Group Blog
All Blog
|
Eat Pray Love :: EP3 ปายวันที่สองกับการตะลอนแว๊น แมนๆกันค่ะ ^^ ตื่นมาเช้านี้ที่ปาย สิ่งแรกที่รู้สึกคือ.....หนาวมาก แต่ก็สดชื่นมากด้วยค่ะ อากาศในห้องปรับอากาศยังไม่ฟินเลยเดินไปเปิดประตูซะเลย โอ้โห........เย็นเยียบเฉียบเข้าไปในทรวง สะใจชะมัด เปิดดูอุณหภูมิ 11 องศา อ้าาาาาหหห....ฟิน ![]() ตื่นแต่ไก่โห่ เพื่อจะให้ทันพระอาทิตย์ขึ้น เวลามาเที่ยวตื่นเช้าได้ อยู่บ้านตื่นเช้าแบบนี้หรือไม่....ให้ทาย 5555++ ![]() บรรยากาศยามเช้ามันเงียบสงบและสดชื่นมากๆ สามารถสูดลมหายใจให้อากาศเย็นๆบาดเข้าไปในปอด ขั้วปอดอยู่ไหนรู้เลย พระอาทิตย์เริ่มจะออกมาทักทายแล้วค่ะ ฟ้าสว่างแล้วแต่นางยังไม่เผยโฉม เพราะปายเป็นเมืองในหุบ ต้องรอให้พ้นเหลี่ยมเขาซะก่อน ![]() เลยรีบเดินไปที่ริมแม่น้ำปายหน้ารีสอร์ท เพื่อจะได้บันทึกภาพความงาม เงียบ สงบ แบบที่ชาวบ้านเห็นทุกวัน แต่นังคนเมืองกรุงกรี๊ดกร๊าดนักหนา เมื่อวานเย็นก็คิดว่าภาพตรงนี้สวยจนลืมหายใจไปแล้ว พอมาตอนเช้า......มันกลับงามจับใจยิ่งกว่า ทั้งสีสัน บรรยากาศ และมิติที่ 4 คือความเคลื่อนไหวของสายน้ำ เสียงของน้ำไหล เสียงของนก ยืนนิ่งๆกำซาบ.......ซะ ![]() ![]() พอพระอาทิตย์โผล่ขึ้นมาก็สาดแสงเต็มที่ นั่งนิ่งๆกันอาบแสงตะวันยามเช้า อากาศก็ค่อยๆอุ่นขึ้นเล็กน้อย......สองคนผัวเมีย นั่งกันนิ่งๆไม่ต้องพูดกัน มันมีความสุขมากค่ะ แสงอ่อนยามเช้า กับเสียงนกร้อง มีเสียงน้ำไหลเป็นแบ็คกราวด์นอยซ์ นั่งกันจนแดดเริ่มแข็ง ร้อนละ ชะนีไทยไม่สู้แดดค่ะ ขอหลบไปทานอาหารเช้าเลยดีกว่า ตื่นเช้าแล้ว ระบบทางเดินอาหารเริ่มทำงานซะงั้น ที่รีสอร์ตมีร้านอาหารที่เปิดมาก่อนเปิดรีสอร์ตซะอีก เราจะมานั่งทานอาหารเช้ากันที่นี่ค่ะ ![]() ![]() บรรยากาศบริเวณที่ทานอาหารเป็นสไตล์วินเทจค่ะ ที่นั่งจะแบ่งเป็นเหมือนชุดรับแขกเล็กๆ ได้ที่นั่งแล้วก็สั่งอาหารค่ะ อาหารเช้าที่นี่ไม่ได้เป็นแบบบุฟเฟ่ต์อย่างที่คิด แต่มีให้เลือกสั่งได้คนละเซ็ต ของคาว + ของหวาน + ชาหรือกาแฟ ระหว่างที่นั่งรออาหาร ก็แอบไปเดินชักภาพตามมุมต่างๆอย่างเพลิดเพลิน ![]() ![]() จานแรกมาแล้วค่ะ เป็นไข่ดาว มันอบ เบคอนและไส้กรอก มาเสิร์ฟปั๊บก็ถ่ายรูปก่อนเลย ถ่ายเสร็จถามคุณสามีว่าอันนี้ของเธอใช่ไหม ปรากฎว่า ผิดค่ะ เค้าเสิร์ฟผิดโต๊ะ 5555++ ตอนเช้าพนักงานจะยังมาไม่เยอะ คนขับรถกับรีเซพชั่นเลยต้องมารับออร์เดอร์ และเสิร์ฟอาหาร รวมถึงเข้าไปช่วยในครัวด้วย เราเห็นแล้วก็รู้สึกน่ารักดี รีสอร์ตเล็กๆ แต่เซอร์วิสมายด์เต็มร้อยมากๆ ![]() เอาล่ะจานของจริงมาแล้วค่ะ จานนี้เป็นของน้ำตาลเอง สั่ง egg benedict เสิร์ฟมาพร้อมขนมปัง มะเขือเทศอบ และมันฝรั่งอบ ราดซอสเนยมาเยิ้มๆ......ปริมาณไม่น้อยเลยค่ะ รสชาติทุกสิ่งดีงามมากกก ไข่ก็สุกกำลังดีไม่สุกเกินไป มันอบก็อร่อย ไม่เค็ม ขนมปังที่อยู่ด้านล่างก็กำลังดีเลยค่ะ ![]() จานนี้เป็นของหนิงค่ะ หนิงเลือก scrambled egg ค่ะ ใส่แฮม เห็ดแชมปิยอง แครอท มีมะเขือเทศอบมาด้วย อันนี้แอบชิมของเค้าเอา มันอร่อยมากกก ![]() ของหวานน้ำตาลเลือกเป็น House Bread เสิร์ฟมาพร้อมเครื่องเคียง 4 อย่าง เนย, แยม, บัลซามิก+น้ำมันมะกอก, ซอสเหมือนซอสซัลซ่า ขนมปังรสดีค่ะ เปลือกแข็งๆแต่ข้างในนุ่ม หอมมากเป็นขนมปังอบเอง มันก็อร่อยดีนะคะ แต่กินแล้วยังไม่ฟินอ่ะ ![]() ![]() นี่สิคะ ของหวานที่หนิงเลือก Waffle with Coconut Cream เป็นวัฟเฟิลกรอบนอกนุ่มในหอมสุดๆ เสิร์ฟมาคู่กับครีมมะพร้าว ครีมนุ่มหอมมันไม่เลี่ยนเลย กินคู่กันแล้วฟินมากกกกกกกกก ![]() ทานอาหารจนอิ่มแล้ว ตรงที่นั่งทานอยู่ด้านในไม่โดนแดดค่ะ ค่อนข้างหนาวมากกก เลยขอขยับออกมารับแสงแดดด้านนอก พร้อมสั่งชาและกาแฟเพื่อจบมื้อเช้าอย่างเป็นทางการซะที ![]() น้ำตาลสั่งชามาทานค่ะ เป็น Earl Grey มาเป็นกาเลย ชอบมากกก แถมน้ำตาลที่ให้มาเป็นน้ำตาลกรวดไม่ฟอกสีด้วย เลิฟเลยค่ะ ![]() ของหนิงเป็น Latte แก้วบึ้มมากกกก บาริสต้าที่นี่เยี่ยมมากค่ะ ชงกาแฟได้อร่อยจริงๆ กาแฟที่ใช้ก็ดีมากด้วย ![]() ![]() จบมื้อเช้าลงไปอย่างสวยงาม......