--[ฝัน หวาน อาย จูบ แหม ช่างกล้า!!]--
คงผ่านหูผ่านตากันมาแล้วนะครับ สำหรับ ภาพยนต์ 4 แนว โดย 4 ผู้กำกับ
จากผู้สร้าง และ นักแสดงจาก "รักแห่งสยามประเทศ" หนังที่หลอกคนดูทั้งประเทศมาแล้ว T_T

และแน่นอน ลางเนื้อชอบลางยา โดนแล้ว ก็ต้องอยากโดนอีก!!


เข้าโรงหนังด้วยความหวัง ว่าจะได้ดูหนังรักจรรโลงจิตใจคนไร้รักเช่นผม
ถ่อมันไปตั้งแต่วันแรกที่หนังเริ่มฉาย ด้วยความอยากดูขึ้นสมอง........
ซื้อตั๋วด้วยความหวังว่า วันนี้คงจะได้กลับบ้านพร้อมรอยยิ้ม และ ความฝันอันสวยงาม

แต่แล้ว ความจริงก็ปรากฎ เมื่อเข้าโรงหนัง

4 ยายแม้น 4 มาม่า 4 Romance (เขียนถูกหรือเปล่าไม่รู้ แต่ช่างมันก็แล้วกัน)

จูบ.......

เรื่องราวชีวิตของ "ไอ้หมี" (สุดหล่อมาริโอ้) เด็กหนุ่มวัยเลือดลมฉีดพล่าน ที่เพิ่งโดนแฟนสาวนามว่า "กาก้า" บอกเลิก
ด้วยเหตุผลที่ว่า ไอ้หมี ไม่สนใจ และ เหตุผลที่เฮงซวยที่สุดในจักรวาลคือ ชื่อของไอ้หมีไม่เป็นสิริมงคล
แต่เท่าที่ดูแล้ว คนที่ควรจะเปลี่ยนชื่อ คืออีหนูกาก้านี่มากกว่า ผู้หญิงบ้าอะไรชื่อกาก้า

กาก้า กาก้า กาก้า (ลองพูดแล้วมองปากตัวเองในกระจก แล้วคุณจะรู้ว่า ปากคุณอุบาทว์มากขนาดไหน)

น้องกาก้าโดนเพื่อนล้อจนทนไม่ได้ "เห็นหมีไหม เห็นหมีไหม"

มุขนี้เล่นเอาผมแทบจะหมดศรัทธากับผู้กำกับที่ผมตั้งใจเข้าไปดูผลงานของเค้า
หลังจากที่ทำ "โลกทั้งใบให้นายคนเดียว" ให้ผมติดตราตรึ่งใจมาจนถึงทุกวันนี้มาแล้ว
หลังจากนั้น เค้าก็ห่างหายจากวงการภาพยนต์ไปเป็น โปรดิวเซอร์ให้กับหนังหลาย ๆ เรื่องแทน

เฝ้ารอการกลับมาของเค้ามาตลอด ตอนเห็นรายชื่อผู้กำกับตอนแรกยังแทบไม่เชื่อสายตา

และแน่นอนว่า ความหวังมันตั้งขึ้นมาเองในใจ

สารภาพตามตรง ใน 4 เรื่องนี้ ผมอยากดู จูบ มากที่สุด
และก็สมใจ เพราะมันมาเรื่องแรก!!

แล้วเป็นไง ไอ้หมี กาก้า ไอ้เป็ด เห็นหมีไหม ไอ้เป็ดจ้องจะดูดปากกาก้า ส่วนไอ้หมี ก็ต้องปกป้องศักด์ศรีของตัวเอง
ด้วยการยืนให้ไอ้เป็ดต่อยเบ้าตาเป็นเวลา 3 นาที ถ้ายังยืนอยู่ได้ ไอ้เป็ดจะคืนกาก้าให้

ในใจก็ได้แต่ภาวนาว่า ไอ้หมีเอ้ย หน้าตาอย่างเอ็ง ให้ผู้หญิงชื่อประหลาด ที่มีเหตุผลเฮงซวยกะไอ้เป็ดไปเหอะ
แล้วเอ็งไปเดินโต๋เต๋ หน้าสยามแค่ซักชั่วโมง เดี๋ยวก็มีสาว ๆ สวย ๆ น่ารัก ๆ
ที่มีชื่อปกติมนุษย์เค้ามาอยากรู้จักหมีเองนั่นแหล่ะ

แต่ก็อย่างว่า หนัง ยังไงก็คือหนัง ไอ้หมีไม่ยอมไอ้เป็ด จึงไปให้ไอ้เป็ดต่อยเบ้าตา
ผลสุดท้าย ไอ้เป็ดซวยซ้ำซ้อน เพราะไอ้หมีล่อไอ้เป็ดไปติดกับดักดงตีน
ตีนของบรรดาชายหนุ่ม ที่โดนไอ้เป็ดแย่งแฟนไปดูดปากกว่า 20 คน

ไอ้เป็ดโดนสหบาทา กลายเป็นเป็ดทุบเนื้อนุ่ม

จบแบบ แฮปปี้เอนดิ้ง


ถึงแม้จะมีจุดให้ตลกอยู่ในใจกับเหตุผล และ การเล่าเรื่องแบบประหลาด ๆ
แต่ก็ถือว่า หนังเรื่องนี้ มอบความบันเทิงให้ได้พอสมควร
แม้จะผิดหวังเล็ก ๆ กับการคาดหวังจากผู้กำกับ แต่ด้วยสไตล์การเล่าเรื่อง
และ งานด้านภาพที่ค่อนข้างจะฉูดฉาด ทำให้ จูบ เรื่องนี้ก็ไม่ถึงกับน่าเกลียด

