Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2561
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
20 สิงหาคม 2561
 
All Blogs
 
[R]St. Petersburg - สุดปลายทางรถไฟ



สำหรับคนที่มีโอกาสนั่งรถไฟจากกรุงมอสโก มายังเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
ในช่วงวัน พวกเขาคงอาจจะได้ลุ้นกับภาพสองข้างทางที่จะได้เห็น...แต่คนที่ได้
เดินทางตอนตีหนึ่งอย่างฉันเนี่ย มันก็ได้หลับยาวข้ามคืนไปจนถึงที่หมายในเวลา
เช้าโน่นเลย 

ดังนั้นไม่ว่าฉันจะได้เลือกจองตำแหน่งเตียงล่างหรือบนสำหรับการเดินทาง
ด้วยรถไฟในรัสเซียหนสุดท้ายนี้ ก็คงมีค่าเท่ากันอยู่ดี

น่าจะเป็นเวลาเจ็ดโมงเช้าที่เจ้าหน้าที่ผู้ดูแลตู้ขบวนได้เริ่มเดินมาปลุกเตือน
ผู้โดยสารที่จะลงยังเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก  ซึ่งก็มีหลายคนที่ลุกตื่นมาเตรียมตัว
กันก่อนล่วงหน้าแล้ว  
เพราะการใช้ห้องน้ำบนรถไฟค่อนข้างจะจำกัด (แต่แปลกดี
นะที่ขบวนนี้มีห้องน้ำแยกไว้
สำหรับชายและหญิง อีกทั้งยังดูสะอาดและใหม่มาก ๆ
เมื่อเทียบกับขบวนที่ฉันเคยนั่งมา
ถึงมอสโก แม้จะเป็นรถไฟชั้นสามเหมือนกัน)

เสียงการขยับตัวของใครหลายคนที่ลุกตื่นขึ้นมาเก็บข้าวของที่ซุกไว้ใต้เบาะล่าง
พร้อมกับการปัดที่นอนและเก็บผ้าคลุมเตียงคืนเจ้าหน้าที่ ดูเหมือนจะจอแจขึ้นตาม
เวลาที่กระชั้นชิด พวกคนที่อยู่ตำแหน่งเตียงล่างก็เริ่มเปิดม่านที่ถูกดึงลงมาปิดกระจก
หน้าต่างเมื่อช่วงกลางคืนขึ้น เพื่อรับแสงยามเช้าและมองทิวทัศน์ด้านนอก 


ผู้โดยสารบางส่วนได้เริ่มเตรียมตัวที่จะลงยังสถานีที่รถไฟจะแล่นไปถึงในไม่ช้า
และอีกบางส่วนที่ไม่ได้ลงยังสถานีนี้ก็มีคนที่ยังนอนหลับต่อ บ้างที่ตื่นแล้วก็เดิน
ไปปกดน้ำร้อน
มาใส่แก้วเพื่อจิบชาดื่มกันแบบไม่เร่งรีบอะไรนัก


รถไฟที่วิ่งมาจากมอสโก ก็มักจะมาจอดที่สถานีรถไฟ Moskovsky (หรือ Moscow
Station) พอเมื่อใกล้เทียบสู่ชานชาลา ฉันยังจำภาพของผู้คนที่มายืนรอตรงปลาย
ทางนี้ได้ดี มีทั้งชายหนุ่มที่ถือดอกไม้ช่อโตกำลังชะเง้อมองหาผู้ที่เขามารอรับที่
จุดนัดพบ  รวมไปถึงบรรดาญาติ พี่น้อง หรือไม่ก็อาจเป็นเพื่อนฝูง ของ
ใครบางคน
ต่างก็พา
กันมายืนคอยอยู่เป็นจำนวนหนึ่ง

พอเมื่อรถไฟได้หยุดจอดเพื่อให้ผู้โดยสารก้าวลงออกจากขบวน เหล่าผู้ที่มารอรับ
เหล่านั้นต่างโบกมือเพื่อเรียก  ไม่ก็เดินเข้าไปหาผู้ที่เพิ่งมาถึงและทักทายกันด้วย
ความ
ดีใจ ก็มีทั้งการโอบกอด ส่งดอกไม้ ยิ้มรับ หรือจับไม้จับมือ กันไปตามเรื่องราว

สำหรับคนที่ไม่ได้มีญาติมารับ(อย่างเช่นข้าพเจ้า) ก็คงไม่ต้องใช้เวลาหยุดยืนรอ
กับที่
ตรงนี้นานเท่าไหร่นัก พอจัดการกับสัมภาระที่ต้องแบกไว้บนหลังเรียบร้อย
แล้ว ฉันก็มุ่ง
หน้าไปที่สถานีรถไฟใต้ดินเพื่อทะลุไปโผล่ยังที่ตั้งของถนน
Gorokhovaya ต่อทันที

(อัตราค่าโดยสารของที่นี่จะถูกกว่ามอสโก คือ
28 รูเบิ้ล และใช้เหรียญแทนบัตร : อ้างอิงจากปี 2013)



แนวกำแพงป้อมปราการ Peter and Paul ที่ฝั่งเปโตรกราดบนเกาะแฮร์ (Hare Island)

....


