Group Blog
 
 
มิถุนายน 2553
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
29 มิถุนายน 2553
 
All Blogs
 
อภิชาติพงศ์ระลึกชาติ

บทความนี้ เปิดเผยเนื้อหาของหนัง



อดีตชาติอภิชาติพงศ์

สุดเสน่หา เล่าเรื่องราวของรุ่ง สาวโรงงานที่แอบพาคนรักชาวพม่าหนีความวุ่นวายจากในเมืองเข้าไปพลอดรักกันในป่าและแสดงความเสน่หาต่อกัน โดยไม่รังเกียจว่าชายคนนั้นจะอัปลักษณ์ เป็นคนต่างด้าว หรือเป็นโรคผิวหนัง ก็ตาม

สัตว์ประหลาด เล่าเรื่องราวของโต้ง เกย์หนุ่มที่มีโอกาสสานสัมพันธ์กับนายทหารที่มาปฏิบัติหน้าที่แถวบ้านเพราะมีศพถูกสัตว์ป่าทำร้าย และนิยายปรัมปราเกี่ยวกับเสือสมิง ความลึกลับ และวิญญาณของป่า

แสงศตวรรษเล่าเรื่องถึงชีวิตหมอ และผู้คนรอบข้างในโรงพยาบาลชุมชนแห่งหนึ่ง ก่อนที่จะเล่าเรื่องนั้นซ้ำอีกรอบในบรรยากาศสังคมเมืองแห่งอนาคต ที่วัตถุและพลาสติกกำลังเข้ามามีบทบาทแม้แต่กับร่างกายผู้ป่วย

อภิชาติพงศ์บอกเล่าเรื่องราวต่างๆ โดยการเรียงร้อยเรื่องราว และถ่ายทอดออกมาอย่างเนิ่บช้าเพื่อให้ผู้ชมได้ซึมซับ ธรรมชาติเป็นตัวละครที่มีบทบาทชัดเจนในหนังของเขาเสมอ โดยมักเป็นฉากหลังสวยงามให้ตัวละครได้ปลดปล่อย เป็นตัวของตัวเอง สงบ แม้จะแฝงไว้ด้วยความลึกลับ คาดเดาไม่ได้ ซึ่งจะขัดแย้งกับความวุ่นวาย สับสน พิธีรีตอง และการใส่หน้ากากเข้าหากันของสังคมเมือง

อดีตชาติลุงบุญมี
ควายที่ออกแรงดึงจนหลุดออกจากหลัก และวิ่งหนีเข้าไปในป่า เจ้าของที่เข้ามาตามหา และลิงยักษ์นัยน์ตาสีแดงที่เฝ้าแอบมอง

เจ้าหญิงอัปลักษณ์ ใบหน้าคล้ายเป็นโรคผิวหนังผู้แสนเศร้า และปลาดุกที่เฝ้ามองด้วยความเสน่หา และบทอัศจรรย์ระหว่างคนกับสัตว์กลางสายน้ำ

ภาพถ่ายทหารพรานกลุ่มหนึ่ง กับวัวควายที่โดนทำร้าย และลิงยักษ์นัยน์ตาแดง ที่ถ่ายรูปร่วมกันอย่างสนิทสนม

อดีตนายทหารที่ต้องเข่นฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่หนีเข้าป่า

วิญญาณที่เดินทางข้ามกาลเวลา และเมืองแห่งอนาคตที่ผู้ปกครองมีอำนาจจะทำให้ใครหายไปจากโลกก็ได้

ลุงบุญมีระลึกชาติที่ผ่านมาทั้งชัดเจนเห็นเป็นภาพเคลื่อนไหว เป็นภาพนิ่ง หรือแม้แต่การบอกเล่าโดยวาจา โดยไม่มีการเจาะจงลงไปชัดเจนว่าลุงบุญมีเป็นใคร หรือเป็นอะไรในแต่ละชาติ หรือแม้แต่ความสัมพันธ์ของชาติภพต่างๆกับตัวลุงบุญมีในชาติปัจจุบัน ก็ไม่ชัดเจน นอกจากความเชื่อของลุงบุญมีที่ว่าแกกำลังชดใช้กรรมที่เกิดในอดีตชาติของตัวเอง

แบบแผนของอภิชาติพงศ์

หนังสามเรื่องที่ผ่านมาของอภิชาติพงศ์ แบ่งเรื่องราวออกเป็นสองส่วนอย่างชัดเจน แม้ว่าจะเป็นเรื่องเดียวกัน หรือเรื่องที่ต่อเนื่องกัน หรือแม้แต่จะเป็นคนละเรื่องก็ตาม ทำให้มองเห็นความขัดแย้งของเรื่องราวในแต่ละส่วนชัดเจน และเป็นเหมือนกับลายเซนต์ของเขา

