น้ำตาล ตัวการทำลายผิว
นอกจากการใช้เครื่องสำอางเพื่อผิวสวยสดใสแล้ว การดูผลผิวด้วยการรับประทานแต่อาหารที่มีประโยชน์ก็มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน น้ำตาลนอกจากจะทำให้อ้วน รูปร่างไม่สวย ขาดความมั่นใจแล้ว ยังเข้าไปทำลายโครงสร้างของอีลาสตินและคอลลาเจนในชั้นผิวอีกด้วย
น้ำตาลเป็นตัวทำลายโครงสร้างอีลาสตินและคอลลาเจนจริงหรือเปล่า น้ำตาล เป็นแค่ปัจจัยหนึ่งในการทำลายอีลาสตินและคอลลาเจนในผิวเท่านั้น ผิวของคนเรามีปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลกระทบต่อการทำลายผิวอีกมากมายไม่ว่าจะเป็นอายุ สิ่งแวดล้อม หรือแม้กระทั่งอาหาร ก็สามารถเป็นสาเหตุของการทำลายโครงสร้างอีลาสตินและคอลลาเจนโดย สังเกตได้จากคนที่เป็นโรคเบาหวาน จะมีสภาพผิวที่ค่อนข้างกร้านกว่าคนทั่วไป และริ้วรอยที่เกิดขึ้นจะเห็นได้ชัดมาก เนื่องจากเอนไซม์และน้ำตาลได้เข้าไปทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินในผิว
น้ำตาลจะเข้าไปทำลายผิวตั้งแต่เมื่อไร จริงๆ น้ำตาลจะเข้าไปทำลายผิวตั้งแต่วัยเด็กแล้ว แต่ด้วยกลไกลการทำงานของผิวในวัยเด็กจะถูกทดแทนทันทีหลังจากถูกทำลาย มีกระบวนการซ่อมแซมที่ดีกว่าผิวของผู้ใหญ่
ผิวที่ถูกน้ำตาลทำลายโครงสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน จะมีลักษณะอย่างไร น้ำตาล จะเข้าไปจับคอลลาเจนให้เกิดการแข็งตัว พอแข็งตัวก็จะแตกและเปราะหักง่าย หลังจากอีลาสตินและคอลลาเจนเปราะหักแล้ว ผิวตรงนั้นก็จะเกิดการยุบตัวลง ลักษณะจะเหมือนที่นอนสปริงที่เกิดการหัก เมื่อนอนตรงนั้นก็จะเกิดการยุบตัว ผิวของเราก็เช่นกัน เมื่อคอลลาเจนและอีลาสตินถูกทำลาย ผิวบริเวณนั้นก็จะยุบตัวทันที เมื่อเกิดการยวบตัวลง ถ้ามองจากภายนอก บริเวณนั้นจะเกิดเป็นริ้วรอย และริ้วรอยจะตื้นหรือลึกก็ขึ้นอยู่กับผิวของเราโดนทำลายคอลลาเจนและอีลาสติ นมากน้อยแค่ไหน
เราจำเป็นต้องควบคุมน้ำตาลมากน้อยแค่ไหน การ ควบคุมน้ำตาลจะช่วยในระดับหนึ่งเท่านั้นสำหรับการป้องกันเรื่องริ้วรอย แต่ไม่ได้แปลว่าคุณจะบริโภคน้ำตาลไม่ได้เลย เนื่องจากร่างกายของเรายังต้องการพลังงานจากน้ำตาล
การออกกำลังกายจะช่วยได้หรือเปล่า การ ออกกำลังกายถือเป็นเรื่องดีที่สุดในการดูแลสุขภาพ ยิ่งบริโภคน้ำตาลมากไปเท่าไหร่ควรมีการเผาผลาญโดยการออกกำลังการมากขึ้นตาม ด้วย ระยะเวลาในการออกกำลังกายที่ส่งผลดีต่อสุขภาพ เริ่มตั้งแต่ 30 นาทีขึ้นไป เพราะช่วงระยะเวลา15-20 นาทีแรก ร่างกายจะใช้พลังงานจากน้ำตาลก่อน หลังจากนั้นจะใช้จากไขมัน ถือว่าการออกกำลังกายเป็นทางออกที่ดีที่สุดของการปกป้องผิวจากน้ำตาล
เพื่อเป็นส่วน หนึ่งของกระบวนการสร้างพลังงาน เมื่อเราทานข้าว ขนมปัง ก็มีกลูโคส ซึ่งกลูโคสก็จะกลับมาในรูปพลังงานให้เรามีแรง แต่ถ้ารู้สึกกลัว ก็แค่บริโภคให้พอเหมาะกับความต้องการ และหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเป็นเกราะป้องกัน เพราะการออกกำลังกายจะช่วยเผาผลาญเป็นผลให้ปริมาณน้ำตาลในร่างกายลดน้อยลง
หันมาบริโภคน้ำตาลเทียมแทนจะช่วยได้หรือเปล่า การ บริโภคน้ำตาลเทียมไม่ได้ช่วยอะไร เพราะถ้าทุกคนยังทานอาหารที่มีส่วนผสมของแป้งอยู่ ไม่ว่าจะเป็นขนมปัง ข้าว หรือแม้กระทั่งเส้นก๋วยเตี๋ยว ล้วนแต่ทำมาจากแป้ง ซึ่งกระบวนการย่อยอาหารจำพวกแป้งจะทำหน้าที่เปลี่ยนแป้งให้เป็นกลูโคส กลูโคสถือเป็นหน่วยย่อยเล็กที่สุดของแป้งหรือของน้ำตาลที่ร่างกายสามารถนำไป ใช้ประโยชน์ได้ แต่พอมีกลูโคสมากเกินไปในร่างกายและไม่ได้เผาผลาญออกมา กลูโคสก็จะไปจับกับคอลลาเจนและอีลาสติน สุดท้ายก็จะส่งผลต่อผิวได้ในที่สุด
ทีนี้ก็เห็นโทษของการรับประทานน้ำตาลกันแล้วนะครับ ลองหลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสหวานหรือรับประทานให้น้อยที่สุด นอกจากจะสุขภาพดี ห่างไกลเบาหวาานแล้ว ยังช่วยชลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัยได้อีกด้วยนะ ^^
ที่มา : //www.horapa.com/content.php?Category=News&No=949
//www.morchulapremium.com
Create Date : 01 กันยายน 2554 |
|
2 comments |
Last Update : 1 กันยายน 2554 16:00:02 น. |
Counter : 904 Pageviews. |
|
|
|
ชอบหวานซะด้วยสิค่ะ เนี่ย
...
ไม่ค่อยหวานอ่ะ