Bloggang.com : Pleng-Ticha-korn : เหตุผล"ผัวเมียนักศึกษา"- ยังอยู่

เหตุผล"ผัวเมียนักศึกษา"- ยังอยู่

สองคนผัวเมียนักศึกษา กับคำถามของสังคมวันนี้
...

มีความคิดเห็น และมีเหตุผลอย่างไรเมื่อต้องมาอยู่กินกันในหอพัก
หรือ อพาทต์เมนท์ ฉันฑ์ สามี-ภรรยา เพียงสองต่อสองโดยลำพัง
ในขณะที่ยังศึกษาอยู่

คำตอบที่น่าฟัง จากลูกหลานของเราวันนี้
...

เราเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่ง ที่ต้องเข้ามาศึกษาต่อที่กรุงเทพ
ไม่มีญาติ ไม่มีเพื่อน ฐานะทางบ้านก็ค่อนข้างยากจน
พ่อกับแม่ทำงานหาเช้ากินค่ำ หาเงินส่งให้เรียนแทบไม่พอ
แต่ก็ต้องทน เพียงเพื่อต้องการให้ได้เรียนเท่านั้น

อยู่นี่ ต้องทน ... เพราะไม่มีใครเลยจริงๆ ทุกอย่างต้องใช้เงินทั้งนั้น
ไม่มีเงินก็อดตาย ใหนจะค่าหอพัก ค่าอาหาร ค่าน้ำ ค่าไฟ จิปาถะ
ต้องใช้ความอดทนอย่างสูงในการดิ้นรนเพื่อให้ได้อยู่ ได้เรียน
ต้องอยู่กินกัน ใช้ชีวิตแบบปากกัด ตีนถีบ

ไม่มีใครเลยจริงๆ เจ็บป่วยทีก็ไม่รู้จะหันหน้าไปทางใหน
จะเลิกเรียนไปเลยก็สงสารพ่อแม่

แต่บังเอิญได้เจอผู้ชายแสนดีคนหนึ่ง เรียนอยู่มหาวิทยาลัยเดียวกัน
เขาเป็นทั้งเพื่อน ทั้งพี่ เป็นคนรัก ช่วยให้ในส่วนขาด
เราอยู่กันด้วยความรัก ช่วยกันแชร์ค่าห้อง ค่าอยู่ค่ากินในแต่ละมื้อ
ต้องเลือกหรือที่จะต้องเป็นคนดีที่สุด ในขณะที่เราหมดทางเลือก
และไปใหนต่อไม่ไหว เราเลือกที่จะเรียนต่อเพื่อความหวังของพ่อแม่
และอนาคตของตัวเราเอง ถึงทางเลือกของเราคือความชั่วร้าย
ของสังคมก็จริง แต่นั่นมันคือหนทางแห่งความสำเร็จของการศึกษา
ที่รออยู่สำหรับเราข้างหน้า "เราอยู่กันที่นี่ด้วยความรัก และความเข้าใจ" ...
...

การอยู่หอพักสตรี ดีมากๆ ที่สามารถควบคุมพฤติกรรม เสี่ยงๆ
"ชิงสุกก่อนห่าม"
แม้จะไม่ 100% แต่จากประสบการณ์การเป็นเด็กหอพัก และเด็กห้องเช่ารวม
เด็ก จะ เสีย เพราะ การ เลือกเพื่อน เรียนไปได้ 1 เทอม ก็เริ่มมีคนมาจีบแล้ว
มีทั้งเพื่อน มีทั้งรุ่นพี่ และมีทั้ง

"จิ้งจอก-คร่าสวาท"

โปรดจับตาดูลูก-หลานเมื่อเริ่มเรียนเทอม 2 ของปี 1 ให้ดี
โปรดจับตาดูลูก-หลานเมื่อเขาและเธอขึ้นปี 2 ให้ชัดเจนมากที่สุด

เป็นช่วงที่เด็กๆหลายคน เริ่ม ไม่ใช่เด็กดีของพ่อ-แม่อีกต่อไป
ค่านิยมในยุคปัจจุบันการต้องมีแฟน การต้องมีกิ๊กหลายๆคน
การต้องเที่ยวดึกๆ ต้องสูบ-ดูด ต้องเป็นอิสระไม่โดนกำกับเรื่องเวลา
การแต่งตัวให้ทันสมัยให้เดิ้ร์นๆ การใช้ของ Brand ดัง
ราคาต้องแพงๆ ถึงจะไม่น้อยหน้าใคร

อย่าให้ลูก-หลานเป็นคนประเภท "วัตถุนิยม"
ไม่เช่นนั้น อาจจะกลายเป็น "พ่อ-แม่ รังแกฉัน" ได้เลยหละ

ทุกอย่างอยู่ที่ใจของเด็ แม้ครอบครัวสอนให้ดี ก็แค่ช่วยได้บ้าง
เด็ก "ชิงสุกก่อนห่าม" มีทุกสถาบัน
...

