บางครั้งโลกแห่งความจริงไม่สวยงาม...เฉกเช่นความฝัน แต่รู้สึกและจับต้องได้
Group Blog
 
<<
มกราคม 2554
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
5 มกราคม 2554
 
All Blogs
 

เรื่องดีดี(19)...แม่ผู้หัวใจสลายโศกนาฎกรรมบนความโลภหรือความบังเอิญ






เรื่องราวของความรับผิดชอบของหมอต่อคนไข้ ความสำคัญระหว่างเงินและจรรยาบรรณแพทย์ เป็นเรื่องที่ถกเถียงเล่าขานกันมาตั้งแต่อดีตอย่างไม่รู้จบ และอนาคตก็คงเกิดขึ้นอีกอย่างไม่ต้องสงสัย จะมีอีกกี่รายที่ต้องตกเป็นเหยื่อความโลภของหมอ ขณะที่คำว่า “เหตุสุดวิสัย” ยังเป็นเกราะป้องกันที่ดีเสมอสำหรับหมอ จะมีสักวันไหมที่ประชาชนคนธรรมดาอย่างเรา ๆ ท่าน ๆ สามารถลุกขึ้นส่งเสียงให้ดังพอที่คนอื่น ๆ จะหันมาสนใจในปัญหาเหล่านี้ หรือยังต้องใช้ชีวิตผู้บริสุทธิ์สังเวยความโลภของหมอต่อไปอีก

เรื่องราวข้อเท็จจริงต่อไปนี้ คงเป็นอีกเสียงที่เพรียกหาความยุติธรรม ท่ามกลางความด้านชาในจิตใจของผู้เกี่ยวข้อง ผู้อ่านมีทางเลือกอยู่สองประการ ปล่อยให้เรื่องนี้เป็นแค่ “อุทาหรณ์” แล้วผ่านเลย หรือช่วยกันเล่าขานสืบต่อ ส่งเสียงให้ดังขึ้นเรื่อย ๆ จนสักวันหนึ่ง......

“ ด.ญ. ………………… หรือน้องบอลล์ เกิดเมื่อวันพุธที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๓๗ ที่โรงพยาบาล……………. หมอผู้ทำคลอดคือ ………… น้องบอลล์เป็นเด็กผู้หญิงที่น่ารัก เรียนหนังสือเก่ง น้องบอลล์เรียนอยู่ที่โรงเรียนเซนต์โย ชั้น ป.๓ กำลังจะขึ้นชั้น ป.๔ เคยได้รับเกียรติบัตรนักเรียนเรียนดี และเด็กดีมีน้ำใจ เป็นที่ชื่นชมของแม่และครอบครัว เท่าที่เด็กอายุ ๙ ขวบ จะทำได้ ปีที่แล้วสงกรานต์แม่ยังจำได้ว่าหนูได้ไปเที่ยวทะเล เล่นน้ำทะเลอย่างมีความสุข แต่ปีนี้หนูต้องเจอกับสิ่งที่แม่ไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามันจะเกิดขึ้นกับลูกของแม่ได้

ทุกครั้งที่หนูเจ็บไข้ แม่ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะไม่พาหนูไปหาหมอ แม่ไม่เคยตกหล่นในหน้าที่การดูแลความเปลี่ยนแปลงหรือผิดปกติของหนู แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับหนู แม่ไม่มีวันเข้าใจได้เลยว่า ทำไมมันถึงได้เลวร้ายได้ถึงขนาดนี้หลังจากที่แม่คลอดหนูมา คุณหมอประจำตัวของหนูคือ …………….. โรงพยาบาล…………….. ซึ่งแม่ก็จะพาหนูไปหาหมอสม่ำเสมอเมื่อยามที่หนูป่วยไข้ หรือที่คุณหมอนัดตรวจสุขภาพตามตารางเวลา เป็นเวลาเกือบ ๙ ปี ที่แม่ไม่เคยตกหล่นหน้าที่ ถึงจะเช้าแค่ไหน แม่ก็จะไปรับบัตรคิวนัดเวลาพบเพื่อจะได้หาเป็นคนแรก เพราะคุณหมอเป็นคนที่มีชื่อเสียงมาก คนไข้ ต้องไปตั้งแต่ ๖ โมงเช้าเพื่อรับบัตรแต่แม่ทำทุกอย่างเพื่อลูกได้

