เมษายน 2561

2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
Food Science 🙌🙅 ทำอะไรดีหนอ???


Food Science 🙌🙅 ทำอะไรดีหนอ???

  บล็อกนี้ตั้งใจเขียนขึ้น ...สำหรับน้อง ๆ มัธยมปลายหรือพ่อแม่ผู้ปกครองที่กำลังมองหาสาขาวิชาในระดับปริญญาตรีที่เหมาะสมกับลูกหลานหรือเป็นนิสิตนักศึกษาที่เรียนอยู่ภาควิชานี้ แล้วอยากรู้อยากเห็นว่าสาย Food Science หรือวิทยาศาสาตร์การอาหาร เมื่อเรียนจบแล้วเราทำอะไรได้บ้าง เพื่อเป็นแนวทางให้การค้นหาสิ่งที่ชอบสิ่งที่ใช่เหมาะสมกับตัวเองและจะได้เตรียมตัวกันไว้แต่เนิ่น ๆ ไม่ปล่อยให้ตัวเองตกอยู่ในสภาวะสูญญากาศทางเป้าหมายชีวิต ...เชิญมาฟังทางนี้กันนนนนน 👂👂 👂👂👂

  ทางเลือกสำหรับผู้เรียนจบสายนี้ หลัก ๆมีประมาณนี้

    1.  โรงงานอุตสาหกรรมอาหาร ซึ่งลักษณะโรงงานก็มีอยู่หลายประเภทตั้งแต่ผู้ผลิตวัตถุดิบทางอาหาร (เช่น แป้งสำเร็จรูป ผักผลไม้อบแห้ง ผงปรุงรสสีผสมอาหาร), ผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์หรืออาหารทะเล (เช่น ไส้กรอก แหนม), เครื่องดื่ม (เช่นน้ำ น้ำผลไม้ นม น้ำชา เครื่องดื่มชูกำลัง), อาหารสำเร็จรูปบรรจุกระป๋องหรือถุง (pouch) (เช่นปลากระป๋อง ผลไม้กระป๋อง), อาหารสำเร็จรูปแช่เย็นหรือแช่เยือกแข็ง(เช่น ข้าวผัดต่าง ๆ มะกะโรนีปรุงรส ไก่ทอดปรุงรส), เบเกอรี่(ขนมปัง เค้ก บิสกิส), ลูกอมและของหวานต่าง ๆ เป็นต้นซึ่งแต่ละโรงงานนั้นจำเป็นต้องมีคนหรือพนักงานที่เป็นกลไกในการขับเคลื่อนองค์กรแบ่งตามฝ่ายคร่าวๆ ดังนี้

- ฝ่ายผลิต: ใครชอบงานสายบู้สายลุยเชิญทางนี้เพราะส่วนใหญ่แล้วมีต้องเข้ากะดึก... งานส่วนใหญ่ก็ดูแลควบคุมสายการผลิตให้ดำเนินการได้เป็นปกติคือ ผลิตตามสูตรและกระบวนการให้ผลิตภัณฑ์อาหารที่ได้ตรงตามมาตราฐานสินค้าโดยจำเป็นต้องใส่ใจมองหาแนวทางในการลดต้นทุนหรือของเสียที่เกิดขึ้นจากกระบวนการผลิตด้วยนอกจากนี้โรงงานอาหารปัจจุบันยังมีนำเครื่องจักรทั้งแบบอัตโนมัติ (Automatic)และ กึ่งอัตโนมัติ (semi-automatic) มาใช้มากกขึ้นเพราะฉะนั้นพนักงานฝ่ายผลิตนี้ควรมีความรู้ทางช่างบ้างก็จะนำมาสนับสนุนเนื้องานได้มาก(สำหรับงานลักษณะนี้หากจบหรือมีความรู้ด้าน Food Engineering หรือ Industrial Engineering (IE) ก็จะเหมาะมาก เพราะจะทำให้พัฒนางานได้เป็นอย่างดี)

