บล๊อกสวยสมวัย MercuryBooks
Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
8 กรกฏาคม 2553
 
All Blogs
 
บุณยภู บทที่ ๕ หนี โดย...นิรีย์

ธรรศกำข้อมือบางในอุ้งมือแน่นจนแทบจะบีบให้หักสะบั้นคามือ ไม่สนใจว่าเจ้าของข้อมือนั้น
จะเจ็บปวดเพียงใด สิ่งที่เขาใจจดจ่ออยู่ตอนนี้คือทางรอดข้างหน้า แม้นจะรู้สึกถึงแรงดึงกลับ
เพื่อให้หลุดจากการเกาะกุมที่ไม่ปราณี แต่เขายังคงกระชากลากร่างบางไปจนถึงด้านในสุด
ของถ้ำ เพื่อให้เธอได้เห็นที่มาของเสียงครืดคราดก่อนหน้านี้เต็มตา ประตูที่โดนพรางด้วย
ก้อนหินขนาดใหญ่ที่บัดนี้เผยอออกเป็นช่องพอให้คนรอดได้

“ประตูลับ!” ม่านตะลึงมองประตูนั้นอย่างแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง “...เรารอดแล้ว”
เธอครางออกมาโดยไม่รู้ตัว ลืมความเจ็บปวดสิ้น

ชายหนุ่มนิ่งเฉย ไม่ตอบโต้ด้วยคำพูดใดๆให้เสียเวลา เขารีบแทรกตัวเข้าไปในช่องว่างก่อน
จะดึงหญิงสาวให้ตามเข้ามา แต่ยังไม่ทันที่ร่างของม่านจะพ้นขอบประตู ก็โดนจับเหวี่ยง
กระเด็นไปนั่งกองอยู่กับพื้นหินเย็นเฉียบ เมื่อเขาเหลือบเห็นซากน่าสะพรึงกลัวอีกสองซาก
ตามติดเข้ามา ธรรศรีบควานหาสลักที่อยู่ข้างๆประตู แล้วดึงมันขึ้นโดยแรงเพื่อให้ประตูลับ
ปิดกลับไปอย่างเดิม

“ไปต่อเร็ว” บอกเสียงเข้ม พร้อมกับมือใหญ่ขยุ้มลงไปที่ต้นแขนเรียวก่อนจะกระชาก
อย่างสุดแรงให้ลุกขึ้น   

คราวนี้เธอไม่อาจอดทนต่อความกักขฬะที่ไม่รู้ต้นสายปลายเหตุของเขาได้อีก
“เจ้าเป็นบ้าอะไร” 

“หุบปาก” ตะคอกกลับอย่างดุดัน

“ไม่”

“อยากลองดีกับข้าใช่ไหม” เขาผลักร่างบางลงไปกองอยู่ที่เดิม

“เจ้ามันบ้า ถ้าไม่อยากช่วยก็ปล่อยข้าไว้ที่นี่ คนที่เจ้าอยากช่วยอยู่ข้างนอกนั่น
ทำไมไม่ออกไป อ้อ!คงกลัวตายล่ะซิ แต่เพราะความเป็นนักรบผู้กล้าเลยรับไม่ได้
เลยต้องหาที่ลงหรือไง แล้วอย่าคิดนะว่าเจ้าช่วยชีวิตข้าแล้วข้าจะต้องยอมเจ้าทุกอย่าง
ข้าไม่ใช่ที่รองรับอารมณ์ใคร”


แม้นต่างฝ่ายต่างไม่เห็นสีหน้าของกัน แต่แรงแห่งเสียงก็ทำให้คาดเดาแรงอารมณ์ของอีกฝ่ายได้
ม่านยังคงนั่งนิ่งอยู่ตรงที่โดนผลักมาเมื่อครู่ ในความมืดเธอเห็นร่างสูงใหญ่ของเขาเป็นเงาดำ
ทะมึนกระโจนพรวดเข้ามาหา ม่านหลับตาแน่น เตรียมกรีดร้องรับความรุนแรงจากผู้ชายที่เมื่อ
ไม่ถึงชั่วยามที่ผ่านมามีแต่สัมผัสที่อ่อนโยนลูบไล้ให้อบอุ่น

