ใบไม้เปลี่ยนสีที่ Great Smoky Mountains : ความงามที่คู่ควร
ออกจาก Clingman's Dome พี่โจ้ก็ขับรถมุ่งหน้าไปทาง Smokemont ค่ะ เพื่อที่จะไปเช็คว่าเราจะมีที่นอนกันตรงนี้รึเปล่า
เพราะถ้าไม่มีเราต้องขับรถย้อนกลับไปยัง Cades Cove ที่เรานอนพักกันเมื่อคืนนี้ค่ะ
ไม่อยากกลับไปตรงนั้นแล้วล่ะ ไกลด้วยต้องขับย้อนไปย้อนมาทำไม ก็พรุ่งนี้ยังไงเราก็จะต้องมานอนแถวนี้อยู่แล้ว
วิวระหว่างทางสวยงามมากๆค่ะ ถนนโค้งไปคดมา ต้นไม้บนภูเขาริมทางก็เปลี่ยนสีสวยงาม เราขับผ่านจุดชมวิวที่หนึ่ง อุ๊ยสวยจัง อยากจะลงไปเดินเล่น พอผ่านเวิ้งตรงนั้นมาอีกด้านก็มีที่จอดรถอีกค่ะ ก็เลยได้ลงไปเดินเล่นสมใจ
สวยเนอะ เห็นแล้วก็ชื่นใจ อากาศบริเวณนี้ไม่หนาวจัดเหมือนอย่างข้างบนด้วยค่ะ ยังจัดว่าหนาวละนะ แต่พอไหวค่ะ
จอดรถเสร็จเราก็ลงไปเดินค่ะ เค้าจะทำสะพานให้คนเดินไปดูวิวด้วยนะคะแต่สะพานสองข้างไม่เชื่อมกันค่ะ ตรงสะพานนี่ละค่ะจะมีแต่ร่องรอยการสลักชื่อของนักท่องเที่ยว และที่สำคัญคือพิมเห็นกับตาเลยนะ มีผู้ชายกับผู้หญิงมาค่ะ แล้วผู้ชายก็เอากุญแจรถน่ะสลักชื่อไว้ตรงสะพานเนี่ย ขณะที่ผู้ชายสลักผู้หญิงก็ถ่ายรูปเป็นหลักฐานเก็บไว้ แล้วพิมกับพี่โจ้ก็อยู่ตรงนั้นนะ เค้าไม่อายกันเลยจริงๆค่ะ ไม่มีความอายที่ทำผิดเลยค่ะ คนเราเป็นไปได้ขนาดนี้นะ
พิมละไม่อยากจะไปแตะต้องราวสะพานนั้นเลยค่ะ รู้สึกขยักแขยงยังไงก็ไม่รู้
จากจุดนี้อีกไม่นานเราก็ถึงแค้มป์ไซต์แล้วล่ะค่ะ เรารีบไปถามเรื่องที่พักเลย โชคดีเป็นของเราค่ะ คืนนี้เราได้นอนที่นี้ ยิปปี้ ฮูเร่ พอเข้าไปดูที่ทางเสร็จเรียบร้อยเราก็ไปหาที่เที่ยวกันต่อ
เจ้าหน้าที่บอกว่าตรงเมือง Cherokee จะมีน้ำตกสูงอยู่ที่หนึ่งค่ะ งั้นเราไปกันดีกว่า
เราขับรถเข้าไปในเมือง Cherokee กันหน่อยเพราะไปหาซื้อน้ำแข็งมาแช่น้ำแช่อาหารที่เตรียมมาน่ะค่ะ มีปั๊มน้ำมันอยู่สองแห่ง แต่เราก็คิดว่าน้ำมันเราน่าจะพอ เราเติมกันก่อนเข้าพาร์คมาแล้วไงคะ ตอนนี้เหลือสักครึ่งถัง น่าจะพอน่ะ
แล้วเราก็ขับรถไปทางที่จะไปดูน้ำตก น้ำตกนี้ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของพาร์คนะคะ ด้านหน้าทางเข้านี่เป็นบ้านอาศัยของคนแถวนี้เลยค่ะ
จอดรถปุ๊บเราก็เดินไปทันที
เราต้องเดินขึ้นบันไดไปกันก่อนค่ะ มีทั้งหมด 159 ขั้น นับมาให้แล้วไม่ต้องห่วง ^^ จากนั้นก็เดินต่อไปอีกแค่นิดเดียวก็ถึงแล้วค่ะ
น้ำตกนี้สูงหนึ่งร้อยฟีตค่ะ แต่น้ำไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่เนอะ ถ้าน้ำเยอะๆ ท่าทางจะน่ากลัวน่าดูเลย
และก็แน่นอนเป็นที่สุดค่ะ ตรงสะพานน่ะมีแต่ชื่อคนเต็มไปหมดเลย น่าเบื่อเนอะ น่าเบื่อมั๊ย หรือว่าพิมรู้สึกไปคนเดียว
ชักจะถ่ายรูปยากแล้วนะคะ เพราะแสงก็ไม่ค่อยจะมี ในนี้เริ่มมืดแล้วล่ะค่ะ
ก็ไม่มีอะไรให้ชื่นชมมาก พอเดินกลับออกมา เราเลยชวนกันไปดูพระอาทิตย์ตกที่ Newfound Gap กันดีกว่า จริงๆน่ะอยากไปดูที่ Clingman ด้วยซ้ำค่ะ แต่ยิ่งมืดก็จะยิ่งหนาว เอาแค่ที่ Newfound Gap ละกัน
ตอนแรกทำท่าว่าจะต้องสวยมากๆแน่ๆเลย เพราะบนฟ้ามีเมฆด้วย แสงยามเย็นสะท้อนกับเมฆคงจะสวยมากนะคะ แต่ที่ไหนได้ พระอาทิตย์ยังไม่ทันตกดี เมฆครึ้มฝนจากทาง Clingman ก็พัดมาบังแสงจากดวงอาทิตย์ไปหมดเลยค่ะ อดดูแสงงามๆเลย งั้นเรารีบกลับไปที่พักดีกว่าค่ะ มืดๆอย่างนี้ขับรถยากนะนั่น
และระหว่างทางเราก็เจอ Red Fox วิ่งตัดหน้ารถด้วยค่ะ ดีที่พี่โจ้ขับรถไม่เร็วนักก็เลยเบรคทัน กว่าจะถึงที่พักก็มืดสนิทพอดี เราแปรงฟันล้างหน้าและทานข้าวเย็นกันมาจาก Newfound Gap กันแล้ว ช่วงระหว่างรอแสงพระอาทิตย์ตกน่ะค่ะ มาถึงที่พักเราก็คลานกระดุ๊บกระดุ๊บไปหลังรถนอนได้เลย
คืนนี้พิมใส่เสื้อนอนสามตัว กางเกงสอง ถุงเท้าสองชั้น แล้วมุดอยู่ในถุงนอน ไม่อุ่นสบายก็ให้รู้ไปสิน่ะ ^^
Create Date : 26 ตุลาคม 2550 |
|
6 comments |
Last Update : 26 ตุลาคม 2550 22:27:05 น. |
Counter : 1076 Pageviews. |
|
|
|
แต่ละรูปนี้อื้อหือออออออ
ฟ้างี้ ถนนงี้ ภูเขางี้
ชอบๆๆๆๆค่ะ