1 2 3 4 5 6 7
8 9 10 11 12 13 14
15 16 17 18 19 20 21
22 23 24 25 26 27 28
29 30
หนึ่งตะวันกลางใจ ตอนที่ 7 (คำขอที่ไม่คาดฝัน)
ตอนที่ 7 คำขอที่ไม่คาดฝัน “มัวนั่งทำอะไรอยู่ รีบลุกเร็วเข้า” มิโยโกะตบไหล่พฤฒิให้ลุกตามเธอ “ครับ” พฤฒิรับคำ ความจริงเขาตั้งใจจะลุกไปอยู่แล้ว แต่ไม่คิดว่าคุณหนูของเขาจะไวยิ่งกว่า “ครับก็รีบลุกสิ เดี๋ยวก็พลาดหรอกว่าพวกเขาคุยอะไรกัน ยัยนั่นคิดจะกัดพี่ฮิเดะไม่ปล่อยล่ะสิ” “หมายความว่ายังไงครับคุณหนู” ชายหนุ่มถามขณะที่ก้าวเท้าตามฝีเท้าจ้ำพรวดของเด็กสาว “โง่จริง ยัยนั่นเป็นอดีตคู่ดูตัวของพี่ฮิเดะนะ โผล่มาจังหวะที่พี่ฮิเดะมาฝากเนื้อฝากตัวบ้านอาอิอย่างนี้ คิดมาก่อกวนชัดๆ” มิโยโกะพูดอย่างเข่นเขี้ยว ไดโดจิ คาสึมิ เคยเป็นแขกไปพักที่บ้านเธอช่วงเดียวกับที่พี่ชายพาปัญจพาณ์ไปพักที่บ้านเมื่อฤดูใบไม้ผลิปีก่อนตามคำเชิญของคุณย่าโอคิสะด้วยหวังให้มาเป็นหลานสะใภ้ แต่พี่ชายเธอเกิดต้องตาปัญจพาณ์มากกว่าทำให้อีกฝ่ายต้องล่าถอยไป ไม่คิดว่าวันนี้คาสึมิจะโผล่มาตอนที่เรื่องของพี่ชายเธอและคนรักกำลังมีแววไปได้สวย พฤฒิมองท่าทางรีบเร่งเพื่อไปเป็นกำลังเสริมให้พี่ชายของเด็กสาวอย่างเอ็นดู ความจริงถึงมิโยโกะไม่บอกให้เขาไปสมทบกับพวกเจ้านาย เขาก็ต้องไปอยู่แล้วเพื่อดูว่าฮิเดกิต้องการความช่วยเหลืออะไรหรือไม่ “อยู่เมืองไทยสองเดือนเหรอคะ!” เสียงปัญจพาณ์อุทานจังหวะเดียวกับที่มิโยโกะและพฤฒิเข้าไปร่วมวงสนทนาด้วยพอดี “พวกคุณพี่น้องบอกเองไม่ใช่หรือคะว่าหากฉันมาประเทศไทยเมื่อไหร่จะช่วยดูแลเป็นอย่างดี” คาสึมิตอบเสียงเรียบเย็น ทวงสัญญาเมื่อครั้งที่เธอไปส่งปัญจพาณ์และพี่ชายกลับเมืองไทยที่สนามบิน ขณะที่กวาดตามองสีหน้าแต่ละคนซึ่งต่างยังแปลกใจไม่หายกับการปรากฎตัวของเธอ “แหม...แต่ก็น่าจะบอกล่วงหน้าสักหน่อย กะทันหันแบบนี้พวกเราไม่ได้เตรียมที่พักไว้เลย” “ไม่ยากนี่คะ ฉันพักโรงแรมเดียวกับคุณฮิเดกิก็ได้ ช่วงนี้ที่เมืองไทยไม่มีปัญหาเรื่องที่พักไม่ใช่เหรอคะ” มิโยโกะเม้มปากเมื่อได้ยินคำพูดของคาสึมิ นึกแล้วไม่มีผิดต้องมาก่อนปัญหาให้พี่ชายของเธอ แต่ที่ทำให้ขัดใจยิ่งกว่าก็คือคนที่ยืนอยู่ข้างตัวเธอนี่เอง “ถ้าอย่างนั้นผมจะช่วยติดต่อเรื่องห้องพักที่โรงแรมให้ก็แล้วกันนะครับ” พฤฒิเสนอตัวเพื่อจัดการเรื่องวุ่นวายเฉพาะหน้านี้ “ก็ดีเหมือนกัน จัดการเลยนะซากิ” “ครับ” พฤฒิปลีกตัวไปเพื่อโทรศัพท์ติดต่อกับโรงแรมที่พักทันที “ถ้าลงตัวแล้ว ยังไงเชิญคุณหนูไดโดจิร่วมงานเลี้ยงที่บ้านผมก่อนนะครับ คุณพ่อคุณแม่ของผมคงอยากรู้จักคุณและอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นพวกเราถึงมาชุมนุมกันอยู่หน้าบ้านอย่างนี้” ปุริมออกเดินนำพร้อมทั้งยังลากกระเป๋าเดินทางของสาวญี่ปุ่นติดมือไปด้วยโดยไม่รอคำตอบของคนอื่นๆ ทำให้ทั้งหมดต้องก้าวตามไปโดยปริยาย คุณประสิทธิ์และคุณอรอนงค์ทำความรู้จักกับสาวญี่ปุ่นหน้าใหม่อย่างแปลกใจอยู่บ้าง ทั้งยังสอบถามว่าคาสึมิมาบ้านหลังนี้ถูกได้อย่างไร จึงได้คำตอบว่าปัญจพาณ์เคยให้ที่อยู่และแผนที่ไว้ และทราบว่าฮิเดกิกับมิโยโกะมาเที่ยวไทยจึงอยากตามมาสมทบด้วย คนที่ไม่รู้จักกับคาสึมิมาก่อนย่อมเชื่อตามนั้น แต่คนที่รู้จักกับสาวญี่ปุ่นมาก่อนต่างสงสัยทั้งสิ้น เพราะความสัมพันธ์ระหว่างบ้านคิคุจิกับไดโดจินั้นอยู่ในขั้นอึมครึมตั้งแต่ฮิเดกิคบกับปัญจพาณ์ “ให้ผมพาคุณชมรอบๆ นะครับคุณหนูไดโดจิ” ปุริมซึ่งรู้จักกับคาสึมิช่วงเดียวกับปัญจพาณ์เอ่ยเป็นภาษาอังกฤษ ภายนอกเหมือนจะทำหน้าที่เจ้าบ้านที่ดี แต่ความจริงเพื่อแยกเธอออกจากคนอื่นๆ “เอ๊ะ...เอ่อ ค่ะ” “เดินระวังๆ ด้วยนะปุ๊ ในสวนถ้ามืดนักไม่น้องพาน้องเข้าไปล่ะ เจองูเงี้ยวเขี้ยวขอจะลำบาก” คุณอรอนงค์เตือน “เปิดไฟสว่างทั้งบ้านแบบนี้ อะไรๆ ก็เห็นหมดอยู่แล้วครับ แม่ไม่ต้องห่วง เชิญครับคุณหนูไดโดจิ” คาสึมิ เดินตามปุริมไป คุณอรอนงค์มองตามหลังคนทั้งคู่ไปได้ครู่เดียว ก็หายห่วงอีกทั้งยังออกอาการขำขันเพราะตอนนี้ปัฐน์ ปัญพาณ์ รวมถึงมิโยโกะ ต่างลุกพรวดแอบตามหลังสองคนนั่นไปเป็นพรวน แต่ฮิเดกิและพฤฒิยังคงนั่งอยู่ที่โต๊ะ “คุณไม่ไปกับเขาด้วยเหรอ” คุณอรอนงค์พูดกลั้วหัวเราะกับฮิเดกิ “ไม่หรอกครับ ถ้ามีอะไร อาอิ กับมิโยโกะคงกลับมาบอกเองครับ” ฮิเดกิตอบเสียงนุ่ม รู้ดีว่าทั้งคนรักและน้องสาวคงห้ามความอยากรู้อยากเห็นไม่ได้จริงๆ เขาปรายตาไปที่พฤฒิซึ่งนั่งอยู่ที่โต๊ะข้างๆ อย่างครุ่นคิดเมื่อเห็นผู้ช่วยของตนยังคงมองตามหลังน้องสาวของตน “บ้านน่ารักดีนะคะ แต่ไม่น่าเชื่อว่าอยู่กันตั้งหกคน” คาสึมิเอ่ยขึ้นขณะที่เดินไปยังสวนด้านหลัง เมื่อชมภายในบ้านเรียบร้อย “ก็อย่างนี้แหละครับ บ้านคนธรรมดาๆ” ปุริมยิ้ม