BlogGang.com : : สมาชิกหมายเลข 5504973 : เปิดลิสต์ หนังสยองขวัญภาคต่อ ฮาโลวีนนี้ ดูหนังผีวนไป !

เทศกาลฮาโลวีนกำลังจะใกล้เข้ามาแล้ว สำหรับใครที่ยังไม่มีแพลนว่าจะทำอะไร ได้เวลามานอนดูหนังสยองขวัญยาวไปๆ กันดีกว่า และเนื่องด้วยว่าทางเราเป็นแฟนตัวยงของภาพยนตร์แนวนี้ พี่ โปร เลยขอมาป้ายยาหนังภาคต่อเด็ดๆ ชนิดที่ว่าใครยังไม่เคยดูถือว่าพลาด ซึ่งข้อดีสำหรับหนังภาคต่อนี้ ก็คือ มันจะยิ่งเพิ่มความอิน รวมไปถึงความจุใจให้กับการดูหนังของเราได้ดีมากๆ ยกตัวอย่างหนังภาคต่อที่ประสบความสำเร็จ และน่าจะเป็นหนังภาคต่อในดวงใจของหลายคน อาทิ Harry Potter หรือไม่ก็ The Lord of the Rings ที่มีภาคต่อเยอะจนคนดูอย่างเราแทบจะไม่ต้องนอนกันเลย ถ้าจะเปิดดูรวดเดียวจบ

อะ และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามาไล่เช็กลิสต์ไปพร้อมๆ กันเลยดีกว่า

ว่าคืนฮาโลวีนที่จะถึงนี้ จะประเดิมกันด้วยจักรวาลหนังสยองขวัญเรื่องไหนกันก่อนดี ?

รวม 10 หนังสยองขวัญภาคต่อ
ใครยังไม่เคยดู ฮาโลวีนนี้อย่าได้พลาดดด !

ภาพตัวอย่างจากภาพยนตร์เรื่อง Halloween (1978)

จักรวาลหนังสยองขวัญเรื่องที่ 1 : Halloween

ขอประเดิมเอาฤกษ์เอาชัยกันด้วยจักรวาลหนังสยองขวัญเรื่องแรกอย่าง Halloween ที่เรียกว่าน่าจะเป็นหนังสยองขวัญในดวงใจของใครหลายคน ซึ่งจะบอกว่าจักรวาลนี้มีภาคต่อเยอะมากๆ และหลายคนมักจะจำสลับกับ เจสัน ศุกร์ 13 เพราะฆาตกรสวมหน้ากากเหมือนกัน5555

และใช่จ่ะ ที่ว่าหนังเรื่องนี้มีเรื่องราวเกี่ยวกับฆาตกรต่อเนื่อง (พี่ promotion กระซิบว่าพี่เค้าอึดมาก ผ่านมากี่ภาคต่อกี่ภาคก็ไม่ตายสักที เล่นเอาคนดูอย่างเราเหนื่อยที่จะลุ้นกันเลย) และฆาตกรต่อเนื่องจากเรื่องนี้ไม่ได้ชื่อ เจสัน แต่พี่เค้าชื่อ ไมเคิล เมเยอร์ ที่ปรากฏตัวครั้งแรกในภาพยนตร์เรื่อง Halloween ในปี ค.ศ. 1978 ซึ่งในภาคแรกของหนังจะเล่าถึงเด็กชายที่ชื่อไมเคิล เมเยอร์ ที่มีอาการผิดปกติมิหนำซ้ำเค้ายังได้ฆ่าพี่สาวของตัวเองเสียชีวิต จนต้องถูกพาตัวไปรักษา

ซึ่งใครจะไปรู้ว่า ในอีก 15 ปีต่อมา เค้าได้หลบหนีออกมาจากสถานบำบัด ก่อนจะไปตามล่าน้องสาวอีกคนของเค้าที่ยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งในจักรวาลของภาพยนตร์เรื่องนี้ เราก็จะได้เห็นการตามล่าของไมเคิล ผสมกับบรรยากาศของเทศกาลฮาโลวีนอันเป็นเอกลักษณ์ แต่ใดใดก็คือไมเคิลอึดมากจริงๆ จนทำให้ทางเราแอบคิดอยู่เหมือนกันนะว่าหรือจริงๆ แล้วไมเคิลไม่ใช่คน แต่เป็นซอมบี้กันแน่

และสำหรับใครที่อยากตามเก็บจักรวาล Halloween เรื่องนี้กันให้ครบ ก็สามารถไล่ดูกันตามนี้ได้เลย

