แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว และ เวชศาสตร์ป้องกัน ร.พ.พนมสารคาม อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา
<<
กันยายน 2551
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
17 กันยายน 2551
 
 

ดร.อมร จันทรสมบูรณ์ เป็น นักกฎหมายมหาชนรุ่นใหญ่ หวัง Statesman ปฏิรูปการเมือง ฝ่าวิกฤต

ข่าว จาก น.ส.พ.ประชาชาติธุรกิจ
วันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2551 ปีที่ 32 ฉบับที่ 4036

ดร.อมร (ยัง) หวัง Statesman ปฏิรูปการเมือง ฝ่าวิกฤต



ดร.อมร จันทรสมบูรณ์ เป็น นักกฎหมายมหาชนรุ่นใหญ่ ที่ทุบโต๊ะเห็นด้วยกับคำ พิพากษาศาลปกครองคดีเขาพระวิหาร ขณะที่กลุ่มนักวิชาการรุ่นหนุ่ม นำโดย ดร.วรเจตน์ ภาคีรัตน์ และพวกรวม 5 คน จากคณะนิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ ไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัย โดยเขียนบทความ "การกระทำทางรัฐบาลกับคำสั่งศาลปกครองกลาง" (www.pub-law.net)

วิวาทะทางวิชาการครั้งใหญ่ ปะทะสังสรรค์กันอย่างแหลมคม และเกรี้ยวกราด

ดร.วรเจตน์ทิ้งหมัดในบทความร้อนแรงว่า "ภายใต้บรรยากาศแห่งความยุ่งเหยิงทางการเมืองที่ปรากฏอยู่ในประเทศไทยในเวลานี้ ความซื่อตรงต่อหลักวิชานับเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ประกอบวิชาชีพทางกฎหมายทั้งหลาย เพราะสิ่งนี้เท่านั้นที่จะช่วยชำระล้างใจอันอาจเคลือบไว้ด้วยอคติให้เป็นใจอันบริสุทธิ์และเป็นธรรม ผมหวังว่าบทความของผมจะมีส่วนช่วยฉุดดึงบรรดานักกฎหมาย โดยเฉพาะนักกฎหมายมหาชนจำนวนหนึ่งที่ได้ "หลงทาง" ไปไกลแล้ว ให้กลับสู่หนทางที่ถูกต้องต่อไป"

ล่าสุด ดร.อมรเขียนบทความ เขาพระวิหาร ตอน 2 ลงในเว็บ //www. pub-law.net สอนมวยนักวิชาการหนุ่ม เกือบ 30 หน้ากระดาษ โดยทิ้งประเด็นวิพากษ์นักการเมืองและนักวิชาการอย่างดุดัน

ดร.อมรชี้ว่า "พฤติกรรม" ของนักการเมืองฝ่ายรัฐบาลยืนยันมาตลอดว่า จะไม่ลาออก และไม่ยุบสภา แต่จะอยู่ทำหน้าที่เพื่อรักษาระบอบประชาธิปไตยของบ้านเมือง อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข พวกเขาพยายามให้คนไทยเชื่อว่า รัฐธรรมนูญใน "ระบบเผด็จการ โดยพรรคการเมือง (นายทุนธุรกิจ)" เป็นระบอบประชาธิปไตย (ประเทศเดียวในโลก) และพยายามอ้างอิง "สถาบัน" เพื่อการดำรงอำนาจของตนเอง

เมื่อหันมาดู นักการเมืองในพรรคการเมืองฝ่ายค้านดูบ้าง ก็จะพบว่า นักการเมืองของพรรคการเมืองฝ่ายค้าน ก็มีพฤติกรรมที่ไม่แตกต่างกับนักการเมืองในพรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาลแต่อย่างใด

นักการเมืองของพรรคการเมืองฝ่ายค้าน ไม่เคยพูดถึงการยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลง "ระบบเผด็จการ โดยพรรคการเมือง (นายทุนธุรกิจ)" แต่อย่างใด และนักการเมืองของพรรคการเมืองฝ่ายค้านยังย้ำอยู่เสมอว่า รัฐธรรมนูญ (ระบบเผด็จการ โดยพรรคการเมือง) เป็นระบอบประชาธิปไตย และดูเหมือนว่า นักการเมืองในพรรคการเมืองฝ่ายค้าน กำลังรอคอยให้ "ประชาชน" ช่วยกันล้มนักการเมืองในพรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาล เพื่อตนเองจะได้เข้ามาผูกขาดอำนาจแทน อยู่ด้วยความกระวนกระวายใจ

ขณะที่ "ชนชั้นนำ" ประเภทนักวิชาการของเรา (ดร.วรเจตน์ และพวก) ก็ไม่ได้ช่วยให้คนไทย มองเห็น "ทางออก" ในการแก้ปัญหาทางการเมืองของเราในขณะนี้ได้

แต่ยืนยันได้เพียงด้านเดียวว่า นักการเมือง (นายทุน) ในปัจจุบันนี้ ไม่ว่าจะสังกัดพรรคการเมืองพรรคใด (ทั้งพรรครัฐบาลและพรรคฝ่ายค้าน) ไม่สามารถแก้ไขรัฐธรรมนูญให้คนไทยได้ เพราะขัดกับประโยชน์ส่วนตัวของตนเอง

