อิสระของชีวิต คือ การได้วิ่งตามฝัน Cute Sanrio Glitter Graphics

คูน้ำริน
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





Group Blog
 
 
ธันวาคม 2550
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
27 ธันวาคม 2550
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add คูน้ำริน's blog to your web]
Links
 

 

ณ แดนนี้ยังมีรัก ตอนที่ 7

ตอนที่7 : เรื่องยุ่ง



ปริชมนนึกรังเกียจหัวใจตัวเองนัก เขาทำกับเธอถึงเพียงนี้ แต่หัวใจกลับร่ำร้องเรียกหาเขาไม่หยุด หญิงสาวกลับมานั่งร้องไห้ตาบวมอยู่ที่ห้อง น้ำตาหยดใสๆเปื้อนวงหน้างาม เธอสะอึกสะอื้น จนนกยูงซึ่งนั่งอยู่ใกล้ต้องเดินเข้าไปปลอบ

“หยุดร้องเถอะค่ะคุณปีนัง ดูซิเปียกปอนไปหมดทั้งตัวแล้ว ลุกขึ้นไปอาบน้ำอาบท่าก่อนดีกว่าค่ะ นกยูงจะได้ให้เด็กๆมาเปลี่ยนผ้าปู คุณเล่นกระโดดขึ้นเตียงทั้งที่ตัวเปียกอย่างนี้ เห็นทีคงต้องทำความสะอาดห้องอีกนาน” นกยูงพูดเบาๆพร้อมกับจับมือหญิงสาวเป็นการปลอบโยน ปริชมนนั้นพอมาถึงห้องปุ๊บก็เล่นกระโดดขึ้นเตียงเธอร้องห้ามไม่ทัน หน้าฟุบหมอนก็นอนร้องไห้อย่างเดียว เรื่องครั้งนี้นกยูงเองก็ยอมรับว่าเธอก็มีส่วนผิด ถ้าหากยืนกรานไม่ยอมให้ชุดนั้นกับปริชมนหญิงสาวก็คงไม่สามารถโต้แย้งอะไรได้

เฮ้อ....นกยูง่าส่ายหน้าอย่างละเหี่ยใจ

“ฉันคงเป็นคนที่แย่มากเลยใช่มั้ยคะคุณนกยูง” ปริชมนรู้สึกตัวว่าเธอถูกจ้องมองอยู่ จึงลุกขึ้นจากเตียงปาดน้ำตาและยอมเชื่อฟังนกยูงแต่โดยดี อย่างไรเสียเธอต้องอยู่ที่นี่อีกนานผูกมิตรไว้ย่อมดีที่สุด

“ไม่หรอกค่ะคุณปีนัง นกยูงว่าคุณอย่าคิดมากเลย” นกยูงเองก็ไม่รู้จะปลอบอย่างไรเช่นกัน สถานการณ์แบบนี้เธอเองก็ไม่เคยเจอ

“เลยพลอยทำให้คุณต้องโดนดุไปด้วย ฉันขอโทษนะคะ เพราะความเอาแต่ใจของฉันแท้ๆทั้งๆที่คุณก็เตือนแล้ว”ปริชมนยกมือไหว้ขอโทษนกยูง

“อุ๊ย !! คุณปีนังอย่าทำแบบนี้ค่ะ นกยูงไม่เป็นไรหรอกค่ะ ถึงจะทรงกริ้ว แต่ก็เป็นทรงเป็นคนมีเหตุผล เมื่อตรัสสั่งไม่ให้เข้าไปห้องบรรทมเจ้าหญิงเนรัญชรา เราก็ต้องทำตามพระประสงค์ แค่นี้ก็ทรงพอพระทัยแล้วค่ะ” นกยูงตกใจ เมื่อหญิงสาวยกมือไหว้ เธอรีบปรี่เข้าไปรับไหว้ทันที

“ขอบคุณค่ะที่คุณไม่โกรธฉันไปอีกคน ไม่อย่างนั้นฉันคงไม่สามารถคุยกับใครที่นี้ได้เลย”ปริชมน ยิ้มออกแล้ว

“ค่าๆๆๆแต่ตอนนี้นกยูงว่า คุณไปอาบน้ำก่อนที่จะเป็นหวัดดีกว่านะคะ” นกยูงเตือนเมื่อเห็นหน้าตาปริชมนเริ่มซีดเซียดตัวเย็นเฉียบ

