Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2558
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
23 กรกฏาคม 2558
 
All Blogs
 
[R]ตะลอนนั่งรถไฟไปรัสเซีย 04 - เดินตามรางสู่ มองโกเลีย (I)




ฉันตื่นมาตอนตีสี่ของเช้าวันพุธ ตามที่ได้แจ้งบอกให้ที่พักโทรปลุกเรียก 
แถมยังมีนาฬิกาอีกสองเรือนที่ใช้ตั้งเตือนในเวลาไล่เลี่ยกันอีก นี่ถ้าต้องมา
ตกรถไฟเพราะตื่นสาย ก็คงไม่รู้จะว่ายังไงแล้วล่ะ

ฉันเก็บข้าวของทุกอย่างลงกระเป๋าและเตรียมตัวพร้อมเป็นที่เรียบร้อย
ตั้งแต่เมื่อคืน ดังนั้นหลังอาบน้ำก็มีเวลาเหลือเฟือ เลยได้เปิดช่องโทรทัศน์
ดูแก้เหงารอเวลาไปพลาง ๆ ก่อนแม้จะฟังอะไรไม่ออกสักคำก็ตาม

ส่วนเสียงฆ้องจีนที่ตีบอกเป็นทำนองทุกชั่วโมง
จากสถานีรถไฟฝั่งตรงข้าม
ก็ยังทำหน้าที่ของมันอย่างไม่บกพร่อง เฮ้อ...ฉันมาปักกิ่งอย่างเสียเที่ยวมากเลย
เพราะฝนที่ตกกระหน่ำลงอย่างไม่ลืมหูลืมตา ก็ทำให้แผนการเดินทางล่มอย่าง
ไม่เป็นท่าตั้งแต่เช้าของเมื่อวาน กระทั่งวันนี้ก็ด้วย 
แต่ผิดตรงที่ว่าเช้านี้จะมามัว
กลัวฝนไม่ได้แล้วนะ
ยังไงก็ต้องไปจากที่นี่ให้ได้ เปียกเป็นเปียกเอาสิ!

ช่วงตีห้าครึ่งมีหลายคนพากันลงมาเช็คเอ้าท์ประมาณ 6 ราย พร้อมกับฉัน 
และเงินค่ามัดจำคีย์การ์ดที่ได้มาในตอนนี้ 100 หยวนก็ไม่รู้ว่าจะได้เอาไปใช้
อีกเมื่อไหร่?
ในเมื่อหลังจากนี้ฉันกำลังจะเดินทางออกไปจากประเทศจีนแล้ว





ฉันเดินกางร่มข้ามสะพานลอยมาอย่างไม่รีบร้อน ส่วนพื้นผิวทางเดิน
ก็ดูน่าลื่นพอสมควร 
มีคนจำนวนมากมายืนต่อคิวยาวเหยียดที่หน้าทางเข้า
ตั้งแต่เช้ามืด และ
ฉันก็เดาว่า ... พวกเขาคงมารอซื้อตั๋วรถไฟกัน 

ด้านข้างสถานีฯ จะมีมินิมาร์ทเล็ก ๆ ตั้งอยู่ มีผลไม้ และของกินเล็กน้อย 
ที่พอจะซื้อมากินเป็นมื้อเช้าได้  จนกระทั่งในเวลาหกโมงครึ่งหลังจากที่ยืน
หลบฝนที่เพิงร้านของของตรงนั้น 
ฉันก็ได้ยื่นตั๋วรถไฟให้กับคนที่ยืนเฝ้าประตู
ด้านข้าง ตรงทางที่ไม่มีคนมายืนออ 

คนที่ประตูมองหน้าฉัน พร้อมชี้บอกให้ไปเข้าคิว 
ตรงจุดที่ผู้คนมายืนมะรุมมะตุ้มกันนั่นแหละ 

อ้าว นั่นคือการต่อคิวเพื่อเข้าไปยังสถานีฯ เหรอเนี่ย !?

