|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
หนึ่งตะวันกลางใจ ตอนที่ 6 (ขออนุญาตดูแลนะครับ)
ตอนที่ 6 ขออนุญาตดูแลนะครับ
เมื่อพฤฒิและมิโยโกะรวมถึงปารเมศออกมาสมทบกับทุกคนที่ที่สนามหน้าบ้านซึ่งใช้เป็นที่จัดงานเลี้ยง ก็เป็นจังหวะเดียวกับคุณประสิทธิ์บิดาของปัญจพาณ์กลับมา ทำให้พฤฒิรอดตัวจากสายตาของเจ้านายอย่างฮิเดกิไปชั่วคราว แต่ชั่วคราวที่ว่านั้นมันเป็นเพียงแค่ชั่วไม่กี่นาทีเท่านั้น สาเหตุก็เพราะเจ้าของงานวันเกิดนั่นเอง
พฤฒิถูกชวนมาร่วมโต๊ะกับคุณประสิทธิ์บิดาของปัญจพาณ์ ซึ่งโต๊ะนี้มีเพื่อนสนิทของคุณประสิทธิ์สองคน พี่ชายทั้งสามและน้องชายของปัญจพาณ์นั่งอยู่ด้วยทำให้ดูเหมือนได้รับอภิสิทธิ์พิเศษมากกว่าเจ้านาย ทำให้เขารู้สึกเสียวสันหลังอยู่ไม่น้อย
“ชื่อพฤฒิเหรอ ชื่อแปลกดี ขอบใจมากที่ช่วยดูแลไอ้ปั้นกับไอ้ปุ๊ตอนไปเที่ยวญี่ปุ่น ได้ข่าวว่ากวนคุณเยอะเลยนี่”
“รวมผมด้วยเหรอ ของผมแค่ให้ติดต่อที่พักเองนะ คนกวนจริงๆ น่ะไอ้ปั้นมันนั่นแหละ แถมยังสอยเจ้านายคุณพฤฒิกลับมาเป็นของใช้ส่วนตัวซะด้วย” ปุริมวกเข้าหาเรื่องฮิเดกิอย่างจงใจยั่วอารมณ์บิดา ที่ทำเป็นไม่เห็นหัวหนุ่มญี่ปุ่นตั้งแต่กลับมาถึงบ้าน ทำเอาคุณประสิทธิ์เงียบกริบไปถนัดใจ
“เกรงใจไปแล้วครับ จริงๆ คุณฮิเดกิยังช่วยดูแลคุณปั้นมากว่าผมอีกครับ” พฤฒิคิดจะช่วยเจ้านายทำคะแนน แต่พอหลุดปากออกไปแล้วจึงรู้สึกได้ว่าคำพูดฟังทะแม่งๆ ชวนให้คิดว่าฮิเดกิจงใจจีบปัญจพาณ์ บรรยากาศจึงยิ่งมาคุ ช่วยกระอักกระอ่วนยิ่งขึ้น
มิโยโกะและฮิเดกิถูกปัญจพาณ์กันออกมาให้นั่งอีกโต๊ะหนึ่งซึ่งอยู่ข้างๆ กับโต๊ะของคุณประสิทธิ์ ซึ่งโต๊ะนี้นอกจากมิโยโกะและพี่ชาย ยังมีคุณอรอนงค์ ปัญจพาณ์ รวมไปถึงจารวีเพื่อนของปัญจพาณ์และคนรักนั่งอยู่ด้วย ส่วนถัดไปอีกโต๊ะเป็นเพื่อนๆ ของคุณประสิทธิ์ที่มาร่วมงานด้วย
เด็กสาวได้ยินเสียงพฤฒิตอบคำถามของเจ้าบ้านจึงเหลือบมองไปทางเขา แม้ไม่เข้าใจว่าโต๊ะข้างๆ พูดเรื่องอะไรกัน แต่ก็สังเกตเห็นว่าคุณประสิทธิ์มองพี่ชายเธออย่างไม่ชอบใจนัก ซึ่งเธอไม่เข้าใจสักนิดว่าเพราะอะไรในเมื่อพี่ชายของเธอแสนดีขนาดนี้
มิโยโกะทำให้ทุกคนแปลกใจด้วยการขออนุญาตไปร่วมโต๊ะเดียวกับคุณประสิทธิ์ โดยเลือกนั่งข้างๆ พฤฒินั่นเอง
