Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2560
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
27 พฤษภาคม 2560
 
All Blogs
 
[R]ตะลอนนั่งรถไฟไปรัสเซีย 16 - เดินทางเข้ากรุงฯ




หากเราอยากจะสัมผัสกับ รถไฟสายทรานส์ไซบีเรีย ที่วิ่งยาวเชื่อมตรงระหว่าง
มอสโก - วลาดิวอสตอก หรือ วลาดิวอสตอก - มอสโก ในแบบเฉพาะเจาะจง
มันก็ควรเป็นขบวนรถไฟหมายเลข 002/001 ที่ชื่อว่า 'Rossiya' 

แต่ก็นั่นล่ะฮะ ท่านผู้ชม... ถ้าไม่ได้คิดจะยิงยาวไกลไปสุดทางขนาดนั้น
หรือไม่ได้มาห่วงว่าจะต้องนั่ง Rossiya ให้เป็นเกียรติเป็นศรี ...
เราก็สามารถจองเที่ยวรถไฟท้องถิ่นอื่น ๆ ที่จะวิ่งเชื่อมต่อเมืองที่ว่าได้
ซึ่งยังมีตัวเลือกและตารางเดินรถ มากกว่าหนึ่งเที่ยวต่อสัปดาห์อยู่แล้ว  

อนึ่ง ในหนังสือนำเที่ยวได้เขียนบอกเอาไว้ว่าหมายเลขของขบวนรถไฟยิ่งสูง
เท่าไหร่
ก็ยิ่งช้าและดูเก่า ... และบังเอิญว่า วันและเวลาที่จองรถไฟไปแบบมั่วซั่ว
มันก็ได้ไปตกยังเที่ยวโดยสารที่มีหมายเลขสวย ๆ อย่าง
81 โน่นเลย 



นี่ถ้าไม่นับเรื่องไปค่ายลูกเสือ-เนตรนารีหรือค่ายอื่น ๆ การที่ต้องมานอนพักรวม
กับคนแปลกหน้าทั้งหลายนี้ ...
โฮสเทลในมองโกเลียคงเป็นที่แรกสำหรับฉัน
ถึงแม้ว่าดอร์มของที่นั่นแม้จะต้องนอนรวมกันก็ตาม แต่มันยังมีการจัดแบ่งพื้นที่
ห้องเป็น
สัดส่วน และในจำนวนหกเตียงที่ว่าก็ยังพอมีคนสามคนมาเสวนาด้วย
ในทางกลับกัน รถไฟรัสเซียชั้นสามนี้ถ้าจะนับกันให้เต็มอัตราคงน่าจะตกราว ๆ
54 เตียง แถมยังไม่รู้ว่า จะมีใครบ้าง
ที่จะพอพูดคุยสื่อสารกันได้ระหว่างการเดิน-
ทางที่ยาวไกลครั้งนี้




หน้าตาของรถไฟชั้นสาม (platskart) ที่เปิดโล่งโจ้งไม่มีห้องหรือประตูกั้น  เตียงของ จขบ.
อยู่ที่ชั้นสอง ช่างดูรกซะไม่มี ^^ 



ที่นอนของฉันอยู่ในตำแหน่งบน ถึงมันจะเป็นแค่เตียงสองชั้นแต่พื้นที่ระหว่างเตียง
และหลังคาก็ดันมีแผ่นกระดานที่ตีกั้น
กินพื้นที่ไปกว่าครึ่งขวางอยู่ เพื่อเอาไว้เก็บ
หมอนและฟูกที่นอนปูเตียง

เรื่องการจัดระเบียบสัมภาระอาจต้องคิดอย่างรอบคอบว่าจะแบ่งเอาอะไรออกมา
พกติดตัว ...เป้ใหญ่จะถูกวางไว้ที่ใต้เตียงล่างซึ่งหากมีคนมานั่งที่ตรงนั้นแล้วก็
ยากที่จะไปเปิดรื้อออกมาบ่อย ๆ

ส่วนเป้ใบเล็ก ก็แยกเอาข้าวของที่จำเป็นมาใส่สำหรับพกติดตัวตลอดเวลา 
ของกินเล็ก ๆ น้อย ๆ จะเอามาใส่ถุงแขวนที่ตะขอเกี่ยวด้านบนหัวนอน
ส่วนตรงราวตากขนาดเล็ก สำหรับใช้พาดตากผ้าขนหนูสำหรับเช็ดหน้าตรงผนัง
ไม่รู้ว่า
จะมีใครเอามันมาใช้ประโยชน์ด้วยการแขวนตากชุด(ชั้นใน) เหมือนเราบ้างมั้ย ?

ฉันนำไปซักที่ห้องน้ำและบิดซับออกด้วยการเอาผ้าขนหนูห่อ จากนั้นก็เอาผืนผ้า
ที่มีขนาดพอเหมาะมาคลุมบังกันอนาจารอีกที ก็
อาศัยประโยชน์จากความชื้นใน
อากาศที่น้อยนิดและบนรถไฟก็เปิดฮีทเตอร์ปรับอุณหภูมิตลอดแบบนี้ ไม่อยาก
จะโม้เลยว่าใช้เวลาตากแค่วันเดียวเนื้อผ้ามันก็แห้งได้จริง ๆ นะ!



