|
|
|
|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
What_I_Read_Q2/51
...
สวัสดีค้าบบบบ...
ได้ฤกษ์อัพบล็อกรายชื่อหนังสือที่ นัท-คุง ในรายไตรมาสสักที หลังจากยื้อมาจนจะได้เวลาไตรมาสใหม่เผยโฉม
ทีแรก นัท-คุง ก็กะจะใช้มุขนี้แก้ปัญหาหมดมุขอัพบล็อกอ่ะนะครับ แต่ไปๆมาๆ ดันมีเรื่องผ่านเข้ามาให้อัพบล็อกจนบัดนี้คิวยาวไปถึงกลางปี 52 ซะงั้น (โปรดใช้วิจารณญาณ )
และการอัพบล็อกรวมของหนังสือที่อ่าน ที่กะว่าจะทำมันต่อเนื่องไปทั้งปีอย่างกิ๊วก๊าว ก็ดูจะกลายเป็นภาระไปซะงั้น คงเพราะ นัท-คุง ยึดมั่นถือมั่นมันเกินเหตุแล้วม้างงงงง...
...
ก่อนจะเข้าเรื่องหลักของบล็อกนี้ ก็ขออนุญาตใช้พื้นที่ขอบคุณ คุณป๊อก - ahiruno007 อีกคำรบ ที่อุตส่าห์มาแจ้งข่าว งานสัปดาห์หนังสือของ TBT แก่ นัท-คุง มิเช่นนั้น นัท-คุง ที่แม้จะลอยผ่านไปผ่านมาหน้าตึก TBT สัปดาห์ละหลายๆวัน คงไม่ได้รับรู้รับทราบเรื่องดังกล่าวเป็นแน่
และคงไม่ได้ไปกว้านเอา หนังสือหนึ่งหอบกลับบ้านสาแก่ใจ (ในระดับหนึ่ง) ยิ่งไปกว่านั้น!!!
ยังมีโอกาสได้เจอ น้องน่ารัก ที่เคาน์เตอร์ชำระเงินเมื่อวันอังคารที่ 2 ก.ย. ที่ผ่านมาด้วย
(แม้จะเคืองๆอยู่ที่อีกสองวันถัดมาไปแล้วไม่เจอก็เหอะ )
...
เดือน เมษายน 2551
++ ชนะใจ ++ หลวงพ่อสำรวม สิริภัทโท, ปาปิรุส พับลิเคชั่น, มิ.ย. 50
ถ้าคิดว่า พูดอย่างนี้ ทำอย่างนี้ ชนะคนอื่นได้ นั่นเรากำลังแพ้ใจตัวเอง ท่านไม่เคยสอนให้ชนะคะคานใครเลย ชนะใจตัวเองเท่านั้นพอ
(ขณะอ่าน นัท-คุง กำลังมีปัญหาเรื่องแพ้ใจอยู่พอดี อ่านแล้วจึงรู้สึกบรรเทาได้บ้าง แต่ขณะนี้...คงต้องหยิบมาอ่านอีกรอบอ่ะครับ)
หมายเหตุ: ประโยคข้างบนนี่เขียนไว้สองเดือนแล้ว
++โดดงานทุกวันได้ไหมเนี่ย++ เขียน: wan wan, แปล: อนุรักษ์ กิจไพบูลย์ทวี INSPIRE, พ.ย. 50 (พิมพ์ครั้งที่ 3)
วานวาน ราชินีบล็อกไต้หวัน เจ้าของผมงาน ไม่ไปทำงานได้ไหมเนี่ย- กลับมาเรียกเสียงฮาอีกครั้ง หลังจากผลงานของเธอมียอดขายกว่า 4 แสนเล่มไปแล้ว
(เล่มนี้ นัท-คุง ว่าเอาเองว่าฮากว่าเล่มแรกนะส่วนหนึ่งอาจเพราะตั้งใจอ่านมากขึ้น เกือบหลุดขำก๊ากออกมากลางห้องสัมมนาซะแล้วดิ อิอิ )
