|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
|
|
|
|
บุณยภู บทที่ ๑๔ จุดเริ่มต้น (๑) โดย...นิรีย์
นี่คือจุดเริ่มต้นของทุกอย่างใช่ไหม
นี่คือแม่และพ่อ และจุดเริ่มต้นของเธอ
ม่านรู้สึกถึงลำคอที่แห้งผาก มองนิ่งไปที่บุคคลทั้งสอง...มีความรู้สึกมากมายสะท้อน ออกมาทางสายตาของคนทั้งคู่ หลากหลายอารมณ์ที่นำมาซึ่งความสับสนไม่เข้าใจ สำหรับผู้ที่เป็นได้แค่ผู้ชม
เธออยากเข้าไปอยู่ในใจพวกเขา อยากรับรู้ความรู้สึกส่วนลึกจริง ๆ ของบุพการี อยากรู้ว่า...เพราะไม่ได้เริ่มต้นด้วยรักหรืออย่างไร ถึงได้มีจุดจบที่โศกเศร้าเช่นนี้
และแล้ว...ก็เหมือนมีอำนาจบางอย่างรับฟังคำขอนั้น สายลมบาง ๆ ล้อมเข้ามาอยู่รอบตัว จากหมุนวนช้า ๆ ค่อย ๆ แรงและเร็วขึ้นเรื่อย ๆ จนในที่สุดสายลมได้ดูดดึงเธอหายเข้าไป ในห้วงเวลาที่ต้องการ ไปรับรู้ถึงความจริงที่ซ่อนเร้นอยู่ในจิตใจของใครหลายคน ไปรับรู้เรื่องราวที่เป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งที่ชั่วร้ายที่สุดแห่งคาบสมุทรมายา และจุดสิ้นสุด ของคำว่า เพื่อน
**********
การเดินทางสู่ พิชญะ บ้านหลังใหม่ที่แม้นจะเป็นเพียงบ้านชั่วคราว น่าจะทำให้สาวน้อย ที่ไม่เคยเหยียบย่างสู่ดินแดนทางฝั่งซ้ายของบุณยภูอันเขียวขจีตื่นเต้นกับความแตกต่าง ราวขาวและดำกับบ้านเกิดมากกว่านี้ แต่ความไม่ชอบผู้ชายทรงอำนาจ และเอาแต่ใจ ที่ควบขับม้าอยู่เบื้องหน้า ทำให้สองวันที่ผ่านมามีแต่ความอึดอัด ยิ่งเขาเร่งเดินทางโดย แทบไม่มีการหยุดพัก ยิ่งทำให้อารมณ์ของจันทราคล้ายเส้นเชือกที่เขม็งเกลียวพร้อมที่จะ ขาดผึงไปในทันทีทันใด
ข้าเหนื่อย อยากพัก ตะโกนบอกเท่าที่เสียงจะมีอยู่ตอนนี้ หยุดม้ากึกเพราะทนขี่มันต่อไป อีกไม่ไหว ร่างกายปวดร้าวจนแทบจะขยับเขยื้อนเนื้อตัวไม่ได้
จันทราเห็นเขาเพียงชำเลืองมองมา และยิ้มนิด ๆ ที่มุมปาก แต่แค่นั้นก็ทำให้พาลเกลียด นายพลคนนี้มากขึ้นไปอีก เกลียดเหลือเกินกับสายตาเข้มทรงอำนาจที่ราวกับจะมองทะลุ เข้ามาในใจได้ และยังรอยยิ้มมุมปากนั่นอีก อยากตรงเข้าไปข่วนหน้ายิ้ม ๆ นั้นให้เลือดซิบ แต่ก็ได้แค่คิดแค้นในอกอยู่คนเดียว ตอนนี้ไม่มีใครสามารถเข้ามาช่วยได้แม้แต่แม่คิรา
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ก็อดที่จะหวาดวิตกไม่ได้ ต้องอยู่กับผู้ชายที่แก่กว่าเกือบยี่สิบปีในฐานะ ภรรยา แม้นอาคิราห์จะพยายามเน้นย้ำว่าการแต่งงานครั้งนี้จะเป็นเพียงการแต่งบังหน้า เท่านั้น แต่อีกฝ่ายก็เพียงยิ้มมุมปากอย่างที่ชอบทำ ไม่ตอบรับด้วยวาจาสักคำ
จันทรารู้ดีว่าแม่คิราเต็มไปด้วยความอัดอั้น ไม่อยากปล่อยมือจากไป แต่มันคงไม่มีทาง เลือกอื่นอย่างที่เพื่อนเก่าของนางบอกไว้จริง ๆ สาวน้อยสงสารผู้มีศักดิ์เป็นน้าแต่เลี้ยงดู และใกล้ชิดราวกับเป็นแม่แท้ ๆ แม่ที่สนใจแต่น้องสาวอีกสองคน แม่ที่ห่างเหินจนเหมือน คนแปลกหน้า แม่ที่ผลักดันให้เธอหันหลังให้ครอบครัวอย่างไม่อาลัย