เตียงที่อยู่อีกฟากฝั่งหากเป็นชั้นนอนประเภท Kupe มันก็จะเป็นเพียงระเบียงทางเดินเอาไว้ยืนชมวิว
บ่อยครั้งที่ตัวเองชอบปลีกตัวไปนั่งแถวนั้นเพราะดูส่วนตัวดี (หากเจ้าของยังไม่มาปรากฏตัว) 




ควันและไอหมอก ที่ลอยคลุ้งอยู่กลางหมู่บ้านชนบทในช่วงเช้า 




ยามเช้าวันใหม่ฉันลุกตื่นมาตามสัญญาณแสงอาทิตย์ที่ส่องมาจากนอกหน้าต่าง
ความจริงก็ไม่รู้หรอกว่า ในท้องถิ่นที่รถไฟกำลังวิ่งผ่านนี้จะเป็นเวลากี่โมงกันแน่
ฉันเลิกคิดที่ปรับนาฬิกาย้อนไปย้อนมา เพราะไม่อยากจะจดจ่อกับเรื่องของ
เส้นแบ่งเขตเวลามากเกินไป 
และพยายามหันไปใช้เวลาของมอสโกให้คุ้นแทน 
ยังไงเสียตารางการเดินรถไฟของประเทศนี้ ก็ต้องอ้างอิงกับเวลาเมืองหลวงอยู่ดี

สภาพบรรยากาศภายนอกถึงจะดูเร็วไวจนขัดตากับตัวเลขที่หน้าปัดนาฬิกาไป
หลาย
ชั่วโมง แต่นาฬิกาชีวภาพของเรายังคงปรับตัวไปตามเวลาขึ้นลงของ
ดวงอาทิตย์
โดยไม่มีปัญหาอะไร




.....



ผู้หญิงสองคนที่นอนอยู่เตียงล่างเขตนอนเดียวกับฉัน กำลังเตรียมลงที่สถานีข้าง-
หน้า
เบาะที่นั่งด้านล่างจะยังไม่มีเจ้าของไปอีกนานแค่ไหนก็ไม่รู้ แต่ใจจริงก็แอบ
หวังอยากให้มันโล่งแบบนี้ไปนาน ๆ นะ


แต่ท่ามกลางความเงียบงันปนวังเวงแบบนี้ ก็ยังมีเสียงแจ้งเตือนถึงเวลาอาหาร
มื้อว่างและมื้อหลักอย่างสม่ำเสมอ 
ไม่ว่าจะเป็นมื้อเช้ากับขนมปังหน้าตาแปลก
จากพนักงานรถไฟ
ที่เป็นชายในเครื่องแบบเชิร์ตขาวกางเกงขายาวสีดำ นำมาจัด
เรียงรายใส่ถาดเดินขาย ทุกครั้งที่ปรากฏตัวเขามักจะโผล่มาด้วยท่าทางเดิม ๆ
เช่น 
ผลักประตูเข้ามาอย่างโผงผาง มุ่งเดินตรงดิ่งไปข้างหน้าอย่างช้า ๆ
ส่วนปากก็ส่งเสียงเรียกบอกให้รู้ว่ามีอะไรมาขาย ช่างเป็นสำเนียงที่ฟังดูแล้ว
แปร่ง ๆ ดี ถ้าให้เดาคงประมาณว่า ...

มาแล้วจ้า มาแล้ว...ขนมปังยามเช้า ตื่นมาเลือกซื้อเลือกกินกันเร้วววว

เขาจะเดินไปเรื่อยกระทั่งสุดขบวนรถไฟและวกย้อนกลับมาอีกหน บางทีก็ขาย
หมด บางทีก็ยังเหลือ ให้คนหิวที่ไม่ทันได้เรียกซื้อแต่แรก
ได้ควักเงินซื้อกิน
พอตกมื้อว่าง ช่วงสาย บ่าย จากถาดใส่ขนมปังก็จะเปลี่ยนเป็นตะกร้าใส่ขนมกรุบ
กรอบทั้งหลายแทน 
ส่วนอาหารมื้อหลักจะเป็นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ต้มจนสุกจนเส้น
อืดพร้อมกิน มาเดินเร่ขายสลับกันไปมาแบบนี้

หลาย ๆ คนที่ไม่ได้เตรียมพกเสบียงมากินเอง หากไม่อยากอด
ก็คงต้องเงี่ยหูคอยฟังการมาของชายผู้นี้อย่างจดจ่อ ...