- ฝ่ายควบคุมคุณภาพ จะมีลักษณะของงานตั้งแต่ส่วน(ก) ควบคุมคุณภาพผลิตภัณฑ์ ที่เรียกว่า Quality Control, QC, เช่นตรวจสอบคุณภาพสินค้าในแต่ละขั้นตอนการผลิต ทำสเปกสินค้าให้ค่าต่าง ๆสำหรับใช้ตรวจติดตามคุณภาพระหว่างกระบวนการผลิตอาหาร เป็นต้น (ข)ขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์อาหารกับส่วนราชการ (เช่น องค์การอาหารและยา หรือ อย.สังกัดกระทรวงสาธารณสุข) ทำเอกสารคุณลักษณะสินค้าที่ระบุค่าคุณภาพทางกายภาพ เคมีและชีวภาพต่าง ๆ ที่จำเป็น (เอกสารสำหรับซื้อขายให้ลูกค้าหรือเพื่อขึ้นทะเบียนกับหน่วยงานอื่น ๆ) โดยมักเรียกว่าส่วน Regulation (ค)ประกันและดูแลคุณภาพผลิตภัณ์และระบบทั้งหมดซึ่งงานหลักจะป็นการตรวจประเมินและประกัยคุณภาพผลิตภัณฑ์และระบบโดยมักมีชื่อเรียกว่า Quality Assurance, QA ที่ทำงานภายใต้ Quality Management Representative,QMR, คือตัวแทนฝ่ายบริหารที่ทำหน้าที่ทำระบบคุณภาพของโรงงานอาหารรวมถึงระบบคุณภาพอื่น ๆ ขององกรณ์ เช่น GMP (Good Manufacturing Practice), HACCP(Hazard Analysis Critical Control Point), BRC (British Retail Consortium), FSSC(Food Safety System Certification), ISO (International Organization forStandardization) เป็นต้นซึ่งงานในลักษณะนี้เหมาะกับผู้ที่มีความละเอียดรอบคอบมาก ๆและชื่นชอบกายทำและบริหารระบบภาพรวมขององค์กร

- ฝ่ายวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์: ลักษณะงานนี้ต้องใช้พื้นฐานความรู้ของFood Science ตรง ๆ และเต็ม ๆเพราะด้วยเนื้องานที่ต้องพัฒนาสูตรทั้งในเชิงนวัตกรรม (innovation) และพัฒนาสินค้ากลุ่มเดิมให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าด้วยซึ่งผลิตภัณฑ์อาหารก็มีหลากหลายตามที่ได้กล่าวมาแล้วดังนั้นหากใครต้องการจะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านไหนก็แนะนำให้เลือกเรียนวิชาเรียนให้ตรงสายมาเลยจะดีมากเช่น นักศึกษาที่มุ่งหมายจะเป็นนักวิจัยในกลุ่มเครื่องดื่ม แนะนำให้เรียนวิชาเลือกที่เกี่ยของกับBeverage ก็จะนำมาต่อยอดเมื่อเริ่มทำงานได้เร็วกว่าและควรหาความรู้เพิ่มเติมในด้านนั้น ๆ อย่างสม่ำเสมอทั้งด้าน Basic knowledgeand Application ก่อนที่จะก้าวเข้าสู่การโลกชีวิตจริงของการทำงานในอุตสาหกรรมนั้นจึงจะสามารถเติบโตได้ดีในสายงาน อีกยังต้องเรียนรู้สิ่งใหม่อย่างต่อเนื่องเมื่อลงสนามทำงานจริงดังนั้นงานนี้จึงเหมาะกับคนที่ชอบแสวงหาความรู้และมีหัวคิดสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ มาพัฒนาสารสำคัญในอาหารและผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นให้เกิดขึ้นกับวงการอาหาร

- ฝ่ายการตลาด: เป็นลักษณะงานที่ต้องเข้าใจความต้องการของผู้บริโภคหรือลูกค้าซึ่งก็มีทั้งกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรม (สำหรับธุรกิจแบบ B2B, business-to-business)และลูกค้ารายย่อย (สำหรับธุรกิจแบบ FMCG,fast moving consumer goods) ซึ่งก็มีพฤติกรรมการบริโภคหรือการซื้อสินค้าที่แตกต่างกันไปและยังต่างกันตามประเภทของกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารด้วยดังนั้นหากใจทำงานส่วนนี้ก็จะต้องหมั่นสำรวจตลาดให้เข้าใจความต้องการที่แท้จริงของผู้บริโภคที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาโดยเฉพาะในสังคมโลกไร้พรมแดนในปัจจุบันนี้ อีกทั้งยังงานการตลาดหน้าที่สร้างภาพลักษณ์ให้กับตราสินค้าและบริษัทอย่างต่อเนื่องด้วยกลยุทธหลากหลายไม่ว่าจะเป็นการออกบูทตามงานแสดงสินค้า ประชาสัมพันธ์ตามสื่อโฆษณา(ทั้งออนไลน์และออฟไลน์) จัดโปรโมชั่นต่าง ๆ เป็นต้นที่นักการตลาดของบริษัทในกลุ่มอุตสากรรมอาหารต้องตื่นตัวและปรับตัวให้ทันโลกอยู่เสมอ