ด้วยความฟินของหนิงค่ะ 55555++ เมื่ออิ่มแล้วก็เข้าห้องไปเตรียมตัวท่องเที่ยวค่ะ เรากะกันว่าจะเริ่มต้นไปหมู่บ้านยูนนานก่อน และค่อยๆ แวะไปเรื่อยๆตามแผนที่ท่องเที่ยวเมืองปาย อันไหนดูดีค่อยแวะ อันไหนเฉยๆก็แค่ชะโงกทัวร์ค่ะ การเตรียมตัวของเราคือแต่งกายรัดกุม เอาทุกอย่างใส่เป้เพียงใบเดียว และมีเสื้อแจ็คเก็ตแขนยาวใส่ด้วย มันกันได้ทั้งแดดและลม ขณะที่ออกจากรีสอร์ตก็สายแล้วนะคะ เกือบ 10 โมงเช้าได้ อากาศก็ยังเย็นๆอยู่เลย พนักงานขับรถของรีสอร์ตไปส่งเราตรงแหล่งเช่ารถมอเตอร์ไซค์ค่ะ บริเวณนั้นมีให้เลือกหลายร้าน เดินเข้าไปร้านแรก ฝรั่งเยอะเชียว รออยู่สักพักไม่มีใครหืออือ เลยเดินออกมาที่ร้านเล็กๆข้างๆกัน มีรถจอดอยู่ไม่กี่คันแต่เช่าได้เลยค่ะ รถพร้อม เติมน้ำมันให้แล้ว มีแผนที่การเดินทางให้พร้อมอธิบายเสร็จสรรพ วางบัตรประชาชนไว้ให้ รับกุญแจรถแถมหมวกกันน็อคให้ 2 ใบ พร้อมแผนที่ จ่ายเงินไป 380 บาท........แว๊นซ์กันได้เลยค่ะ ![]() เราก็เริ่มต้นแว๊นซ์เที่ยวกันตามแผนที่ที่ทางร้านเช่ารถให้มาค่ะ น้ำตาลเป็นคนดูแผนที่และบอกทาง ส่วนหนิงก็เป็นแว๊นซ์บอยไป สก๊อยเกิร์ลบอกทางค่ะ เรามุ่งหน้าไปที่แรก "หมู่บ้านสันติชน" เป็นหมู่บ้านของชาวจีนยูนนานที่อพยพมาตั้งรกรากที่นี่ ป้ายทางเข้าหมู่บ้านเป็นประตูแดง.....ดูจี๊นนน จีน ![]() เข้ามาถึงจะมีลานจอดรถและลานกว้างๆเป็นสถานที่ท่องเที่ยวดักคนที่มาไว้ เราก็ทำการจอดรถในที่ที่เค้าจัดไว้ให้และเริ่มเดินดู....ไปเรื่อยๆค่ะ ![]() ![]() ![]() สถานที่เป็นเหมือนฉากเซ็ตขึ้นมาแสดงถึงสถาปัตยกรรมและวิถีชีวิตของชาวจีนยูนนาน มีตัวอาคาร มีเครื่องเล่น มีการเลี้ยงไก่ เลี้ยงม้า มีบ้านที่ก่อสร้างด้วยดิน รวมถึงมีกำแพงเมืองจีนด้วย.....อันนี้แอบงงว่ามาได้ไง เกี่ยวกันตรงไหน แต่มันก็เป็นสถานที่เที่ยวได้ดีทีเดียว ที่นี่เป็นเหมือนที่ดักนักท่องเที่ยวไม่ให้เข้าไปละลาบละล้วงเข้าไปในเขตที่อยู่อาศัยจริงๆ สร้างความเป็นสัดส่วนของหมู่บ้าน แต่จริงๆนะ เราก็ไม่ได้อยากจะเข้าไปเท่าไหร่ เพราะทางเข้าเป็นภูเขาทางชันมากกกก เดินไม่ต้องพูด ขี่มอเตอร์ไซค์ยังยากเลยค่ะ และบ้านชาวบ้านก็ไม่ได้น่าดูเท่าไหร่ มันกลืนๆกลายๆเหมือนบ้านทั่วไปหมดแล้วค่ะ บ้านดินในตำนานก็มีให้เห็นไม่กี่หลัง แถมเป็นบ้านที่ทำไว้โชว์ซะส่วนใหญ่ ![]() ![]() ![]() ก่อนจะกลับเราก็แวะซื้ออาหารกลางวันจากหมู่บ้านยูนนานกลับไปด้วย เพราะจะนั่งทานเลยก็ยังไม่หายอิ่มจากมื้อเช้าเลยค่ะ แต่เชื่อไหมคะ ว่าเราซื้ออะไรได้อีกจากที่นี่.......