<<
มีนาคม 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
12 มีนาคม 2553

โรคร้าย.......บทที่ 1 โรคแพ้ความหล่อ





กรี๊ดดดดด!!!!!!!!!

เสียงหวิดกรีดร้องกึกก้องโหยหวนแหลมสูงของผู้หญิงสองสามคนประสานเสียงกันขึ้นจนแสบแก้วหู ติดตามด้วยเสียงโครมครามของแผงขายสินค้าข้างถนนล้มคว่ำชนสิ่งของกระจัดกระจาย ผู้คนวิ่งเบียดเสียดแผดร้องสับสนอลหม่านราวเกิดสงครามกลางเมือง บางคนวิ่งเข้ามาชนผมซึ่งกำลังเดินชมถนนอยู่อย่างไม่รู้อิโหน่อิเหน่ และไม่ทันระวังตัวจนหัวทิ่มลงไปในแผงผลไม้ กล้วยหอม แอปเปิ้ล ลิ้นจี่ ทุเรียน กระเด็นเซ็นซ่านราวกับพายุลูกใหญ่พัดโหมกระหน่ำเข้าใส่

“ทุกคนระวังตัว คนหล่อเดินมาทางนี้แล้ว”

เสียงใครคนหนึ่งตะโกนดังลั่นแบบคนสติแตก นั่นกลับทำให้เหตุการณ์วุ่นวายหนักขึ้น พวกผู้หญิงเผ่นกระเจิดกระเจิงไปคนละทิศละทาง ยกเว้นผู้หญิงสองคนซึ่งคงยืนเต้นไปมาและกรีดร้องไม่หยุดปากอยู่อย่างนั้นจนกระอักเลือดออกมาเป็นทางยาว เปื้อนเลอะเทอะไปตามอกเสื้อแดงฉาน สองมือดึงทึ้งผมเผ้ารุนแรงไปมาเหมือนคนบ้าคลั่ง (แต่ไม่ยอมดึงเสื้อผ้าให้ขาดวิ่นอย่างที่คิด) พวกเธอไม่อาจควบคุมตัวเองได้เสียแล้ว สติของพวกเธอโบยบินออกจากร่างชั่วคราว เหมือนโรคฮิตทีเรียระเบิดกำเริบ กว่าจะกลับเป็นปกติก็ปางตาย หรือไม่ก็แทบขาดใจตายไปก็มี

โรคแพ้ความหล่อระบาดมาถึงเมืองนี้เร็วกว่าที่คิดเอาไว้ มันทำลายความมั่นคงการเมิอง เศรษฐกิจและวัฒนธรรมของชาติแบบถล่มทลายจนน่าตกใจ คนโดนโรคหล่อเล่นงานจะต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลสูงลิ่วและไม่อยู่ในเงื่อนไขของการประกันสังคม

ที่จริงทางการรัฐบาลของประเทศนี้ก็ประกาศเตือนแล้ว แต่ผู้คนไม่ค่อยสนใจเพราะยังไม่เคยเห็นฤทธิ์ “โรคแพ้ความหล่อ” แบบเต็มตาเต็มตัว จนกระทั่งวันนี้ซึ่งโรคร้ายลุกลามระบาดอย่างรวดเร็ว บางคนบอกว่าเป็นเพราะเชื้อโรคซึ่งติดมาจากยานสำรวจดาวอังคาร บางตนบอกว่าเป็นโรคคลั่งประเภทจิตวิทยากลุ่ม บางคนบอกว่ามันติดต่อกันทางลมหายใจ น้ำลายและรอยกัด แต่ไม่ว่าความจริงคืออะไรก็ตาม ผลของมันกระทบสังคมมนุษย์รุนแรงกว่าที่คิด

ความหล่อกำลังเป็นภัยต่อมนุษยชาติทั้งทางตรงและทางอ้อม ทั้งแบบเฉียบพลันและเรื้อรังแบบไม่มีใครคาดเดามาก่อน

หางตาผมเห็นไอ้ตัวการผู้ฝ่าฝืนกฏหมายควบคุมความหล่อวิ่งหนีไปตามถนนแวบๆ มันวิ่งไปตามเส้นทางผ่านผู้คนมีเสียงกรีดร้องของพวกผู้หญิงแสบแก้วหู รวมทั้งพวกชายหนุ่มพวกผิดปกติอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งพลอยมีส่วนร่วมในการกรีดร้องด้วยความตื่นตกใจกลัวไปด้วย

ไอ้ตัวอันตราย.!!!

