เมื่อวันศุกร์ที่ 6 เมษายน ฉันได้ไปนั่งฟังการเสวนาหัวข้อ 30 ปี ติช นัท ฮันห์ กับสังคมไทย ในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่เพิ่งผ่านไป

จริงๆ แล้ว ฉันไม่ค่อยได้อ่านงานเขียนของ "ไถ่" (เรียกตามพระไพศาล วิสาโล และคุณรสนา โตสิตระกูล ซึ่งเคยได้พบกับไถ่เมื่อ 30 ปีก่อน) เท่าใดนัก การไปฟังเสวนาวันนั้น ช่วยเปิดหู เปิดตา ว่าจริงๆ แล้ว ไถ่เป็นใคร และสอนอะไร
ในการเสวนาได้ฉายวิดีทัศน์เรื่อง Going Home ซึ่งไถ่เดินทางกลับประเทศเวียดนาม หลังจากที่จากมาร่วม 30 ปี ไถ่ต้องเดินทางออกจากเวียดนาม ในช่วงที่มีสงครามเวียดนาม เนื่องจากท่านปฏิเสธที่จะเลือกข้าง เมื่อท่านไม่เลือกข้าง ทั้ง 2 ฝ่าย จึงประทับตรา ว่าท่านเป็นศัตรู
//ฉันรู้สึกคุ้นๆ ถึงวลีทางการเมืองคำนี้ขึ้นมาตะหงิดๆ ต้องเลือกข้าง ถ้าไม่เลือกข้างคือฝ่ายตรงข้าม คือศัตรู//
หลังจากที่ไถ่ลี้ภัยจากเวียดนามมาสู่ประเทศไทย ในช่วงนั้นชาวเวียดนามจำนวนมากที่ลี้ภัยออกมาทางเรือ หรือที่รู้จักกันว่า "boat people" หรือ "คนเรือ" เรื่องเศร้าที่ซ้อนขึ้นมาในโศกนาฏกรรมของสงครามก็คือ ผู้ที่ฉกฉวยผลประโยชน์ต่อคนที่ไม่มีทางสู้ ไม่มีทั้งที่ไป และที่ให้กลับไป มีคนเรือจำนวนไม่น้อยที่ถูกดักปล้นสดมภ์และทำร้ายโดยโจรสลัด (ว่ากันว่าโจรสลัดนั้นมาจากฝั่งไทยนี่เอง)
"เคยมีคนถามไถ่ ว่าระหว่างศาสนาพุทธและสันติภาพไถ่จะเลือกสิ่งใด" "สันติภาพ"
ในสายตาคนที่เห็นผู้คนในชาติ ฆ่าฟันกันเอง บาดเจ็บล้มตาย เห็นความทุกข์แสนสาหัสจากสงคราม สันติภาพเป็นของมีค่าอย่างยิ่ง เป็นสิ่งที่ผู้คนทุกชาติ ศาสนาใฝ่หา ไม่มีเขา ไม่มีเรา
ไถ่กลับเวียดนามภายใต้การจับตาดูอย่างไม่ไว้วางใจของรัฐบาลเวียดนาม แต่ในที่สุด รัฐบาลก็คลายใจ และอนุญาตให้ไถ่แสดงธรรมในที่สาธารณะอย่างเปิดเผย โดยมีสมาชิกพรรคคอมมูนิสต์เข้าฟังด้วย
ปัจจุบันหมู่บ้านพลัม ซึ่งก่อตั้งขึ้นในเวียดนาม กำลังเติบโต มีนักบวชอยู่ 2 - 300 รูป
คืนนั้นฉันกลับบ้านมาก็ถูกตั้งคำถาม... "ติช นัท ฮันท์ สอนอะไร" "ไม่รู้สิ ... สอน จุดไม้ขีด" ฉันตอบ "เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป..."
ในดีวีดีที่ฉาย ตอนหนึ่งเป็นภาพที่ท่านแสดงธรรม พระติช นัท ฮันท์ อธิบายว่า สิ่งต่างๆ มิได้เกิดขึ้น แต่ปรากฎขึ้น เหมือนกับไฟ ท่านถือกลักไม้ขีดกลักหนึ่งอยู่ในมือ แล้วถามผู้ฟังว่า "เธอมองเห็นไฟไหม" "ไฟอยู่ที่นี่แล้ว เมื่อเหตุปัจจัยพร้อมสมบูรณ์ ไฟจะปรากฎขึ้น" แล้วท่านก็จุดไม้ขีด "และเมื่อเหตุปัจจัยหมดไป ไฟก็จะดับ" พูดแล้วก็เป่าไม้ขีดดับมอดลง
เป็นการสอนสั้นๆ ง่ายๆ ที่เห็นภาพชัดเจนดี
"ท่านมองเห็นไฟไหม?"