ตอนนี้คนที่รักเธอ และเป็นที่รักกำลังลำบาก ถ้าการที่ต้องไปอยู่พิชญะกับนายพลคนนี้ช่วย อาคิราห์ได้ จันทราก็พร้อมจะทำ แต่เธอไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเขาต้องการทำเช่นนี้
การแต่งงานเป็นไปอย่างเรียบง่าย มีเพียงพิธีหลั่งน้ำมนต์จากนักบวชอาวุโสของบุณยภู ในช่วงเย็นเท่านั้น แล้วการเดินทางก็ได้เริ่มขึ้นในเช้าตรู่ของวันต่อมา เจ้าบ่าวที่เธอแสน ชังน้ำหน้าเร่งเร้าให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างที่ตัวต้องการ และรวดเร็วจนจันทราแทบจะไม่มี เวลาหายใจ
ข้านึกว่าเจ้าจะไม่ยอมพูดกับข้าไปจนถึงพิชญะซะอีก เขากล่าวยิ้ม ๆ
ข้าก็นึกว่าท่านจะเร่งเดินทาง จนไม่สนใจคนที่ตามมาด้วยเหมือนกัน สาวน้อยประชด ขวางหูขวางตาเมื่อเห็นท่าทีสบายอารมณ์บนหลังม้า หลังจากที่เขาเร่งรัดทุกอย่าง โดยอ้างการเดินทางกลับพิชญะให้เร็วที่สุด
เจ้าเบื่อหรือ หนูจัน
ใช่ เบื่อมาก
ถ้าอย่างนั้นเจ้าอยากทำอะไรแก้เบื่อล่ะ
แค่ท่านออกไปให้พ้นหน้าข้า ข้าก็คงหายเบื่อแล้ว
ปากร้ายจริงเมียข้า
ข้าไม่ใช่เมียท่าน
ทำเสียงเหมือนกับเมื่อคืนนั้นเลยหนูน้อย ที่เจ้าบอกว่าห้องไม่ใช่ห้องของข้า แล้วเป็น อย่างไร ทุกอย่างกลายมาเป็นของข้าหมด รวมทั้งเจ้า
มันก็แค่ชั่วคราวจนกว่าเรื่องทางคามินรัฐจะเรียบร้อย แล้วท่านก็รับปากแม่คิราแล้วว่า จะไม่ทำอะไรข้า เป็นผู้ใหญ่แล้วรักษาคำพูดด้วย
ข้าจำไม่ได้นะว่าเคยรับปากแม่คิราของเจ้าตอนไหน แต่เห็นเจ้าร้อนใจเช่นนี้ ข้ารับปากว่า จะไม่ทำอะไรเจ้าก็ได้ แต่ไม่ได้รับปากว่าจะไม่ให้เจ้าทำอะไรข้านะ
หมายความว่าอะไร หมายความว่า...ถ้าเจ้าอยากถือสิทธิ์ความเป็นเจ้าสาว เชยชมข้าก็ได้ เขาลากเสียง ตอนท้ายยาว ดวงตาเป็นประกายจ้าสื่อสิ่งที่คิดอยู่ในใจตอนนี้ออกมาอย่างโจ่งแจ้ง
บ้า! ลามก สาวน้อยว่าอย่างไม่เกรงกลัวฐานะของอีกฝ่าย สิ่งที่เจ้าว่าลามก มันคือเรื่องธรรมชาติสำหรับผัวเมีย แล้ววันหนึ่งเจ้าอาจต้องทำสิ่งนั้น กับข้า นายพลหนุ่มตอบกลับด้วยสีหน้ายิ้ม ๆ เช่นเดิม ประกายจ้าในดวงตายิ่งทวีความ เข้มขึ้นจนผู้ที่ทำใจกล้าสบตาต้องรีบเมินหนีด้วยหัวใจที่เต้นระทึก
ไม่มีวันนั้นแน่นอน จันทราเชิดหน้าตอบอย่างหนักแน่น แม้นบางเสี้ยวในใจจะมีความรู้สึก แปลก ๆ แต่การโดนบีบบังคับ ทำให้ใจสาวน้อยมีแต่จะต่อต้าน กรุ่นโกรธ เกลียดชัง และไม่คิดสนใจที่จะหาคำตอบว่าความรู้สึกนั้นคืออะไร
หนูจัน เจ้าโตพอที่จะเข้าใจความต้องการของผู้ชายแล้ว เจ้ารู้ใช่ไหมว่าถ้าสามีต้องการ ภรรยาก็ไม่ควรปฏิเสธ
เราไม่ได้เป็น...