เขารู้ว่าบ้านคนธรรมดาที่ญี่ปุ่นก็ไม่ได้ใหญ่โตอะไรนัก แต่ไดโดจิ คาสึมิ เป็นถึงลูกสาวของนักการเมืองฐานะทางบ้านย่อมเหนือกว่าคนทั่วไป “นี่ประชดกันหรือเปล่าคะ” คาสึมิเดินขึ้นไปดักหน้าชายหนุ่ม ทำให้ปุริมต้องหยุดเดิน แล้วจ้องตอบดวงตาจับผิดของอีกฝ่าย “อย่าร้อนตัวสิครับ ผมแค่พูดไปตามความจริงเท่านั้น ว่าแต่คุณเถอะ ไม่คิดจะพูดความจริงสักหน่อยเหรอ” “ความจริง? ฉันไม่ได้โกหกอะไรนี่คะ” “แน่ใจเหรอ นี่คุณคิดว่าผมจะเชื่อเรื่องที่คุณบอกว่าแวะมาเที่ยวจริงๆ น่ะเหรอ ดูจากความสนิทสนมของคุณกับน้องสาวผมแล้ว บอกตรงๆ ว่าเชื่อไม่ลง” สองหนุ่มสาวต่างมมองจ้องกันโดยไม่มีใครยอมหลบตา ขณะที่ห่างออกมามีเสียงซุบซิบของคนที่พิงกรอบประตูอีกด้านแอบดูอยู่ “ไอ้ปั้น พี่ปุ๊พูดอะไรวะ ไม่ค่อยรู้เรื่องเลย” “พี่ปัด ไม่เก่งอังกฤษแล้วมาแอบฟังทำไมเนี่ย เกะกะ” “ถึงพูดไม่เก่ง แต่ก็ฟังรู้เรื่องนะเว้ย แต่ที่เขาพูดกันนะมันงงๆ” “ชู่ว...” มิโยโกะเป่าลมผ่านริมฝีปากให้สองพี่น้องเงียบเสียง ปัญจพาณ์และปัฐน์รีบหันไปมองคนที่พวกเขาแอบดูอยู่ต่อทันที “ถ้าอยากรู้นัก ก็ได้” คาสึมิเชิดหน้าขึ้น “ฉันหนีออกจากบ้านมา” “หนีออกจากบ้าน!?” ปุริมทำเสียงไม่เชื่อแกมขำ “อายุเท่าไหร่แล้วคุณ ยังใช้คำนี้ได้อีกเหรอ” เท่าที่รู้สาวญี่ปุ่นคนนี้อายุไล่เลี่ยกับน้องสาวเขา ปีนี้ก็น่าจะยี่สิบสี่หรือไม่ก็ยี่สิบห้า “ใช้ได้หรือไม่ได้ก็ใช้แล้ว คุณไม่สงสัยหรือไงว่าทำไมฉันถึงออกจากบ้านมา” รอยยิ้มของปุริมค่อยๆ จางหายไป การที่คาสึมิถึงขั้นหนีข้ามประเทศมาแบบนี้คงเป็นเรื่องใหญ่เอาการ “มีเรื่องร้ายแรงอะไรหรือเปล่า” “ก็ไม่ใช่เรื่องร้ายหรอก สำหรับคนอื่นอาจเรียกว่าเป็นเรื่องน่ายินดีด้วยซ้ำ” “คือ...” “ฉันถูกบังคับให้แต่งงาน” “แต่งงาน!” ปุริมอุทานคำนี้แล้วอึ้งพูดอะไรต่อไม่ออกไปชั่วขณะ เวลาผ่านไปจึงค่อยได้สติขยับปากจะพูด แล้วก็ต้องนิ่งค้างอีก เมื่อพบว่าตัวเองเกือบเผลอพูดคำติดปากเวลาได้ยินเรื่องแต่งงาน นั่นก็คือ ‘ยินดีด้วย’ ซึ่งเป็นคำที่อีกฝ่ายไม่อยากได้ยินแน่นอน ไม่เช่นนั้นเธอคงไม่เผ่นข้ามประเทศมาแบบนี้ “เอ่อ...