<<
กุมภาพันธ์ 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28 
22 กุมภาพันธ์ 2553

ความสยองขวัญในความนับถือและน้ำใจไมตรี

ความสยองขวัญในความนับถือและน้ำใจไมตรี

บ้านนอกของผมเป็นชนบทบรรยากาศวิวทิวทัศน์งดงามตามธรรมชาติ ผู้คนละแวกบ้านใกล้เคียงส่วนมากประกอบอาชีพทำไร่ทำนา ดูเผินๆไม่ได้ร่ำรวยอะไรมากมาย แต่ความจริงแล้วพวกเขาอยู่ได้อย่างสุขสบายไม่เคยขาดแคลนเงินทอง ตรงข้ามกลับสะสมฝากธนาคารไว้มากกว่าหลายคนคิด เนื่องจากพวกเขาไม่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยมากมาย ขายข้าวปีหนึ่งก็มีรายได้เป็นกอบเป็นกำ อาหารการกินก็อยู่ตามไร่นาเทือกสวนนั่นเอง ไม่ต้องมีเจ้านาย ไม่ต้องลงเวลาทำงาน อยู่กับธรรมชาติ

ทุกครั้งที่ผมกลับไปเยี่ยมบ้านนอก น้องๆ แถบแถวบ้านจะแวะเวียนมาเยี่ยมเยียนเป็นประจำ และมักมีอาหารพื้นเมืองติดไม้ติดมือมาด้วย ทุกคนมีฝีมือทำอาหารในระดับร้านอาหารหลายร้านในเมืองกรุงต้องอาย ไม่ว่าจะเป็น ไก่กลั่น ลาบปลา ผัดหนูนา ย่างเนื้อ หมกกบ ลาบเป็ด ไก่อบ สารพัด พวกเขามีวิธีปรุงอันพิเศษสุดแต่ละคนแต่ละแบบชนิดหากินไม่ได้ในเมืองกรุง

อาหารแพงๆพวกเขาไม่คุ้นเคยไม่ถนัด เครื่องดื่มยอดฮิตถนัดที่สุดคือเหล้าขาว 40 ดีกรี กินกันเร็วไม่ยืดเยื้อ ไม่เกินหนึ่งทุ่มกลับบ้านนอนเอาแรงรับงานวันต่อไป ในเมืองกรุงสองทุ่มผู้คนมากมายยังกลับไม่ถึงบ้าน แต่แถวบ้านนอกของผมแทบทุกบ้านปิดไฟเข้านอนกันเรียบร้อย บรรยากาศเงียบสงบ นานๆ จะได้ยินเสียงรถวิ่งผ่านหน้าบ้าน

ช่วงเย็นของวันอันไม่เคยลืมเลือน ผมกับบรรดาน้องๆ ทั้งผู้หญิงผู้ชายนั่งล้อมวงคุยกันอย่างสนุกสนานหน้าบ้านอันร่มรื่นด้วยร่มไม้และสายลมเย็น พวกน้องแถวบ้านนำกับข้าวกับแกล้มมากินด้วยกัน ส่วนผมผู้เป็นประธานที่ประชุมมีหน้าที่บริการเครื่องดื่ม ซึ่งก็ได้แก่เหล้าขาว 40 ดีกรีนั่นเอง ผมสามารถปรับตัวเข้ากับอาหารการกินของน้องๆได้อย่างสบายไร้ปัญหาเพราะผมเองก็เป็นคนบ้านนอกเช่นกัน เพียงแต่มาทำงานในเมืองกรุงเท่านั้น อะไรที่พวกเขากินกันผมก็กินได้ การทำตัวเรียบง่ายติดดินของผมทำให้ได้รับความนับถือรักใคร่จากบรรดาน้องๆทั้งหลายโดยไม่ต้องหาเสียง ฮา
ขณะกำลังได้ที่น้องสาวคนหนึ่งก็เดินถือหม้อต้มอาหารหอมกรุ่นมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส่

