Ever-Snow Company บริษัทป่วนก๊วนคนป่า (หิมพานต์) เล่ม 1-2  by Ri-ne, Penguin Lord, Dreamworm (Illustrator)

สำนักพิมพ์ Nabu นิยาย Y

จำนวนหน้า 367 + 357 = 725 หน้า

คำโปรย...

“หิมพานต์เนี่ย ใช่ที่เป็นถั่วเคี้ยวแล้วมันๆ หรือเปล่าครับ”

ผม...นายรัตติภัทร ไอ้หนุ่มตกงาน แฟนทิ้ง เมาค้าง ซ้ำยังตื่นมามีเด็กหนุ่มปริศนานอนเปลือยอยู่ข้างๆ ได้ถูกโชคชะตาเล่นตลกต้องกลายมาเป็นพนักงานประจำแผนกไอทีของ 'ES Company' ที่วันดีคืนดีก็มีศพปริศนา ตัวประหลาดหยึกหยึยวิ่งไล่ตาม และเจ้านายที่ยิงพลังทางฝ่ามือได้ เท่านั้นยังไม่พอ...

“บอสจะบอกว่าเพื่อนร่วมงานผมเป็นครุฑเป็นนาคหรือยังไงกันครับ”

“ถูกต้องครับ”

แล้วการผจญภัยขึ้นสวรรค์ลงนรก (แบบตรงตามตัวอักษร) ของพนักงานประจำแผนกไอทีแห่งบริษัทหิมพานต์อย่างผมก็ได้เริ่มต้นขึ้น แถมระหว่างนั้นก็มีเด็กฝึกงานอย่าง ‘กิรณ’ มาคอยทำให้หัวใจของผมหวิดจะหยุดเต้นอีก

ลาออกตอนนี้ยังทันไหมครับเจ้านาย!

————— หลังอ่าน —————

รัตติภัทร vs กิรณ

เป็นนิยายวาย แฟนตาซีไทย ในบรรยากาศปัจจุบัน

การดำเนินเรื่องใช้ตัวเอก คือรัตติภัทรเป็นคนเล่าเรื่อง

ตัวละครส่วนใหญ่เป็นสิ่งมีชีวิตในหิมพานต์กึ่งมนุษย์ มีพวกเทพ มีนรก มีสวรรค์ให้บรรดาตัวละครไปวิ่งเล่น ในขณะที่เทคโนโลยีก้าวไกล แบบมีอินเตอร์เน็ตในนรกได้ อะไรแบบนี้อะนะ

ตัวชูโรงก็คือ บริษัท ES company เป็นแหล่งรวมลูกหลานเชื้อสายมนุษย์กึ่งๆ ทั้งหลายแหล่ มาทำงานที่นี่

รัตติภัทร เป็นมนุษย์ ปกติเพียงคนเดียวที่ได้เข้าไปทำงานที่บริษัทนี้ ... ไม่รู้ว่าควรจะดีใจไหม แต่จะให้ถอนตัวก็ไม่ทันซะแล้ว

…

เรื่องราวก็จะค่อนข้างวุ่นวายนิดนึง จริงๆ ตอนอ่านเล่มแรกเรายังจับประเด็นไม่ค่อยได้ ว่าพล็อตมันจะไปทางไหน

เนื่องจากความเป็นแฟนตาซี เลยต้องมีการปูพื้นให้คนอ่านเข้าใจในความซ้อนทับของโลกปัจจุบัน ก็การคงอยู่แบบซ้อนมิติของ ES company หิมพานต์ นรก สวรรค์ อะไรพวกนี้ ไปพร้อมๆ กับตัวรัตติภัทร รวมถึงการเริ่มทำความรู้จักตัวละครต่างๆ ซึ่งมีเยอะพอสมควร ทำให้เล่มแรกดูเหมือนเรื่องราวจะไปอย่างช้าๆ

สารภาพว่าเราอ่านเล่มแรกนานมาก คือมันอ่านไม่ติดอะ พออ่านไปนิดนึงก็วาง แล้วเอาเรื่องอื่นมาอ่านก่อน กว่าจะจบเล่มแรกได้นี่ก็ต้องปลุกปลอบตัวเองอย่างมาก

พอท้ายๆ เล่มแรก ไปจนถึงเล่มสอง เรื่องราวค่อยมีสีสัน มีทิศทางให้เห็นชัดเจนขึ้น เราได้เห็นเป้าหมายของเรื่อง ก็เลยค่อยอ่านได้เร็วขึ้น แต่ก็รู้สึกว่าจบเร็วไป มันเหมือนกับมาเร่งกันตอนท้าย มันก็เลยจะงงๆ หน่อย

ดีที่มีตอนพิเศษ ... ซึ่งมีหลายตอน รวมทั้งหมดความหนาของมันเกินครึ่งของเล่มสองอีกแน่ะ แล้วเราก็ชอบตอนพิเศษมากเลย มันมีเรื่องราวความรักของคู่รองทั้งหลาย

และเหมือนเป็นการเฉลยปมบางอย่างในเรื่องให้กระจ่างขึ้น

…

อารมณ์โดยรวมของเรื่องคือคอมเมดี้ ตัวรัตติภัทร ซึ่งเป็นตัวดำเนินเรื่อง เขาก็เล่าเรื่องในมุมของเขา ใส่ความคิดความเห็นของเขามา มันออกแนวฮาๆ รั่วๆ แต่ถึงตอนดราม่าก็เล่าซะเราเจ็บตามไปด้วยเลยค่ะ

ชื่นชมนักเขียนตรงทำการบ้านมาดี สำนวนดี มีสอดแทรกบทกลอน จากวรรณคดีไทยหลายเรื่อง จับมาโยงเข้ากับเรื่องราวของตัวละครได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