ฉันไม่มีเวลาแม้แต่จะคิดกางร่ม และวิ่งไปอยู่ท้ายแถวเพื่อรอเข้าคิว
ตรวจหนังสือเดินทางกับตั๋วรถไฟ ที่มันจะต้องมีระบุยืนยันไว้ก่อนที่จะได้รับ
อนุญาติให้เข้าไปยังพื้นที่ด้านในได้ พวกคนด้านหลังพยายามเบียดแซงขึ้นมา
และดูเหมือนจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้แถวขยับไวขึ้น ซึ่งนั่นคือความวุ่นวายที่
ส่งผลให้ทุกอย่างมันช้าลงมากกว่า 

และฉันกำลังเข้าสู่ห้วงภวังค์แห่งด้านมืด
ที่เริ่มออกแรงผลัก เตะ เบียด ไปกับพวกเขา
แน่นอนว่าไม่มีใครตะโกนด่ากลับ หรือหันมาตบตี
เพราะคนที่นี่มีเพียง
เป้าหมายที่อยู่ข้างหน้าเท่านั้น

คือตรูต้องได้ ๆๆ
กฏของที่นี่คงไม่ต้องตีความมากไปกว่า

"อ่อนแอก็แพ้กันไป" 

ซึ่งก็ตรงตามทฤษฎีของ ชาร์ล ดาร์วิน ฺ
ที่ว่าถึง Survival of the fittest
"ผู้ที่แข็งแรงกว่าก็คือผู้รอดเสมอ"
ไงล่ะ


พอหลังจากที่ต้องผ่านเครื่องตรวจจับอาวุธแล้ว ทุกอย่างก็เข้าสู่สภาวะปกติสุข
จากทางเข้าจะมองเห็นกระดานประชาสัมพันธ์ แจ้งบอกจุดรอรถไฟหมายเลข K3
ให้ขึ้นบันใดไปยังฝั่งซ้าย 






หลังจากนี้ก็ไม่มีใครต้องยื้อแย่งกันแบบด้านนอกแล้ว พื้นที่ภายในช่างดูสงบเงียบ
ฉันหาที่นั่งพักวางกระเป๋าเพื่อรอเวลาเดินทางราวครึ่งชั่วโมงข้างหน้าที่จะมาถึง 
แต่ก็ยังได้เห็นหลายคนจูงกระเป๋า พาวิ่งหน้าตั้ง เร่งฝีเท้า พร้อมทะยานไปตาม
เสียงประกาศของขบวนรถไฟที่ชานชาลาอื่นกันอย่างอุตลุตผ่านหน้าไป คงเพราะ
พวกเขาอาจมาถึงที่นี่ช้ากว่าเวลา 

มีป้าคนหนึ่งมารอรถไฟเหมือนกัน เธอนั่งอยู่ถัดจากฉันไปม้านั่งเดียวเอง
ก็พอคุยด้วยได้นิดหน่อย เพราะข้อจำกัดทางการสื่อสารที่ดูจะเป็นกำแพง-
หนาเตอะ
เสียเหลือเกิน และนี่อาจเป็นวันสุดท้ายที่ฉันจะมีโอกาสพูดและฟัง
ภาษาจีน  

"หว่อ ไท่กั๋วหลาย จะไป อูลันบาตอร์"

ฉันพูดไปตามที่ว่าแหละ ก็แค่พยายามไม่ให้ต้องมานั่งเหงาเท่านั้น
ได้ผลแฮะ ป้าสะกิดบอกลุงสองคนที่นั่งข้าง ๆ บอกว่าฉันเป็น ไท่กั๋ว 
ลุงดูแปลกใจก่อนจะหันมาทักคุยคงไม่นึกว่าจะเป็นคนต่างชาติ
ถึงแม้ว่าหน้าตาอย่างฉันจะไม่ได้ดูจีนอะไรนัก แต่เมื่อเวลาที่มาอยู่เมืองจีน 
กลับได้เห็นผู้คนบนแผ่นดินใหญ่ที่มีหน้าตาและสีผิว ไม่ต่างไปจากฉันเยอะอยู่



ส่วนฝั่งที่นั่งตรงข้ามก็มีชาวต่างชาติมานั่งคอยรถไฟเหมือนกัน เขามีเป้ใบโต
สำหรับเดินทาง และถุงพลาสติกใบโตที่หอบหิ้วเอา
บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบถ้วย
ตุนไว้เยอะไปหมด ดูเหมือนว่าจะเผื่อไว้ได้นานเกือบ
อาทิตย์นึง

ก็เดาไม่ถูก ว่ากำลังจะเดินทางไกลไปที่ไหนกัน

สักพักก็มีชายคนหนึ่งสวมชุดวอร์มคล้ายกับจะไปแข่งกีฬา พร้อมถือแฟ้ม
รายชื่อบางอย่าง
ตรงเข้ามาหาคุณป้าและคุยอะไรบางอย่างจากนั้น ป้าก็ส่าย
หน้าปฏิเสธ  ดังนั้น
เขาจึงหันมาทางฉันแทน