ฉันยังไม่เคยซื้ออาหารที่นำมาขายบนรถไฟสักหน 
แต่เมื่อได้เห็นของกินที่เหลืออยู่ไม่มากนัก 
ก็คิดว่าคงต้องฝากท้องกับเมนูน่าเบื่อที่ว่านี้ไม่ช้าก็เร็ว











ภาพพื้นที่ระหว่างทางถึงจะดูสวยแค่ไหน ไม่ว่าจะเป็นใบไม้เปลี่ยนสี ป่าไทก้า
หมู่บ้านในชนบท เขตเมืองใหญ่ สลับกันไปไม่ซ้ำตา 
หรือกระทั่งเสียงแจ้ว ๆ ของ
ตาคนเดินขายอาหารจะผ่านไปมาไม่รู้กี่รอบ 
หลังจากนั่งเขียนบันทึก ถ่ายรูป
ดื่มกาแฟ ไปสักระยะมันก็ดูน่าเบื่อหน่ายและง่วง

ว่าแล้วก็ของีบหลับสักพักดีกว่า... ฉันคงหลับอย่างไม่สนิทเท่าไหร่นักหรอก 
เวลาที่รถไฟจอดก็ต้องมีผู้โดยสารหน้าใหม่ขึ้นมาหรือหน้าเดิมที่ลงจากรถไฟไป
ในชั้นโดยสารนี้ก็ไม่มีอะไรปิดคลุมให้ดูเป็นส่วนตัวนัก ซึ่งคงไม่ต่างไปจากการ
ได้นอนในพื้นที่เขตชุมชนที่มีคนพลุกพล่านเดินไปเดินมาผ่านปลายเท้าเราอยู่ดี 


...


"เฮ้" 

ฉันหลับไปได้ไม่นาน ก็มีคนเดินสะกิดเรียกให้ตื่นพร้อมกับภาษาแปลก ๆ 
ก็มีแค่คำว่า เฮ้ นี่แหละ ที่พอดูฟังเป็นภาษาสากลที่สุด 
เจ้าของเสียงคือลุงร่างผอม ผิวคล้ำแดด ผมสีเข้ม จมูกงุ้มยาว ถึงจะพูดรัสเซีย
แต่เค้าโครงหน้าตาของเขาดูคล้ายกับคนแถวประเทศที่อยู่ทางแถบใต้ ที่มีชื่อ
ลงท้ายว่า '...สถาน' ไหนสักแห่งหนึ่ง

เขาส่งตั๋วให้ดูเลขที่นั่งซึ่งก็คือเตียงล่างนี้ ...

อ่อ เจ้าของตัวจริงมาแล้วสินะ

ฉันเลยลุกย้ายไปนั่งที่เตียงฝั่งตรงข้ามแทน แต่ก็มีลุงร่างท้วมผมทองเดินถือ
กระเป๋ามาวาง
พร้อมบอกว่านี่คือเตียงของเขา พอมองเห็นชื่อปลายทางของตั๋ว
รถไฟลุงร่างท้วม 
ก็ได้รู้ความว่าแกจะนั่งรถไฟยาวไปจนถึงมอสโกเช่นกัน

ในเมื่อที่นั่งชั้นล่างอีกฝั่งยังคงว่างอยู่ เลยถือโอกาสแยกตัวไปนั่งเงียบ ๆ ดีกว่า
ปล่อยให้ลุงทั้งสองเก็บข้าวของเครื่องใช้กันตามสะดวก แต่ไม่คิดว่าจากนั้น
พวกเขาก็ถอดเสื้อออกเอามาผึ่งแขวนทำตัวกันตามสบาย
ประหนึ่งอยู่บ้านตัวเอง

เอ่อ...นี่ถ้าเป็นฤดูร้อนพวกลุงคงถอดกันหมดจนเหลือแค่กางเกงขาสั้นแหง


ต่อมาไม่นาน ก็มีคนกลุ่มหนึ่งเขตนอนอื่นประมาณ4-5 คนได้เดินมานั่งที่เตียงล่าง
กับพวกลุง ต่างถือแบบฟอร์มบางอย่างสำหรับกรอกข้อมูลมานั่งเขียนพร้อมกัน
และหลังจากนั้น พื้นที่นี้ก็กลายเปลี่ยนไปเป็นโรงครัวเฉพาะกิจแทน
พวกเขาต่างถือแก้วมารับเครื่องดื่ม และตามมาด้วยการกินอาหารที่ถูกปรุงแบบ
สดใหม่

พอได้มองโดยคร่าวจากสายตาที่แอบซุ่มมองอย่างห่าง ๆ (และอาจแอบหิว)
เสบียงของพวกเขา เป็นผักสด ต้นหอม หอมใหญ่ กระเทียม มะเขือเทศ
แฮม ชีส ขนมปัง ชา และอื่น ๆ อีก ที่ยังเก็บรายละเอียดไม่หมด สารพัดสารเพ 
แถมยังมี ซอสปรุงรส, ครีม ...แล้วไหนจะอุปกรณ์ครัวพื้นฐานอย่างเขียงและมีด  

ที่ขาดไม่ได้ก็เห็นจะเป็นแตงกวาดองอีกหนึ่งโหลตรงมุมโต๊ะนั่นอีก
พวกเขาช่างดูใส่ใจกับโภชนาการยิ่งนัก



บรรยากาศที่ว่ามานี้ ช่างดูไม่เหมือนการเดินทาง แต่กลับคึกครื้นราวกับว่า 
กำลังมาปิกนิคกันยังไงงั้น พวกเขากินดื่ม,พูดคุย,หัวเราะ กันอย่างโฉ่งฉ่าง
เขตกั้นเตียงนอนของฉันช่างดูสนุกสนานและน่าจะดังที่สุดในตู้ขบวนนี้
แต่หลังจบงานเลี้ยงไปแล้ว
ทุกอย่างก็เข้าสู่สภาวะปกติ คงเหลือแต่ลุงสองคน
ที่นั่งเปลือยอกจิบเบียร์กันต่อ