“ฮัดเช้ย....ตายจริง คุณเตือนยังไม่ทันไรฉันก็จามแล้ว”ปริชมนยิ้มขำตัวเอง

“เดี๋ยวนกยูงขอตัวกลับบ้านก่อนนะคะ กฎที่พิรัยธาหลังสี่ทุ่มประตูวังจะปิดหมดทุกด้าน ห้ามเข้าออก แล้วพรุ่งนี้นกยูงจะมาอยู่เป็นเพื่อนคุณนะคะ” นกยูงพาปริชมนมาส่งยังห้องน้ำ ก่อนจะช่วยปิดประตูให้

“ขอบคุณมากค่ะ” ปริชมนกล่าวขอบคุณ เมื่อนกยูงไปแล้วเธอก็อยู่คนเดียว ปริชมน หันไปมองรอบกายมันช่างเงียบเหงาสิ้นดี นี่เธอมาทำอะไรที่นี่กันแน่ เธอชักไม่แน่ใจเสียแล้ว หญิงสาวจ่อมจมกับความหลังอยู่เพียงลำพัง

เด็กสาววัยสี่ขวบเศษ อีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะถึงวันเกิดครบห้าขวบของเธอแล้ว แต่ทว่ากลับเกิดเรื่องร้ายขึ้นเสียก่อน

“คุณพ่อจะไปไหนคะ วันนี้วันเกิดปีนัง ปีนังยังไม่ได้ของขวัญจากคุณพ่อเลย” เด็กสาวตัวน้อยอุ้มตุ๊กตาตัวโปรดด้วยมือซ้าย ส่วนอีกมือหนึ่งจับชายเสื้อผู้เป็นพ่อไม่ยอมปล่อย
“พ่อมีธุระสำคัญ คงอยู่กับลูกไม่ได้ ปีนังเจ้าหญิงน้อยของพ่อ พ่อขอโทษนะลูก” ผู้เป็นพ่อย่อตัวลงหอมแก้มแดงใสของบุตรสาวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เขาเอามือลูบไล้ผมหยัดโศกเส้นเล็กๆที่ถอดแบบจากเขาอย่างแผ่วเบา

“คุณพ่อคะ อย่าไปไหนเลยนะค่ะ คุณพ่อๆๆ” เด็กสาวร้องเรียกเสียงดังลั่น ร้องไห้จ้าไม่หยุด พ่อทิ้งเธอไปแล้ว เด็กสาวไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อต้องไป

“ฮือๆคุณแม่ขาทำไมไม่ห้ามคุณพ่อๆทิ้งปีนังไปแล้วฮือๆ” แม่หนูน้อยร้องไห้อยู่นาน ร่ำร้องเรียกผู้เป็นพ่อจนผู้เป็นแม่ต้องปลอบโยนเบาๆ

“พ่อเขาอยู่กับเราไม่ได้ลูก พ่อเขามีธุระสำคัญต้องทำ ถ้าหนูเป็นเด็กดีสักวันหนูจะได้พบกับคุณพ่ออีก” ผู้เป็นแม่สะกดกลั้นอารมณ์ของตน เด็กสาววัยสี่ขวบบอกไปก็คงไม่เข้าใจเหตุผลของผู้ใหญ่

เชอะ..........................

ปริชมนหมางเมินกับเรื่องนี้มานานเกินพอ แม้ทุกวันนี้เธอก็ยังไม่รู้สาเหตุว่าเหตุใดพ่อจึงต้องไป ต่อหน้าแม่เธอมักจะเข้มแข็งเสมอ หากเมื่ออยู่ลำพัง สมัยเป็นเด็กเธอมักจะแอบหลบมาร้องไห้อยู่คนเดียวเงียบๆ ด้วยเหตุนี้แหละที่ทำให้เธอได้พบเจ้าชายในฝัน

ปริชมนทอดอารมณ์คิดเรื่องต่างๆอยู่ในห้องน้ำนานเท่าไหร่ไม่รู้ หญิงสาวรู้สึกสบายตัวจนไม่อยากลุกไปไหนอยากแช่อยู่ในอ่างอุ่นนี้นานๆ ปริชมนเคลิบเคลิ้มบวกกับความอ่อนเพลีย หญิงสาวนึกอยากหลับอยู่ในอ่างนี้เสียแล้ว

อืม...นอนแช่ในอ่างก็คงดี......
.......................................