ที่แฟ้มนั้นมีการเซ็นกำกับพร้อมเขียนชื่อลงไป จะเพื่ออะไรก็ตามแต่ 
ชายคนนั้นยกนิ้วโป้ง "เยี่ยม" ให้ คล้ายว่าจะขอลายเซ็นจากฉันด้วย
ไม่มีอะไรเขียนแจ้งกำกับบอกถึงวสิ่งนี้เลยว่ามันคืออะไร ฉันไม่อยากสุ่มเสี่ยง
ทำอะไรโดยไม่รู้ความ
โดยเฉพาะการลงนามที่เป็นลายลักษณ์อักษรแบบนี้
และแน่นอนว่าฉันปฏิเสธ

หลังจากนั้น เขาเดินไปยังที่นั่งอื่น ๆ พร้อมกับยกนิ้วโป้ง 
ทักทายคนที่นั่งก่อนที่จะทำแบบเดียวกันแบบเมื่อครู่นี้เช่นกัน



เอาล่ะ นั่นก็เป็นเรื่องราวที่ฉันได้พบเจอระหว่างที่รอในสถานีรถไฟจีน
และเมื่อถึงเวลาที่ต้องเดินทางแล้ว ก็มีเจ้าหน้าที่ออกมายืนที่หน้าทางเข้า
เพื่อชั่งน้ำหนักข้าวของที่ผู้โดยสารจะนำไปขึ้นรถไฟ 
ก่อนจะปล่อยผ่านไปที
ละราย ๆ กระทั่งได้เห็นตาฝรั่งคนที่นั่งฝั่งตรงข้ามเดินย้ายที่มาต่อแถวที่ว่าด้วย 

ช่วงนี้ไม่ใช่ฤดูกาลท่องเที่ยวแบบหน้าร้อน เส้นทางนี้จึงมีแต่ชาวจีน
และชาวมองโกเลีย เกือบทั้งนั้น 
ฉันไม่รู้ว่าเพื่อนร่วมห้องของตัวเอง
จะเป็นใครกัน? 
หรืออีก 29 ถัดชั่วโมงถัดไปหลังจากนี้
มันอาจจะเงียบเหงาไปจนสุดทาง



ชั้นนอนของรถไฟเที่ยวนี้ แบ่งออกเป็น 3 ระดับ คือ 

Hard Sleeper  4 เตียง ห้องธรรมดา 
Soft Sleeper   4 เตียง มีขนาดห้องกว้างกว่าตัวเลือกแรก  
1st Class 2 เตียง พร้อมอ่างล้างหน้า ห้องน้ำในตัว (และแพงสุด)

ฉันจองชั้นนอน Hard Sleeper เพื่อจะได้ประหยัดค่าเดินทาง 
เจ้าห้องสี่เหลี่ยมนี้ มีพัดลม ไฟที่หัวเตียง วิทยุ และ มีกระจกบานใหญ่
ที่ประตูด้านใน
จะไว้สะท้อนวิวจากหน้าต่างหรือส่องดูหน้าตัวเองก็ใช้ได้ดีพอกัน 

ตรงโต๊ะริมหน้าต่างมีจานเหล็กขนาดกลางที่ประทับตราค้อนกับเคียวและ
กาใส่น้ำร้อน 
อีกทั้งทุกตู้ขบวนรถไฟก็จะมีน้ำร้อนให้กดบริการตลอด 24 ชั่วโมง


ไม่นานนักหลังจากที่เริ่มเดินทาง ก็จะมีเจ้าหน้าที่เดินมาเก็บตั๋วโดยสาร
พร้อมกับนำกระดาษสีแปร๋นสองใบซึ่ง
เป็นคูปองแลกอาหารมื้อกลางวัน-เย็น
ที่จะมีบริการให้ตามเวลากำหนดสำหรับวันนี้เท่านั้น 




ขบวนรถไฟ K3 วิ่งตรงจาก ปักกิ่ง ประเทศจีน ในทุกวันพุธเวลา 8.05 น. 
ไปถึงอูลันบาตอร์ ประเทศมองโกเลีย ที่เวลา 14.20 น. ของวันถัดไป (พฤหัสฯ)**
โดยจุดหมายปลายทางของเจ้ารถไฟสีเขียวเส้นนี้จะจบลงที่ 
มอสโก
ประเทศรัสเซีย
ในยามบ่ายของวันจันทร์ ซึ่งกินเวลาวิ่งยาวนานไปถึง 6 วัน
และบนเส้นทางนี้จะมีชื่อเรียกว่า Trans-Mongolian Railway







