Giants of Asia.. ยักษ์ใหญ่แห่งเอเชีย
โดย อนุชา ทองเติม
| ด้วยภาพลักษณ์และสไตล์การบริหารประเทศที่แตกต่าง อีกทั้งยังเป็นผู้นำที่ส่งผลสะเทือนมากที่สุดในเอเชีย ผู้นำอย่าง ลี กวน ยิว แห่งสิงคโปร์ มหาธีร์ โมฮัมหมัด แห่งมาเลเซีย และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ของประเทศไทย จึงเป็นที่สนใจของนักข่าวผู้มากด้วยประสบการณ์อย่าง ทอม เพลต
ทอม เพลต เป็นนักข่าวอเมริกัน ผู้มากด้วยความรู้ เคยคลุกคลีกับผู้นำหลายประเทศในเอเชีย ได้สัมภาษณ์และจัดทำ หนังสือชุด "Giants of Asia" หรือ "ยักษ์ใหญ่แห่งเอเชีย" บอกเล่าเรื่องราวและมุมมองชีวิตของผู้นำทั้ง 3 ท่าน ออกมาเป็นหนังสือชุด 3 เล่ม ประกอบด้วย 1."จับเข่าคุย ลี กวน ยิว" 2."จับเข่าคุย มหาธีร์ โมฮัมหมัด" 3."จับเข่าคุย ทักษิณ ชินวัตร"
ต่อมาหนังสือดังกล่าวมีการแปลเป็นภาษาไทยโดย สำนักพิมพ์มติชน เพิ่งเปิดตัวในงาน "สัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่ 40 และงานสัปดาห์หนังสือนานาชาติ
ครั้งที่ 10" ภายในงานเปิดตัวมีวิทยากรร่วมการเสวนา เช่น สุรนันทน์ เวชชาชีวะ นงนุช สิงหเดชะ ผู้แปลหนังสือ และอาจารย์ พิชญ์ พงษ์สวัสดิ์ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งทั้ง 3 ท่านได้แสดงทรรศนะต่อ หนังสือชุด "Giants of Asia" ได้อย่างน่าสนใจ
หากพูดถึงลี กวน ยิว เราจะนึกถึงท่านผู้นำที่ทรงอำนาจมากที่สุดของสิงคโปร์ และยังเป็นผู้นำที่สร้างการเปลี่ยนแปลงขึ้นอย่างมากมาย "มหาธีร์ โมฮัมหมัด" เป็นผู้นำที่มีบทบาทมากคนหนึ่งในมาเลเซีย แม้ว่าจะลงจากอำนาจนานหลายปีแล้ว แต่บารมีอันสูงส่งก็ยังคงติดตัวเขาอยู่จนถึงทุกวันนี้
ส่วน พ.ต.ท.ทักษิณ สำหรับคนไทยแล้วคงไม่ต้องพูดอะไรมาก เพราะเป็นที่ทราบกันดีถึงบทบาทและความโดดเด่น
นงนุช สิงหเดชะ เล่าถึงหนังสือชุดนี้ว่า หนังสือชุด "Giants of Asia" เริ่มจากการสัมภาษณ์ลี กวน ยิว แล้วต่อด้วยมหาธีร์ โมฮัมหมัด จากนั้นทอม เพลต ก็มองหาว่าใครอีกที่เป็นผู้นำที่มีผลสะเทือนมากที่สุดในเอเชีย จึงเป็นที่มาของการสัมภาษณ์อดีต
นายกฯ ทักษิณ ชินวัตร เป็นการรวมผู้นำทั้ง 3 ท่านที่มีทั้งคนรักและคนเกลียด ผู้นำที่มีผู้เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย มีแง่มุมชีวิตและการบริหารประเทศที่น่าสนใจ
"สำหรับของคุณทักษิณถึงแม้ว่าเขาจะหมดอำนาจไปแล้ว แต่ก็เป็นที่ทราบกันดีว่าเขายังมีบทบาท และถือเป็นบุคคลที่อยู่ในความสนใจของคนไทยและคนทั่วโลก