++บ้านอยู่ยูกันดา++ สุพนิต ปราชญ์เปรียวสำนักพิมพ์, ธ.ค. 48
เรื่องของเพื่อนรักสองคนที่เรียนโรงเรียนเดียวกันมาตั้งแต่อายุ 15 แล้วย้ายตามกันไปอยู่ลอนดอน ก่อนที่คนหนึ่งมีเหตุจำเป็นต้องย้ายไปอยู่แอฟริกา
(อ่านสนุกครับ ได้อารมณ์และจินตนาการร่วมดีทีเดียว สามีของผู้เขียนเกิดต้องย้ายงานไปประจำ ณ ประเทศยูกันดา ผู้เขียนเลยต้องตามติดไปด้วย แล้วด้วยความที่ไม่รู้จักอะไรเกี่ยวกับประเทศนี้เลย นอกจาก อีดี้ อามิน บันทึกเล่มนี้ของผู้เขียนจึงค่อนข้างตื่นตาตื่นใจในการชักนำให้คนอ่านรู้จัก ยูกันดา อยู่ไม่น้อย)
++เขียนถึงญี่ปุ่น++ ปราบดา หยุ่น สำนักพิมพ์ไต้ฝุ่น, ก.ย. 50
ผมหวังว่ามันจะสะท้อนถึงความเหมือนในความต่างระหว่างเชื้อชาติ และภาษาของทุกวัฒนธรรมในโลกที่ไม่ได้ปรากฏชัดเจนขึ้นเพราะตัวหนังสือของผม แต่เพราะความ เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ของมนุษย์คือสมบัติที่มีอยู่จริง และพบเห็นได้ไม่ยากเมื่อเราใช้เวลาศึกษามองหาด้วยใจที่ไร้อคติ
(นัท-คุง ชอบที่จะปะกับมุมมองของ ปราบดา ผ่านทางตัวหนังสืออยู่แล้ว แม้จะรู้สึกว่าในแต่ละบทดูจะสั้นไปนิดนึง แต่มันก็เป็นคอลัมน์ในนิตยสารอ่ะนะ)
++บางกะโพ้ง++ วินทร์ เลียววาริณ บริษัท 113 จำกัด, 2550
...เมื่อย้อนดูวิถีชนบทเก่าของไทยแล้ว จะพบวิธีคิดและการดำเนินชีวิตที่เป็นวิทยาศาสตร์ยิ่ง การกินอาหารให้ถูกต้องตามฤดูกาล ประเพณี การละเล่นที่สอดคล้องกับสภาพอากาศ การอยู่ร่วมกันกับ ศัตรู ธรรมชาติอย่างกลมกลืน ฯลฯ เหล่านี้เป็นวิทยาศาสตร์ที่แฝงในภูมิปัญญาขาวบ้านมาแต่นานนม บางทีทางรอดเดียวของเราคือการเรียนรู้รากเหง้าประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ประเพณีที่สวยงามของเรา ควบคู่กับการรับเทคโนโลยีวิทยาศาสตร์โดยไม่สักแต่รับ บางกะโพ้ง เป็นนิยายวิทยาศาสตร์ที่ใช้ฉากชนบทไทย ด้วยแนวเรื่องสนุกสนาน เฮฮา ตามวิถีชีวิตไทย วัฒนธรรม ประเพณี และภูมิปัญญาชาวบ้านอันน่าทึ่ง...
(นัท-คุง อ่านจบแล้วนิ่งคิด อยากเห็นหนังสือเล่มนี้ได้แปรเป็นละครจัง ด้วยความที่เป็นตอนสั้นๆแต่เนื้อหาต่อเนื่อง เนื้อหาที่สื่อและแสดงให้เห็นว่า วิทยาศาสตร์ อยู่กับเรา เหตุและผล อยู่กับเราเช่นนี้แหละ ที่คนกลุ่มใหญ่มากๆในบ้านเมืองเราไม่ค่อยตระหนัก)