ยิ้มได้เป็นบางช่วงบางตอน โดยเฉพาะตอนไอ้เป็ดโดนกระทืบนี่สะใจวัยโจ๋มาก
ขำสุด ๆ ตอนที่มีชื่อโผล่ขึ้นมาบนหัว แฟนน้องขวัญ แฟนน้องเฟิร์น ฯลฯ

ใครไม่ขำแต่ผมขำแหะ ต่อมตลกผมไม่ค่อยเหมือนชาวบ้านชาวเมืองเค้าซะด้วย
ขำได้ในฉากที่คนอื่นเค้าไม่ค่อยขำกัน เส้นค่อนข้างจะตื้นน่ะครับ T_T





อาย.......

ผลงานของผู้กำกับ อ็อด บัณฑิต ทองดี
ผู้กำกับมนุษย์เหล็กไหล ที่ผมเคยด่าซะกลายเป็นมนุษย์สนิมไปแล้วนั่นเอง T_T

เป็นหนังที่ไม่ได้ตั้งความหวังไว้เลย แต่ปรากฎว่า "อาย" กลับเป็นตอนที่น่ารัก
และน่าจดจำที่สุดใน 4 เรื่องนี้ไปซะได้

ผมว่าคุณบัณฑิต ทองดี น่าจะหันมากำกับหนังรักอย่างนี้นะ
ลืมมนุษย์เหล็กไหลที่สู้กับมนุษย์แป้งไปเหอะมาทำหนังอย่างนี้ดีกว่า รับรองรุ่ง!!

เรื่องราวของ ทุเรียน กับ ตอง
อดีตคนรักของกันและกัน ที่ไม่ได้เจอกันมา 2 ปี แล้วดันมาจ๊ะเอ๋กันที่เกาะแห่งหนึ่ง
โดยตอง มาเพราะต้องมาดูทำเล ทำรีสอร์ท โดยมี ทุเรียน เป็นผู้นำทางไปดูสถานที่
คนมาก็ไม่รู้ คนรออยู่ก็ไม่รู้ ว่าจะมาเจอกัน เรื่องราวจึงเกิดขึ้น
โดยมี งุก ชาวเกาะที่ละม้ายคล้าย แจ๊ค สแปร์โร่วเป็นตัวขโมยซีน และ เป็นคนเตือนสติทุเรียน ให้ไปสารภาพกับตองซะ.......

ก็ประมาณว่า เมื่อ 2 ปีก่อน ทุเรียนกับตอง เป็นแฟนกัน ตองเป็นลูกคุณหนู ฐานะร่ำรวย
ในขณะที่ ทุเรียน ก็มีทุกอย่างเหมือนกับตอง เพียงแต่ว่า ตรงกันข้ามเท่านั้นเอง T_T
ทุเรียนทนอายไม่ไหว จึงหนีตอง หนีกรุงเทพ มาอยู่เกาะ ประมาณนั้น
(น้ำเน่าได้อีก)

ฉากสวย ทะเลสวย ต้นไม้สวย นางเอกก็สวย....

เสียอย่างเดียว ไม่น่ามีมุข "ข-อ" มุขนั้นโผล่มาเลย ไม่น่าจริง ๆ

อะไรคือ ข-อ อยากรู้กันใช่ไหมล่ะ สำหรับคนที่ยังไม่ได้ดู หึ หึ หึ ไม่บอกหรอก ไปเดากันเอาเอง
เกาะที่ดูท่าทางจะห่างไกลจากแผ่นดินใหญ่ ในขณะที่กล้องแพนไปที่ทะเลก็เห็นแผ่นดินแล้ว T_T

ในเรื่องท่านจะเห็นต่อหลุมที่รูปร่างละม้ายคล้ายกับ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ บินกันให้ว่อน
ไม่น่าเชื่อว่า วิ่งช้าปานนั้น จะสามารถหนีต่อหลุมได้ เพราะเท่าที่รู้มา คนที่จะวิ่งหนีต่อหลุมได้
ต้องเป็นนักวิ่งเร็ว วิ่งทน และ วิ่งไกล ระดับโอลิมปิก!!

แต่ช่างหัวต่อหลุมมันไปเหอะครับ มันเป็นแค่ สาเหตุให้ ทุเรียน และ ตองได้ใกล้ชิดกันมากกว่า ^_^
เรื่องราวดำเนินไปเรื่อย ตองเมา ด่าไอ้ทุเรียนซะเละกลางวงเหล้า
แถมตองยังอ้วกใส่เจ้างุกอีกต่างหาก เสียราคาหมดเลย T_T

และในที่สุดก็ต้องจากกัน ทั้งที่ในใจยังอาลัยอาวรณ์กันอยู่

ต้องขอบคุณเจ้างุก ที่เป็นกามเทพพายเรือ เหวี่ยงแห มาช่วยเตือนสติให้ทุเรียน ไปง้อขอคืนดี

ก็น่ารักมากครับ สำหรับ อาย เรื่องนี้
แม้พระเอกจะค่อนข้างแข็งเป็นไม้กระดานไปหน่อย แต่ก็พอให้อภัยได้
พระเอกคนนี้ จริง ๆ แล้วถ้าดูกันนาน ๆ สไตล์จะเหมือนกับ เรย์ แม็คโดนัล
คือ มันเป็นของมันอย่างนี้ มันพูดของมันอย่างนี้อยู่แล้ว จริง ๆ ไม่ได้แข็ง
แต่มันเป็นของมันเอง อะไรประมาณนั้น

ส่วนตอง นางเอก อันนี้ก็ต้องยกไว้บนหิ้งล่ะครับ ผู้หญิงอาไร๊ น่ารักได้อีก ^_^
ไม่ต้องพูด แค่เห็นหน้าก็ยิ้มได้แล้ว ยอมรับเลยครับ ว่า นางเอกคนนี้ มีส่วนช่วยให้ อาย มีสีสรรขึ้นอีกพะเรอ

ประกอบกับ ฉากสวย ๆ เพลงเพราะ ๆ พระเอกแข็ง ๆ

อายเรื่องนี้ จึงได้ใจผมไปเต็ม ๆ ^_^




หวาน.....