“คุณลุงคะ มิโยโกะมีเรื่องอยากถามค่ะ” มิโยโกะพูดขึ้นเป็นภาษาอังกฤษ
“หนูมิโยโกะมีอะไรจะถามงั้นเหรอ” คุณประสิทธิ์เห็นสาวน้อยน่ารักมองเขาตาปริบๆ ก็นึกเอ็นดู แม้ว่าจะเป็นน้องสาวของฮิเดกิก็ตาม
“คุณลุงไม่ชอบพี่ฮิเดกิจริงๆ เหรอคะ” มิโยโกะถามเสียงฟังดังชัด ทำให้คุณประสิทธิ์ถึงกับอึ้ง เพื่อนร่วมโต๊ะคนอื่นๆ ชะงักค้างไปตามๆ กัน รวมถึงโต๊ะข้างๆ ที่ตั้งใจฟังการสนทนาของมิโยโกะอย่างใจจดใจจ่อตั้งแต่เด็กสาวของย้ายโต๊ะก็พลอยกลั้นหายใจฟังคำตอบไปด้วย
“ทำไมฉันจะต้องชอบหรือไม่ชอบพี่ชายหนูด้วยล่ะ เขาจะเป็นยังไงไม่เห็นจะเกี่ยวอะไรกับฉันเลย” คุณประสิทธิ์ทำเสียงหมางเมิน
“ต้องเกี่ยวสิคะ ในเมื่อพี่ฮิเดะเป็นคนรักของอาอิ แล้วพี่ฮิเดะก็คนคนดีที่สุด ทั้งหล่อ ทั้งรวย นิสัยดี ใครๆ ก็ชอบทั้งหนั้น”
คำพูดของเด็กสาวทำคุณประสิทธิ์ที่กำลังทำท่ายกน้ำขึ้นดื่มอย่างไม่ไยดีแทบสำลัก และทำให้ปัฐน์เอนศีรษะไปกระซิบกับปุริมพี่ชายคนโต
“ห้าวว่ะ”
“แรง” ปุริมกระซิบตอบ พร้อมพยักหน้าเห็นด้วย แล้วหันหน้าไปทางพฤฒิ “เด็กคุณไม่ใช่เหรอ ปรามๆ หน่อยดีไหม”
“คุณหนูออกตัวแรงเรื่องของนายท่านเสมอแหละครับ คงห้ามไม่ได้” พฤฒิยิ้มที่มุมปาก จะว่าไปนี่ก็เป็นส่วนที่เขาเห็นว่าน่ารักดีในตัวมิโยโกะ
“หนูพูดอะไรน่ะ คนร้งคนรักอะไร ฉันไม่เคยรับรู้อะไรทั้งนั้น แล้วถ้าพี่ชายหนูดีขนาดนั้นจะมาสนใจอะไรกับยัยปั้นกันเล่า” คุณประสิทธิ์ยืนกรานปฏิเสธลูกเดียว
“หรือพี่ฮิเดะไม่ได้บอกคุณลุงคะ แต่นั่นเป็นการไม่ให้เกียรติคุณลุงเลยนะคะ” คราวนี้มิโยโกะปรายตาไปยังพี่ชายอย่างครุ่นคิด เพราะหากเป็นดังที่เธอพูดเมื่อครู่ก็นับได้ว่าพี่ชายของเธอสมควรแล้วที่จะถูกบิดาของปัญจพาณ์เกลียดขี้หน้าเอา ความคิดหนึ่งแว่บเข้ามาในสมอง หรือว่าจริงๆ แล้วพี่ชายไม่ได้จริงจังอะไรกับปัญจพาณ์นักหนาจึงปล่อยให้เรื่องคบหากันคาราคาซังจนผู้ใหญ่ไม่เห็นชอบ “พี่ฮิเดะคะ คุณลุงบอกว่าพี่ฮิเดะไม่เคยเรียนท่านว่าคบหาอยู่กับอาอิ จริงหรือเปล่าคะ”
ด้วยคำถามนั้นน่าจะทำให้ความสนใจของทุกคนไปอยู่ที่ฮิเดกิ แต่คุณอรอนงค์กลับไม่เป็นเช่นนั้นเพราะความสนใจทั้งหมดของเธอไปอยู่ที่สามีซึ่งกำลังทำหน้าปั้นยาก กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
