ISIS กำลังแผ่ขยายอิทธิพลความเชื่อเกี่ยวกับการปกครองด้วยหลักศาสนา และต่อต้านการครอบงำจากชาติตะวันตก ซึ่งนับวันจะมีชาวมุสลิมจากทั่วทุกมุมโลกเข้าร่วมเป็นเครือข่ายมากขึ้นเรื่อยๆ
กระแสไอซิสทำให้นานาประเทศ โดยเฉพาะในหมู่ประเทศที่กำลังประสบปัญหาความไม่สงบภายในอยู่ในอาการหวั่นวิตก เกรงว่าจะยิ่งเร่งให้เกิดพฤติกรรมเลียนแบบชนิดหนักข้อไปถึง "การก่อการร้าย" และสร้างความรุนแรงต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์
หลายประเทศจึงเริ่มมีมาตรการ "ตัดไฟแต่ต้นลม" โดยนำมาตรการด้านความมั่นคงออกมาใช้ควบคุมอย่างเต็มพิกัด บางประเทศเริ่มเฝ้าระวังเข้มงวด บางประเทศประกาศยกระดับเป็นภัยร้ายแรง
ดังเช่นประเทศออสเตรเลีย เริ่มปฏิบัติการกวาดล้างกลุ่มผู้ต้องสงสัยเป็นแนวร่วมไอซิสที่อยู่ทางตะวันตกของนครซิดนีย์ และทางตอนใต้ของบริสเบน เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา
สำหรับประเทศไทย ยังไม่มีมาตรการใดๆ จากฝ่ายความมั่นคง ทั้งๆ ที่มีปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งสุ่มเสี่ยงต่อการปลุกเร้าด้วยกระแสไอซิส ทำให้ล่าสุดในแวดวงวิชาการและกระบวนการยุติธรรมเริ่มแสดงความห่วงใย
ผศ.ดร.พรรณชฎา ศิริวรรณบุศย์ อาจารย์ประจำคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เล่าภาพรวมของกลุ่มไอซิส โดยนิยามแบบสั้นๆ ง่ายๆ ว่า เป็นกลุ่มก่อการร้ายกลุ่มใหม่ที่กำลังมาแรง หลายคนที่คลุกคลีกับเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศคงเคยได้ยินทฤษฎี หงส์ดำ หมายถึงเหตุการณ์ที่เราไม่อาจคาดถึงได้ เธอเองมีโอกาสเยี่ยมองค์กรเกี่ยวกับกลยุทธ์ในสิงคโปร์ พบความพยายามในการป้องกันและปราบปรามภัยคุกคามที่คาดไม่ถึงต่างๆ
"ไอซิส" เป็นกลุ่มก่อการร้ายที่แยกตัวมาจาก "อัลกออิดะห์" หรือ "อัล-ไกดา" เริ่มแรกกลุ่มไอซิสพยายามอยู่กับอัล-ไกดา แต่อยู่ด้วยกันไม่ได้ เพราะไอซิสใช้ความรุนแรงทำร้ายประชาชนทั่วไปสูงมาก ไอซิสอยู่ในพื้นที่รอยต่อซีเรียกับอิรัก และพยายามแผ่ขยายเข้าไปในพื้นที่ตะวันออกกลาง จะเห็นได้ว่า พยายามรวมขอบเขตของอิรักเข้ามาด้วย