กำกับโดย คุณปรัชญา ปิ่นแก้ว ผู้ฝากฝีมือ ให้คนทั้งด่า ทั้งชมมาแล้วกับ องค์บาก (ชม) ต้มยำกุ้ง (เละ)
ผู้กำกับผู้ที่สามารถสร้างหนังทั้งเรื่อง โดยที่มีบทพูดแห่งปีแค่คำเดียว "ช้างกุอยู่ไส!!"

จากผู้กำกับหนังแอ็คชั่น จะผันมากำกับหนังรักโรแมนติก สภาพมันจะออกมาเป็นเช่นไร

สำหรับผม เรื่อง หวาน ถือเป็นเรื่องที่น่าสนใจเรื่องหนึ่งในแง่ความลุ้น
คือ ลุ้นว่ามันจะออกมาแนวไหน สำหรับทีมผู้สร้าง "รักแห่งสยาม" ทีมนี้
ตัวอย่างหนังย่อมเชื่อถือมิได้ ขืนเชื่อเมื่อไหร่ มีหวังโดนหลอกหัวทิ่ม!!!

และก็เป็นไปตามนั้น เมื่อ หวาน มันไม่หวานสมชื่อ มันกลับกลายเป็น "หวาน ขม" ไปซะงั้น
เรื่องราวความรักของ ราเชนท์ (ชาคริต) กับ หวาน (นุก สุทธิดา)

เมื่อราเชนท์ ก็เอาแต่งาน ในขณะที่ หวาน ก็เอาแต่ใจ
เมื่อราเชนท์ขัดใจ หวานก็สติแตก กลายเป็นโรคย้อนอดีตไปซะงั้น T_T
หวานหยุดเวลาของตัวเองไว้แค่นั้น ในขณะที่ราเชนท์ต้องตามหาให้เจอว่า
หวานหยุดเวลาไว้ตรงไหน เพื่อที่จะดึงหวานกลับมาสู่ปัจจุบัน

สภาพหนัง เหมือนหนังโรคจิตเรื่องหนึ่ง
ไม่ได้โรคจิตที่ตัวบท ตัวบทน่ะ น่าสนใจอยู่แล้ว แต่หน้าตานักแสดงนี่สิ
แต่งกันซะน่ากลัว โดยเฉพาะนุก ที่ออกแนวแก่โดยดินสอเขียนคิ้ว T_T
ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องแต่งขนาดนั้น ทั้งที่เนื้อเรื่องของมันเอง ไม่ต้องแต่งหน้าแก่ก็ยังได้

แปลกดีเหมือนกัน

เรื่องราวค่อนข้างรันทด เมื่อราเชนท์ ต้องพยายามหาวันที่ หวาน ดำรงอยู่ให้ได้
ในขณะเดียวกัน ตัวเองก็ยังไม่ทิ้งเรื่องงานของตัวเอง ยังเห็นงานสำคัญอยู่เหมือนเดิม

จนในที่สุด ความแก่ก็เพิ่มขึ้น เส้นบนหน้าผากจากดินสอเขียนคิ้ว มีหลายเส้นมากขึ้น
สภาพของทั้งสอง เหมือนหมีแก่ ๆ สองตัว ที่พยายามจะแก่กันสุดฤทธิ์!!

บอกแล้ว เนื้อเรื่องน่ะ มันก็น่าสนใจอยู่ แต่ที่น่าสนใจกว่า คือความแก่ของนักแสดง!!!!

จุดไคล์แมกซ์ของเรื่อง อยู่ตรงที่ ราเชนท์ พา หวานไปเที่ยวทะเล ทะเลที่เค้ากับเธอเจอกันครั้งแรก
โดยหวังว่า ทุกอย่างจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม หวานจะกลับสู่ยุคปัจจุบัน

ถึงวินาทีนี้ ในใจผมเอง เริ่มไม่อยากให้หวานกลับมาสู่ปัจจุบันซะแล้ว
ด้วยอายุที่มากขึ้นของหวานเอง และ ความค่อนข้างที่จะเซ้นท์ซิทีฟ ของเธอ
ถ้าอยู่ดี ๆ เธอรู้ว่าตัวเองอายุปาเข้าไปจะ 50 อย่างนั้น เธอจะทำยังไง

มีหวัง สติแตกสุดขั้วโลกอีกรอบแหง ๆ ทีนี้ไม่ย้อนกลับไปวัยรุ่นแล้ว
ย้อนกลับไปตอนคลอดโน่นเลย ลำบากราเชนท์ ต้องกลายเป็นหมอทำคลอดอีก T_T

ยัง เท่านั้นยังไม่พอ เมื่อเรื่องควรจะจบแค่นั้น เค้ายังไม่สะใจในความแก่
เค้ายังเพิ่มฉากสุดท้าย ฉากที่หวานนอนอยู่บนเตียง โดยมีราเชนท์นั่งเฝ้า

คงมีคำถามอยู่ในใจกันถ้วนหน้าว่า

"นั่นมันตัวอะไรวะน่ะ หมีแก่ชุบแป้งทอดเร๊อะ!!!"