Halloween (1978)
Halloween 2 (1981)
Halloween 3 (1982)
Halloween 4 (1988)
Halloween 5 (1989)
Halloween 6 (1995) *ภาคสุดท้ายของต้นฉบับ
Halloween H20 (1998) *แยกมาเล่าใหม่อีกทามไลน์นึง
Halloween Resurrection (2002) *ภาคต่อของทามไลน์ใหม่
Halloween (2007) *นำภาคต้นฉบับมารีบูทใหม่
Halloween 2 (2009) *ภาคต่อของฉบับรีบูท
Halloween (2018) *แยกมาเล่าใหม่อีกทามไลน์นึง
Halloween Kills (2021) *ภาคต่อจากปี 2018

ปาไปถึง 12 ภาคกันแล้วสำหรับจักรวาลของภาพยนตร์เรื่อง Halloween ที่สำคัญคือนักแสดงหลักของเรื่องตั้งแต่ภาคแรกอย่าง Jamie Lee Curtis ก็ยังคงเหนียวแน่นรับบทเป็น Lauries หรือน้องสาวของไมเคิล เมเยอร์กันอยู่ สำหรับแฟนหนังสยองขวัญคนไหน อยากดูภาคต่อล่าสุดอย่าง Halloween Kills เตรียมเกาะจอรอดูกันได้ ในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2564 นี้ทุกโรงภาพยนตร์จ้า

ดูตัวอย่างเป็นน้ำจิ้มกันก่อนได้ที่นี่ > คลิ๊ก

ภาพตัวอย่างจากภาพยนตร์เรื่อง Friday the 13th (1980)

จักรวาลหนังสยองขวัญเรื่องที่ 2 : Friday the 13th

ไหนใครเรียกเจสัน เจสันมาแล้วจ้า55555 ถ้าใครกลัวว่าจะจำไม่ได้ว่าคนไหนคือไมเคิล คนไหนคือเจสัน เราแนะนำให้ดูที่หน้ากากนะ คือไมเคิลหน้ากากของเค้าจะมีความเป็นหน้าคนมากกว่า ส่วนเจสันหน้ากากก็จะประมาณในรูปด้านบน สีก็จะทึมๆ หน่อย ไม่ขาวโอโม่แบบไมเคิล (พอจะช่วยได้ไหมนะ )

อะ มาว่ากันที่เรื่องราวในจักรวาลนี้กันบ้างดีกว่า สำหรับจักรวาลศุกร์ 13 ฝันหวานเนี่ย เค้าจะมีกลิ่นอายของความเป็นยุค 90 อยู่สูงมาก และจะบอกว่าฉากการเข้าค่าย ตั้งแคมป์แบบในเรื่องนี้ ได้เป็นต้นฉบับให้กับหนังฆาตกรโรคจิตหลายเรื่องเชียวแหละ คือเห็นภาพค่ายขึ้นมาปุ๊บ ก็ต้องจินตนาการนำไปก่อนแล้วว่าไม่น่าจะเป็นหนังธรรมดาๆ ฆาตกรโรคจิตต้องมาแน่นอนแล้ว 1

แต่ต้นกำเนิดของฆาตกรโรคจิตที่ชื่อเจสันเนี่ย เอาจริงๆ คือน่าสงสารมาก เพราะในวัยเด็กของเจสัน เค้าโตมากับอาการผิดปกติบางอย่าง ที่ส่งผลทำให้สมองของเค้าบวมตั้งแต่เด็ก ซึ่งในทุกๆ ฤดูร้อน เจสันจะไปช่วยงานแม่ของเค้าที่แคมป์ Crystal Lake ซึ่งที่แคมป์แห่งนั้น เจสันจะต้องเจอกับการกลั่นแกล้ง รวมถึงการล้อเลียนหน้าตาของเค้าสารพัด จนมีวันนึงเจสันได้ถูกเด็กในแคมป์แกล้งจนทำให้เค้าจมน้ำเสียชีวิต ซึ่งนั่นก็ได้กลายมาเป็นจุดเริ่มต้นของการแก้แค้น แบบไม่ไว้หน้าใครเลยของเจสัน บอกเลยว่างานนี้ไม่รู้จะสงสาร หรือจะสะใจดี แต่ก็อะนะ จะบอกว่าจักรวาลเรื่องนี้ก็คือแน่นไม่แพ้ Halloween กันเลย ส่วนจะมีภาคอะไรกันบ้าง ตามไปเช็กลิสต์กันต่อได้เลย...