++ริมรั้วสวนโมกข์++ รวบรวมและขยายความ: บัญชา เฉลิมชัยกิจ สำนักพิมพ์สุขภาพใจ, 2550
80 เรื่องอ่านง่าย มีสาระมากแบบ หลากรส เกร็ดธรรมคำสอน ซึ่งเสมือนเก็บเกี่ยวจากริมรั้วสวนโมกข์นั้น มีมากมายมหาศาล รวบรวมเรียบเรียง ขยายความคำสนทนาธรรม หรือคำสนทนาที่แฝงไว้ด้วยธรรมะ จากการอ่านค้นคว้า ฟังคำบอกเล่าทั้งโดยตรงและโดยอ้อม รวมทั้งเรื่องเล่าถึงเหตุการณ์จากคำพูดคำสอนของท่านพุทธทาส กับบุคคลต่างๆที่ได้ไปเยือนสวนโมกข์
(กับบางบทบางตอน นัท-คุง ก็รู้สึกว่ามันจะกระชับเกินไปไหมหนอ ถ้าคนที่ไม่มีภูมิเกี่ยวกับ สวนโมกข์ มาก่อน อ่านแล้วจะเข้าใจรึป่าวเอ่ย? ชอบคิดมากเนอะ อั้ย นัท-คุง เนี่ย! )
++ยอดตุลาการราชวงศ์ซ่ง เล่ม 2++ เฉินหลินเซิน: เขียน, เรืองชัย รักศรีอักษร: แปล สำนักพิมพ์มติชน, ธ.ค. 49
หนังสือเล่มนี้ (บันทึกคดีล้างมลทิน) ถือเป็นตำรานิติเวชเล่มแรกของจีน เขียนขึ้นก่อนตำรานิติเวชเล่มแรกของยุโรปถึงสามร้อยกว่าปี มีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาวิชานิติเวชในประวัติศาสตร์จีน นับตั้งแต่ราชวงศ์ซ่งจนถึงปลายราชวงศ์ชิง รวมเป็นเวลาหลายร้อยปี ได้รับการยกย่องเป็นเสมือนคัมภีร์ทางนิติเวช มีการแปลเป็นภาษาต่างประเทศหลายภาษา ทั้งเนเธอร์แลนด์ อังกฤษ ฝรั่งเศส และเยอรมัน แพร่หลายไปทั่วยุโรป ได้รับการยกย่องว่าเป็นตำราทางนิติเวชเล่มแรกของโลก
(เวลาอ่านหนังสือเล่มใหญ่ๆหนาๆจบ นัท-คุง จะรู้สึกสาแก่ใจเจือภูมิใจอยู่เนืองๆ เล่มนี้ก็เช่นกัน แต่ที่มีติดมาด้วยเป็นความเซ็งจิตในพฤติการณ์และนิสัยของคนเรา ซึ่งก็รวม นัท-คุง เองด้วยอ่ะนะ เป็นหนังสือที่ดีครับ น่าได้รับการบรรจุเป็น หนังสือนอกเวลา สำหรับเด็กนักเรียน ม.ต้น - ม.ปลาย นะ)
++ทำอย่างไรให้โง่++ Martin Page: เขียน, อธิชา มัญชุนากร (น.ส.): แปล สำนักพิมพ์วงกลม, พิมพ์ครั้งที่ 2 (มี.ค.48)
นวนิยายที่ได้รับการโหวตจาก น.ศ.ในยุโรปให้ได้รับรางวัล The Euregio-Shuler-Litera turpreis แปลเป็นภาษาต่างประเทศแล้ว 24 ภาษา
(ก่อนซื้อมาอ่าน เคยอ่านเจอว่าหลายๆคนชอบหนังสือเล่มนี้มากๆ แต่ นัท-คุง เฉยๆและหนักไปทางไม่ชอบอ่ะครับ)
...