สมัยนี้ ยังบังคับแต่งงานกันได้อีกเหรอครับ” “แน่นอนว่าไม่ได้ ไม่งั้นฉันจะมายืนอยู่ตรงนี้ได้ยังไงล่ะคะ” “คุณคงไม่ชอบว่าที่เจ้าบ่าวของคุณสินะ แต่ทางบ้านมองไว้ให้ก็ไม่น่าเป็นคนเลวร้ายอะไร” ปุริมพูดเรื่อยๆ แต่ใบหน้าของหญิงสาวกลับเย็นชาราวกับเขาพูดอะไรไม่ถูกหู “เขาเป็นลูกชายนักการเมือง ที่กำลังจะลงสมัครเลือกตั้งในสมัยหน้า เคยพบกันตอนดูตัวก็หน้าตาใช้ได้ พูดจาก็โอเค แต่น่าเสียดาย...” “หือ...เขามีปัญหาตรงไหนงั้นเหรอ” “ปัญหาไม่ได้อยู่ที่เขา แต่อยู่ที่ฉันต่างหาก” “ตรงที่คุณไม่ชอบเขาน่ะเหรอ เรื่องอย่างนี้ก็ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้ คนไทยเรียกว่าไม่ถูกชะตา ศรศิลป์ไม่กินกัน บางทีมันก็เกิดขึ้น ไม่ใช่ความผิดของคุณหรอกครับ” “ฉันก็ชอบเขาอยู่ไม่น้อยค่ะ หน้าตาดี ฐานะดี ก็ต้องสนใจอยู่บ้างแหละค่ะ” “เอ๊ะ” คราวนี้ปุริมเริ่มมึน ถ้าชอบแล้วจะหนีแต่งงานทำไม ตอนนี้เขาชักไม่แน่ใจแล้วว่าภาษาอังกฤษของตนหรือของหญิงสาวกันแน่ที่มีปัญหา “แต่ฉันคิดว่าตัวเองชอบคนๆ หนึ่งมากกว่าเขาหลายเท่า” “คุณมีคนที่ชอบอยู่แล้ว?” ปุริมรู้สึกตกใจไม่น้อย ในใจโหวงๆ อย่างบอกไม่ถูก “ค่ะ ฉันถึงได้มาที่นี่ มาพบเขา” ใบหน้าที่เคยเย็นชาของคาสึมิเมื่อครู่ก่อนเปลี่ยนเป็นขัดเขิน แก้มขาวเนียนค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีชมพูระเรื่อ “เอ่อ...” ชายหนุ่มไม่รู้แล้วว่าตอนนี้ควรพูดอะไรต่อไป แค่ความรู้สึกไม่พอใจที่ผุดขึ้นมายังไม่รู้ว่าจะกำจัดออกไปอย่างไรเลย “ดังนั้น ฉันจึงอยากให้เราสองคนลองคบหากันสักพักนึงก่อน เริ่มจากเพื่อนก็ได้ แล้วค่อยมาดูอีกครั้งว่าสามารถพัฒนาความสัมพันธ์เป็นอย่างอื่นได้ไหม” “เดี๋ยวก่อนนะคุณหนูไดโดจิ เมื่อกี้คุณพูดเรื่องอะไร...ผมงงไปหมดแล้ว” “นี่คุณไม่ได้ตั้งใจฟังที่ฉันพูดเลยใช่ไหมคะ” หญิงสาวถอนหายใจพรืดใหญ่อย่างไม่พอใจ มาดคุณหนูกลับมาอีกครั้ง “ฟังสิ แต่ผมไม่เข้าใจก็เพราะสิ่งที่คุณพูดมันเหมือนว่าคุณกำลังขอคบกับผมอยู่นั่นต่างหาก คุณคงอยากจะบอกว่ามาเมืองไทยเพราะอยากขอคบกับคนที่คุณชอบใช่หรือเปล่า คงไม่ใช่ว่าอยากจะคบกับผมจริงๆ หรอก ใช่ไหม” “ซื่อบื้อชะมัด คนที่ฉันชอบกับคุณก็คนเดียวกันนั่นแหละ” พอเห็นปุริมตะลึงตาค้าง ตัวแข็งทื่อ คาสึมิจึงรู้สึกว่าตัวเองพูดตรงไปหน่อย แต่ยังไงเธอก็ตัดสินใจมาถึงขั้นนี้แล้ว ไม่มีทางยอมถอยเด็ดขาด “ว่าไงคะ” “เดี๋ยวนะ” ปุริมยังไม่หายตะลึงกับการบุกกะทันหันของอีกฝ่าย “มันฉุกละหุกมาก ผมขอเวลาคิดก่อน” “ฉันทราบค่ะ ถึงบอกว่าเริ่มจากเพื่อนกันก่อนก็ได้ยังไงล่ะคะ ว่าไงคะ” คาสึมิสืบเท้าเข้าใกล้ชายหนุ่มยิ่งขึ้น เพื่อเร่งเร้าเอาคำตอบ ปุริมมองตอบดวงตาคู่สวย ต้องยอมรับกับตัวเองว่าตอนนี้หัวสมองยังคงว่างเปล่าทว่าปากกลับตอบออกไปง่ายๆ “ได้สิ” เสียงตบมือและเสียงเป่าปากดังขึ้น ทำให้คนสองคนที่กำลังมองตากันราวกับตกอยู่ในภวังค์สะดุ้งโหยงหันไปทางต้นเสียงพร้อมๆ กัน “ไอ้น้องบ้า มาแอบฟังกันงั้นเหรอ” ปุริมกัดฟันกรอดเมื่อเห็นว่าคนที่ปรากฏตัวสามคนมีสองคนเป็นน้องของเขาเอง “ไม่น่าเชื่อเลยนะพี่ปุ๊ เห็นว่าไม่มีแฟนสักทีนึกว่าจะเบี่ยงเบน ที่แท้รออิมพอร์ตมาจากนอกนี่เอง” ปัฐน์ตรงเข้าไปตบแขนตบไหล่พี่ชายเป็นการหยอกล้อ แต่กลับได้สายตาขุ่นขวางเป็นการตอบแทน “ดีใจนะคะ ที่คุณไม่ได้รังเกียจพวกเรา” ปัญจพาณ์เดินเข้ากุมมือคาสึมิและพูดเป็นภาษาญี่ปุ่น ซึ่งทำให้พี่ชายทั้งสองคนของเธอฟังไม่เข้าใจ ตั้งแต่เธอคบหากับฮิเดกิ เรื่องคู่ดูตัวของเขาก็เหมือนเป็นปมเล็กๆ ในใจเธอมาตลอด หากวันนั้นเธอกับฮิเดกิไม่พบกัน ไม่แน่ว่าเขาอาจชอบคาสึมิก็เป็นได้ พอรู้ว่าคาสึมิติดใจพี่ชายของเธอทั้งที่ไม่ได้พบกันปีๆ นอกจากจะทำให้ปมในใจเริ่มคลายแล้ว ยังรู้สึกดีใจเพราะแสดงว่าคาสึมิชอบปุริมที่ตัวตนจริงๆ ไม่ใช่ฐานะทางสังคม “เรื่องเก่าๆ ก็ให้มันแล้วๆ ไปเถอะค่ะ” “นั่นสิคะ ยังไงก็เอาชนะใจพี่ปุ๊ให้ได้นะคะ ฉันจะช่วยเชียร์เอง” ปัญจพาณ์ยิ้มกว้างเมื่อเห็นใบหน้าซับสีเลือดของอีกฝ่ายซึ่งทำให้คาสึมิดูน่ารักน่าเอ็นดู ผิดกับยามปกติที่มักเชิดหน้ายิ้มสุภาพ วางตัวเป็นคุณหนูตลอดเวลา “คุณไดโดจิคะ ฉันไม่อยากขัดจังหวะหรอกนะคะ แต่มีเรื่องอยากถามสักหน่อย” มิโยโกะแทรกการสนทนาของสองสาว “มีอะไรหรือคะ” คาสึมิหันไปทางน้องสาวของอดีตคู่หมาย “คงไม่ใช่ว่า คุณชอบผู้ชายคนนี้ตั้งแต่ตอนที่เขาไปญี่ปุ่นคราวก่อนหรอกนะคะ” เด็กสาวหรี่ตาลงอย่างจับผิด ก็ตอนที่ปุริมไปเที่ยวญี่ปุ่นเมื่อปีก่อนคาสึมิยังเตรียมตัวดูตัวกับพี่ชายเธอ เธอไม่ชอบความคิดที่ว่าผู้หญิงคนนี้คิดดูตัวกับพี่ชายเธอทั้งๆ ที่ชอบคนอื่นอยู่ “ถ้าฉันบอกว่า ‘ใช่’ ล่ะคะ” ถึงจะพูดเช่นนั้น แต่ในเวลานั้นเธอยังไม่รู้ตัวว่าชื่นชมปุริม จนกระทั่งเวลาผ่านไปเรื่อยๆ ภาพของเขายังอยู่ในใจเสมอ แม้ว่าจะได้รู้จักผู้ชายดีๆ อีกหลายคน เธอกลับนำคนเหล่านั้นมาเปรียบเทียบกับปุริม