และได้พบกับธรรมมะของจริง ดั่งคำว่า "ไม่มีมาร อรหันต์ไม่เกิด" 555
...
Group Blog
 
<<
มกราคม 2553
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
8 มกราคม 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add zoomzero's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.