(ความเดิม)  

หลังจากรู้สึกเซ็งเป็ดกับการเข้าพักในโฮสเทลที่เต็มไปด้วยความน่าอึดอัด และ
ต้องรีบเดินทางออกจากมอสโก ไวกว่ากำหนดหนึ่งวันเพราะความซื่อบื้อล้วน ๆ
นั่นก็เท่ากับว่า
ฉันได้มีเวลาอยู่ในเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เพิ่มขึ้นมาหนึ่งวันแทน

หากเมืองของปีเตอร์แห่งนี้จะต้อนรับฉันด้วยท้องฟ้าที่เปิดโล่ง โดยไม่มีสภาพ-
อากาศที่
ขมุกขมัวแถมฝน อย่างที่ผ่านมาแล้วละก็ ฉันคงไม่นึกเสียดายหรืออาลัย
อาวรณ์กับมอสโก
เท่าไหร่...ที่เหลือก็แค่ภาวนาให้บรรยากาศของที่พัก ที่ซึ่งตัวเอง
ต้องมาปักหลักอยู่นานจนกระทั่งถึงวันกลับเมืองไทยจะไม่เลวร้ายด้วย


ที่พักของฉันในเมืองนี้ก็เป็นโฮสเทลเล็ก ๆ อย่างเช่นในมอสโก นั่นแหละ
แต่มันก็ผิด
ตรงที่ว่า ผู้ที่ทำหน้าดูแลค่อนข้างมีรังสีของความเป็นมิตรมากกว่าเยอะ!
และนั่นก็ทำให้ฉันโล่งใจขึ้นมากทีเดียวที่แม้การเดินทางหนนี้จะไม่สามารถดำเนิน
เป็นไปอย่างสมบูรณ์
แบบ แต่ก็เชื่อว่ามันก็จะจบลงด้วยความสงบแน่นอน

สำหรับการเลือกย่านที่พักอาศัยของนักท่องเที่ยว โดยมากแล้วมักจะนิยมไปอยู่
กันแถวถนนเนฟสกี้ (Nevsky) กันเยอะ แต่ในพิกัดที่ฉันอยู่นั้นจะเยื้องกับ
Admiralty
หรือตึก
บัญชาการฐานทัพเรือ และไม่ห่างไปจากที่ตั้งของเฮอร์มิเทจ ซึ่งไกลเพียง
แค่สองช่วงตึกเอง...
ดังนั้นในช่วงเย็นของทุกวัน ฉันจึงมักหาโอกาสออกมาเดิน
เล่นที่ริมฝั่ง
แม่น้ำได้แทบตลอดระหว่างพำนักอยู่ในเมืองนี้ที่นานเกือบห้าวัน


โฮสเทลกับการปรับตัว   ที่จริงแล้วก็ไม่มีอะไรมากหรอก เพียงแต่ว่า
ฉันมักจะมีความประหม่ากับสถานที่และผู้คนในสภาพแวดล้อมใหม่เสมอ
และยิ่งครั้งนี้มันเป็นเวลาที่ยาวนานกว่าครั้งไหน ๆ ซะด้วยสิ 
พอผู้ดูแลฯ ได้พาฉันเดินดูสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีให้หยิบยืมได้ในนี้ อย่างเช่น
พื้นที่ทำอาหารในครัว เครื่องซักผ้า ที่ตากผ้า ยันเตารีด ฯลฯ  โดยรวมแล้ว ก็แทบ
เหมือนอยู่บ้านยังไงงั้น...  


เมื่อได้ทำการเข้าพักและเลือกเตียงนอนแล้ว ฉันพยายามจัดเก็บข้าวของต่าง ๆ 
ที่แบกเป็นภาระมาวางเก็บแยกไว้ในล็อคเกอร์ให้ดูเข้าที่เข้าทางเสียที ทั้งยังรื้อ
เสื้อผ้าที่ต้องเตรียม
ซักออกจากเป้อย่างไม่รีบร้อน (โอ๊ย...แอบคิดดีใจที่หลุดมา
จากที่พักในมอสโกนั่นได้ด้วยซ้ำ)

ระหว่างนั้น ฉันได้เหลือบไปเห็นเพื่อนร่วมห้องที่กำลังหลับที่เตียงล่างฟากตรง
ข้ามหนึ่งราย และปลายเตียงที่อยู่ติดกับฉันอีกคน และด้วยความที่พวกเขานอน
คลุม
โปงอยู่ก็ทำให้เดาไม่ถูกเลยว่าเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง และปอยผมสีน้ำตาล่อน
ที่โผล่พ้น
ผ้าห่ม ทำให้ฉันคิดเหมาไปว่าคงเป็นผู้หญิงต่างชาติที่กำลังงีบหลับเอา
แรงจากปาร์ตี้หนัก ๆ ที่ผ่านมาเมื่อคืนแหง... 

