มองทุกอย่างในด้านที่แตกต่าง ทุกอย่างในโลกย่อมมีเรื่องดีๆ เสมอ
Group Blog
 
<<
เมษายน 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
11 เมษายน 2555
 
All Blogs
 
วัฒนธรรมการดูกีฬาของคนไทย เปลี่ยนไปหรือเหมือนเดิม

จะให้ผมย้อนกลับไปเมื่อช่วงเวลาที่ผมยังเป็นเด็กการที่จะได้รับการติดตามชมกีฬา ตามกระแสของสังคมยุคนั้นในช่วงที่ผมจำความได้  ก็คือต้องใช้สื่อทางโทรทัศน์  แต่ถ้าผมจำไม่ผิดยังมีคนรุ่นเก่าบางท่านยังใช้วิธีการฟังคำบรรยายการเล่นกีฬาผ่านทางวิทยุ น่าจะซักประมาณ 24 - 25 ปีที่แล้ว เป็นวิทยุยี่ห้อธานิน เครื่องสีดำ ด้านหน้าเป็นพลาสติก ด้านหลังปุด้วยไม้อัดสีน้ำตาล ถ่านไฟที่ใช้ก็เป็นยี่ห้อฤษีขี่เสือ จำไม่ผิดตรากบสมัยนั้นผมเคยเห็นแต่ในโฆษณา แต่ที่ภาคใต้นิยมใช้ยี่ห้อนี้มากกว่า ตอนนี้ผมอายุผมก็ปาเข้าไป 34 ปี  แล้ว  ใครสักคนที่อยากจะร่วมชมกีฬาบ้านไหนที่มีโทรทัศน์ชาวบ้านก็จะแห่กันมาดูบ้านหลังที่มีโทรทัศน์ซึ่งเป็นบรรยาการศที่อบอุ่นมาก  ถึงแม้โทรทัศน์ 30 ปีก่อน มักจะเป็นจอขาวดำแต่การได้ชมภาพการเคลื่อนไหวผ่านทางจอเงินที่มีเพียงสีขาวและดำก็สร้างบรรยากาศที่คึกครี้นได้เป็นอย่าง  ช่วงเวลานั้นนักกีฬาที่ดังมากก็คงจะเป็น  เขาทราย  กาแลกซี่  ในช่วงเวลาของมวยสากล  ที่ถึงขนาดคนไทยทั้งประเทศต้องหยุดเพื่อที่จะมาฟัง หรือชมการถ่ายทอดสดกับการแข่งขัน  ชนิดเรียกว่าทำให้เมืองไร้ซึ่งการเคลื่อนไหวของรถราบนท้องถนนกันเลยทีเดียว   

ซึ่งหากมองดูให้ดีๆ แล้ว  การที่คนไทยหยุดดูหรือชมกีฬาแบบชนิดที่ว่านัดไหนดัง  คนไหนแข่งคนไทยก็จะพร้อมออกพร้อมใจกันไปเชียร์  หรือตั้งหน้าตั้งตากันพร้อมใจกันที่จะหยุดดู  ส่งเสียงเชียร์หรือไปร่วมให้กำลังใจกันถึงขอบสนาม จนเป็นเรื่องที่คุ้นชิน  ซึ่งกลายเป็นวัฒนธรรมไปในแบบคนไทยดูกีฬาไปโดยปริยายซะแล้ว  อย่างการแข่งขันกีฬาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาบ้านเราถึงกับหยุดเคลื่อนไหว  ก็คือการแข่งขันของฟุตบอลทีมชาติไทยเพื่อทำการ คว้าลำดับในการไปแข่งบอลโลกครั้งหน้าที่จะถึง  หลายคนหลายท่านอาจจะรู้สึกลึกอยู่ในใจว่าความสำเร็จมันอาจจะมีน้อยนิดแต่ก็อดที่จะไปให้กำลังใจนักกีฬาบ้านเราไม่ได้   ซึ่งการเชียร์ในแบบคนไทยก็มีเอกลักษณ์น่าสนใจ สนุกน่าติดตามมีสีสันของทั้งกองเชียร์   การจัดบูธทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อเป็นการกระตุ้นกระแสการชมกีฬา จนอาจจะเรียกได้ว่าหากมีการแข่งขันกีฬาชนิดใดที่ไหนเกิดขึ้น หากไม่มีสีสันกองเชียร์  หรือไม่มีบูธขายสินค้า และกิจกรรมก็อาจจะเรียกได้ว่าการจัดงานยังไม่สมบูรณ์  ผู้ชมเองก็มีการแต่งตัวให้เข้ากับการเข้าร่วมเชียร์ให้กำลังใจ  อย่างที่เป็นกระแสต่อเนื่องของวอลเล่บอลไทย  ก็น่าสนใจไม่เช่นน้อยเพราะนับตั้งแต่ทีมวอลเล่บอลหญิงแม่เนื้ออ่อน (แต่ขาหรือแขนของคุณเธอคงไม่อ่อนแน่นอนเพราะตบทีหนึ่งลูกบอลมันลอยพุ่งไปกันอย่างรวดเร็วรุนแรงมาก)   ก็มีกระแสแฝนคลับให้ความสนใจจัดตั้งเป็นเว็บไซค์และใช้สือออนไลน์อย่างเฟสบุ๊คในการเข้าถึงแฟนคลับ  ให้ข้อมูลข่าวสารในการติดตามผลงานของทีมวอลเล่บอลหญิงอย่างต่อเนื่อง  มีการทำเสื้อ  ซี่งดูแล้วก็คงเริ่มจะไม่แตกต่างจากฟุตบอลไทยลีค ต่อไปในอนาคตซึ่งมีแต่จะดีขึ้นไปเรื่อยๆ กับกีฬาชนิดนี้  การทีมีรูปลักษณ์  สัญลักษณ์ เหมือนกันเพื่อนเป็นการบอกว่าเราร่วมเชียร์อยู่นั้น  ก็เป็นความสดใสน่าสนใจสนุกสนานรวมกลุ่มกันได้อย่างเข้มข้นเข้มแข็งขึ้น