“ใช่แล้วเจ้าพูดถูก ข้ากำลังใช้เจ้าเป็นที่รองรับอารมณ์ แต่ไม่ใช่เพราะโกรธเกลียด
มันเป็นความกลัวม่าน กลัวอะไรบางอย่างในตัวเจ้า กลัวจนอยากจะขยี้ให้แหลกคามือ
อยากให้เวลาย้อนไปเพื่อจะได้กดมีดให้ลึกกว่านั้น ให้มันตัดขั้วหัวใจเจ้าจะได้สิ้นเรื่องสิ้นราว
เสียที” เขากระซิบเสียงสั่นที่ข้างหู ระงับใจไม่ให้บีบเข้าไปที่คอเล็กๆนั่น

“ตอนนี้ยังไม่สายที่จะทำ” ท้าทายอย่างไม่เกรงกลัว

“มันสายไปแล้วต่างหาก  เจ้าเป็นกุญแจสำคัญไปแล้ว  ข้ารู้ว่าเจ้ารู้ดีทุกอย่าง ดังนั้น
จงมีชีวิตอยู่ต่อไปม่าน อยู่เพื่อบอกความลับทั้งหมดของยานรก อยู่ชดใช้ให้กับผู้หญิง
ที่ข้ารักที่สุด”

ม่านรู้สึกปวดที่หัวใจอย่างรุนแรง ไม่ใช่เพราะบาดแผลแต่เป็นเพราะคำพูดของธรรศที่
กรีดแทงลงมา เขาสงสัยแล้ว และอีกไม่นานก็คงรู้ว่าเธอน่าพรั่นพรึงอย่างที่เขาหวาดระแวง
จริงๆ สภาพภายนอกแม้นไม่ใช่ซากเช่นผู้หญิงที่เขารักที่สุด แต่ภายในไม่ต่างกันเลย
เป็นเหมือนวิญญาณที่โดนกักขัง โดนทารุณซ้ำๆจนน่าจะตายแต่ไม่เคยได้ตาย

“ถ้าต้องการอย่างนั้นก็รีบพาข้าขึ้นบุณยภู ข้าจะได้รีบชดใช้ให้เจ้า”
ข่มเสียงให้ราบเรียบ ข่มความขมขื่นไว้ภายในอก พยายามเรียกความเข้มแข็งที่เหลือ
เพียงน้อยนิดให้กลับมา เพื่อจะได้ลุกขึ้นยืนอีกครั้ง ร่างบางยืนเผชิญหน้ากับร่างสูงตระหง่าน
ที่ผงาดข่มจนเธอแทบเหมือนเด็กเล็กๆ

“ดี” เขากระแทกเสียงตอบ สะบัดหน้าเดินลิ่วไปตามโพรงมืดอย่างคุ้นเคย

ม่านเม้มปากแน่นก่อนจะรีบเดินตามร่างที่เห็นเพียงเงาสลัว เคลื่อนไหวคล้ายเงาภูติในความมืด
เขาเดินเร็วมาก และในที่สุดเธอก็ถูกทิ้งให้เดินสะเปะสะปะคนเดียว ในโพรงหินแคบๆ คดเคี้ยว
มืด และเย็นเยียบ

นี่! คงเป็นการเริ่มต้นชดใช้ให้กับผู้หญิงที่เขารักที่สุดกระมัง

พริมาแสนสวยที่น่าสงสาร

ถ้าม่านสามารถแลกชีวิตกับผู้หญิงนั้นได้ เธอจะไม่ลังเลสักวินาที เช่นเดียวกับหลายๆชีวิต
เบื้องนอก เธอพร้อมแลกความตายกับชีวิตของซากทุกซาก ถ้าเพียงแต่การตายของเธอจะ
ไม่ทำให้เกิดหายนะที่ยิ่งกว่าหายนะใดๆขึ้น เธอก็พร้อมชดใช้ให้ทุกคนโดยเฉพาะเขา