เจ้าชายชิติโชคิมทรงครุ่นคิดถึงเรื่องที่ผ่านมา ทรงรู้องค์ดีว่าทำแรงเกินไป หากหญิงสาวไม่ยั่วยุก่อน คงไม่กริ้วจนลงโทษรุนแรงเพียงนั้น ทรงพระดำเนินไปมาจนสองราชองครักษ์ชักจะเวียนหัวตาม

“ควรขอโทษหรือไม่” เจ้าชายชิติโชคิมทรงตรัสอย่างไม่เจาะจงว่าประสงค์จะสนทนากับราชองครักษ์คนไหน

“ทรงตรัสกับกระหม่อมหรือรอยล่ะพะยะค่ะ” ทันคุน ทูลถามเหตุการณ์เมื่อครู่เล่นเอาตื่นกันทั้งวัง พรุ่งนี้คงมีเรื่องพูดกันสนุกปาก

“จะใครก็ช่าง ตอบมาว่าหากเป็นพวกนายจะขอโทษหรือไม่” ปริชมนฉันไม่น่าบุ่มบ่ามพาเธอมาเลย เป็นภาระจริงๆ
“ก็ไหนเมื่อครู่ พระองค์รับสั่งเองว่าคุณปีนังเธอเจอบทเรียนแค่นี้ยังน้อยไป” ทัยคุน งุนงงอยู่อารักขาเจ้าชายมานานเพิ่งจะรู้ตอนนี้แหละว่า ไม่เคยเข้าถึงพระทัยที่แท้จริงได้เลย ตอนนี้คงกำลังรู้สึกผิด ยังไงคุณปีนังก็เป็นผู้หญิง

“อ้าว !! นกยูงคุณปีนังเป็นยังไงบ้าง” รอย หันไปเห็นภรรยาสาวที่กำลังเดินลงมาจากบันได จึงร้องทักเป็นผลให้เจ้าชายและทัยคุนต้องมองตาม

“ก็ควรจะเป็นยังไงล่ะโดนขนาดนี้” นกยูงนึกหมั่นไส้วรองค์สูงที่ประทับยืนอยู่ตรงหน้านัก ไม่ทรงทราบอะไรบ้างเลยหรือว่าคุณปีนังคิดเช่นไร ขนาดเธอพึ่งพบยังรู้เลยว่าสายตาคุณปีนังที่มองเจ้าชายมันแปลกๆอยู่ ทั้งชื่นชมและเศร้าใจระคนกัน นกยูงคิดว่าที่เธอต้องสวมชุดนั้นให้ได้ เป็นเพราะต้องการดูดีที่สุดในสายพระเนตรเจ้าชาย

“นกยูง” รอยติงภรรยาปรายหางตาไปทางเจ้าชาย ประมาณว่าทรงประทับอยู่

“เธอคงไม่เป็นอะไรมากหรอก อย่างดีก็แค่เป็นหวัด ก่อนลงมานกยูงก็ให้อาบน้ำเธอจะได้สบายตัวขึ้น สั่งเด็กๆไว้แล้วว่า ให้หานำชุดเมลาลีของนางกำนัลไปให้ใส่จะได้ไม่เป็นเรื่องอีก” นกยูงกล่าวแหนบแหนม

“นกยูงไม่เอาน่า กลับบ้านไปก่อนดีกว่า” รอย เดินมากุมมือภรรยานกยูงเป็นคนใจอ่อน ขี้สงสารนี่คงนึกโกรธแทนคุณปีนัง

“นกยูงว่าฉันทำแรงเกินไปอย่างนั้นเหรอ” ชิติโชคิมตรัสถาม

“แล้วพระองค์ทรงคิดว่าอย่างไรเล่าเพคะ คุณปีนังเธอคงอยากทำตัวให้กลมกลืนกับคนที่นี่ เธอจึงอยากเริ่มต้นด้วยชุดนั้น นกยูงเองก็มีส่วนผิดที่ไม่ทักท้วงแต่แรก ยอมให้เธอเอามาใส่ ส่วนเรื่องที่เธอลงมาล่าช้า ปล่อยให้ทรงคอยนาน ก็เป็นเพราะหม่อมฉันเองที่แต่งตัวให้เธอช้า หากพระองค์จะหาตัวคนผิดก็คงเป็นหม่อมฉันเองเพคะ เอ่อ...ขอพระราชทานอภัย ที่บังอาจทูลเช่นนี้” ทูลแล้วนกยูงก็สะบัดแขนออกจากการเกาะกุมของสามี หน่อย...เห็นใจเป็นแต่นายตัว ไม่รู้จักเห็นใจคนอื่นมั้ง นกยูงกระหวัดหางตามองอย่างงอนๆ

“ ฉันควรขอโทษเขามั้ย” ชิติโชคิมยังคงต้องการความคิดเห็นจากคนรอบข้าง แม้จะทรงรู้สึกผิดอยู่บ้าง แต่ทว่าก็ทรงทระนงเกินกว่าจะยอมรับ