แต่หากจะให้พูดถึงเรื่องดูกีฬาของคนไทย  ผมว่ายังแย่อยู่มิใช่น้อยเพราะยังมีผู้ชมบางคนบางกลุ่มที่ยังมีแนวคิดเดิมๆ  ที่ทำตัวแย่ๆเป็นนักเลงอันพาล  ทำให้เป็นปัญหาระดับชาติจนเป็นเรื่องยากที่จะเยียวยาคือเรื่องทีมแพ้คนไม่แพ้  ก็กำลังจะกลายเป็นวัฒนธรรมที่ไม่ต่างจากความคลั่งไคล้ทีมกีฬาของประเทศอื่นๆ  ที่เขาไม่พอใจการแข่งขัน  ก็หันมาห้ำหันกันเองจนทำให้เกิดการนองเลือดเสียชีวิตขึ้น  นอกจากผู้เล่นต้องมีจิตใจเป็นนักกีฬาเต็มร้อย  ผู้ชมเองก็ต้องมีจิตใจของความเป็นนักกีฬาให้สมศักดิ์ศรีของทีมที่ตนเชียร์อยู่นั้นถึงจะเรียกว่าถูกต้อง  ไอ้ครั้นจะมาออกกฏหมายเพื่อที่จะควบคุม  การชมกีฬา ผมมองว่า  "การที่คนเราตั้งกฎ  หรือกฏหมายขึ้น ยิ่งมากยิ่งแสดงให้เห็นถึงความเหลวแหลกเลวร้ายของสังคมมากขึ้นเช่นกัน"  ฉนั้นเรื่องของคุณธรรมจริยธรรมความยึดมั่นในความมีน้ำใจนักกีฬา  ต่างหากที่สมควรจะต้องปลูกฝังให้กับผู้ชม  ผู้เชียร์  ยิ่งทีมเราแพ้เราต้องยิ่งให้กำลังใจช่วยกันผลักดันให้นักกีฬาให้มีใจสู้  ผลักดันให้ผู้ชมกลายเป็นผู้ชมที่ดี  ผลักดันให้กลายเป็นกีฬาที่ดี  และแล้วก็จะกลายเป็นวัฒนธรรมการชมกีฬาที่ดี



Create Date : 11 เมษายน 2555
Last Update : 11 เมษายน 2555 1:04:25 น. 11 comments
Counter : 897 Pageviews.

 
เจิมค่ะ


โดย: Close To Heaven วันที่: 11 เมษายน 2555 เวลา:1:15:41 น.  

 
เห็นด้วยที่สุดค่ะ
หลายๆ คนทำตัวเป็นอันธพาล เพื่ออะไร???
ดูกีฬาแล้วต้องมีน้ำใจเป็นนักกีฬาด้วยค่ะ


โดย: Close To Heaven วันที่: 11 เมษายน 2555 เวลา:1:16:46 น.  

