เมื่อคุณทิ้งพ่อแม่ ผู้เป็นเหมือนดั่ง "ไม้ใกล้ฝั่ง"
เมื่อสองอาทิตย์ที่ผ่านมาผมได้กลับบ้านของผมที่ต่างจังหวัดช่วงนั้นวุ่นๆ ซะจนไม่มีเวลาที่จะมาได้เขียนบล็อค แต่มีอยู่เรื่องหนึ่งที่ไม่ว่าอย่างไรต้องเขียนให้ได้ พอว่างๆ แล้วตอนนี้ก็นึกได้ตามประสา ช่วงเวลาที่ผมได้อยู่บ้านสองสามวันเป็นการที่ผมได้พบเห็นเหตุการณ์ที่คิดว่าน่าจะมีแต่ในนิยายหรือไม่ก็ในโทรทัศน์ แต่ตอนนี้มันเกิดขึ้นกับผมจริงๆแล้วก็ใกล้บ้านจนแค่ช่วงข้ามถนน คือ ลูกที่ปล่อยปะละเลยบอกให้แม่ผู้ตาบอดและพ่อวัยชรา ขายบ้านและที่ดินของตัวเองอ้างว่าเพื่อนำเงินก้อนสุดท้ายไปดูแลตนโดยหวังว่าลูกจะนำตนไปเลี้ยง และนำเงินก้อนสุดท้ายไปฝากผีฝากไข้ แต่เมื่อยามเงินหมดลูกกลับทิ้งพ่อแม่ ให้กลับมายังบ้านเก่า บ้านที่ตนได้ขายไปแล้วตายายไร้ซึ่งที่อยู่เพียงกลับมาเพราะคือที่ๆ ตนคุ้นเคยมาตลอดชีวิต แต่ที่หนักได้พอกับนิยายคือคนที่ซื้อที่บอกว่าจะให้อยู่จนแก่เฒ่าตายจากค่อยจะใช้ที่ดินแต่พอขายได้ไม่กี่ปีก็ขอให้ตายายออกจากที่เพราะตนจะต่อเติมบ้าน ณ ตอนนี้สองตายายได้มาพักที่ศาลาหมู่บ้านด้านข้างๆ ติดกับบ้านผม พื้นที่เล็กๆ เพียงพอได้นอนหลบร่มเท่านั้น ตาต้องยังต้องใช้ร่างกายแบกไม้ฟืนไปขาย ส่วนยายก็คลำไม้ไผ่จับตอก เป็นมัดทั้งที่มองไม่เห็น
คนเรานั้นมักจะมองเด็กๆ ตัวเล็กๆ ว่าเป็นหน่ออ่อนของต้นไม้พร้อมที่จะเติบโตกลายเป็นไม้ใหญ่สูงตระง่านเสียดฟ้าท้าทายกระแสลมลำต้นแข็งแรงรากแทงหยั่งลึกไม่หวั่นต่อสิ่งใดในภายภาคหน้า เปรียบได้ดังเด็กน้อยที่ถูกฟูมฟักให้เติบโต ด้วยภูมิปัญญาในทางที่ถูกที่ควรเพื่อที่จะให้เด็กน้อยได้กลายเป็นผู้ใหญ่ที่ดีแข็งแรง แต่กลับเปรียบผู้สูงอายุเป็นดังไม้ใกล้ฝั่งที่ผุพัง ตัดทอนโค่นลงให้ไหลไปตามกระแสน้ำ ไร้การดูแลเพียงปล่อยไปตามยถากรรม รอให้ล่องเรื่อยเอื่อยจมจนถึงฝั่งอันบั้นปลาย ซึ่งนั้นหมายถึงความตายลาจาก อันอุปมาว่าไม้นั้นถึงฝั่งได้คงคล้ายดังกับผู้เฒ่าผู้มีสุขรับรู้โลกจนกลายเป็นไม้ดีลอยมาถึงฝั่งจนกลายเป็นไม้สร้างเสา แผ่นกระดานแม้ลาจากตายไปก็ยังสร้างความงามคงทน หากแม้ยังมีไม้หลากหลายที่ถูกตัดโค่นปล่อยไหลลงกระแสธารแต่กลับจมลงสู่ธารไม่หวนลอยตามกระแสถึงฝั่งขึ้นมาอีกเลย เปรียบได้ดังผู้เฒ่าที่จากโลกไปโดยไม่ได้สร้างอะไรให้แก่ตน หรือคนผู้ใด
หรือจริงๆ แล้วคนผู้ปลูกเลี้ยงดู ต้นไม้ต่างหากเล่าคือผู้ต้องคอยดูต้นไม้ทั้งสองประเภทอย่างไร
บ้างมองไม้อ่อนดัดได้โตงาม ได้ยลงามแลไม้เขาโต หากแม้นมองไม้แก่ดัดยาก หาเหตุนำพาเจริญบ่ได้ บ้างมองต่างไม้อ่อนไร้ค่า กว่างามแสนนาน ไม้แก่มั่นคงแข็งปกป้อง อยู่คุ้มอุ่นใจ บ้างมองเห็นผล ภายหน้าแสนหยาบ เลี้ยงไม้หน่ออ่อนไว้ รอร่มเก็บผลนอนสบาย ทนอดไม้แก่ทิ้งขว้าง รอหักผุพัง
ทุกวันนี้ศาลาเก็บของเล็กๆ กลายเป็นบ้านพักคอยหลบแดดบังฝนให้พออยู่ได้เท่านั้น แต่ยังดีที่คนในหมู่บ้านมีน้ำใจพอจะช่วยจัดหาที่นอนหมอนมุ้ง อาหาร ช่วยเหลือกันบ้างตามแต่ละคนจะช่วยกันได้
Create Date : 04 พฤษภาคม 2555 |
Last Update : 4 พฤษภาคม 2555 22:33:49 น. |
|
1 comments
|
Counter : 1464 Pageviews. |
|
|
สมัยนี้ ... ลูกเป็นสิบ เลี้ยงพ่อแม่ ไม่ได้
และเราก็เชื่อว่า " กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นย่อมคืนสนอง "