วิวจากหน้าต่างรถไฟได้พาไปเห็นทุ่งกว้างที่อยู่นอกเขตเมืองผ่านพื้นที่ชนบทจีน
ที่ดูเป็นภาพน่าเหลือเชื่อ เพราะเพิ่งจะหลุดออกไปจากตัวเมืองปักกิ่งไม่นาน
เท่าไหร่นัก แม้บางครั้งอาจมีเข้าจอดรับผู้โดยสารที่สถานีฯ ในตัวเมืองบ้างสลับ
กันไปมาบ้างก็ตาม

ฉันอาจเกิดอาการตื่นรถไฟครั้งนี้มากกว่าครั้งไหน ๆ เลยเปิดห้องดูภาพผ่านทาง
รถไฟทั้งจากหน้าต่างห้องและนอกห้องทั้งคู่ เพราะตอนนี้ยังได้ครองห้องที่อยู่
คนเดียว
แต่ใช่ว่าจะอยู่นิ่ง ๆ ได้หรอกนะ บางทีก็ออกไปเดินเล่นที่ระเบียงนอก
ห้องแก้เมื่อยบ้าง

ชาวต่างชาติคนที่เจอเมื่อเช้านี้ก็อยู่ในตู้ขบวนเดียวกันกับฉัน เขาพักห้องด้านข้าง 
พร้อมกับสองสาวมองโกเลีย ที่วุ่นวายกับการเปิดกระเป๋า ทำธุระส่วนตัวอะไร
บางอย่าง และนั่นก็คงเป็นสาเหตุที่เขาต้องปลีกตัวออกมาด้านนอก

ถึงภาษาอังกฤษจะเป็นไม้เบื่อไม้เมากับฉันมาโดยตลอดตั้งแต่จำความได้  
แต่นี่คงไม่มีทางเลือกไหนที่ดีไปกว่านี้ หากไม่อยากใบ้กินไปตลอดการเดินทาง  

"สวัสดี นายจะไปลงที่ไหน?" ฉันลองพูดทักไป 

ที่จริงแล้วนับตั้งแต่มาถึงปักกิ่ง ฉันแทบไม่ได้พูดกับใครได้ครบประโยคเสียที

"มอสโก" เขาหันมาตอบอย่างว่องไว  "จากนี้ก็อยู่ยาวต่อไปอีก 5 วันเลยนะ" 

อืม...แค่เห็นจำนวนบะหมี่ที่เตรียมมาก็ดูไม่น่าสงสัย 
แต่ไม่คิดเลยว่าจะมีใครจะบ้านั่งยาวไปสุดทางด้วย

"แล้วเธอจะไปลงที่ไหน?" เขาถามกลับ

แน่นอนว่า ถึงเราจะอยู่บนรถไฟขบวนเดียวกันก็จริง
แต่คงจะน้อยครั้งเท่านั้นที่จะเจอคนร่วมจุดหมายเดียวกัน

"อูลันบาตอร์ แต่อยู่แค่ 2-3 วัน แล้วค่อยไปต่อที่รัสเซีย"

แล้วเราพบว่าการขอวีซ่าเข้าเมืองจีนเป็นสิ่งที่โคตรยุ่งยาก
หากเป็นพวก Backpacker ด้วยแล้ว 

"ที่รัสเซีย เราแค่ทำเรื่องผ่านเอเจนซี่ เลยไม่วุ่นวายเท่าไหร่ 
ส่วนมองโกเลียก็ทำ visa แบบ transit เพราะอยู่แค่สองวันเอง"

เขาเริ่มร่ายเรื่องดังกล่าวให้ได้รู้

"แต่ จีน นี่สิ ไม่ได้ถามแค่ว่ามากี่วันพักที่ไหนแล้วจบนะ โดนถามขนาดว่า
มาทำอะไรในแต่วัน ผมไม่เคยเห็นที่ไหนถามเยอะขนาดนี้เลยนะ !!  
ที่จริงเขียนบอกไปด้วยว่าจะแวะเที่ยวทิเบตด้วย เขาก็ดันให้ผ่านโชคดีมาก" 

โอ้โห ขนาดว่าเจ้าตัวทำเรื่องผ่านตัวแทนฯ ทั้งหมดแล้วนะ
ก็ยังมีแอบบ่นอีก
หลังจากนั้นเขาก็ย้อนกลับมาถามข้อมูลของฉันบ้าง

"แล้ว....คนไทย ทำ visa รัสเซีย ผ่านตัวแทนยังไง?"  