ทั้งพวกเขาและฉัน ต่างก็คือคนแปลกหน้าที่พูดคนละภาษา
ดูไม่มีใครน่าไว้ใจเลย แล้วนี่ก็อีกตั้งนานกว่ารถไฟจะวิ่งไปถึงปลายทาง

เฮ้อ...จู่ ๆ ก็รู้สึกอัดอัดอย่างบอกไม่ถูก


ฉันปีนขึ้นไปบนเตียงนอนของตัวเอง เพื่อหยิบเอากาแฟซองมาชงดื่ม
ยังดีนะที่ทุกตู้ขบวนของ จีน มองโกเลีย และรัสเซีย ต่างก็มีเครื่องต้มน้ำร้อน
ตั้งไว้
ให้บริการตลอดทั้งวันทั้งคืน แต่ทันทีที่ฉันเดินถือแก้วกาแฟกลับมานั่งที่
โต๊ะเก่า  
ลุงร่างท้วมเห็นดังนั้นก็รีบหยิบขวดใส่น้ำตาลเดินเอามาวางให้ทันที 

"ซาการ์?"

อ้อ ... ลุงหมายถึง น้ำตาล 

หลังจากบื้อใบ้ไปตั้งนาน ว่าจะตอบอะไรกลับไปดีแกก็ถือโอกาสกวักมือ
เรียกให้เข้าไปนั่งคุย 
ในทำนองว่า เอ็งจงมานั่งในที่ ๆ ควรอยู่ ได้แล้ว ...
มาแนะนำตัวกันหน่อยดีกว่า!



ลุงผมทองมีชื่อว่า 'นิโคไล' กำลังจะเดินทางกลับบ้านที่อยู่ไกลถึง
Rovtov-on-Don โน่นน 
ส่วนลุงร่างผอมอีกคนชื่อ 'วิตารี่' เป็นคนที่นั่ง
ไม่ค่อยติดที่นักเพราะจะหาโอกาส
ไปยืนสูบบุหรี่ที่ทางเชื่อมตู้ขบวนอยู่บ่อย ๆ




ลุงนิโคไล อวดรอยสักที่แขนให้ดู เขาบอกว่าเคยเป็นทหารเรือมาก่อน




พวกเขาได้ใช้เวลาพูดคุยและสอนคำศัพท์เล็ก ๆ น้อย ๆ ไปเรื่อยโดยเฉพาะ
อาหาร
และข้าวของที่วางอยู่บนโต๊ะ พร้อมแบ่งของกินมาให้ลองชิม เช่น น้ำชา 
ที่ภาษารัสเซียเรียกว่า 'ชัย' ที่ฟังดูไม่ต่างไปจากภาษาฮินดีเลย
แต่สิ่งที่น่าจดจำที่สุดคงเป็น ขนมปังที่มีสีคล้ำตุ่น ๆ เนื้อแข็งโป๊กรสเปรี้ยวเฝื่อน
หลังจากถูกที่หั่นแบ่งเป็นแผ่น ก็
นำมาวางประกบ ชีส และหมูสามชั้นดิบ ที่ผ่าน
กระบวนการหมักสมุนไพรแบบดั้งเดิม

ภาพที่ยังคงติดตาไม่แพ้รสชาติและสีหน้าที่คาดหวังของคนทำให้
นั่นก็คือ หมูรัสเซียชิ้นนั้นกับ
ชั้นไขมันอิ่มตัวโคตรจะหนาาาา  
(เผื่อใครที่นึกภาพไม่ออก ให้ลองเคาะหาคำว่า Russian Salo เอานะ)

ฉันเคี้ยวอยู่นานสองนาน กว่าแซนวิชนั่นจะหมดลงไปได้ก็ดูทุลักทุเลเอาเรื่อง 

ลุงนิโคไล ไม่ยอมรอฟังความเห็นใด ๆ  
เขารีบหั่นขนมปังเพิ่มอีกเดี๋ยวนั้น เพื่อเตรียมทำให้กินอีกชิ้น

ไม่นะ !!!

ฉันร้องลั่นในใจ แต่ถ้าเป็นไปได้ก็แทบอยากร้องห้ามเป็นภาษาไทย


แกคงเดาสีหน้าที่ฉันแสดงความอร่อยออกแน่ ๆ
ชิ้นที่สองถูกส่งให้ ไม่มีหมูสามชั้นเนื้อหนาประกบมาอีก 
แต่มันกลับถูกแทนที่ด้วยแฮมและชีสเท่านั้น






รามีล กับ ป้าโอเลีย


นอกเหนือไปจากนี้เราก็ยังมีเพื่อนบ้านที่น่ารักอย่างป้าโอเลีย ซึ่งอยู่ห่างกันเพียง
ฝาไม้กั้น ในตอนแรกป้าก็มาขอยืมปากกาเพื่อใช้กรอกเอกสารส่งทางการ และ
หลังจากนั้นก็มานั่งคุยด้วย 
ปลายทางของป้าโอเลียคือเมือง เยคาเตรินเบิร์ก ซึ่ง
เป็นบ้านเกิดของเธอเอง 

ส่วน รามีล หนุ่มร่างเล็กที่อยู่เขตนอนเดียวกับป้าฯ ก็คุยเก่ง แถมแอบใจดีจะให้
แลกที่นอนด้วยแต่เราก็แอบเกรงใจ ... ส่วนจุดหมายปลายทางของรามีลนั้น
เขาจะลงรถไฟไปพร้อมกับลุงวิตารี่ 

นี่หากว่าฉันไม่มีปัญหาเรื่องการสื่อสารไปตลอดเส้นทางบนรถไฟสายนี้ สาบานได้
เลยว่าคงจะต้องมีเรื่องคุยเรื่องเล่ายาวเหยียดไปจนสุดปลายทางแน่นอน



...


