~การเรียนรู้ก่อนวัยอนุบาล ของ ด.ญ. ข้าวสวย Nahmet ~ Learn vs Educate~
ก่อนหน้านี้เคยสอนน้องข้าวสวยรักการอ่านตามวิธีของ Glenn Doman (ใครสนใจเข้าไปดูวิธีการสอนลูกให้อ่านหนังสือได้ที่บล็อกของคุณแม่น้องลูกไม้นะคะ—ขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ)
ซึ่งข้าวสวยก็สามารถเรียนรู้ได้ดีเป็นที่น่าพอใจ แต่ปัญหามาเกิดที่ว่าคุณย่าของข้าวสวยออกจะตื่นเต้นเกินไปหน่อย เลยบอกทั้งญาติ และเพื่อนบ้าน รวมถึงเพื่อนที่ทำงาน ว่าหลานสาวสามารถอ่านหนังสือได้ตั้งแต่ยังไม่ 1 ขวบ จนทุกคนอยากจะมาดูมาเห็น มากันทุกวี่วัน เหมือนเป็นการแสดงโชว์อะไรสักอย่าง สงสารข้าวสวยมากๆ จากกิจกรรมสนุกสนานระหว่างแม่กับลูก กลับกลายเป็นการทดสอบ การแสดงโชว์ไปซะอย่างงั้น
แม่เลยตัดสินใจเก็บอุปกรณ์บัตรคำการสอนต่างๆไว้ก่อน และหันมาอ่านหนังสือนิทานต่างๆอย่างเดียว เพราะไม่ไหวที่จะเห็นเด็กเล็กอย่างหนูต้องมาถูกทดสอบความสามารถกันทุกวัน..
จนมาเมื่อเช้านี้แม่ได้ไปอ่านกระทู้ที่น่าสนใจในห้องชานเรือนที่คุณแม่น้องบันบันได้มาเล่าถึงวิธีการการสอนเด็กเล็ก ในรูปแบบที่น่าสนใจต่างๆ ทั้งด้านคณิตศาสตร์ ภาษา จินตนาการ รวมถึงสมาธิด้วย อ่านดูแล้วขั้นตอนก็ไม่ยุ่งยากอะไร และอุปกรณ์ต่างๆก็สามารถดัดแปลงหาได้ในบ้าน หรือสามารถทำขึ้นเองได้ไม่ยากนัก เลยตั้งใจว่าจะนำมาเล่นมาเรียนรู้กับข้าวสวยบ้าง แต่ครั้งนี้แม่จะไม่ให้ความคาดหวังของใครๆมาทำร้ายหนูทางอ้อมได้อีก แม่สัญญาจ้ะ (และคิดว่าทำได้ด้วย เพราะตอนนี้คุณย่าหนูย้ายออกไปอยู่อีกบ้านนึงแล้วจ้ะ แต่ยังได้เจอกันทุกวัน รู้สึกว่าช่วยลดความรู้สึกขัดแย้งในใจต่างๆ และเข้าใจกันมากกว่าอยู่บ้านเดียวกันซะอีกแน่ะ^^) ลองมาดูกันค่ะว่าวิธีการดังกล่าวมีอะไรกันบ้าง หลักสำคัญที่สุดทุกการสอนที่คุณพ่อคุณแม่ต้องยึดไว้เลยก็คือ.. "ท่าทีและวิธีการดำเนินการของพ่อแม่" โดยให้คุณพ่อคุณแม่ปลูกฝังลูกว่าการเรียนรู้ เป็นเรื่องที่สนุกสนานและตื่นเต้น การเริ่มต้นสอนใดๆให้เด็กเล็กๆนั้น ต้องเริ่มด้วยท่าทีที่สนุกสนาน ร่าเริง ให้ลูกนั่งที่ตัก และกอดหอมลูกด้วยความรัก เมื่อจบกิจกรรม และในการเรียนทุกครั้งนั้นต้องจบก่อนที่เด็กจะอยากให้จบ ซึ่งจุดนี้เองจะ่ช่วยให้ลูกรู้สึกสนุกและตื่นเต้นทุกครั้ง ที่จะได้ทำกิจกรรมต่างๆนี้ และจะเป็นฝ่ายขอให้พ่อแม่เริ่มเล่มเกม หรือกิจกรรมการเรียนรู้กับเค้าอีก ในทางกลับกันหากคุณพ่อคุณแม่ใช้เวลาในการ ดำเนินกิจกรรมยาวเกินไปลูกก็จะหมดความสนใจ และความสนุกสนานในกิจกรรมนั้นๆค่ะ