ใช่ว่าฮิเดกิจะไม่เคยพยายามบอกว่ากำลังคบหากับปัญจพาณ์ แต่เป็นคุณประสิทธิ์เองที่ปิดหูปิดตาไม่ยอมรับรู้ใดๆ ทั้งสิ้น ถึงขั้นว่าไม่ยอมให้ฮิเดกิเข้าบ้านเพื่อจะได้ไม่ต้องพูดคุยกันเรื่องนี้ ถึงกระนั้นเธอก็รู้ดีกว่าสามีเพียงทำใจไม่ได้ที่ลูกสาวเพียงคนเดียวจะต้องไปใช้ชีวิตคู่ไกลถึงต่างแดน แม้เวลาที่ผ่านมีปีกว่านี้ ฮิเดกิไม่เคยทำตัวนอกลู่นอกทางจนเป็นที่ประจักษ์ได้ว่าชายหนุ่มชาวอาทิตย์อุทัยผู้นี้มีความตั้งใจจริงในตัวปัญจพาณ์ แม้ระยะทางก็ไม่ใช่อุปสรรคขัดขวางความรักของคนทั้งคู่ แต่คนเป็นพ่อเป็นแม่ย่อมเห็นลูกๆ เป็นเด็กน้อยอยู่เสมออยากจะอ้าแขนปกป้องอยู่ตลอดเวลา ขนาดเธอเองแม้จะทำใจได้แล้วแต่ก็ยังรู้สึกใจหายอยู่บ่อยครั้งเมื่อคิดถึงเรื่องนี้
เสียงฮิเดกิเอ่ยขออนุญาตลุกจากโต๊ะโดยไม่ได้ตอบคำถามของน้องสาว ดึงความสนใจของคุณอรอนงค์ไปยังเขาแทนสามี และได้เห็นว่าหนุ่มญี่ปุ่นลุกเดินไปหาคุณประสิทธิ์ โดยมีปัญจพาณ์ลุกเดินตามไปด้วยอย่างเป็นห่วง แต่ก็ไม่ได้ออกปากห้ามหรือรั้งฮิเดกิแต่ประการใด ทั้งนี้เป็นเพราะปัญจพาณ์เองก็ไม่ทราบว่าฮิเดกิคิดจะทำอะไรกันแน่
ตอนนี้ทุกคนในงานเลี้ยงเล็กๆ นี้พร้อมใจกันเงียบเสียงรอดูสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไป แม้แต่เสียงดนตรีในงานที่ดังอยู่ก็ยังถูกหรี่ลง เพื่อหลบฉากให้ ฉากสำคัญที่กำลังจะเกิดขึ้น
เมื่อฮิเดกิเดินไปหยุดตรงหน้าคุณประสิทธิ์ที่นั่งกอดอกปั้นหน้าดุดัน หนุ่มญี่ปุ่นทำให้สิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดคือทรุดตัวลงคุกเข่ากับพื้นกราบลงที่ตักของคุณประสิทธิ์ ทำเอาทุกคนตะลึงงันพูดไม่ออกกับกิริยาฝากตัวกรายๆ นั้น ดังนั้นเมื่อชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นแล้ววางมือทั้งสองข้างลงบนเข่าของตนเองอย่างเคร่งขรึม จึงมีเพียงความเงียบกริบปกคลุมไปรอบบริเวณ
“คุณพ่อครับ ผมทราบดีว่าคุณพ่อรักปั้นมาก”
เป็นอีกครั้งที่ฮิเดกิทำให้ใครๆ แปลกใจ เพราะภาษาที่ใช้นั้นเป็นภาษาไทย และที่สำคัญสำเนียงเพี้ยนเพียงเล็กน้อยเท่านั้นแสดงให้เห็นว่าเจ้าตัวพยายามฝึกฝนคำพูดเหล่านี้มามากแค่ไหน
มิโยโกะยังกะพริบตาปริบๆ กับคำพูดของพี่ชายเพราะฟังไม่เข้าใจเลย จนพฤฒิต้องกระซิบบอกว่าฮิเดกิกำลังพูดภาษาไทยอยู่ ทำให้เด็กสาวแปลกใจไม่แพ้คนอื่นๆ