แต่เพราะไม่อาจตาย จึงได้แต่หนี
หนีไปในที่ที่คนอำมหิตเช่นอาคิราห์ไม่สามารถสยายปีกบาปมาถึง และคงไม่มีที่ไหน
เหมาะไปกว่า ‘บุณยภู’ อีกแล้ว

ม่านปล่อยให้หยดน้ำตาไหลริน เธอไม่ต้องอายใครว่าจะเห็นในความมืดเช่นนี้
ร้องไห้คลายสิ่งที่อัดอั้นออกมาเมื่อคิดถึงหนทางข้างหน้า มีเพียงที่เดียวที่จะไปได้กับผู้ชาย
เพียงคนเดียวที่สามารถพาเธอไป และแน่นอน...เขาพาเธอไปพร้อมกับความเกลียดชัง
มันจะเป็นหนทางแบบไหน เธอไม่อาจคาดเดาได้
รู้แต่ว่าเลวร้ายอย่างไรก็ต้องไป เช่นตอนนี้........เดินคลำทางราวคนตาบอด
สะดุดลื่นล้มจนเข่าสองข้างช้ำระบม แต่ก็ต้องลุกขึ้นไปต่อ หยุดไม่ได้ ถอยไม่ได้ ได้แต่เดิน
ไปข้างหน้าเพียงอย่างเดียว

“โอ๊ย!” หลุดร้องออกมาเมื่อเข่าไปกระแทกแง่หินแหลมซ้ำรอยช้ำเดิม ทั้งที่ตั้งใจ
จะไม่ร้องสักคำให้ผู้ชายคนนั้นได้ยิน เดี๋ยวจะคิดว่าเธอมารยาสาไถย เรียกร้องให้เขาสนใจ
...แต่แรงกระแทกนั้นแรงจนทำให้ร่างบางต้องทรุดลงนั่งเพราะเจ็บจนเกินจะยืนไหว
ไอ้โพรงบ้าๆนี่! ทั้งมืดทั้งขรุขระไปด้วยแง่หินแหลมๆ ยิ่งเดินลึกเข้ามาพื้นก็ยิ่งเฉอะแฉะ
ไปด้วยน้ำ ซึ่งถ้าสว่างกว่านี้ม่านแน่ใจว่าเธอคงเห็นคราบตะไคร่ขึ้นเต็ม เพราะมันทำให้เธอ
ลื่นล้มจนช้ำไปหมดทั้งสองเข่า

‘คนใจดำ! ไม่สนใจกันบ้างเลย’ ได้แต่บ่นอยู่ในใจ แล้วก็ทำใจ
เมื่อไม่มีการเคลื่อนไหวใดที่เป็นสัญญาณว่าเขาย้อนกลับมาดู

ม่านยันตัวเองให้ลุกขึ้นในท้ายสุด ยิ้มขื่นๆกับสภาพกระเซอะกระเซิงขณะนี้ แล้วก็ก้าวต่อไป
อย่างช้าๆ ด้วยตัวเอง ไม่คิดร้องขอความกรุณาจากใคร ในเมื่อมันสุดกำลังได้แค่นี้
เธอก็ควรเลือกไปอย่างไม่เกินตัว เพื่อยังคงเหลือสิ่งที่เรียกว่า ‘ศักดิ์ศรี’
ที่แม้นจะมีอยู่น้อยแสนน้อยเพียงใดก็ตาม

********

“นึกว่าจะอยู่เป็นนางถ้ำไปตลอดซะแล้ว” เสียงเรียบๆ แต่ประชดประชัน ดังขึ้นต้อนรับทันที
ที่เธอถึงปลายทาง