----------------------------------------- ระหว่างการเสวนา มีหลายส่วนที่ฉันคิดว่าน่าสนใจ ขอเขียนไว้เป็นข้อๆ สั้นๆ นะคะ
- เวียดนามชนะสงครามแต่แพ้สันติภาพ
เวียดนามสามารถขับไล่ศัตรูออกจากประเทศได้ แต่เวียดนามก็กำลังถูกทุนนิยมเกาะกิน เช่นเดียวกับสังคมไทย
- ปัจจุบันเป็นยุคสมัยแห่งชาตินิยม และ ศาสนนิยมแบบสุดโต่ง นำชาติและศาสนามาเป็นเหตุผลในการก่อสงคราม
- ปัจจุบันตกอยู่ภายใต้วัฒนธรรมแห่งความละโมบ (บริโภคนิยม) พิจารณาเรื่องจตุคาม
- แทนที่จะคิดเรื่องการเขียนไว้ในรัฐธรรมนูญ ว่าศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ
เราควรจะคิดหาหนทางทำให้ศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำใจมากกว่าหรือเปล่า
- การมีศาสนาเป็นที่พึ่งนั้นมิใช่เพื่อความสงบเท่านั้น
แต่เพื่อความกล้า กล้าที่จะมือเปื้อนตีนเปื้อน ลงมือทำความดี การลงมือทำอะไรสักอย่างนั้นไม่ใช่เพื่อผลสำเร็จคือชัยชนะเท่านั้น แต่เพื่อผลสำเร็จคือการได้ลงมือกระทำในสิ่งที่เชื่อว่าถูกต้อง และดีงาม (คุณรสนา พูดข้อความนี้จบแล้วก็ส่งหนังสือเวียนขอให้ผู้ร่วมฟังเสวนาร่วมลงชื่อสนับสนุนให้เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับปี 50 ว่าให้ยกเลิกการแปรรูปรัฐวิสาหกิจที่เป็นกิจการสาธารณะ
- ภิกษุณีนิรามิสา บอกเล่าถึงความเป็นไปได้ของการก่อตั้งสาขาหมู่บ้านพลัมขึ้นในประเทศไทย
คลิก เพื่อฟังเพลงค่ะ เพลงนี้อยู่ในซีดีที่แจกฟรีในงานเสวนานี้ (ใครสนใจขอได้นะคะ) ซีดี 1 แผ่นมี 20 เพลง เนื้อเพลงตัดตอนมาจากบทกลอนที่พระติช นัท ฮันห์แต่งไว้ โดยมากก็อยู่ในหนังสือ "เรียกฉันด้วยนามอันแท้จริง"
Please call me by my true name.
My joy is like spring, so warm it makes flowers bloom all over the Earth. My pain is like a river of tears, so vast it fills the four oceans.
Please call me by my true names, so I can hear all my cries and laughter at once, so I can see that my joy and pain are one.
Please call me by my true names, so I can wake up, and so the door of my heart can be left open, the door of compassion..
~Thich Nhat Hanh
เรียกฉันด้วยนามอันแท้จริง
ปีติแห่งฉันดังวสันต์อันอบอุ่น บำรุงบุปผชาติแย้มบานไปทั่วโลก เจ็บร้าวแห่งฉันดั่งธารน้ำตา กว้างใหญ่เนืองนองสู่ท้องสมุทรทั้งสี่
โปรดเรียกฉันด้วยนามอันแท้จริง เพื่อฉันจักกอาจยินเสียงสรวลและร่ำไห้ของตนได้พร้อมกัน เพื่อฉันจักอาจเห็นว่าปีติและเจ็บร้าวของตนนั้นคือหนึ่ง
โปรดเรียกฉันด้วยนามอันแท้จริง เพื่อฉันจักอาจตื่นขึ้น และประตูหัวใจฉัน ประตูแห่งความกรุณา จะได้เปิด
ร. จันเสน แปล
กลอนบทนี้พระไพศาลนำตอนกลางๆ มาอ่านให้ฟัง
"ฉันคือเด็กหญิงสิบสองขวบ ลี้ภัยในเรือน้อย โถมร่างลงกลางสมุทร หลังถูกโจรสลัดข่มขืน และฉันคือโจรสลัด หัวใจฉันยังขาดความสามารถ ในการเห็นและรัก"
แล้วเล่าว่าสมัยที่ท่านได้อ่านครั้งแรกท่านก็ไม่เข้าใจว่าแปลว่าอะไร มาภายหลังถึงเริ่มเข้าใจว่าไถ่หมายความว่า ท่านเห็นว่ามนุษย์ทุกคนนั้นเหมือนกัน สิ่งที่กระทำอาชญากรรมนั้นคือความรู้สึกโกรธ เกลียดต่างหาก ไม่ใช่ใคร หรือผู้ใด การคิดเช่นนี้จะทำให้ไม่ผูกโกรธ และสามารถให้อภัยต่อผู้ลงมือกระทำความผิดได้ง่ายขึ้น
พระ ติช นัท ฮันท์ จะเดินทางมายังประเทศไทยระหว่างวันที่ 19 - 31 พค 2550 มีกำหนดการณ์คร่าวๆ ดังนี้
- วันอาทิตย์ที่ 20 พค.