รับไม่ได้อย่างแรง เนื้อเรื่องออกจะดี แต่ดันมาเสียเอาฉากท้ายที่สุดนี่เอง
ชุบแป้งยังไม่พอ ยังมีแสงจากพระอาทิตย์ส่องเป็น background อีกนะ อะโห อย่าให้เซด

จัดเข้าขั้น ฉากคลาสสิกแห่งยุคสมัยไปได้เลย ฉากนี้ T_T

ชาคริต กับ นุก เล่นได้ดีสมบทบาททั้งคู่ครับ โดยเฉพาะนุก ที่เอ๋อได้เหมือนเหลือเกิน
เอ๋อจนคนดูสงสารเธอ ในขณะที่ ชาคริต ก็ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีพอสมควร
ผมไม่รู้ว่า บทจริง ๆ เค้าสื่อว่าราเชนท์เป็นคนยังไง แต่เท่าที่ผมดู

คนชาคริต นำเสนอบทบาทของราเชนท์ ได้น่าสงสาร และ ก็น่าสมน้ำหน้าไปในคราวเดียวกัน

ถ้าบทเป็นอย่างนี้ ก็ต้องถือว่า คุณชาคริตทำได้ดีจริง ๆ

ดูหนังเรื่องนี้จบ อารมณ์ก็ประมาณเพิ่งดู Happy Birthday จบนั่นแหล่ะครับ
ประมาณเดียวกันเลย
ใครที่ดู Happy Birthday มาก่อนแล้ว ถึงคราวของเรื่อง หวาน คุณสามารถลุกไปเยี่ยวได้เลย ไม่ต้องรอ!!! T_T





ฝัน......

กำกับโดย คุณมะเดี่ยว ผู้กำกับ "รักแห่งสยาม" หนังที่หลอกคนดูทั้งประเทศมาแล้ว!!

แต่ถึงแม้ว่าผมจะถูกตัวอย่างหนังหลอกไปดูหนังเรื่องนั้น แต่พูดตรง ๆ รักแห่งสยามก็จัดเป็นหนังที่ดีเรื่องหนึ่ง
พระเอกหล่อ นางเอก (หรือเปล่าวะ) น่ารัก เพลงเพราะ ฉากสวย ถ่ายทำดี โดยเฉพาะฉากที่เดินอยู่ในสยาม
ฉากนี้ถือเป็นฉากในดวงใจของผมเลยทีเดียว ^_^

แน่นอนครับ ความหวังอันสูงสุด ถูกตั้งไว้ในใจโดยไม่รู้ตัวอีกแล้ว


แต่ใครจะรู้ ว่า ฝัน มัน ฝันจริง ๆ


เรื่องราวของ ต้นข้าว เด็กสาววัยละอ่อน ที่คลั่งไคล้ วงออกัส เป็นชีวิตจิตใจ
ถึงขนาดกระโดดเกาะรถตู้ตกลงมาน็อคเอ้าท์ หัวฟาดพื้นกลายเป็นเจ้าหญิงนิทราอยู่ชั่วขณะ

และแน่นอน ระหว่างที่เธอนอนนิทราอยู่นั้น เธอก็ "ฝัน"

ฝันจริง ๆ เพราะมีทั้ง แมวพี่เบิร์ด ซุปเปอร์ไซย่า ตุ๊กตาหมี นกกระเรียน เสือมวยปล้ำ หมานักสู้ ฯลฯ
พยายามปลอบใจตัวเองระหว่างดูหนังเรื่องนี้ว่า มันชื่อเรื่อง "ฝัน"

ความฝัน อะไรก็เกิดขึ้นได้ อะไรก็เป็นไปได้ เพราะมันคือฝัน

ผมไม่เถียงเลยจริง ๆ ครับ
ถ้าพูดถึงบท ..... ฝันเรื่องนี้ มีบทที่น่าสนใจ ถ้าจะทำให้มันดี ผมว่ามันคงเป็นเรื่องที่ดีเรื่องเรื่องในซีรี่ส์นี้เลยทีเดียว
แล้วมันไม่ดีตรงไหนล่ะ ??

ในเมื่อมันชื่อเรื่องฝัน ทุกสิ่งทุกอย่างก็ต้องเหนือจริง

ในเมื่อเหนือจริง ก็ซัดมันเป็นการ์ตูนซะเลยสิ้นเรื่อง
อันนี้ถือเป็นสิ่งที่น่าสนใจครับ กับการทำมันเป็นการ์ตูนอนิเมชั่น

ติดอยู่อย่างเดียวที่ยิ่งดูยิ่งหงุดหงิด นั่นก็คือ ความเนียน!!!
คุณเคยดูการ์ตูน จา มะ จ๊ะ ทิง จา หรือเปล่า ถ้าเคยดู ก็รู้ไว้ได้เลยว่า จา มะ จ๊ะ ทิง จา เนียนกว่า 100 เท่า!!!

ผมเผลออุทานอยู่ในใจว่า "นั่นมันตัวเชี่ยอะไรวะน่ะ"
เมื่อ มีแมวพี่เบิร์ดโผล่มาตอนแรก รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย ที่จะได้ดูอะไรที่แปลก และแตกต่าง
เฮ้ย มีการ์ตูนด้วยแหะ น่าสนุก....