ส่วนคุณประสิทธิ์นั้นทำอะไรไม่ถูกตั้งแต่ถูกหนุ่มญี่ปุ่นมากราบแทบตักแล้ว ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะทำอะไรแบบนี้
“ถึงผมจะเพิ่งรู้จักกับปั้นได้ไม่นานนัก แต่ก็รู้สึกอยากปกป้องดูแล...” หนุ่มญี่ปุ่นพูดช้าๆ พยายามพูดให้ชัดถ้อยชัดคำที่สุด เขารู้สึกได้ว่าคนรักทรุดตัวลงนั่งคุกเข่าอยู่ข้างๆ แต่สายตาของเขายังคงสบตากับคุณประสิทธิ์อย่างไม่ไหวติง นี่เป็นสิ่งที่เขาต้องการพูดเพื่อให้บิดาของปัญจพาณ์ได้รับรู้ถึงความตั้งใจจริงของเขา “...ผมอยากขออนุญาตคุณพ่อ ขอให้ผมได้รัก ได้ช่วยดูแลปกป้องปั้นด้วยอีกคนได้ไหมครับ”
คำพูดของฮิเดกิเป็นเพียงคำพูดสั้นๆ ไม่กี่ประโยค แต่กลับทำให้คุณประสิทธิ์รู้สึกตื้นตันและเอ็นดูชายหนุ่มตรงหน้าขึ้นมาอย่างประหลาด ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้เคยตั้งแง่สารพัด ทว่าตอนนี้กลับรู้สึกราวกับว่าตนเองมีลูกชายเพิ่มขึ้นมาอีกคน อาจเป็นไปได้ว่าเขารู้สึกดีกับผู้ชายคนนี้อยู่แล้ว เพียงแต่มีอคติความดื้อรั้นมาขวางกั้นไว้ เมื่ออีกฝ่ายมากล่าววาจาขอช่วยดูแลลูกสาวอย่างนอบน้อมทำให้กำแพงที่ขวางอยู่ในใจทลายลง ความรู้สึกที่แท้จริงจึงปรากฏออกมา
“คุณพ่อคะ...” ปัญจพาณ์เรียกบิดา เบือนสายตาจากคนรักมาที่บิดาอย่างเว้าวอนช่วยขอร้องร่วมกับฮิเดกิ นัยน์ตาของหญิงสาวแดงก่ำรู้สึกตื้นตันในตัวคนรัก เขาเรียกชื่อเล่นเธอว่า ‘ปั้น’ อย่างชัดถ้อยชัดคำ ไม่ใช่ ‘อาอิ’ ที่คุ้นปากคนญี่ปุ่นอย่างเขามากกว่า เธอไม่เคยรู้มาก่อนว่าเขาไปฝึกพูดภาษาไทยมา และยิ่งไม่ทราบมาก่อนว่าเขาไปฝึกคำพูดพวกนี้มาจากไหน รู้แต่ว่าอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้าเธอจะกลั้นน้ำตาที่เอ่อคลออยู่นี้ไม่ได้อีกแล้ว
คุณประสิทธิ์มองหน้าลูกสาวสลับกับหนุ่มญี่ปุ่น ก่อนจะผ่อนลมหายใจออกมา
“ถ้าเธอยอมสัญญาด้วยเกียรติของลูกผู้ชายว่าจะดูแลลูกสาวฉันเป็นอย่างดี ฉันก็จะอนุญาตเรื่องที่เธอขอ” ถึงคุณประสิทธิ์จะพูดด้วยน้ำเสียงห้าวห้วน แต่คนที่ได้ยินต่างรู้ดีว่าเขาใจอ่อนแล้ว จึงมองไปที่ฮิเดกิและปัญจพาณ์อย่างยินดี