เดือน พฤษภาคม 2551
++เราเกิดมาทำไม++ พระอาจารย์มิตซูโอะ เควสโก มูลนิธิมายาโคตมี, พิมพ์ครั้งที่16 (ก.พ.51)
ชีวิตนี้ไม่ควรทำชั่ว ไม่ควรอาฆาตพยาบาท และไม่ควรเบียดเบียนผู้อื่น ชีวิตนี้เพื่อสร้างสมคุณงามความดี สาระสำคัญของชีวิตคือ ความรักความเมตตาที่มีต่อตนเองและผู้อื่น
++เหตุสมควรโกรธ...ไม่มีในโลก++ พระอาจารย์มิตซูโอะ เควสโก มูลนิธิมายาโคตมี, พิมพ์ครั้งที่ 27 (ก.พ.51)
พระพุทธเจ้าเปรียบความโกรธว่าเหมือนไฟ เช่น ไฟไหม้ป่าเผาทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางหน้า ความโกรธมีพลัง มีอำนาจทำลายทุกสิ่งทุกอย่างยิ่งกว่าไฟไหม้ป่าเสียอีก มีแต่โทษ ไม่มีคุณแม้แต่นิดเดียว
++ชนะใคร ไม่เท่าชนะใจตน++ พระอาจารย์มิตซูโอะ เควสโก มูลนิธิมายาโคตมี, พิมพ์ครั้งที่ 6 (ม.ค.51)
หลวงพ่อชาท่านเปรียบเทียบความทุกข์กับสุขว่า เป็นเหมือนหัวงูกับหางงู มนุษย์เราทั้งหลายไม่ต้องการทุกข์ ต้องการแต่สุข ความจริงสุขนั้นก็คือทุกข์อย่างละเอียด ส่วนทุกข์ก็คือทุกข์อย่างหยาบ พูดอย่างง่ายๆ สุขและทุกข์นี้ก็เปรียบเหมือนงูตัวหนึ่ง ทางหัวมันเป็นทุกข์ ทางหางมันเป็นสุข เพราะถ้าลูบทางหัวมันมีพิษ ทางปากมันมีพิษ ไปใกล้ทางหัวมันก็กัดเอา ไปจับหางมันก็ดูเหมือนเป็นสุข แต่ถ้าจับไม่วางมันก็หันกลับมากัดได้เหมือนกัน เพราะทั้งหัวงูและหางงูมันอยู่ในตัวเดียวกัน
++ความสุขสูงสุด (ฉบับปีมะเส็ง)++ พระอาจารย์มิตซูโอะ เควสโก มูลนิธิมายาโคตมี, พิมพ์ครั้งที่ 14 (ก.พ.51)
ธรรมชาติของจิตเรานี้ คิดระแวง..ระแวงไปทั่วสารทิศ คิดเร็ว...ก็เร็วกว่าจรวด คิดไกล...ก็ไปไกลกว่าดาวเทียมอีก คิดดี...ก็จะคิดดีมากๆ คิดชั่ว...ก็จะคิดชั่วมากๆ แผล็บเดียวก็เพี้ยนได้
++ทำใจเป็นธรรม: สุขภาพใจดี...ต้อนรับปีม้า++ พระอาจารย์มิตซูโอะ เควสโก มูลนิธิมายาโคตมี, พิมพ์ครั้งที่ 11 (ม.ค.51)
เมื่อใดเราพอใจในการทำดีที่สุดแล้ว แม้จะได้ผลไม่ดี ก็จะไม่เสียใจจนหยุดทำความดี และเมื่อได้ดี ก็ไม่ดีใจจนเกินไป ผู้มั่นใจในตัวเองสูง แต่ปัญญาเห็นอนิจจั้งแล้ว ก็จะเป็นผู้ไม่ถือตัวตน
++มีขันติคือให้พรแก่ตัวเอง++ พระอาจารย์มิตซูโอะ เควสโก มูลนิธิมายาโคตมี, พิมพ์ครั้งที่ 9 (ก.พ.51)
ผู้มีปัญญาเท่านั้นอดทนได้ อดทน กับ ปัญญา เป็นของคู่กัน
++สันโดษ...เคล็ดลับของความสุข++ พระอาจารย์มิตซูโอะ เควสโก มูลนิธิมายาโคตมี, พิมพ์ครั้งที่ 18 (ม.ค.51)