1. นับเลขปากเปล่า ตั้งใจว่าจะนำบล็อกเลโก้ Primo ของข้าวสวยมาใช้ เพราะมีขนาดใหญ่(มาก) และที่สำคัญข้าวสวยเล่นทุกวันอยู่แล้ว --วีธีการโดยสรุปก็คือ: นำบล็อก หรือลูกปัดใหญ่ๆ ที่เหมือนกันมา 5 อัน วาง 1 บล็อก นับหนึ่ง.. วาง 2 บล็อก นับสอง.. ทำอย่างเดิมจนครบ 5 บล็อก วัตถุประสงค์ของกิจกรรมนี้คือให้ลูกมี Sense of Number เมื่อเราวางบล็อกลงไป ลูกสามารถตอบได้ตามจำนวน โดยที่ไม่ต้องมานั่งไล่นับ 1 2 3 .. เช่่นเราวางบล็อกลงไปจำนวน 5 บล็อก ลูกสามารถตอบกลับได้ทันที ว่า ห้า เป็นต้น
2. วางเบี้ยบนกระดาน (แม่วางลูกดู) นำเบี้ยมาวางให้ลูกดู โดยเริ่มจาก 1-20 ก่อนเป็นการสอน Sense of Pattern โดยวางเบี้ยทีละเม็ด แล้วนับให้ลูกดู จนครบจะมี 20 เบี้ยบนกระดาน ลูกจะเรียนรู้ว่า 20 ไม่ใช่แค่เลข 2 และ 0 เขียนติดกัน แต่ยังคือเบี้ยจำนวนยี่สิบเม็ด จากการสอนนี้จะนำไปสู่การสอนคณิตศาสตร์ บวก ลบคูณ หาร แก้สมการ รวมถึงการแก้โจทย์ปัญหาทางคณิตศาสตร์ชั้นสูง
โดยใช้กระดานที่มีจำนวนมากช่องเพิ่มขึ้นนั่นเอง
จินตภาพที่เกิดขึ้น สามารถต่อยอดได้อีกในทางคณิตศาตร์ เช่นแกน x แกน y มุม พื้นที่ปริมาตร ตรีโกนมิติ กราฟ เป็นต้น
3. ลากนิ้วตามตัวเลขโตๆ กิจกรรมนี้อ่านแล้ว ขอยกคำแนะำนำเรื่องอุปกรณ์ จากแม่กุ๊ดจังของน้องมิวมิวมานะคะ ขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วยจ้ะเกด
"แนะนำให้ใช้แผ่นลองคลานที่เป็นจิ๊กซอร์ตัวเลข โดยให้ลูกลากนิ้วไปตามตัวเลข จากนั้นจึงแกจิ๊กซอร์ตัวเลขออกมา แล้วให้ลูกใส่กลับเข้าไปใหม่ ระหว่างที่ลูกสนุกกับการได้ใส่ตัวเลขอยู่นั้น ก็พูดสอนไปด้วยว่า นี่คือเลขอะไร"
.
4. บัตรคำ กิจกรรมนี้ก็ง่ายๆสบายมาก เพราะเคยสอนข้าวสวยใช้บัตรคำมาก่อนแล้ว ง่ายๆเลยค่ะ หากระดาษแข็งสีขาวแผ่นใหญ่ มาตัดรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า จะตัดขนาดใหญ่เล็กก็ขึ้นอยู่กับวัยของลูกนะคะ ยิ่งเด็กเล็กมากก็ใช้บัตรใหญ่มากขึ้นค่ะ (เพราะสายตาของลูกยังไม่พร้อมที่จะอ่านตัวหนังสือเล็กๆค่ะ)
เมื่อตัดบัตรคำมาแล้วก็ให้เขียนคำลงไป โดยเขียนให้ตัวโต อ่านง่าย และเป็นระเบียบนะคะ คำที่นำมาสอนก็อาจเป็นชื่อลูก ชื่อคนในครอบครัวหรือสิ่งของ สัตว์ต่างๆที่ลูกชอบหรือสนใจ หรือจะนำคำต่างๆมาจากนิทานเล่มโปรดของลูกก็ได้ค่ะ วิธีการก็ง่ายๆค่ะ ยกบัตรคำให้ลูกดู และอ่านให้ฟังด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล ออกเสียงอย่างถูกต้องและชัดเจน โดยอาจเริ่มจาก ห้าคำก่อน และค่อยๆเพิ่มจำนวนเมื่อลูกพร้อมค่ะ
