สํานักพิมพ์บัวสรวง เปิดตัวหนังสือ ตามรอย "รัชกาลที่ 5 เสด็จประพาสเกาะชวาสามครา" ที่ระลึกในวาระครบ 100 ปีแห่งการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ค้นคว้าและ เรียบเรียงโดย อิ่มทิพย์ ปัตตะโชติ ซูฮาร์โต ที่ร้านหนังสือริมขอบฟ้า อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน กรุงเทพฯ

อิ่มทิพย์ ปัตตะโชติ ซูฮาร์โต ผู้เดินทางไปใช้ชีวิตตั้งรกราก อยู่ในประเทศอินโดนีเซียนาน 34 ปี เจ้าของผลงาน ได้อิงข้อมูลส่วนหนึ่งจากจดหมายเหตุเสด็จประพาสเกาะชวา ที่เคยตีพิมพ์มาแล้วหลายครั้ง โดยกรมศิลปากร และเธอมุ่งมั่นค้นคว้าหาข้อมูลเพิ่มเติมผ่านผลงานพระราชนิพนธ์ ห้องสมุด จดหมายเหตุ หนังสือพิมพ์ในหลายประเทศ

ในงานเขียนครั้งนี้จึงแทรกรูปภาพ ที่ไม่เคยเห็นและเพิ่มคำอธิบายสถานที่ต่างๆ ตามวันที่เสด็จฯ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจจะสำรวจเส้นทางตามรอยเสด็จฯ รวมถึงเรื่องภาษาที่เข้าใจง่ายและเป็นปัจจุบัน ด้วยในอดีตชื่อเมืองต่างๆ บันทึกตามคำออกเสียงของฝรั่ง

การเสด็จประพาสชวาครั้งแรก ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เกิดขึ้นในวันที่ 9 มี.ค. พ.ศ.2413 ถึงวันที่ 15 เม.ย. พ.ศ.2414 โดยเรือพระที่นั่ง พิทธยัมรณยุทธ เสด็จฯ เยือนสิงคโปร์ บาตาเวีย หรือปัจจุบันคือกรุงจาการ์ตา และสมารัง เมืองหลวงและเมืองท่าที่สำคัญตั้งอยู่ทางด้านเหนือเกาะชวากลาง

ต่อมาเสด็จฯครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 9 พ.ค.-12 ส.ค. พ.ศ.2439 ด้วยเรือพระที่นั่งจักรี การเสด็จฯ ครั้งนี้ มีเหตุผลหลายประการ หนึ่งในนั้นคือ แพทย์ทูลแนะนำให้เสด็จฯ ไปพักผ่อนเนื่องจากเพิ่งทรงหายจากพระอาการประชวร และส่งเสด็จสมเด็จฯ เจ้าฟ้าจักรพงษภูวนารถ กรมขุนพิษณุโลกประชานาถ เสด็จไปศึกษาวิชาการที่ยุโรป

และด้วยสายพระเนตรที่ยาวไกล การเสด็จฯครั้งที่ 3 ระหว่าง วันที่ 5 พ.ค.-24 ก.ค. พ.ศ.2444 รัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณา โปรดเกล้าฯ ให้พระราชโอรสที่สำเร็จการศึกษาจากยุโรป ตามเสด็จหลายพระองค์ โดยมีพระราชประสงค์ คือทรงพามาดูงานในด้านต่างๆ เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในการปฏิรูปสยามให้เจริญทัดเทียม ชาติอื่นๆ

อิ่มทิพย์ได้พาเราย้อนประวัติศาสตร์ ตามเสด็จรัชกาลที่ 5 ไปยัง สถานที่สำคัญต่างๆ อาทิ สโมสรคองคอเดีย เจดีย์โบโรบูดูรฺ วัดจันดีมันดุส โรงงานทำหมวกสานที่ตังเกอรัง สนามม้า โรงงานผลิตยาควินิน ภูเขาไฟปาปันดายัน