“เรื่องนี้มันขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของพระองค์เพคะ จะขอโทษหรือไม่ ก็อยู่ที่พระองค์ พวกเราคงไม่สามารถออกความเห็นใดๆได้” นกยูงรู้สึกอ่อนใจกับคนทั้งสองเสียจริง ไม่ทันไรก็มีเรื่องมากมายเสียแล้ว คนที่ลำบากที่สุดก็คงหนีไม่พ้นคุณปีนังนะล่ะ

“ช่างเถอะ จะขอโทษทำไมกันผู้หญิงไร้สาระอย่างนั้น” และท้ายที่สุดก็ทรงเลือกที่จะทำเฉยเสีย แต่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้อย่างไรเสีย ผู้หญิงคนนั้นก็อยู่ในความรับผิดชอบของพระองค์


“ตอนนี้เขาคงต้องการเพื่อน ยังไงคืนนี้นกยูงพักที่นี่อยู่เป็นเพื่อนเขาก่อนแล้วกัน” ทรงตรัสด้วยสุรเสียงที่อ่อนลงเจ้าชายในราชวงศ์มังกรเหนือเมฆทุกพระองค์ ถูกอบรมการให้เกียรติแก่สุภาพสตรีเสมอ ดังนั้นจึงรู้สึกเป็นเรื่องผิดบาปอย่างแรงกับการกระทำต่อหญิงสาวในครั้งนี้

“เพคะ”นกยูงรับคำอย่างว่าง่าย

“สองคนนั่นคงจะเอาเสื้อผ้าขึ้นไปให้คุณปีนังเปลี่ยน นกยูงขอทูลลาขึ้นไปดูคุณปีนังด้วยเลยดีกว่า”นกยูงเหลือบไปเห็นนางกำนัลถือเสื้อผ้าทำท่าจะเดินขึ้นไปข้างบนจึงคิดตามขึ้นไป

“อืม...ก็ดี ส่วนนายสองคนตามเราไปที่ห้องสมุดมีเรื่องจะคุยด้วย” ทรงตรัสเบาๆก่อนจะรับสั่งกับสองราชองครักษ์คู่พระทัย

“พะยะค่ะ” รอยและทัยคุนรับคำแทบจะพร้อมกับก่อนจะผงกศีรษะเป็นการรับรู้
.................................................
เจ้าชายชิติโชคิมทรงเปลี่ยนพระอิริยาบถมาประทับอยู่ในห้องทรงพระอักษร ทรงเอื้อมพระหัตถ์หยิบหนังสือการทูตที่วางอยู่ใกล้ๆองค์ขึ้นมาทอดพระเนตร พลางรับสั่งกับสองราชองครักษ์ไปในตัว

“พรุ่งนี้ฉันจะให้ปริชมนย้ายไปอยู่ตำหนักเทพนารี” ทรงตรัสราบเรียบหากทำเอาสองราชองครักษ์สะดุ้งตำหนักเทพนารีที่ทรงตรัสนั้น เป็นเรือนไม้ชั้นเดียวหลังเล็กๆ ในอดีตใช้เป็นที่คุมขังฝ่ายในที่ทำผิดกฎ ดังนั้นภายในจึงแทบจะไม่มีความสะดวกสบายอะไรเลยสักนิด แถมยังอยู่ห่างไกลผู้คน ตั้งอยู่มุมหลังสุดของวังพิรัยธา โอบล้อมด้วยต้นไม้ใหญ่ห่างจากตัววังนับกิโล

“เกรงว่าจะเป็นผลเสียมากกว่าดีนะกระหม่อม” ทัยคุน ค้านทันทีเขาไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง อยู่ที่นั้นก็หมายถึงส่งหญิงสาวไปคุมขังนั้นเอง

“นั่นสิพะยะค่ะ คุณปีนังเพิ่งถูกสำเร็จโทษไป ยังไม่ทรงหายกริ้วอีกเหรอกระหม่อม”รอยเอ่ยค้านด้วยคน