เมื่อรถไฟถูกจอดนิ่งที่สถานีแห่งหนึ่ง ป้าโอเลียก็พูดอะไรบางอย่าง
คล้ายกับว่าจะให้ฉันลงไปเดินเล่นไม่ก็ไปถ่ายรูปข้างนอก ... 

ฉันทำท่าลังเลเพราะไม่รู้ว่ารถไฟมันจะออกตัววิ่งหนีไปตอนไหน


พอหันไปทางฝั่งลุงนิโคไล ก็เห็นแกคว้าเสื้อแจ็ตเก็ตยีนส์มาสวมคลุม
เป็นที่เรียบร้อย พร้อมกับยักคิ้วหลิ่วตาและโบ้ยหน้าไปทางประตู 


" ดาไว! "



Create Date : 27 พฤษภาคม 2560
Last Update : 2 พฤศจิกายน 2560 20:26:26 น. 24 comments
Counter : 2192 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณRain_sk, คุณเรียวรุ้ง, คุณชีริว, คุณRinsa Yoyolive, คุณschnuggy, คุณข้ามขอบฟ้า, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณlovereason, คุณTurtle Came to See Me, คุณทุเรียนกวน ป่วนรัก, คุณkae+aoe, คุณInsignia_Museum, คุณสองแผ่นดิน, คุณhaiku, คุณnarellan


 
โอ้...เดินทางนานจัง..คิดว่าถึงรัสเซียแล้ว
ล้อเล่นนะครับ เพราะจำได้ว่าเขียนเรื่องรัสเซียแต่ปีที่ผ่านมา
งั้นต้องมีอะไรๆดีๆแน่นอน ต้องอ่านซะแล้ว...


โดย: ขุนเพชรขุนราม วันที่: 27 พฤษภาคม 2560 เวลา:23:52:12 น.  

 
สวัสดีค่ะ

ที่นอนชั้นบนชั้นล่างนี่เราเลือกได้มั้ยคะ ราคาต่างกันมั้ยอะ

กล้ามากเลยอะตากชุดชั้นในในรถไฟด้วยอิอิ

อ่านแล้วเห็นภาพเลยตอนกินแซนด์วิช ถ้าเป็นรุ้งคงแย่เพราะไม่กินหมูสามชั้น คือไม่กินมันหมู พวกเบค่อนก็ไม่ได้มีมันอะ

เขาถอดเสื้อปิคนิคกันราวกับอยู่บ้านจริงๆ แม้แต่ป้าแกยังแต่งตัวตามสบายมากๆเลย55555

โหวต Travel Blog ค่ะ


โดย: เรียวรุ้ง วันที่: 28 พฤษภาคม 2560 เวลา:0:04:42 น.  

 
อ่านจบแล้วครับ....เรื่องที่เขียนนี้เกิดนานยังครับ
ทำให้คิดถึงรถไฟบ้านเรา ที่มีฆ่าข่มขืนแล้วโยนทิ้งเป็นข่าว
เมื่อหลายปีก่อน... แต่นี้ดูต่างกันมากพวกเขาช่างโอบอ้อมอารีเหลือเกิน คงเป็นมนุษย์โบราณแน่เลย


โดย: ขุนเพชรขุนราม วันที่: 28 พฤษภาคม 2560 เวลา:0:17:41 น.  

 
วันนี้จิ้มมือถือเม้นท์ไม่ถนัด เดี๋ยวแวะมาอีกทีจ้า


โดย: ชีริว วันที่: 28 พฤษภาคม 2560 เวลา:21:10:59 น.  

 
ที่นั่งแบบนี้ถ้าเหนื่อยๆ จริงๆระห่ว่างเดินทางก็หลับได้อยู่ค่า
ยังดีมีขนมปังมาขายยามเช้านะ
คล้ายบ้านเราเหมือนกัน

ว่าแต่ไปนี่ต้องไปกันนานหลายวันจริงๆค่า
วางแผนการเดินทางอีก แต่ได้รสชาติการเดินทางสุดๆ
ประสบกรณ์แน่นมากด้วย


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
phunsud Food Blog ดู Blog
บาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน Review Food Blog ดู Blog
ปรัซซี่ Review Food Blog ดู Blog
kae+aoe Parenting Blog ดู Blog
อาจารย์สุวิมล Diarist ดู Blog
Sai Eeuu Food Blog ดู Blog
**mp5** Dharma Blog ดู Blog
ALDI Literature Blog ดู Blog
กิ่งฟ้า Literature Blog ดู Blog
กาบริเอล Travel Blog ดู Blog





โดย: Rinsa Yoyolive วันที่: 28 พฤษภาคม 2560 เวลา:22:53:07 น.  