คิดดูดิ เผลอทำของร่วงไปหลายหน หล่อนก็ยังนอนนิ่งแทบไม่กระดิกทั้งคู่


ก็ไม่รู้ว่ามีอะไรดลใจให้พวกเขาลุกพรวดขึ้นมาแบบดื้อ ๆ "ปรีเวียต!"
แม้จะยังดูงัวเงียกันอยู่ตาคนที่อยู่เตียงฝั่งตรงข้ามก็ส่งเสียงทักมา   จากนั้นฉัน
ก็ต้องมองไป
ยังปลายเตียง ที่ยังมีเพื่อนร่วมห้องอีกคนที่กำลังโผล่หน้าออกมา
จากผ้าห่ม ซึ่งก็ไม่ใช่
หญิงสาวตามที่ฉันทึกทักไว้อีกแหละ รายนี้เป็นดูเหมือนจะ
มีอายุไม่มากนักเมื่อเทียบกับ
อีกนายคนนั้นที่เป็นผู้ใหญ่แล้ว  

เฮ้ออออ....


mixed dorm 8 เตียง ที่อย่าไปคาดหวังมากว่ามันจะต้องเป็นห้องพักรวมชายหญิง 


ทั้งสวาลา และเซอร์เก ต่างพูดภาษาอังกฤษได้ไม่มากนัก แต่พวกเขาก็ทำงาน
ที่
โฮสเทลโดยผลัดเวรกันดูแล และมีที่พำนักประจำอยู่ในห้องนี้   ส่วนการพูดคุย
ของพวกเราหลายครั้งก็ต้องเพิ่ง Google translate  แทบตลอด (แต่มันก็ยังดีกว่า
ตอนที่เดินทางบนรถไฟก็แล้วกัน ที่คุยกันจนเมื่อยมือ) เพราะยังไง ๆ ก็ต้องเห็น
หน้ากันทุกวันยันเข้านอน 


....


คนจีน รึปล่าวววว ????

มีชายรัสเซียคนหนึ่งที่มาพักอยู่ห้องเดียวกับเราอีกคน (ไหง mixed dorm ของที่นี่
ไม่มีผู้หญิงเข้ามาพักเลยฟระ?) นั่งถามเรื่องโน่นนี่กับเจ้าเซอร์เก กระทั่งหันมาพูด
อะไรบางอย่างถึงฉัน จากการหันมามองแว้บหนึ่ง... 
"กีไต?"

ฉันไม่รู้ความหมาย เลยไม่ได้เออออตามน้ำไปด้วย 
เจ้าเซอร์เก เลยต้องพิมพ์คำถามและกดแปลมาให้อ่านอีกหน   
โดยในประโยคนั้นได้ถามว่า.....คุณมาจากประเทศอะไร?

"ไทยแลนด์"

ฉันออกเสียงไปตามนี้  


เซอร์เก จึงพูดย้ำกลับอีกหน  "ไตลานด์"
ทั้งบอกสำทับเพิ่มว่าฉันเป็น ไทสกี้ (คนไทย)

เอ๊ะ แล้วกีไต มันคืออะไร

ส่วนฉันเองก็มีคำถามต่อ ...
จากนั้นบนหน้าจอแลปท็อป
ของเซอร์เกก็ต้องทำหน้าที่แสดงคำแปลอีกหน





ช่างเป็นมุก(เดิม ๆ) ที่คลาสสิคยิ่งนัก ...ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ 
ชาวตะวันตก มักชอบเหมารวมว่าคนเอเชียเป็นคนจีนเสมอ ๆ  

นอกเหนือจากนี้ ฉันยังเห็นคนที่มาพักอาศัยที่นี่อีกคู่ ซึ่งพวกเขาน่าจะอยู่ห้องที่
จัดแยกไว้
เป็นสัดส่วน เป็นชายรัสเซียและสาวชาวจีนสุดเปรี้ยวที่พูดภาษารัสเซีย
ได้อย่างคล่องปร๋อ  
และมีอยู่เช้าวันหนึ่งที่ฉันพยายามหาทางเปิดแก็สเพื่อต้มน้ำ
สาวจีนคนเดียวกับที่เอ่ยถึง ก็
เดินตรงเข้ามาจุดไม้ขีดไฟให้พร้อมกับชวนคุยเป็น
ภาษาจีนกับฉันยกใหญ่  กระทั่งเธอ
เริ่มลังเลกับปฏิกิริยาตอบสนองอันเชื่องช้าของ
ฉัน และเปลี่ยนมาถามแบบสั้น ๆ ว่า   
"ไชนิส?"


"เอ่อ ฉันไม่ใช่คนจีน"

ก็แอบหวังว่าเธอจะพูดตอบกลับมาเป็นภาษาอังกฤษแทน  แต่เปล่าเลย
ฉันจับใจความได้แบบงู ๆ ปลา ๆ กับภาษารัสเซียที่โต้กลับมาว่าเธอพูดได้แค่
ภาษารัสเซียกับจีนเท่านั้น 

ไม่น่าเชื่อว่า... 
คนจีนก็มีแอบเหมาว่าชาวเอเชียอย่างเรา ๆ นั้นเป็น คนจีนไปด้วย!