ที่นี่มีสาวยาคูลท์ค่ะ เราเลยซื้อยาคูลท์มา 4 ขวด ในราคาขวดละ 8 บาท แพงกว่าใน กทม. นิดเดียวเอง ตลกมากกก....มากินยาคูลท์ที่ปายกัน 5555++ เราก็ขึ้นรถแว๊นซ์กันต่อไป.....ขับกันไม่เร็วหรอกค่ะ ชมนกชมไม้ไปเรื่อยๆ และทางกลับนั้นเราก็เห็นวัดที่อยู่กลางทาง หมายตามาแต่แรกแล้วว่าจะแวะวัดขากลับ "วัดน้ำฮู" ขี่รถเข้าไปจอดในวัด ชะโงกหน้าดูพระอุโบสถแล้ว.....เห็นพ้องกันว่าน่าสนใจมาก สันดานเด็กถาปัดเริ่มเข้าสิง ทั้งผัวและเมีย ควักกล้องคล้องคอแล้วเดินเพลิดเพลินมาก พระอุโบสถเป็นสถาปัตยกรรมล้านนาค่ะ ทรงเตี้ยแจ้ สัดส่วนสวยงามใช้ได้ทีเดียว ไม่ได้มีการตกแต่งอะไรหวือหวา เป็นอุโบสถเรียบๆ แต่สวยค่ะ ![]() ![]() ด้านหลังมีเจดีย์สีทองตั้งอยู่ ทรงเจดีย์แปลกๆค่ะ ฐานเป็นย่อมุมเหมือนเจดีย์ภาคกลาง ตัวองค์เจดีย์กลับเป็นทรงเหลี่ยมที่ไม่เหมือนอะไรในตำราเลย แต่ยอดกลับเริ่มเป็นระฆังคว่ำอีก......คาดว่าเป็นเจดีย์ทรงตามใจฉันค่ะ วันที่มาเที่ยวโชคดีมากค่ะ ที่วัดมีพิธีงานศพของเจ้าคณะอำเภอพอดี เป็นงานศพของพระชั้นผู้ใหญ่ที่นี่ เลยมีงานพิธีใหญ่โต ที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน มีทหารยกมาทั้งกองพล มาเคารพศพ มีชาวบ้านมาทำบุญเยอะแยะไปหมด ![]() และก่อนจะกลับก็เหลือบไปเห็นคุณยาย แม่อุ๊ย ท่านนึงซ้อนมอเตอร์ไซค์ลูกสาวเข้ามา ที่เตะลูกกะตาอิชั้นพั่บๆๆ คือ ผ้านุ่งของแม่อุ๊ยค่ะ ผ้านุ่งสวยมากกกก เป็นผ้ามันสีดำ ทอแทรกด้วยดิ้นสีทองเป็นลวดลายแปลกตา แม่อุ๊ยโพกผ้าสีขาวบนศีรษะด้วย ลองสอบถามดู คุณยายก็ตอบเป็นภาษาเหนือที่แปลก ฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง เลยให้ลูกสาวที่มาด้วยช่วยแปลให้ฟัง เค้าอธิบายว่า คุณยายเป็นชาวไตค่ะ การโพกผ้าและนุ่งซิ่นสีดำคือชุดสวยที่เอาไว้มางานศพ ![]() ก็เลยขอคุณยายถ่ายรูปเอาไว้ คุณยายก็เลยให้ศีลให้พร พอดีคุณยายเป็นทำบุญที่อีกวัดแล้วเค้ามีพิธีสืบชะตา เลยได้ด้ายสายสิญจน์มา เลยเอาด้ายมาผูกข้อมือให้......