แต่แล้วก็สนุกไม่ออก เมื่อเรื่องราวดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ

คือ ไม่รู้จะอธิบายยังไงครับ ทุกอย่างมันแข็งเป๊กเป็นไม้กระดานไปหมด
ทั้งที่มันเป็นตัวการ์ตูน แข็งยิ่งกว่าพระเอกที่เล่นเรื่อง "อาย" อีก
ผมไม่รู้ว่า ไอ้ตัวการ์ตูนอย่างในหนังนี่ เค้าเรียกว่า เทคนิคอะไร
3D 2D 2.5D หรือ อะไร ผมไม่รู้หรอก แต่ดู ๆ แล้ว ก็น่าจะประมาณ อนิเมชั่นเรื่อง "นาค"
ซึ่ง "นาค" ดูดีกว่า 100 เท่า ทั้งที่มันยาวกว่าตั้งเยอะ แต่ทำไมเรื่องนี้ถึงได้เป็นอย่างนี้ไปได้


ดู ๆ ไปก็ได้แต่คิดอยู่ในใจ "ทำอย่างนี้ เอาปืนมายิงกุเลยดีกว่าไหม"

ที่รับไม่ได้สุด ๆ ก็ตอนปล่อยพลัง รับไม่ได้จริง ๆ
ยิ่งพลังออกมาเป็นแท่ง เลี้ยวได้!! แหม มันเลี้ยวได้ก็ไม่แปลก
แต่ที่แปลกก็คือ มันเลี้ยวเป็นแท่ง !!

อ่ะ งงกันล่ะสิ เลี้ยวยังไง นึกภาพง่าย ๆ ครับ คุณยกท่อนแขนของคุณขึ้นมา
ให้ใช้แค่ตั้งแต่ข้อศอกลงไปถึงปลายนิ้วนะครับ
แล้วลองเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา ขึ้นบน ลงล่าง.........
(ถ้าใครเดินมาเห็นคุณทำอะไรอย่างนี้อยู่ ก็บอกเค้าไปว่า กำลังเต้นแอโรบิกก็แล้วกันครับ T_T)

นั่นแหล่ะครับ มันเป็นแท่ง ๆ อย่างนั้นแหล่ะ คือมันไม่งอเหมือนในการ์ตูนญี่ปุ่นที่เราดูกัน
อุปมาได้ว่า พลังในการ์ตูนญี่ปุ่นที่เราดู พอโดนแล้ว ตัวจะระเบิด ร่างจะสลาย
แต่พลังที่ปล่อยออกมาในเรื่องฝัน โดนแล้วทะลุ ประมาณว่า แข็งจนเสียบคนตายได้นั่นแหล่ะ T_T


แล้วแบบว่า เอ่อ................. T_T


"โอ๊ะ นั่นอะไร นั่นมันปล่อยพลังใช่หรือไม่ ถ้าใช่ ทำไมพลังมันเป็นแท่ง เหมือนเสาโทรเลขเยี่ยงนั้นเล่า!!"
"เอ๊ะ ซุปเปอร์ไซย่า อ๊ะ หรือ นินจานารุโตะวะนั่นน่ะ ตัวอะไรกันแน่ T_T"


เอาเถอะ มันเป็นความฝัน อะไรก็เกิดขึ้นได้
แต่พูดตรง ๆ ถึงแม้จะฝัน แต่ความฝัน มันก็ไม่เผาอย่างนี้นะ

คุณเคยฝัน ผมเคยฝัน ความฝันแม้อะไรจะเกิดขึ้นก็ได้ แต่ก็ไม่แข็งเป็นก้อนหินอย่างนี้แน่นอน!!!

มีหลาย ๆ คนบอกว่า มันเป็นหนังทดลองของคุณมะเดี่ยว
ถ้าเป็นหนังทดลองจริง มันก็ไม่ควรจะเอามาฉายเก็บเงินคนดูครับ
เอาไปฉายให้นักศึกษา หรือ ฉายในวงแคบ ๆ ให้คนบางกลุ่มดูฟรี เท่านั้นพอแล้ว

และถ้าเรียกหนังอย่างนี้ว่า หนังทดลอง ผมก็ไม่เห็นว่า มันจะมีอะไรให้ทดลอง
เพราะสิ่งที่ทำ มันก็ไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร การ์ตูนอย่างนี้ก็มีคนทำมาแล้ว (และเจ๊งไปแล้วด้วย T_T)

อย่างนี้ผมต้องด่าใคร ด่าคุณมะเดี่ยว หรือ ด่าคนทำการ์ตูนเรื่องนี้??


เอาล่ะ จบเรื่องตัวการ์ตูนเฮงซวยไปก็แล้วกัน มาเข้าเรื่องที่มีคนแสดงกันดีกว่า

มองในแง่รวมแล้ว ถ้าเปลี่ยนจากฉากการ์ตูนทั้งหลาย มาเป็นคนแสดง โดยลดพวกที่ต้องใช้ CG เข้าช่วย
และเพิ่มบทอื่น ๆ เข้าไปแทน ตัวหนังเองจะดีกว่านี้อีกเยอะ ผมเชื่อในฝีมือของคุณมะเดี่ยวนะ ถ้าเค้าจะทำ!!
เพราะจากที่ผ่านมา คน ผี ปีศาจ 12 เกมส์สยาม 13 เกมส์สยอง รักแห่งสยาม
คุณมะเดี่ยวไม่เคยทำให้ผิดหวัง

แต่ในเมื่อเลือกจะมาแนวนี้ ก็ต้องขอบ่นกันบ้างเป็นธรรมดา ไม่ได้บ่นการเขียนบท หรือบทไม่ดี
แต่บ่นเรื่อง การ์ตูน Animation ที่หาความเนียน และความต่อเนื่องไม่เจอ!!