หนูน้อยเจ้าคิดว่าคนอย่างข้าจะเล่นขายของหรือ ข้าแต่งกับเจ้าเพราะข้าต้องการเจ้าจริง ๆ
ท่านอย่าผิดคำ ท่านบอกจะไม่ทำอะไรข้านะ จันทรารู้สึกกลัวสายตาจริงจังนั้นอย่างจับจิต ละล่ำละลักเตือนเขาเพื่ออย่างน้อยยังมีกำแพงแห่งคำสัญญากั้นเขาให้ห่างแม้นสักนิดก็ยังดี
ข้าไม่ผิดคำแน่นอน ไม่ทำอะไรที่ขืนใจเจ้าแน่นอน ร่างใหญ่หนาเคลื่อนม้าเข้ามาประชิด ม้าของคนช่างพูด และโดยไม่ต้องออกแรงมากมาย ร่างเล็กบอบบางก็โดนอุ้มตัวลอยมา นอนตัวแข็งพาดอยู่บนตักของเขา ส่วนม้าที่ว่างคนขี่ก็โดนผูกติดให้เดินตามมาห่าง ๆ
ด้วยรูปร่างที่ต่างกันอย่างมากทำให้เหมือนกับเขากำลังอุ้มเด็กน้อยแนบอกพาขี่ม้าเที่ยวเล่น
นอนให้สบาย ตอนนี้ข้าจะชดใช้สองวันที่ทำให้เจ้าต้องลำบาก เขาก้มลงกระซิบข้างหู แม่สาวน้อยอย่างนุ่มนวล ร่างเล็กแบบบางหากแต่นุ่มนิ่ม และหอมกรุ่น ทำให้ยากจะห้ามใจ คำสัญญาที่เพิ่งกล่าวจึงดูราวกับจะเอ่ยเพียงลอย ๆ เหมือนเจ้าตัวไม่คิดที่จะจริงจังใด ๆ เพราะฝ่ามือใหญ่ได้ละจากบังเหียน เพื่อเคลื่อนขึ้นมาประคองหน้างามจิ้มลิ้มให้แหงนขึ้น มองเขาเต็มตา
หนูจัน เจ้าทำให้ข้าทรมาน คิดถึงแต่จุมพิตในคืนนั้น เขาทำเสียงครางราวเจ็บปวดทรมาน อย่างที่พูด ใบหน้าโน้มลงจนปลายจมูกโด่งตรงแตะชิดจมูกรั้นแต่ได้รูปสวยของสาวน้อย ริมฝีปากรูปกระจับสีชมพูระเรื่อเผยอน้อย ๆ คล้ายอยากจะทัดทาน แต่ก็ไม่ทันกาล คำพูด ต่าง ๆ โดนกลืนหายเข้าไปในริมฝีปากของนายพลหนุ่มจนสิ้น
ไม่เหมือนจุมพิตแรกที่ผ่านมา ครั้งนี้เขาตั้งใจใช้ลิ้นนุ่มร้อนซอกซอนสำรวจไปทั่วปากช่าง ต่อว่า ลิ้มรสความหวานซ่านของดอกไม้แรกผลิที่ได้แต่ไหวสะท้านยามโดนละเลียดอย่าง ตั้งใจ ลิ้นที่ช่ำชองชักนำคนไม่ประสาให้หลงเพริดในวังวนแห่งธารพิศวาส พัดพาล่องลอย ไปไกลลิบ จนไร้เรี่ยวแรงจะว่ายกลับฝั่ง และคงจมสู่ห้วงลึกของสายธารอารมณ์ ถ้าเขาจะ ไม่ปรานีต่อความอ่อนเดียงสานั้น
พยัคฆ์หนุ่มหยุดหยอกเย้าสมันน้อยที่กำลังตัวสั่นเทาอยู่ในอ้อมอกกว้าง ความเก่งกล้าเมื่อ ครู่ละลายหายไปเพียงเพราะจุมพิตเดียว
ข้าจะไม่ขืนใจเจ้า จะรอจนกว่าเจ้าจะพร้อม แต่ขอให้ได้แตะต้องบ้างนะหนูจัน
แม้นจะรู้ว่าเป็นการเอาเปรียบผู้อ่อนเยาว์ แต่นายพลแห่งพิชญะกลับห้ามตัวเองไม่ได้ ที่จริง แล้วเขาไม่สามารถห้ามตัวเองได้ตั้งแต่แม่สมันตัวน้อยคนนี้เปิดประตูผิดห้องออกมา จุดที่ อ่อนไหวที่สุดตื่นตัวจนเจ็บปวดราวกับเด็กหนุ่มอารมณ์เดือดพลุ่ง ไม่เคยเลยที่จะรู้สึกกับ ผู้หญิงคนไหนมาก่อนเช่นนี้ ยิ่งได้ลองแนบชิดได้กกกอดเนื้อตัวนุ่มนิ่มหอมละมุน ยิ่งยั่วยุ ไฟราคะในตัวให้ลุกโชน
และเมื่อเห็นโอกาสเขาก็ลืมสิ้นถึงความเหมาะสม ลืมสิ้นถึงความคิดเดิมที่เพียงอยากจะกัน เธอจากอาคิราห์เพื่อหาเหตุผลที่แท้จริงของเพื่อนตั้งแต่วัยเยาว์คนนี้ ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยาก ช่วยนาง แต่การขอความช่วยเหลือครั้งนี้มีเงื่อนงำจนไม่อาจวางใจ
การเติบโตมากับอาคิราห์ที่หนีราชภัยจากกษัตริย์คามินรัฐมาอยู่กับครอบครัวของเขาตั้งแต่ เพิ่งเริ่มเดินได้ในฐานะสายเลือดนอกบังลังก์ของกษัตริย์พระองค์ก่อน ทำให้เขารู้ดีว่าภายนอก ที่เรียบร้อยนุ่มนวลนั้นซ่อนอะไรไว้บ้าง