 
มาแอบอ่าน
อยากไปเที่ยวจัง


โดย: honeynut วันที่: 29 พฤษภาคม 2560 เวลา:9:54:33 น.  

 
แบบนี่้ซิครับ ...ชอบ ไปไหนนาน ๆ.....

บางทีไปตปท. นั่งเครื่องก็หลายวัน ได้ไปเที่ยวจริงนิดเดียว
เสียดายค่าเครื่องบิน

คนรัสเซีย ดูหน้าแปลก ๆ คงเป็นด้วย เปลือกตาชั้นเดียว
แบบเอเซีย...

เขียนอีกนะครับ ชอบอ่าน


อ้าวหมด เป๋า... ติดไว้ก่อนครับคุณฟ้า


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 29 พฤษภาคม 2560 เวลา:17:53:43 น.  

 
หนุกง่ะ มาอ่านบล็อกนี้ทีไรได้อ่านอะไรแปลกๆเยอะดี :D
ตู้นอนสองชั้น แคบเชียว กลัวกลิ้งตกเก้าอี้ง่ะ ที่กั้นเอาไม่อยู่
ตาคนที่ถามในเพจที่แท้ก็มาขายขนมปังนี่เอง น่าลองซื้อมารีวิวขนมปังรัสเซียหน่อยว่าอร่อยป่าว
ที่โน่นคงกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกันเยอะเหมือนกัน ตอนไปทัวร์ปีก่อนมีมื้อนึงจัดให้ลูกทัวร์กินเหมือนกัน ผมนี้อึ้งไปเลย เดินมาตั้งไกลกว่าจะถึงร้านอาหารแกให้ชั้นกินมาม่าเนี่ยนะ???

นั่งรถไฟยาวๆข้ามไทม์โซนในประเทศหนาวๆ ฟังแล้วน่าเบื่อเจียนตายเลยอะครับ
โชคดีที่มีลุงมาถอดเสื้อตั้งวงปิคนิคเพิ่มความคึกครื้น (ดีตรงไหน?) แถมยังใจดีทำขนมปังหมูดิบให้กินด้วย (again, ดีตรงไหน???)



โดย: ชีริว วันที่: 29 พฤษภาคม 2560 เวลา:21:57:33 น.  

 
ถ้านอนแบบโล่งโจ้งรวมกันแบบนี้พี่ขอนอนข้างบนดีกว่านะ
เตียงข้างล่างพี่คงนอนไม่หลับแน่ คงผวาตลอดทาง

เป็นการนั่งรถไปที่ยาวนาน และได้ประสบการณ์ใหม่ๆตลอดเลยนะฟ้า
โหยยย ช่างกล้าตากชั้นในในรถไฟ 5555

เป็นรถไฟสายทำอะไรก็ได้แบบสบายๆ ฝรั่งเขายิ่งไม่ค่อยอายด้วย
ถ้าอากาศร้อนๆนี่ ฟ้าเอ่ยพี่ไม่อยากนึกต่อเลย อิอิ

ขำที่เขายกครัวขึ้นมาทำกินกันบนรถไฟ แบบนี้พี่ยังไม่เคยเจอ
ก็ถือว่าฟ้าโชดดีมากเจอแต่คนดีมีน้ำใจ แบ่งขนมปังให้กินอีก
ถึงรสขาติจะไม่ถูกปาก แต่ลดความอึดอัดลงได้เนาะ

แล้วคำว่า ดาไว แปลกว่าอะไรจ้ะ
ถ้าให้พี่เดาคงจะเป็น... ปะ ลงไปข้างล่าง

กาบริเอล Travel Blog


โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 31 พฤษภาคม 2560 เวลา:2:18:34 น.  

 
ขอบคุณที่แบ่งปัน


โดย: Kavanich96 วันที่: 31 พฤษภาคม 2560 เวลา:4:30:51 น.  

 
ตามผู้หญิงคนนี้เที่ยวด้วยคนค่ะ


โดย: kae+aoe วันที่: 31 พฤษภาคม 2560 เวลา:8:53:15 น.  

 
เป็นเส้นทางในฝันเลยค่ะ แพลนจะไปเมษาปีหน้า ยังหาเพื่อนนั่งไปด้วยไม่ได้เลย ทริปนี้ผู้หญิงเดินทางคนเดียวถือว่าอันตรายไหมคะ


โดย: หมูเดินทาง IP: 49.228.251.249 วันที่: 1 มิถุนายน 2560 เวลา:1:04:10 น.  

 
เห็นราวหน้าต่างนั่นแล้ว พี่อาจจะผึ่งผ้าเช็ดหน้า เช็ดตัวพอละ อย่างอื่นไม่กล้าแฮะ

เป็นพี่จะกินแต่ขนมปังเปล่า ๆ แฮ่ แต่เนาะ ไม่รู้จะปฏิเสธยังไง

ดาไว ... ลุงแกชวนลงไปใช่มั้ย



โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 2 มิถุนายน 2560 เวลา:20:32:13 น.  