ความรู้สึกว่าเรายังมีทรัพย์สมบัติไม่พอ มักเกิดจากการเปรียบเทียบกับคนอื่น เมื่อเราเปรียบเทียบกับคนอื่นแล้วอาจจะเกิดโลภ อยากจะมีเหมือนเขา เลยกลายเป็นยากจนเพราะว่ามีไม่พอ ไม่ใช่เพราะว่าไม่มี
++ปีกระต่ายขอจงสวัสดี++ พระอาจารย์มิตซูโอะ เควสโก มูลนิธิมายาโคตมี, พิมพ์ครั้งที่ 14 (ก.พ.51)
ไม่ยินดียินร้าย ไม่ยึดมั่นถือมั่น เพราะเห็นชัดว่าสิ่งเหล่านี้ เกิดขึ้น-ตั้งอยู่-แล้วก็ดับไป เหมือนลมฟ้าอากาศ
++ปีมะโรง ขอจงมีความสุข++ พระอาจารย์มิตซูโอะ เควสโก มูลนิธิมายาโคตมี, พิมพ์ครั้งที่ 10 (ม.ค.51)
ถ้าเราทำดีอยู่เสมอ คิดดี พูดดี ทำดี รักษาศีล ภาวนาอยู่เป็นปกติ อะไรจะเกิดก็ไม่ต้องกังวลมากมาย แล้วทุกอย่างก็จะผ่านไป เปลี่ยนไป เหมือนลมฟ้าอากาศที่เปลี่ยนไปวันๆ
++ปัญหา 108 (1)++ พระอาจารย์มิตซูโอะ เควสโก มูลนิธิมายาโคตมี, พิมพ์ครั้งที่ 8 (ต.ค.50)
การรู้จักตัวเองก็คือรู้จักว่า คิดถูกดับทุกข์ได้- ถ้ารู้จักตัวเองมากขึ้นก็บรรเทาทุกข์ได้มากขึ้น
++ปัญหา 108 (2)++ พระอาจารย์มิตซูโอะ เควสโก มูลนิธิมายาโคตมี, พิมพ์ครั้งที่ 6 (พ.ย.50)
หัวใจของศีล คือไม่เบียดเบียนเรา ไม่เบียดเบียนเขา
++ปัญหา 108 (3)++ พระอาจารย์มิตซูโอะ เควสโก มูลนิธิมายาโคตมี, พิมพ์ครั้งที่ 5 (ต.ค.50)
การเที่ยวกลางคืนเป็นอบายมุข เป็นทางฉิบหาย เราต้องเห็นโทษในอบายมุขนั้น พระพุทธเจ้าตรัสไว้มีใจความว่า - เมื่อเราหาเพื่อนดีไม่ได้ ก็ให้เดินคนเดียวดีกว่า เหมือนนอแรด
++ปัญหา 108 (4)++ พระอาจารย์มิตซูโอะ เควสโก มูลนิธิมายาโคตมี, พิมพ์ครั้งที่ 6 (ต.ค.50)
การทำความดีต้องทำให้ถึงใจ ให้ใจดีมีเมตตากรุณาจึงจะเป็นการทำบุญ เป็นการทำความดีอย่างแท้จริง การไปวัดทำบุญ การบวช เข้าพิธีอุปสมบท ถือเป็นเรื่องภายนอก ที่สำคัญกว่าคือภายในจิตใจ ต้องเป็นบุญเป็นกุศล มีเมตตากรุณา จึงจะเป็นการทำความดีด้วยใจดี
(กว่าครึ่งของหนังสือธรรมะทั้งหมดในลิสต์นี้ นัท-คุง อ่านตอนไปเที่ยวเชียงใหม่ ที่เหลืออ่านระหว่างเดินทางอยู่นอกบ้าน และน้อยนิดเหลือเกินที่นอนอ่านอยู่กับบ้าน
ซึ่งช่วยตอกย้ำฝังแน่นในจิตใจได้เป็นอย่างดีว่า แก่นแท้ของธรรมะนั้นคงทนและไม่มีวันเสื่อมสลายเปลี่ยนไป ไม่ว่าในสภาวะแวดล้อมเป็นเช่นไรก็ตาม )
++Bakery & I++ กมล สุโกศล แคลปป์ เรียบเรียงโดย พีรภัทร พธิสารัตนะ a book, มิ.ย. 50
++ชีวิตหญิงเดี่ยว 5 สมัยซ้อน++ Takagi Naoko: เขียน, ฤทัยวรรณ เกษสกุล: แปล NED Comics, 14 พ.ย. 48