ความทะเยอทะยานที่ร้อนแรง
แต่ความเป็นเพื่อนที่ยังคงติดต่อกันอยู่เสมอแม้นว่าอาคิราห์จะถูกส่งตัวกลับไปนานแล้ว ทำให้ทั้งเขาและสังฆราชแห่งบุณยภูช่วยอาคิราห์ในหลายเรื่อง รวมทั้งเรื่องนี้ ด้วยความ สงสารผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่พยายามดิ้นรนหาความเป็นธรรมให้ตัวเอง กุลิสร์รู้ว่าฐานะของนาง ยิ่งแย่กว่าเมื่อตอนอยู่ที่พิชญะ แต่เขารู้ดีว่านางจะไม่มีทางยอมต่ำต้อย เขารู้ดีถึงความพยายาม ความมุมานะ และความอดกลั้นที่เกินขีดที่ผู้หญิงจะทำมันได้ ในวัยเด็กอาคิราห์แอบเรียน แอบฝึกอาวุธ และทำทุกอย่างที่ผู้ชายทำ นางกลายเป็นดอกไม้เหล็กที่แข็งกล้า แม้นภายนอก จะเป็นหญิงแต่หัวใจนั้นไม่ใช่ และนั่นคือสิ่งที่เขากลัวแทนสาวน้อยจันทรา
ไม่มีใครรู้จักอาคิราห์ดีเท่าเขา เพียงแวบเดียวที่เขาเห็นประกายดุดันจากสายตานางเมื่อเขา ยืนยันการแต่งงาน เสียงบางอย่างในหัวก็บอกให้เขารีบพาจันทราออกห่างนางให้มากที่สุด
อาคิราห์กำลังจะใช้เด็กสาวคนนี้ เหมือนที่เคยใช้ใครหลาย ๆ คน ความผูกพันในวัยเด็กทำให้ เขามองผ่านความไม่ถูกต้องนั้นมาหลายต่อหลายครั้งแล้ว แต่กับสาวน้อยในอ้อมกอดคนนี้ เขาไม่อาจละเลย ไม่อาจทิ้งให้อยู่ในเงื้อมือของอาคิราห์ แม้นว่าขณะนี้สภาสูงสุดของพิชญะ จะมีคำสั่งลับให้เขาช่วยเหลือนางในทุกเรื่องเพื่อให้อาคิราห์ได้ครองบังลังก์คามินรัฐ โดย แลกกับการนำดินแดนมาอยู่ภายใต้พิชญะอย่างถาวร
ข้อแลกเปลี่ยนที่แสนอัปยศในความรู้สึกของเขา ทำไมสภาสูงคณะนี้ถึงตัดสินใจทำเช่นนี้เป็นเรื่องที่เขาต้องรู้ให้ได้ และโอกาสก็มา แต่สิ่งที่ มาพร้อมกันนั้นคือสาวน้อยที่สั่นคลอนจิตใจจนมิอาจควบคุม
ใจร้อนราวไฟที่ไม่สามารถเอาความเยือกเย็นของคำว่าสุภาพบุรุษมาดับได้ บีบบังคับให้ ได้ตัวไว้ก่อน ถึงจะไม่ถูกต้องเมื่อแรกเริ่ม...แต่เขาจะทำให้มันสิ้นสุดที่ความยินยอมในไม่ช้า
นายพลหนุ่มใช้ความพยายามอย่างที่สุดเพื่อข่มไฟอารมณ์ที่กำลังผลาญเผาเขาให้สงบลง กอดกระชับร่างในวงแขนอย่างทะนุถนอมพร้อมจุมพิตแผ่วบางที่หน้าผากมน
หลับซะจันทราของข้า
อาจเพราะเหน็ดเหนื่อย หรือเพราะคำที่เขาเรียกจากใจนั้น ทำให้จันทราเผลอไผลผล็อย หลับในอ้อมอกกว้างอบอุ่น กว่าจะรู้สึกตัวตื่นขึ้นรอบตัวก็ห้อมล้อมไปด้วยความมืด แต่ อ้อมอกแกร่งยังคงยืดตรงให้ร่างเล็กบอบบางได้ซุกแนบหลับใหลอย่างเป็นสุข ไม่อยาก ลืมตาขึ้นเลยถ้าไม่เป็นเพราะมีคนแกล้งเป่าลมเบา ๆ เข้ามาที่หู
อือ อย่าซิ
ตื่นได้แล้วคนขี้เซา ถึงบ้านของเราแล้ว
บ้านของเรา คำ ๆ นี้ทำให้สาวน้อยขี้เซารีบผุดขึ้นนั่งตัวตรงทันที และก็ต้องเบิกตา กว้างกับสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้า บ้านไม้ชั้นเดียวกลางทะเลสาบดอกบัวขาวที่ชูดอกเด่น สล้างในความมืด ไม่ใหญ่โตแต่งดงามกลมกลืนกับธรรมชาติ โดดเด่นแม้นอยู่ท่ามกลาง ความมืดเช่นนี้
ที่นี่คือบ้านนอกเมืองของข้า เล็กแต่สะดวกสบาย เราจะพักอยู่ที่นี่สักระยะ
เพราะข้าใช่ไหม ท่านถึงไม่กลับบ้านจริง ๆ ของท่าน