 
จากบล็อก Unfathomed Reminiscence เรียบๆ ทำนองดีครับ

ว่าแต่ เกิดอะไรขึ้น ตั้งหน้าหลักเป็นหน้าไม่มีบล็อก~


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 3 มิถุนายน 2560 เวลา:17:19:42 น.  

 
อ้อมันเป็นเช่นนี้เอง เข้าใจๆแล้วล่ะครับ
.....................
เขียนอีกก้ออ่านอีก สนุกดีครับ ได้ความรู้ด้วย อย่างเช่นอาหารหมูดิบๆในเอนทรีนี้ มันคงจะคล้ายกะเบกอน Bacon ที่ยังไม่ทำพิธีลงทอดหรือเปล่าฮ่า


โดย: ขุนเพชรขุนราม วันที่: 3 มิถุนายน 2560 เวลา:21:17:56 น.  

 
รถไฟสายทรานส์ไซบีเรีย
หมายเลขขบวนรถไฟ ยิ่งสูงยิ่งช้าและดูเก่าเหรอ
แสดงว่าหมายเลข 81 นี่ยังไม่ค่อยเท่าไหร่สินะ
ถ้าได้รถด่วน 999 นี่สิสูงจริง (ทะลุออกอวกาศเลย :D)

ก๊วนคุณลุงนิโคไลนี่เฮฮาดีจัง
แถมใจดีแบ่งไขมัน เอ้ย! หมูสามชั้นให้คุณฟ้ากินอีกด้วยด้วย ^^
เสิร์ชดูหน้าตา Russian salo แล้ว...
แม่เจ้า! ทำไมหมู 3 ชั้นของเค้ามีชั้นไขมันหนาขนาดนี้
อย่างกะมันหมูที่ใช้ละเลงกระทะร้านหมูกระทะแน่ะ ^^"

รถจอดแล้ว ลุงแกออกปากชวนแล้วคงต้องลงไปสินะ
แล้วลงไปไหนเนี่ย ทำเอาคนอ่าน'รมณ์ค้างอีกแระ >_<


ป.ล.1 ตระกร้า >> ตะกร้า ^^

ป.ล.2 ตอนแรกจะพับกระดาษเป็นร่ม แต่ยังพับไม่ค่อยเป็น
ต้องรีบถ่ายรูปปิดต้นฉบับ เดี๋ยวจะเลทจนหมดหน้าฝนไปซะก่อน ^^"



โดย: ทุเรียนกวน ป่วนรัก วันที่: 4 มิถุนายน 2560 เวลา:15:43:43 น.  

 
ฟ้าไม่ได้ตั้งหน้านี้เป็นหน้าหลัก พี่คลิกตาม link ที่เมนท์มา เค้าบอกว่า Group นี้ ยังไม่มี Blog ที่ online ตั้งแต่เมื่อวาน วันนี้พี่ลองใหม่ ยังเหมือนเดิม ... กำลังทำดราฟท์ไว้ หรือลืมเปลี่ยนกลับไปหน้าหลักแหงเลย

4 พันกว่าภาพ ป่านนี้พี่ยังดูภาพไม่ละเอียดเลย มีอีกหลายทริป เลยทำรูป อัพบล็อกสลับ ๆ กันไปน่ะ

โหย สบายจ้ะฟ้า กาแฟทำอะไรพี่ไม่ได้หรอก กินตอนไหนเช้าสายบ่ายเย็นก็นอนหลับหมดล่ะ แต่ตื่นเต้นน่ะใช่ จริงแท้แน่นอน หลังจากส่องฟูจิแล้ว ก็ไม่ได้นอนอีกเลย เข้าที่พักแหมะกระเป๋าไว้ แล้วเดินเที่ยวต่อด้วยซ้ำ

พี่ไม่ชอบทะเลเท่าไหร่ หมายถึงไม่ชอบลงน้ำ ไม่ชอบตัวเปียก อยากถ่ายรูปมากกว่า มีอยู่ช่วงนึง ปะป๊ามาใต้บ่อย เค้าล่ะที่มาโฆษณาชวนเชื่อพี่กับลูกว่า ทะเลใต้สวยนะ อยากให้มา แต่ด้วยความที่พี่เมาเรือนี่แหละ พี่ก็โยกโย้อยู่หลายปี ... แต่มาแล้วพี่ก็ชอบนะ ยอม เมาก็เมา(วะ) พี่เอายาแก้เมามาด้วย แต่กินในเวลาที่มันไม่ออกฤทธิ์พอดีน่ะ 555


โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 6 มิถุนายน 2560 เวลา:16:15:17 น.  

 
เห็นสปอยล์เนื้อหาตอนต่อไปแล้วนึกไปถึงพล็อตหนัง...
"แก๊ง Russian Salo เอามันหมูหลอกล่อนักท่องเที่ยวชาวเอเชีย
เดินลงจากรถไฟแล้วทิ้งไว้ข้างทาง ให้หาทางกลับบ้านเอาเอง"

ประมาณนี้ใช่มะ (พล็อตพิสดารมาก 55)


ป.ล. หนังสือ เจ้าชายน้อย เล่มนั้นเป็นฉบับครบรอบ 60 ปี แบบปกอ่อน
ไม่มีตังค์ซื้อปกแข็งอะ แถมเล่มนี้ซื้อมือสองอีกต่างหาก แหะ ๆ ^^"
เคย(แอบ)เปิดอ่านฉบับครบรอบ 70 ปี (ที่ร้าน) มีเนื้อหาเพิ่มเติมด้วย
ช่วงบทสัมภาษณ์อดีตนายทหารเยอรมันคนหนึ่งสมัยสงครามโลก
อ่านแล้วจะร้องไห้...สงครามก็คือสงครามอะนะ T^T


โดย: ทุเรียนกวน ป่วนรัก วันที่: 6 มิถุนายน 2560 เวลา:22:45:07 น.  