“พี่...ลองอาหารนี่ดู สุดยอด ทำมาเป็นพิเศษ”

ทุกคนหันไปมองเป็นตาเดียว เพราะกับแกล้มเริ่มลดหมดลงแล้ว การได้อาหารมาเพิ่มแบบไม่คาดคิดแบบนี้ลาบปากชัดๆ น้องคนนั้นวางหม้อต้มลงกลางวง บรรจงเปิดผาหม้ออย่างช้า ๆ ราวกับจะกระตุ้นความอยากกินของพวกเราทั้งหลาย กลิ่นผักพื้นเมืองและเครื่องปรุงส่งกลิ่นหอมน่ากินเหลือเกินแสดงถึงความพิถีพิถันของการปรุง

“โอ....มันยอดมาก....หากินยากด้วย”

พวกน้องๆพากันร้องอย่างตื่นเต้นดีใจเมื่อเห็นอาหารในหม้อต้มหอมกรุ่น หลายคนตาเป็นประกายอย่างยินดีในการจะได้ลิ้มรสอาหารจานเด็ดวิเศษสุด ผมมองลงไปในหม้ออย่างอยากรู้เหมือนกันว่าจะเป็นต้มปลาหรือต้มไก่กันแน่

แต่สิ่งที่ผมเห็นคือลำตัวดำเป็นมันยาวเหยียดขดเป็นวงผสมกับผักสารพัด
มันคืองูสิง ถูกหั่นเป็นท่อนๆ ยาวๆ โดยไม่มีการถลกหรือว่าลอกหนึ่งออกเลยสักนิด มันจึงดูเหมือนงูเป็นๆนี่เองเพียงแต่ไม่เคลื่อนไหวเท่านั้น!

ในชาตินี้ผมเคยกินงูอยู่ 2 ครั้ง ครั้งแรกเป็นงูสิงย่างไฟ แต่นั่นเขาลอกหนังออกแล้ว จึงไม่ได้ดูน่ากลัวเหมือนแบบนี้ กลิ่นงูสิงย่างไฟคล้ายๆกับกลิ่นไก่ย่าง ทำให้ผมกินได้อย่างไม่ค่อยสยองปากมากนัก ครั้งที่สองเป็นต้มงูเห่า แต่นั่นก็ผ่านการย่างไฟให้สุกมาก่อน ลอกหนังแล้วจึงนำมาต้มกับผักและเครื่องปรุง จึงไม่สยองปากมากนัก เหมือนกัน (แต่ก็มีเพื่อนผมคนหนึ่งไม่เคยกินงูมาก่อนอยากลองของและพิสูจน์ตัวเองว่ากินไป กินเข้าไปคำแรกก็วิ่งออกไปอ้วกนอกวง)

แต่ครั้งนี้เป็นงูสิงที่ไม่ผ่านการย่างไฟลอกหนังมาเลย แล้วผมเป็นคนกลัวงูขึ้นสมองที่สุดคนหนึ่งอยู่แล้วได้แต่ปากอ้าตาค้างอย่างตื่นตะลึง ไม่มีใครสนใจอาการของผมเพราะต่างพากันแย่งตักงูสิงต้มไปคนละสองสามชิ้นอย่างดีใจ สำหรับพวกเขาแล้วเป็นอาหารหายาก ผมภาวนาให้มีนหมดหม้อ อย่าตกมาถึงจานผมเลย

งูหมดหม้อก่อนที่ผมจะขยับตัว ผมลอบถอนใจอย่างโล่งอก

แต่แล้วเหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัด น้องซึ่งนั่งขวามือของผม สังเกตว่าผมยังไม่ได้รับส่วนแบ่งที่เป็นธรรม ใช้ช้อนควานลงไปท่ามกลางกองผักแล้วตักงูที่เหลือขึ้นมาได้ชิ้นใหญ่ชิ้นหนึ่ง เป็นท่อนหางของมันพอดี เรียวหางเล็กเรียวลงไปชวนให้น่าสยดสยองขนลุกขนพองเหลือเกิน