ตัวหนังเอง เรียกเสียงหัวเราะได้ในหลาย ๆ ฉาก ทั้งในฉากการ์ตูนเอง
(ไม่ได้หัวเราะสิ่งที่ตัวการ์ตูนทำ แต่หัวเราะกับการพากย์)
และฉากที่มีคนแสดงจริง หัวเราะกับการโผล่ออกมาของพี่เบิร์ด ซึ่งไม่รู้ว่าเกี่ยวอะไรด้วย
เป็นการแขว่ะกัดกันหรือเปล่า อันนี้ไม่ทราบได้เหมือนกัน

บางคนอาจจะตลกไม่ออก เพราะเล่นเอาซุปเปอร์สตาร์ในดวงใจมาเป็นแมวปีศาจแช่แข็ง
แต่สำหรับผม ค่อนข้างจะเฉย ๆ อาจจะข้องใจนิด ๆ ว่า ไอ้หมอนั่น มันเหมือนพี่เบิร์ดตรงไหน?


น้องต้นข้าว เล่นได้น่ารักมากครับ แม้จะพูดเว้นวรรคแบบแปลก ๆ แต่ก็แสดงได้ดีเลยทีเดียว
ชอบฉากที่กระโดดเกาะท้ายรถตู้มาก ๆ สภาพน้องเหมือนตุ๊กแกที่บ้านพี่เลย ^_^

น้องบอย พระเอกหรือเปล่าไม่รู้ ที่รับบทเป็น ซุปเปอร์ไซย่าบอย ที่ทะลึ่งเข้าไปในความฝันของน้องต้นข้าว
ก็ไม่รู้จะวิจารณ์ยังไงเหมือนกัน เพราะออกมาแป๊บเดียว ส่วนมากเป็นตัวการ์ตูน

ถามตรง ๆ ในการ์ตูนน่ะ แกเหาะได้ไม่ใช่เหรอ ?

แล้วทำไมถึงไม่อุ้มต้นข้าวเหาะไปล่ะ ทำไมถึงได้เดินข้ามสะพานแทนที่จะเหาะ
แล้วก็ตกสะพาน โดนแมวพี่เบิร์ดระเบิดตาย สมน้ำหน้า!!
คือ กุงงกะเมิงมาก ตกลงยังไงกันแน่ เหาะได้ หรือไม่ได้ เอาไงแน่ หรือมีตอนไหนที่บอกว่า ต้องเดินข้ามเท่านั้น T_T
ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง แล้วทำไม ไอ้คุณพี่นน ถึงได้พาเหาะมาได้ล่ะ ตกลงมันยังไงกัน!!


วงออกัส.....

พีช ตาก็ยังหวาน ยิ้มก็ยังสวยเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน รับบทเป็น เก้ง กวาง สมัน (มันต้องถูกซักตัวแหล่ะ)
แสดงเป็นตัวเอง เป็นนักร้อง เป็นวงดนตรี ก็ถือว่าใช้ได้แหล่ะครับ ใช้ได้ทั้งวงเลย

เออ ถามหน่อย ว่าไอ้ตอนที่มีสมาชิกวง เข้าห้องน้ำไปแปลงร่างเป็นลิงยักษ์นั่น

มันหมายควาย เอ้ย หมายความว่าอะไรครับ ทำไมถึงต้องแปลงร่างเป็นลิงยักษ์
พยายามหาเหตุและผล จนทุกวันนี้ก็ยังคิดไม่ออกว่าทำไม ทำไม ทำไม

แต่จริง ๆ แล้ว ไม่ต้องหาก็ได้นะ เหตุและผลเนี่ย เพราะมันเป็น "ความฝัน"


ถ้าไม่นับการ์ตูนนั่น "ฝัน" เรื่องนี้ จัดเป็นตอนที่น่าสนใจตอนนึงเลยทีเดียวครับ
คือ ถ้าตัดการ์ตูนออกไปยกชุดนั่นเลยนะ ให้เหลือแต่เนื้อเรื่องเพียว ๆ
มันก็จะเป็นเรื่องราวของ เด็กผู้หญิงที่คลั่งไคล้นักร้องจนเกินเหตุ ทำให้ตัวเองได้รับอุบัติเหตุ

มันสามารถสอนวัยรุ่นสมัยนี้ได้เลยแหล่ะ!!

เอาเถอะครับ ถึงแม้ "ฝัน" เรื่องนี้ ผมจะไม่ค่อยชอบใจ
แต่ยังไงผมก็ยังเชื่อมือคุณ และรอดู 14 อยู่นะครับคุณมะเดี่ยว.... ^_^





หมดล่ะครับ

สรุปแล้ว โดยรวมทั้ง 4 เรื่องนี้ ก็โอเคในระดับนึงล่ะครับ

ใครที่ชอบแนว ๆ ชอบโลโม ชอบมาริโอ้ ก็จูบ
ใครที่ชอบใส ๆ วิวสวย ๆ เพลงเพราะ ๆ นางเอกน่ารัก ดูแล้วยิ้มได้ ก็ อาย
ใครที่ชอบดราม่าหนัก ๆ ดูแล้วต้องคิด ตีโจทย์ให้แตก ก็ หวาน
ใครที่ชอบอะไรแปลก ๆ ประหลาด ๆ และ รับได้กับทุกเรื่อง ก็ ฝัน