"เมื่ออ่านจับเข่าคุย ทักษิณ ชินวัตร จะเห็นหลายแง่มุมที่คนไทยหลายคนไม่เคยทราบมาก่อน ซึ่งมีทั้งความรู้สึกลึกๆ ส่วนตัว และการใช้ชีวิตในแต่ละวัน และในขณะเดียวกันก็ มีหลายมุมที่คุณทักษิณเองก็ยอมรับว่าเคยทำผิดพลาด เป็นการบอกเล่าเรื่องราวชีวิตของคุณทักษิณเกี่ยวกับการถูกรัฐประหารได้เป็นอย่างดี" นงนุชกล่าว และอธิบายต่อ
"ทอม เพลต มีความเก๋า!! ในการทำงาน เขาจะมีการหลอกล่อเพื่อให้ผู้ถูกสัมภาษณ์ตายใจ จากนั้น ก็ยิงคำถามแบบที่ไม่ให้มีการตั้งตัว ในการทำงานเขาจะดูรายละเอียดค่อนข้างมาก ไม่ใช่เพียงแค่บทสัมภาษณ์ แต่หมายถึงบรรยากาศ สภาพแวดล้อมอื่นๆ รอบตัวผู้ถูกสัมภาษณ์ด้วย"
ในมุมมองของผู้อ่าน อาจารย์พิชญ์ พงษ์สวัสดิ์ เล่าว่า ก่อนที่จะมีการแปลเป็นภาษาไทยนั้น ได้เห็นหนังสือเล่มดังกล่าวฉบับภาษาอังกฤษที่วางขายอยู่ในประเทศสิงคโปร์ และในทันทีที่ได้เห็นหนังสือที่เกี่ยวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็รู้สึกตื่นเต้นมาก เมื่ออ่านก็ต้องลุ้นมากขึ้นอีกโดยเฉพาะในประเด็ดเกี่ยวกับการรัฐประหาร
"หนังสือชุดนี้ถ้าผมเป็นผู้แปลผมจะตั้งชื่อว่า "ทศกัณฐ์แห่งเอเชีย" เพราะโดยวัฒนธรรมของเราเวลาที่พูดถึงไจแอนท์ (Giants) เราก็จะนึกถึงทศกัณฐ์ ผมเคยคุยกับนักศึกษาชาวอินเดียเขาบอกว่า
ผู้หญิงอินเดียส่วนใหญ่จะชอบทศกัณฐ์ เพราะว่ามีความจริงใจ และไม่หนีปัญหา"
อ.พิชญ์เล่าต่อว่า "ความรู้ที่ได้รับจากการอ่านหนังสือชุดนี้ก็คือ สามารถอธิบายรูปแบบการเมืองของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้เป็นอย่างดี เช่น ในประเทศที่มีประชาธิปไตยต่ำ แต่ผู้นำมีอำนาจสูง ประเทศจะมีแนวทางในการพัฒนาต่อไปได้อย่างไร เมื่ออ่านแล้วก็รู้สึกมีความหวัง ถึงแม้ประชาธิปไตยไทยจะต้องปรับปรุงอีกมากก็ตาม"
เมื่อครั้งที่ทอม เพลต เข้ามาทำข่าวในประเทศไทย และต้องการข้อมูลเกี่ยวกับการทำรัฐประหารเมื่อปี 2549 เพื่อจัดเตรียมทำหนังสือเกี่ยวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ สุรนันทน์ เวชชาชีวะ ซึ่งรู้จักกับผู้เขียนมาบ้าง ก็ได้รวบรวมหนังสือพิมพ์ในช่วง 2 สัปดาห์ก่อนการทำรัฐประหารหลายฉบับ แล้วแปลไปให้ทอม ต่อมาเมื่อทอมจัดการตีพิมพ์หนังสือดังกล่าว สุรนันทน์จึงรับอาสาเป็นผู้แปล