หลังจากผ่านร้อนผ่านหนาวกับชีวิตหญิงเดี่ยวมา 5 สมัย ในที่สุด รูปแบบการใช้ชีวิตเริ่มเข้ารูปเข้ารอย ภูมิปัญญาแบบหญิงเดี่ยวก็บังเกิด มีความสุขเล็กๆไปตามประสา จะว่าไปมันก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร มีอิสรเสรี ทำอะไรได้ตามใจทุกอย่าง บางครั้งอาจมีฉากเศร้าเคล้าน้ำตา แต่รวมๆแล้วเค็มๆมันๆ นี่ล่ะค่ะ ชีวิตหญิงเดี่ยวฯ ของดิฉัน
(ฮาดีครับ ขณะเดียวกันก็รู้สึก อบอุ๊น~อบอุ่น ไปกับบางตอน )
++ผีมีจริงหรือไม่++ พุทธทาส อินทปัญโญ ดอกโมกข์, 2549
สิ่งที่เรียกว่า วิญญาณ ของพุทธศาสนา ต้องเป็น ปฏิจจสมุปปันนธรรม เสมอ คือวิญญาณเกิดและดับตามเหตุปัจจัยเฉพาะหน้า เช่น เมื่อ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ สัมผัสอะไรๆ จักษุวิญญาณ โสตวิญญาณ ฆานวิญญาณ ชิวหาวิญญาณ กายวิญญาณ และมโนวิญญาณ ก็เกิดขึ้น วิญญาณประเภทล่องลอยอย่างนั้นจึงไม่มี เพราะฉะนั้น สัมภเวสีอย่างภาษาของคนพวกนั้นจึงไม่ใช่สัมภเวสีในพุทธศาสนา
(บางส่วนของหนังสือเล่มนี้อาจจะค่อนข้างแรงเหลือแสน สำหรับชาวพุทธผู้ที่หลงเข้าใจไปว่า พราหมณ์ คือ พุทธ )
++แจแปน แจแปน++ นวรัตน์ เลขะกุล สำนักพิมพ์สารคดี, ต.ค. 45
แจแปน แจแปน เป็นหนังสือที่เล่าถึงสิ่งอันเป็นเอกลักษณ์ของชาวญี่ปุ่น จากสิ่งเล็กๆอย่างตะเกียบไปจนถึงเสาโทริขนาดใหญ่ตามหน้าวัด จากการกินสุกียากิ ซดสาเกแบบชาวบ้านๆ ไปจนถึงการชงชาและจัดดอกไม้ที่เต็มเปี่ยมด้วยพิธีรีตอง จากการต่อสู้ของซูโม่ร่างยักษ์ ไปถึงการละเล่นของเด็กญี่ปุ่นตัวน้อยๆ
(อ่านเพลินๆดีครับ )
++บ้านนี้มีห้องแบ่งให้เช้า++ รงค์ วงษ์สวรรค์ แพรวสำนักพิมพ์, พิมพ์ครั้งที่ 4 (ก.ค. 50)
...
เดือน มิถุนายน 2551
++มิลินทปัญหา เล่ม 1-3++ เรื่อง: เพลงดาบแม่น้ำร้อยสาย ภาพ: พงษ์พัฒน์ เพชรรัตน์ สำนักพิมพ์วงกลม (เล่ม 1 พิมพ์ครั้งที่ 2 (เล่ม 2-3 พิมพ์ครั้งแรก)
พระเจ้ามิลินท์ผู้เกรียงไกร ได้แผ่ขยายอำนาจมาถึงประเทศอินเดีย และเข้าปกครองเมืองสาคละ พระองค์ไม่เพียงแต่ปรีชาสามารถในการรบเท่านั้น แต่ยังมีสติปัญญาล้ำเลิศ ทรงโปรดศึกษาศาสนาปรัชญาต่างๆรวมทั้งพุทธศาสนาด้วย
พุทธศาสนา เป็นศาสนาที่ต้องใช้ปัญญาอย่างยิ่งในการทำความเข้าใจ พระเจ้ามิลินท์จึงโปรดที่จะถกเถียง ซักถามและโต้แย้งเพื่อความงอกงามทางปัญญา จึงได้เที่ยวป่าวประกาศโต้ปุจฉา-วิสัชนากับเหล่าพระภิกษุและสมณพราหมณ์ต่างๆ แต่ก็หาผู้ตอบคำถามให้กระจ่างแก่พระองค์ไม่ได้
