ในที่สุดก็ได้เริ่มสร้างบ้านใหม่ซะที
แม่อยากจะให้ปาป๊าสร้างบ้านใหม่มาหลายปีแล้ว แต่ปาป๊าก็ยังไม่ยอมสร้างบ้านซักทีเพราะมีความคิดว่าการสร้างบ้านคือการจมทุน เอาเงินที่จะสร้างบ้านไปหาช่องทางลงทุนทำอะไรดีกว่า แม่เคยงอนกับปาป๊าหลายทีแล้วเรื่องจะสร้างไม่สร้าง และในที่สุดปาป๊าก็ยอมสร้างบ้านเพราะคำพูดของแม่ ที่แม่พูดไว้ว่า ลูกเราคนโตก็อายุ 6 ขวบแล้ว เวลาที่จะอยู่มีความสุขกับเราที่บ้านนั้นมีอีกไม่นาน อีกทั้งเราก็จะส่งลูกไปเรียนที่สิงคโปร์ช่วง ม ปลาย อีก แล้วปรกติเด็กผู้ชายถ้าเข้าช่วงวัยรุ่น 13-14 ปี ก็ไม่ค่อยอยากจะอยู่บ้านแล้ว หลังจากนั้นเค้าก็จะมีชีวิตส่วนตัวของเค้า ไหนจะมีแฟน แล้วก็แต่งงาน มีครอบครัวของตัวเองไป ดังนั้นเวลาที่เราจะอยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตาตลอดเวลามีความสุขที่บ้านนั้นมีเหลือเวลาอีกเพียง 10-15 ปีเท่านั้นเอง แล้วเราก็อยากจะให้ม๊า มาอยู่ด้วยกันด้วยอีกด้วย เวลามันผ่านไปเร็วนักจะทำอะไรก็รีบๆ ตัดสินใจ หลังจากที่แม่พูดประเด็นนี้ขึ้นมา ปาป๊าก็เลยเปลี่ยนความคิด พร้อมที่จะสร้างบ้านทันทีเลย ^_^ ถูกใจแม่เลย รู้แบบนี้พูดประเด็นนี้ขึ้นมาตั้งแต่ สองปีก่อนดีกว่า ฮิฮิ
ที่ที่เราจะไปสร้างอยู่ที่สนามกอล์ฟ lakewood เป็นพื้นที่ 340 ตรว ซื้อไว้ตั้งแต่แต่งงานกันใหม่ๆ แล้วน่ะ แต่ตอนนั้นปาป๊ากับแม่ยังอยู่ที่คอนโดที่พระราม 3 อยู่เลย จึงยังไม่ได้คิดที่จะสร้างอะไรในตอนนั้นปล่อยให้เป็นที่ดินเปล่าไว้ก่อน แล้วเมื่อโปรอายุได้ 3 ขวบก็ต้องไปโรงเรียน TCIS แล้วเราจึงย้ายมาอยู่ที่หมู่บ้านสีวลี เพื่อรอสร้างบ้าน
เมื่อเราตัดสินใจจะสร้างบ้านแล้ว แม่กับปาป๊าก็มาช่วยกันคิดว่า บ้านแบบไหนที่จะเป็นบ้านที่เราชอบกัน แล้วก็ได้ข้อสรุปว่า จะเป็นบ้าน modern style แต่ว่าชั้นบนสุดจะมีดาดฟ้า แล้วมีหลังคากันฝนไว้บนนั้นด้วยเผื่อว่าอยากจะจัด party หรือชมวิวการแข่งกอล์ฟเล่นๆ เพราะมุมนั้นจะเห็นเค้าตีกอล์ฟไปที่หลุม 8 พอดีเลยเป็นจุดชมวิวที่สวยพอใช้ได้