ผมคำรามลั่นในใจ ค่าหัวของไอ้คนหล่อมีค่ามากพอที่จะกระตุ้นให้ตามล่าและจัดการมันอย่างสาสม เพื่อแลกกับเงินค่าหัวจำนวนมหาศาลที่ทางการจะจ่ายให้

ผมผลักหญิงค่อนข้างชราภาพคนหนึ่งให้พ้นทางแบบไม่ต้องคิด ไม่สนใจว่าหญิงค่อนข้างชราคนนั้นจะหัวทิ่มหัวตำอย่างไร เพราะผมไม่ได้มีหน้าที่ดูแลคนหัวทิ่มหัวตำ เป้าหมายอยู่ที่ไอ้คนชั่วที่เกิดมาหล่อต่างหาก มันจะหล่อเกินหน้าเกินตามากไปแล้วแทนที่จะรู้จักเก็บความหล่อให้หลบใน

ที่จริงหมอนั่นก็ไม่มีพฤติกรรมชั่วอะไรหรอก แต่มันทะลึ่งเกิดมาหล่อเกินไป แถมยังทะลึ่งพาหน้าหล่อๆ ของมันมาโชว์สาวๆ ในขณะภาวะกฏอัยการศึกหน้าสิ่วหน้าขวานอย่างนี้ เป็นการทำร้ายสังคมชัดๆ ทางวงการแพทย์ถือว่าเป็นโรคน่ากลัวเหลือแสน

ผมวิ่งก้มตัวลงต่ำ หลบวิถีความหล่อซึ่งอาจพุ่งผ่านมาแบบไม่ทันตั้งตัว ลัดเลาะไปตามทางเดินอย่างชำนาญ หมายมั่นปั้นมือจะต้องจัดการคนหน้าหล่อจนชั่วร้ายนั้นให้ได้

ผลของการฝึกมาหลายปี เพิ่งส่งผลชัดเจนวันนี้เอง ผมวิ่งตามล่าไอ้คนหน้าหล่อตัวร้ายใกล้เข้าไปทุกที ด้วยความมาดมั่น จะจับมันมัดมือ เตะก้นเข้าหาเจ้าหน้าที่ของรัฐ รับเงินรางวัลก้อนโต แต่หมอนั่นเหมือนจะรู้ว่าใครกำลังตามล่ามันอยู่ ฝีเท้าของมันจึงรวดเร็วว่องไววิ่งลัดเลาะไปตามถนนซึ่มีงรถราขับไปมาอย่างน่าทึ่ง และหน้าด้าน กระโดดข้ามรถไปหลายคันก่อนเลี้ยวโค้งลับหายไปในซอยเล็ก ๆ

ผมเหนี่ยวไกปืนในจังหวะนั้นพอดี

เปรี้ยง !!!

ผนังตึกส่วนหนึ่งของปากซอยแตกกระเด็นเป็นเศษปูนกระจายปลิวว่อนลบเงาร่างไอ้คนหน้าหล่อนรกซึ่งหายลับไปในซอยเล็กซอยน้อยสับสนแบบโชคช่วย ให้ตายเถอะ ! มันหนีรอดไปได้อีกคนแล้ว

ผมพยายามระงับสติอารมณ์ลงอย่างเยือกเย็นเท่าที่จะเป็นไปได้ เก็บปืนลงในซองหนังข้างเอว โดยแน่ใจว่ามันจะอยู่ในตำแหน่งที่จะชักปืนคู่ใจออกมาอย่างรวดเร็ว แล้วกรอกกระสุนลงไปในปากไอ้พวกตัวหน้าหล่อเชื้อโรคร้ายสักคน อย่างเลือดเย็นและแน่ใจ

ไม่ต้องทายก็ทราบว่า ผู้คนในเมืองตอนนี้หลบอยู่ในบ้านของตนเอง ไม่มีใครสนอหน้ามาตอแยเรื่องยุ่งยากเด็ดขาด การปรากฏตัวของบุรุษหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาคือความหายนะมหันตภัยของเมืองนี้ และแน่นอนผมจะจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย

บ้านเรือนสองฟากดูเก่าแก่และเงียบกริบ แต่ผมรู้ว่าไอ้นรกหน้าหล่อมันจะต้องแอบอยู่ในบ้านหลังใดหลังหนึ่ง ไอ้คนที่ไม่รับผิดชอบต่อสังคมคนนั้นจะต้องถูกตามล่าตามล้าง และโยนศพมันลงนรกแบบไม่ต้องเห็นใจ การเกิดมาหล่อแบบไม่เสียภาษีของมันทำให้สมดุลของความเป็นคนไม่เท่าเทียมกัน เป็นการเอาเปรียบกันชัด ๆ

ลมพัดแรง ไม่ว่าใครคิดจะยิงใครสักคนตอนนี้มันคงไม่แม่นยำเท่าไรหรอก

ผมยืนอยู่กลางถนน ถนนซึ่งเงียบกริบ บ้านเรือนริมทางเก็เงียบกริบจนเย็นยะเยียบ สายลมพัดเศษขยะปลิวไปทั่วถนนโรยรายปรายโปรย หมาผอมโซจนเห็นซี่โครงหุ้มกระดูกสองสามตัวเดินด้อมๆมองๆตามถังขยะอย่างอ่อนล้าแต่มีความหวังว่าจะไปเศษเนื้อจวนเน่าสักชิ้น
ถนนหนทางสกปรกแบบขาดการดูแลเอาใจใส่ และแน่นอนว่าไม่มีใครเสนอหน้ามาเก็บกวาดดูแล ในภวะวิกฤติตึงเครียดเช่นนี้ ท้องฟ้ากล่นเกลื่อนไปด้วยหมู่เมฆใหญ่น้อยมากมายหลายหลากรูปทรง อากาศค่อนข้างร้อนอบอ้าว แน่ใจเลยว่าอีกไม่นานฝนจะเทลงมาแบบฟ้ารั่ว

ลมพัดแรงเหลือเกิน จนผมไม่ได้ยินเสียงปืน กว่าจะได้ยินรั้วบ้านใกล้ๆทางซ่ายมือห่างออกไปไม่ถุงฟุตก็แตกกระจายด้วยแรงระเบิดของกระสุนพุ่งกระทบจากผู้ไม่หวังดีแต่หวังชีวิตของผม เศษไม้กระเด็นเวียนว่อนกระจัดกระจายขึ้นไปในอากาศราวผีเสื้อเริงร่าลีลาระบำ ก่อนทยอยร่วงหล่นลงพื้นอย่างไร้รสนิยม


แรงลมทำให้ลืมตาไม่ถนัดนัก แต่ก็พอรู้ว่าเป้าหมายอยู่ตำแหน่งใด และผมก็ใจเย็นพอจะเดินตรงไปอย่างช้าๆแบบเลือดเย็นทั้งที่ใจเต้นไม่เป็นส่ำ แม้ว่าจะรู้ว่าตอนนี้ศูนย์ปืนฝ่ายตรงข้ามอาจกำลังเล็งเป้ามาบริเวณศีรษะหรือไม่ก็หัวใจของผม แต่ปัญหาไม่ได้อยู่ที่นี่ ปัญหาอยู่ที่นิ้วของเจ้าของปืนผู้โชคร้ายต่างหาก หากนั่นไม่ใช่มือสังหารอาชีพ คนที่ไม่ใช่นักฆ่ามักจะลังเลลำบากใจพอสมควรสำหรับการตัดสินใจเหนี่ยวไกตัดสินชีวิตใครบางคน แน่นอนว่าผมอ่านออกเข้าใจถึงปัญหาข้อนี้อย่างทะลุปรุโปร่ง

ถนนเต็มไปด้วยฝุ่นสีน้ำตาล และมันกระจายฝุ่นอันน่ารังเกียจขึ้นมาทุกฝีก้าว

“เอาล่ะ”

ผมส่งเสียงทักทายคนซึ่งหลบอยู่ในบ้าน ด้วยท่าทีปกติดูแล้วผ่อนคลาย ปืนในมือชี้ลงพื้นอันเต็มไปด้วยฝุ่นและความร้อนอันไม่พึง ปรารถนาแบบไม่ระแวดระวัง

“โผล่หน้าหล่อๆ แกออกมาซิ ก่อนฉันจะระเบิดหัวแก”