ได้หลายแนวครับ สำหรับ ฝัน หวาน อาย จูบ

ผมเชื่อว่า ใน 4 เรื่องที่กล่าวมานี้ หากคุณไปดูในโรง มันจะต้องมีอย่างน้อย 1 เรื่องที่โดนในคุณ
ดีหน่อยก็ 2 เรื่อง ดีมากหน่อยก็ 3 เรื่อง ชีวิตนี้ไม่คิดอะไรแล้ว ก็ ชอบมันทั้ง 4 เรื่องเลย T_T

สำหรับผม คงไม่ต้องบอกว่า เป็นคนอย่างไหนนะครับ เพราะผมชอบหมดทั้ง 4 เรื่องนั่นแหล่ะ
เพียงแต่ ทั้ง 4 เรื่อง ก็มีจุดให้จดจำแตกต่างกันไป มากบ้าง น้อยบ้าง แต่สรุปแล้ว ผมชอบมันทั้ง 4 เรื่องเลย

แต่ถ้าจะให้ไปดูในโรงอีกรอบไหม ก็ตอบได้สั้น ๆ โดยไม่คิดเลยครับว่า


"ไม่" พอแล้ว แค่รอบเดียวก็ปวดแก่นกะโหลกจะแย่
แค่เจอไอ้แมวพี่เบิร์ดนั่นก็จะกระอักเลือดตายอยู่แล้ว
ไหนจะหมีแก่ชุปแป้งทอดอีกล่ะ พอเหอะ รอเช่ามาดูตอนมันออกเป็นแผ่นเลยก็แล้วกัน T_T


สำหรับคนที่อยากถามว่า ไปดูดีไหม?

ตอบได้ง่าย ๆ ครับ เป็นคำเปรยสั้น ๆแต่ได้ใจความว่า "ดูก็ได้ ไม่ดูก็ไม่เสียดายอะไร"
แต่ขอเตือนไว้อย่างนึง อย่ากินมาม่าก่อนเข้าไปดูหนังเรื่องนี้
เพราะออกจากโรงมา ท่านอาจจะอ้วกออกมาเป็นมาม่าเลยก็ได้ T_T


แค่นี้แหล่ะครับ

ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมเยียนกัน

ก็ต้องขอบอกว่า ทุกคำที่พิมพ์ ทุกความคิดเห็นของผม เป็นความคิดเห็นที่ผมคิดเองคนเดียว
จริง ๆ แล้ว มันอาจจะมีข้อเท็จจริงบางอย่างที่ผมหลงลืม หรือ ดูไม่ทันไปก็ได้ ซึ่งก็ต้องขออภัยในการปล่อยไก่เหล่านั้น

สิ่งที่ผมบอกว่าดี มันอาจจะไม่ดีสำหรับบางท่าน และ แน่นอน สิ่งที่ผมบอกว่า มันห่วยแตก
มันก็อาจจะเป็นอะไรที่แปลกใหม่สำหรับบางท่านเช่นเดียวกันครับ

ดูหนังให้สนุก ในปีใหม่นี้ทุกท่านครับ

สมันน้อย เบอร์ 14



Create Date : 06 มกราคม 2552
Last Update : 6 มกราคม 2552 15:51:05 น.
Counter : 459 Pageviews.

9 comments
  
คิดเหมือนกัน ไม่ชอบตอนสุดท้ายมากๆเลย
โดย: pet.sp วันที่: 6 มกราคม 2552 เวลา:17:12:32 น.
  
โอ้ว วิจารณ์ได้สุดยอด
เราไม่มีความคิดจะไปดูเรื่องนี้อ่ะนะ เพราะฉะนั้นอ่านแล้วก็ไม่ได้เปลี่ยนใจว่าจะดูรึเปล่า รักแห่งสยามยังไม่เคยดูเลย
แต่เพลงประกอบเพราะดีหวานดี
โดย: rasen IP: 222.123.56.157 วันที่: 6 มกราคม 2552 เวลา:17:17:33 น.
  
ไม่ประทับใจเหมือนกันค่ะ โดยเฉพาะเรื่องฝัน
โดย: annieake วันที่: 6 มกราคม 2552 เวลา:17:40:57 น.
  
วิจาร์ณได้ฮาระเบิดระเบ่อมากคะ ชอบๆๆ

ยังไม่ได้ดู แต่อ่านไปขำไปคะ สนุกดีๆๆๆ
โดย: freeplay200 วันที่: 6 มกราคม 2552 เวลา:19:39:00 น.
  
อ่า....มาละมาละ...

แต่ไปอ่านในเหลิมไทยมาแล้ว...^^

รอเช่ามาดูดีก่า...^^"
โดย: แม่นู๋มี่ วันที่: 6 มกราคม 2552 เวลา:21:21:35 น.
  
อ่านรีวิวไป..ก็จินตนาการตามไป
เขียนได้น่ารักและขำดีค่ะ..แต่อ่านแล้วไม่อยากดูเท่าไหร่เลย
รู้สึกว่าจะไม่ใช่แนวที่ชอบ....ถ้าจะดู คงเลือกดู"หวาน"เรื่องเดียว..
โดย: nikanda วันที่: 7 มกราคม 2552 เวลา:0:09:23 น.
  