และไม่ว่าจะเป็น "ใคร" ก็ตามที่จะมาปฏิรูปการเมืองให้คนไทย ใครผู้นั้นจะต้องทราบว่า "การเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี" ก็ดี และ "การยุบสภา" ก็ดี มิใช่เป็นการแก้ไขปัญหาทางการเมือง ตราบใดที่ระบบสถาบันการเมืองตามรัฐธรรมนูญของเรา ซึ่งเป็น "ระบอบเผด็จการ โดยพรรคการเมือง (นายทุนธุรกิจ)" ยังคงอยู่

ระบบเผด็จการและการผูกขาดอำนาจนี้ จะเป็น "สิ่งล่อใจ" ที่ทำให้บรรดานายทุนรวมทุนกันตั้ง "พรรคการเมือง" และอาศัย "การเลือกตั้ง" (ในสภาพที่สังคมไทยมีความอ่อนแอและขาดประสบการณ์ทางการเมือง) เป็นเครื่องมือในการเข้ามา "ผูกขาดอำนาจรัฐ" เพื่อแสวงหาประโยชน์

ดังนั้นในการเลือกตั้งภายใต้ระบบเผด็จการ "โดยพรรคการเมือง" ผู้ที่จะได้รับเลือกตั้งกลับเข้ามา ก็จะได้แก่ "พรรคการเมือง" ของนายทุนคนเดิม หรือภรรยาญาติพี่น้อง พรรคพวก และตัวแทนของนายทุนคนเดิม หรือมิฉะนั้นก็เป็นนายทุนที่ลงทุนเพื่อหากำไรประเภทเดียวกัน และประเทศไทยก็จะอยู่ในวงจรแห่งความเสื่อม -vicious circle ต่อเนื่องกันไป จนกว่า "ประเทศจะเสื่อมสลาย"

"ใคร" ก็ตามที่จะมาปฏิรูปการเมืองให้คนไทย ผู้นั้นจะต้องกำหนด "จุดหมาย" ของการแก้ปัญหาทางการเมืองให้แน่ชัด กล่าวคือจะต้องศึกษาและบอกแก่คนไทยให้ได้ว่า รัฐธรรมนูญ (ระบบสถาบันการเมือง) ฉบับใหม่ของไทย จะมีรูปร่างหน้าตาอย่างไร เพราะคนไทยจะได้ทราบว่า "จุดหมาย" ของการเปลี่ยนแปลงนั้น คืออะไร ดีกว่ารัฐธรรมนูญเดิมอย่างไร และคาดหมายได้ว่า รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ของเรา จะแก้ปัญหาการเมืองในปัจจุบันของคนไทยได้อย่างไร

ผู้ที่จะมาปฏิรูปการเมืองให้แก่คนไทยได้ จะต้องเป็นผู้ที่มีคุณลักษณะเป็น "รัฐบุรุษ-statesman" (ตามความเป็นจริง) คือ มีความเสียสละ มีความรอบรู้ และจะต้องบังเอิญอยู่ใน "ตำแหน่งและฐานะ" ที่จะเป็นผู้นำให้แก่คนไทยได้ ซึ่งบุคคลนี้ดูเหมือนจะยังหาไม่พบ จากคนไทยจำนวน 64 ล้านคน

ดูเหมือนว่า ประเทศไทยมีแต่ ผู้ที่ "ดำรงตำแหน่ง" แต่ไม่มีความเสียสละและไม่มีความรอบรู้ หรือมีผู้ที่ "มีความเสียสละและมีความรอบรู้" แต่ไม่อยู่ในตำแหน่งที่จะเป็นผู้นำให้แก่คนไทยได้

ดูจะไม่แปลกประหลาดอย่างใด ที่มีการพูดว่า "การเมือง ต้องแก้ด้วยการเมือง" และดูจะไม่แปลกประหลาดอย่างยิ่งเช่นเดียวกัน ที่มีการคาดหมายว่า "นักการเมือง" (นายทุนเจ้าของ "พรรคการเมือง") จะสละอำนาจและผลประโยชน์ของตน จากการผูกขาดอำนาจใน "ระบบเผด็จการ โดยพรรคการเมือง (นายทุนธุรกิจ)" ตาม "รัฐธรรมนูญของไทย (ฉบับเดียวในโลก)" ทั้งนี้เพราะว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่ น่าสงสาร




 

Create Date : 17 กันยายน 2551
0 comments
Last Update : 17 กันยายน 2551 18:08:43 น.
Counter : 2211 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

 

samrotri
Location :
ฉะเชิงเทรา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




น.พ.สำเริง ไตรติลานันท์
แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว และ เวชศาสตร์ป้องกัน
ตำแหน่ง นายแพทย์เชี่ยวชาญ หัวหน้ากลุ่มงานเวชปฏิบัติครอบครัวและชุมชน ร.พ.พนมสารคาม และ ร.พ.สร้างเสริมสุขภาพตำบลเขาหินซ้อน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา โทรฯ 0896112714
[Add samrotri's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com