และสำหรับใครที่อยากตามเก็บจักรวาล ศุกร์ 13 ฝันหวาน กันให้ครบ สามารถไล่ดูกันได้ตามนี้เลยจ้าา

Friday the 13th (1980)
Friday the 13th ภาค 2 (1981)
Friday the 13th ภาค 3 (1982)
Friday the 13th ภาค 4 (1984)
Friday the 13th ภาค 5 (1985)
Friday the 13th ภาค 6 (1986)
Friday the 13th ภาค 7 (1988)
Friday the 13th ภาค 8 (1989)
Jason Goes To Hell (1993)
Jason X (2002)
Freddy vs Jason (2003) *ภาครวมจักรวาล เจสัน vs เฟรดดี้ นิ้วเขมือบ
Friday the 13th (2009) *นำภาคต้นฉบับมารีบูทใหม่

จะพูดยังไงดีล่ะ5555 คือส่วนตัวนะ พี่ promotions มองว่าภาคต่อของ Friday the 13th พักหลังๆ เริ่มออกทะเลไปพอสมควร เริ่มมีเหตุการณ์เหนือธรรมชาติเข้ามาปลุกชีพเจสัน อย่าง Jason X ก็คือออกนอกโลกไปเลยจ้า (แกร่งกว่าคนเหล็กก็ต้องเจสันเค้านี่แหละ) คือด้วยความที่ว่าเจสันที่ถูกเล่ามาตั้งแต่แรก เป็นเจสันในสภาพที่ตายไปแล้ว ดังนั้นผู้สร้างเลยพยายามปลุกชีพตัวละครตัวนี้ออกมานำเสนอในเวย์ใหม่ๆ ซึ่งสำหรับเรา เราขอหยุดไว้ที่ภาค 4 จะเป็นการดีที่สุด

แต่ใครใคร่ดูก็ดูได้นะ เพราะบทเค้าแหวกแนวดีมาก ล้ำไม่มีใครเกินเลยแหละ แต่ดูเหมือนจะไม่มีภาคต่อมาสักพักใหญ่ๆ แล้ว หรือบางทีอาจจะหยุดไว้แค่นั้น สำหรับใครที่เลิฟในจักรวาลศุกร์ 13 ก็จัดโล้ด ตามเก็บให้ครบเลยนะถ้าเป็นไปได้

ภาพตัวอย่างจากภาพยนตร์เรื่อง The Conjuring (2013)

จักรวาลหนังสยองขวัญเรื่องที่ 3 : The Conjuring

ถ้าถามว่าในบรรดาจักรวาลหนังสยองขวัญที่เราชอบและอินมากที่สุดคือเรื่องไหน พี่ โปรโมชั่น ขอตอบเลยว่า The Conjuring คือติด Top 3 แน่ๆ แล้ว 1 ยิ่งรู้ว่าหนังได้แรงบันดาลใจมากจากเรื่องจริงของเอ็ด และลอว์เรน สองสามีภรรยานักปราบผีด้วยนะ ก็คือแบบเห้ย เอาใจไปเลยจ้า แล้วตัวหนังเค้าก็สนุกด้วยไง คือแต่ละภาคของเค้าจะหยิบเอาเคสที่น่าสนใจที่สองสามีภรรยาคู่นี้เคยเจอมา มาปรับรายละเอียดนิดๆ หน่อยๆ (แต่อ้างอิงมาจากเค้าโครงเรื่องจริง) อย่างภาคแรกก็จะเป็นเรื่องราวความสยองที่บ้านหลังหนึ่ง ที่เอ็ดและลอว์เรนได้ไปเจอกับวิญญาณร้ายที่พร้อมจะคร่าชีวิตของทุกคนด้วยการเข้าสิงคนเป็นแม่

ถึงแม้ว่าจักรวาลของหนังเรื่องนี้จะดำเนินไปด้วยการอาศัยตัวละครหลักที่เป็นคน แต่มันไม่น่าเบื่อเลย จนเราแอบคิดอยู่เหมือนกันนะว่า ถ้าผู้สร้างนำเคสของเอ็ด และลอว์เรนมาทำเป็นหนังทั้งหมด รับรองว่าจะต้องเป็นจักรวาลที่ใหญ่มากๆ แน่นอน ที่สำคัญเค้าก็มีจักรวาลแยกออกไปอีกเหมือนกัน อาทิ The Nun, Annabelle หรือ Slender Man ก็คือใครอินกับผีตนไหน ก็ไปตามเก็บกันต่อได้เลย

และสำหรับใครที่อยากตามเก็บจักรวาล Conjuring กันให้ครบ สามารถไล่ดูกันตามนี้ได้เลยจ้าา

The Conjuring (2013)
The Conjuring 2 (2016)
The Conjuring 3 (2021)

ถึงแม้ว่าจักรวาลยังมีกรุบๆ อยู่ที่ 3 ภาค แต่ภาคย่อยที่หยิบเอารายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ จาก Conjuring มาสร้างเป็นหนัง ก็มีพอตัวกันเลยนะ หนึ่งในนั้นก็ได้แก่จักรวาลของตุ๊กตาผีสิงแอนนาเบล (ซึ่งเดี๋ยวเราจะหยิบมาป้ายยากันต่อหลังจากนี้) และสำหรับใครที่ยังไม่ได้ดู The Conjuring 3 กัน ตอนนี้ยังสามารถชมกันได้อยู่ที่โรงภาพยนตร์นะ