5. สมาธิ กิจกรรมนี้ง่ายมาก และก็น่าสนใจมากที่สุดกิจกรรมหนึ่งเลยค่ะ ขอยกวิธีการที่คุณเก่งแม่น้องบันบัน เขียนเอาไว้มาให้ดูนะคะ ขอบคุณแม่เก่งมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ " มีการวิจัยออกมาว่าการจับเด็กเล็กนั่งสมาธิมีผลเสียมากกว่าผลดี เพราะวัยของเด็กควรเป็นวัย วิ่งเล่นจับนั่งเฉยๆให้หลับตาเค้าจะเครียดได้ การฝึกสมาธิจึงควรฝึกผ่านกิจกรรมหรือการเล่น ต่างๆ ก่อนหน้านี้เก่งจะสอนบันร้อยลูกปัด ลูกปัดลูกโตๆมีตัวนำเป็นไม้จะง่ายสำหรับเด็กเล็ก แรกๆบันก็จะทำไม่ได้ก็คอยช่วย ตอนขวบสองเดือนร้อยเองได้ 9 ชิ้นแล้วค่ะ พ่อธีร์เพิ่มเติมวิธีฝึก สมาธิให้บันด้วยการใช้ภาพพ่อและแม่ อันนี้เด็กจะได้จินตนาการด้วย เลือกภาพพ่อหนึ่งใบที่ ยิ้มแย้ม ภาพแม่อีกหนึ่งใบยิ้มแย้มเหมือนกัน โชว์รูปพ่อให้ลูกดูบอกลูกด้วยน้ำเสียงโทนเรียบ นุ่มนวลว่า "รูปป่าป๊า อยู่ในใจหนู" จากนั้นเปลี่ยนเป็นรูปแม่พูดว่า "รูปหม่ามี๊ อยู่ในใจหนู" ฝึก แค่นี้แหละค่ะทุกวัน ลูกจะจินตนาการภาพพ่อและแม่ว่าอยู่ในใจเค้าได้ ภาพพ่อแม่ในใจเค้าจะ เป็นภาพพ่อแม่ยิ้มแย้มใจดีอ่อนหวาน "
ใครสนใจ ลองคลิกตามไปอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ในกระทู้ห้องชานเรือนนะคะ -----> ~~**~* การเริ่มสอนเด็กเล็ก สรุปเสร็จแล้วค่ะ ~**~** IcyRose ขอบคุณ คุณเก่่งและพ่อธีร์ มา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
อย่าลืมว่าการเรียนรู้หรือ Learn นั้นสามารถเริ่มได้ตั้งแต่วัยก่อนเข้าระบบการศึกษา(Educate) หรือโรงเรียนนะคะ อย่าปล่อยให้เวลาอันมีค่าของลูกน้อยหมดไปกับของเล่นกองโต การ์ตูนหรือรายการต่างๆทางทีวี ลองแบ่งเวลาวันละเพียง 15 นาทีสำหรับการเรียนรู้ร่วมกันไปกับลูกน้อย (ซึ่งแน่นอนค่ะว่ามีมากมายหลากหลายกิจกรรม ไม่จำกัดแต่วิธีที่แนะนำไปข้างต้นเท่านั้นนะคะ)
เด็กๆทุกคนมีศักยภาพที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆได้ดีและรวดเร็วกว่าที่ผู้ใหญ่อย่างเราๆจะคิดได้หลายเท่านักค่ะ ขอให้มีความสุขกับเจ้าตัวเล็กกันทุกคนนะคะ เจอกันใหม่บล็อกหน้าจ้ะ^^
Create Date : 02 ตุลาคม 2551 |
Last Update : 2 ตุลาคม 2551 16:04:02 น. |
|
14 comments
|
Counter : 622 Pageviews. |
|
|
กำลังใจมันก็แค่คำพูดที่ไร้สาระ
สำหรับคนที่ไม่ต้องการ
เหมือนคนไม่ป่วยก็ไม่ต้องการยา
ถ้าตอนนี้แรงดีอยู่ฝากเก็บไว้ก่อง
แต่วันใดอ่อนแอ..อย่ายอมแพ้สู้ๆ
อย่างน้อยพลังชีวิตที่ผมมี..ก็พร้อมจะแบ่งปัน
ในวันที่คุงมะมีใคร
ขอให้ยิ้มได้ทุกวันน๊า