ในระยะ ๒-๓ ปีหลังนี้ ลูกของแม่ดื่นน้ำมากผิดปกติคนธรรมดา บางครั้งถึง ๑-๒ ขวดใหญ่ต่อครั้ง แม่ก็เคยถามคุณหมอถึงเรื่องนี้ เพราะทำให้ช่วงนอนต้องตื่นขึ้นมาปัสสาวะประมาณ ๔-๕ ครั้ง คุณหมอก็แจ้งว่าดื่มน้ำมากก็ฉี่มากเป็นเรื่องปกติ นอกจากนี้หนูยังมีอาการปวดหัวโดยไม่มีไข้อยู่บ่อยๆ ซึ่งแม่จะคอยบอกหมอและสอบถามอาการที่เห็นหนูปวดหัวบ่อย ๆ คุณหมอบอกว่าหนูเป็นหวัด เป็นภูมิแพ้ แม่ก็เชื่อและให้หนูทานยาตามที่คุณหมอจัดให้ และไม่เคยเปลี่ยนหมอที่อื่นเลย บางครั้งก็พาหนูไปหาหมอที่คลีนิคส่วนตัวของหมอช่วงค่ำๆ ก็มี แล้วทำไมคุณหมอจึงไม่เคยสังเกตเหตุความผิดปรกติของหนู กับคำถามที่แม่เคยถามอยู่บ่อย ๆ กับอาการปวดหัวของลูกมาประมาณ 2-3 ปีมาแล้ว มันถึงขั้นที่ลูกจะต้องหาหมอถี่ขึ้นอย่างน่าใจหาย น้ำหนักตัวลด ร่างกายซูบผอมลงอย่างไม่ใช่คนป่วยไข้ธรรมดา

๑ ก.พ. ๒๕๔๖ ได้ไปหาหมอ แจ้งหมอว่าเด็กปวดหัวมาก ทานอาหารไม่ค่อยได้ ทานแล้วอาเจียน คุณหมอจัดยามาให้ทาน (น้ำหนัก ๒๘.๗ ก.ก.)

๘ ก.พ. ๒๕๔๖ ได้ไปหาหมอ แจ้งหมอว่าเด็กปวดหัวมาก ทานอาหารไม่ค่อยลง ทานแล้วอาเจียน และถามหมอว่าทำไมลูกจึงมีสรีระหน้าอกใหญ่เร็ว คุณหมอก็จัดยามาให้ (น้ำหนัก ๒๗.๕ ก.ก.)

๒๘ ก.พ. ๒๕๔๖ ก็ได้ไปหาหมออีก เด็กไม่สบาย ปวดหัวไม่มีแรง รู้สึกถึงลูกผอมลง ตัวเหลือง จึงได้ขอให้หมอช่วยเจาะเลือดตรวจว่าลูกเป็นอะไรหรือเปล่า ทานอาหารก็ไม่ลง คุณหมอนัดให้มาฟังผลเลือดในวันที่ ๘ มีนาคม และจัดยาให้ทาน (น้ำหนัก ๒๖.๓ ก.ก.)

๘ มี.ค. ๒๕๔๖ ไปหาหมอฟังผลตรวจเลือด หมอแจ้งว่าผลเลือดทุกอย่างปกติไม่เป็นอะไร เด็กขาดธาตุเหล็ก เลือดน้อย แม่ก็แจ้งไปว่าลูกยังปวดหัว ทานอาหารไม่ลง เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย และได้แจ้งขอตรวจเช็คฮอร์โมน ทางโรงพยาบาลได้จัดนัดคุณหมออีกคนให้ในวันที่ ๑๗ มีนาคม แต่ทางโรงพยาบาลได้โทรมาขอเลื่อนเป็นวันที่ ๑๙ มีนาคมแทน เนื่องจากหมอติดประชุม (น้ำหนัก ๒๕.๔ ก.ก.) น้ำหนักลูกช่วงที่ผ่านมาลดไป ๓.๓ กก.