แต่เดี๋ยวก่อนนะ!  เธอข้ามขั้นไปเรียนภาษารัสเซีย 
โดยไม่ต้องผ่านวิชาภาษาอังกฤษได้ไงอ่ะ  
รึว่าที่จริงแล้ว มันไม่ใช่วิชาบังคับ
สำหรับทุกประเทศ ??? 


....



ที่ตั้งของเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก บริเวณปากแม่น้ำเนวา 

ที่ตั้งของ Hermitage  เมื่อมองดูจากอีกฟาก และกิจกรรมการเล่นเจ็ทสกี
ของชาวเมืองในช่วงเวลาเย็น บริเวณริมฝั่งของเกาะ Vasilyevsky   

จากฟากที่เป็นใจกลางเมือง เราสามารถเดินเท้าข้ามสะพาน Dvrtsovy 
และ Birzhevoy 
เชื่อมต่อไปยังฝั่งเปโตรกราด (Petrograd Side) เพื่อไปเยี่ยมชมเกาะเล็ก ๆ ที่ชื่อว่า Hare Island
ซึ่งเป็นที่ตั้งของป้อมปราการปีเตอร์แอนด์พอลได้ 




Zayachy Island หรือ Hare Island

จะมีแนวกำแพงป้อมปราการล้อมรอบโดยแต่เดิมนั้นป้อมปราการสร้างด้วยไม้ (ค.ศ. 1703)
เพื่อป้องกันการบุกโจมตีของทหารสวีเดน  ภายหลังถูกสร้างใหม่ด้วยหิน และใช้งานสำหรับเป็นคุก
เพื่อคุมขังนักโทษทางการเมืองแทน 
(และผู้ที่ได้เข้ามาอยู่ในนี้เป็นรายแรกก็คือ โอรสองค์โตของ
ซาร์ปีเตอร์มหาราช นั่นเอง)



สิ่งก่อสร้างในบริเวณป้อมปราการ - หอระฆัง ที่มียอดสูง 122.5 เมตร  และที่ตั้งของ
Peter and Paul Cathedral มหาวิหารที่ใช้เป็นพื้นที่ฝังพระศพของราชวงศ์โรมานอฟหลายพระองค์
รวมไปถึงกษัตริย์องค์สุดท้ายของรัสเซีย ซาร์นิโคลัสที่ 2 และครอบครัวที่ถูกสังหาร

ไม่ได้เข้าไปเยี่ยมชมด้านในนะคะ กว่าจะเดินมาถึงก็โพล้เพล้แล้ว


เราหารูปปั้นกระต่ายป่าที่เป็นสัญลักษณ์ของเกาะนี้ไม่เจอ เจอแต่ปฏิมากรรมชั่วคราวรูปกระต่ายป่า (Hare) ที่ถูกนำมาวางแสดงไว้บนเกาะ และสะพาน Troitsky ที่พาดผ่านแม่น้ำตรงฉากหลัง จุดข้าม
ตรงสะพานนี้สามารถเดินข้ามไปยัง Field of Mars ได้ค่ะ  


ราคาน้ำมัน ช่วงต้นเดือนตุลาคม 2013


Saint Petersburg Mosque  ถือเป็นมัสยิดใหญ่ที่สุดในฝั่งยุโรป นอกเหนือไปจากประเทศตุรกี
แต่ว่าวันที่ไป โดนแนวสังกะสีปิดล้อมเพื่อซ่อมแซมหมดก็เลยได้ถ่ายมาแค่มุมนี้เท่านั้นแหละ


....


กลับมายังใจกลางเมืองกันบ้าง นี่เป็นรูปถ่ายแบบที่เราเดินเก็บภาพไปเรื่อย 
โดยไม่ได้ลำดับไล่เรียงไปตามความสำคัญมากนัก แม้จะใช้เวลาอยู่ที่เมืองนี้นาน
ก็ตาม  หากจะให้เทียบเคียงว่าเรื่องราวของเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เป็นห้องเรียน และ
นี่คือรายงานสรุปผล...ฉันคิดว่าตัวเองคงจัดอยู่ในกลุ่มของพวกที่มัวแต่คุยนอกเรื่อง
หรือไม่ก็มัวแต่วอกแวกกับภาพทิวทัศน์อื่นที่อยู่นอกหน้าต่างแน่ ๆ :)


สวนหย่อมด้านหน้ามหาวิหารเซนต์ไอแซค


นักท่องเที่ยวกำลังเก็บภาพอยู่บริเวณด้านหน้าของมหาวิหารเซนต์ไอแซค
ที่ได้ชื่อว่า
เป็นโบสถ์ออโธดอกซ์ที่ใหญ่เป็นอันดับสามของโลก


รูปปั้นของ ซาร์นิโคลัสที่ 1 ที่ตั้งอยู่บริเวณกลางจตุรัส โดยได้หันหน้าเข้าหามหาวิหารเซนต์ไอแซค
ส่วนที่ตั้งของอาคารด้านหลังคือ Mariinsky Palace



....