หรือใครจะดูตัวอย่างเป็นน้ำจิ้มกันก่อน ก็ดูได้ที่นี่โล้ด > คลิ๊ก

เห็นผลภายใน 2 สัปดาห์
ลดผมร่วงได้อย่างชัดเจน

อ่านเนื้อหาฉบับเต็ม คลิ๊กเลยจ้า >>> https://www.punpro.com/p/Halloween-Movies-Night

ภาพตัวอย่างจากภาพยนตร์เรื่อง Annabelle (2014)

จักรวาลหนังสยองขวัญเรื่องที่ 4 : Annabelle

แม้ว่าหลายคนจะเคยเห็นผ่านหูผ่านตากันแว๊บๆ ที่ The Conjuring กันมาแล้ว แต่คราวนี้ พี่เค้าขอสร้างจักรวาลใหม่ของตัวเองขึ้นมา กับจักรวาลของตุ๊กตาผีอย่างแอนนาเบล ไม่รู้ว่ามีใครเคยเห็นหน้าตาจริงๆ ของตุ๊กตาผีตัวนี้กันไหม จะบอกว่าไม่แปลกใจเลยถ้าคนที่เห็นแว่บแรกจะไม่รู้ว่ามันมีผีสิงอยู่ เพราะมันมีหน้าตาปกติมากทุกคน ไม่ได้หลอนแบบที่เราเห็นกันในหนังเลยด้วยซ้ำ

แต่อย่างที่เราเคยได้ยินกันว่าอย่าตัดสินคนที่หน้าตา และใช่จ่ะ อย่าตัดสินแอนนาเบลกันที่หน้าตาด้วยเช่นกัน สำหรับจักรวาลของตุ๊กตาแอนนาเบลในเวอร์ชั่นภาพยนตร์นี้ บอกเลยว่าหลอนจับใจ โดยตัวเนื้อเรื่องจะดำเนินไปด้วยวิธีการเล่าย้อนทามไลน์ คือภาคแรกจะเหมือนเป็นภาคปัจจุบันว่ามีคนเจอตุ๊กตาตัวนี้นะ ส่วนภาค 2 จะเล่าย้อนไปถึงต้นกำเนิดของตุ๊กตา ว่ามันมีที่มาที่ไปยังไง ก่อนจะไปปิดท้ายกันที่ภาค 3 ที่แอนนาเบลอาละวาดหนัก ด้วยการปลุกวิญญาณของต้องสาปในห้องเก็บของที่เอ็ดและลอว์เรนขังวัตถุต้องสาปเอาไว้ ฟังดูชุลมุนวุ่นวายพอสมควร แต่รับประกันความมันส์กันได้เลยจ่ะ !

และสำหรับใครที่อยากตามเก็บจักรวาล Annabelle กันให้ครบ สามารถไล่ดูกันตามนี้ได้เลย

Annabelle (2014)
Annabelle : Creation (2017)
Annabelle Comes Home (2019)

ไปๆ มาๆ จักรวาลของตุ๊กตาผีอย่างแอนนาเบล มีจำนวนเท่า The Conjuring เฉย.. และที่เราประทับใจมากนั่นก็คือ นักแสดงที่เล่นเป็นเอ็ดและลอว์เรน ก็คือยังมารับบทบาทเดียวกันในภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย นี่แหละ ยิ่งทำให้คนดูอย่างเราอินหนักมากขึ้น แต่ไม่รู้ว่าในอนาคตจะมีภาคต่อกันอีกไหม งานนี้เห็นทีว่าจะต้องลุ้นกันต่อไปนะจ๊ะ

ภาพตัวอย่างจากภาพยนตร์เรื่อง SAW (2004)

จักรวาลหนังสยองขวัญเรื่องที่ 5 : SAW

ขอขึ้นคำเตือนไว้ล่วงหน้าก่อนเลยว่า สำหรับใครที่ไม่ชอบดูหนังโหดเลือดสาด เราแนะนำให้เลี่ยงได้เลี่ยง เพราะโหดที่ว่าคือโหดจริง ไม่มีเซ็นเซอร์ แต่ถ้าใครคิดว่าไหว เราก็ไม่อยากให้พลาด เพราะนอกจากความโหดแล้ว ความหักมุมเราให้คะแนนเต็ม 10 คือให้ความรู้สึกเหมือนถูกตบหน้าดีๆ นี่เอง (อันนี้แค่คำเปรียบเปรยเฉยๆ นะ)