ฝ่ายขาย: ....ที่เราคุ้นหูกันว่าเซลล์....ฟังแล้วอย่างเพิ่งตกใจว่าจะต้องไปเดินเคาะประตูขายของตามบ้านนะเพราะ – ฝ่ายขายนั้นเหมาะสำหรับคนที่มีใจรักในลูกค้า(Customer focus) รักการบริการ (Service mind) และมีเครื่อขายที่ดี(Connection) นอกจากนี้ควรชอบตัวเลขด้วยก็จะยิ่งดีเพราะลักษณะนี้ยังต้องมีการทำและบริหารทำยอดขาย ต้นทุน กำไร เป็นต้น โดยเบื้องต้นคนทำงานขายต้องทำความเข้าใจสินค้า(ข้อดีข้อเสียของสืนค้า ราคา คู่แข่ง ภาพรวมตลาด) เช่น ทำ SWOT Analysis และ Market Survey เป็นต้นเพื่อให้สามารถเข้าถึงและเจาะตลาดลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย คือทั้ง Target Customer รวมถึง Prospects ได้ถูกต้องและทำให้เกิดการซื้อที่ต่อเนื่อง โดยงานขายก็จะมีทั้งสินค้ากลุ่มอุตสาหกรรม B2B และกลุ่มสินค้าบริโภคFMCG ตามที่กล่าวมาแล้วดังนั้นจึงต้องเข้าใจตลาดและใช้ทักษะที่แตกต่างกันบ้างซึ่งเซลล์แต่ละคนต้องอาศัยเรียนรู้จากการทำงานพบปะลูกค้าด้วยประสบการณ์จริง

- ขายในประเทศต้องติดต่อสร้างความสนิทสนมกับลูกค้า (ลำดับความสำคัญด้วย) ต้องทำให้ลูกค้าจดจำคราสินค้าและผลิตภัณฑ์เด่นทีาขายได้และทำให้ลูกค้านึกถึงเราเสมอเมื่อต้องการสินค้าหรือตัวอย่างก็ต้องให้ทันเวลา จึงควรมีทักษษะการขับรถที่คล่องแคล่วด้วยจะดีมาก

-ขายต่างประเทศ จำเป็นต้องได้ภาษาอังกฤษอย่างน้อยในระดับดีคือสื่อสารได้คล่องแคล่วและโต้ตอบอีเมลธุรกิจกับเจ้าของภาษาได้อีกทั้งควรรู้ภาษาและเข้าใจวัฒนธรรมของลูกค้าในตลาดประเทศเป้าหมาย

-ขายช่องทางออนไลน์ อันนี้สำคัญมากในยุค 4.0 ที่นักขายต้องทำความเข้าใจและประสานการทำงานกับนักการตลาดเพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายและเพิ่มยอดขายได้จริง

*แนะนำว่าถ้าต้องการจะเติบโตในสายนี้เมื่อเรียนจบปริญญาตรีด้าน Food แล้วควรจะเรียนต่อโทด้านบริหาร หรือการตลาด(เรียนควบคู่การทำงานได้เลยนะคะ) อีกอย่างขอบอกว่างานแนวนี้เป็นงานที่ทำรายได้ดีมากๆ เพราะบริษัทจัดให้เป็นพนักงานกลุ่ม front officer ซึ่งเป็นกลุ่มทำผลกำไรให้กับบริษัท