ซึ่งเสด็จฯ ทอดพระเนตรนํ้าตก "ตะโคะ" เมืองบันดุง และทรงจารึกอักษรพระนามตัวเล็กเป็น จ.ป.ร. ไขว้และ ร.ศ.120 ลงบนก้อนหิน ถือเป็นสถานที่สำคัญ ที่กษัตริย์ทั้งสองพระองค์คือ รัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 7 เสด็จประพาสด้วย ทั้งยังบอกเล่าถึงพิธีทานหลวง "กระบกเมาลุก" ของชวา ซึ่งจัดขึ้นปีละ 3 ครั้งในวาระต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับศาสนาอิสลาม รวมถึงราชกิจน้อยใหญ่และพระจริยวัตรที่งดงามซึ่งรัชกาลที่ 5 ทรงถือปฏิบัติ

อิ่มทิพย์ เจ้าของงานวิจัยและเขียนภาคภาษาอังกฤษ เรื่อง "Journeye to Java by a Siamese King" และ ผู้เรียบเรียงปทานุกรม ภาษาไทย-อินโดนีเซีย และอินโดเซีย-ไทย กล่าวถึงความประทับใจว่า

ส่วนตัวชอบเมืองบันดุง อยู่ทางชวาตะวันตก เป็น เมืองประวัติศาสตร์สำคัญสำหรับราชวงศ์ไทยซึ่งรัชกาลที่ 5 เสด็จประพาส และในการเสด็จฯ ครั้งที่ 3 ประทับนานด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าอัษฎางค์เดชาวุธ ประชวรหนัก และบันดุงเป็นเมืองที่น่าอยู่ ถนนหนทางก็ดี รัชกาลที่ 5 ก็ทรงโปรด

และพระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ (กรมหมื่นชุมพรเขตอุดมศักดิ์) หลังสำเร็จการศึกษาทรงเป็นพระราชโอรสรุ่นแรกๆ ที่ตามเสด็จรัชกาลที่ 5 ทรงดูงานเกี่ยวกับการทหาร การศึกษา สาธารณสุข ศาล โรงพยาบาล การสร้างที่พักในทุกด้าน ด้วยในขณะนั้นประเทศเขาเจริญมาก คือเป็นสังคมยุโรปในเปอร์เซียที่มีงานเลี้ยงเต้นรำ งานโอเปร่า หรูหรา มีรถไฟ รถยนต์

ภายหลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระนางเจ้าสุขุมาลมารศรี พระราชเทวี เสด็จประทับที่บันดุง เกาะชวา จนสิ้นพระชนม์ สถานที่แห่งนี้จึงมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์

อิ่มทิพย์ ซึ่งตั้งใจแปลหนังสือเล่นนี้เป็นภาษาอินโดนีเซีย บอกอีกว่าหลังอ่านแล้วคนไทยจะรับรู้ว่า พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่มีพระราชหฤทัยที่อ่อนโยน และทรงนึกถึงประเทศชาติอยู่ตลอดเวลา แม้การทอดพระเนตรพันธุ์ไม้ ต้นยางพารา ลูกชิด ก็ทรงนำมาปลูกในเมืองไทย และแจกไปตามหัวเมืองต่างๆ ทั้งยังทรงนิพนธ์เรื่องราวต่างๆ โดยละเอียดเพราะอยากให้เรารู้ว่าบ้านเมืองเขาเป็นอย่างไร

ตามรอย "รัชกาลที่ 5 เสด็จประพาสเกาะชวาสามครา" วางจำหน่ายที่ร้านหนังสือชั้นนำทั่วไป ราคา 250 บาท

หน้า 25

ขอบคุณ ข่าวสดออนไลน์

สิริสวัสดิ์วุธวารค่ะ

Create Date : 23 พฤษภาคม 2555
Last Update : 23 พฤษภาคม 2555 9:55:12 น.		0 comments
Counter : 3086 Pageviews.
Share Tweet