จนกระทั่งมาพบกับพระหนุ่มนาม นาคเสน ผู้ซึ่งเจนจบและแตกฉานในพระไตรปิฎก อีกทั้งเฉลียวฉลาดปราดเปรื่องหาภิกษุใดเทียบได้ พระเจ้ามิลินท์จึงได้คู่ปุจฉา-วิสัชนาที่เข้มข้น พระนาคเสนสามารถตอบข้อสงสัยต่างๆนานาในเรื่องราวชีวิตมนุษย์ของพระเจ้ามิลินท์ได้อย่งถ่องแท้ เรื่องราวที่ปุจฉา-วิสัชนากันนั้น เปรียบเหมือนกับการจุดคบไฟขึ้นในความมืด เผยให้เห็นทางสว่างของชีวิต และได้ถูกรวบรวมขึ้นเป็นคัมภีร์สำคัญ เรียกว่า มิลินทปัญหา เป็นเวลากว่าสองพันปีมาแล้ว ได้รับการยอมรับนับถืออย่างมากในหมู่ชนต่างๆทั่วโลกมาจนวันนี้
(อ่านจบแล้วทำให้ นัท-คุง รู้สึกว่า ผู้มีปัญญารู้แจ้งนี่ มองเห็นความเป็นเหตุเป็นผลของทุกสิ่งทุกอย่างได้เป็นเนื้อเดียวกันเลยเนอะ เจ๋งดีจัง )
++เรื่องเล่าจากเกาหลี++ สุพนิต ปราชญ์เปรียวสำนักพิมพ์, พิมพ์ครั้งแรก (มี.ค. 49)
...ฉันยังจำวันแรกที่ย้ายจากทวีปแอฟริกาไปอยู่เกาหลีใต้ได้ดี ตอนเครื่องลงที่แอร์พอร์ตก็รู้สึกว่าผู้คนหน้าตาขาวๆเนียนๆ ดูสว่างกันไปหมดทั้งประเทศ อยู่ไปอยู่มาฉันเสียอีกเหมือนจะกลายเป็นคนที่ผิวคล้ำที่สุดในประเทศอยู่คนเดียว
แต่เรื่องที่สนเท่ห์และน่าค้นหาตั้งแต่วันแรกจนถึงวันสุดท้ายของฉันในเกาหลี ก็คือ ผู้คนหน้าตาสวยงาม จมูกโด่ง คิ้วคม ตายาวรีสวยสองชั้น ผมมันเป็นประกาย ที่ปรากฏอยู่ในหนังเกาหลี (ฉันแอบเรียกเองว่า หนังโซลลิวู้ด) เขาหายไหนกันหมดนี่ ทำไมถึงหาไม่เจอกสักที
(งานเขียนจากนักเขียน บ้านอยู่ยูกันดา ที่ นัท-คุง เคยอ่านเมื่อเดือนซืน ปกติ นัท-คุง จะรู้จักเกาหลีจาก หนังและละคร ได้มารู้อะไรเพิ่มแบบนี้ก็สนุกดีไม่น้อย )
++มิเกะเนโกะ โฮล์มส์ แมวสามสียอดนักสืบ++ อาคากะวา จิโร: เขียน สมเกียรติ ชเวงกิจวณิช: แปล
ตอนที่ 2 - สังหารโหดอาจารย์ (พิมพ์ครั้งที่ 7, มี.ค. 49) ตอนที่ 3 - หมู่บ้านแมวผี (พิมพ์ครั้งที่ 7, ก.ย. 49) ตอนที่ 4 - บทเพลงมรณะ (พิมพ์ครั้งที่ 5, ก.ย. 48) ตอนที่ 5 - คดีพาหนี (พิมพ์ครั้งที่ 5, ก.ย. 48) ตอนที่ 6 - โรงละครสยองขวัญ (พิมพ์ครั้งที่ 6, มี.ค. 50)
ฉันเกลียดทั้งแมว ทั้งตำรวจ ทั้งนักสืบ แต่กลับรักนิยายเรื่องนี้สุดหัวใจ (ฮิมิโตะ ณ เกียวโต)
(เพราะอ่านเรื่องนี้มากไปอ๊ะป่าวไม่รู้ พอจบเล่ม 6 โงหัวขึ้นมาอีกที ก็มีแมวมาเดินเพ่นพ่านอยู่ในบ้าน 1 ตัว ไม่ได้มุขนะเอย ทุกท่าน )
...