แบบแผนของลุงบุญมี
หนังลุงบุญมีระลึกชาติ ไม่ได้แบ่งชัดเจนเหมือนหนังอภิชาติพงศ์เรื่องก่อนหน้านี้ แต่เป็นการผสมผสานการเล่าเรื่องสองแบบเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน และสลับการเล่าทั้งสองแบบต่อเนื่องกันตลอดตัวหนัง แม้จะเป็นในฉากเดียวกัน คือการเล่าเรื่องแบบสมจริง และการเล่าเรื่องแบบเหนือจริง

ส่วนที่น่าสนใจและเป็นเสน่ห์ของหนังคือ ส่วนเหนือจริงที่หนังทำเอาคนดูอึ้งได้เป็นพักๆ เพราะความเหนือชั้นของฉากเหนือจริงเหล่านี้ คือการตอบสนองของตัวละครในฉาก ที่ตอบรับรวดเร็ว ไม่แตกตื่นตกอกตกใจไปก่อน ทำให้ต้องกลับมาคิดว่าทำไม และได้คำตอบว่าเพราะฉากเหนือจริงเหล่านี้อาจไม่ได้เกิดขึ้นจริงๆ นอกจากเกิดในสมอง หรือความคิดของตัวละครบางตัว

เรื่องที่เกิดขึ้นจริง: ลุงบุญมี พ่อหม้ายเมียตาย ลูกชายหนีออกจากบ้าน กำลังจะตายจากโรคไตวาย ซึ่งต้องอาศัยคนงานหนุ่มชาวลาวคอยฟอกไตให้ และมีน้องเมียกับหลานชายมาอยู่ด้วยในวาระสุดท้ายของชีวิต ในที่สุดแกก็ตาย หลานชายบวชหน้าไฟให้ และขณะบวช หลานก็แอบหนีกลับมาหาป้า ตอนกลางคืน

เรื่องที่เป็นจินตนาการของลุงบุญมี: ในวาระสุดท้าย วิญญาณของคนรอบข้างที่ตายหรือสาบสูญไปได้กลับมาอยู่ร่วมกัน พูดคุยกันเหมือนสมัยทุกคนอยู่ด้วยกัน เหตุการณ์ในอดีตชาติแจ่มชัดขึ้น ความรู้สึกว่าตัวเองกำลังรับกรรมที่ได้ก่อเอาไว้เริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆ วิญญาณของสิงสาลาสัตว์มาห้อมล้อมและเฝ้ามอง และการออกเดินทางไปในป่าที่มืดมิด จนสิ้นสุดในถ้ำที่เหมือนกับการย้อนกลับสู่จุดเริ่มต้นของชีวิต และตายไปจากโลก

เรื่องที่เป็นจินตนาการของโต้ง: ร่างกายที่แยกเป็นสองส่วน วิญญาณที่ออกจากร่างจนแยกไม่ถูกว่าอะไรคือร่างกาย อะไรคือจิตวิญญาณ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่โต้งกำลังอยู่ในเส้นกั้นบางๆระหว่างความเป็นพระและฆราวาส หรือความเป็นพระกับความอาบัติ

สิ่งที่เห็นได้ในหนังอภิชาติพงศ์
คนหน้าตาธรรมดาๆ พูดจาภาษาชาวบ้าน เป็นธรรมชาติ กิจกรรมที่พบเห็นทั่วไปในสังคมจนไม่รู้สึกว่าเป็นสิ่งแปลกปลอมเพราะคุ้นเคยไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการเต้นแอโรบิก การร้องเพลงคาราโอเกะในบาร์ ฉากหลังที่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือเป็นที่เคารพบูชาตามความเชื่อของคนในเรื่อง เรื่องเล่าปรัมปรา นายทหารหนุ่มที่เป็นมิตรกับชาวบ้าน ฉากหน้าและฉากหลังของรถที่กำลังเคลื่อนที่ พระที่มีความเป็นคนธรรมดาสูง เพลงที่ตัวละครในเรื่องฟัง ที่ดูขัดแย้งกับบรรยากาศ การเดินทางเข้าป่า ลอดถ้ำ สัตว์พูดได้ การถ่ายภาพที่เห็นแสงแดดนุ่มนวล และกาพที่มีป่าเป็นกรอบให้กับแสงสว่างภายนอก ไปจนถึงนักแสดงที่ใช้ชื่อจริงเสียงจริงมาเป็นตัวละครในหนัง