๑๗ มี.ค. ๒๕๔๖ ได้ไปพบคุณหมออีกครั้ง แจ้งว่า ลูกไม่มีแรง เพลียมาก ทานอาหารไม่ได้เลย อาเจียนตลอด จึงขอนอนให้น้ำเกลือที่โรงพยาบาล ทางคุณหมอบอกว่าจะนอนทำไม เด็กไม่ได้ขาดน้ำ ที่ปวดหัวอาจนอนน้อย จึงทำให้เพลีย ให้กลับบ้านได้ และนัดมาตรวจเกี่ยวกับทางเดินอาหารในวันที่ ๒๑ มีนาคม ที่จะถึงนี้อีกครั้ง ประมาณช่วงเย็น ลูกเดินชนประตูบ้าง ชนตู้เย็นบ้าง สูญเสียการควบคุม จึงได้นำส่งโรงพยาบาล…… เด็กมีอาการปวดหัวอย่างมาก เด็กพูดจาไม่รู้เรื่อง เริ่มเพ้อ ทางพยาบาลแจ้งว่าถ้านำมาช้าอาจช็อคได้ เพราะเด็กเริ่มมีอาการมาก ได้นอนให้น้ำเกลือในคืนนั้น

๑๘ มี.ค. ๒๕๔๖ ที่โรงพยาบาล…….. คุณหมอ………… ซึ่งเป็นหมอเด็ก ได้มาทำการตรวจ และได้มีหมอมาดูอาการเกี่ยวกับทางเดินอาหาร หมอบอกว่าไม่ใช่ ซึ่งสังเกตได้จากช่วงขาผิดปกติ ได้ทำการเอ็กซ์เรย์ร่างกายและสมองทันที คุณหมอลัดดาได้ประสานกับคุณหมอ………………. เกี่ยวกับฮอร์โมนเด็ก คุณหมอได้แจ้งให้ทราบในตอนเย็นวันนั้นว่าเด็กมีฮอร์โมนผิดปกติ มดลูกโตมากกว่าอายุจริง ร่างกายเจริญเติบโตเร็ว มีหน้าอกเหมือนเด็กอายุ ๑๑-๑๒ ปี แต่คุณหมอได้แจ้งว่าได้ทำการประสานกับคุณหมออีกท่าน ซึ่งเป็นคุณหมอด้านสมองโดยตรง ได้มีการเจาะเลือกไปตรวจถึง ๒ ครั้ง เพื่อตรวจสอบ คุณ………….. คุณหมอจากโรงพยาบาล............ ได้เข้ามาตรวจในวันที่ ๑๙ มีนาคม ได้นำผลเอ็กซ์เรย์มาแจ้งว่าเด็กเป็นเนื้อร้ายที่สมองใหญ่มาก ต้องคอยผลตรวจเลือดยืนยันอีกครั้งว่าเป็นแบบไหนและคุณหมอได้นัดให้ไปพบที่โรงพยาบาลศิริราชในวันถัดมา

๒๐ มี.ค. ๒๕๔๖ ได้ไปขอใบกรอกประวัติคนไข้....... และได้เข้าพบคุณหมอซึ่งคุณหมอแจ้งให้ทราบว่า ลูกเป็นมะเร็งขั้นสุดท้าย ต้องทำการผ่าตัดสมองเพื่อที่จะให้น้ำที่ไม่ไหลเวียน ไหลลงมาโดยการเจาะที่หัว ๓ รู แล้วใส่ท่อลงไปเพื่อที่จะทำให้น้ำบนสมองไหลตามปกติ และนำเนื้อร้ายไปทำการตรวจสอบหาว่าเป็นเนื้อร้ายแบบไหน จะได้ให้ตัวยารักษาที่ถูกต้อง หัวใจของแม่แตกสลาย ร้องไห้อย่างไม่อายใคร ๆ อยากให้เป็นแค่การฟังผิดหรือฝันร้ายไปเท่านั้น แต่มันคือความจริง ความจริงที่เจ็บปวดเหลือเกิน น้องบอลล์ ทำไมโลกช่างเลวร้ายกับลูกอย่างนี้ ให้ลูกได้เกิดมาเป็นลูกที่น่ารักของแม่ แล้วต้องมาเจ็บปวดทรมานกับโรคร้าย แม่ต้องไปย้ายโรงพยาบาลพาหนูมารักษาตัวที่........ลูกจ๋า แม่รักลูก