บ้านที่มีไว้แค่ซุกหัวนอน กับเปลี่ยนเสื้อผ้า ข้าไม่เรียกมันว่าบ้านจริง ๆ หรอก บ้านที่ สมควรเป็นบ้านต้องเป็นที่ของครอบครัว และข้าคิดมาตลอดว่าจะมีครอบครัวที่นี่
ทำไมท่านถึงยังไม่มีครอบครัว ทำใจกล้าถาม และรู้สึกดีใจที่สามารถซ่อนสีหน้าไว้ใน ความมืดได้
ไม่มีเวลา เขาตอบสั้น ๆ ลงจากหลังม้าอย่างรวดเร็วก่อนจะหันกลับไปช่วยคนที่เขาคิด จะให้มาอยู่เป็นครอบครัวเดียวกันลงจากม้าอย่างนุ่มนวล
ต้องผูกม้าไว้ตรงนี้ สะพานเข้าไปที่บ้านมันแคบไปหน่อย
จันทราพยักหน้ารับง่าย ๆ แต่พอมาเห็นสภาพสะพานเข้าจริง ๆ ก็หันกลับไปส่ายหน้าใส่ เขาทันที สะพานที่เห็นไม่ใช่เพียงแคบไปหน่อยอย่างที่นายพลหนุ่มบอก แต่มันแทบไม่ เหมือนสะพานเลยสักนิด แค่เป็นเพียงท่อนไม้ไผ่มัดติดกันไม่เกินสามท่อน แล้วเอามาวาง พาดบนตอไม้ธรรมชาติที่กระจายอยู่ทั่วทะเลสาบ พอเป็นทางข้ามจากฝั่งจนถึงเกาะกลาง น้ำเท่านั้น แต่ที่ยิ่งร้ายกว่านั้นคือไม่มีจุดไหนที่พอให้จับเพื่อพยุงตัวเลย แล้วอย่างนี้จะให้ เหาะข้ามไปหรืออย่างไร ไหนจะข้าวของติดตัวอีก
ท่านนายพลคงคิดว่าข้าเป็นนกกระมัง จะได้บินข้ามไปได้
ฮ่า ฮ่า ฮ่า เขาปล่อยเสียงหัวเราะออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่กับคำพูดประชดน่ารักนั่น จน เห็นว่าสาวน้อยจิ้มลิ้มหน้างอหงิกยิ่งกว่าเดิมจึงต้องพยายามกลั้นหัวเราะไว้เดี๋ยวสาวเจ้า โกรธมากกว่านี้ จะพาลไม่ยอมเดินเข้าบ้าน
กลัวตกน้ำหรือไง
แล้วสะพานของท่านมันน่าจะข้ามไปอย่างปลอดภัยหรือ
ไม่เอาน่าหนูจัน เจ้าคงไม่คิดนอนอยู่ตรงนี้กับม้าหรอกนะ
ก็ไม่แน่
ฮึ ฮึ มาเถอะ ข้าช่วยเจ้าเอง เขาหันหลังพร้อมกับย่อตัวให้ ซึ่งเป็นการบอกวิธีช่วยของ เขากลาย ๆ แต่อีกฝ่ายยังรีรออยู่เพราะไม่แน่ใจนัก
ขี่หลังข้าเร็ว คืนนี้พระจันทร์เต็มดวงน้ำกำลังจะขึ้นมาท่วมสะพานแล้ว เดี๋ยวข้ามไปไม่ได้ ต้องนอนกับม้าอีกคืนนะหนูจัน อาจจะเพราะคำขู่ตอนท้ายทำให้ร่างเล็ก ๆ บอบบางราว ตุ๊กตายอมขึ้นขี่หลังเขาโดยไม่อิดออด
ตัวก็เล็ก แต่ทำไมถึงหนักอย่างนี้ เขาแกล้งบ่นเมื่อพากันข้ามมาจนเกือบกึ่งกลางสะพาน ไม้ไผ่แสนแคบที่เขาเดินมาได้อย่างสบาย ๆ พร้อมกับภาระบนหลัง
จันทราได้แต่ค้อนใส่หลังคนปากเสีย ไม่กล้าทำอะไรมากไปกว่านั้นเพราะกลัวตกน้ำ ยิ่งมี อยู่ช่วงหนึ่งที่เขาเหยียบพลาดจนเซไปหน่อย สาวน้อยก็ยิ่งกอดเขาไว้แน่น ลืมคำพูดไม่ ถูกหูไปจนสิ้น
ลงได้แล้วหนูน้อยก่อนที่เจ้าจะรัดคอข้าจนตาย
จันทรารีบปล่อยแขนที่เพิ่งรู้ตัวว่ากำลังรัดลำคอใหญ่ไว้แน่น แอบค่อนในใจว่าแขนท่อน เล็ก ๆ อย่างนี้จะไปทำอะไรลำคอราวต้นซุงของเขาได้ คนอะไรตัวสูงใหญ่ราวกับยักษ์ แต่ทำไมถึงคล่องแคล่วนัก ข้ามสะพานที่เธอคงใช้เวลาหลายชั่วยามมาด้วยเวลาไม่กี่อึดใจ
สัมภาระของข้าล่ะ เริ่มมีฤทธิ์เมื่อเท้าแตะพื้นได้แล้ว
กลับไปเอาไม่ทันแล้ว เจ้ามัวแต่ชักช้าจนน้ำขึ้นมิดสะพาน
จันทราเม้มปากแน่นอย่างขัดเคืองที่โดนโยนความผิดมาให้ คนต่างถิ่นอย่างเธอจะไปรู้เรื่อง น้ำขึ้นน้ำลงได้อย่างไร แล้วไม่มีเสื้อผ้าให้เปลี่ยนอย่างนี้คงอึดอัดไปทั้งคืน
และดูเหมือนเขาจะเดาใจเธอออกจึงพูดได้แทงใจ ไม่ต้องกลัวว่าต้องนอนแก้ผ้าหรอก ในบ้านคงพอมีเสื้อให้เจ้าเปลี่ยน