“คนไม่ชินทาง จะให้ออกมาเร็วได้ยังไง” ม่านตอบกลับด้วยเสียงเรียบๆ เช่นกัน หญิงสาว
เห็นเพียงเงาทะมึนของร่างสูงใหญ่นั่งเอกเขนกขวางอยู่หน้าทางออก ด้วยร่างกายที่ใหญ่โต
เขาบดบังภาพภายนอกโพรงลับจนเกือบหมด เธอจึงได้ยินเพียงเสียงน้ำตกกระทบพื้นดังซ่า
มันดังจนสามารถเดาได้ว่าทางลับนี้คงอยู่หลังน้ำตกสายใดสายหนึ่งที่ไหลล้นลงมาจาก
ยอดบุณยภู

“แต่ก็เก่งนะ คลำทางออกมาเองจนได้”

“ข้าเก่ง แล้วก็แกร่งเกินกว่าที่เจ้าคิดหลายเท่า”

“ฮึ! ขอให้เป็นเช่นนั้นไปให้ตลอดทางนะคนเก่ง เพราะทางข้างหน้าแม้นเจ้าจะหลุดจากหน้าผา
ต่อหน้าต่อตาข้า ก็อย่าหวังให้ข้ายื่นมือไปช่วย นอกเสียจาก...เจ้าจะร้องขอ”

“ไม่มีวัน” ใช่แล้วไม่มีวันของเขาและเธออีกต่อไป ช่วงเวลาแสนสั้นที่โอบล้อม
ด้วยสัมผัสอบอุ่นจบสิ้นไปแล้ว

“ดีแล้วที่รู้ตัว” เย็นชาห่างเหินคือสิ่งที่ธรรศพยายามสร้างขึ้นมาเป็นเกราะกั้นระหว่างกัน
เขาเพ่งดูเธอฝ่าความมืดแม้นจะไม่ชัดเจน แต่ก็สัมผัสได้ถึงสภาพบอบช้ำของผู้หญิงตรงหน้า
อดห่วงใยไม่ได้ ใจเขาตอนนี้เหมือนกำลังจะระเบิดด้วยแรงอารมณ์หลากหลายที่มาปะทะกัน
ห่วงอาทรร่างแบบบางน่าถนอม ขณะเดียวกันก็เกลียดชังที่เธอเกี่ยวพันทั้งกับยานรก คามินรัฐ
และกับการกลับกลายเป็นซากทดลองของผู้หญิงที่เขาคิดว่ารักที่สุด
แต่เหนืออื่นใดเขากลัวความจริง ความจริงที่ว่าเธอเป็นใคร

ดูเหมือนว่าเขาจะถามคำถามนี้ซ้ำๆอยู่ในหัวตลอดมา นับแต่เจอหญิงสาว
ยิ่งใกล้ยิ่งกลัวที่จะรับรู้ เหมือนมีลางสังหรณ์ว่าสิ่งที่เป็นเธอจริงๆจะทำให้ชีวิตทั้งชีวิตของเขา
พังครืนลงมา ถ้าเขาปล่อยให้ความห่วงใยเล็กๆที่เกิดขึ้นเจริญเติบโตต่อไป

อย่าสนใจ อย่าเข้าใกล้เกินจำเป็น น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับตอนนี้ ตอนที่ใจสับสน
ว้าวุ่น ตอนที่สมองไม่อาจหาเหตุผลมาสั่งให้ร่างกายหยุดเรียกร้องหาร่างแบบบางแต่อวบอิ่มมาแนบ

แต่เขาจะทำได้หรือ?
แค่คิดถึงผิวผ่องขาวละออ และทรวงอกสล้างพอมือ เขาก็แทบจะลืมเหตุผลทั้งหลาย
อยากจะเป็นผู้ชายดิบเถื่อนคนหนึ่งที่ไม่ต้องข่มกลั้นอารมณ์ปรารถนาของสัตว์เพศผู้ 
ขณะนี้ความแข็งเกร็งจนปวดร้าวทรมานเขามากขึ้นเรื่อยๆ จากที่คิดครอบครองเพียง
นานๆครั้ง มันกลับถี่กระชั้นเร่งเร้าแทบตลอดเวลา ความเป็นสัตว์เพศผู้ในตัวเขาร้อง
โหยหาทางออก

