Group Blog
 
 
มกราคม 2550
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
4 มกราคม 2550
 
All Blogs
 

อะไรที่ฉันเป็น

(Online ครั้งแรก 28 พย. 2005 //www.pharmacafe.com/phpbb/weblog_entry.php?e=281)

ความสุขอย่างหนึ่งของเรา คือการได้นั่งคิดถึงเรื่องราว เหตุการณ์ และบุคคลต่างๆที่ผ่านเข้ามาในชีวิต แม้ว่าบางครั้งอาจเหลือแค่ความทรงจำที่ดี หรือไม่ดีก็ตาม แต่ทุกอย่างก็คือประสบการณ์ที่มีค่า และช่วยทำให้เราได้เป็นเราอย่างทุกวันนี้ (เราจึงไม่เคยเสียใจกับเหตุการณ์ใดๆในชีวิตเลย)

บ่อยครั้งที่เรานั่งคิดว่าถ้าเราเกิดตัดสินใจบางอย่าง หรือทำอะไรบางอย่าง ที่แตกต่างไปจากเหตุการณ์ที่เราเคยทำ ชีวิตในปัจจุบันนี้เราจะเป็นอย่างไรบ้างนะ

เราเป็นคนเชื่อในเรื่องของมิติ เราเชื่อว่าในมิติอื่นๆ มีเราที่เป็นผู้กำกับหนัง เป็นนักเขียน เป็นนักธุรกิจ เป็นเด็กจรจัด เป็นหมอฟัน เป็นคนฉายหนัง เป็นคนใจร้ายจิตใจด้านชา แต่ไม่ว่าจะเป็นมิติใด เราในมิตินั้น ก็อาจกำลังครุ่นคิดถึงเราในมิติอื่นๆ อย่างที่เราเป็นอยู่ตอนนี้

One เป็นชื่อหนังสือเล่มหนึ่ง ที่พูดถึงเรื่องมิติได้น่าสนใจ โดยในหนังสือ คนเขียนเปรียบชีวิตเราเหมือนการเดินทางในแม่น้ำสายหนึ่ง ซึ่งในขณะที่เราอยู่บนแม่น้ำนั้น เราไม่รู้เลยว่ามันจะกว้าง ยาว คดเคี้ยว ซับซ้อนเพียงใด และมันจะมีแม่น้ำกี่สายที่จะให้เราเดินทาง

แต่ถ้าเรามีโอกาสบินขึ้นไปเหนือแม่น้ำสายนั้น และยิ่งขึ้นไปสูงมากเท่าไร เราจะมองเห็นความจริงของแม่น้ำนั้นมากขึ้น ว่ามันอาจมีการแตกสาขาตั้งแต่ก่อนหน้านี้ หรือต่อๆไป อาจไปบรรจบกับแม่น้ำสายอื่น วกไปวนมาไม่มีที่สิ้นสุด

การเดินทางในแม่น้ำของเรา มีโอกาสมากเหลือเกินที่เราจะหลุดออกนอกเส้นทางหลัก โดยเราไม่ทันรู้ตัว อาจมีเราในบางครั้งที่เลือกจะไปทางซ้าย บางครั้งเลือกที่จะไปทางขวา ซึ่งอาจนำไปสู่จุดหมายทั้งที่เหมือนกัน และต่างกัน ซึ่งเราไม่อาจมองเห็นได้ ถ้าเรายังอยู่ในระดับเดียวกับแม่น้ำสายนั้น

##### หนังที่พูดถึงมิติเวลา#####

Sliding Doors (A)
ชีวิตที่ผกผันของเฮเลนอยู่ที่เธอจะขึ้นรถไฟกลับบ้านทันก่อนประตูรถไฟจะปิด หรือ ประตูรถไฟที่ปิดก่อนเธอจะขึ้นบนรถ