ฮึ! ร้องได้แค่นั้นก่อนจะสะบัดหน้าพรึด ก้าวจ้ำพรวด ๆ ไปก่อนหน้าเจ้าของบ้านที่กำลัง จะร้องเตือนบางอย่าง แต่ก็สายเกินไปเสียแล้ว
ว้ายย เสียงร้องลั่นอย่างตระหนก พร้อมกับร่างเล็กบอบบางร่วงหล่นลงไปในหลุมดักขนาดใหญ่ ทั้งตัว นายพลหนุ่มรีบก้าวไปที่ปากหลุมที่เขาทำไว้ดักผู้บุกรุกด้วยความเป็นห่วงคนตัวเล็ก แต่ฤทธิ์มากทันที แม้นจะมืดแล้วแต่แสงจากพระจันทร์ข้างขึ้นก็พอให้มองเห็นสภาพล้มลุก คลุกคลานของคนอวดเก่ง และก็น่าขำพอที่จะทำให้เขาหัวเราะลั่นทะเลสาบได้
คนบ้า คนใจดำ หัวเราะเยาะอยู่ได้ ขอโทษ ขอโทษ ฮึ ฮึ ส่งมือมาข้าจะช่วยดึงขึ้น เขาพูดไปกลั้นหัวเราะไปจนคนที่ตกหลุม คงฉิวจัดขึ้นกว่าเดิม แต่ก็ต้องจำใจรับความช่วยเหลือเดียวที่มีของเขา ร่างเล็กโดนดึงขึ้น มาอย่างง่ายดาย ทั้งตัวทั้งเสื้อผ้าชุดเดียวที่เหลืออยู่เปรอะเปื้อนโคลนใต้หลุมจนสกปรก มอมแมมไปทั่ว
ข้ากำลังจะเตือนเรื่องหลุมดัก เจ้าก็ใจร้อนรีบเดินมาก่อน อยากเข้าบ้านมากหรือไงหนูจัน
ไม่ใช่อยากเข้าบ้าน อยากจะหนีหน้าเจ้าของบ้านมากกว่า จันทราคิดเถียงในใจ
มาข้าพาเจ้าเดินเข้าไปดีกว่า ยังมีหลุมดักอีกหลายหลุม
สาวน้อยยอมให้จับจูง แต่พอใกล้จะถึงตัวบ้านจากจับจูงก็กลายเป็นโดนจับอุ้มขึ้นพาดบ่า ทั้งตัว
อะไรนี่ ปล่อยข้านะ
อย่าดิ้นซิ เจ้าจะเดินเข้าไปทั้งอย่างนี้ได้ยังไง เดี๋ยวบ้านก็สกปรกหมด
โดนดุราวกับเป็นเด็กน้อย จันทราหยุดดิ้นรนทันที แต่พยายามเกร็งศีรษะให้ตั้งตรงไว้เพื่อ ที่จะได้มองรอบ ๆ ตัวได้ถนัด เห็นเขาเพียงแตะเบา ๆ ประตูหน้าบ้านก็เปิดออกอย่างง่าย ดาย บ้านหลังนี้คงไม่จำเป็นต้องใช้กุญแจปิดสักดอก เพราะแค่หลุมดักก็คงกันคนบุกรุกได้ อยู่แล้ว เขาแบกเธอฝ่าเข้าไปในส่วนลึกของบ้านที่มืดมิดอย่างคุ้นทาง จันทรารู้สึกราวคน ตาบอดที่มองอะไรแทบไม่เห็นเลยได้แต่ฟังเสียงฝีเท้าเบา ๆ ก้าวเดินไปเรื่อย ๆ จนมา หยุดนิ่งอยู่ที่ ๆ หนึ่ง แล้วเขาก็ปล่อยตัวเธอลงมาจากบ่าเร็วพอ ๆ กับตอนจับอุ้มขึ้นไป
ยืนอยู่นิ่ง ๆ ข้าจะไปหาตะเกียงก่อน
อย่านานนะ ความมืดทำให้เผลอเรียกเขาไว้
ไม่นานหรอกหนูน้อย เสียงที่ตอบนุ่มหวานนัก และถ้ามีแสงสว่างมากกว่านี้เธอก็จะเห็น ประกายตาวิบวับที่หวานไม่แพ้น้ำเสียงของเขา
เขาไปไม่นานอย่างที่บอกก็กลับมาพร้อมกับตะเกียงดวงย่อมที่ให้แสงสว่างนวลตา และ สว่างพอให้เธอมองออกว่าที่ที่ยืนอยู่ขณะนี้คือห้องนอนที่ตบแต่งเพียงเล็กน้อยด้วยภาพ วาดของทะเลสาบบัว และอาจจะเป็นเขาเองที่วาดผลงานนั้น ตรงกลางวางแค่ฟูกหนา ขนาดใหญ่ ซึ่งยิ่งเน้นความเรียบง่ายของเจ้าของห้อง
ถอดเสื้อผ้าออกซิ ไม่พูดเปล่า แต่ลงมือช่วยด้วย
ไม่เอา ข้าทำเอง จันทราร้องห้ามเสียงหลง พยายามเบี่ยงตัวหนีจากฝ่ามือใหญ่ที่ ยุ่มย่ามอยู่ที่เสื้อของเธอ
ข้าทำให้เร็วกว่า
กระดุมเสื้อทั้งด้านนอกและด้านในถูกปลดออกตลอดแนวอย่างรวดเร็วโดยที่จันทราไม่ทัน รู้สึกตัว แล้วเพียงไม่นานเธอก็เปลือยเปล่าราวเด็กแรกเกิด
เช็ดตัวนะหนูจัน
แล้วเขาก็บรรจงใช้ผ้าเปียกน้ำหมาด ๆ ที่คงถือติดมือเข้ามาเมื่อออกไปเอาตะเกียงเมื่อครู่ เช็ดไปทั่วตัวเธอ จันทราแทบสั่นเมื่อโดนผ้าปัดผ่านยอดอก ความซ่านเสียวที่ไม่เคยรู้จัก กำลังเล่นงานเธอ