เราทั้งคู่รู้สึกปลาบปลื้มมาก เป็นทริปที่ EAT PRAY LOVE ได้สมบูรณ์แบบมาก ![]() จากนั้นเราก็แว้นซ์กันต่อค่ะ เราจะไปที่ร้านกาแฟ Coffee in Love ร้านกาแฟที่เค้าว่า วิวสวยที่สุดในเมืองปาย จากโลเคชั่น.....มันสวยจริงๆแหละ มองเห็นปายทั้งเมืองเลย สวยจริง แต่คนเยอะมาก ทุกคนอยากมาชิลล์กินกาแฟชมวิวกันทั้งหมด มันเลยงั้นๆไปซะ เราสองคนลงมาเดินๆ ดูๆ แล้วก็กลับรีสอร์ตกันดีกว่า เริ่มอยากเข้าห้องน้ำค่ะ คิดไม่ออกจะไปเข้าที่ไหน กลับรีสอร์ตไปตั้งหลักกัน ![]() กลับมาถึงห้องเข้าห้องน้ำ ล้างมือ ล้างหน้าเรียบร้อย ก็ออกมาแกะอาหารกลางวันที่ซื้อมา เตรียมจะเสพให้หนำ พร้อมชมวิวสวยๆจากระเบียงห้องพัก นี่ค่ะ อาหารกลางวันของเราสองคน "ขาหมูยูนนาน และ หมั่นโถว" อย่าไปคิดว่าหมู่บ้านยูนนานเค้าจะเลี้ยงหมูเอง เชือดเองมาต้มขาหมูนะคะ ป้ายติดหราหน้าร้านเลยค่ะ เนื้อหมูจากเบทาโกร.....สะอาด ปลอดภัย โอเค...หมูอะไรก็ตาม สุกแล้วอร่อยด้วยก็กินได้หมดล่ะค่ะ 555++ สั่งขาหมูมา 1 ขา พร้อมหมั่นโถวแบบนึ่ง 4 ก้อน แบบทอดอีก 4 ก้อน ไม่คิดว่ามันจะมากมายขนาดนี้ ดูจากในรูปที่เมนูมันไม่ใหญ่ขนาดนี้นี่นา ><" ![]() ขาหมูยูนนานต่างจากขาหมูพะโล้ที่เราคุ้นเคยยังไง มันเป็นขาหมูพะโล้ที่ใส่เครื่องเทศ พริกแห้ง หัวหอม รสชาติจะเข้มข้น ออกจะเผ็ดๆ และกลิ่นเครื่องเทศแรง แต่มันอร่อยมากกกกกก อยากวิ่งออกไปซื้อแล้วแพ็คกลับบ้านมากมาย แต่จนปัญญาจริงๆ หมั่นโถวที่เอามาทานคู่กันก็อร่อยมากค่ะ เนื้อแป้งนุ่มและเหนียว เคี้ยวเพลิน ทานจะขาหมูด้วยยิ่งอร่อย ฉีกแป้งแล้วจิ้มน้ำพะโล้ยิ่งฟิน กินกันไปคนละ 2 ลูกก็เริ่มจุกกันแล้วค่ะ....เลยตัดใจ ยังไงก็ต้องกินเนื้อให้หมด แป้งเหลือช่างมัน เดี๋ยวดึกๆค่อยมาเล็มต่อได้ เลยฟาดกันแต่ขาหมูจนเกลี้ยงค่ะ ฟินกันไป....5555 ![]() กินอิ่มแล้วก็พักผ่อนสักครู่ ให้กระเพาะได้จัดเรียงอาหารซะก่อน บ้วนปาก เข้าห้องน้ำ และเติมครีมกันแดดกันอีกรอบ แล้วก็ออกแว๊นซ์กันต่อค่ะ.....