-- ขอบคุณที่แวะมาครับผม --
Create Date : 08 กันยายน 2551 |
Last Update : 8 กันยายน 2551 12:56:39 น. |
|
34 comments
|
Counter : 540 Pageviews. |
|
|
|
|
โดย: JewNid วันที่: 8 กันยายน 2551 เวลา:15:39:58 น. |
|
โดย: rebel IP: 125.24.148.30 วันที่: 8 กันยายน 2551 เวลา:21:11:16 น. |
|
โดย: นัทธ์ วันที่: 8 กันยายน 2551 เวลา:21:16:48 น. |
|
โดย: บลูยอชท์ วันที่: 8 กันยายน 2551 เวลา:22:03:04 น. |
|
โดย: ahiruno007 IP: 58.9.21.114 วันที่: 8 กันยายน 2551 เวลา:23:07:23 น. |
|
โดย: ทูน่าค่ะ วันที่: 8 กันยายน 2551 เวลา:23:48:49 น. |
|
โดย: hunjang วันที่: 9 กันยายน 2551 เวลา:8:59:48 น. |
|
โดย: อั๊งอังอา วันที่: 9 กันยายน 2551 เวลา:9:21:06 น. |
|
โดย: J e w n i d IP: 202.149.25.234 วันที่: 9 กันยายน 2551 เวลา:16:38:05 น. |
|
โดย: บลูยอชท์ วันที่: 9 กันยายน 2551 เวลา:21:06:53 น. |
|
โดย: แฟนผมฯ IP: 222.123.116.71 วันที่: 9 กันยายน 2551 เวลา:22:12:59 น. |
|
โดย: ahiruno007 IP: 58.9.16.223 วันที่: 10 กันยายน 2551 เวลา:0:19:12 น. |
|
โดย: อั๊งอังอา วันที่: 10 กันยายน 2551 เวลา:14:29:58 น. |
|
โดย: prezcot วันที่: 10 กันยายน 2551 เวลา:15:52:53 น. |
|
โดย: บลูยอชท์ วันที่: 10 กันยายน 2551 เวลา:16:25:28 น. |
|
โดย: juriojung วันที่: 10 กันยายน 2551 เวลา:17:52:21 น. |
|
โดย: JewNid วันที่: 10 กันยายน 2551 เวลา:22:35:09 น. |
|
โดย: hunjang วันที่: 11 กันยายน 2551 เวลา:8:00:51 น. |
|
โดย: prncess วันที่: 11 กันยายน 2551 เวลา:12:08:45 น. |
|
โดย: PinGz (Kai-Au ) วันที่: 11 กันยายน 2551 เวลา:16:43:50 น. |
|
โดย: JewNid วันที่: 11 กันยายน 2551 เวลา:19:12:28 น. |
|
| |
|
The Legendary Midfielder |
|
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
... " เพราะเหตุนี้มี ผลนี้จึงมี, เพราะเหตุนี้เกิด ผลนี้จึงเกิด, เพราะเหตุนี้ดับ ผลนี้จึงดับ " หากปรารถนาผลอันดี พึงสร้างเหตุสร้างปัจจัยอันดี "
... " ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์ "
... " ทะเลทุกข์ไร้ขอบเขต กลับใจจะพบฟากฝั่ง "
... "หว่านพืชเช่นใด ย่อมได้รับผลเช่นนั้น "ทำกรรมดีย่อมได้รับผลของกรรมดี ทำกรรมชั่วก็ย่อมได้รับผลของกรรมชั่ว"
... "...กฎแห่งกรรมไม่เคยผิดพลาดมาก่อน "ไม่ว่าเราจะประสบพบกับคราวเคราะห์หนักหนาสาหัสแค่ไหน "ให้ระลึกไว้ว่านั่นเป็นสิ่งที่สมควรและสาสมแก่เราแล้ว "เป็นเพราะเราได้สร้างเหตุนั้นๆมาก่อน "ผลเช่นนี้จึงตามมา..."
|
|
|
|
น่าอ่านจังน่อ
งานทีบีที พี่ไม่ได้ไป เพราะไม่มีตังค์แย้ว เสียดายเหมือนกัน
มาตอบเรื่องวิธีให้ดาว
เค้าดูเรื่องของ จำนวนห้อง ส่วนบริการต่างๆ ที่ที่พักนั้นๆ มีให้ ห้องพักว่ามีลักษณะเป็นอย่างไรบ้าง เนื้อที่ การตกแต่ง ขงอใช้ในห้อง ระบบของงาน มาตรฐานการบริการ ฯลฯ
เยอะมากๆ เลยแหละนัท
แต่ของที่เวียดนามเค้าจะคล้ายๆ หลายๆ ประเทศที่มีดาวแจ้งเด่นชัดตั้งไว้น่ะนะ
ซึ่งสามดาวแต่ละประเทศก็ไม่เหมือนกัน (สามดาวบ้านเรากว้างกว่าสี่ดาวหลายๆ ประเทศด้วยซ้ำ) ด้วยเนื้อที่ของประเทศ ธรรมชาติของงานบริการ ฯลฯ มากมายเลยแหละ
เรื่องหนังสือ รับทราบจ้ะ แล้วจะจัดการให้เน้อ