รุ่งขึ้น ๒๑ มี.ค. ๒๕๔๖ คุณหมอได้ทำการผ่าตัดฉุกเฉินทันที ทางคุณแม่ได้โทรไปโรงพยาบาล............... และบอกนางพยาบาลให้ฝากบอกคุณหมอ..........ว่าที่ทางคุณหมอนัดตรวจวันนี้เด็กไปไม่ได้เพราะเด็กกำลังเข้าห้องผ่าตัดเนื่องจากเป็นมะเร็งขั้นสุดท้าย และให้บอกคุณหมอรับทราบว่ายกเลิกนัด คุณหมอได้โทรเข้ามาคุย เลยได้ถามคุณหมอว่าทำไมเด็กปวดหัวหลายครั้งมาก แต่คุณหมอไม่เคยเอ็กซ์เรย์ให้ หรือแนะนำให้ไปหาหมออื่น ๆ

คุณหมอตอบกลับมาว่าไม่เคยเจอ CASE แบบนี้ แต่จะเอาไว้แนะนำคนไข้อื่น ๆที่มีอาการปวดหัวให้เอ็กซ์เรย์ น้องบอลล์หนูเข้าห้องผ่าตัด หนูได้เอาหัวใจแม่คนนี้ไปด้วย แม่ได้แต่ภาวนาอยู่หน้าห้องคอยลูกของแม่ออกมาอย่างปลอดภัย เมื่อหนูได้ฟื้นตื่นขึ้นมาร้องหาแม่ แม่คนนี้ดีใจแค่ไหน ถึงบนหัวและตัวของลูกจะมีแผลมากมาย เพียงแค่หนูตื่นขึ้นมาเรียกแม่ ก็ดีมากพอแล้ว แม่ถามหนูว่าเป็นอย่างไรบ้าง แม่รู้ว่าหนูคงเจ็บมาก แต่หนูกลับบอกว่าหนูมีความสุขมากที่สุด ใช่มันคงทำให้หนูปวดหัวน้อยลงสินะ คงเป็นเพราะฤทธิ์ยา ถ้าแม่รู้แต่แรกแม่คงไม่ให้หนูต้องเจ็บอย่างนี้ บอลล์จ๋าไม่ว่าลูกจะเป็นอะไรลูกก็ยังเป็นลูกน้อยของแม่เสมอ สิ่งใดที่ทำให้ลูกของแม่หายจากโรคร้ายนี้ได้ แม่จะทำ

๒๘ มี.ค. ๒๕๔๖ ทางศิริราชแจ้งผลเนื้อร้าย ลูกมีโอกาสรอดเพียง 50% หรืออาจมากกว่านั้น ถ้าลูกตอบรับกลับยาเคมีบำบัด (คีโม)ที่ติดกัน ๕ วันต่อเดือน ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาบำบัด ๖ เดือนติดกัน แล้วจึงดูผลต่อไปว่าจะดำเนินการอย่างไรอีก ผลของเคมีบำบัดทำให้ร่างกายขาดภูมิต้านทานจะเข้าไปทำลายเซลล์เนื้อร้าย และเซลล์ดี จะติดเชื้อได้ง่าย ต้องควบคุมดูแลเป็นพิเศษ แม่บอกให้ลูกรู้เพื่อลูกจะได้รักตัวเอง มีแรงสู้กับมัน ตอนนี้ลูกมีกำลังใจเข้มแข็ง เพื่อที่จะต่อสู้กับโรคร้ายซึ่งไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะหายเหมือนเดิม คุณหมอได้แจ้งมาว่าเด็กเป็นเบาจืดจากปัสสาวะบ่อย ต่อมฮอร์โมนในร่างกายผิดปกติ เป็นมะเร็งที่สมองขั้นสุดท้าย ลูกบอกแม่ว่า “บอลล์อยากกลับบ้าน บอลล์อยากระบายผ้าบาติค, บอลล์อยากไปเที่ยวทะเล” ขอให้ลูกมีแรงต่อสู้ เมื่อลูกหายแม่จะพาหนูไปจ้ะ แม่ต้องแอบร้องไห้เสมอ เพราะกลัวลูกเห็น

ขอขอบคุณ คุณหมอโรงพยาบาล ………. คุณหมอจากโรงพยาบาล.........ที่ได้กล่าวอ้างชื่อไป และที่ไม่ได้กล่าวอ้างชื่อ ที่ได้ช่วยประสานงานให้กับน้องบอลล์ ซึ่งมีชีวิตรอดมาได้ถึงวันนี้ แม้ว่าจะได้อีกนานแค่ไหนก็ตาม เพราะการที่เรารอคอยน้องบอลล์เกิดมา ๙ เดือน แล้วดูการเติบโตมาจนถึงตอนนี้ เพียงแค่ขอให้ยืนยาวที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