“คิดอะไรกันอยู่พวกนายนะ นี่คงคิดว่าการที่ฉันให้ปริชมนไปอยู่ที่นั่น เป็นเพราะต้องการลงโทษเรื่องวันนี้นะสิ เฮ้อ...อีก 3 วัน ฉันต้องขึ้นไปรับน้องน้อยที่ศีบันดา แล้วคิดหรือว่าชายฤธัตธรณ์จะไม่ขอตามมาด้วย เขาสงสัยอยู่แล้วว่าปริชมนอยู่ที่นี่” ชิติโชคิมปรายพระเนตรมองราชองครักษ์ทั้งไปมา ปริชมนนะปริชมน เธอกำลังร่ายมนต์ซื้อใจคนของฉันใช่หรือเปล่า ไม่ทันไรใครต่อใครก็พากันสงสารเธอกันเป็นแถว

“แต่ก็ไม่มีเหตุผลต้องปิดบังนี่พะยะค่ะในเมื่อเราก็สามารถให้คุณปีนังช่วยอธิบายได้” ทัยคุน ทูลทักท้วงถึงเหตุผลเขามองว่าไม่จำเป็นต้องปิดบังใดๆแล้วพระอนุชาเป็นคนอ่อนโยนเข้าพระทัยอะไรง่ายๆ แล้วอีกอย่างคุณปีนังก็อยู่ที่นี่สามารถช่วยแก้ไขวิกฤตได้ แล้วใยต้องปกปิดการมาของคุณปีนังอีกงงจริงวุ้ย!!

“รู้ตอนนี้ไม่ได้หรอก เพราะฉันไม่อยากให้ใครรู้ ว่าปริชมนอยู่ที่นี่ ไม่ว่าชายฤธัตธรณ์หรือน้องน้อยก็ตาม” ทรงวางหนังสือในพระหัตถ์ลงก่อนตรัส

“เอ้อ....” สองราชองครักษ์งงเป็นไก่ตาแตก ที่ทรงตรัสมาช่างไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย ไม่อยากให้รู้เลยต้องซ่อนตัวคุณปีนังแทนการบอกเพื่อคลี่คลายปัญหาทั้งหมด

“ทำไมสงสัยเหรอ ไม่มีอะไรต้องสงสัย ฉันทำอะไรย่อมมีเหตุผล อ้อ..รอย ฉันคงต้องขอยืมนกยูงไปอยู่เป็นเพื่อน ปริชมน สักระยะนะคงไม่มีปัญหาใช่ไหม” ตรัสขอร้องแกมบังคับ

“ไม่มีพะยะค่ะ” ก็ใครล่ะจะกล้ามีปัญหากับเจ้าชายแห่งสายฟ้า

“ส่วน นาย ทัยคุน จัดหาคนที่ไว้ใจได้ว่าจะไม่พูดมากเรื่องปริชมนอยู่ที่นี่ ให้ไปเฝ้าที่ตำหนักเทพนารีสัก 2-3 คน ส่วนเรื่องที่นี่ฉันจะคุยกับพระนมให้จัดการเอง” ทรงตรัสวางแผนเสร็จสรรพ เขาไม่ต้องการให้ฤธัตธรณ์และเนรัญชรารู้ลำพังฤธัตธรณ์คงไม่เท่าไหร่ แต่เขากลัวใจเนรัญชรา และหากรู้ไปถึงศีบันดาคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ เนรัญชราเป็นคนที่ค่อนข้างเอาแต่ใจ ไม่ยอมฟังเหตุผลของเขาแน่ ว่าทำไมจึงต้องพาปริชมนมาที่นี่ ชิติโชคิมคิดแล้วว่าทางออกที่ดีที่สุด ณ เวลานี้คือการซ่อนเร้นปริชมนไว้ เมื่อครบกำหนดกลับเมืองไทย ก็ค่อยๆส่งปริชมนออกไปอย่างลับๆตำหนักเทพนารีอยู่ห่างไกลจากผู้คนไม่มีใครไปยุ่มย่ามแน่นอน

“แล้วเราจะบอกคุณปริชมนว่ายังไงพะยะค่ะ” ทัยคุน ยังไม่หายข้องใจ หญิงสาวจะรู้สึกอย่างไร เมื่อจู่ๆก็ถูกส่งจากวังที่โอ่อ่าหรูหรา ไปอยู่เรือนไม้ที่อดีตเคยใช้เป็นที่คุมขังผู้กระทำผิด

“จะบอกอะไรก็ช่าง ไม่ใช่เรื่อง ผู้หญิงคนนั้นไม่มีสิทธิ์จะมาเรียกร้องสิทธิใดๆในพิรัยธา” ทรงตรัสสุรเสียงดังลั่นอย่างคนไม่ชอบถูกขัดใจ