ผมหมายความตามนั้นจริงๆ เงินค่าหัวมันมีอำนาจมากพอจะทำให้ลืมนึกถึงที่มาที่ไปและเหตุผลอะไรบางอย่าง หรือหลายๆอย่าง และก็ไม่ต้องรอนานมากนัก เมื่อปืนสั้นกระบอกหนึ่งถูกโยนออกมาจากหน้าต่าง และสุดท้ายประตูบ้านก็เปิดออกพร้อมกับไอ้ตัวแสบเดินออกมา

มันหล่ออย่างที่คิดไว้จริง ๆ

พระเจ้า ! มันหน้าตาหล่อขนาดนี้ยังมีหน้าออกไปเดินลอยชายในเมืองแบบหน้าด้านและเลือดเย็นเหลือแสน ทั้งที่รู้ว่ากำลังเกิดโรคระบาดครั้งรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์โลก เข่นฆ่าสตรีเพศทั้งทางตรงและทางอ้อมนับไม่ถ้วน

“บ้านแกเหรอ”

ผมถามอย่างไม่สนใจในคำพูดของตัวเองสักเท่าไรนัก คู่กรณีส่ายหน้าอันหล่อเหลาของมัน ให้ตายเถอะ ไอ้พวกเกิดมาหล่อทำไมธรรมชาติช่างช่วยเหลือเกื้อกูลดีเหลือเกิน มันเป็นเรื่องไม่ถูกต้องและไม่ยุติธรมเลยสักนิด

สายตาของมันก็ดูเต็มไปด้วยแววอ้อนวอนขอร้อง น้ำเสียงก็เต็มไปด้วยความขอความเห็นใจ

“ปล่อยผมไปเถอะครับ ผิดด้วยเหรอที่ผมเกิดมาหล่อ”

“ผิดซิวะ”

ผมตะโกนสวนกลับในทันที

“ทะลึ่งเกิดมาหล่อกินเหตุ ทำให้โรคร้ายแผ่สาขาแพร่พันธุ์แห่งความชั่วร้ายกระจายไปทุกทีจนอารยธรรมของมนุษย์จะล่มสลาย นายมีสิทธิ์อะไรที่ใช้ความหล่อมาทำลายสังคมมนุษยชาติแบบนี้”

“คนเราเลือกเกิดไม่ได้ครับ” มนุษย์หล่อเกินกว่าเหตุพยายามชี้แจงอย่างน่าสงสาร

“ใช่ แกเลือกเกิดไม่ได้ แต่ฉันเลือกยิงกะบาลแกได้ “

“งั้นก็ยิงสิครับ ผมจะได้หยุดหล่อเสียที” น้ำเสียงของมันบ่งบอกความสิ้นหวัง

“ได้เลย...........”

ผมคำราม แต่นิ้วยังไม่ทันเหนี่ยวไกปืน และแทบจะแน่ใจว่าไม่คิดจะเหนี่ยวไกด้วยซ้ำ กลางหน้าผากที่แสนหล่อนั้นก็ปรากฏรูโบ๋ก่อนจะระเบิดเปรี้ยงส่งชิ้นส่วนของสมองกระจัดกระจายไปรอบข้าง ลูกตาของเหยื่อกระสุนกระเด็นเฉียดใบหน้าผมไปเพียงนิดเดียว เศษสีเทาของสมองกระเด็นเซ็นซ่าน ร่างค่อยๆ ล้มครืนลงด้านหลังเหมือนต้นไม้ถูกโค่นลงคลุกฝุ่นคลุกเลือดกลางถนนอันเต็มไปด้วยฝุ่นละออง

ผู้หญิงผมยาวสวยแต่เหมือนไม่เคยเจอยาสระผมคนหนึ่งในชุดกางเกงยีนเสื้อยืดแขนกุดสีเทา คร่อมมอเตอร์ไซด์ดำมะเมื่อมไม่น่าจะต่ำกว่า 250 ซีซี พร้อมจะกระโจนทะยานโลดลิ่วได้ทุกเมื่อ มือขวาถือปืนพกซึ่งปลายกระบอกยังมีควันลอยกรุ่น ไม่รู้ว่าเธอมาตั้งแต่ตอนไหน เมื่อไร แต่ที่แน่ๆ เธอเป็นคนส่งกระสุนมรณะนัดนั้นเข้าเป้าราวจับวาง

ผมอ้าปากค้าง มองใบหน้าสวยอย่างเซื่องซึมโง่งม

“อย่าคิดทะลึ่ง”