“ว่ายน้ำเป็นไหม”

“เออ...ต้องว่ายน้ำด้วยหรือ”

“ใช่ ข้างหน้าเราเป็นน้ำตก พ้นออกไปเป็นลำธารใหญ่ เราต้องว่ายตัดลำธารไปอีกฝั่ง
ไม่ไกลนัก”

“ก็ถ้าไม่ไกลนัก ข้าพอว่ายไปได้”

“เจ้าแน่ใจ”

“น..แน่ใจ”

เขานิ่งไปครู่เมื่อฟังเสียงว่าแน่ใจนั้นอึกอักนัก โดยไม่รู้ตัวมือใหญ่เรียวก็ยื่นออกไปดึงร่าง
คนตรงหน้ามาใกล้จนเกือบแนบกระชับกับร่างแกร่ง พร้อมกับกระซิบเสียงแหบกระด้างที่
ข้างหูนุ่ม “ฟังดูแล้วเหมือนเจ้าไม่แน่ใจมากกว่านะ”

“เจ้าจะทำอะไร ปล่อยนะ”

“ข้าไม่ทำอะไรเจ้าหรอก เพียงอยากให้แน่ใจว่าเจ้าจะว่ายน้ำไปถึงฝั่งจริงๆ เพราะฉะนั้นจง
เกาะข้าไว้เมื่อเราออกจากหลังม่านน้ำตกนี้”

“ข้าไม่ได้ขอให้เจ้าช่วย”

“ครั้งนี้ข้าเต็มใจช่วยเองก็แล้วกัน” เขาบอกด้วยเสียงห้วนๆ ปล่อยให้เธอเป็นอิสระอย่าง
ไม่เต็มใจ แล้วหันหลังเดินไปยังทางออกที่มีม่านน้ำปิดบังไว้

“พร้อมแล้วก็ตามออกมา” เขาหันมาสั่งด้วยน้ำเสียงที่ไม่แสดงอารมณ์ใดๆ

ม่านเดินตามเขาออกไปอย่างไม่มั่นใจนัก ขณะนี้เธอมีเขาเป็นทางเลือกเดียวเท่านั้น

“เกาะข้าไว้”

เธอทำตามทันที เกาะที่บ่าเขาแน่น

“ไม่ต้องแน่นขนาดนั้น เดี๋ยวก็จมน้ำตายทั้งสองคนหรอก”

“ธรรศ” เสียงเธอเบาหวิว

“อะไร”

“ข้า...ว่ายน้ำไม่เป็น”

“ข้ารู้ เจ้ามันคนชอบโกหก” เขาต่อว่าด้วยเสียงเนือยๆ แต่บางอย่างในน้ำเสียงนั้นทำให้ม่าน
รู้สึกถึงความอบอุ่นผ่านแวบเข้ามา

“เกาะบ่าไว้ไม่ต้องแน่นมาก ไม่ต้องกลัว ข้าจะอยู่ใกล้ๆ”

เหมือนเขาให้สัญญา ให้ความหวังจะไม่ทิ้งกันตลอดไปหรือไม่ ม่านไม่อาจคาดคิดเข้าข้าง
ตัวเอง แต่เธอจะทำตามเขา เชื่อมั่นในผู้ชายที่อารมณ์แปรปรวนจนสุดคาดเดาคนนี้

ร่างทั้งสองผ่านม่านน้ำตกหนาออกไปสู่วงล้อมแห่งรัตติกาลเบื้องนอก แล้วร่างสูงก็โผทะยาน
ลงสู่ลำธารใหญ่ที่กำลังสะท้อนแสงดาวเป็นเงาระยิบระยับ โดยมีร่างบางเกาะแนบติดไม่ได้ห่าง
เขาทำตามที่บอก ประคองร่างว่ายเคลียคลอใกล้เพื่อเป็นหลักให้คนว่ายน้ำไม่เป็นเกาะไว้
จนถึงอีกฝากฝั่งของลำธาร