ฮิเดกิเงียบไปครู่หนึ่ง เพราะยังไม่เก่งภาษาไทยนัก จนกระทั่งได้ปัญจพาณ์ช่วยแปลข้อความเมื่อครู่ของคุณประสิทธิ์ให้ จึงได้พูดเป็นภาษาไทยอีกครั้งด้วยน้ำเสียงมั่นใจเต็มเปี่ยม
“ผมสัญญาครับ”
เสียงปรบมือดังขึ้นจากคนทั้งงานทันทีที่ฮิเดกิกล่าวจบ และกราบตักคุณประสิทธิ์อีกครั้งพร้อมกับปัญจพาณ์
“วู้! พี่ปั้นขายออกแล้ว แบบนี้ก็เตรียมงานแต่งงานได้แล้วใช่ไหมครับ” ปารเมศส่งเสียงล้อเลียนดังลั่น ทุกคนก็พลอยเออออไปด้วย ทำให้คุณประสิทธิ์หน้าเหวอไปชั่วขณะ
“จะบ้าเหรอ! แค่อนุญาตให้คบกันเว้ย ใครให้แต่งงาน ไม่ได้ๆ เรื่องแต่งงานไว้พูดกันอีกทีโว้ย” คุณประสิทธิ์ประกาศลั่น เรียกเสียงโห่อย่างไม่เห็นชอบจากคนในงาน
ฮิเดกิและปัญจพาณ์ยิ้มให้กัน มือใหญ่ของหนุ่มญี่ปุ่นเกลี่ยน้ำตาที่ไหลลงมาที่แก้มหญิงสาวอย่างเบามือ ก่อนจะกระซิบเบาๆ ที่ข้างหูคนรัก ปัญจพาณ์พยักหน้า แล้วลุกขึ้นยืนโดยมีฮิเดกิช่วยรั้งต้นแขน ทั้งสองมาคุกเข่าตรงหน้าคุณอรอนงค์แล้วก้มลงกราบที่ตักเช่นเดียวกับที่กราบตักคุณประสิทธิ์ คุณอรอนงค์ลูบศีรษะคนทั้งคู่อย่างเอ็นดูและบอกฮิเดกิว่ายินดีรับเขาเป็นลูกชายอีกคนหนึ่ง ทำให้เกิดเสียงปรบมือดังขึ้นอีกระลอก
ดูเหมือนใครๆ จะลืมว่ามีสาวน้อยคนหนึ่งนั่งมองเรื่องราวอยู่โดยฟังภาษาไทยไม่ออกแม้แต่น้อย แต่จากท่าทางของพี่ชายและปัญจพาณ์รวบไปถึงเสียงตบมือรอบๆ ตัว ทำให้มิโยโกะพอเดาได้ว่าตอนนี้พี่ชายของเธอเป็นที่ยอมรับของทุกคนในบ้านนี้เรียบร้อยแล้ว ไม่เว้นแม้แต่คุณประสิทธิ์
“ซากิ” มิโยโกะกระตุกชายแขนเสื้อของพฤฒิที่ร่วมตบมือแสดงความยินดีให้กับเจ้านายและแฟนสาว “มีอะไรหรือครับคุณหนู”
“เล่ามาให้ละเอียดเดี๋ยวนี้เลยนะ ว่าเมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น”
“เอ่อ...” ท่าทางงานจะเข้าเสียแล้ว เขาก็ไม่รู้ว่าคุณหนูอารมณ์ร้ายของเขาจะแสดงออกมาในแง่ไหนเมื่อรู้เรื่องเข้า ถึงต่อหน้าผู้คนมามายจะไม่แสดงออกอะไรเพราะความเจนสังคมตั้งแต่อายุยังน้อย ทว่าหลังงานคงได้ออกฤทธิ์ออกเดชเป็นแน่ แต่ถึงขั้นนี้ไม่เล่าก็คงไม่ได้ เขาคงทำได้แค่ทำให้เรื่องนี้ดูเป็นเรื่องเล็กน้อยที่สุด “ก็ไม่มีอะไรมากครับ แค่นายท่านขออนุญาตคบกับคุณปั้นเท่านั้น”
“เชอะ คบกันเป็นทางการจนได้สินะ แต่จะคบกันได้นานแค่ไหนน่ะมันอีกเรื่องนึงหรอกนะ”
