เมษายน 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
25 เมษายน 2555

ผู้แพ้ 1/2..(บทที่ 1)


=============
Diary of a madman
เรื่อง ผู้แพ้
บทที่ 1...(1/2)
: Psycho Man

=============



อากาศตอนบ่ายร้อนและอบอ้าวจนอยากจะบ้า แต่จิตแพทย์วัยกลางคนซึ่งนั่งเพียงลำพังในห้องทำงานหรูหราชั้นสามของตึกใหญ่ไม่มีสิทธิ์บ้า เพราะกฏหมายข้อหนึ่งบังคับว่า ห้ามไม่ให้จิตแพทย์บ้าโดยเด็ดขาด เพราะจะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีแก่จิตแพทย์รุ่นน้อง ถ้าฝ่าฝืนต้องโทษคดีอาญา ทั้งจำนำทั้งปรับ


เมื่อบ้าไม่ได้เขาจึงนั่งอ่านบันทึกของคนไข้ทางจิต ซึ่งเป็นผลมาจากโครงการให้คนไข้เขียนเรื่องราวอะไรก็ได้มาให้อ่านกัน โดนนัยว่าเป็นส่วนหนึ่งของการรักษาและงานวิจัย อีกนานกว่าจะถึงเวลานัดพบกับอาหารเย็น เขาจึงพลิกสมุดบันทึกของคนไข้คนหนึ่ง อ่านอย่างช้าๆเพราะไม่ได้รีบร้อนแบบจะรีบไปตายที่ไหน

++++++++++++


ผมจำตัวเองไม่ได้

อย่างน้อยผมก็ไม่รู้ว่าผมชื่ออะไร อยู่ที่ไหน ทำไม อย่างไร เมื่อไร แต่เท่าที่รู้มีพวกแพทย์และพยาบาลมาดูอาการผมเป็นสม่ำเสมอ พวกหมอผมไม่สนใจเท่าไรหรอก สนใจพวกพยาบาลมากกว่า แต่ละคนน่ารักทั้งนั้น น่ารักขนาดว่าต่อให้ถูกฉีดยาจนตายคาเข็มก็ยอม  แต่ถ้าพวกหมอมาฉีด มันต้องมีเรื่องฟาดปากการบ้างล่ะ...สรุปว่าคนบ้าอย่างผมอ่อนข้อให้เฉพาะ สาวๆ เท่านั้น

คงเป็นเพราะผลข้างเคียงมากกว่า ผมคิดว่าอย่างนั้นนะครับ

สองวันก่อนพวกเขาบอกว่าผมอาการดีขึ้นมากแล้ว ผมไม่แน่ใจว่าขึ้นมากขนาดไหน ไม่รู้จะเอาอะไรวัด อีกไม่นานคงสามารถกลับไปอยู่ในสังคมได้อย่างคนปรกติ แต่ต้องมีการทดสอบอะไรอีกหลายๆอย่างที่ฟังแล้วไม่ค่อยเข้าใจ


“คุณต้องฝ่าด่าน 18 มนุษย์ทองคำ ออกไปให้ถึงหน้าตึก เราจึงจะปล่อยคุณกลับบ้าน”


คุณหมอหนุ่มคนหนึ่งบอกด้วยใบหน้ากวนๆ ขณะที่พยายามถอยออกไปให้พันจากรัศมีเท้าของผม เจ้าหมอคนนี้ไม่ค่อยถูกชะตากับผมมากนัก เพราะว่ามันหล่อเกินกว่าเหตุ  หมอมีสิทธิอะไรจะมาหล่อเกินหน้าเกินตาคนไข้จนป่านนี้ โลกนี้ไม่มีความยุติธรรมเลยจริงๆ มันน่าจะถูกจับไปสอบสวนข้อหาหล่อผิดปรกติ เหมือนนักการเมืองที่ถูกสอบว่ารวยผิดปรกตินั่นเอง  แต่พอจนผิดปรกติกลับไม่ถูกสอบ

“ด่าน 18 มนุษย์ทองคำ เป็นการทดสอบว่าคุณพร้อมที่จะอยู่ในสังคมได้หรือไม่ ถ้าคุณไม่ผ่านคุณต้องกลับมารักษาตัวอีกครั้ง”