แสดงปาฐกถาธรรม "สู่ศานติสมานฉันท์-ความสุขอันเป็นหนึ่งเดียวในครอบครัวและสังคม" และร่วมเดินวิถีแห่งสติ ที่สวนลุมพินี กรุงเทพฯ
- วันอังคารที่ 22 พค. 18.00-21.00
แสดงปาฐกถาธรรม "มีชีวิต มีชีวา" ณ วัดสวนดอก อ.เมือง จ. เชียงใหม่
- วันพุธที่ 23 - วันอาทิตย์ที่ 27 พค.
งานกิจกรรมภาวนา -สู่ศานติสมานฉันท์- จ. เชียงใหม่
- วันอังคารที่ 29 พค. 2550
ปาฐกถาธรรม -สู่ศานติสมานฉันท์-ความรักอันไม่แบ่งแยก- (ยังไม่มีข้อมูลเรื่องสถานที่)
- วันพุธที่ 30 พค. 2550 14.30-17.30
ปาฐกถาธรรม -พุทธธรรมร่วมสมัย พุทธศาสนาเพื่อสังคม ณ วัดมหาธาตุ ท่าพระจันทร์
- วันพฤหัสที่ 31 พค. 2550 18.30-19.30
ปาฐกถาธรรม เนื่องในวันวิสาขบูชา ณ องค์พระประธาน พุทธมณฑล
Create Date : 16 เมษายน 2550 |
Last Update : 31 พฤษภาคม 2550 11:19:07 น. |
|
25 comments
|
Counter : 2169 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: grappa วันที่: 16 เมษายน 2550 เวลา:8:41:43 น. |
|
|
|
โดย: Black Tulip วันที่: 16 เมษายน 2550 เวลา:9:50:43 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 16 เมษายน 2550 เวลา:12:25:06 น. |
|
|
|
โดย: ตะเกียงแก้ว วันที่: 16 เมษายน 2550 เวลา:18:05:55 น. |
|
|
|
โดย: rebel วันที่: 16 เมษายน 2550 เวลา:20:24:57 น. |
|
|
|
โดย: JewNid วันที่: 16 เมษายน 2550 เวลา:21:51:20 น. |
|
|
|
โดย: rebel วันที่: 16 เมษายน 2550 เวลา:22:05:45 น. |
|
|
|
โดย: keyzer วันที่: 16 เมษายน 2550 เวลา:22:54:10 น. |
|
|
|
โดย: juriojung วันที่: 16 เมษายน 2550 เวลา:22:59:56 น. |
|
|
|
โดย: frank3119 วันที่: 16 เมษายน 2550 เวลา:23:11:25 น. |
|
|
|
โดย: ปลายเทียน วันที่: 17 เมษายน 2550 เวลา:0:04:59 น. |
|
|
|
โดย: khunya (คุณย่า ) วันที่: 17 เมษายน 2550 เวลา:6:30:23 น. |
|
|
|
โดย: ตุ๊กตาไขลาน วันที่: 17 เมษายน 2550 เวลา:12:07:37 น. |
|
|
|
โดย: ตะเกียงแก้ว วันที่: 17 เมษายน 2550 เวลา:19:51:07 น. |
|
|
|
โดย: behappier IP: 58.8.3.191 วันที่: 17 เมษายน 2550 เวลา:21:50:24 น. |
|
|
|
โดย: ร้อยวลี วันที่: 18 เมษายน 2550 เวลา:3:11:17 น. |
|
|
|
โดย: ประกายดาว วันที่: 18 เมษายน 2550 เวลา:3:16:25 น. |
|
|
|
โดย: ขอบคุณที่รักกัน (blueberry_cpie ) วันที่: 18 เมษายน 2550 เวลา:6:32:58 น. |
|
|
|
โดย: poser (poser ) วันที่: 18 เมษายน 2550 เวลา:11:52:20 น. |
|
|
|
|
|
|
 |
ฝากข้อความหลังไมค์ |
 |
Rss Feed |
 | Smember |  | ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

|
|
|
 |
|
ดีจังน้องแขได้มีโอกาสไปงานเสวนาดีดีแบบนี้
ดีจังที่น้องแขเอามาอัพบลอก
เจ๊ได้เปิดหูเปิดตาไปด้วย
ขอให้โลกสงบสุข
ปล. ไปสาดน้ำไหนมาบ้างเอ่ย