เธอเอ่ยเสียงเฉียบ สั้นและห้วนเด็ดขาด ไม่มีแววละมุนหูแม้แต่น้อย

“ฉันตามล่ามันมานานแล้ว เพิ่งจัดการมันได้ที่นี่เอง”

ผมเงียบเฉย หากหรี่ตามองดูร่างเพรียวก้าวจากมอเตอร์ไซด์ตรงมาอย่างช้าๆ อย่างสนอกและสนใจ ความจริงผมสนอกสวยๆ ของเอมากกว่าสนใจเสียด้วยซ้ำ ท่าทางเดินของเธอดูไม่ค่อยเป็นปกตินัก เหมือนขาข้างใดข้างหนึ่งทำงานไม่ปกติ แต่ถ้าสังเกตให้ดีก็พอจะรู้ว่าเธอพร้อมจะตวัดปลายปืนและเหนี่ยวไกใส่ผมได้ในเวลาไม่เกินเสี้ยววิบกระพริบตา

ผู้หญิงแบบนี้ล่ะน่ากลัวที่สุด ดุ เข้ม พูดน้อยแบบเย็นชาไร้น้ำใจ แต่ผมก็อดห่วงเธอไม่ได้เมื่อเห็นเธอลงมาจากรถด้อมๆมองๆศพหน้าหล่อคนนั้นแบบไม่ระวังตัว

“อย่าหันไปมองนะครับ”

ผมเอ่ยเตือนเสียงเรียบๆ เพราะไม่อยากให้เธอรู้สึกว่าเป็นการออกคำสั่ง ผู้หญิงบางคนจะมีปฏิกิริยากับเรื่องนี้โดยไร้เหตุผลเท่าที่ควร เขาว่าผู้หญิงบางทีก็เหมือนแมว พอเราดึงหางจะดันไปข้างหน้า พอเราดึงหัวจะถอยไปด้านหลัง ดื้อชะมัด

“อย่าเพิ่งไว้ใจ มันตายแล้วก็จริง แต่ผมไม่แน่ใจว่าความหล่อของมันจะหลงเหลือและระเหยเป็นพิษหรือเปล่า”
“
แม่เสือปืนโหดหันมามอง ยักไหล่แบบไม่สนใจอะไรมากมายก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า

“ไว้ใจได้ ไม่ต้องห่วง คุณน่าจะแปลกใจนะว่าตอนฉันยิงเจ้าหมอนี่ ทำไมฉันยังมองหน้าหล่อมันได้ลงคอ”

ท่าทางของเธอดูมั่นใจเป็นพิเศษ ว่าจะไม่หวั่นไหวต่อโรคแพ้ความหล่อ มันก็น่าแปลกอยู่นะครับว่าในโลกนี้ยังจะมีคนไม่กลัวความหล่อแต่คำพูดต่อไปของเธอทำให้ผมเข้าใจ

“ฉันฉีดวัคซีนต่อต้านความหล่อไว้แล้ว ต่อให้หล่อปางตายขนาดไหน ก็ทำอะไรฉันไม่ได้หรอก”

“วัคซีนต่อต้านความหล่อ!”

ผมร้องเสียงหลง นึกไม่ถึงว่าวัคซีนชนิดนี้จะถูกค้นพบและสามารถนำมาใช้ได้แล้ว ถ้าอย่างนั้นความหวังของมนุษยชาติก็ยังคงไม่มืดมนอนทการเสียเลยทีเดียว

“มันราคาแพงมาก “เธออธิบายด้วยสีหน้าเย็นชาเช่นเดิม “และจะมีใช้เฉพาะหน่วยงานของพวกเราเท่านั้น คนธรรมดายังไม่มีสิทธิ์ใช้วัคซีนชนิดนี้”

หญิงสาวนักล่ามนุษย์หล่อ เดินตรงไปยังร่างไร้วิญญาณของมนุษย์หล่อ ตรวจตราไปมาเงียบๆครู่หนึ่ง สังเกตว่าคนหล่อไม่ว่าจะอยู่ในอริยาบทใดก็ยังดูหล่อเท่ดีจนน่าเหยียบ ขนาดหมอนี่โดนยิงหน้าแหก แต่ตัวมันยังมีความหล่อหลงเหลือ ลำตัว แขน ขา มันยังมีรังสีแห่งความหล่อแผ่ซ่านจางๆ ในอณูอากาศแบบไร้สภาพจนน่าเป็นห่วงว่าพวกผู้หญิงอาจสำลักความหล่อตายเอาง่ายๆ