หมอคนนี้ถ้าจะบ้าหนังจีน..ผมนึกใจใจ
ด่านบ้าๆ แบบนั้นมีเฉพาะในหนังเท่านั้น

ตอนแรกผมไม่ยอมหรอก หนอย... มันเรื่องอะไรจะบ้าไปกับหมอ..ให้คนไข้ฝ่าด่านมนุษย์ทองคำ ไม่ใช่หนังจีนสักนิด แต่พวกหมอใช้วิชาสะกัดจุดชา โยนผมเข้าไปในประตูแห่งด่านแรกอันหฤโหดข องด่านทดสอบจนได้ เห็นหรือยังครับว่าใครบ้ากว่ากัน หมอคนนี้รู้วิชาจี้จุดด้วย ไม่บ้าก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรแล้ว

แต่ทำไมผมต้องยอมด้วย คงเป็นเพราะผมยอมแพ้ลูกบ้าคุณหมอนั่นเอง

ตึง
ประตูเหล็กหนาด้านหลังปิดโครมลงเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ผมกลิ้งตัวไปตามพื้นด้วยความหวาดระแวงว่าจะมีอาวุธลับหรือลูกธนูพุ่งออกมาจากผนัง

หลังจากหมอบราบคาบแก้วอยู่ครู่หนึ่ง แน่ใจว่าไม่มีอะไรบ้าๆแบบนั้นแน่ จึงค่อยๆลุกขึ้นช้าๆ มองซ้ายมองขวามองล่างมองบน


ด่านแรกเป็นห้องโถงกว้าง ไม่มีหน้าต่าง มีแต่ทางออกกับทางเข้าเท่านั้น แต่เพราะความที่ตกใจไปบ้าง เลยทำให้ไม่แน่ใจว่าประตูบานไหนที่เป็นทางออก  เพราะทางออกมันก็เข้าได้ และทางเข้ามันก็ต้องออกได้ หวังว่าพวกคุณคงเข้าใจสิ่งที่ผมพูดนะครับ ขนาดผมเป็นคนไข้ผมยังรู้เรื่อง

 แต่ทางไหนจะออกจะเข้าก็ช่างหัวมันเถอะ เพราะความสนใจของผมตอนนี้อยู่ที่ทีวีจอแบนติดผนัง ซึ่งขนาดของมันใหญ่โตจนแทบกินพื้นที่ทั้งหมดของผนังด้านนั้น โซฟาน่านอนตัวหนึ่งเลื่อนขึ้นมาจากพื้นราวมายากล เชิญชวนให้ไปนั่งนอนเล่นอย่างยิ่ง


“ด่านแรก คุณต้องทนดูทีวีในห้องนี้จนครบหนึ่งวัน”

เสียงของหมอหน้ากวนดังแว่วมาจากผนัง คงมาจากลำโพงฝังผนังแห่งใดแห่งหนึ่ง

จะบ้า...ดูทีวี แค่ดูทีวีนี่นะ เป็นการทดสอบ...

“คุณอาจไม่ทราบว่าทุกวันนี้ ทีวีกลายเป็นปัจจัยหนึ่งของคนไปแล้ว”  คุณหมอว่าไปเรื่อยๆ

“ดังนั้นคุณจะต้องปรับตัวให้ได้ ต้องหัดดูทีวี ฟังวิทยุ ให้เป็น พอๆกับที่คุณกินข้าวดื่มน้ำเป็น เพราะสิ่งเหล่านี้มีความจำเป็นพอๆ กับสารอาหารทั้ง 5 หมู่ คุณจะดูช่องไหนก็ได้ รีโมทอยู่แถวๆโซฟานั่นล่ะ มีปัญญาหาเองครับ แต่ห้ามปิด ถ้าปิดคุณแพ้ทันที”

ดูทีวีวันเดียว...ผมหัวเราะในใจ

มันกระจอกมาก ไม่สมกับเป็นด่านมนุษย์ทองคำเลย แบบนี้เด็กอนุบาลหมีน้อยก็ทำได้

ผมยิ้มหวานใส่อากาศสองที ก่อนก้าวเดินไปนั่งลงบนโซฟานุ่มก้นอย่างสบายใจ หยิบรีโมทที่มีปัญญาหาเจอ มากดเลือกช่องมั่วๆ