 
กาบริเอล Travel Blog


โดย: kae+aoe วันที่: 7 มิถุนายน 2560 เวลา:8:19:54 น.  

 
น่าสนุกครับ อ่านครั้งเดียวไม่จบ จะแวะมาอ่านต่อเรื่อยๆครับ
การเดินทางด้วยรถไฟสานทรานส?ไซบีเรียเคยเป็นความฝันหนึ่งของผมเหมือนกันครับ ดูจะไม่ไกลเกินเอือมเลยนะครับถ้าตั้งใจและมุ่งมั่นจริงๆ


โดย: Insignia_Museum วันที่: 8 มิถุนายน 2560 เวลา:20:32:48 น.  

 
แวะมาเยี่ยมจ้า
ฟ้ายังนั่งรถอยู่เนาะ ไปยังไม่ถึง
รอจ้ะรอ ถึงเมื่อไหร่มาเรียกพี่ด้วยนะ



โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 9 มิถุนายน 2560 เวลา:2:55:51 น.  

 
เกาะล้อรถไฟตามไป.....ด้วยคนครับ
เคยขึ้นรถไฟตู้นอนกรุงเทพ-เชียงใหม่ ขึ้นที่นครสวรรค์ ตอน 4 ทุ่ม
พอรุ่งเช้าได้เรื่องครับ น้องผู้หญิงเตียงชั้นล่างกระเป๋าสตางค์หาย
เหมือนกามเทพเล่นกลครับ วันกลับ ได้นั่งที่ติดกับน้องผู้หญิงกระเป๋าสตางค์หายอีก(ขากลับ กลับสปรินเตอร์) ต่างคนต่างมาครับ ต่างคนก็ต่างไปครับ
นั่งรถไฟสายไกลๆ ก็ต้องคุยกันบ้างครับ บางครั้งได้เพื่อนด้วย
ผมนั่งรถไฟสายไกลสุด ก็ กรุงเทพ-ตันหยงมัส(นราริวาส)ครับ ชั้น 3 รถไฟไทยนั่งหันหน้าเข้าหากัน ได้คุยกันไปตลอดทาง


โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 9 มิถุนายน 2560 เวลา:11:46:00 น.  

 
มาอ่านต่อครับ ทริปนี้ถือว่าเป็นประสบกาณ์ที่น่าประทับใจ ทำให้ผู้อ่านอยากเดินทางแบบนี้บ้างครับ


โดย: Insignia_Museum วันที่: 10 มิถุนายน 2560 เวลา:16:17:00 น.  

 
เมื่อลุงแอ็ดตามอ่านมาถึงตอนที่ 16 แล้ว ผู้บันทึกการเดินทาง"หลานฟ้ากาบริเอล" นับว่ามีการ ศึกษาหาข้อมูล ก่อนการเดินได้อย่างสมบูรณ์.
เมื่อมาประสบกับเหตุการณ์จริงๆ ทำให้สนุกและตื่นเต้น ไปตลอดการเดินทาง,

บันทึกการเดินทางในครั้งนี้ แม้นว่าจะผ่านกาลเวลามาแล้ว นานถึง5ปี แต่เนื้อหาพร้อมรายละเอียดอีกทั้งข้อแนะนำฯลฯ แด่ผู้สนใจ ที่อยากจะมี"ฝันท่องเที่ยวไปในโลกกว้าง"ก็น่าจะเป็นแรงบันดาลใจได้อย่างดีเยี่ยม,


โดย: ตามฝันที่ฝันไว้ (สมาชิกหมายเลข 4365762 ) วันที่: 16 มกราคม 2562 เวลา:14:04:00 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

กาบริเอล
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 58 คน [?]




ชอบต้นไม้, แมว, หนังสือ
และออกเดินทางท่องเที่ยวบ้าง

ไม่ชอบพบปะผู้คนมากนัก
เป็นมนุษย์จำพวก introvert

การเขียนบล็อก
คืออีกพื้นที่บอกเล่าผ่านตัวอักษร
และตัวตนของเราก็อยู่ในสิ่งที่เขียนค่ะ

ขอบคุณ Bloggang
สำหรับพื้นที่แบ่งปันตรงนี้

....

เริ่มต้นลงบันทึกอย่างเป็นทางการ
ณ วันที่ 16 ม.ค. 2014


###ไม่สะดวกพูดคุยหลังไมค์นะคะ###

© ขอสงวนลิขสิทธิ์ ภาพถ่าย 
ห้ามนำไปใช้ ดัดแปลง แก้ไข 
โดยไม่แจ้งที่มา ก่อนได้รับอนุญาต


New Comments
Friends' blogs
[Add กาบริเอล's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.