สุรนันทน์เล่าว่า หนังสือชุดนี้เรื่องของลี กวน ยิว นั้น มีส่วนคล้ายกับหนังสือที่เกี่ยวกับเขาในประเทศสิงคโปร์ ส่วนมหาธีร์ โมฮัมหมัด ก็ไม่ต่างกันมากกับหนังสือในมาเลเซีย แต่ที่แปลกก็คือเรื่องของ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งทอม เพลต เขียนได้ต่างจากหนังสือในประเทศไทยมาก เพราะ ทอมได้ใช้มุมมองที่เป็นชาวต่างชาติมองเข้ามา เขามอง พ.ต.ท.ทักษิณเหมือนกับเป็นมนุษย์คนหนึ่ง มีการวิพากษ์และก็ใส่ความคิดของตัวเองเข้าไป ฉะนั้น จึงเป็นมุมมองที่ค่อนข้างแปลกจากหนังสือที่เกี่ยวกับ พ.ต.ท.ทักษิณเล่มอื่นๆ
"หากเราตามปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นกับคุณทักษิณอยู่ประจำ ก็จะพบว่าหนังสือที่เกี่ยวกับเขามีอยู่ 3 แบบ 1.เชียร์คุณทักษิณ 2.เกลียด ซึ่งบางครั้งก็ถึงขั้นรุนแรง และ 3.หนังสือที่เป็นกลาง เป็นกลางจนบางครั้งก็เป็นวิชาการมากเกินไป"
สุรนันทน์เล่าถึงผู้เขียนว่า ได้ใช้มุมมองของนักข่าวชาวอเมริกันที่มีประสบการณ์ และเจอบุคคลสำคัญๆ เหล่านี้มาค่อนข้างมาก ผู้เขียนมีวิธีการหลอกล่อเพื่อให้ พ.ต.ท.ทักษิณได้พูด
วิธีการทำงานของเขาไม่ใช่แค่สัมภาษณ์แล้วก็นำมาตีพิมพ์
แต่หากเป็นการสัมภาษณ์แล้วนำมาเรียบเรียง ในรูปแบบของตัวเอง ฉะนั้นจึงมีมุมมองต่างๆ ที่น่าสนใจ ไม่ใช่แค่เฉพาะเรื่องที่สัมภาษณ์ แต่ยังรวมถึงสิ่งแวดล้อมรอบตัวคนที่ถูกสัมภาษณ์ด้วย ไม่ว่าจะเป็นบ้าน วิธีการใช้โทรศัพท์ ซึ่งเขาจะสังเกตหมดทุกอย่าง
สำหรับผู้นำทั้ง 3 สุรนันทน์มองว่ามีอะไรที่คล้ายๆ กัน คือมาจากประชาธิปไตยแบบที่มีการเลือกตั้งเหมือนกัน แต่การใช้อำนาจของผู้นำใน 3 ประเทศนี้ต่างจากที่เกิดขึ้นในอังกฤษและอเมริกา เป็นการใช้อำนาจที่บางครั้งก็ดูเหมือนเบ็ดเสร็จ ถึงแม้ผู้เขียนจะเป็นชาวอเมริกัน แต่ลึกๆ แล้วสุรนันทน์ก็รู้สึกได้ว่า เขามีความชื่นชอบประชาธิปไตยแบบเอเชีย เพราะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้มากกว่า
"คุณทักษิณเองถึงแม้ว่าจะไม่ประสบความสำเร็จที่จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง แต่ก็เปลี่ยนได้มาก ถ้า อ.พิชญ์บอกว่า 3 คนนี้ เป็นทศกัณฐ์แห่งเชีย ผมก็ขอเปลี่ยนให้เป็นโจโฉแห่งเอเชีย"
สัมผัสชีวิตของบุคคลที่ทรงอิทธิพลและสร้างผลสะเทือนมากที่สุดในเอเชียได้ในหนังสือชุด "Giants of Asia" หรือ "ยักษ์ใหญ่แห่งเอเชีย" แล้วจะพบว่าสิ่งที่วิทยากรทั้ง 3 ท่านพูดนั้นจริงหรือไม่
ขอบคุณ มติชนออนไลน์ คุณ อนุชา ทองเติม สิริสวัสดิ์วุธวารค่ะ
Create Date : 17 เมษายน 2555 |
|
0 comments |
Last Update : 17 เมษายน 2555 12:37:55 น. |
Counter : 791 Pageviews. |
|
|
|