กลุ่มไอซิสกระจายอยู่ทั่วโลก แต่เฟื่องฟูมากในประเทศซีเรีย เพราะประเทศนี้มีสงครามกลางเมือง ไอซิสต่อต้านการกระทำของรัฐบาลที่เขาไม่พอใจ และเข้าไปตั้งฐานที่มั่นในซีเรีย เพื่อจะพัฒนาตัวเองจากกลุ่มผู้ก่อการร้ายไปเป็น ประเทศ/รัฐอิสลามดังความตั้งใจ เมื่อรวมตัวกันแล้วก็ได้รับการสนับสนุนจากอัล-ไกดาที่มาแยกตัวในภายหลัง "สิ่งหนึ่งที่อยากตั้งข้อสังเกต คือ อัล-ไกดาไม่สามารถบอกตัวเองว่าเป็นรัฐอิสลามได้ ในขณะที่ไอซิสทำได้ เขาเคลมตัวเองเป็นอิสลามิก สเตท หลายคนที่ผ่านรัฐศาสตร์มาคงทราบว่า เมื่อประกาศเป็นรัฐ นั่นหมายถึงการมีอธิปไตย มีการกำหนดกฎหมาย มีรัฐบาลของตัวเอง มีตำรวจ มีทุกอย่างของตัวเอง ที่สำคัญคือ ไอซิสใช้กฎหมายอิสลามในการปกครองประเทศ และใช้ยูทูบเผยแพร่ว่า พวกเขาได้ปฏิบัติอย่างนั้นจริงๆ"
ในอาเซียนมีประเทศเดียวที่ประกาศอย่างเป็นทางการว่าใช้กฎหมายอิสลาม คือ บรูไน ซึ่งประกาศไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา จะเห็นว่า หลายประเทศในอาเซียนเริ่มกังวลว่า ถ้ามุสลิมประเทศอื่นๆ ใช้กฎหมายอิสลามกันมากขึ้นจะทำอย่างไร
สหรัฐกลัวไอซิสแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ แผ่ขยายไปแล้วจะทำอย่างไรกัน เพราะต่อไปอาจจะเป็นสงครามอิสลามกับโลกเสรีดังที่เคยมีการคาดการณ์ไว้ก็ได้ ถ้าไอซิสยังแผ่ขยายต่อไป ส่วนตัวก็เชื่อว่า ที่คาดการณ์ไว้ก็มีความเป็นไปได้เหมือนกัน
นอกจากนี้ไอซิสประกาศไว้ว่า มีแผนขยายไปทั่วโลก โดยประเทศที่เป็นเป้าหมายคือ อินเดีย พม่า ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย ชัดเจนว่า 3 ประเทศเป้าหมายอยู่ในอาเซียน ด้วยเหตุนี้จึงน่ากลัว แต่เป้าหมายพวกเขาไม่ได้อยู่แค่อาเซียน แต่เป็นทั่วโลก
สำหรับจุดเด่นที่สำคัญของไอซิส คือ "ธงสีดำ" หรือ "แบล็กแฟลก" สัญลักษณ์เดียวกับที่อัล-ไกดาใช้มานานแล้ว ตรงกลางมีตัวอักษรอาหรับ ข้อความว่า "ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากพระอัลเลาห์"
" ซึ่งสอนศาสนา
การสื่อสารของไอซิสใช้การเผยแพร่สารผ่านคลิปวิดีโอทางยูทูบ รวมทั้งทวิตเตอร์ เฟซบุ๊ก เพื่อหาแนวร่วมต่อสู้กับสหรัฐ ส่วนด้านการเงินมาจากอัล-ไกดา นักธุรกิจมุสลิม และเครือข่ายที่มีอยู่ทั่วโลก
อาวุธยุโธปกรณ์ก็มีมากกว่าอัล-ไกดาหลายร้อยเท่า!