หน้าตาของคูคลองที่ปรากฏให้เห็นอยู่บ่อย ๆ ในเมือง 





ระหว่างเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก กับมอสโก มีอะไรที่ต่างกันมากไหม
?
ถึงจะรู้สึกได้ชัดเจนถึงข้อเปรียบเทียบนั้น แต่ฉันก็ไม่อยากเขียนสรุปสักเท่าไหร่
เอาเป็นว่า ในช่วงเวลาที่ไปถึงสภาพอากาศของที่นี่ดูสดชื่นกว่าเยอะ และเป็นเรื่อง
น่า
แปลกที่ฉันกลับรู้สึกว่ามันอบอุ่นกว่าในมอสโกซะได้ หากมองจากที่ตั้งที่อยู่ทาง
ตอน
เหนือติดกับปากอ่าวฟินแลนด์เสียขนาดนี้

ฉันไม่รู้ว่ารูปแบบการเดินทางของคนอื่นจะเป็นยังไงกันบ้าง แต่จากเท่าที่เห็น
พวกเขามักจะนั่งรถไฟมาจากมอสโก และหลังจากเที่ยวชม
เมืองนี้แล้ว ก็จะนั่ง
รถไฟย้อนกลับไปที่มอสโกกันอีกหน (เพื่อขึ้นเครื่องกลับเมืองไทย)

ฉันเองก็เช่นกัน ขณะที่เริ่มวางแผนเดินทางช่วงแรกก็ยอมรับว่าแอบมีความลังเล
ว่าจะใช้เวลาส่งท้ายที่เมืองไหนดี
?  
แต่พอเมื่อเส้นทางได้ดำเนินมาจนถึงตอนนี้
ก็แอบดีใจที่เลือกเมืองนี้ให้เป็นจุดหมายสุดท้าย...
กระทั่งเที่ยวบินกลับเมืองไทย
ฉันก็ยังเลือกที่จะบินจากเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก

เมืองนี้ได้ชื่อว่าเป็นหน้าต่างสู่ยุโรป และมีฉายาว่าเป็น เวนิสทางตอนเหนือ
(Venice of North) เพราะมีคูคลอง
ต่าง ๆ ให้เห็นเต็มไปหมด ก็อย่างที่บอก...
เมื่อเดินเที่ยวไปสักพักก็ต้องข้ามสะพานเล็ก ๆ ที่สร้างเชื่อมพื้นที่อยู่บ่อยหน


เหล่านักเดินทางที่ฉันเคยเจอบนรถไฟต่างส่งเสียงเชียร์ให้กับ 
มอสโก กันทั้งนั้น
เพราะดูมีความเป็นรัสเซี๊ย รัสเซีย และมีเอกลักษณ์ที่ชัดเจนกว่า  
ในขณะที่เมือง
เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก 
ดูเหมือนกับยุโรปเกินไป (เป็นผลมาจากนโยบายการบุกเบิก
สร้างเมืองหลวงใหม่ที่
ซาร์ปีเตอร์มหาราช  มีนโยบายสลัดคราบความล้าหลังของ
รัสเซียให้หมดไปก็ด้วย) และฉันคง
รู้สึกเบื่อแน่ ๆ หากใช้เวลากับเมืองนี้เกินสามวัน
ไปกับ วัง โบสถ์ รูปปั้น และพิพิธภัณฑ์...วนไปอยู่อย่างนี้





Church of the Vladimir Icon of the Mother of God


Trinity Cathedral


ตลาดท้องถิ่น 



รูปปั้นของ Aleksandr Griboyededov ที่ Pionerskaya square ช่วงนั้นกำลังมีซุ้มของร้านปิ้งย่าง
และเครื่องดื่มมาตั้งขายกันด้วย ส่วนอาคารที่ตั้งด้านหลังคือโรงภาพยนตร์


ป้ายโฆษณาที่ลานจอดรถ 


คนเดินถนน และการจราจร จำไม่ได้แล้วว่ามาหลงอยู่ที่ย่านไหน 
แต่ขอบอกเลยว่า ทางม้าลายและสัญญาณไฟแดงของที่นี่ศักดิ์สิทธิ์มากกก 



ร้านขายดอกไม้ 


ร้านเบเกอรี่ 




ร้านสะดวกซื้อที่ตั้งอยู่ตามอาคารทั่วไป เปิดขายตลอด 24 ชั่วโมง

ร้านขายผลไม้เล็ก ๆ แห่งหนึ่ง  ส่วนราคาขายในปัจจุบัน น่าจะขึ้นตามค่าเงินที่เปลี่ยนไปแล้ว 




มหาวิหารคาซาน (Kazan Cathedral)