ช่องแรกเป็นช่องแปดสี ทีวีเพื่อเงิน ดูเหมือนกำลังจะเริ่มเรื่องละครช่วงบ่ายพอดี

เห็นตัวหนังสือขึ้นแวบๆแต่ไม่ทันได้อ่านว่าเรื่องอะไร ทั้งๆที่จำอะไรไม่ได้ ผมดันทะลึ่งนึกออกว่าเรื่องนี้มันนำมา สร้างใหม่เป็นครั้งที่ แปดแสน แล้วนี่นา  สร้างบ่อยขนาดคนความจำเสื่อมหรือคนปัญญาอ่อนยังจำได้ คิดดู...ประเภทบ้านทรายท้อง หรืออะไรนี่ล่ะ ไม่แน่ใจ..อะไรจะขนาดนั้น สติปัญญาของคนหาเรื่องมาทำละครมีแค่นี้หรือไง ผมคิดในใจ.. นิยายดีๆมีมากมาย ไม่รรู้จักแสวงหา ดีแต่หากินกับบุญเก่าอยู่เช่นนั้น  นักเขียนใหม่ๆ ก็ไม่ได้ไร้ฝีมือ ไม่เชื่อเข้ามาอ่านในถนนนักเขียนดูก็ได้


นั่น...ผู้หญิงสองคนกำลังเถียงกัน ดูปุ๊บก็รู้ปั๊บเลยว่าใครเป็นนางเอกนางร้าย เพราะที่ที่อกเสื้อเขียนบอกไว้ชัดเจนว่า “นางเอก” และ “นางร้าย” ไม่ต้องตั้งสมมุติฐานให้เสียเวลา

“ต๊ายตาย....แกจะแย่งคุณชาย ไปจากฉันเหรอ.....”

นางตัวโกงตวาดแว๊ดจนแสบแก้วหู ใบหน้าบูดเบี้ยว ตาเหลือกตาโปนราวจะกินเลือดกินเนื้ออีกฝ่ายเป็นอาหารเย็นให้ได้ แต่งตัวก็มองแล้ววาบหวิวจนผมตาลุก

“เปล่าค่ะ ...” นางเอกตอบเสียงเบาๆหวานๆ เพราะเป็นนางเอกไม่สามารถทำแบบนางร้ายได้

“ยังมาเถียง ยัยหน้าด้าน ขอตบสักทีเถอะ นี่...”

เพี๊ยะ !!!!!!

“ว๊าย..”

นางเอกอุทานแผ่วเบา กระเด็นไปติดข้างฝาอย่างสุภาพนิ่มนวลทันที ส่วนนางร้ายเปลี่ยนบท หันมายิ้มกับท่านผู้ชมแบบแสนหวานปานน้ำผึ้งผสมน้ำตาลเทียม นัยน์ตายั่วยวนกวนอารมณ์ พลางบอกว่า

“ตบนี้ได้รับการสนับสนุนจากเครื่องสำอางเอวอนค่ะ ตบแม่นตบทนนาน ติดสนิทติดคงทน ต้องตบขณะที่ใช้เครื่องสำอางเอวอน และมิสซิสทีน หาซื้อได้ทั่วไปตามร้านยะดวกซื้อและร้านขายส้มตำน้ำตกซกเล็กปากซอย”

แนะ...ละครช่องนี้มีมุขตลกด้วยแหะ ผมนึกในใจ แหมนึกว่าจะเป็นละครเครียดๆเสียอีก

ส่วนนางเอกค่อยๆแกะตัวเองออกมาจากข้างฝา สะอื้นกระซิกระริกไหว ภาพซูมเข้าไปที่ใบหน้าของเธอ ปราศจากริ้วรอยบอบช้ำแม้แต่น้อย

เธอพูดไปร้องไห้ไป บอกอย่างสุภาพปนสะอื้นแผ่วว่า

“ติดไม่แน่นหนา เลยหลุดออกมา เพราะไม่ได้ใช้กาวตราไดโนเสาร์ ใบหน้าหนาด้านผ่องเป็นยองไยแบบนี้ เพราะหนูใช้สบู่ด็อกเตอร์มนโท มีส่วนผสมของน้ำมิ๊มกับมะละกอและผักกาดจอ โดนตบแค่ไหนก็ไม่กลัวค่ะ”

“หนอย...ตายซะเถอะแก..นังพจมาร”

นางร้ายเห็นดังนั้นรีบเปลี่ยนบุคลิกทันที ดึงมีดทำครัวออกมาจากไหนไม่ทราบเหมือนกัน ยกมีดชูไปมา ในขณะมุมกล้องหมุนไปรอบๆราวกับจะโชว์ความงามของเนื้อมีด

“มีดนี้เป็นมีดยี่ห้อดีมีราคา...”