“เหลือชิ้นสุดท้ายพอดี ท่อนพิเศษด้วย อร่อยมากที่สุกหางมันกรุบๆกรับๆดีจะตาย เอาไปเลยพี่”
พูดพลางน้องคนนั้นก็วางหางงูสิงซึ่งผมประหวั่นพรั่นพรึงลงในจานของผมด้วยสีหน้าท่าทางเหมือนเด็กมอบสิ่งของแสนห่วงให้กับผู้ใหญ่ที่ตนนับถือ แล้วหันไปมองเพื่อนๆ อย่างภาคภูมิใจ

คงไม่มีใครบรรยายความรู้สึกของผมตอนนั้นได้ แม้แต่ตัวผมเอง ทั้งเข้าใจความรู้สึกของพวกน้องๆ ทั้งขยะแขยงขนลุกกับหางงูซึ่งอยู่ในจาน ผมรู้ว่าถ้าปฏิเสธน้องๆคงเสียใจผิดหวังแน่นอนกับเมนูเด็ดที่ทำมาให้พวกเราได้ลิ้มรสกันโดยเฉพาะ และชื่อเสียงอันงดงามลุยแหลกทุกอย่างของผมอาจล่มสลายไปด้วย ความรู้สึกเหมือนเวลาหยุดค้างเนิ่นนานเหลือเกินกับสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออกสุดแสน

มองไปรอบวงเห็นบรรดาน้องๆ ทั้งหลายหยิบชิ้นงูขึ้นแทะอย่างอร่อยไม่ลืมหูลืมตา เอาล่ะวะ..ตายเป็นตาย ผมกลั้นใจหลับหูหลับตาหยิบหางงูสิงอันน่าสยดสยองขยะแขยงกินแบบรวดเร็วสุดชีวิต พยายามไม่นึกถึงภาพงูลำตัวยาวเหยียดบิดเป็นเกลียวอันชวนขนลุกขนพอง มันเป็นช่วงทรมานใจและกายที่สุดในชีวิตครั้งหนึ่งหลายครั้งเกือบจะอ้วกออกมา รสของมันแหยงๆลื่นๆเมือกๆคาวๆ บอกไม่ถูก แต่รู้ว่าผมกำลังเดินอยู่บนเส้นทางแห่งความผิดหวังของน้องๆและความสยดสยองจิตของตนเอง เมื่อผมกัดชิ้นงูหางตายังรู้สึกว่าหางเรียวยาวของมันส่ายไหวไปมาเหมือนมีชีวิต ลองนึกภาพคนกัดชิ้นงูแล้วมีหางของมันส่ายด๊อกแด๊กอยู่ในปากสิครับ ว่าน่าชมขนาดไหน
ในที่สุดผมก็จัดการมันหมดเรียบร้อยในห้วงเวลาเหมือนชั่วกัปชั่วกัลป์ ใช่...เราต้องไม่หนีปัญหา ลุยให้ผ่านไปเลย นึกพลางถอนใจอย่างโล่งอกทั้งที่ท้องไส้ปั่นป่วนไปหมด