คราวนี้เรามาแวะที่ "สะพานประวัติศาสตร์" สร้างขึ้นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ใช้เป็นเส้นทางลำเลียงกำลังพลและอาวุธเข้าสู่พม่า เป็นสะพานที่สร้างโดยกองทัพญี่ปุ่น เช่นเดียวกับสะพานข้ามแม่น้ำแควที่กาญจนบุรี ตอนนี้เป็นสะพานที่กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว ไม่ได้ใช้งานจริงจัง มีสะพานคอนกรีตเสริมเหล็กที่สร้างใหม่ แข็งแรงคู่ขนานใช้อยู่ในปัจจุบันค่ะ ![]() ![]() สะพานเป็นโครงสร้างเหล็กถัก พื้นสะพานเป็นไม้ มีนักท่องเที่ยวมาเดินเล่นเยอะเหมือนกันค่ะ และมีน้องเด็กผู้ชายใส่ชุดทหารญี่ปุ่นเดินไปเดินมา ให้คนถ่ายรูปด้วย พร้อมได้สตางค์เล็กๆน้อยๆ น้องน่ารักดีค่ะ ตัวสูงเชียว ![]() เราสองคนก็เดินกันเรื่อยๆจนถึงกลางสะพานเพื่อดูแม่น้ำปายค่ะ เลยพบว่าแม่น้ำปายเป็นแม่น้ำตื้นๆ ที่ไหลเรื่อยๆ ไม่ใช่แม่น้ำกว้างใหญ่อะไรเลย อากาศดีนะคะ แต่แดดแรงมาก เริ่มร้อน เราเลยถ่ายรูปคู่กันไว้แชะนึง แล้วเผ่นค่ะ.....ไปต่อดีกว่า ![]() เราแว๊นซ์มาต่อกันที่บ่อน้ำพุร้อน ท่าปายค่ะ เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานห้วยน้ำดังค่ะ เป็นบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติ มีคนมาเล่นน้ำ แช่ตัวกันเยอะทีเดียว ส่วนใหญ่จะอยู่ปลายๆน้ำ เพราะน้ำมันร้อนมากค่ะ ตรงที่อุ่นกำลังดีคนจะเยอะมาก ส่วนใหญ่ก็เป็นฝรั่ง ![]() ![]() ธารน้ำพุร้อนเป็นธารน้ำธรรมชาติมากๆค่ะ มีการก่อสร้างที่จะทำให้เป็นบ่อแช่ตัวอยู่ แต่ยังไม่เสร็จ ก็เลยยังเป็นธารน้ำร้อนแบบนี้ล่ะค่ะ น้ำตาลว่ามันดีนะ.....มันเป็นธรรมชาติดีออก ![]() จุดที่เราสองคนจะนั่งเล่นแช่น้ำร้อนเขยิบหนีขึ้นไปห่างจากคนหน่อย เห็นน้ำใสๆ น่าจะอุ่นๆเนอะ.....หย่อนก้นลงเป็นก้อนหิน ถอดรองเท้า เอาเท้าจุ่มลงไป ...... ...... จ๊าาาากกกก.....มันร้อนมากค่ะ เหมือนจุ่มลงไปในแก้วกาแฟนี่กินแล้วปากพองได้เลย เลยทำได้แค่เอาเท้าแตะๆจุ่มๆ นิดๆหน่อยๆเท่านั้นเองค่ะ ทนร้อนไม่ค่อยได้ ผิวค่อนข้างบางค่ะ แค่นี้ก็เริ่มแดงแล้วล่ะ -_-" ![]() พอเล่นน้ำให้หายอยากแล้วก็เช็ดเท้าใส่รองเท้าแล้วเดินขึ้นไปดูตาน้ำกัน เดินผ่านจุดที่น้ำไหลลงมารวามกันเป็นลำธาร โห้.....