ชาวรัสเซียกับชุดแต่งกายที่นิยมใส่กันในปัจจุบัน และ ชาย-หญิง ที่ใส่ชุดย้อนยุค
(น่าจะเลียนแบบซาร์ปีเตอร์ และแคทเธอรีน) มาเป็นแบบถ่ายรูปคู่กับนักท่องเที่ยว


ลานน้ำพุหน้ามหาวิหารคาซาน และรูปทรงหัวมุมที่โดดเด่นของ Singer House บนถนนเนฟสี้ 


ลีมูซีนสีขาวสำหรับใช้เดินทางระหว่างพิธีแต่งงาน จอดอยู่ตรงหน้า โบสถ์แห่งหยดเลือด (Church on Spilled Blood)



บริเวณด้านใน สวน Mikailovsky ที่อยู่ด้านข้างโบสถ์แห่งหยดเลือด


คู่สมรส กับบรรดาญาติพี่น้องและเพื่อนฝูง ที่กำลังพากันเดินหาสถานที่ถ่ายรูปกันในสวน
ฉันเดาว่าน่าจะมากับรถลีมูซีนคันยาวที่จอดอยู่ตรงข้างโบสถ์ฯ


เรื่องราวทั่วไปของเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก 


เมืองนี้ตั้งได้ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1703 โดยซาร์ปีเตอร์มหาราช ปฐมกษัตริย์แห่ง
ราชวงศ์โรมานอฟ จากความประสงค์ที่ต้องการให้รัสเซียมีพื้นที่ออกสู่ทะเล เพื่อ
ที่จะให้ได้ติดต่อกับยุโรปและประเทศต่าง ๆ ได้ง่าย ในอดีตนั้นพื้นที่แห่งนี้เคยเป็น
ดินเลนและมีสภาพเป็นหนองเป็นบึง ดังนั้นจึงต้องมีการถมที่ใหม่แทบทั้งหมด

สารคดีก่อร่างสร้างอาณาจักร (ช่วงนาทีที่ 18.59) :
https://youtu.be/557yy0Exu4A?t=18m59s




ต่อมาเมืองนี้ก็ได้สถาปนาขึ้นเป็นเมืองหลวงแทนกรุงมอสโก ในปี ค.ศ. 1712
จนมาถึงปี ค.ศ. 1918 หลังจากที่ระบบการปกครองถูกเปลี่ยนแปลง สถานภาพ
เมืองหลวงของจักรวรรดิรัสเซีย ที่ดำเนินมานานถึง 206 ปี ก็ต้องยุติบทบาทลง
และกรุงมอสโก ก็ได้กลับมาดำรงสถานะของเมืองหลวงของรัสเซียอีกครั้งจนถึง
ปัจจุบัน


เริ่มแรกชื่อของ เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก หรือ Санкт-Петербу́рг ตั้งมาจากชื่อ
ของซาร์ปีเตอร์มหาราช ผู้สร้างเมืองนี้ 
โดยคำว่า burg มาจากภาษาเยอรมัน
แปลว่าเมือง ซึ่งก็มีความหมายที่เข้าใจโดยง่ายว่าเป็น เมืองของซาร์ปีเตอร์

เมื่อเข้าสู่ช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ก็เกิดมีกระแสเรียกร้องให้เกิดความ
รู้สึก
รักชาติและต่อต้านเยอรมนีเกิดขึ้น ชื่อเดิมที่หยิบยืมภาษาเยอรมัน จึงถูก
เปลี่ยน
การเรียกให้เป็นภาษารัสเซีย คือ เปโตรกราด

แต่แล้วชื่อของเมืองถูกเปลี่ยนใหม่อีกครั้งเป็น เลนินกราด ในช่วงปี ค.ศ. 1924-1991
เพื่อเป็นเกียรติแก่ เลนิน 
(Vladimir Lenin) ผู้นำการปฏิวัติฯ และหัวหน้าพรรคบอลเชวิก 

ท้ายที่สุดจนถึงทุกวันนี้ เมืองของปีเตอร์ ก็ได้กลับมาใช้ชื่อแรกดังเดิม นับตั้งแต่
ปี ค.ศ. 1991 ตามการลงมติของรัฐสภา โดยมีชื่อเรียกเล่นสั้น ๆ ว่า 'ปีเตอร์'  



นับจากปีที่สหภาพโซเวียตล่มสลายไปจนถึงปีที่ฉันเดินทาง ก็ห่างกันนานถึง
22 ปีมาแล้ว แต่เชื่อมั้ยล่ะ...ขณะเมื่อฉันยังเดินทางอยู่บนขบวนรถไฟที่จะวิ่งมายัง
มอสโก ชาวรัสเซียบางคนที่ได้เข้ามาพูดคุยด้วย ได้ถามว่าฉันจะไปที่ไหนต่อจากนี้
และเมื่อฉันบอกชื่อเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ... ชายคนนั้นได้พูดถึงเมืองดังกล่าวนี้
ในอีกชื่อหนึ่งว่า "เลนินกราด" ทันที  อายุของคนที่พูดถึง นับดูแล้วก็น่าจะเกิดใน
ยุคที่เรียกว่า Baby boomer ตอนปลายล่ะนะ ... พอกลับ
มานึกถึงก็แอบขำ นี่ฉัน
กำลังนั่งคุยอยู่กับผู้คนเคยใช้ชีวิตช่วงหนึ่ง
ในสมัยโซเวียตจริง ๆ เรอะเนี่ย 