น้องคนนั่งด้านขวาของผมหันมามองแล้วพูดทั้งที่ยังคาบงูคาปากว่า
“โห..พี่ ท่าทางจะอร่อยมากนะ สงสัยไม่เคยกินอาหารเด็ดๆแบบนี้มาก่อน เอ้า... ไม่เป็นไร ผมตัดใจยกให้พี่อีกชิ้น”
ว่าพลางตัดงูซึ่งเหลือในจานของเขาอีกท่อนมาวางในจานผมแบบหวังดีมีน้ำใจสุดแสน ก่อนหันไปมองรอบวงอย่างภาคภูมิใจที่ได้ทำการเสียสละให้ลูกพี่ ผมรู้สึกเหมือนฟ้าผ่าลงมากลางความรู้สึก โลกทั้งโลกมืดมนหนึกอึ้งขึ้นมาอีกครั้ง มันเป็นเรื่องตลกร้ายซึ่งหัวเราะก็ไม่ได้ร้องไห้ก็ไม่ออก อะไรมันจะมาตอกย้ำซ้ำเติมกันแบบนี้ เพิ่งกัดฟันตัดใจรีบกินให้จบๆเรื่อง ยังมาหาว่าเราอร่อยอีก

เคราะห์กรรมยังไม่มีที่สิ้นสุด น้องซึ่งนั่งทางซ้ายมือของผมมองค้อนน้องฝั่งขวามืออย่างไม่พอใจที่เสนอหน้าประจบเอาความดีความชอบอยู่คนเดียว เลยตะงูที่เหลืออีกท่อนจากจานของเขามาวางลงในจานของผมบ้างเพื่อเป็นการแสดงน้ำใจอันดีงาม

“ผมก็ให้พี่ได้เหมือนกัน “
ว่าพลางมองหน้าน้องทางขวามืออย่างผู้ไม่ยอมแพ้ และมีสีหน้าพอออกพอใจในการได้แสดงน้ำใจเช่นกัน
พวกแกไม่ต้องมาแสดงความนับถือกรูแบบนี้ก็ได้ งือๆๆๆ....ผมคร่ำครวญปริเวทนาการในใจอย่างน่าสงสารและน่าสมเพชเวทนา สุดท้ายเลยกลายเป็นว่าผมต้องกินงูสิงต้มคนเดียว 3 ชิ้น มากกว่าใครทั้งหมด โดยมีน้องๆจ้องหน้ามองอย่างพอใจดีใจเมื่อผมชอบเมนูจานเด็ดมหาสยองขนลุกขนพองนั้น นี่ผมคงทำเวรทำกรรมไว้ตั้งแต่ชาติปางไหนก็ไม่รู้ถึงได้มาตกระกำลำบากใจกินงูซึ่งปกติแค่เห็นตัวผมก็แทบเผ่นหนีแล้ว แต่มีต้องมากินงูโชว์

ผมฝันร้ายเห็นงูเลื้อยเพ่นพ่านตลอดคืนอยู่หลายคืนหลังจากนั้น




Create Date : 22 กุมภาพันธ์ 2553
Last Update : 22 กุมภาพันธ์ 2553 12:33:49 น. 14 comments
Counter : 818 Pageviews.  

 


โดย: หาแฟนตัวเป็นเกลียว วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:12:50:58 น.  

 
... บรรยายได้เห็นภาพมากเลยค่ะ

... อ่านแล้วหยึยๆ อะ ... ถ้าหักตอนจบบรรยายประมาณว่าจริงๆ แล้วน้องๆ ก็มีความคิดเดียวกันกับตัวหลักของเรื่องนะ อาจจะเรียกความฮาได้เลยนะเนี่ย

... อารมณ์ประมาณว่าที่กินก็เพราะเกรงใจ พอเห็นตัวหลักกินได้เลยโบ้ยให้กินอีกหลายชิ้น คิดแล้วก็สยองปาก ลำคอตีืบตันขึ้นมายังไงไม่รู้


โดย: SIMAKHA วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:15:33:04 น.  

 
รวมด้วยช่วยแกล้ง เอ้ย.. ช่วยอ่านนักเขียนใหญ่ค่ะ อิๆ

พลางตัดงู แหะๆ น่าจะตักนะคะพี่ชาย เอิ๊กๆ 555+

อีกคำค่ะ เลยตะงูที่เหลือ สองดอกเองค่ะวันนี้

ด้วความเคารพอย่างสุดใจ หุๆ



"ปริเวทนาการ" โห ..ใช้ศัพท์แสงซ้า... แปลว่าอะไรค่ะพี่ ไม่รู้จริงๆ งุงิ

ปล.บรรยายเห็นภาพจนคนเกลียดงูเหมือนกันขนลุกตามเลยค่ะ กรึ๋ยยย


โดย: ด้วยความเลิฟ (Setakan ) วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:17:27:05 น.  