ตอนแรกปาป๊าจะให้บริษัทรับสร้างบ้านเป็นผู้สร้างบ้านให้เราเลย เพราะว่าง่ายดี รู้ราคาที่แน่นอน คุมงบอยู่ และไม่ต้องเหนื่อยมาก แล้วแม่ก็ตะเวนไปคุยกับบริษัทรับสร้างบ้านหลายๆ ที่แต่ก็ยังไม่เจอบริษัทไหนที่มีแบบบ้านที่ถูกใจแม่เลย อีกทั้งราคาของบริษัทรับสร้างบ้านเหล่านี้ เป็นราคาที่หากว่าเราสร้างเองน่าจะประหยัดเงินไปอีกหลายล้านบาทเลยแหละ แม่ก็เลยตัดสินใจว่า แม่จะยอมเป็นคนที่เหนื่อยเอง และคุณยายก็จะมาช่วยเหนื่อยด้วยอีกคน เพื่อที่จะหาผู้รับเหมามาสร้างบ้านให้เราเอง เมื่อตัดสินใจแบบนี้แล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือการหาแบบบ้านในดวงใจให้เจอให้ได้
แล้วแม่ก็ไปเจอกับบริษัทนึงที่มีแบบบ้านคล้ายๆ กับแบบที่เราต้องการ บริษัทนี้เป็นบริษัทออกแบบโดยเฉพาะ ไม่รับสร้างบ้าน ดังนั้นราคาแบบบ้านที่เค้ามีอยู่แล้วนั้นจะเป็นราคาที่ไม่ค่อยแพงนัก เพราะว่าไม่ต้องให้เค้าทำแบบขึ้นมาใหม่ ครั้งแรกที่เราไปคุยกันที่บริษัทของเค้า ปาป๊านั้นก็ถูกใจถึงขั้นว่าเกือบจะเซ็นสัญญากันเลยแหละ แต่แม่เบรคไว้ก่อน บอกว่าขอไปปรีกษากันอีกที เพราะแม่ยังอยากจะหาบริษัทอีกซักทีมาเปรียบเทียบดู แต่สุดท้ายเวลาผ่านไปหนึ่งอาทิตย์ แม่ก็ยังไม่ได้หาบริษัทไหนได้เลย แม่ก็เลยชวนคุณยายไปคุยกับบริษัทนี้อีกครั้งเพื่อช่วยสร้างความมั่นใจให้กับแม่ว่าแม่คงเลือกไม่ผิดแล้วแหละ ตอนแรกคุณยายก็พูดว่าแบบบ้านราคาแพงไป แต่เมื่อคุณยายได้ไปคุยกับเค้าแล้ว คุณยายก็เลยไฟเขียวบอกว่าใช้บริการแบบบ้านของเค้าได้เลย เพราะเค้าพูดดูดีมีหลักการ ให้คำแนะนำต่างๆ ได้ดี และดูไม่หน้าเลือดเกินไปด้วย
วันที่ 5 มิถุนาคม 2553
ป้าเป้ แม่ของพี่กะทิ บอกว่าเป็นวันดีมากๆๆ น่ะ ถ้าคิดจะสร้างจะทำอะไรก็ให้ทำได้ในวันนี้ แม่กับปาป๊าก็เลยคิดว่าเราควรจะเข้าไปไหว้ขอเจ้าที่เจ้าทางที่ที่ดินเราหน่อยดีไม๊ บอกเค้าหน่อยว่าเราจะเริ่มสร้างบ้านตรงนี้แล้วน่ะ ถึงวันนั้นจริงๆ แล้วปาป๊าต้องไปพัทยากับเพื่อนของปาป๊า แต่ก็ไม่เป็นไร ไปไหว้ก่อนแล้วค่อยแยกย้ายกันก็แล้วกัน งานนี้แม่กับปาป๊าก็ไม่รู้ว่าปรกติเค้าต้องทำยังไงกัน ก็เลยแค่จุดธูปกันคนละดอก ปาป๊า แม่ พี่โปร และ น้องแพค แล้วก็ไหว้อธิฐาน แค่นั้นเอง