Create Date : 20 สิงหาคม 2561
Last Update : 22 กันยายน 2561 16:24:23 น. 9 comments
Counter : 1348 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณเริงฤดีนะ, คุณkae+aoe, คุณSweet_pills, คุณhaiku, คุณKavanich96, คุณภาวิดา คนบ้านป่า, คุณtoor36, คุณทุเรียนกวน ป่วนรัก, คุณMax Bulliboo


 
เที่ยวแบบคุณฟ้า... ได้พบเห็นอะไรเยอะมาก ๆ 555

ที่รัสเซีย ผมชอบ ถนนหนทาง กับ สานสาธารณะ..ที่มีมาก
เขียว ชะอุ่ม..

แต่จำประวัติศาสตร์เขาไม่ค่อยได้ แหะ ๆ ซื่อเจ้านายเขาซ้ำๆ
กันเยอะ

v


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 23 สิงหาคม 2561 เวลา:11:24:50 น.  

 
เมืองเขาน่าท่องเที่ยว
ในความยิ่งใหญ่ตั้งแต่สมัยราชวงค์จนถึงยุคคอมมูนิด
คอมมูหน่อย

ตามน้องฟ้ามาเที่ยวได้ทั้งความงดงามของบ้านเมืองและความรู้


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 23 สิงหาคม 2561 เวลา:15:17:43 น.  

 
เมืองสวย สวนสวย น่าเที่ยวมากค่ะน้องฟ้า
จะเดินริมคลอง เข้าชมวัง โบสถ์ พิพิธภัณฑ์
หรือซื้อของจากตลาดท้องถิ่นก็เป็นประสบการณ์ที่น่าเพลิดเพลินนะคะ

วันต่อๆไปที่น้องฟ้าต้องเจอหญิงชาวจีน
คนที่สื่อสารได้เฉพาะภาษาจีนและภาษารัสเซีย
ต้องอาศัยภาษามืออีกครั้งรึเปล่าคะ

นอนห้องรวมได้เพื่อนต่างชาติต่างภาษา
ถ้าเป็นสถานที่ที่ปลอดภัย ไว้ใจได้ การเข้าพักก็คงตัดความกังวลใจไปได้

ขอบคุณน้องฟ้าที่พาเที่ยวค่ะ



โดย: Sweet_pills วันที่: 24 สิงหาคม 2561 เวลา:1:09:24 น.  

 
ขอบคุณที่แบ่งปัน


โดย: Kavanich96 วันที่: 25 สิงหาคม 2561 เวลา:2:09:55 น.  

 
คนไทยมักจะโดนเหมาเป็นคนจีนบ้าง ไต้หวันบ้าง เป็นประจำครับ คนจีนพอรู้ว่าเราพูดภาษาจีนไม่ได้ แทนที่จะพูดภาษาอังกฤษ เขากลับพูดภาษาจีนให้ช้าลง? ไม่รู้ว่าคิดอะไร (อันนี้เพื่อนคนหนึ่งที่ไม่ได้ภาษาจีนเล่าให้ฟัง)

ดูเหมือนจะรู้สึกดีกับเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก มากกว่าสินะครับ

ทางม้าลายและสัญญาณไฟแดงของที่นี่ศักดิ์สิทธิ์มาก คือถ้าไม่ทำตามโดนตำรวจจับอย่างนั้นรึเปล่าครับ



โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 26 สิงหาคม 2561 เวลา:14:12:35 น.  

 
ท้องฟ้าปลอดโปร่งในทันทีเมื่อมีไชนีส..เอ้ย! คนไทยมาเยือน
ถือเป็นนิมิตรหมายอันดี อารมณ์ก็ดีตาม งั้นร้องเพลงเอาฤกษ์เอาชัยซะหน่อย
"เสมือนท้องฟ้าปลอดโปร่งทันใดดดดด . . . ซานต์ปีตีร์บรู้ก!"
^
^
^
(นั่นมันเพลงอังกอร์ต่างหาก วุ้ย! )

"เลนินกราด" What!?
ผ่านยุคมิลเลนเนียมมาตั้งเกือบ 20 ปีแล้ว ยังมีคนเรียกชื่อนี้อยู่อีกเหรอเนี่ย
คงหลงยุคประมาณ...คนที่เรียก จังหวัดพระนคร กับ จังหวัดธนบุรี มั้ง ^^"


ป.ล. ตามไปดูคลิปต้นฉบับใน Youtube
อ่านคอมเมนต์บนสุดที่ว่า "ดูเถอะครับอย่าอ่านคอมเม้น ยาอ่อนครับ"
พอไล่ดูคอมเมนต์ล่าง ๆ แล้ว ก็จริงของเขานะ 55


โดย: ทุเรียนกวน ป่วนรัก วันที่: 27 สิงหาคม 2561 เวลา:21:54:53 น.  