- ฝ่ายจัดซื้อ คลังสินค้า และอื่นๆ: >>>งานประมาณนี้จริง ๆ แล้ว ไม่ว่าจะเรียนมาด้าน food science หรือมาสายบริหารหรืออื่น ๆ ก็สามารถทำได้ทั้งสิ้นแต่จะมีข้อได้เปรียบเสียเปรียบกันเล็กน้อยเท่านั้นเพราะงานส่วนนี้อาศัยประสบการณ์ทำงานจริงในบริษัทมากกว่าดังนั้นถ้าใครชอบแนวนี้ก็ให้เริ่มเข้าทำงานตั้งแต่ระดับเจ้าหน้าที่แล้วพยายามเก็บเกี่ยวประสบการณ์และพัฒนาฝีมืออย่างต่อเนื่องงานนี้ก็น่าสนใจดีเดียวเลย

# ข้อสำคัญขอให้รู้จักตัวเองว่าชอบและถนัดทำงานแนวไหนแล้วเข้าทำงานกับบริษัทแบบนั้น ซึ่งในบริษทก็จะมีตั้งแต่ตำแหน่งระดับเริ่มต้นไปถึงบริหาร(Staff,Supervisor, Assistant, Manager, Director and etc.) ที่ชื่อเรียกอาจแตกต่างกันไปบ้างตามโครงสร้างขององค์กร แต่นั่นก็ไม่ได้สำคัญไปกว่าการที่คุณเลือกได้เลือกทำงานให้เหมาะกับความชอบคุณก็จะก็จะรักในงานได้ประสบการณ์ตรงและเติบโตได้ดีไปกับสายงาน นอกจากนี้ที่ก็อย่าลืมให้ความสำคัญกับเพื่อนร่วมงานทุกคนเพราะควรระลึกไว้เสมอว่าทุกหน่วยนั้นมีสำคัญและต้องทำงานกันอย่างบูรณาการจึงจะสามารถการขับเคลื่อนองค์กรให้เจริญก้าวหน้าได้อย่างยั่งยืน

# อีกอย่างที่ควรมอง ๆไว้ด้วยก็คือ บริษัทบางแห่งก็จะมีสำนักงานหรือโรงงานในต่างประเทศถ้าใครสนก็เตรียมโกอินเตอร์ได้เลย แต่ที่สำคัญต้องฝึกภาษาอังกฤษให้คล่อง ให้เตรียมความพร้อมไว้อยู่เสมอเมื่อโอกาสมาถึงจะได้คว้าไว้ได้อยู่มือ

  2. บริษัทนำเข้าส่งออกอาหาร ธุรกิจนี้ก็ประมาณซื้อมาขายไปเป็นกลุ่มที่มีความคล้ายคลึงกับข้อแรกแต่บริษัทนั้นไม่ได้มีโรงงานผลิตหรือไม่ได้ผลิตสินค้าเอง(จึงแยกออกมาอีกข้อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น) ดังนั้นธุรกิจประเภทนี้ส่วนใหญ่ก็จะมีเพียงฝ่ายขายฝ่ายจัดซื้อ และฝ่ายคลังสินค้า โดยเน้นความชำนาญให้แนวซื้อมาขายไป(Trade) และเครือข่ายพันธมิตรธุรกิจมากกาว่า แต่อย่างไรก็ตามความรู้ด้านวิทยาศาสตร์การอาหารก็เป็นสิ่งจำเป็นของบุคคลากรในองค์กร อย่างน้อยนี้สุดคุณก็ต้องรู้จริงเกี่ยวกับข้อมูลสินค้าและการนำไปใช้โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลิตภัณฑ์อาหารหรือวัตถุเจือปนอาหารบ้างประเภทที่ต้องอาศัยความรู้เฉพาะทาง (Technicalknowledge) ซึ่งฝ่ายขายจะต้องมีความรู้เป็นอย่างดีไปอธิบายให้ลูกค้าเข้าใจถึงลักษณะผลิตภัณฑ์และจูงใจให้ซื้อสินค้าได้สำเร็จทั้งนี้คิดว่างานขายก็เป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ที่เป็นทั้งพรสวรรค์และพรแสวงเพื่อให้งานเกิดผลสัมฤทธิ์สูงสุด