คำถาม....ที่ค้างคาใจสำหรับหัวใจที่ปวดร้าวของคนเป็นแม่ ทำไมหมอไม่ฉุกคิดกับอาการปวดหัวบ่อย ๆ ของเด็ก น้ำหนักที่ลดลง ทำให้น้องบอลล์เสียโอกาส เสียเวลาในการรักษา ความฉุกใจของวิชาชีพหมอ ผลของการตรวจเลือด การตรวจสอบดูอาการแบบให้เวลา ใส่ใจในอาการที่เกิดขึ้น ซึ่งตอนนี้ชีวิตของเด็กก็เหมือนยืนอยู่บนเส้นด้าย ถ้าคุณหมอแนะนำก่อนหน้านี้ อาการอาจจะไม่เลวร้าย มะเร็งอาจจะอยู่ในขั้นเบาบางมากกว่านี้ ขอให้น้องบอลล์เป็นตัวอย่างกับคุณพ่อ คุณแม่ เพื่อการใส่ใจใน คำถามและคำตอบของคุณหมอต่าง ๆ มากขึ้น เพื่อที่จะได้ไม่ปวดร้าวแบบนี้ไปอีกนานแสนนาน คุณหมอขา แบ่งเวลาดูคนไข้อีกนิดเถอะนะ เพื่ออะไรที่ไม่ได้เกิดหรือถ้าเกิดขึ้นแล้วจะได้รักษาได้ทันท่วงที

ทางเราได้มีการสอบถามขอประวัติคนไว้เพื่อดูรายละเอียดเกี่ยวกับการรักษา ได้ติดต่อไปทางโรงพยาบาล……………. คุณ………… ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ แจ้งให้รับทราบเพื่อจะขอประวัติคนไข้ คุณดารากรแจ้งว่าได้บอกกับผู้อำนวยการแล้ว ได้จัดถ่ายให้ทางเรา ๑ ชุด และขอขอบคุณสำหรับการฝากบอกให้คุณช่วยประสานกับหมอโทรหาคุณแม่เด็ก และการวางโทรศัพท์โดยการตัดสายของคุณ การไม่รับสาย การไม่ติดต่อกลับมาหรือสอบถามถึงอาการเด็กเลย สิ่งเหล่านี้ทำให้เรามองเห็นน้ำใจของคุณ เราอยากบอกคุณว่า น้องบอลล์ไม่ได้ขอรักษาฟรี ไม่ได้ใช้สิทธิ์ ๓๐ บาทรักษาทุกโรค และไม่ได้ใช้สิทธิ์ประกันสังคม ทางเราไม่ได้โทษคุณ แต่เราโทษโชคชะตาของเราเองเท่านั้น ขอให้ผู้ที่ได้อ่านความในใจรับรู้ข้อมูลช่วยกันขอพรจากพระเจ้าให้น้องบอลล์อยู่กับเราให้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้

น้องบอลล์ได้บอกกับคุณแม่ว่า “คุณแม่ขาถ้าหนูหายแล้วกลับบ้านได้แล้ว ถ้าหนูไม่สบายอีก อย่าพาหนูไปโรงพยาบาล………….อีกนะ ให้พาหนูไป........... หรือ..........เถิด” จ๊ะลูก แม่รับปากในสิ่งที่หนูขอ แม่ให้สัญญา

รักลูก...แม่อยากให้ลูกรู้ว่าลูกเจ็บแค่ไหน แม่เจ็บมากกว่าอีกหลายเท่า

จากแม่ผู้โดนทำลายหัวใจ

จาก Mail ฉบับหนึ่ง





 

Create Date : 05 มกราคม 2554
0 comments
Last Update : 5 มกราคม 2554 19:28:57 น.
Counter : 925 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


atruthoflife10
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




กลับคืนสู่ธรรมชาติ ด้วยสุขภาพที่ดีกว่า

ไตรลักษณ์
เกิดขึ้น 26 พ.ย.2553

ดับไป....???

Friends' blogs
[Add atruthoflife10's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.