BlogGang.com : : sirivinit : โจเซฟ นีดแฮม ผู้ชายที่หลงรักเมืองจีน : ตอนที่ 3

โจเซฟ นีดแฮม ผู้ชายที่หลงรักเมืองจีน : ตอนที่ 3

โจเซฟ นีดแฮม

หนังสือเล่มใหม่ของโจเซฟทำให้ชื่อเสียงของเขา เข้าใกล้ความเป็นระดับนานาชาติมากขึ้น โดยเฉพาะในประเทศสหรัฐอเมริกาที่เขาตระเวนไปบรรยายในมหาวิทยาลัยสำคัญๆ ทางชายฝั่งตะวันออก

ในปี 1940 นักวิจารณ์ที่ฮาร์วาร์ดคนหนึ่งวิจารณ์ผลงานนี้ว่า มันจะนำไปสู่บันทึกหน้าใหม่ทางประวัติศาสตร์ของวิทยาศาสตร์ เป็นผลงานชิ้นที่ยิ่งใหญ่ของโจเซฟ นีดแฮม ซึ่งจะมาแทนผลงานเก่าที่ตีพิมพ์ไปแล้ว เป็นหนังสือที่สร้างประวัติศาสตร์ในเรื่องของชีววิทยานับตั้งแต่สมัยชาร์ลส์ ดาร์วิน

ยิ่งไปกว่านั้นเขาสามารถเขียนหนังสือสำเร็จ ในเวลาเดียวกันกับที่ขมีขมันทำการรณรงค์ทางการเมือง ทั้งในอังกฤษและอเมริกาให้โลกตระหนักถึงสภาพอันเลวร้ายในประเทศจีน

เขาสอนนิสิตอย่างไม่บกพร่อง และเขียนเอกสารราคาครึ่งคราวน์ (ภายใต้นามปากกาเฮนรี่ โฮโลเรนชอว์) ในเรื่องเกี่ยวกับสังคมนิยมของอังกฤษ เต้นมอร์ริส เปลือยกายว่ายน้ำ เข้าร่วมประชุมพรรคคอมมิวนิสต์แห่งเคมบริดจ์

และนำเสนอคำเทศน์จากนักเทศน์ที่โบสถ์แทกซ์เต็ด อีกทั้งยังมีชีวิตหลายมิติ มีความซับซ้อนโดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดการเรื่องชีวิตรักส่วนตัว

คงจะเป็นความโหดร้ายปลายฤดูร้อนในปี 1939 ที่ทำให้หลู่กุ้ยเจินตัดสินใจเดินทางจากเคมบริดจ์ไปแคลิฟอร์เนีย ตอนแรกก็แค่ไปร่วมการประชุมใหญ่ทางวิทยาศาสตร์แห่งแปซิฟิกครั้งที่ 6

แต่เธอตัดสินใจที่จะอยู่ต่อและรับข้อเสนอ จากมหาวิทยาลัยเบิร์กเลย์ที่เธอคิดว่าน่าสนใจ ส่วนนีดแฮมที่เคมบริดจ์ก็เห็นด้วย เพราะเขาอยากจะเห็นความก้าวหน้าของชู้รักอยู่แล้ว และตัวเขาเองก็เดินทางมาอเมริกาอยู่บ่อยครั้ง

ดังนั้นความสัมพันธ์ลับก็สามารถดำเนินต่อไปได้ แม้อยู่ห่างกันก็ไม่ได้ทำให้ความถวิลหากันลดลง แต่หนทางไกลเป็นเรื่องที่ทำให้ต้องใช้ความพยายามมากขึ้นในการพบกัน

ด้วยกิจกรรมที่มากดั่งพายุหมุนของโจเซฟ ทำให้เขาเริ่มดัง และดัง ในประเทศอังกฤษช่วงต้นสงคราม โจเซฟอยู่ในฐานะผู้วิ่งเต้นช่วยเหลือจีนอย่างสุดกำลัง ชื่อเสียงของโจเซฟกำลังเป็นตัวกำหนดชะตาชีวิตของเขา

ชะตาชีวิตที่พลิกผันเกิดจากการประชุมลับในวันหมอกลงจัดที่ออกซ์ฟอร์ดเหนือ การประชุมเกิดขึ้นในตอนเย็นวันหนึ่งในเดือนพฤศจิกายน 1939 เมื่อนักวิชาการกลุ่มหนึ่งตัดสินใจว่า ถ้าเป็นไปได้นีดแฮม ควรเดินทางไปจีนในแผนปฏิบัติการอันหนึ่ง

ตัวหลักในปฏิบัติการครั้งนี้คือ อาจารย์ทางด้านปรัชญาหนุ่มชาวจีนชื่อหลัวจงซู่ คนผู้นี้กำลังจะเดินทางกลับจีน หลังจากสอนอยู่ที่มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดระยะหนึ่ง เขาเป็นอาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งที่เมืองเฉิงตู