แล้วไม่ใช่ว่าหนังเค้าจะโหดเลือดสาดแบบไม่ได้ให้ข้อคิดหรืออะไรมาเตือนใจกันเลย เพราะตัวหนังยังสอดแทรกข้อคิดเรื่องของการทำผิด บวกกับความโลภ อารมณ์ประมาณว่าทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่วแบบนั้นเลย มาว่ากันที่เรื่องย่อของหนังเรื่องนี้กันบ้าง สำหรับเกมเดิมพันชีวิตสุดโหดนี้ได้เริ่มต้นขึ้นในห้องปิดตายห้องหนึ่ง ที่ชาย 2 คนตื่นขึ้นมาแล้วพบกับศพของบุคคลปริศนาที่นอนเสียชีวิตอยู่ที่กลางห้อง มันทำให้พวกเค้าดิ้นรนอยากจะหาทางรอด เพราะไม่อยากจบชีวิตลงแบบชายคนนั้น และใช่จ่ะ หน้าที่ของพวกเค้านั่นก็คือ หนีออกไปจากห้องปิดตายนี้ให้ได้ เพราะถ้าคุณทำได้ = รอด ซึ่งมันจะไม่ยากอะไรเลย ถ้าหากว่าข้อเท้าของพวกเค้าทั้งสองคนไม่ได้ถูกล่ามไว้ด้วยโซ่ (อ่ะ พอจะเดาออกแล้วใช่ไหมว่าจะมีฉากอะไรเกิดขึ้น )

ซึ่งในหนังเราจะเห็นวิธีดิ้นรนเอาชีวิตรอดของเหล่าตัวละคร และไม่ใช่แค่ภาคแรกอย่างเดียวนะ แต่นี่คือแกนหลักของหนังเรื่องนี้เลย กับหนทางในการสู้กับสิ่งที่มองไม่เห็น อย่าง JIGSAW อย่างบางภาคก็เพิ่มความโหดขึ้นมาด้วยการจับเวลาเอาชีวิตรอดก็มี คือถ้าเอาตัวรอดไม่ได้ภายในเวลาที่กำหนด = ตาย และย้ำอีกที ฉากในเรื่องนี้โหดมาก ถ้าใจไม่ถึงพอ เราไม่แนะนำให้ดูน้า

และสำหรับใครที่อยากตามเก็บจักรวาล SAW กันให้ครบ สามารถไล่ดูกันตามนี้ได้เลย

SAW (2004)
SAW 2 (2005)
SAW 3 (2006)
SAW 4 (2007)
SAW 5 (2008)
SAW 6 (2009)
SAW 3D (2010)
JIGSAW (2017)
Spiral (2021) *นำภาคต้นฉบับมารีบูทใหม่ + เค้าโครงเรื่องใหม่

สำหรับจักรวาล SAW นี้ ผู้ชมบางคนมองว่าหนังออกทะเลไปบ้างล่ะ หรือเอาหนังมายำจนช้ำไปหมดแล้วบ้างล่ะ สำหรับเรา เราก็แอบคิดแบบนั้นเหมือนกันนะ ถ้าให้พีคและควรค่าแก่การดูจริงๆ เราขอยกให้ 3 ภาคแรก + ภาคต่อล่าสุดอย่าง Spiral ที่เป็นการหยิบเอา SAW มาตีความในมุมใหม่ จากที่ไปอ่านเรื่องย่อมา เนื้อเรื่องจะเป็นประมาณว่า

หลังปิดตำนาน JIGSAW กันไป จู่ๆ ได้เกิดเคสที่ให้ฟีลคล้ายๆ เดิมขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งไม่รู้ว่าครั้งนี้จะเป็นฝีมือลูกสมุนของ JIGSAW เหมือนที่ผ่านมาไหม แต่ใดใดก็คือน่าดูมาก ใครที่เป็นคอหนังโหดเหมือนกัน เตรียมซื้อตั๋วเข้าไปชมกันได้เลย เพราะหนังเรื่องนี้กำลังจะเข้าฉายในบ้านเรา ในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2564 นี้แล้ว !

ดูตัวอย่างหนังเป็นน้ำจิ้มกันก่อน ได้ที่นี่ > คลิ๊ก

ภาพตัวอย่างจากภาพยนตร์เรื่อง Fear Street ภาค 1

จักรวาลหนังสยองขวัญเรื่องที่ 6 : Fear Street

สำหรับจักรวาลลำดับที่ 6 เราขอพาทุกคนมาลงเอยกันที่ Netflix ซึ่งเรื่องนี้เคยเป็นกระแสในบ้านเราและในต่างประเทศกันมาแล้ว กับ Netflix Original เรื่อง Fear Street ที่มีกลิ่นอายของศุกร์ 13 ผสมกับ Stranger Things เบาๆ แถมเรื่องราวยังชุลมุนวุ่นวายพอสมควร คือเกินกว่าที่คาดไว้ในตอนแรกมากจริงๆ