“คุณหนู...เอ่อ...ไม่ว่าอะไรเหรอครับ” ท่าทางยอมรับอย่างสงบมิได้เสแสร้งของมิโยโกะนับว่าผิดคาดสำหรับพฤฒิ
“จะให้ว่าอะไรอีก เรื่องที่อยากว่าก็ว่าไปหมดตั้งนานแล้ว จะให้พูดซ้ำพูดซากอีกหรือไง น่าเบื่อ” การคบหาของสองคนนั้นเธอทำใจได้มานานแล้ว ที่ต้องเฝ้าระวังตอนนี้คือไม่ให้ปัญจพาณ์ทำให้พี่ชายสุดที่รักของเธอต้องเสียใจต่างหาก ในเมื่อบิดาของสาวไทยยอมรับพี่ชายเธอแล้ว ก็นับได้ว่าได้บรรลุเป้าหมายของตัวเองในการมาประเทศไทยครั้งนี้เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้พี่ชาย แม้ว่าจริงๆ แล้วที่เรื่องลงเอยด้วยดีเป็นเพราะตัวพี่ฮิเดกิเองล้วนๆ โดยที่เธอไม่ได้ทำอะไรเลยก็ตาม
“นี่คือคุณหนูมิโยโกะตัวจริงใช่ไหมครับ หรือวันนี้ผมไม่อยู่ด้วยเลยมีคนแอบเอาคุณหนูตัวปลอมมาเปลี่ยน”
“อะไร พูดอย่างนี้หมายความว่ายังไง ซากิ” มิโยโกะหันไปขึงตาใส่ชายหนุ่ม แต่พฤฒิไม่ได้มีท่าทีกลัวหงอ กลับยิ้มให้อย่างอบอุ่นอ่อนโยนแทน พร้อมทั้งตอบเด็กสาวด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มนวล
“หมายความว่า คุณหนูของผมโตขึ้นอีกหน่อยแล้วน่ะสิครับ”
เมื่อได้รับคำตอบที่คาดไม่ถึงทำให้มิโยโกะมองพฤฒินิ่งปนอึ้ง นัยน์ตาดำขลับถ่ายทอดความจริงใจในคำพูดอย่างอ่อนโยน ทำให้เด็กสาวรู้สึกเคอะเขินขึ้นมา และคงได้เป็นฝ่ายหลบตาเขาก่อนเป็นแน่ถ้าไม่เป็นเพราะจู่ๆ ปุริมเอ่ยแทรกขึ้นทำลายบรรยากาศ
“นี่สองคนนี้ถ้าจะจีบกันช่วยพูดให้คนแถวนี้เขาฟังรู้เรื่องด้วย ภาษาญี่ปุ่นกลับไปพูดที่ญี่ปุ่นโน่น คนเขาไม่เข้าใจกัน ไม่รู้หรือไง” ปุริมจงใจพูดเป็นภาษาไทยเพราะต้องการล้อพฤฒิเท่านั้น ไม่อยากให้เด็กสาวญี่ปุ่นฟังรู้เรื่อง ด้วยเกรงว่าเรื่องทำนองนี้หากมิโยโกะรับไม่ได้อาละวาดขึ้นมางานจะกร่อย
พฤฒิรู้สึกกระดากเล็กน้อย แต่เมื่อเห็นสีหน้าสงสัยของมิโยโกะจึงต้องรีบบอกให้คลายสงสัย
“คุณปุริมไม่อยากให้คุยกันเป็นภาษาญี่ปุ่นครับ เขาฟังไม่เข้าใจ”
“อ๋อ” มิโยโกะพยักหน้า
“แปลได้ดี” ปุริมทำสีหน้าเคร่งขรึมเกินเหตุ ขณะที่น้องชายของเขาพากันหัวเราะ แม้จะมีแค่แสงไฟตกแต่งในงานไม่มากนักแต่ก็เพียงพอทำให้หนุ่มๆ สังเกตเห็นใบหน้าของพฤฒิมีสีเข้มขึ้น แต่มิโยโกะหันมาขอโทษทุกคนจึงไม่ทันได้เห็นสีหน้านั้น