สำหรับความเคลื่อนไหวในพื้นที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้น พบว่า อาบูบากา บาชีร ผู้นำจิตวิญญาณของเจไอในอินโดนีเซีย ซึ่งถูกจองจำอยู่ที่บาหลี ประกาศผ่านลูกกรงว่า เจไอพร้อมที่จะต่อสู้ร่วมกับไอซิส หวังว่าไอซิสจะมาช่วยปลดปล่อยรัฐอิสลามในอินโดนีเซียด้วย
ที่มาเลเซีย มีตำรวจจับกุมกลุ่มวัยรุ่นที่ไปร่วมกับไอซิสและสนับสนุนรัฐอิสลามในมาเลเซียได้กว่า 10 คน ส่วนที่ฟิลิปปินส์ กลุ่มก่อการร้ายในประเทศมีหลายกลุ่ม แต่ละกลุ่มต้องการแยกจากฟิลิปปินส์เป็นรัฐอิสลาม โดยเฉพาะหมู่เกาะมินดาเนา กลุ่มสำคัญคือ อาบู ไซยาฟ กลุ่มนี้ระยะหลังเริ่มหมดอำนาจ เพราะกลุ่มเคลื่อนไหวกลุ่มใหญ่อย่าง "เอ็มไอแอลเอฟ" หรือแนวร่วมปลดปล่อยอิสลามโมโร เพิ่งทำข้อตกลงร่วมกับรัฐบาลฟิลิปปินส์ไปเมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งอนุญาตให้มีรัฐที่ปกครองตนเองได้ แต่กระนั้นก็ยังพบการแพร่ขยายไอซิสในฟิลิปปินส์
ตัวอย่างคือ ชายเชื้อชาติออสเตรเลียเข้าไปอยู่ในฟิลิปปินส์เผยแพร่ผ่านยูทูบว่า ฟิลิปปินส์พร้อมร่วมกับไอซิส กลุ่มมินดาเนาก็แสดงธงสัญลักษณ์ไอซิส ว่า พร้อมแล้วที่จะเข้าร่วม ที่สำคัญได้ตรวจค้นพบอาวุธของกลุ่มอาบู ไซยาฟ ในหมู่เกาะมินดาเนาเป็นจำนวนมาก
สำหรับประเทศไทยยังไม่พบข่าวหรือข้อมูลชัดเจนว่ามีการแผ่ขยายของไอซิสเข้ามาหรือไม่!
ดูเหมือนว่า ภัยคุกคามจากการก่อการร้ายกำลังคืบคลานเข้ามาสู่ประเทศไทยทุกขณะ แล้วเตรียมรับมือกันอย่างไร โดยเฉพาะในแง่การรับมือกับไอซิส โดยใช้มาตรการทางกฎหมายทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ
วิพล กิติทัศนาสรชัย ผู้อำนวยการโครงการส่งเสริมและพัฒนาองค์ความรู้ด้านหลักนิติธรรมในประเทศ ทีไอเจ บอกว่า มีอนุสัญญาเกี่ยวกับบทบาทกฎหมายและบทบาทระหว่างประเทศเรื่องก่อการร้ายถึง 19 ฉบับ สะท้อนว่า โลกคุยกันไม่รู้เรื่อง ไม่สามารถตกลงให้เหลือฉบับเดียวได้ ประเด็นที่ยังถกเถียงกันอยู่ทุกวันนี้ คือ นิยามก่อการร้ายและข้อยกเว้นหรือไม่ยกเว้นอะไรบ้าง
อย่างไรก็ดี ปัจจัยสำคัญที่เกี่ยวเนื่องกับมาตรการปราบปรามการก่อการร้ายสากลซึ่งองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ต้องแก้ปัญหาให้ได้ก็คือ การส่งผู้ร้ายข้ามแดน เช่น ฮัมบาลี (แกนนำลำดับ 2 ของกลุ่มเจมาห์ อิสลามิยาห์ หรือเจไอ) ที่มาโผล่ในประเทศไทย แล้วถูกนำตัวออกไปโดยไม่ผ่านกระบวนการส่งผู้ร้ายข้ามแดน แต่ วิคเตอร์ บูท นักค้าอาวุธชาวรัสเซีย กลับถูกส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดน ตรงนี้ยังเป็นปัญหาทางเทคนิคในหลายๆ ประเทศ รวมทั้งไทยด้วย