 
เอื้อก..พี่ขอซดน้ำแกงซักช้อนสองช้อนจะได้ไหม อันที่จริงก็อยากกินหางมันเหมือนกัน ตอนกัด ปลายมันคงกระดื้บอยู่ที่หางตา นึกไปถึงหางหมูแสนอร่อย โอ้..ใจดำ กินคนเดียวตั้ง 3 ชิ้น ไม่แบ่งให้พี่เลย 555

สำนวนการเขียน เพิ่งอ่านเป็นเรื่องแรก เดี๋ยวที่เหลือพรุ่งนี้ค่อยตามไปเก็บตก

ดีทีเดียว ลื่นไหล แสดงว่าตัวจริงต้องไหลลื่น (กับผู้หญิง) เป็นธรรมชาติดี เป็นนักเขียนได้สบาย ชอบที่เป็นคนบ้านนอกเหมือนพี่

ดูจากหน้าตาของบล็อก น้องคงเพิ่งเข้าวงการไม่นาน ก็เหมือนกับบล็อกเก่าๆของพี่ที่เริ่มเข้ามาเล่น ทุลักทุเลน่าดู จนบัดนี้ ก็ยังงงๆอยู่เหมือนกัน ไม่เชื่อ..เข้าไปอ่านตอน 99 วันฯ ได้เลย ไม่เคยเรียนรู้เรื่องคอมมาก่อนเลยจริงๆ ยอมรับว่าตัวเอง เซ่อมากๆ

พี่ก็เขียนไปเรื่อยเปื่อย อย่าเศร้าไปเลยน้องเอ๋ย เรื่องมันผ่านไปตั้งหลายปีแล้ว คิดว่าเป็นความบันเทิงอย่างหนึ่ง แต่ขอให้ติดตามกันไปเรื่อยๆ มีอะไรจะสอบถาม ก็ถามมาได้ ยินดีตอบเท่าที่รู้


โดย: ปลายแป้นพิมพ์ วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:22:20:51 น.  

 
สีมือยังไม่ตกนะครับจารย์จี

ถ้าเป็นผมคงต้องยอมเสียเหลี่ยมแน่ครับ สมัยก่อนนี้อาหารพิเศษอะไรก็ตามถ้าไม่เห็นรูปลักษณ์ของมันผมก็กินได้ทั้งนั้น

แต่ถ้าส่งมาเป็นตัว ๆ ผมก็ทำเป็นไม่เห็นซะงั้น งูนี่ผมเคยกินครั้งเดียว เป็นงูหยองครับ กรอบเค็มแกล้มเบียร์ดีชะมัดเลยครับ

แล้วทำยังไงบล็อกมันถึงได้ดูใหม่เอี่ยมอย่างนี้ล่ะครับ.


โดย: เจียวต้าย วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:8:23:57 น.  

 
กิ๋วๆ กลายเป็นใหม่ไปแล้วพี่ชายเรา ฮี่ๆๆๆ ค่ะ

สวัสดีคุณเจียวต้ายด้วย


โดย: น้องเลิฟ (Setakan ) วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:8:47:30 น.  

 
สวัสดีเช้าวันสีชมพูจ้ะ....


โดย: Opey IP: 216.105.230.231 วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:10:27:29 น.  

 
ตื่นเช้าเหมือนกันนะครับ..