อย่างตัวนักแสดงทั้ง 3 ภาค ก็ใช้เป็นเซ็ตเดียวกันหมด คือทุกคนมีความเกี่ยวข้องกันมาตั้งนานแล้ว ทำให้เห็นเลยว่าการมาพบกันของตัวละครแต่ละคนนั้นไม่ใช่ความบังเอิญ โดยตัวเนื้อหาจะเล่าจากเหตุการณ์ในปัจจุบันก่อนย้อนกลับไปยังอดีต ซึ่งภาคแรกเบสหลักๆ เลยก็คือเรื่องราวของฆาตกรต่อเนื่อง ก่อนที่ภาคต่อๆ ไปจะมาขยายความที่มาที่ไปของฆาตกรต่อเนื่อง ไปจนถึงจุดจบที่ทำเอาลุ้นสุดอะไรสุด แต่ถ้าถามเรานะ เราชอบภาคแรกมากที่สุด รองลงมาด้วยภาคสุดท้าย แล้วตามด้วยภาค 2

และสำหรับใครที่อยากตามเก็บจักรวาล Fear Street กันให้ครบ สามารถไล่ดูกันตามนี้ได้เลย

Fear Street ภาค 1 : 1994
Fear Street ภาค 2 : 1978
Fear Street ภาค 3 : 1666

โดยทั้ง 3 ภาคสามารถดูกันได้ทาง Netflix ช่องทางเดียวเท่านั้น ใครยังไม่เคยดู ตามลิงก์นี้ไปกันได้เลย > https://www.netflix.com/th/title/81325689

ภาพตัวอย่างจากภาพยนตร์เรื่อง Scream (1996)

จักรวาลหนังสยองขวัญเรื่องที่ 7 : Scream

ก่อนอื่น ไหนทวนความทรงจำกันก่อนนิดนึงว่า ฆาตกรต่อเนื่องในคราบของหน้ากากที่เราพูดถึงกันก่อนหน้านี้ มีหน้าตายังไงกันบ้าง55555 ล่าสุดเจออีกหน้ากากนึงแล้ว กับ Scream ที่เรียกได้ว่าเป็น Signature อีกแล้ว แถมยังเป็นคอสตูมที่คนนิยมนำมาใส่กันในช่วงฮาโลวีนกันด้วยนะ

มาว่ากันถึงตัวเนื้อหาของจักรวาล Scream กันบ้าง สำหรับกลิ่นอายของหนังเรื่องนี้เด่นๆ เลยก็คือความเป็นวัยรุ่น ไม่ว่าจะเป็นตัวละครหรือฆาตกร แถมตัวฆาตกรก็สลับสับเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ไม่ได้เป็นคนเดิมตลอด แต่ต้องไปดูกันเอาเองนะว่าทำไมคนนี้ถึงกลายมาเป็นฆาตกร ซึ่งเอาจริงๆ ตัวเนื้อหาของเค้าไม่ได้หนักอะไรเลย คือสามารถดูได้เพลินๆ มีคอเมดี้บ้างบางช่วง แต่บทจะเลือดสาดทีก็คือไม่ยั้งเหมือนกัน

และสำหรับใครที่อยากตามเก็บจักรวาล Scream กันให้ครบ สามารถไล่ดูกันตามนี้ได้เลย

Scream ภาค 1 (1996)
Scream ภาค 2 (1997)
Scream ภาค 3 (2000)
Scream ภาค 4 (2011)

นอกจากจะนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์สยองขวัญ ที่เราเห็นกันตามนี้แล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังถูกนำไปล้อเลียนในรูปแบบของภาพยนตร์ตลก อย่าง Scary Movie รวมไปถึงการนำไปสร้างในรูปแบบของซีรีส์ ก็เคยทำมาแล้วเหมือนกัน ซึ่งดูเหมือนว่าหน้ากากสีขาวอันนี้ หยิบมารีเมคเมื่อไหร่ ก็สามารถดึงดูดความสนใจจากคนดูได้ตลอด และแว่วๆ มาว่าในปี 2022 ที่กำลังจะถึง Scream จะมีการรีบูทครั้งใหญ่ด้วย แต่เนื้อหาจะเป็นยังไง จะทำออกมาในเวย์คล้ายเดิม หรือจะมีปรับใหม่ เร็วๆ นี้เราคงจะได้เห็นตัวอย่างของภาพยนตร์กัน (ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงนะ)

ภาพตัวอย่างจากภาพยนตร์เรื่อง Paranormal Activity (2007)

จักรวาลหนังสยองขวัญเรื่องที่ 8 : Paranormal Activity

เอาใจสายชอบสอดส่องดูชีวิตคนอื่น กับจักรวาลถ่ายติดวิญญาณอย่าง Paranormal Activity ที่การันตีเรื่องความเรียล อย่างตัวฉากก็คือเรียลสมใจจริงๆ เหมือนเรามารับบทเป็นยามที่กำลังนั่งดูภาพกล้องวงจรปิดของบ้านใครก็ไม่รู้ แถมยังพ่วงมาด้วยสถานการณ์ชวนขนลุก อีก (ขอลาออกจากการเป็นยามเลยดีมั้ย ถ้าเจอแบบนี้จริงๆ)

เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นหลังจากที่คู่รักคู่หนึ่ง ย้ายมาอยู่ที่บ้านหลังใหม่ ซึ่งฝ่ายหญิงสัมผัสได้ว่า ตั้งแต่ที่เธอยังเด็กจนกระทั่งถึงตอนนี้ เธอรู้สึกเหมือนว่ามีอะไรบางอย่างตามติดเธอมาโดยตลอด ประจวบกับมีเหตุการณ์แปลกๆ เกิดขึ้นที่บ้านหลังใหม่นี้บ่อยๆ ซึ่งเธอค่อนข้างมั่นใจว่ามันไม่ใช่อะไรที่อยู่ในบ้านหลังนี้ แต่เป็นอะไรที่ตามติดเธอมาตั้งนานแล้วต่างหาก

มิกาห์ แฟนหนุ่มของเธอไม่เชื่อในเรื่องราวเหนือธรรมชาติ เลยตัดสินใจติดกล้องวงจรปิดไว้ตามห้องต่างๆ ภายในบ้าน โดยเค้าต้องการจะพิสูจน์ให้เห็นกันไปเลยว่าไอ้เรื่องแปลกๆ ที่ว่ามันมีสาเหตุมาจากอะไร แฟนของเค้าคิดไปเอง หรือมีเหตุการณ์แปลกๆ เกิดขึ้นจริงๆ (ซึ่งผลเป็นยังไงไม่ต้องทายกันเลย) และความอิมแพคของภาพยนตร์เรื่องนี้ ทำให้แฟนหนังหลายคน (โดยเฉพาะคนที่มีกล้องวงจรปิดอยู่ในบ้าน) ถึงกลับต้องมาไล่ย้อนดู ว่าบ้านเรามีอะไรแปลกๆ เกิดขึ้นบ้างไหม (สารภาพมานะใครเคยเป็น)

และสำหรับใครที่อยากตามเก็บจักรวาล Paranormal Activity กันให้ครบ สามารถไล่ดูกันตามนี้ได้เลย

Paranormal Activity (2007)
Paranormal Activity 2 (2010)
Paranormal Activity 3 (2011)
Paranormal Activity 4 (2012)
Paranormal Activity The Marked Ones (2014)
Paranormal Activity The Ghost Dimension (2015)
Paranormal Activity Next of Kin (2021) *รอกำหนดเข้าฉายในบ้านเรากันอีกที

จุดเด่นของภาพยนตร์แนวๆ นี้คือ มีอะไรให้เล่นเยอะมาก แบบจู่ๆ เกิดอยากจะหยิบเอาภาพจากกล้องวงจรปิดที่นู้นที่นี่ มาสร้างเป็นพล็อตหนังก็ยังได้ และที่สำคัญคือหนังแทบจะไม่ต้องลงทุนอะไรมากเลย แต่กลับสร้างรายได้มหาศาล เพื่อนๆ คนไหนที่ชอบดูหนังแนวถ่ายติดวิญญาณ หรือถือกล้องถ่ายแบบเรียลๆ น่าจะชอบเรื่องนี้กัน ดูแล้วเผลอๆ อาจจะมีระแวงบ้านตัวเองกันขึ้นมาบ้างแหละ

ภาพตัวอย่างจากภาพยนตร์เรื่อง Final Destination (2000)

จักรวาลหนังสยองขวัญเรื่องที่ 9 : Final Destination

มาถึงจักรวาลโกงความตายกันบ้าง สำหรับใครที่เคยดูกันมาแล้ว น่าจะคิดเหมือนกันกับเราว่ามันเป็น จักรวาลที่ค่อนข้างจะสมบุกสมบันพอสมควร เพราะโกงในโกงในโกงไปอี๊ก จำได้ว่าเราเคยดูภาคแรกของหนังเรื่องนี้ตอนที่ยังเด็กมากกก แล้วตอนนั้นคือกลัวมาก ตัดภาพมาที่ตอนนี้สิ ก็คือชอบเฉย5555 ที่ชอบอย่างแรกเลยก็คือพล็อตเค้าแหวกดี ถ้าย้อนกลับไปในปีที่หนังฉายเป็นปีแรก ในสมัยนั้นคนอาจจะอินกับหนังฆาตกรต่อเนื่อง หรือไม่ก็พวกเอเลี่ยนกันใช่ไหม แต่เรื่องนี้ลอยมาเลยจ่ะ เอาพล็อตโกงความตายมาใช้กันเลย ผลตอบรับก็คือ เรียกความสนใจจากคนดูได้ดีมาก