ร้อนควันโขมงกันเลยทีเดียว ![]() ![]() เดินมาถึงตาน้ำ....มีป้ายอธิบายเรื่องพลังงานความร้อนใต้พิภพ และมีตะกร้าไข่ต้มขาย....บ่อนี้ต้มไข่ได้ค่ะ ไม่เหม็นกำมะถัน อุณหภูมิประมาณ 90-100 องศาเซลเซียส น้ำพุร้อนจะผุดขึ้นมาจากบ่อแล้วล้นไปตามลานหินแล้วค่อยรวมไปเป็นลำธาร ด้านล่างที่ให้เราเล่นน้ำแช่ตัวกันค่ะ มีอีกบ่อนึงที่ต่อท่อไปใช้ในหมู่บ้าน บ่อนั้นไม่อนุญาตให้คนเข้าไปใช้ค่ะ ![]() จบทริปบ่อน้ำพุแล้วเราก็ขี่รถกลับรีสอร์ตกันค่ะ กลับอีกทางนึง ชมนกชมไม้ยามบ่าย ผ่านทุ่งนา ผ่านภูเขา แวะชมวิวข้างทาง ไปเรื่อยๆ ทิงนองนอย จนถึงรีสอร์ตประมาณสี่โมงครึ่งค่ะ เพิ่งรู้ตัวว่าแก่....เพราะรู้สึกเหนื่อยและหมดแรงมากกกก จากที่ตั้งใจไว้ว่าจะไปเวียนเทียนที่วัดพระธาตุแม่เย็น เป็นอันว่าไม่ไหวค่ะ หลับคร่อก....กันทั้งผัวทั้งเมีย ตื่นอีกทีก็ทุ่มกว่าแล้ว จองเซ็ตดินเนอร์วาเลนไทน์ไว้ที่โรงแรม....ฉลองฮันนีมูนในวันวาเลนไทน์ซะเลย อาหารจัดเป็น 5 Course มีให้เลือก 2 เซ็ตค่ะ เราเลยเลือกคนละเซ็ต จะได้แบ่งกันชิม ![]() ![]() เริ่มด้วยน้ำตาลเลือก prosecco มาเรียกน้ำย่อยก่อนค่ะ ส่วนของคุณสามีเป็นไวน์แดงรสดีทีเดียว ![]() จานแรกเป็น Leek Soup กับ Caprese Salad ซุปต้นกระเทียมรสดีมากค่ะ อากาศตอนค่ำเริ่มเย็นๆแล้ว ทานซุปอุ่นๆมันดีจริงๆ รสชาติก็ดี กลิ่นก็หอม เข้มข้นพอประมาณไม่เลี่ยนค่ะ ส่วนสลัดของคุณสามีก็อร่อยมาก เนื้อมะเขือเทศเต็มปากเต็มคำ มอสซาเรลลาชีสก็เนื้อเนียนและชิ้นกำลังดี ![]() ![]() จานที่สอง Charred Salmon และ Smoked Duck แซลมอนย่างราดครีมมะเขือเทศกับร็อคเก็ตสลัด ปลาย่างสุกกำลังดีมากๆค่ะ เนื้อปลายังชุ่มฉ่ำอยู่เลย ครีมมะเขือเทศก็รสดี ทานด้วยกันก็ไม่เลี่ยน ส่วนอกเป็ดอบราดซอสสตรอเบอรี่ เนื้อเป็ดเหนียวไปนิดนึง ทานกับซอสก็ได้รสชาติที่ดีนะคะ อาจจะรู้สึกแปลกๆ แต่ก็อร่อยดีค่ะ ![]() ![]() จานที่สาม เป็น Lamb Shank กับ Snow fish Lamb Shank เสิร์ฟมาพร้อมกับผักโขม มันบด ขนาดจานขอใช้คำว่ามหึมา มันใหญ่จริงๆค่ะ ยังคิดกันเลยว่าจะกินไงหมดเนี่ย แต่รสชาติมันดีมากๆ กินไปเรื่อยๆเพลินๆ หมดค่ะ 5555++ เนื้อแกะไม่เหนียวเลย นุ่มมาก มีกลิ่นแกะนิดหน่อยไม่ถึงกับเหม็นแต่มีกลิ่นแกะนะ เครื่องเคียงที่ประกอบมาด้วย ยิ่งทำให้รสมันดีขึ้นอีกค่ะ มันเข้ากันมากๆ ส่วนอีกจานที่เป็นปลาหิมะ เสิร์ฟพร้อม Lemon Risotto ถั่ว มะเขือเทศ และ เนยพริกไทยดำ ปลาย่างมาได้ที่มากๆ เนื้อปลาชุ่มฉ่ำมาก สุกกำลังดีไม่สุกเกินไปจนแข็ง รสชาติจานนี้ดีมากๆค่ะ ผู้หญิงน่าจะชอบเพราะมันเบาๆ ทานสบายๆ ![]() จะว่าไปนะคะ เมื่อหมดอาหารคาวเราสองคนก็เริ่มอิ่มมากกันแล้ว Portion ของแต่ละจานค่อนข้างใหญ่เลยค่ะ บางจานนึกว่าจะทานไม่หมดด้วยซ้ำไปค่ะ มาถึงของหวานกันบ้างค่ะ จานแรกเป็น Lavender Panna Cotta รสแปลกดีค่ะ หวานๆ หอมๆ กลิ่น Lavender ชัดมากกกก ถ้าชอบก็จะชอบมาก ถ้าไม่ชอบจะคิดว่ากลิ่นเหมือนยาหม่อง ขนมที่นี่ไม่หวานจัดค่ะ รสกลางๆแต่อร่อยดีค่ะ ![]() จานสุดท้ายเป็น Dark Chocolate Cake ราดมาด้วย White Chocolate Sauce และ มาพร้อมกับสตรอเบอรี่ อันนี้อร่อยสุดค่ะ ช็อกโกแลตเข้มข้น ราดซอสไวท์ช็อกหอมหวาน มีสตรเบอรี่รสเปรี้ยวตัดแก้เลี่ยน เป็นขนมที่มีครบทุกรสชาติค่ะ ![]() สนนราคามื้อนี้คือ 1,000 บาท/คน จบการทานอาหารแล้วค่ะ อิ่มตื้อกันทั้งคู่ เป็นดินเนอร์วาเลนไทน์ฉลองฮันนีมูนที่ประทับใจมากๆค่ะ กว่าจะทานเสร็จจากอากาศเย็นธรรมดาเริ่มหนาวแล้ว อุณหภูมิเมื่อตอนกลางวันประมาณ 33 องศา ตอนเย็นประมาณ 24 องศา พอทานอาหารเสร็จประมาณสามทุ่มนิดๆก็เหลือแค่ 18 องศา และก็จะลดต่ำลงเรื่อยๆ........ฟ้าก็ใสปิ๊ง พระจันทร์ก็สว่างสวยขึ้น 15 ค่ำด้วย ![]() จบวันที่สองที่ปายได้อย่าง.... Perfect มากๆค่ะ |
bemynails
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ผู้หญิงธรรมดาที่ชอบช๊อปปิ้ง แต่งหน้า เพื่อความสุขเล็กน้อยๆของตัวเอง ในโลกการทำงานที่ผู้ชายเป็นใหญ่ งานออกแบบเป็นชีวิต....ก็ขอออกแบบชีวิตประจำวันด้วยสีสันบ้าง.... เพราะผู้หญิงก็ยังเป็นผู้หญิงวันยังค่ำ.... ^_^ ไม่อนุญาตให้ใช้ข้อมูลหรือชื่อ bemynails ในการนำไปอ้างอิงเพื่อขายสินค้าใดๆค่ะ bemynails Friends Blog
Link |