"ทำแค่ visa เข้าจีน อย่างเดียว ส่วน มองโกเลีย กับรัสเซีย ฉันเข้าได้เลย"

คงเป็นครั้งแรกที่หมอนั่นรู้ว่าเส้นทางนี้ คนไทยมีสิทธิพิเศษ 
แถมอยู่ได้นานอย่างละ 30 วัน เสียด้วย 

"จริงดิ?"  

เพื่อนข้างห้องคนนี้ชื่อสตีฟเฟ่น อายุ 27 ปี มาจากประเทศเยอรมนี
ซึ่งออกเดินทางเป็นแรมเดือนหลังเรียนจบ 
เขาเดินทางย้อนเส้นทางของฉัน
จาก
เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก จนมาถึง ปักกิ่งและตั้งใจจะนั่งรถไฟต่อ
มายังภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่กลับเปลี่ยนใจเสียก่อน 

เลยคิดนั่งรถไฟกลับไปมอสโกเพื่อไปยุโรปตะวันออกแทน
และกลับบ้านหลังจากนี้

น่าอิจฉาชะมัด!


แต่การสนทนา หยุดลงกระทันหัน ...เมื่อมีเสียงโวยวายหวีดร้องดัง
มาจาก
ห้องสตีฟเฟ่น  นั่นคือสองสาวมองโกเลียเพื่อนร่วมห้องของเขา
ที่กำลังตกอยู่ในภาวะตกใจกับอะไรบางอย่าง

มีจิ้งจกตัวหนึ่ง โผล่ออกมาจากชั้นนอนได้ไงไม่รู้ พวกเธอเลยขอเจ้าหน้าที่ผู้
ดูแลตู้ขบวน เพื่อย้ายไปอยู่ห้องอื่นที่ยังว่างอยู่แทน เพราะเที่ยวโดยสารวันนี้
ยังมีห้องว่างเหลืออยู่ ซึ่งก็
คงจะพอหยวน ๆ กันได้

สตีฟเฟ่น จึงขอตัวเข้าไปช่วยยกข้าวของออกให้โดยไว 
ก็ไม่รู้ว่าจะแอบดีใจด้วยหรือปล่าวนะ 
เพราะสุดท้ายแล้ว
เขาก็ได้ครองห้องคนเดียวเหมือนกับฉัน

หลังจากนั้นเราก็แยกตัวกลับไปประจำห้องใครห้องมัน  
เขาเลยแนะนำเรื่องหนึ่งทิ้งท้ายไว้ ตามประสาคนที่เคยเดินทางเส้นนี้มาก่อน

" อีก 4 ชั่วโมง หลังจากนี้วิวจะเปลี่ยนไป
ถ้าโชคดีหน่อย เธอก็จะได้เห็นกำแพงเมืองจีนด้วย..." 






เส้นทาง อื่นๆ

* "Trans -Siberian Railway"

เป็นเส้นทางเชื่อม ระหว่าง Moscow - Vladivostok

"Trans - Manchurian Railway" 

เชื่อมเส้นทางระหว่าง Beijing - Moscow แต่จะวิ่งออกไปทาง 
เมือง Harbin และต่อเข้าเขต รัสเซีย โดยตรง (ไม่แวะผ่านประเทศมองโกเลีย)


*ตั๋วรถไฟไปมองโกเลีย

มีจำหน่ายที่  China International Travel Service (CITS)

สามารถซื้อได้ที่ปักกิ่งโดยตรง

ที่อยู่ : บริเวณ ชั้น 1, Beijing International Hotel, 9 Jianguomenwai Dajie 


*เที่ยวรถไฟที่ออกจากปักกิ่งจะมีดังนี้คือ

K23 : ฺBeijing - Ulanbaatar (ปี 2013) ออกทุกวันอังคาร
อาจมีการเปลี่ยนแปลงตารางการเดินรถ สามารถตรวจสอบได้
จากลิงค์

https://www.cits.net/international-trains/beijing-ulanbator-k23.html


K 19 : Beijing - ( via Harbin ) - Moscow  

K 3   : Beijing - (via Ulanbaatar) - Moscow ออกทุกวันพุธ
(หากไม่อยากแวะที่มองโกเลียก็นั่งยาวไปรัสเซียเลยก็ได้)
ตรวจสอบรายชื่อเมืองและค่าโดยสาร จากลิงค์นี้


https://www.cits.net/international-trains/beijing-moscow-k3.html





Create Date : 23 กรกฎาคม 2558
Last Update : 21 ตุลาคม 2560 18:16:20 น. 6 comments
Counter : 1964 Pageviews.