เธอแสยะเขี้ยว อธิบายด้วยสีหน้าหะเอี้ยมเกรียม (กลัวเซ็นเซอร์)

“เนื้อมีดเป็นโลหะผสมระหว่างเหล็กชั้นดีจากประเทศเยอรคุณ ผ่านการคลุกเคล้ากับนิเกิลผสมน้ำปลาร้าและโครเมียม ในอัตราส่วนที่พอเหมาะ  หมักบ่มเป็นเวลานานจึงให้ความรู้สึกขณะแทงหรือเชือด เฉือน สับ หั่น  นุ่ม ละมุนละม่อมละเมียดละไม มีคลาส รสดี รถโต  ลื่นคอ ..ใช้แล้วภาคภูมิใจ คนไทไม่ได้ทำเอง...หาซื้อมาไว้แทงคนที่บ้านสักเล่มสิคะ....”






โปรดติตตามตอนต่อไป



Create Date : 25 เมษายน 2555
Last Update : 25 เมษายน 2555 11:29:18 น. 16 comments
Counter : 2506 Pageviews.  

 
ปอมเลิกดูละครหลังข่าวไปนานแล้วค่ะ . . .จารย์จี

เซ็งนางเอกที่ต้องดูดีตลอดเวลา . . .

นางร้ายที่ร้ายอย่างเหลือเชื่อ . . .

และพระเอกซื่อบี้อ . . . ที่มารู้ความจริงเอาตอนใกล้จบหลังจากทรมานนางเอกจนปางตาย

เย็นแล้ว ทานมื้อเย็นด้วยกันนะคะ


เสิร์ฟข้าว






ไก่ห่อใบเตย





แกงกะหรี่





น้ำมะนาวเย็นๆ





ของหวานเป็นน้ำแข็งไสจ้า






อ้อ . . มีดดีๆจากเยอรมันยังเหลือไหมคะ ...น่าจะเอามาไว้ปอกมะม่วงสักเล่มอ่ะ


โดย: กาปอมซ่า วันที่: 27 เมษายน 2555 เวลา:19:07:53 น.  

 
มาทานอาหารอร่อยๆ ของคุณกะปอม


โดย: Psycho man วันที่: 24 มิถุนายน 2555 เวลา:9:10:36 น.  

 
จิตแพทย์ห้ามบ้า มีกฎแบบนั้นจริงเปล่าคะ ถ้ามีนี่แย่นะ ใกล้คนป่วย จนซึมซับแล้วทำไง 555


โดย: มาโซคิส IP: 110.49.243.230 วันที่: 26 ตุลาคม 2555 เวลา:11:19:58 น.  

 
ใครบอกครับ
จิตแพทย์ต้องบ้าเหนือบ้าครับ
ต้องระดับ
บ้าสุดยิดคืนสู่สามัญ
^__^...


โดย: Psycho man วันที่: 3 พฤศจิกายน 2555 เวลา:13:13:43 น.  

 
นั่นไง!!


โดย: มาโซคิส วันที่: 3 พฤศจิกายน 2555 เวลา:17:40:30 น.  

 
สวัสดียามสายจ้า จารย์จี

ปอมมีโจ๊กไก่มาฝากในวันหยุดนะคะ



มีความสุขในวันที่แดดดีจ้า


โดย: กาปอมซ่า วันที่: 4 พฤศจิกายน 2555 เวลา:10:23:29 น.  

 
ขอบคุณ คุณ มาโซคิสม์..นั่นไง ว่าแล้ว ใช่ไหม..^^

ขอบคุณ คุณกาปอมซ่า..เห็นโจ๊กไก่ หิวอีกแล้วครับ


ขอบคุณ ที่แวะมาเยือนครับ...เย...ดีใจ^^


โดย: Psycho man วันที่: 5 พฤศจิกายน 2555 เวลา:7:27:26 น.  