อย่า อย่าลืมสัญญา
ไม่ลืมหรอก แค่แตะต้องบ้างเท่านั้น
จนเมื่อยอดอกถูกครอบครองด้วยริมฝีปากชื้น สาวน้อยจึงได้รู้ว่าการยอมรับคำขอของ หนุ่มใหญ่มากประสบการณ์เป็นสิ่งที่อันตรายอย่างยิ่ง การแตะต้องของเขา...กำลังทำให้ เธอทุรนทุรายด้วยความวาบไหวไปทั่วช่องท้อง มันสร้างความตื่นตระหนกให้กับดรุณี แรกแย้มที่ไม่เคยได้เรียนรู้เรื่องราวแห่งความดื่มด่ำของชายหญิง
ไม่นะ! ไม่
การดิ้นรนหนีอย่างสุดฤทธิ์ และแววตาตื่นตระหนกทำให้นายพลกุลิสร์หยุดชะงัก เขาคง เร่งเร้าเกินไป แต่หน้าอกสาวรุ่นที่ถูกเปิดเปลือยอยู่ตรงหน้ากำลังฉีกทึ้งความอดทนของ เขาอย่างไม่มีชิ้นดี นายพลหนุ่มพยายามข่มอารมณ์อย่างยากเย็น อยากจะใจเย็นค่อยเป็น ค่อยไปกับความสัมพันธ์นี้ แต่เขาก็แก่เกินจะเอาใจเจ้าหล่อนแบบเด็กหนุ่ม
ข้าเป็นปีศาจสำหรับเจ้าใช่ไหม
ร่างเล็กแบบบางเม้มปากแน่นไม่ตอบ มือทั้งสองกอดกระชับอกเพื่อปิดบังดอกบัวตูมเต่งตึง คู่งามจากสายตาร้อนแรงของคนที่ทั้งสูงใหญ่และหนาจนแทบบังร่างเล็ก ๆ นี้มิด
กลัวสัมผัสของข้าหรือ
อีกฝ่ายยังคงยืนเม้มปากนิ่งเงียบ
เงียบอย่างนี้แสดงว่าข้าไม่ใช่ปีศาจ และสัมผัสของข้าก็ไม่ใช่สิ่งน่ารังเกียจใช่ไหม
จันทราอยากจะตอบว่าไม่ใช่ เขาเป็นปีศาจร้ายสำหรับเธอ ที่กำลังยั่วยวนใจให้เตลิดไปใน ห้วงพิศวาสด้วยสัมผัสวาบหวิว แต่อีกฝ่ายไม่เปิดโอกาสใด ๆ อีกแล้ว
ริมฝีปากร้อนของเขาประกบลงมาที่ริมฝีปากนุ่มอีกครั้ง แต่เผลอรุนแรงจนปากน้อย ๆ นั้น บวมช้ำจนเลือดซึมออกมา เขาใช้ลิ้นเลียไล้เพื่อบรรเทาความบอบช้ำ แต่กลายเป็นเขาเอง ที่ไม่อาจบรรเทา บางสิ่งกระตุ้นเร้าความดิบเถื่อนในตัวให้ตื่นคำรามก้อง ความรุ่มร้อนในตัว เขาทวีขึ้นรวดเร็ว ไม่อาจควบคุมมันที่เรียกร้องการปลดปล่อยอย่างบ้าคลั่ง โดยไม่อาจรั้งรอ มือใหญ่สากที่กำแต่ดาบมาแทบตลอดชีวิตก็กระชากอาภรณ์ทุกชิ้นของตัวเองออกอย่าง ไม่ใยดี ความใคร่ครอบงำจนไม่อาจทนรอได้อีก อยากจะรักษาสัญญาแต่เนื้อตัวเขามันเจียน จะระเบิดด้วยความต้องการที่เข้มล้นจนจะคลั่ง
เขาจับร่างเล็กแบบบางอุ้มใส่เอวด้านหน้า บังคับให้เธอเกี่ยวขาพันรอบไว้ก่อนจะพาไปที่ฟูก นายพลหนุ่มเอนกายลงนอนหงายโดยมีสาวน้อยนั่งคร่อมอยู่กลางตัว สีหน้าเธอขณะนี้ตื่นกลัว จนน่าสงสาร
อย่าทำข้า ข้า...กลัว เสียงนั้นสั่นเครือราวคนร้องไห้ และคงจะร้องไห้จริง ๆ ถ้าเขา ไม่หยุด
แต่เขาหยุดไม่ได้แล้ว
รู้ตัวว่าอาจจะรุนแรง รู้ว่าสาวน้อยไร้เดียงสาเช่นนี้ไม่อาจทานทน แต่เขาก็ยังคงเดินหน้า ต่อไป ท่ามกลางเสียงกรีดร้อง และฝ่ามือเล็ก ๆ ที่ทุบกระหน่ำลงมาที่แผงอก
ปล่อยนะ ปล่อย ท่านบอกจะไม่ขืนใจข้านี่
จันทรายังคงร้องไม่หยุด พยายามจะลุกขึ้นจากร่างใหญ่หนาแน่นด้วยมัดกล้าม แต่เขาไม่ ยอม และไม่รับฟัง ยังคงตรึงสะโพกเธอด้วยมือทั้งสองข้างไว้แน่น ข้างใต้ตัวนั้นมีบางสิ่ง ที่ทำให้เธอกลัวอย่างจับใจกำลังดุนดันเข้าไปในซอกเร้นลับแห่งความเป็นหญิง และ แค่ล่วงเข้าไปได้เพียงเล็กน้อย น้ำตาแห่งความเจ็บปวดก็ไหลพรูอย่างไม่อาจกลั้น สิ่งนั้น ได้ฉีกเธอออกด้วยขนาดที่เกินจะเข้าสู่เส้นทางที่แสนคับแคบ
กรี๊ด!