  3. สถาบันด้านอาหาร (วิจัยและพัฒนาด้านอาหานเชิงลึกรวมถึงต่อยอดให้ภาคอุตสาหกรรม) หรือเป็นอาจารย์ งานแนวนี้เหมาะกับคุณคนที่ความเป็นนักวิชาการชอบวิจัยและแสวงหาความรู้ด้านวิทยาศาสตร์การอาหารอยู่ในสายเลือด ...เป็นสิ่งที่มากที่ประเทศเราจะได้มีผู้คิดค้นสารสกัดจากพืชผลทางการเกษตรหรือผลิตภัณฑ์อาหารที่เกิดจากนวัตกรรมทำให้ผลิตภัณ์อาหารมีมูลค่าเพิ่มที่มากขึ้นกว่าความเป็นอาหารทั่ว ๆ ไป ดั้งนั้นหากรักจะทำเดินเส้นทางสายนี้ก็ต้องเริ่มจากความรักในการทำวิจัยและต้องมองหาทุนการศึกษาด้าน Food Science เรียนให้สูงที่สุดถึงระดับปริญญาเอก (ปัจจุบันมีทุนมากมายทั้งในและต่างประเทศ ทั้งแบบที่ต้องกลับมาใช้ทุน และแบบให้เรียนให้จบโดยไม่มีข้อผูกมัดด้วย)ซึ่งหากน้อง ๆ คนไหนที่ต้องการจะเดินสายนี้ก็ศึกษาและก็ให้เตรียมความพร้อมกันได้ดีว่าต้องการเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านใดเช่น Polysaccharide, Protein, Fat & Oil, Flavor, Functional Food เป็นต้น เมื่อตัดสินใจได้แล้วก็ทำสิ่งนั้นให้ดีถึงที่สุด และขอให้สร้างผลงานอันยิ่งใหญ่และได้เป็นนักวิทยาศาสาตร์ชื่อก้องโลกค่ะ

  4. ภัตตาคาร ร้านอาหาร (แบบ chain restaurant) หรือ catering สายงานนี้อาจได้ตรงมากกับคนที่เรียนจบด้านfood science แต่หากท่านสนใจงานแนวนี้ก็ควรเรียนหรือหาความรู้เพิ่มเติมให้ด้านคหกรรมศาสตร์(Home economy) ด้วยเพราะลักษณะงานประเภทนี้จะเกี่ยวข้องกับรูปรส กลิ่น เสียงของอาหารที่ต้องอาศัยศิลปะในการทำอาหารให้อร่อยและดูสวยงามด้วยดังนั้นคนที่มาทางวิทยาศาสตร์การอาหารที่มีความเข้าใจให้เชิงวิทยาศาสตร์และโภชนาการของอาหารแล้วข้อได้เปรียบก็คือเมื่อไปเรียนหรือหาความรู้ต่อยอดด้านศิลปะการทำอาหารและการบริหารจัดการธุรกิจอาหารในกลุ่มนี้ก็จะทำให้สร้างสรรค์ทั้งเมนูอาหารรูปแบบการแต่งร้าน รูปแบบธุรกิจ และอื่น ๆ อีกมากมากที่โดนในผู้บริโภคและยังเป็นธุรกิจที่ทำเงินได้มากอีกด้วย

  5. เจ้าของกิจการ หรือที่ปัจจุบันมักเรียกกันว่า Start Up นั่นเอง....ถ้าคุณเป็นคนที่มีฝันจะเป็นนายตัวเอง มีไอเดียดี ๆ ที่อยากทำมันให้เป็นจริงหรือมีกิจการอาหารของทางบ้านที่ต้องการต่อยอด ศึกษาข้อมูลตลาดและสินค้าให้รอบด้าน ลงมือทำลุยเลยใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์การอาหารที่มีทำให้ธุรกิจของคุณเป็นจริงโดยเฉพาะเดี๋ยวนี้ยุคที่เทคโนโลยีก้าวหน้า เป็นที่ทั้งโลกและประเทศไทยจะก้าวสู่ยุค4.0 แล้ว ดังนั้นการนำ E-commerce หลากหลายรูปแบบทั้ง Social network (eg. Facebook, line, Youtube andetc.) รวมถึง applications ต่าง ๆก็ช่วยให้ธุรกิจใช้เงินลงทุนน้อย และไปได้สวยในเวลาอันรวดเร็ว