 
สวัสดียามค่ำจ้าจารย์จี

ปอมมี กาแฟ (แก้วสีแดง) และ โกโก้ (แก้วสีขาว) มาฝากนะคะ



ราตรีสวัสดิ์จ้า


โดย: กาปอมซ่า วันที่: 6 พฤศจิกายน 2555 เวลา:20:08:01 น.  

 
ชอบคุณสำหรับกาแฟครับ งาบๆๆเลยล่ะ^^


โดย: Psycho man วันที่: 8 พฤศจิกายน 2555 เวลา:8:32:15 น.  

 
สวัสดียามค่ำจ้าจารย์จี

มาทานกุ๊ยช่ายด้วยกันนะจ๊ะ



ไว้จารย์จีว่างๆ อย่าลืมเขียนนิยายให้ปอมอ่านบ้างนะคะ . . .

โรงเรียนเปิดเทอมแล้ว . . . คงยุ่งๆอีกแน่ๆเลย



โดย: กาปอมซ่า วันที่: 9 พฤศจิกายน 2555 เวลา:19:41:43 น.  

 
ยุ่งมากเลยล่ะครับ แฮ่ะ แต่หวังว่าอีกไม่นานจะพอเขียนนิยายได้ครับ^^


โดย: Psycho man วันที่: 10 พฤศจิกายน 2555 เวลา:0:29:04 น.  

 
ปอมมีโดนัทมาฝากจารย์จีนะคะ




จ้า . . . ปอมจะรออ่านนะคะ


โดย: กาปอมซ่า วันที่: 10 พฤศจิกายน 2555 เวลา:19:28:39 น.  

 
เย..^^


โดย: Psycho man วันที่: 11 พฤศจิกายน 2555 เวลา:18:47:20 น.  

 
ของจอยสีม่วง คุณจีเอาสีไหน


โดย: มาโซคิส วันที่: 23 พฤศจิกายน 2555 เวลา:22:05:12 น.  

 

มาเยี่ยมชม มาทักทายครับ

มาลงชื่ออ่านครับ เรื่องนี้สนุกดีครับ อ่านไปก็ลุ้นตามไปด้วยว่าตัวเอกของเรื่องจะเป็นคนบ้าจริง ๆ หรือไม่

ผมชอบมุกที่บอกว่า ที่หน้าอกเสื้อมีปักบอกว่าเป็น นางเอก และ นางร้าย ครับ มุกนี้สีครับ ส่วนเรื่องเสียดสีการที่มีโฆษณาแฝงในละครนั้นผมเห็นด้วยครับ ทุกวันนี้ทีวีบ้านเรามีแอบทำแบบนี้เยอะเลยครับ

ผมอ่านเรื่องนี้แล้วผมชอบนะครับ อ่านรู้ได้ยิ้มได้อารมณ์ดีตามด้วย งานเขียนแบบนี้ผมชอบครับ

ไว้อัพตอนต่อไปแล้วฝากช่วยมาตามผมด้วยนะครับ ผมจะได้มาคอยลุ้นต่อนะครับ

อิอิ

ปล. ขออนุญาตแอดเป็นเฟรนบล็อกนะครับ



โดย: อาคุงกล่อง วันที่: 24 พฤศจิกายน 2555 เวลา:14:18:57 น.  

 
แวะมากิน โดนัส คุณปอม อร่อยๆในตอนเช้า
กินให้หมดเลย
ไม่มีคำว่าปรานีในวงการกิน^^


แวะมากินแมวคุณมาโซคิส เอ้ย...ไม่ใช่ แวะมาลูบหัวแมว
<เกือบไปแล้วเรา..>
เลือก 4 ตัว 4 สีเลยครับ น่ารักทั้งนั้น

ด้วยความยินดีครับคุณอาคุงกล่อง^^
เพิ่งออกมาจากบล็อคคุณอาคุง ไปอ่านเรื่องยวดยานมาครับ
ข้อมูลสุดยอดมาก^^



โดย: Psycho man วันที่: 25 พฤศจิกายน 2555 เวลา:6:38:55 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Psycho man
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




[Add Psycho man's blog to your web]