การจะสร้างบ้านขึ้นมานั้นอีกสิ่งนึงที่ขาดไม่ได้ก็คือการให้ซินแส มาช่วยดูเรื่องฮวงจุ้ย ให้หน่อย ปาป๊าได้เชิญให้สินแซกายและพี่เอ เข้ามาช่วยดูแลให้ โดยได้รับการแนะนำมาจากพี่ Audy เพื่อนของปาป๊านั้นเอง ซินแสคนนี้พี่ Audy นับถือมากเพราะเคยให้ไปดูฮวงจุ้ยให้กับร้าน salon ตอนแรกร้านไม่ค่อยมีคนเท่าไหร่ก็เลยอยากได้ลูกค้าเยอะๆ แน่นๆ ร้าน ซินแสก็ไปดูให้แล้วบอกว่าถ้าแก้ให้น่ะ ร้านที่อยู่ฝั่งตรงข้ามอาจจะเจ็งไปเลยน่ะ (ดูเหมือนใจร้ายแต่ร้านฝั่งตรงข้ามเป็นร้านดังมีหลายสาขาอยู่แล้วปิดไปร้านนึงก็ไม่กระทบกับองค์กรของเค้าหรอกเพราะเค้าเงินเยอะ คิคิ ) แล้วพอแก้ฮวงจุ้ย เอาโน้นนี้มาวาง ต่อมาเวลาผ่านไปประมาณสามเดือน ร้านเพื่อนคนแน่นเลยค่ะ แล้วฝั่งตรงข้ามปิดไปจริงๆ เลยอะ
พี่กายกับพี่เอมาดูให้ โดยคิดค่าอั่งเปา 10,000 บาท ปาป๊าบอกว่าคุ้มค่ามากๆๆ เพราะพี่เค้าช่วยให้คำปรึกษาในการออกแบบบ้าน วางแผนผังบ้านที่ดี จุดมุมไหนควรมีห้องอะไรอยู่ ตรงไหนอยู่แล้วเจริญ ตรงไหนเป็นมุมที่ไม่ดีควรจะทำยังไงกับจุดนั้น ซินแสจะช่วยดูแลให้หมด
ใครใครถ้าพูดถึงซินแสนั้น อาจจะนึกว่าน่าจะเป็นคนที่ดูมีอายุ หน้าตาเรียบร้อยๆ แต่นี่ไม่เลยซินแสกาย หรือเราเรียกว่าพี่กาย และพี่ เอ นั้น ดูน่ารักเป็นกันเองและมีบุคลิกโดดเด่นประมาณว่าหนุ่มผมยาวเลยแหละ เวลาที่พี่กายพูดอะไร พี่เอก็จะคอยจด เผื่อว่าเราจะจดไม่ทัน เราคุยกับพี่กายและพี่เอ ตั้งแต่ 11 โมง จนถึงบ่าย 3 นานมากๆ คุยกันไปเรื่อยๆ พี่กายก็จะคอยแนะนำสิ่งต่างๆ ให้ แต่คำพูดคำนึงที่พี่กายพูด และถูกใจปาป๊ามากๆๆ นั้นก็คือ อยากทำอะไรก็ทำอยากสร้างอะไรก็สร้างเอาที่เราพอใจเพราะทุกอย่างมันแก้ไขได้หมดแหละ ปาป๊าบอกว่าการปลูกเรือนตามใจผู้อยู่ ปลูกอู่ตามใจผู้นอน นั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ไม่ใช่ต้องให้เราแก้ไขไปหมดจนสุดท้ายบ้านกลายเป็นบ้านที่ไม่ถูกใจเราไปแต่ต้องทนอยู่เพราะเชื่อเรื่องฮวงจุ้ยมากเกินไป
หลังจากที่คุยกับพี่กายเสร็จแล้ว เราก็เล่าให้ฟังว่าวันก่อนเราเพิ่งจะมาไหว้บอกเจ้าที่เจ้าทางว่าเราจะเริ่มสร้างบ้านแล้ว เพราะวันก่อนนั้นเพื่อนบอกว่าเป็นวันดี แต่พี่กายบอกว่าวันที่ 13 มิถุนา 2553 ก็เป็นอีกวันนึงที่ดีมากๆๆ เหมือนกัน ให้เรามาไหว้อีกซักทีก็แล้วกันน่ะ พวกเราก็เลยต้องทำตาม แบบว่าไม่เชื่ออย่าลบหลู่ เค้าบอกมาถ้าไม่ลำบากอะไรก็ทำซะ ฮิฮิ
Create Date : 06 กรกฎาคม 2553 |
Last Update : 6 กรกฎาคม 2553 23:48:01 น. |
|
6 comments
|
Counter : 1707 Pageviews. |
|
|