บางทีเราก็ชอบซื้อวัตถุดิบจำพวกเนื้อสัตว์ ของสดต่างๆมาแช่เอาไว้ใน
ตู้เย็นทีละเยอะๆ เพราะบางทีก็ขี้เกียจที่จะออกไปไหนมาไหนช่วงวันหยุดใช่ไหมล่ะ ? ตุนเอาไว้เยอะๆไว้ก่อน เวลาหิวก็หยิบออกมาปรุงเพื่อรับประทาน ง่ายและสะดวกดี
แต่บางทีเราซื้อกักตุนเอาไว้เยอะเกินไป ก็นำมาใช้ไม่หมด เหลือทิ้งเอาไว้ใน
ตู้เย็น บางทีก็ต้องหยิบเอาออกไปทิ้ง ถึงแม้ว่าจะเสียดายก็ตาม แต่เรื่องสุขอนามัยต้องมาก่อนล่ะเนอะ
ภาพจาก rebanando.com
วิธีเก็บอาหารในตู้เย็นให้สดใหม่ยาวนาน
อยากเก็บอาหารใส่
ตู้เย็นไว้นานๆ แบบไม่สูญเสียคุณค่าทางอาหาร มันจะอมีวิธีรึเปล่า? คำตอบคือมีแน่นอนจ้า และวิธีการรักษาอาหารให้ยาวนาน ก็สามารถทำได้ง่ายๆ เพียงแต่จัดวางของใน
ตู้เย็นให้ถูกตำแหน่งเท่านั้น ! ง่ายกว่าปลอกกล้วยใช่ไหมล่ะ ?
งั้นเรามาดูกันดีกว่าว่า ตำแหน่งใน
ตู้เย็นตรงส่วนไหน เหมาะสำหรับเก็บอาหารประเภทใด เพื่อยืดอายุให้อาหารสดใหม่ได้อย่างยาวนานมากที่สุด เริ่มจาก!
ช่องแช่แข็ง
ช่องแช่แข็ง หรือช่องฟรีส เหมาะสำหรับใส่ของที่ต้องเก็บในอุณภูมิเย็นจัด ต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียส เช่น น้ำแขง ไอศกรีม เนื้อสัตว์ และของสด ของแห้ง
รวมถึงอาหารที่ทำสำเร็จแล้วต้องการเก็บเอาไว้นานๆ แต่อย่างไรก็ตาม ช่องฟรีสไม่เหมาะกับการเก็บผักหรือผลไม้สด เพราะเมื่อละลายน้ำแข็งแล้ว สภาพจะไม่สดใหม่เหมือนเดิม
บานประตู
เป็นจุดที่เย็นน้อยที่สุดใน
ตู้เย็น เพราะจะสูญเสียความเย็นไปทุกครั้งที่เปิด
ตู้เย็นใช้งาน เหมาะสำหรับของที่ไม่ต้องการความเย็นมากเท่าไหร่ อย่างพวก เนย ไข่ แยม น้ำดื่ม หรือพวกซอสต่างๆ
โซนชั้นบน
โซนชั้นด้านบนของ
ตู้เย็น รองลงมาจากช่องฟรีส เป็นส่วนที่อุณภูมิคงที่มากที่สุด เหมาะสำหรับจัดเก็บอาหารที่เสียง่ายอย่างพวก นม โยเกิร์ต กะทิ หรืออาหารปรุงสำเร็จ ที่ไม่ต้องการแช่แข็ง
โซนชั้นล่าง
ตามหลักวิทาศตร์แล้ว ควมเย็นจะไหลลงสู่ที่ต่ำเสมอ บริเวณโซนชั้นล่าง จึงเป็นจุดที่เย็นที่สุดใน
ตู้เย็น เหมาะสำหรับเก็บอาหารที่ไม่ต้องการแช่แข็ง อย่าวพวก เนื้อสัตว์ เนื้อปลา ของสดต่างๆ
ลิ้นชักด้านล่างสุด
ชั้นล่างสุดที่เป็นลิ้นชัก เป็นช่องขนาดใหญ่เพียงช่องเดียว หรือบางรุ่นอาจจะแย่งเป็น 2 ช่องก็ได้ เหมาะสำหรับอาหารที่ต้องการรักษาความชุ่มชื้น จำพวกผักและผลไม้
แค่ใช้
ตู้เย็นให้ถูกวิธี เก็บอาหารแต่ละประเภทให้ถูกตำแหน่งที่เหมาะสม เพียงเท่านั้นวัตถุดิบต่างๆ ก็จะสดใหม่ และยังคงคุณค่าทางสารอาหารได้อย่างครบถ้วนอย่างแน่นอนค่ะ