และตอนที่อยู่มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด เขาได้รับจดหมายและโทรเลขจากเพื่อนร่วมงานที่นั่นตลอดเวลา เพื่อบอกให้เขารู้ว่าสถานการณ์ในบ้านเกิดเมืองนอนของเขาเลวร้ายขนาดไหน

ญี่ปุ่นเล่นงานระบบการศึกษาของจีนอย่างเต็มกำลัง เห็นได้ชัดว่ากองทัพญี่ปุ่นมีความชิงชังแวดวงปัญญาชนอย่างหยั่งรากลึก และแสดงความดูถูกเหยียดหยาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งมหาวิทยาลัยของจีน

กองกำลังญี่ปุ่นแสดงความโหดร้ายต่อมหาวิทยาลัยจีน วิทยาลัยในเซี่ยงไฮ้ อู่ฮั่น หนันจิง และกวางโจว (กวางเจา) ถูกเลือกเป็นเป้าหมายแรกๆ ในการโจมตีทางอากาศ

มหาวิทยาลัยหนานไคในเมืองเทียนจินถูกถล่มหลายครั้ง และซากที่เหลือถูกเผาด้วยน้ำมันก๊าด มหาวิทยาลัยหลักในกรุงปักกิ่งถูกโจรเข้าไปขโมยข้าวของจนหมด

อาคารวิชาการถูกเปลี่ยนเป็นหอนางโลม ร้านเหล้า และห้องพักสำหรับทหาร ในขณะที่สำนักงานคณบดีและสถานีอนามัย ของมหาวิทยาลัยเปลี่ยนไปเป็นโรงพยาบาล และค่ายทหารสำหรับกองทหารญี่ปุ่นที่อยู่ใกล้เคียง

สำหรับชาวอังกฤษ เลือกเห็นใจความเลวร้ายที่เกิดขึ้นกับพลเรือนชาวจีน มีการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการข่มขืนที่หนันจิงสู่สาธารณชนในโลกตะวันตกทีละน้อย มันสร้างความตื่นตกใจให้แก่คนที่ได้รับทราบข่าวคราวเกี่ยวกับการปฏิบัติการป่าเถื่อนที่ทำกับปัญญาชนของจีนเป็นเรื่องที่น่าตกใจ

อาจารย์หลัวได้เริ่มออกบรรยายตามมหาวิทยาลัยต่างๆ ทั่วอังกฤษระบุว่าในจำนวนวิทยาลัย 100 แห่งในจีน ปรากฏว่ามีอย่างน้อย 52 มหาวิทยาลัยถูกทำลายหรือเสียหายจากการต่อสู้ เป็นเรื่องที่ผู้ฟังมักจะตกใจมาก

และโศกนาฏกรรมที่ขยายเข้าสู่ระบบการศึกษาของประเทศ เป็นสิ่งที่ทำให้เห็นว่าการรุกรานของญี่ปุ่นเป็นเรื่องเลวร้ายมาก ถ้าไม่ต้องการให้ปัญญาชนของจีนอยู่ในสภาวะลดลงอย่างร้ายแรง ฝ่ายประเทศตะวันตกโดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศอังกฤษ ต้องให้ความช่วยเหลือโดยเร็ว

อาจารย์หลัวนำข่าวและความเป็นจริงเรื่องนี้ ไปเล่าให้กับผู้มาชุมนุมและฟังข้อมูลจากเขา อาจารย์หนุ่มชาวจีนคนนี้คิดว่าความตกใจและความตระหนักในภัยที่ร้ายแรงนี้ น่าจะถึงระดับที่สามารถเปลี่ยนให้เป็นการทำอะไรสักอย่างหนึ่ง

และปฏิบัติการก็เริ่มเป็นรูปร่างขึ้น ในการประชุมของปัญญาชนอาวุโสของออกซ์ฟอร์ดและเคมบริดจ์ ในวันที่15 พฤศจิกายน ปี 1939 ที่นอร์แฮมการ์เด้นส์ ในบ้านของนักวิชาการทางด้านศาสนาชื่อดัง นายเอช.เอ็น. สปอลดิ้ง อาจารย์ทางด้านศาสนาตะวันออกและศีลธรรมจากออกซ์ฟอร์ด

อาจารย์หลัวยืนอยู่ต่อหน้ากลุ่มปัญญาชน ที่ร่วมชุมนุมกันและเปิดเผยข่าวความเลวร้ายที่เกิดขึ้นในจีน มีการบรรยายรายละเอียดชนิดเห็นภาพชัดของโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นกับมหาวิทยาลัยในจีน จากการโจมตีของกองทัพญี่ปุ่น

ซึ่งทำให้ปัญญาชนและอาจารย์ทั้งหลาย ต้องเผ่นหนีอย่างสับสนอลหม่านไปในที่ปลอดภัย ซึ่งอยู่ในเขตชนบทห่างไกล