“พะยะค่ะ” ทัยคุน ก้มหน้ารับคำหมดข้อสงสัย

“ออกไปได้แล้วฉันต้องการอยู่เงียบๆ” ทรงตรัสกับสองราชองครักษ์ก่อนจะทรงหันมาทรงพระอักษร ไม่สนใจใครอีก รอย และ ทัยคุน ถวายความเคารพ ก่อนจะก้าวถอยออกมาเฝ้าหน้าห้องทรงพระอักษร

“นายว่าเรื่องนี้มันจะเป็นยังไงต่อไป”รอย ถาม ทัยคุน ทั้งสองคนมีสีหน้ากลัดกลุ้มไม่แพ้กัน

“ยุ่ง มีแต่เรื่องยุ่งไม่รู้จบ” ทัยคุน ตอบได้เพียงเท่านี้จริงๆ ทางข้างหน้าจะเป็นยังไง คนที่ต้องหนักใจที่สุดก็หนีไม่พ้นเจ้าชายของเขานั้นล่ะ

“นายเห็นเหมือนฉันหรือเปล่า” รอย เขยิบเข้ามาใกล้ๆกระซิบพอได้ยินกันแค่สองคน

“อะไร นายถอยห่างฉันหน่อยก็ได้ เดี๋ยวใครมาเห็นเข้าจะเหมาว่าฉันกับนายเป็นอะไรกัน” ทัยคุน เตือนเพื่อนเพราะรอยเล่นเขยิบเข้ามาใกล้ประชิดตัว เขากลัวทหารยามที่ยืนอยู่ใกล้ๆ เข้าใจผิด

“ฮ่าๆๆ นายนี่บ้าจริงๆ เข้าเรื่องดีกว่า ฉันว่าเจ้าชายทรงสนพระทัยคุณปีนัง” รอย ยิ้มกรุ้มกริ่ม ยักคิ้ว มือกอดอก

“นายรู้ได้ไง เป็นไปไม่ได้หรอก ทะเลาะกันซะวังสะเทือนขนาดนั้น” ทัยคุน ไม่อยากจะเชื่อเจ้าชายกับคุณปีนัง ไม่มีทางเป็นอย่างที่ รอย คิดแน่ๆ

“จริงๆ นายไม่สังเกตเหรอว่า ตั้งแต่สนามบินแล้ว โดยปกติจะไม่ทรงพาใครมาแน่ ต่อให้จะทรงอ้างว่าเป็นเพราะกลัวว่าจะได้คุณปีนังมาเป็นพระกนิษฐาภาดา (น้องสะใภ้) ก็เหอะ ฉันว่าก็ฟังไม่ขึ้นอยู่ดี แล้วเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้หากเป็นคนอื่น ป่านนี้คงระเห็จออกนอกวังแล้ว แต่ทำไมจึงทรงทำแค่เปลี่ยนที่พักเท่านั้น แถมยังพระดำเนินไปมาตั้งนาน เพียงเพราะเป็นกังวลว่าควรจะขอโทษดีไหม” รอย แจงสิ่งที่เขาสังเกตเห็น

“ก็จริงนะ ด้วยพระนิสัยแล้วก็ควรจะเป็นอย่างนายว่า” ทัยคุน ชักเริ่มเห็นจริงตาม แต่ รอย คงลืมสังเกตไปอย่างคุณปีนังคนนี้ เป็นคนเดียวที่ทรงยอมให้แนบพระอุราหลายครั้งหลายครา อ้อมพระอุระที่แม้แต่เจ้าหญิงเนรัญชรายังไม่เคยได้รับ

รอย และ ทัยคุน สนทนากันได้เพียงเท่านั้น เมื่อเห็นนางกำนัลคนที่เมื่อครู่เอาชุดขึ้นไปให้คุณปริชมนเปลี่ยน วิ่งหน้าตาตื่นตรงมาที่พวกเขา

“แย่แล้วค่ะท่านราชองครักษ์ คุณปีนังคนนั้นเธอๆ” นางกำนัลเยาว์วัย หายใจหอบเร็วแรงด้วยความเหน็ดเหนื่อยปนระทึกใจ

“เกิดอะไรขึ้นอีกพูดมาเร็วสิ” ทัยคุน สังหรณ์ใจกับท่าทีของนางกำนัล เฮ้อ..เห็นทีจะมีเรื่องวุ่นอีกแน่ๆ