นี่คือหนังที่พูดถึงเรื่องของมิติได้เห็นภาพชัดเจน หนังเล่าเรื่องทั้งสองส่วนสลับกัน ระหว่างเฮเลนที่ขึ้นรถไฟทัน และกลับไปพบว่าแฟนหนุ่มพาผู้หญิงมานอนด้วย นำไปสู่การเลิกกัน และการปฏิวัติชีวิตใหม่ กับเฮเลนที่ขึ้นรถไฟไม่ทัน กลับไปบ้านสวนกับผู้หญิงที่แฟนหนุ่มพามานอนด้วย และโดนแฟนหนุ่มสวมเขาให้ต่อไป

หนังทั้งเรื่อง ยังปรากฏภาพประตูที่เลื่อนปิดเปิดหลายครั้ง เหมือนกับบอกเราเป็นนัยๆ ว่าไม่ใช่แค่ครั้งเดียวนะ ที่นางเอกในเรื่องมีโอกาสที่จะเผชิญจุดหักเหของชีวิต

Back to the Future (A+)
มาร์ตี้ แมคฟลาย พบว่าการที่เขาพลัดหลงเข้ามาในอดีต ทำให้พ่อกับแม่เขาคลาดโอกาสที่จะได้ตกหลุมรักกัน และมันอาจทำให้เขาไม่ได้ลืมตาขึ้นในโลกใบนี้

ด้วยการเล่าเรื่องที่สนุกสนาน และการอธิบายมิติ และการย้อนเวลาให้ดูเข้าใจง่ายๆ นี่คือหนังที่นั่งในดวงใจนักดูหนังทุกยุค ทุกสมัย พอๆกับสร้างความมึนงงให้กับคนคิดมาก (โดยเฉพาะในภาคสอง) เป็นต้นแบบของหนังวิทยาศาสตร์ที่ไม่ได้หนักอึ้ง (แต่ก็ไม่เบาโหวง) และบทภาพยนตร์ที่เป็นตัวอย่างที่ดีของการเขียนบทในทุกยุคสมัย (การวางปมไว้ และตามเก็บไปเรื่อยๆจนจบ)


ทวิภพ เวอร์ชัน สุรพงษ์ พินิจค้า (B)
มณีจันทร์พบว่าการเดินทางย้อนกลับไปในอดีตของเธอ นอกจากทำให้เธอได้เจอที่ที่เหมาะสมกับตัวเอง เธออาจยังทำให้ประวัติศาสตร์เปลี่ยนแปลงได้ด้วย

ทำไมต้องเน้นว่าเป็นเวอร์ชั่นสุรพงษ์ (หรือเรียกให้ชัดเจน เวอร์ชั่นฟลอเรนส์) เพราะนี่เป็นครั้งเดียวที่ทวิภพมีการพูดถึงมิติเวลา สมกับชื่อทวิภพ ในขณะที่หนังสือ หนัง (เชิด ทรงศรี) ละครโทรทัศน์ เน้นความรักข้ามเวลา และการรักษาชาติบ้านเมืองจากการล่าอาณานิคมจากชาติตะวันตก แต่เวอร์ชั่นนี้ไปไกลอีกระดับ ด้วยการให้ภาพมิติที่ไทยถูกครอบครองโดยฝรั่งเศส ประชาชนใช้ภาษาฝรั่งเศสในชีวิตประจำวัน และหอไอเฟลที่ผงาดกลางแม่น้ำเจ้าพระยา โดยมีต้นเหตุมาจากมณีจันทร์ที่ไปฆ่าฑูตฝรั่งเศสขณะที่เธออยู่ในอดีต

น่าเสียดายที่ทวิภพเวอร์ชันนี้พยายามยัดข้อมูลมากมาย จนทำให้หนังดูแน่น อึดอัด และหลายคนมองข้ามสิ่งที่หนังต้องการจะสื่อ ทั้งที่ความจริง นี่คือเวอร์ชั่นที่กล้า ท้าทาย สากล มากที่สุด เท่าที่บทประพันธ์จะเปิดให้แล้ว