“คุณจะทำอะไร” ผมถามอย่างสงสัยเมื่อเห็นเธอปักเข็มฉีดยาลงเส้นเลือดใหญ่บริเวณลำคอของมนุษย์หล่อคนนั้น แล้วค่อยๆดูดเลือดขึ้นมาอย่างช้าๆและใจเย็นสุดแสน

“เอาเลือดหมอนี่ไปทำเซรุ่มรักษาโรคแพ้ความหล่อ”

“ให้ตายเถอะ มันจะไปกันใหญ่แล้ว” ผมร้องเสียงหลงอบ่างไม่เชื่อหุตัวเอง

“เรื่องที่ร้ายกว่านี้ยังไม่ตามมา ถึงตอนนั้นคุณจะรู้ว่าเรื่องแค่นี้กระจอกมาก”

เธอว่าขณะจัดเก็บเลือดมนุษย์หล่อไว้ในกระเป๋าถือเล็กๆ ใช้เข็มกลัดซึ่งมีเครื่องหมายอะไรสักอย่างกลัดเข้าไปตรงลำคอของร่างไร้วิญญาณนั้น

“ชายคนนั้นเป็นของฉัน เพราะฉันเป็นคนยิงเขา ฉะนั้นเงินรางวัลค่าหัวจึงเป็นของฉัน” เธอหันมาบอกหน้าตาเฉย ผมสะดุ้งแล้วร้องเสียงดังอย่างงุนงงกึ่งไม่พอใจว่า

“อะไรนะ...คุณจะบ้าเหรอ ผมเป็นคนพบเขาก่อนคุณนะ”

“แต่ฉันเป็นคนยิงเ.ไม่ต้องพูดมาก หล่อก็ไม่หล่อยังจะมาพูดมาก”

ท่าทางสาวนักล่ามนุษย์หล่อเฉียบขาดและดูเย็นชาจนไร้น้ำใจ ที่จริงชายคนนี้จะต้องเป็นผมจัดการไม่ใช่หล่อน ซึ่งเหมือนเสียมรรยาทยื่นมือเข้ามาสอดแทรก

“ว่าไงจะเอายังไง”

เธอยิ้มหมิ่นๆพลางเอียงคอถาม มือควงปืนเล่นอย่างปราศจากความหมาย แต่ภายใต้ท่าทางเรียบเฉยนั้นคือความเอาจริงเอาจังอยู่อย่างซ่อนเร้นจริงจัง และผู้หญิงแบบนี้ควรจะอยู่ให้ห่างที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

“ตามใจคุณเถอะ อยากได้ค่าหัวก็เอาไป”

ผมบอกอย่างตัดใจก่อนมองหน้าหล่อนอย่างขุ่นเคือง แต่แล้วจู่ๆ ผมก็รู้สึกหน้ามืด ลมในช่องท้องตีสว้านขึ้นมาตามลำคอ พื้นดินหมุนคว้างจนทำให้เข่าอ่อนทรุดลงไปกับพื้นเหมือนคนโดนยาพิษร้ายแรงแบบไม่ทันระวังตัว


จบบทที่ 1




Create Date : 12 มีนาคม 2553
Last Update : 13 มีนาคม 2553 0:44:44 น. 4 comments
Counter : 1093 Pageviews.  

 
ถ้ามียาต้านความหล่อจริง ๆ
พวกดาราคงวิ่งหนีกันไกลเลยแหละ..!



โดย: ธารน้อย วันที่: 12 มีนาคม 2553 เวลา:23:30:00 น.  

 
"หล่อก็ไม่หล่อยังจะมาพูดมาก"
เอิ๊กๆๆ ถูกใจจริงๆ


โดย: มนต้นไม้ (Setakan ) วันที่: 13 มีนาคม 2553 เวลา:13:02:55 น.  

 
เกิดมาไม่หล่อ แต่เร้าใจก็พอครับผม


โดย: ปลายแป้นพิมพ์ วันที่: 18 มีนาคม 2553 เวลา:14:19:54 น.  

 
ง่วงแล้วคืนนี้ พรุ่งนี้มาต่อตอนสองน๊าค๊า


โดย: มาโซคิส วันที่: 28 ตุลาคม 2555 เวลา:22:35:07 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Psycho man
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




[Add Psycho man's blog to your web]