 
อม้จะอยู่คนละเมือง ซึ่งห่างใกล้กันมาก แต่บรรยากาศตอนฝนตกดูคล้ายกัน ผมไม่ชอบมากๆ เวลาฝนตกแบบนี้มันทำให้เราไปเรียนลำบาก

คิดเหมือนผมเลย มัดจำก็ซื้อของแถวๆ นั้นแหละ ประสบการณ์รถไฟจีนบล็อกนี้ยังถือว่าดี ผมว่ามันบ้าสุดๆ แล้วที่มีตั๋วยืนแบบ 20 ชั่วโมง แล้วก็มีคนยืนด้วยนะเออ (เพื่อความประหยัด) แน่นอนว่ามากกว่า 20 ชั่วโมงก็น่าจะมี

พอออกนอกเมืองแล้วก็เป็นอย่างที่เห็นแหละครับ

เรื่องวีซ่า ต้องมีตั๋วพร้อม ที่พักอาศัยพร้อมไม่งั้นขอยากจริงๆ


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 27 กรกฎาคม 2558 เวลา:23:15:30 น.  

 
โห ตั๋วยืนที่มากกว่า 20 ชั่วโมง
บ้าไปแล้ววว




โดย: กาบริเอล วันที่: 28 กรกฎาคม 2558 เวลา:9:31:05 น.  

 
หา! แค่เหยียบเท้าเนี่ยถึงกับเตะก้านคอกันเลยเหรอครัช แหง่ม ขาโหด >"<

//ถ้าแมวกัดเท้าจะโดนขนาดไหน!!!!

หว่อ ไท่กั๋วหลาย (ฉันมาจากประเทศไทย) ต่างหาก อิอิ


มะไหร่ไปอีกพาพี่ไปด้วยนะ นะนะนะนะ อยากไป



โดย: น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา วันที่: 30 กรกฎาคม 2558 เวลา:10:15:36 น.  

 
ตอนนั้นอิทธิฤทธิ์ไม่เยอะนะ
อาศัยสุมๆเนียนๆแอบสกัดขาบ้าง
เบียดคืนบ้าง ว๊ากกลับบ้างอะไรก็ว่ากันไป 555

แก้ที่คำแปลออกละ ขอบคุณมากที่มาบอก

จำสับสนไปหลายคำจริงๆ มึนไง ...



โดย: กาบริเอล วันที่: 30 กรกฎาคม 2558 เวลา:11:07:32 น.  

 
พี่อ่านอย่างเดียว ไม่มีความเห็นอะไรเลยจ้ะ




โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 4 สิงหาคม 2558 เวลา:15:27:26 น.  

 
ลุงแอ็ดหมดสิทธิ์ ที่จะลุยแบบนี้จรินๆ....
เก่งมั้กๆมาก
เป็นประสบการณ์ อันมีค่ายิ่งนัก
ที่หญิงไทยน้อยนาม จะเดินตาม"ฝัน"ได้เช่นนี้....
ปล.
ลุงแอ็ดขอชื่นชม ความเก่งและกล้า


โดย: ลุงแอ็ดลุยเดี่ยว (สมาชิกหมายเลข 4365762 ) วันที่: 13 มกราคม 2562 เวลา:13:51:52 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

กาบริเอล
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 58 คน [?]




ชอบต้นไม้, แมว, หนังสือ
และออกเดินทางท่องเที่ยวบ้าง

ไม่ชอบพบปะผู้คนมากนัก
เป็นมนุษย์จำพวก introvert

การเขียนบล็อก
คืออีกพื้นที่บอกเล่าผ่านตัวอักษร
และตัวตนของเราก็อยู่ในสิ่งที่เขียนค่ะ

ขอบคุณ Bloggang
สำหรับพื้นที่แบ่งปันตรงนี้

....

เริ่มต้นลงบันทึกอย่างเป็นทางการ
ณ วันที่ 16 ม.ค. 2014


###ไม่สะดวกพูดคุยหลังไมค์นะคะ###

© ขอสงวนลิขสิทธิ์ ภาพถ่าย 
ห้ามนำไปใช้ ดัดแปลง แก้ไข 
โดยไม่แจ้งที่มา ก่อนได้รับอนุญาต


New Comments
Friends' blogs
[Add กาบริเอล's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.