และปฏิเสธพวกเขาไป “ตอนนั้นคุณมาพักที่บ้านเราเพื่อดูตัวกับพี่ฮิเดกิ แต่กลับชอบคนอื่นไม่คิดว่าหยามคิขุจิมากไปหน่อยเหรอคะ” “แล้วการที่พี่ชายคุณพาอาอิเข้ามาพักในบ้านไม่ถือว่าหยามไดโดจิหรือไง เหยียบคนอื่นได้ แต่ไม่ยอมโดนเหยียบงั้นสิ เห็นแก่ตัว” “ว่าไงนะ!” “เดี๋ยวค่ะ หยุด หยุด!” ปัญจพาณ์รีบออกหน้าห้ามทัพทันทีเมื่อเห็นว่าขืนปล่อยไปเรื่องได้ลุกลามใหญ่โตแน่ๆ คุณหนูสองตระกูลมาเจอกันเสือพบสิงห์แท้ๆ “ฉันว่าเราอย่าคุยเรื่องอดีตกันดีกว่านะคะ คนไทยเราชอบรอยยิ้มใช่ไหมคะ พี่ปุ๊ พี่ปัด” “จริงครับ” ปัฐน์ไม่ค่อยเข้าใจนักว่าน้องสาวเกลี่ยกล่อมสองสาวนี้ว่าอะไร แม้ภาษาญี่ปุ่นจะพอคุ้นหูอยู่บ้างเพราะความบ้าเกมจากแดนอาทิตย์อุทัยทว่าพูดเร็วกันขนาดนี้เกินความสามารถของเขาจริงๆ แต่เมื่อปัญจพาณ์ขอเสียงสนับสนุน พี่ชายที่แสนดีอย่างเขาย่อมต้องเห็นด้วยไว้ก่อน ปัญจพาณ์สังเกตเห็นว่าคาสึมิหันไปมองพี่ชายคนโต แล้วอ่อนลงทันทีที่ปุริมพยักหน้าให้ เห็นชัดว่าสาวญี่ปุ่นคนนี้ชอบพี่ชายเธอจริงๆ เหลือก็แต่มิโยโกะที่ยังเชิดหน้าคอแข็ง “คุณหนูมิโยโกะคะ ป่านนี้คุณฮิเดกิกับคุณพฤฒิชะเง้อคอมองหาคุณแย่แล้ว เรารีบกลับไปสมทบกับพวกเขาดีกว่านะคะ” พอได้ยินปัญจพาณ์พูดถึงพี่ชายและพฤฒิ มิโยโกะก็เลิกสนใจคาสึมิทันที แล้วสะบัดหน้าพรืดใส่คนทั้งกลุ่มเดินกลับเข้าไปในงาน “โอ้โห...เห็นน่ารักๆ แบบนี้เหวี่ยงสุดยอดเลยนะเนี่ย” ปัฐน์เกาหัวแกรกๆ ไม่คิดว่าแม่ตุ๊กตาญี่ปุ่นจะแรงขนาดนี้ “นี่แหละค่ะคุณหนูมิโยโกะตัวจริงเสียงจริง” ปัญจพาณ์พูดยิ้มๆ แล้วหันไปทางคาสึมิกับพี่ชายคนโต “พี่ปุ๊มัวทำอะไรอยู่คะ ยังไม่รีบพาคุณหนูไดโดจิกลับเข้างานอีก เดี๋ยวของอร่อยก็หมดหรอก” “เอ่อ...เลิกเรียกคุณหนูไดโดจิเถอะค่ะอาอิ ฉันอยากให้ทุกคนเรียกว่าคาสึมิมากกว่า ยังไงฉันคงต้องรบกวนอีกมาก ต้องขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ” ปัญจพาณ์อึ้งอลตะลึงตะไล เพราะนอกจากคาสึมิจะยอมให้เรียกชื่อแล้ว ยังโค้งให้เธอและพี่ชายทั้งสองอย่างนุ่มนวลสง่างาม ด้วยท่าทางต้องการฝากเนื้อฝากตัวอย่างจริงใจ ไม่ได้ทำไปเพียงมารยาท เธอเหลือบตามองพี่ชายคนโตยิ้มๆ ซึ่งปุริมหันมาเห็นเข้าพอดีจึงนิ่วหน้าใส่ แล้วหันกลับไปชวนคาสึมิกลับเข้าไปในงานเลี้ยง สาวไทยหัวเราะพรืด เธอแน่ใจว่าตัวเองตาไม่ฝาด