“ต้องขอโทษด้วยนะคะ มิโยโกะชินกับการพูดกับซากิเป็นภาษญี่ปุ่นมากกว่า” มิโยโกะกล่าวอย่างสงบเสงี่ยม “เรื่องเล็กน้อยครับ ว่าแต่ได้ยินปั้นบอกว่าคุณมิโยโกะมาเมืองไทยเพราะอยากเที่ยวงานลอยกระทงหรือครับ มะรืนนี้ก็ลอยกระทงแล้ว คิดไว้หรือยังครับว่าจะไปงานที่ไหน” ปัฐน์หาเรื่องชวนคุย
“ยังไม่ทราบเลยค่ะ ไม่รู้ว่าพี่ฮิเดะตกลงกับอาอิยังไงบ้าง”
“ลอยกระทงเสร็จก็ต้องเที่ยวงานวัดด้วยนะครับ รับรองสนุก อย่างปีก่อนพวกเราไปมหาวิทยาลัยที่พี่ปุ๊สอนอยู่ จัดงานกันคึกคักทีเดียว ถ้าคุณมิโยโกะยังไม่มีโปรแกรมปีนี้จะไปกับผมก็ได้นะครับ” ใบหน้าของปัฐน์ระรื่นจนบรรดาพี่น้องและพฤฒิปรายตามองอย่างหมั่นไส้กับปฏิบัติการชวนสาวเดตนั้น
“มิโยโกะแล้วแต่พี่ฮิเดะค่ะ” มิโยโกะยิ้มหวาน แต่คำตอบนั้นเล่นเอาปัฐน์คอตก เพราะความหมายก็คือให้ไปขอกับพี่ชายของเธอนั่นเอง ช่วงก่อนเขากันท่าหมอนั่นไว้เยอะเหมือนกัน คงไม่ไฟเขียวเรื่องน้องสาวให้ง่ายๆ แน่นอน
“ผมว่าปั้นคงมีแผนอยู่ในใจแล้ว ถ้าผมไม่มีนัดแทรกจะตามไปด้วยแล้วกันครับ”
“โธ่เอ๊ย...นึกว่าจะแน่” ปุริมพึมพำเบาๆ เย้าน้องชาย
ปัฐน์ขึงตาตอบ ดูก็รู้ว่าฮิเดกิหวงน้องสาวคนนี้ขืนรุกไม่ดูตาม้าราเรือเดี๋ยวก็ได้หงายหลังตึงกลับมาพอดี ไหนจะพฤฒิที่ทำตัวเป็นเงาตามตัวตั้งแต่มิโยโกะมาถึงอีกเล่า แค่หยอดๆ เผื่อฟลุคก็พอแล้ว ขืนมากกว่านี้อาจมีสิทธิ์น่วมได้
“แล้วนายคิดว่ามีที่ไหนน่าเที่ยวบ้างล่ะ ซากิ” มิโยโกะหันไปคุยกับพฤฒิ
“อยากไปงานที่ภูเขาทองครับ ไม่ได้ไปนานแล้ว”
“ภูเขาทองก็ไม่เลวนะครับ เหมาะกับนักท่องเที่ยวดีเหมือนกัน” ปุริมออกความเห็น
“ดีจริงเหรอคะ” ดวงตาของสาวญี่ปุ่นสุกใสขึ้น ท่าทางสนใจอยู่ไม่น้อย “เราบอกอาอิกันเถอะว่าจะไป งาน...งานที่ไหนนะซากิ”
“ภูเขาทองครับ”
“ภูเขาทอง” มิโยโกะทวนคำช้าๆ แล้วมองหน้าพฤฒิ เมื่อเขาพยักน้ารับ เธอก็ทวนคำซ้ำๆ เพื่อให้คล่องขึ้น จากนั้นจึงหันไปบอกปัญจพาณ์ซึ่งนั่งอยู่โต๊ะข้างๆ ว่าต้องการไปเที่ยวงานภูเขาทองในคืนวันลอยกระทง
พฤฒิยิ้มกับท่าทางกระตือรือร้นของเด็กสาวชาวญี่ปุ่น ไม่ว่าเธอจะมาเมืองไทยด้วยจุดประสงค์อะไรก็ตาม ทว่าตอนนี้มิโยโกะก็ถูกดึงดูดด้วยมนต์เสน่ห์ของเทศกาลที่เจ้าหล่อนไม่เคยสัมผัสด้วยซ้ำ