ห้วงเวลาขณะนั้น ผมออกกำลังกายโดยการวิ่งเหยาะๆรอบบึงในสวนสุขภาพ

วันนี้ผมตามมาเก็บตกงานที่ยังไม่อ่านจนเกลี้ยง ยังมีน้อยๆอยู่ตามทันได้สบายมากครับ (เรื่องน้อย คุณภาพคับแก้วครับท่าน)

แล้วก็ "ทึ่ง" นะ ในฝีมือการเขียน ตอนท้ายๆของแต่ละเรื่อง น่าจะมีคำนี้นะครับ "...ตีพิมพ์ครั้งแรก..ที่นิตยสาร..."

ไม่ทราบว่าเป็นครูบาอาจารย์หรือเปล่า ถ้าเป็น..ขอคารวะครับ

ผมเคยมีประสบการณ์ในการเฝ้าแม่ที่ปวยเป็นโรคไต ทั้งในโรงพยาบาลของรัฐและเอกชน ผู้คนเตียงรอบข้าง ต่างมีน้ำใจไม่แตกต่างกัน เหมือนที่คุณเขียนเล่าไว้

แต่นั่นเป็นโรงพยาบาลชนบท ถ้าเป็นในเมือง ผมไม่รู้เหมือนกันว่ามันจะเป็นเช่นไร


โดย: ปลายแป้นพิมพ์ วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:11:57:17 น.  

 
คุณ: หาแฟนตัวเป็นเกลียว :
เอ่อ......
ต่อไปคงไม่กล้าหม่ำอีกแล้วครับ ทุกวันนี้แค่คิดก็สยองปากแล้ว แฮ่ะๆ

-----------

คุณ : SIMAKHA :
ตอนนั้นอยู่ในสภาวะต้องกลืนให้เข้า ห้ามคายออก
เพราะเห็นความตั้งใจของคนทำ
แม้จะรู้สึกหยะๆก็ต้องกัดฟันครับ
รักษาน้ำใจ ^__^.

--------------

คุณ: ด้วยความเลิฟ (Setakan :
ปริเวทนาการ แปลว่าอะไรไม่ค่อยรู้หรอกครัย
รู้แต่ว่าพอใช้คำนี้ แล้วมันเท่ดี ฮี่ๆๆๆ
ขอบคุณสำหรับการทักท้วงและทักทายครับ


---------------

คุณ : ปลายแป้นพิมพ์ :
แฮ่ะๆๆ ตอนที่รู้สึกแย่ที่สุดก็คือการกล้ำกลืนชิ้นแรกจนหมดแล้ว
นึกว่าจะหมดปัญหาที่ไหนได้
มาอีกสองชิ้น เป็นเรื่องตลกร้ายมากเลย
เพราะปกติแค่เห็นงูเลื้อยอยู้บนพื้น
ก็เผ่นป่าราบแล้วครับ
ลอกหนังออกยังพอว่า แต่นี่เห็นจะๆในถ้วย
แถมตั้องกินมันลงไปอีก
เอือกกก......

----------------

คุณ : เจียวต้าย :
งูหยอง อืมม์ ก็น่าจะค่อยยังชั่วนะครับ ไม่ต้องสบตามัน
เป็นเนื้อหยองมาแล้ว
งูหม้อนั้นถ้าน้องเขาไม่นำมาวางครอบครัวเขาต้องกินกันไปหลายมื้อทีเดียว
บล็อตใหม่เอี่ยมเพราะทำอะไรไม่เป็นเลยครับ
รู้สึกมันซับซ้อนยังไงชอบกล
เลยปล่อยวาง แฮ่ะๆๆ

-------------

คุณ : น้องเลิฟ (Setakan )
: สวัสดีอีกครั้งครับพี่สาวที่น่ารัก(เดาเอา ฮา)
ว่าแต่พี่เถอะ เขียนนิยายไปถึงไหนแล้ว
ส่งให้อ่านบ้างนะครับ

--------------

คุณ : Opey :
สวัสดีตอนเช้าวัน..อังคาร....
ว่าแต่วันอังคารนี่มันสีอะไรกันหนอ....แฮ่ะๆ

---------------

คุณ : ปลายแป้นพิมพ์ :
ผมเถยลุกขึ้นมาออกกำลังกายโดยการวิ่งเหมือนกันครับ
แต่แถวบ้านไม่มีสวนสุขภาพ
ปรากฏว่าวันแรก บรรดาหมาทั้งหลายพากันเห่ากระโชกลั่นวุ่นวายไปทั้งซอย
เพราะไม่เคยเห็นใครวิ่งตอนเช้ามืดมาก่อน
เลบเลิกวิ่งก่อนที่จะมีคนโทรไปแจ้ง 191
ข้อหาก่อกวนความสงบสุขของชาวบ้าน
แฮ่ะๆ พักหลังเลยซิ้ออุปกรณ์ออกกำลังกายในบ้านมาใช้แทน

ผมคงเป็นนักเขียนกับเขาไม่ได้หรอกครับ
เพราะเวลาเขียนนิยายทีไร มักจะออกแนวหลุดโลก
จนไม่มีสำนักพิมพ์ไหนรับเลยครับ
จะมาเขียนแนวใสวัยหวานก็ไม่ไหว ขัดอิมเมจตัวเอง



ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาทักทายครับ
ด้วยรักและไมตรี
++++++


โดย: Psycho man วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:7:55:37 น.  

 
มาอ่านคะ
ชอบอ่านเรื่องผี ผี เหมือนกัน
แต่เป็นคนกลัวมี
ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมบล็อคนะคะ


โดย: ขอกลับไปโสด วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:9:35:37 น.  

 
ขอบคุณค่ะที่แวะไปชิมแกงอ่อมที่บล๊อก ว่าแต่ว่า..พูใด๋ล่ะหนิ..
อ่านบทความยาวมากเอาไว้มีเวลาจะกลับมาอ่านใหม่นะคะ


โดย: araya.m วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:14:03:27 น.  

 
โอ้..ออกวิ่งตอนเช้าๆ หมามันเห่า บรู้..วววว

อย่างนี้ได้บรรยากาศ เป็นผม ต้องเก็บไปจินตนาการเป็นเรื่องราว ได้ซัก 1 เรื่อง

ผมชอบออกวิ่งตอนเช้า ได้บรรยากาศ อากาศก็ดีด้วย แต่ถ้าด้วยเครื่องออกกำลังกายที่บ้าน ดูมันเซ็งๆนะครับ เลยเอาไว้ แขวนหมวก กับ พาดผ้าขนหู 555

ตอนนี้ต้องขยันเข้ามา เพื่อได้ชมเรื่องใหม่ รีบกลั่นมาไวๆนะครับ ผมหิวแร้ว ฮิ ฮิ

เรื่องจินตนาการแนวหลุดโลกนะ ขายได้นะครับ ไม่ค่อยมีใครเขียนกัน โดยเฉพาะเรื่องที่ผมอ่านเมื่อวาน เรื่อง รักหลอนลวง นะ ผมว่าเป็นเรื่องที่ดีมากๆเลย สำนวนงี้ ราบรื่นอย่าถ่มตัวอยู่เลย รีบแสดงออกมา เดี๋ยวผมแนะสนามนักเขียนให้นะ



โดย: ปลายแป้นพิมพ์ วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:15:03:56 น.  

 
ขอบคุณคุณ ปลายแป้นพิมพ์ มากครับ
จะลองเอางานที่มี มา edit แล้วทยอยลงให้อ่านครับ


โดย: ใต้แมวดำ (Psycho man ) วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:18:18:41 น.  

 
หว่า กิงงู 555


โดย: มาโซคิส วันที่: 26 ตุลาคม 2555 เวลา:18:29:26 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Psycho man
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




[Add Psycho man's blog to your web]