ตอนที่คาสึมิเงยหน้ายิ้มให้พี่ชายของเธอ ใบหน้าของพี่ชายปรากฏสีแดงระเรื่อน้อยๆ ถึงทำเป็นตีหน้าเฉย แต่ที่แท้พี่ปุ๊ของเธอก็คงชอบคาสึมิอยู่ไม่น้อย คราวนี้เธอหายสงสัยแล้วว่าทำไมคนที่รักษาความโสดมานานอย่างพี่ชายของเธอจึงหลุดปากตกลงเริ่มคบหากับสาวญี่ปุ่นเอาง่ายๆ เช่นนี้ และยิ่งไม่แปลกใจว่าเหตุใดคาสึมิจึงสลัดคราบคุณหนูออกได้อย่างง่ายดาย บางครั้ง ‘ความรัก’ ก็ทำสิ่งที่ไม่น่าเป็นไปได้ ให้เป็นไปได้อย่างนี้แหละ ...................โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ................. ขอโทษมากๆ นะคะ ที่หายไปนานสำหรับเรื่องนี้ แบบว่าเขียนสองเรื่องควบพบว่าเริ่มไม่ค่อยไหว ประจวบกับรู้สึกติดๆ ว่าจะดำเนินเนื้อเรื่องต่อไปยังไงดีหลังจากคาสึมิโผล่มา พอคิดได้เลยรีบปล่อยตอนนี้ออกมา (สรุปว่าให้ออกมาแบบรวบรัดตัดตอนเล็กน้อย) ตอนต่อไปยังไม่แน่ใจว่าจะมาเมื่อไหร่เลยค่ะ แหะๆ (>W<) ยังไงก็จะเขียนให้จบแน่นอนค่ะสำหรับเรื่องนี้ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาติดตามนะคะ From…วาโย ปล. ต๊ะคอมเม้นต์ไว้ก่อนนะคะ เดี๋ยวดึกๆ กลับมาจากงานหนังสือจะมาตอบของเก่าให้หมดค่ะ
Create Date : 08 เมษายน 2555
10 comments
Last Update : 8 เมษายน 2555 10:42:31 น.
Counter : 6303 Pageviews.
โดย: ฮะเก๋า IP: 101.51.217.65 11 เมษายน 2555 21:32:24 น.
โดย: ree IP: 171.4.213.105 24 เมษายน 2555 21:23:05 น.
โดย: Mariomab IP: 190.2.133.230 14 มิถุนายน 2564 12:24:49 น.
โดย: BennieRar IP: 190.2.130.167 13 พฤศจิกายน 2564 6:41:26 น.
โดย: Louisunalo IP: 89.38.97.125 11 ธันวาคม 2564 23:36:54 น.
โดย: DJCharlesSyday IP: 92.119.179.84 8 กุมภาพันธ์ 2565 19:08:01 น.
โดย: Richardsaisa IP: 213.159.38.90 15 พฤษภาคม 2565 15:39:29 น.
โดย: Mariontes IP: 196.196.53.19 9 กันยายน 2566 2:23:44 น.
โดย: MatthewhulsE IP: 45.132.194.17 2 ธันวาคม 2566 6:07:36 น.
โดย: RandallTem IP: 84.17.49.71 14 มิถุนายน 2567 15:48:01 น.
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [? ]
เอ่อ...ไม่เข้าใจว่า ทำไมถึงคลิกกล่องคอมเม้นต์ไม่ได้ กดไม่ติดเลยอะค่ะ ตอบคอมเม้นไม่ได้ เดี๋ยวขอหาทางแก้ก่อนนะคะ ยังไงก็ขอบคุณทุกคน ที่แวะมานะคะ (Y)(^O^")(Y)