“ถึงแล้ว” เขาก้มหน้าลงบอก ปลายจมูกเฉียดฉิวแก้มนวลอย่างจงใจ อ้อมกอดไม่ยอมคลาย
ร่างที่กอดกระชับไว้แนบแน่นแม้นจะอยู่ชิดฝั่งจนเท้าหยั่งถึง

“ข้าขอบใจ” อะไรบางอย่างในใจทำให้เธอเงยหน้าขึ้นมองเขา สบสายตาเข้มนิ่ง อยากสัมผัส
ผมยาวที่เปียกลู่ลงมา อยากให้เขาจุมพิตเธออีกสักครั้ง

“ไม่เป็นไร” ไม่เป็นอะไรก็บ้านะซิ เขาคิดอยู่ในใจ ด้วยร่างกายที่ยิ่งกว่าแนบชิดแม้นจะรอบล้อม
ด้วยน้ำเย็นเฉียบแต่ก็ไม่สามารถลดความเร่าร้อนที่แทบจะผลิร่างเขาออกมา ธรรศหลับตาลง
เพื่อปิดกั้นกระแสพิศวาสที่กำลังส่งเชื่อมถึงกัน

“ธรรศ” เสียงหวานออดอ้อนเข้ามาใกล้เหลือเกิน แต่ชายหนุ่มยังคงหลับตานิ่งจนแก้มสากๆ
ของเขารับสัมผัสชื้นๆจากริมฝีปากนุ่ม ความยับยั้งทั้งหลายก็โดนสลายสิ้นลง

เขากอดกระชับร่างในวงแขนยิ่งขึ้นจนร่างกายส่วนหน้าเบียดอัดกันจนแทบไร้ช่องว่าง
“ข้าอยาก...แตะต้องเจ้า”
มือใหญ่เคลื่อนพลิ้วไปที่บั้นท้ายผาย บีบคลึงรุนแรงจนหญิงสาวตระหนก   

“และ...” ธรรศเชยคางเธอขึ้น ใบหน้าแนบชิดจนรู้สึกถึงลมหายใจอุ่นๆที่ต่างปะทะกัน

“จูบเจ้า”
ริมฝีปากร้อนผ่าวของเขาประกบลงมาบนริมฝีปากอิ่มที่กำลังเผยอร้องพอดี ช่วงจังหวะนั้น
ลิ้นร้อนชื้นของเขาสามารถแทรกซอนเข้าไปในอุ้งปากของเธอโดยง่ายทันที ไม่รีรอ
ไม่มีการรั้งเหนี่ยวด้วยอะไรทั้งสิ้น ลิ้นของชายหนุ่มจู่โจมกวาดกระหวัดดูดเกี่ยวลิ้นเล็กนุ่ม
อย่างร้อนรุ่ม เลือดหนุ่มฉีดซ่านจนสะท้านทั้งกาย ความเป็นสัตว์เพศผู้ในตัวคำรามลั่นในหัว
ขณะนี้ต้องการเพียงกลืนกินร่างบางอวบอิ่มที่เกร็งแข็งด้วยความหวาดหวั่นกับสัมผัสของเขา   

“หยุด” เธอห้ามด้วยเสียงดังแผ่วราวกระซิบ ร่างกายเริ่มไร้แรงต่อต้าน เปลี่ยนจากอาการ
แข็งเกร็งเป็นอ่อนระทวย ยินยอมคล้อยตามจูบเร่าร้อนของผู้ชายแปลกหน้า
และอาจจะเป็นยิ่งกว่าศัตรูเพราะความเป็น ‘พิชญะ’ ของเขา