เสียงกรีดร้องอย่างเจ็บปวดสาหัสทำให้เขาได้สติ รู้สึกเหมือนนรกมาอยู่ตรงหน้าเมื่อเห็น ร่างเล็กบอบบางนอนฟุบร้องไห้จนตัวสั่นสะท้านอยู่บนอก เขากำลังทำสิ่งนี้ได้อย่างไร
เขากำลังข่มขืนเมียตัวเอง
นายพลแห่งพิชญะกัดกรามแน่นเพื่อข่มอารมณ์ตัวเอง หยุดทุกอย่างไว้อย่างเจ็บปวดเช่นกัน เขากอดร่างที่กำลังร้องไห้เสียขวัญอย่างปลอบโยน ทำไมเขาถึงกลายเป็นคนดิบเถื่อนเช่นนี้ ทำไมถึงควบคุมตัวเองไม่ได้ขนาดนี้ ทุกอย่างกำลังดำเนินอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่เหมือน เขาโดนครอบงำด้วยอำนาจบางอย่างที่แสนเลวร้าย อำนาจที่อาจดึงความเป็นคนทิ้งไปได้ อย่างง่ายดาย
ข้าขอโทษหนูจัน ข้าขอโทษ พร่ำขออภัยพร้อมกับวนเวียนจูบปลอบขวัญไปทั่ววงหน้า จิ้มลิ้มที่เนืองนอนด้วยน้ำตา แต่จันทราไม่ฟังแล้ว ร่างเล็กบอบบางพยายามดิ้นรนผลักไสจน หลุดออกมาจากอ้อมกอดแกร่งนั้นได้ ความเจ็บแปลบที่จุดกึ่งกลางตัว ทำให้ต้องนั่งงอตัวนิ่ง เจ็บปวดทั้งกายและใจจนไม่อาจทนมองคนตรงหน้าได้สักวินาที
ไปให้พ้น เธอตะโกนก้อง
เขาสบสายตาที่มีแต่ความรังเกียจชิงชัง รับรู้แล้วว่าความสัมพันธ์ที่ยังไม่ทันได้เริ่มต้นอาจจะ ต้องจบลงในไม่ช้านี้
Free TextEditor
Create Date : 17 กรกฎาคม 2553 |
|
2 comments |
Last Update : 28 สิงหาคม 2553 9:54:54 น. |
Counter : 374 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: sakeena IP: 124.120.235.4 17 กรกฎาคม 2553 15:20:09 น. |
|
|
|
| |
โดย: นิรีย์ IP: 58.11.78.47 18 กรกฎาคม 2553 21:14:32 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
ต้นเหตุแห่งการยินดีที่ได้รู้จักกันนั้น เริ่มที่เว็บฟอร์ไรท์เตอร์ดอทคอมจากการพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นทางงานเขียนนวนิยาย ทำให้พวกเรา สว. (สาวสวยสมวัย) เกิดความคิดที่จะรวมตัวกันจัดทำบล๊อกขึ้นมาเพื่อเผยแพร่งานที่พวกเราเขียนเอง งานที่พวกเราทำด้วยใจรักและรักเหลือเกิน อยากให้เพื่อนๆ ได้อ่านและอยากได้คำติชมจากเพื่อนๆ เพื่อเป็นกำลังใจและนำพัฒนาทางการเขียนต่อไป |
ซัน โรแมนติก-อบอุ่น ราคา 220 บาท
น้ำชารสสตรอเบอร์รี่ รัก-โรแมนติก ราคา 190 บาท
ปางเสน่หา โดย น้ำดอกไม้ (บัดดี้) สนพ.พลอยชมพู
|
งานเขียนใน “สวยสมวัย” เป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ได้รับความคุ้มครองตามกฏหมาย ตาม พ.ร.บ. ลิขสิทธิ์ พ.ศ. ๒๕๓๗ ........................... คิดเอง เขียนเอง และสร้างความภาคภูมิใจ ให้กับตัวเองกันเถอะค่ะ
|
|
|
|
|
|
|
|
รอคอยเธอมาแสนนาน
ทรมารวิญญานหนักหน่า.....
อิอิ มาอัพอีกเร็วๆๆนะจ๊ะ