เป็นหนังที่ ต่อให้น้าหมันบอกว่า ดีสนุกน่าดู พุทราก็ไม่ไปดู ^ ^"

เห็นทู้นี้ในพันทิพย์แล้วแหละ แต่ไม่กล้าพูดอะไรมาก เดี๋ยวจะโดนก้อนหินกับขวดน้ำปาใส่เอา มาบ่นกับน้าหมันในนี้ดีก่า ถ้าโดนก้อนหินปา ก็โดนไม่น่าจะเยอะ

ไม่ได้วิจารณ์ตัวหนังเพราะไม่ได้ดู แต่แค่อยากจะเสนอความคิดว่า บางทีไอ้ห่วยแสนห่วยนั่น คุณมะเดี่ยวอาจจะต้องการให้เป็นแบบนั้น คือพุทราก็ไม่รู้ว่า เด็กคนนั้นที่ฝันอายุกี่ขวบ แต่พุทราคิดว่า ไอ้ที่เราบอกว่ามันน่าจะเป็นอย่างนั้น อย่างนี้ เช่น ลำแสงควรจะเป็น.... เมื่อโดนลำแสงแล้วร่างกายควรจะ... เพราะเราเป็นผู้ใหญ่ เราถูกสิ่งต่างๆหล่อหลอมมาให้เชื่อแบบนั้นไปแล้วรึเปล่า เราเลยรู้สึกว่ามันไม่ใช่ กับเด็กเล็กๆ เขาอาจจะยังไม่ได้ถูกตีกรอบความคิดให้ติดอยู่กับสิ่งที่คุ้นชินมันก็เลยออกมาเป็นแบบที่ในหนังพูดถึง (หลานของพุทรา ให้เพื่อนตัดผมให้ ผมแหว่งมันยังบอกว่าสวย ... แล้วใครเป็นคนกำหนดว่าผมแหว่งมันไม่สวย ก็ผู้ใหญ่รึเปล่า)

จบแล้วขอรับ ถ้าใครจะขว้างก้อนหินขอก้อนเล็กๆหน่อยนะขอรับ ถ้าขว้างขวด ก็ขอขวดเปล่านะขอรับ ^ ^"

ปล. อ่านจบน้าหมันอย่าเพิ่งเกลียดพุทรานะ ^ ^" พุทรายังอยากวิ่งเล่นที่นี่ไปอีกนานๆ
โดย: แค่ก้อนหินที่อยากบินได้ วันที่: 8 มกราคม 2552 เวลา:21:58:24 น.
  
แวะมาบอกข่าวน้าหมัน ไม่รู้จะเอาไปแปะไว้ที่ไหน ฝากแปะไว้ที่นี่น่าจะถึงน้าหมันนะขอรับ ... เพี้ยง..ขอให้ถึง

จำได้คุ้นๆ ว่าน้าหมันมีป้าย ณ ถนน ... อ้อเห็นแล้ว มีจริงๆด้วย ... เนื่องจาก นักเขียนบางท่านจาก สนพ. ณ ถนน(จะมีใครมั่งพุทราก็ไม่รู้อ่ะค่ะ รู้แค่ เฮียพีทอยู่ ณ ถนนแค่นั้น ^ ^") จัดกิจกรรม เสวนา กินปู ดูทะเล เสวนาเรื่องงานเขียน พุทราคิดว่า เผื่อน้าหมันที่ชอบเขียนๆ บันทึกๆ อยู่แล้วจะสนใจ .. ไม่แน่นา...น้าหมันอาจจะมีงานรวมเล่ม หรือ นิยายเรื่องยาวมาให้พุทราสะสมมั่ง ^ ^

รายละเอียดเชิญที่นี่เลยขอรับ https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=penline&group=13
โดย: แค่ก้อนหินที่อยากบินได้ วันที่: 8 มกราคม 2552 เวลา:22:48:47 น.
  
เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง บอกตรงๆว่า ห_มา ไม่ แดก
จูบ ทุเรศมาก เนื้อเรื่องก็โอเคนะ ชอบตอนจบ ชอบนางเอก ไม่ชอบพระเอก คนอาไร้ มีสองมือสองตีนเหมือนกันทำไมไม่สุ้
อาย ชอบนะ ชอบนางเอก น่ารักดี ดีกว่าทุกตอน แต่ตอนจบ ทำไมเกาะมันอยู่ใกล้ฝั่งนักวะ ดำน้ำไปก็โผล่ที่เกาะแล้ว
หวาน เห็นชาคริตออกมาฉากแรก หวังลึกๆว่า น่าดูแน่นอน แล้วเป็นไง ?????????????????????????????????????????????????????????????????????????
กุก็งง??????????? อะไรหว่า..........จบ.........เออ จบก็ดี
ผัน..... ไม่อยากบอก เด็กอนุบาลมันยังไม่ดูเลย
ถ้าตัด ตอนฝันไป เป็น หวาน อาย จูบ หนังเรื่องนี้จะดูดีในระดับนึง
พอเป็น ฝัน หวาน อาย จูบ............หมดราคา เสียดายตังค์
อุตส่าห์นั่งรถเมล์ไปดู รู้งี้ นั่งแท็กซี่วนรอบบ้านดีกว่า............
โดย: per IP: 118.173.63.150 วันที่: 24 มีนาคม 2552 เวลา:19:11:13 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมันน้อย เบอร์ 14
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]






สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539 ห้ามผู้ใดละเมิด โดยนำ ภาพถ่าย,รูปภาพ, บทความ,งานเขียน รวมถึงข้อความต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นส่วนหนึ่งส่วนใด หรือทั้งหมดใน Blog แห่งนี้ ไปใช้เผยแพร่ .ไม่ว่าส่วนตัวหรือเชิงพาณิชย์ โดยไม่ได้ รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดี ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด

:: หลังไมค์หาผมได้ครับ ::


Custom Search



มกราคม 2552

 
 
 
 
1
2
3
5
7
8
9
10
11
12
13
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
All Blog
MY VIP Friend