 
เห็นด้วยค่ะ


โดย: Schnuggy ชนุ๊กกี้ วันที่: 11 เมษายน 2555 เวลา:1:59:07 น.  

 
ใช่คับพี่ พี่เคยไหมเวลาไปเชียร์กีฬาข้างเวที แล้วอยู่ดีๆมีของลอยมาเพราะคนดูไม่ชอบทีมตรงข้าง ทั้งการตะโกนแสดงถึงความไม่พอใจ
และอีกอย่างนะพี่ ถ้ากีฬาชนิดนั้นเป็นกีฬาต่อสู้นะ ก็จะมักได้ยินคำว่า ฆ่ามันเลย เตาะมันใหห้ตายไป ผมชอบไปดูกีฬาข้างเวทีบ่อย มักจะได้ยอนคำพูดคล้ายกันแบบนี้ประจำเลย


โดย: นินๆ IP: 172.18.44.135, 203.155.220.236 วันที่: 11 เมษายน 2555 เวลา:8:05:17 น.  

 
สิริสวัสดิ์ภุมวารค่ะ
บ้านนั้น ไม่ใหญ่โตนัก
พยายามค่ะ มันต้องได้สิ


ทำอะไรสบายๆ คือไทยแท้
แม้ไม่ต้องตามธรรมเนียมสากล ไทยก็จะทำ

มีแต่ความสุขทุกลมหายใจเข้าออกนะคะ


โดย: nart (sirivinit ) วันที่: 11 เมษายน 2555 เวลา:9:22:18 น.  

 
แวะมาเยี่ยมยามบ่าย...สวัสดีครับ

สุขสันต์วันสงกรานต์ล่วงหน้า นะครับ


โดย: **mp5** วันที่: 12 เมษายน 2555 เวลา:14:09:37 น.  

 
เรื่องทีมแพ้คนไม่แพ้ หลายคนมักกล่าวว่าต่างประเทศก็มี แต่ถ้าถามว่า "เลวมั้ย" คำตอบที่ได้ก็คือเลว "แล้วจะเลียนแบบเขาไปทำไม ในเรื่องที่ไม่ดี?"

ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมเยี่ยนที่บล็อก และสวัสดีปีใหม่ไทยด้วยครับ


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 13 เมษายน 2555 เวลา:10:29:38 น.  

 


มาแย๊วค่าาาา อิอิ พักนี้มัวแต่ติดละครน่ะ
แถมวันนี้เข้าหน้าจัดการก็ไม่ได้
สงสัยไม่ได้เข้าเกิน3วัน หน้าจัดการหมดอายุ อิอิ


โดย: Schnuggy ชนุ๊กกี้ วันที่: 15 เมษายน 2555 เวลา:21:13:55 น.  

 

มาเยี่ยมชม มาทักทายครับ

ผมก็เห็นด้วยกับ จขบ. นะครับ กลุ่มคนที่เชียร์กีฬาบางกลุ่มตั้งตัวเป็นนักเลงอันตพาล เลยทำให้คนอื่น ๆ เค้าไม่อยากเข้าไปชมกีฬาที่แข่งขันในสนามเลยครับ

โดยเฉพาะในสมัยนนี้ ผมเห็นฟุตบอลไทยที่จัดแข่งกัน ก็ยังมีข่าวกองเชียร์ยกพวกตีกันอยู่บ่อย ๆ เลยครับ แบบนี้วงการฟุตบอลไมยคงจะพัฒนายากครับ

อิอิ


โดย: อาคุงกล่อง วันที่: 18 เมษายน 2555 เวลา:21:27:06 น.  

 
อกิลาสุ วินฺเท หทยสฺส สนฺตึ
คนขยันวุ่นกับงาน จะได้ความสงบใจ

พัฒนาความสงบที่ได้จากการทำงานให้เกิดปัญญาณ ตลอดไป...นะคะ



ขอบคุณที่แวะทักทายกัน...นะคะ



โดย: พรหมญาณี วันที่: 19 เมษายน 2555 เวลา:10:51:29 น.  

 
เห็นด้วยครับ ขอบคุณที่แวะไปทักทายครับ


โดย: ablaze357 วันที่: 20 เมษายน 2555 เวลา:7:27:13 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

eronthai
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




ยินดีที่ได้รู้จักชาวบล็อคทุกท่านนะคร้าบ อยากเขียนอะไรผมก็จะเขียนจามความรู้สึกส่วนตัวค่อยเขียนค่อยทำคิดอะไรก็เขียนๆ พิมพ์ไป
Friends' blogs
[Add eronthai's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.