วิพล เล่าว่า เมื่อครั้งที่เขาทำงานอยู่กับยูเอ็น มีหน้าที่เข้าไปพูดคุยกับหลายประเทศเพื่อให้ปรับปรุงกฎหมายให้สอดคล้องกับอนุสัญญาต่างๆ แต่ก็มีปัญหาอุปสรรคแต่ละประเทศที่แตกต่างกัน เช่น สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) บอกว่าประเทศของเขาสงบ ไม่มีก่อการร้าย ถ้าจะให้ปรับปรุงกฎหมายให้ก็ต้องทำอะไรที่เกี่ยวเนื่องกับการพัฒนาให้เขาด้วย
สำหรับไทยบอกว่า ไม่มีก่อการร้าย ไม่ให้พูดถึงภาคใต้ว่าเป็นปัญหาการก่อการร้าย ดังนั้นในการปฏิบัติจึงออกเป็นการสัมมนาการต่อต้านอาชญากรรมร้ายแรงข้ามชาติ แต่ไส้ในเป็นก่อการร้าย
"ปัญหาเหล่านี้จะรับมืออย่างไร ค.ศ.1999 มีมาตรการต่อต้านการเงินที่สนับสนุนการก่อการร้าย แต่เชื่อหรือไม่ว่า ประเทศต่างๆ ไม่เคยแก้กฎหมายตามอนุสัญญานี้ ขณะที่ไทย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เพิ่งออกกฎหมายเมื่อปีที่แล้ว ที่ออกเพราะแรงบังคับจากไอเอ็มเอฟ (กองทุนการเงินระหว่างประเทศ) และองค์กรลักษณะเดียวกันขู่ว่า ถ้ากฎหมายเรื่องนี้ไม่ดีพอ จะมีปัญหาในการทำธุรกรรมข้ามชาติ"
มาตรการที่วิพลเห็นว่าได้ผลในการต่อต้านการก่อการร้ายคือ สกัดที่เงิน ซึ่งทราบมาว่า ประเทศไทยขึ้นบัญชีดำไปแค่ 2 คน แต่กระนั้น แม้จะมีมาตรการป้องกันโดยการตรวจตรา แต่ก็ห่วงว่า ถ้าหลุดลอดเข้ามาในประเทศแล้ว กฎหมายไม่พร้อม มีช่องว่างอยู่ เมื่อมีช่องว่างเราก็มักใช้วิธีการพิเศษ ซึ่งสร้างความเสียหายตามมา โดยเฉพาะหลักสิทธิมนุษยชน และหลักนิติธรราม
ในระหว่างนี้ อังกฤษได้ประกาศมาตรการสำหรับป้องกันพลเมืองในการเข้าร่วมกับกลุ่ม ISIS โดยให้ผู้ปกครองสามารถถอนหนังสือเดินทางของลูก หรือ บุคคลในปกครองได้ในกรณีที่เกรงว่า บุคคลเหล่านั้นจะเดินทางไปเข้าร่วมกับ ISIS
สำหรับประเทศไทย ในปัจจุบันยังไม่มีการหยิบยกปัญหานี้มาพิจารณาอย่างจริงจัง ซึ่งฝ่ายความมั่นคง น่าจะเริ่มพิจารณาแล้ว เพราะ ISIS ไม่ได้อยู่ไกลเราเลย
มาเยี่ยมชม มาทักทายครับ
มาตามอ่านครับ ขอยอมรับเลยว่าเป็นบทความที่ดีมาก ๆ เลยครับ ท่าน จขบ. (จขบ. = เจ้าของบล็อก) เป็น ดร. ใช่ไหมครับ? วิเคาระห์ได้ในแนวที่คนทั่วไปไม่รู้มาก่อนเลย
จะบอกว่าเมื่อไม่มฃนานมานี้ ผมเจอกลุ่มคนในสังคมออนไลน์ ที่เป็นพวก "คลั่งการประนามไอเอส" ถ้าคนพวกนั้นเจอบทความนี้เขาคงสนใจแน่ครับ
อิอิ