จากคำพูดของอาจารย์หลัว ปัญญาชนบัณฑิตอาวุโสทั้งหลายรู้สึกตกใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และมีความเห็นที่แน่วแน่ว่ารัฐบาลอังกฤษควรจะต้องถูกชักนำ ให้เห็นหน้าที่ทางศีลธรรมที่ต้องเข้าแทรกแซงไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เพื่อช่วยให้บรรดาปัญญาชนของจีนอยู่รอด

มีการตกลงกันอย่างรวดเร็วในที่ประชุมว่า จะต้องมีการส่งชาวอังกฤษที่เห็นอกเห็นใจชาวจีนไปประเทศจีนในทันทีเพื่อทำการประเมินสถานการณ์ เพื่อดูว่ามีอะไรที่มีความต้องการในทันที และความช่วยเหลือใดที่ดีที่สุดที่รัฐบาลอังกฤษควรส่งไป

การเลือกสรรบุคคลสำหรับปฏิบัติการนี้ใช้เวลาไม่นานนัก มีตัวเลือกที่เหมาะสมสองคน คนหนึ่งอยู่ใกล้ๆ กับสถานที่ประชุมคือ อี.อาร์.ฮิวส์ อาจารย์บรรยายปรัชญาจีนที่มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ผู้มีสายสัมพันธ์กับรัฐบาลจีน และมีประสบการณ์ร่วม 25 ปีทำงานเป็นหมอสอนศาสนาในชนบทของจีน

และเมื่อเขาเดินทางกลับอังกฤษ ก็ได้ช่วยสร้างสายสัมพันธ์กับวงในของรัฐบาลอังกฤษ

โจเซฟ นีดแฮมเป็นชื่อที่สอง เขาเป็นตัวเลือกแบบไม่ได้คาดฝันเพราะคนที่เข้าร่วมประชุมต่างรู้ดีว่า โจเซฟไม่เคยไปประเทศจีนมาก่อนแต่ปัญญาที่สูงส่งของเขา ประกอบกับความสามารถทางภาษา และการประกาศเรียกร้องสิทธิให้กับชาวจีนอย่างจริงจังเป็นปัจจัยสนับสนุน

เมื่อมีการนำเสนอชื่อของเขาขึ้นมาในคืนนั้น มันได้รับการยอมรับโดยเอกฉันท์

อาจารย์หลัวเขียนถึงเขาในคืนนั้น เพื่อสอบถามอย่างเป็นทางการว่าเขาจะยอมเข้าร่วมในภารกิจเดินทางไปประเทศจีน ซึ่งจะมีความสำคัญต่ออนาคตของประเทศจีนอย่างมาก

เมื่อนีดแฮมได้รับจดหมายในสองสามวันต่อมา ทั้งเขาและหลู่กุ้ยเจินย่อมตื่นเต้นอย่างเหลือเชื่อเป็นธรรมดา (เขาเขียนถึงเธอที่อเมริกา) ในช่วงหลายเดือนที่เขาร่วมเดินขบวน ถือป้าย และเขียนจดหมายช่วยประเทศจีนไม่เสียเปล่าและกำลังทำให้เกิดผลขึ้น

มีบางคนได้ยินได้ฟังในสิ่งที่เขาทำเพื่อชาวจีน และชาวจีนอาจจะได้รับความช่วยเหลือดังที่ต้องการ ตัวเขาเองอาจจะถูกส่งไปยังประเทศที่จับใจเขามาโดยตลอด

แต่ยังไม่มีอะไรที่แน่นอน เพราะมีงานที่ต้องทำอีกมาก มีการประชุมและส่งจดหมายหลายครั้งในช่วงฤดูหนาว การประชุมที่เคมบริดจ์ที่ลอนดอน มีการตั้งคณะกรรมการ การส่งโทรเลขไปมา

(ขณะที่มีอันตรายอย่างใหญ่หลวงในขณะนี้ ความพยายามของท่านได้ช่วยนำขวัญและกำลังใจมาสู่พวกเราไม่มากก็น้อย อาจารย์คนหนึ่งที่ติดค้างอยู่ที่คุนหมิงเขียนจดหมายมา)

ในที่สุดก็มีการออกแถลงการณ์แห่งเจตนารมณ์ อย่างเป็นทางการแถลงการณ์นี้ระบุว่า มหาวิทยาลัยชั้นนำในอังกฤษ มีความเห็นที่จะให้ความร่วมมืออย่างเต็มกำลัง กับมหาวิทยาลัยจำนวนมากในประเทศจีน

ขอขอบคุณ ผู้จัดการออนไลน์

สวัสดิ์สิริชีววารวิบูลย์ค่ะ

ขอความกรุณาช่วยโหวต TBA ด้วยนะคะ
ขอบพระคุณมากค่ะ
กดที่นี่ค่ะ

sirivinit

Create Date : 07 สิงหาคม 2554

Last Update : 11 สิงหาคม 2554 17:05:18 น.

0 comments

Counter : 769 Pageviews.