ช่างเป็นคุณหนูที่ชื่นชอบงานเทศกาลต่างๆ เสียเหลือเกิน แม้แต่พี่ชายที่แสนจะงานยุ่งอย่างฮิเดกิก็รู้เรื่องนี้ดีขนาดที่ว่าบันทึกนัดหมายในวันเทศกาลต่างๆ ต้องลงชื่อคุณหนูมิโยโกะเอาไว้เพื่อไม่ให้ลืมพาน้องสาวสุดที่รักไปเที่ยวกันทีเดียว
มีเพียงงานเทศกาลทานาบาตะในปีก่อนเท่านั้นที่ฮิเดกิบอกน้องสาวว่าไม่สามารถไปงานด้วยได้ ทำให้ปีนั้นเขาได้มีโอกาสรับหน้าที่แทน
“เฮ้ย นั่นสาวที่ไหนมายืนอยู่หน้าบ้าน เด็กใครไปรับหน่อยเร็ว” ปัฐน์โวยวายด้วยน้ำเสียงครื้นเครง ทำให้ใครต่อใครในงานมองไปที่ประตูรั้วเป็นตาเดียวกัน แต่ที่เขาคิดไม่ถึงก็คือพี่ชายคนโตของเขาลุกพรวดตรงไปหาหญิงสาวคนนี้ทันที และต้องงงอีกครั้งเมื่อเห็นฮิเดกิและปัญจพาณ์ลุกไปด้วยเช่นกัน “อะไรกัน เด็กพี่ปุ๊นี่ ยัยปั้นกับคุณฮิเดกิรู้จักด้วยเหรอเนี่ย”
“ซากิ ช่วยดูหน่อยซิ ผู้หญิงคนนั้นใช่คนที่ฉันคิดหรือเปล่า” มิโยโกะเบิกตากว้างขณะหันไปพูดกับพฤฒิ
“นายท่านออกไปรับอย่างนั้น ไม่น่าจะผิดนะครับ” ถึงไม่อยากเชื่อ แต่พฤฒิก็คิดว่าตัวเองตาไม่ฝาดแน่นอน
“เป็นไปไม่ได้ แม่นั่นจะโผล่มาที่นี่ได้ยังไงกัน” เด็กสาวหันกลับไปมองร่างของหญิงสาวที่ต้องแสงไฟหน้าประตูรั้วจนเห็นใบหน้าชัดเจน ยังคงทำใจให้เชื่อไม่ได้ว่าเป็นคนที่เธอคิดจริงๆ
ไดโดจิ คาสึมิ มาปรากฏตัวที่นี่จริงๆ น่ะหรือ?
.............(โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ)............
Create Date : 03 พฤศจิกายน 2554 |
|
6 comments |
Last Update : 3 พฤศจิกายน 2554 13:30:08 น. |
Counter : 1034 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: Natee IP: 70.183.186.42 4 พฤศจิกายน 2554 8:02:43 น. |
|
|
|
| |
โดย: ฉาย IP: 61.47.124.46 4 พฤศจิกายน 2554 12:17:54 น. |
|
|
|
| |
โดย: goldensun IP: 61.91.4.2 7 พฤศจิกายน 2554 20:07:48 น. |
|
|
|
| |
โดย: คีตภา 3 มกราคม 2555 21:21:03 น. |
|
|
|
| |
โดย: ree IP: 49.49.147.251 5 มกราคม 2555 4:43:06 น. |
|
|
|
| |
โดย: คีตภา 2 กุมภาพันธ์ 2555 8:38:25 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
เอ่อ...ไม่เข้าใจว่า ทำไมถึงคลิกกล่องคอมเม้นต์ไม่ได้ กดไม่ติดเลยอะค่ะ ตอบคอมเม้นไม่ได้ เดี๋ยวขอหาทางแก้ก่อนนะคะ
ยังไงก็ขอบคุณทุกคน ที่แวะมานะคะ (Y)(^O^")(Y)
|
|
|
|
|
|
|
|