“อยากให้หยุดจริงๆหรือ” เสียงเขาแหบกระเส่า ข้างในกายร้อนระอุราวลาวาเดือดพล่าน
ที่กำลังรอเวลาแห่งการปลดปล่อยให้เส้นสายแดงร้อนพุ่งปะทุทะลักทะลายออกมา

“หยุด...ได้โปรดหยุด” เธอรวบรวมสติที่กำลังปลิดปลิวขอร้องเขา   

“ข้ากำลังพยายามสาวน้อย...ข้ากำลังทำ”

แต่สิ่งที่เขากำลังทำไม่ใช่การพยายามหยุด มันกลับตรงกันข้าม ยิ่งชักพากันจนก้าวถลำลึก
ในหลุมแห่งเสน่หาที่ต่างฝ่ายต่างหลุดร่วงลงมาโดยไม่รู้ตัว เขาแทรกมือเข้าไปในเสื้อบาง
เพื่อเกาะกุมเนื้อแท้อวบหยุ่น บีบเค้นตามอารมณ์แรงไม่ยั้งมือ แต่เพียงครู่ก็ต้องหยุดนิ่งราว
โดนสาปเมื่อเลิกเสื้อของหญิงสาวขึ้นหมายจะลิ้มรสยอดอกชูชัน

เขาพบบาดแผลที่เขาเป็นคนทำเองเริ่มปริออกจนเลือดซึม ได้ยินเสียงเธอกลั้นสะอื้น
และสัมผัสได้ถึงกายสั่นสะท้านของร่างที่ชิดแนบ
   
เขาบ้าไปแล้วแน่ๆ รู้ทั้งรู้ว่าเธอเจ็บหนักขนาดนั้น แต่ยังปล่อยให้อารมณ์มืดชักพาไป

“ข้าขอโทษ” เสียงเขาแหบโหยราวกับเสียงสัตว์ร้ายบาดเจ็บ ธรรศยกตัวม่านลอยขึ้นวางบนฝั่ง
แต่ตัวเองกลับกระโจนกลับลงน้ำ ว่ายวนกลับไปกลับมาในลำธารกว้างอย่างคลุ้มคลั่ง
พร้อมทั้งก่นด่าตัวเอง

“ไอ้บ้า ไอ้สารเลว”






Free TextEditor


Create Date : 08 กรกฎาคม 2553
Last Update : 28 สิงหาคม 2553 9:51:44 น. 0 comments
Counter : 296 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

sorwor
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





ต้นเหตุแห่งการยินดีที่ได้รู้จักกันนั้น เริ่มที่เว็บฟอร์ไรท์เตอร์ดอทคอมจากการพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นทางงานเขียนนวนิยาย ทำให้พวกเรา สว. (สาวสวยสมวัย) เกิดความคิดที่จะรวมตัวกันจัดทำบล๊อกขึ้นมาเพื่อเผยแพร่งานที่พวกเราเขียนเอง งานที่พวกเราทำด้วยใจรักและรักเหลือเกิน อยากให้เพื่อนๆ ได้อ่านและอยากได้คำติชมจากเพื่อนๆ เพื่อเป็นกำลังใจและนำพัฒนาทางการเขียนต่อไป


ฝากข้อความถึง"สวยสมวัย"







ซัน
โรแมนติก-อบอุ่น
ราคา 220 บาท



น้ำชารสสตรอเบอร์รี่
รัก-โรแมนติก
ราคา 190 บาท



ปางเสน่หา
โดย น้ำดอกไม้ (บัดดี้)
สนพ.พลอยชมพู




งานเขียนใน “สวยสมวัย”
เป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน
ได้รับความคุ้มครองตามกฏหมาย
ตาม พ.ร.บ. ลิขสิทธิ์ พ.ศ. ๒๕๓๗
...........................
คิดเอง เขียนเอง
และสร้างความภาคภูมิใจ
ให้กับตัวเองกันเถอะค่ะ


Friends' blogs
[Add sorwor's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.