ส่งผลทำให้เกิดเป็นหนังภาคต่ออีก 4 ภาค รวมแล้วทำให้จักรวาลของ Final Destination มีด้วยกันทั้งหมด 5 ภาค ซึ่งแต่ละภาคเค้าก็จะมีตัวต้นเหตุอยู่ตามนี้ ภาค 1 เครื่องบิน, ภาค 2 รถยนต์, ภาค 3 รถไฟเหาะ, ภาค 4 รถแข่ง ก่อนไปจบที่ภาคสุดท้ายคือเกิด กลางสะพาน กันไปเลยจ่ะ (แต่เนื้อเรื่องเป็นยังไงต้องไปตามดูกันเอาเอง ทางเราขอไม่สปอยล์)

และสำหรับใครที่อยากตามเก็บจักรวาล Final Destination กันให้ครบ สามารถไล่ดูกันตามนี้ได้เลย

Final Destination 1 (2000)
Final Destination 2 (2003)
Final Destination 3 (2006)
Final Destination 4 (2009)
Final Destination 5 (2011)

ถ้าใครอยากจะดูตามลำดับทามไลน์ของเนื้อหา เราแนะนำให้ดูจากภาค 5 >> 1 >> 2 >> 3 และ 4 แต่ถ้าใครอยากดูตามปีที่ฉายก็ไล่ไปตั้งแต่ 1 ถึง 5 กันได้โล้ดด

ภาพตัวอย่างจากภาพยนตร์เรื่อง Insidious (2010)

จักรวาลหนังสยองขวัญเรื่องที่ 10 : Insidious

ยกป้ายไฟเชียร์รัวๆ เพราะจักรวาลหนังสยองขวัญเรื่องนี้คือที่ 1 ในใจของเรา คือเราเลิฟตั้งแต่พล็อต นักแสดง ไปจนถึงความตุ้งแช่แบบไม่ต้องอาศัยความพยายาม คือตีคู่สูสีมากับ The Conjuring แต่ทางเราขอยกให้เรื่องนี้ขึ้นนำเป็นที่ 1

สำหรับเรื่องย่อคร่าวๆ ของจักรวาล Insidious นั้นเริ่มต้นมาจาก เด็กผู้ชายคนนึงที่มีความสามารถในการถอดจิต โดยที่พ่อแม่ของเค้าไม่รู้มาก่อน ว่าลูกสามารถถอดจิตได้ จนวันหนึ่งเด็กคนนี้ได้ถอดจิตออกไปไกลจนไม่สามารถพาตัวเองกลับเข้ามาในร่างได้ เลยทำให้ อะไรบางอย่าง เข้ามาอาศัยและกัดกินร่างของเค้าแทน มันเลยเป็นสาเหตุที่ทำให้ เอลิส หญิงชราคนหนึ่งจะต้องมานำทางให้เด็กคนนี้หาทางกลับเข้าร่างของตัวเองได้อีกครั้ง

ซึ่งในภาคต่อไปหลังจากนี้ก็จะเป็นเรื่องราวที่มีความเกี่ยวพันกันของเอลิสกับครอบครัวของเด็กชายคนนี้ ซึ่งเป็นอะไรที่สนุกมาก น่าติดตามทุกฉาก กลิ่นอายในเรื่องจะเทือกๆ เดียวกับ The Conjuring เลย ซาวน์หลอนคือมาเต็ม ต่อให้กลัวแค่ไหนก็ต้องดู เพราะทางเราชอบมากกก

และสำหรับใครที่อยากตามเก็บจักรวาล Insidious กันให้ครบ สามารถไล่ดูกันตามนี้ได้เลย

Insidious 1 (2010)
Insidious 2 (2013)
Insidious 3 (2015)
Insidious 4 (2018)

แล้วทุกคนอย่าสับสนกันนะ เพราะเอ็ดจาก The Conjuring เค้ามารับบทเป็นพ่อในภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย เผื่อใครสงสัยว่าเอ้าแล้ว ลอว์เรน ไปไหน ก็คือคนละเรื่องน้า แต่ใดใดคือเล่นดีเหมือนเดิม ใครยังไม่ดูห้ามพลาดเด็ดขาด !

และทั้งหมดนี้ก็เป็นบรรดาจักรวาลหนังสยองขวัญภาคต่อ ที่มีทั้งผี ทั้งฆาตกรโรคจิต หรือแม้แต่เกมทางจิตวิทยาก็มี ไม่รู้ว่ามีเพื่อนๆ คนไหนตามเก็บกันครบแล้วหรือยัง ถ้ายัง อย่าลืมตามไปตามเก็บกันให้ครบนะ สำหรับใครที่ตามเก็บกันครบแล้ว เพื่อนๆ ให้จักรวาลไหนเป็นที่สุดกันบ้าง หรือใครมีจักรวาลหนังสยองขวัญเรื่องไหนอยากจะแนะนำ ก็ป้ายยากันมาโล้ด !