“คือว่า คุณปีนังนะสิค่ะ เคาะประตูห้องเท่าไหร่เธอก็ไม่ยอมเปิด คุณนกยูงเรียกก็แล้ว ก็ไม่ตอบรับสักคำ คุณนกยูงเห็นท่าไม่ดี เลยให้ฉันมาตามท่านราชองครักษ์ คุณนกยูงเธอกำชับมาด้วยค่ะว่า อย่าให้เจ้าชายทรงทราบ เดี๋ยวจะเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมาอีก” นางกำนัลรีบแจ้งจุดประสงค์เร่งด่วน หากเหตุการณ์หน้าห้องทรงพระอักษร ก็เล็ดลอดเข้าไปสู่พระกรรณจนได้

“มีอะไรกัน เอะอะโวยวายเสียงดังเข้าไปถึงข้างใน” เจ้าชายชิติโชคิมทรงแย้มบานพระทวารมาออกมา เรื่องอะไรกันหนักหนา กำลังทรงงานอยู่จนเสียงนางกำนัลดังเข้าไปทำลายสมาธิ

“เอ้อ..คือ..” ทั้งนางกำนัลและราชองครักษ์ใบ้รับประทานกันหมด

“เอ้า..ตอบฉันมาสักคน เธอน่ะล่ะตอบมา” ทรงหันไปทางนางกำนัลบังคับให้ตอบ

“คุณปีนัง..เธอ..เอ้อ..เธอ...ไม่ยอมเปิดประตูเพคะ เรียกเท่าไหร่ก็ไม่ยอมเปิด คุณนกยูงเกรงว่าจะเป็นอะไรไป เลยให้หม่อมฉันมาตามท่านราชองครักษ์ไปดูเพคะ” นางกำนัลจำต้องตอบด้วยความเกรงกลัว กลับไปโดนคุณนกยูงดุก็ยังดีกว่าถูกเจ้าชายดุ

“ผู้หญิงอะไรวันๆสรรหาแต่เรื่องยุ่ง” ทรงตรัสว่าหญิงสาว หากก็ทรงรีบเร่งพระดำเนินหวังไปทอดพระเนตรเร็วไวจนสองราชองครักษ์ก้าวเท้าตามแทบไม่ทัน
...............................................
“คุณปีนังคะ เปิดประตูค่ะ ถ้าคุณไม่เปิดนกยูงจะไขกุญแจเข้าไปแล้วนะคะ” นกยูงทั้งเคาะทั้งเรียกอยู่นาน จนชักจะทนไม่ไหว หญิงสาวจึงให้นางกำนัลคนหนึ่งลงไปตาม รอย กับ ทัยคุน ส่วนอีกคนให้ไปเอากุญแจสำรองมาเปิดห้อง

“เป็นบ้าอะไรอีกล่ะ” พระสุรเสียงดังลั่นมาถึงก่อนตัวซะอีก
“ตายแล้ว! ฉันบอกแล้วไงว่าอย่าให้ทรงทราบ” นกยูงหันไปตามทิศทางเสียง อดตำหนินางกำนัลที่เดินมาคุกเข่าอยู่ตรงหน้าไม่ได้

“โถ..เห็นใจดิฉันเถอะเจ้าค่ะ ทรงคาดคั้นดิฉันกลัว” นางกำนัลก้มหน้าตอบ

“ช่างเถอะ...เอ้อคุณปีนัง เธอไม่ยอมเปิดประตูเพคะ หม่อมฉันกำลังจะไขเข้าไปดู” นกยูงไม่อยากถือสาเด็กมากนักเธอหันไปทูลแก่เจ้าชาย

“ก็รีบเปิดซิ” ทรงตรัสร้อนรนจนทุกคนแปลกใจ

“เพคะ” นกยูงรับคำรีบไขกุญแจเข้าไปทันที

เมื่อบานประตูเปิดเท่านั้นล่ะ เจ้าชายชิติโชคิมก็ทรงพระดำเนินนำลิ่วเข้าไปข้างในก่อนใครเพื่อน ทรงกวาดสายพระเนตรมองหาคนต้นเรื่อง หากไม่ปรากฏวี่แววใดๆ

“นกยูงใช้กุญแจสำรองไขประตูห้องน้ำสิ” ทรงตรัสเมื่อมองหาทั่วห้องไม่มี ก็ทรงนึกได้ว่าก่อนที่นกยูงจะกลับขึ้นมาที่นี่ เธอบอกว่าปริชมนกำลังอาบน้ำอยู่ และในห้องน้ำก็มีเสียงน้ำไหล ไม่ใช่สิ เสียงน้ำล้นต่างหาก

“แต่ว่า...” นกยูงอึกอักเธอจะกล้าเปิดได้อย่างไร ในเมื่อตอนนี้มีคนมายมากกรูกันเข้ามาเต็มห้อง เกิดหญิงสาวทำธุระอยู่ในนั้นจริง เธอมิอายแย่เหรอ ดูเหมือนเจ้าชายชิติโชคิมจะทรงอ่านใจนกยูงออก