# ข้อคิด: การเรียนต่อระดับปริญญาโทและเอก(ในหรือต่างประเทศ สายเดิมหรือบริหารหรืออื่น ๆ) หรือ เรียนไปด้วยทำงานไปด้วย ขอให้พิจารณาหลายปัจจัยตั้งแต่ต้องมั่นใจก่อนว่าอยากเรียนต่อด้านนั้นจริง ฐานะการเงินของทางบ้านและความต้องการของตลาดเพราะนอกจากค่าเล่าเรียนแล้วสิ่งที่คุณจะต้องนำไปแลกกับความรู้และปริญญานั่นก็คือเวลาที่คุณจะต้องเสียไปในระหว่างที่เพื่อนๆ ของคุณเริ่มทำงานแล้วซึ่งแนะนำว่าหากแน่ใจแล้วว่าต้องการเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนั้น ๆก็ให้เรียนให้ถึงที่สุดแต่ถ้าคุณยังไม่แน่ใจให้เป้าหมายของชีวิตนักก็ให้เลือกทำงานในสิ่งที่คิดว่าตัวเองชอบสักปีสองปีก่อนแล้วค่อยตัดสินใจอีกครั้งจะดีกว่า ซึ่งครั้งนี้หลายคนก็มักเลือกเรียนควบคู่ไปกับการทำงานเพราะนั่นจะเป็นการใช้เวลาอย่างคุ้มค่าหรือคุณอาจจะค้นพบว่าคุณสนุกกับงานและมีสิ่งต่าง ๆที่ได้เรียนรู้จากการทำงานมากพอกระทั่งไม่เห็นความจำเป็นของปริญญาอีกใบแล้วก็เป็นได้

***ไม่ว่าจะตัดสินใจเลือกเรียน Food Science หรือสายอะไรหรือเรียบจบแล้วจะทำงานอะไร ขอให้คุณตั้งใจและทำสิ่งนั้นให้เต็มที่ และโชคดีได้ค้นพบสิ่งที่ใช่ งานที่รักกันทุกคน☺😊😀....ไม่เจ็บไม่จน เฮง ๆ รวย ๆ กันถ้วนหน้า

https://web.facebook.com/199Foods/




Create Date : 01 เมษายน 2561
Last Update : 1 เมษายน 2561 13:56:06 น.
Counter : 1562 Pageviews.

3 comments

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณmambymam, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณวลีลักษณา

  
สาขานี้น่าสนใจนะ สมัยพี่เรียนน่าจะมี จะได้เลือกเรียน
พี่ชอบเกี่ยวกับอาหารจ้ะ
อ่านแล้วได้ความรู้ใหม่ๆเยอะเลย
เด๊๋ยวจะให้สาวๆหนุ่มๆ ที่บ้านที่กำลังเรียนอยู่มาอ่านบ้างจ้ะ

โหวตความรู้ทั่วไปเนอะ

โดย: mambymam วันที่: 1 เมษายน 2561 เวลา:13:44:07 น.
  
ได้ค่ะคุณพี่แหม่ม
คนเลือกเรียนถูกมีชัยไปครึ่งทาง 55

โดย: จอมใจจอมมโน วันที่: 1 เมษายน 2561 เวลา:13:52:39 น.
  
เรียนสาขานี้หางานทำได้หลากหลายดีค่ะ
โดย: วลีลักษณา วันที่: 1 เมษายน 2561 เวลา:21:16:57 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

จอมใจจอมมโน
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



เกิดมาแล้วทำชีวิตให้มีค่า
ลองเปิดตา 👀 หาความหมายในกายตน
และตั้งใจสร้างประโยชน์เพื่อมวลชน
อย่าได้จนไร้ความดีเมื่อจากลา
มุ่งดำเนินเดินก้าวย่างด้วยสติ
สมาธิประกอบกันเข้าเถิดหนา
ดำรงตนไม่ประมาทในเวลา ⏱
นำชีวา พาสู่ธรรม กระทำดี

จากใจ...
.....หยกตะวัน เจล 😎


https://web.facebook.com/yoktawan.gel



*งานเขียนใน blog นี้สำหรับอ่านค่ะ 😀😃 ขอสงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย ห้ามนำไปพิมพ์ เผยแพร่ คัดลอก หรือกระทำการใด ๆ ทุกกรณี โดยไม่ได้รับอนุญาต