 
^
^

อืม เขียนคำว่า "นิมิตหมาย" ผิดแฮะ ดันเอาปนกับชื่อคน (ที่ทำงานด้วย) ที่ชื่อ "นิมิตร" ซะได้ ^^"


โดย: ทุเรียนกวน ป่วนรัก วันที่: 27 สิงหาคม 2561 เวลา:23:31:27 น.  

 
St.Petersburg เป็นที่ๆนึงที่อยากไปมาก แต่... รัสเซียกับเยอรมันรักกันจังในตอนนี้เราเลยต้อง รอ...ให้รักกันน้อยๆกว่านี้อีกนิด..55 อาจจะตัดสินใจไป ตอนนี้ขอเกาะขอบจออ่านและชมภาพไปพลางๆก่อน หุหุ
เคยไปดูพิพิธภัณฑ์ที่ออสเตรียมั๊งนานมาแล้ว เกี่ยวกับ มัมมี่..เค้าว่ากันว่า Lenin นี่คนรัสเซียโคตรรักเลยนะ ถึงกับเอาศพมาดองไว้และเชื่อว่าสักวัน ท่านเลนินจะพื้นคืนชีพกลับมาอีก.. ไม่ยักกะเหมือน "ท่านผู้นำ" ของเยอรมันที่ตายห้าไปนานแล้ว ก็ยังโดนด่าไม่เลิก 555 เห้ยยย นอกเรื่องๆๆ อ่ะโหวตจ้า คิดถึงน๊าาาาา


โดย: Max Bulliboo วันที่: 29 สิงหาคม 2561 เวลา:19:25:12 น.  

 
"ปรีเวียต"
"ไตลาน".....
ไทยสกิ้ "คนไทย"
ลุงแอ็ดโชคดี อะไร?เช่นนี้ ทั้งๆที่หลานฟ้ากาบริเอล เคยไปเยี่ยมถึงบ้าน(บล๊อก)แต่ลุงแอ็ด ก็มัวแต่สาระวนกับ การจัดรูปแบบ"บล๊อก"ให้ลงตัว...เฮ้อ...คนสว.ปี2019...

ลุงแอ็ดจะคอย"มีฝัน" ที่จะได้รับ ความไว้วางใจ ในการไปผจญภัย ที่น้อยคนนักที่จะทำได้(โดยเฉพาะไตลาน)เหตุนั้น ลุงแอ็ดจึงส่งสารไปถึง เพื่อนที่อยู่บนฟ้า ทดลองลุยก่อน ว่าจะเครกันได้หรือไม่? ทั้งนี้และทั้งนั้น เพราะลุงแอ็ดนั้น เคารพสิทธิ์ส่วนบุคคลอย่างยิ่งยวด,

การท่องไปในโลกกว้าง ในทุกครั้งที่พบชาวโลกฯลฯ มาท่องเมืองไทย มากินอาหารไทย มาแต่งงานกับสาวไทย ลุงแอ็ดก็สงสัย ทำไม?พวกเขาจึงมาไกลถึงเพียงนั้น,(หลานสาวลุงแอ็ดก็เธอหนึ่งไปอยู่ถึงถิ่นยุโรป)นอกเรื่องแล้วลุง....

ขอคาระวะ หลานสาวผู้พาทัวร์ ในโลกโซเซียลมีเดีย ได้แสนวิเศษยิ่งนัก....



โดย: ธนู ลุงแอ็ดชวนเที่ยว (สมาชิกหมายเลข 4365762 ) วันที่: 21 มกราคม 2562 เวลา:2:51:36 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

กาบริเอล
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 58 คน [?]




ชอบต้นไม้, แมว, หนังสือ
และออกเดินทางท่องเที่ยวบ้าง

ไม่ชอบพบปะผู้คนมากนัก
เป็นมนุษย์จำพวก introvert

การเขียนบล็อก
คืออีกพื้นที่บอกเล่าผ่านตัวอักษร
และตัวตนของเราก็อยู่ในสิ่งที่เขียนค่ะ

ขอบคุณ Bloggang
สำหรับพื้นที่แบ่งปันตรงนี้

....

เริ่มต้นลงบันทึกอย่างเป็นทางการ
ณ วันที่ 16 ม.ค. 2014


###ไม่สะดวกพูดคุยหลังไมค์นะคะ###

© ขอสงวนลิขสิทธิ์ ภาพถ่าย 
ห้ามนำไปใช้ ดัดแปลง แก้ไข 
โดยไม่แจ้งที่มา ก่อนได้รับอนุญาต


New Comments
Friends' blogs
[Add กาบริเอล's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.