Planet of Apes (C)
ด้วยความผิดพลาด ทีมนักวิทยาศาสตร์ต้องผจญภัย และเอาชีวิตให้รอด จากดาวประหลาดที่ถูกปกครองโดยพลเมืองลิง ก่อนจะค้นพบความจริงว่านั่นมีต้นเหตุมาจากการทดลองของพวกเขานั่นเอง แต่นั่น ยังไม่น่าช็อกเท่าการรอดชีวิตกลับบ้าน แต่มันเป็นบ้านในอีกมิติหนึ่งแล้ว

นอกจากความผิดพลาดของนักวิทยาศาสตร์ในเรื่อง ยังเป็นความผิดพลาดของทิม เบอร์ตันอีกด้วย ที่มั่นใจว่าเขาจะสร้างโลกประหลาดขึ้นมาได้อีกหนึ่งใบ แต่ตัวละคร และแนวทางของเรื่องที่ไม่ใช่สไตล์เขา ก็ทำให้งานนี้เป็นงานดาดๆในตลาดหนังฮอลลีวู๊ด แม้แต่ฉากจบ ที่เล่นกับเรื่องมิติ ก็ทำให้คนงง มากกว่าจะกู้หน้าให้หนัง ทำให้คนคิดว่าอยู่ๆก็หักมุมดื้อๆเฉยๆซะอย่างนั้น

Il Mare (B)
หญิงสาวและชายหนุ่มที่อยู่บ้านริมทะเลหลังเดียวกัน สื่อสารกันผ่านจดหมายและกล่องไปรษณีย์สีแดงหน้าบ้าน เพียงแต่ว่าฝ่ายชายอยู่ในช่วงเวลาก่อนหน้าฝ่ายหญิงสองปี (เท่านั้นเอง)
(Spoiler Alert!!)
นี่คือหนังที่มีคนถามบทสรุปตอนจบมากที่สุดเรื่องหนึ่งในหน้าเวปบอร์ด ทั้งๆที่หนังให้คำตอบไว้อย่างชัดเจน จากหนังเกือบทั้งเรื่อง หลอกให้เราคิดว่าพระเอกและนางเอกอยู่ในมิติเดียวกัน จนตอนท้ายถึงเฉลยว่าทั้งสองอยู่คนละมิติ สำหรับคนที่งงตอนจบ ลองมานั่งลำดับหนังใหม่ แบ่งเป็นสองส่วน ส่วนแรกสมมุติว่าตัวเองเป็นพระเอก เดินเรื่องยังไง จบอย่างไร อีกส่วนหนึ่งสมมุติว่าตัวเองเป็นนางเอก เดินเรื่องยังไง จบอย่างไร เห็นไหมว่าทั้งสองส่วนมีตอนจบต่างกัน แล้วแฮบปี้เอนดิ้งไหม ก็ต้องถามว่าตอนนั้นคุณใช้มุมมองของพระเอกหรือนางเอก ไม่ยากเลยใช่ไหม ถ้าคุณเข้าใจเรื่องของมิติ

Butterfly Effect (C+)
ชายหนุ่มผู้ค้นพบว่าเมื่อเขาแก้ไขข้อความในสมุดบันทึก จะทำให้เหตุการณ์รอบตัวเปลี่ยนไป เขาเลยแก้ไขเพื่อให้ปัจจุบันดีขึ้น แต่ที่เขาคาดไม่ถึงคือผลกระทบที่ตามมาอาจเลวร้ายกว่าเดิมก็ได้
เราคาดหวังกับหนังเรื่องนี้มาก จากแนวคิดหลักของเรื่อง แต่พอได้ดูจริงๆ การอธิบายเรื่องมิติเวลากลับดูสับสน และไม่ชัดเจนกับทฤษฏีของมิติ โดยเฉพาะการให้ตัวพระเอกของเรื่องหลุดออกจากมิติต่างๆไปเลย หรือถ้าไม่มองในแง่มิติ แค่มองปฏิกิริยาลูกโซ่อย่างที่ชื่อหนังบอกใบ้ ความชัดเจนก็ยังน้อยอยู่




 

Create Date : 04 มกราคม 2550
0 comments
Last Update : 26 มกราคม 2550 9:59:24 น.
Counter : 731 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


I'm wu
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add I'm wu's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.