“ออกไปกันให้หมดทุกคนเดี๋ยวนี้ เธอด้วยนกยูง เอากุญแจมา ฉันจะไขเข้าไปเอง รอย ปิดประตูห้องให้ด้วย” ทรงตรัสไล่ทุกคนออกไปจนหมด ทั้งหมดรีบออกไปอย่างรวดเร็ว และทันทีที่บานประตูปิดสนิท ชิติโชคิมก็รีบไขกุญแจเปิดประตูห้องน้ำทันที

“ปริชมน”

ทรงตะลึงกับภาพเบื้องหน้า ร่างของหญิงสาวนอนแน่นิ่ง เปล่าเปลือย อยู่ในอ่างอาบน้ำ น้ำกำลังเอ่อล้นขึ้นมาจนปริ่มอยู่ปลายจมูก

ให้ตายเถอะ...

ไม่บอกก็ทรงทราบหญิงสาวเผลอหลับๆลึกเสียด้วย โชคดีที่เข้ามาทัน ไม่อยากคิดเลย ถ้าหากหญิงสาวนอนเอนตัวต่ำลงกว่านี้อีกนิดจะเป็นอย่างไร น้ำคงจะเอ่อล้นท่วมตัว หลับใหลไม่ได้สติอย่างนี้อาจตายได้ง่ายๆ ไปอดนอนที่ไหนมานะปริชมน เจ้าชายหนุ่มเผลอแย้มพระสรวล ก่อนจะรีบสาวพระบาทคว้าผ้าเช็ดตัวผืนโต แล้วเข้าไปช้อนร่างหญิงสาวขึ้นจากน้ำใช้ผ้าห่อหุ้มร่างหญิงสาวไว้

“ฮึม!!”

ชิติโชคิมทรงกัดพระทนต์แน่น จะอย่างไรพระองค์ก็คือบุรุษ การแตะต้องสตรีที่อยู่ในสภาพเช่นนี้ ย่อมเป็นการไม่ควรอย่างยิ่ง ร่างที่อยู่ในพระอุระยังคงหลับสนิทราวกับคนถูกวางยา เจ้าตัวจะรู้หรือไม่ว่ามีเรือนร่างที่น่าปรารถนายิ่งกว่าสตรีใด ชิติโชคิมทรงวางหญิงสาวลงบนเตียงอย่างแผ่วเบาราวกับเกรงว่ากลัวหญิงสาวจะตื่นจากฝัน ทรงใช้ผ้าเช็ดตัวผืนเล็กๆ เช็ดลอนผมหยักสลวยที่เปียกปอนให้พอหมาด ก่อนจะทรงนำผ้าห่มมาคลุมร่างหญิงสาวไว้ ก่อนจะทรงส่ายพระพักตร์อย่างเวทนาต่อหญฺงสาวแล้วเร่งพระดำเนินออกจากห้อง

“ไม่มีอะไรแล้ว นกยูง ช่วยเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ปริชมนด้วย ท่าทางคืนนี้ต่อให้เอาช้างมาฉุดก็คงไม่ตื่น” รับสั่งแล้วก็พระดำเนินจากไป ท่ามกลางความงุนงงของทุกคนที่อออยู่ข้างหน้ารอรับฟังเหตุการณ์

“เพคะ” นกยูงถอนสายบัวเป็นเชิงตอบรับ หากยังสงสัย

เกิดอะไรขึ้นภายในห้องนั้น เหตุใดเจ้าชายจึงทรงแปรเปลี่ยนท่าทีเป็นห่วงใยคุณปีนังหนักหนา ทรงแย้มพระสรวลเล็กๆอย่างอารมณ์ดีผิดกับตอนเข้าไปถนัด ช่างเดาพระทัยยากเสียจริง หรือจะเป็นดังที่ รอย และ ทัยคุน บอกเธอเจ้าชายทรงสนพระทัยคุณปีนังเข้าให้แล้ว

*****************************************************************************************




 

Create Date : 27 ธันวาคม 2550
1 comments
Last Update : 27 ธันวาคม 2550 23:14:47 น.
Counter : 417 Pageviews.

 

Merry X’mas & Happy New Year 2008

มีลูกโป่งให้จิ้มนับถอยหลังเล่นๆ รอรอยยิ้มวันฉลองความสุข

 

โดย: =Lord Gary= 28 ธันวาคม 2550 2:10:30 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.