สิ่งที่เห็นได้ในหนังลุงบุญมีระลึกชาติ
ทุกสิ่งที่เคยเห็นในหนังเรื่องก่อนๆของเขา (ที่น่ารักมาก คือในกลุ่มสิ่งแปลกปลอมที่กลายมาเป็นความคุ้นเคยในงวดนี้ มีไม้ช็อตแมลงอยู่ด้วย) จนเหมือนหนังลุงบุญมีเป็นการรวมฮิตครั้งใหญ่ของอภิชาติพงศ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นักแสดงสามคนในฉากช่วงท้ายๆ ที่มาจากหนังสามเรื่อง และขึ้นจอด้วยชื่อเดิมจากหนังทั้งสามเรื่อง คือรุ่งจากสุดเสน่หา โต้งจากสัตว์ประหลาด และป้าเจน จากแสงศตวรรษ (ซึ่งป้าเจนไม่น่าจะเป็นคนเดียวกับในสุดเสน่หา เพราะตอนนั้น เธอรับบทเป็นพี่อร และโต้งอาจเป็นหรือไม่เป็นคนเดียวกับพระในแสงศตวรรษ เพราะพระรูปนั้นชื่อศักดา ซึ่งเป็นชื่อจริงๆของนักแสดง) ทำให้เห็นจุดประสงค์ว่างานชิ้นนี้ของอภิชาติพงศ์คือการหยุดทบทวน และดึงจุดเด่นของงานตัวเองมาเรียบเรียงใหม่ให้ชัดเจนอีกรอบหนึ่ง และสะท้อนตัวตนของเขาผ่านตัวละครในหนังคือลุงบุญมี โดยมีชาติต่างๆเป็นตัวแทนหนังเรื่องก่อนๆ (คล้ายๆกับกรณีของหว่องการ์ไวกับ 2046 ที่เป็นการทบทวนผลงานก่อนๆของตัวเอง โดยผ่านตัวละครเหลียงเฉาเหว่ย และให้ผู้หญิงในหนังเป็นตัวแทนหนังเรื่องก่อนๆ)

ดังนั้น เอาเข้าจริงๆแล้ว ลุงบุญมีระลึกชาติ อาจเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าอภิชาติพงศ์ระลึกชาติ ก็คงไม่เกินความจริงนัก

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
สุดเสน่หา
2046


Create Date : 29 มิถุนายน 2553
Last Update : 29 มิถุนายน 2553 20:23:46 น. 4 comments
Counter : 1147 Pageviews.

 
รบกวนฟันธงให้หน่อย
ว่าหนังดูยากไหม
กำลังคิดว่าจะไปดูดีหรือเปล่า


โดย: kanit2425 วันที่: 29 มิถุนายน 2553 เวลา:20:59:53 น.  

 
ดูไม่ยากครับ แต่ไม่ใช่เรื่องสนุกของคนดูหนังทั่วๆไปที่อยากไปดูเพราะติดป้ายรางวัลปาล์มดอร์จากคานส์ หรือไม่เคยดูหนังแนวนิ่งๆ ครุ่นคิดอะไรแบบนี้มาก่อน เชียร์ให้คนไปดูครับ แต่คนดูควรมีประสบการณ์กับหนังพี่เจ้ย หรืออย่างน้อยก็หนังสไตล์แบบนี้มาก่อน หรือถ้าไม่มีประสบการณ์ ก็ควรเป็นคนพร้อมเปิดรับกับหนังแนวนี้ และไม่ต้องคาดหวังอะไรมาก

แต่ถึงกระนั้น ก็ไม่การันตีว่าคนดูที่พร้อม จะต้องชอบหนังเรื่องนี้ทุกคน ส่วนตัวผมก็ไม่ได้ชอบอะไรมากมาย ถ้ามองในแง่ความสนุกในการดู แต่การที่ได้การบ้านติดหัวออกไปคิดต่อหลังดูจบ ก็มาชดเชยกันได้ แล้วก็เป็นการแก้เลี่ยนจากหนังประเภทดูจบแล้ว ก็จบเลยได้ดีครับ


โดย: wu IP: 125.26.148.139 วันที่: 30 มิถุนายน 2553 เวลา:0:28:45 น.  

 
เห็นด้วยครับ ดูหนังของอภิชาติพงศ์ ดูหนังจบ แต่มันจะยังไม่จบที่เรา เหมือนมันซึมเขาไปในตัวเรา อย่างช้าๆไม่ได้ยัดเยียดเข้ามาแบบหนังตลาดทั่วไป บางครั้งก็ไม่ต้องเข้าใจทุกซีนหรอกคับ ผมว่าหนังเขาเรียบง่ายนะ แค่อย่าไปคาดหวัง เปิดใจ ดูแค่ว่าเรารู้สึกยังงัยกับหนัง..ก็พอ


โดย: หวาน ฟุ้ง วันที่: 15 กรกฎาคม 2553 เวลา:10:05:47 น.  

 
ดูแล้วงง ไป สามวันแปดวัน


โดย: Pu121 IP: 58.10.61.19 วันที่: 4 มกราคม 2554 เวลา:16:26:36 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

I'm wu
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add I'm wu's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.