จากเพื่อน

แพรวก็อยู่หอพักค่ะ เลือกที่จะอยู่คนเดียว
เพราะพอที่จะจ่ายค่าหอคนเดียวได้
แถวนั้นมีบ้านญาติอยู่เยอะด้วย ก็เลยไม่ค่อยลำบากอะไร
มีเพื่อนหลายคนค่ะ ที่อยู่กันแบบสามี ภรรยา เพื่อนแพรวก็เยอะค่ะ
โดยมากแล้ว พ่อแม่จะไม่รู้ หรือที่รู้ก็มี แต่น้อยค่ะ เหตุผลอย่างอื่นไม่รู้
ที่รู้ก็คือ เค้าบอกว่า "ก็รักกันอยุ่ด้วยกันไม่เห็นแปลก "
แค่นี้ที่เคยถาม แล้วได้คำตอบ จากนั้นก้ไม่เคยละลาบละล้วงอะไรอีก
แต่บางทีเราต้องรับกรรมนะคะ เป็นบาปที่น่าละอาย ที่ต้องช่วยแก้ตัวให้เพื่อน
และหลอกพ่อแม่ของพวกเค้า แย่จังเลย จะไม่ช่วยก็ไม่ได้ คบกันมานาน
ได้แต่คอยเลี่ยงๆค่ะ แต่บางทีก็ไม่พ้น

เอาเป็นว่าต่างคนต่างความคิด อยู่ด้วยกันแล้วดีก็อยู่ไปค่ะ
ถ้าไม่ทำให้เสียอนาคต ไม่เสียการเรียน และไม่เสียแรงที่พ่อแม่อุตส่าห์ส่งเสีย
แต่ก็ไม่ได้สนับสนุนนะ เอาชนะใจตัวเองได้ นั้นหล่ะดีที่สุด

...

สวัสดีค่ะ ฉันก็เป็นอีกคนที่หัวโบราณและไม่เห็นด้วย
แต่ก็ยังมีใจอีกด้านที่ยังรับฟังเหตุผลค่ะ

ที่จริงแล้วการอยู่ด้วยกัน พึ่งพาอาศัยกันก็เป็นเรื่องที่ดี
ถ้าทั้งสองคนทำในสิ่งที่ดีเช่น ช่วยเหลือกันทั้งด้านเงิน ด้านการเรียน
ด้านความเป็นอยู่และการวางตัว ถึงลำบากก็ยอมเพื่อที่จะได้เรียน
ถึงจะอยู่ด้วยกันก็น่ายกย่องมากกว่าเด็กบางคน
ที่เห็นการอยู่ด้วยกันเป็นเรื่องสนุก เป็นแฟชั่น
เด็กที่มองแบบนี้มันจะมองเห็นเรื่องของความสุข
มากกว่าจะคำนึงถึงความทุกข์ เลยมักจะทำแต่เรื่องสนุกเช่น เที่ยว กิน
ไม่สนใจเรียน อะไรที่ลำบากก็ไม่ยอมทำ ใช้เงินอย่างสนุก

บางคนพ่อแม่ส่งเงินมาให้แบบที่อยู่คนเดียวก็ได้อย่างสบาย
แต่ก็ยังไม่พอใจ ก็ต้องหาคนอยู่ด้วยเพื่อนำงานส่วนที่เหลือ
ไปใช้ส่วนที่ฟุ่มเฟือย เพราะฉะนั้น บางคนดี บางคนก็ไม่ดี
พ่อแม่ต้องมาดูลูกบ่อยๆ อย่าวางใจ เพราะเด็กก็คือเด็ก
ความคิดและสติปัญญาเขายังไม่โตพอที่จะคิดว่าอะไรควรไม่ควร
อย่าไว้ใจเขามากไป แต่ก็ไม่ได้ให้ระแวงจนน่าเกลียด
เอาเป็นว่า เดินทางสายกลางนะคะ

...

ก็นับว่าเป็นเรื่องที่พบเห็นได้ในสังคมปัจจุบัน
เจนก็ไม่เคยอยู่หออ่ะจ้า แต่ก็มีคนเคยเล่าให้ฟังว่า
ส่วนใหญ่จะอยู่กับแฟน หรือไม่ก็อยู่กะเพื่อน
เค้าก็ว่าชีวิตมันไม่ได้สวยงามเสมอไป แม้จะบอกว่าอยู่กันด้วยความรัก
ความเข้าใจ แต่จริงๆมันคงต้องคิดถึงอะไรที่มากกว่านั้น
ถ้าพ่อแม่รู้เค้าจะรู้สึกอย่างไร เสียใจไหม

เจนว่าเค้าคงไม่ยอมให้ลูกต้องมาแลกอะไรแบบนี้
ถ้าพ่อกะแม่เค้ารู้แต่ส่วนใหญ่มักไม่รู้เนี่ยดิ

แต่ก็ไม่ได้ว่าพวกเค้าจะเป็นคนไม่ดีอะไร ล้านคนล้านเหตุผล
ถ้าทำแล้วมันไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนเสียใจก็ทำไป
รับผิดชอบตัวเองและผลที่ตามมาได้ ก็พอแล้วหล่ะ

...

ทราบมาว่าลูกคุณจะเข้ามหาลัย คงเป็นห่วงน่าดูนะคะ
พ่อแม่หนูก็เช่นกัน หนูเคยไปอ่านเจอในหนังสือพิมพ์ค่ะ
เค้าไปสัมภาษณ์นักศึกษา ชาย หญิงที่อยู่ด้วยกันค่ะ
เค้าก็ถามฝ่ายหญิงที่อยู่กับแฟนว่า รู้สึกยังไงที่อยู่กะแฟนตัวเองขณะเรียน
ผู้หญิงตอบว่า ก็ดีที่มีคนคอยดูแลปกป้องเรา

แต่พอถามมฝ่ายชาย กลับบอกว่า ก็ดีที่มีคนซักเสื้อผ้ารีดผ้าให้
ช่วยทำงานส่งอาจารย์ ตอนที่อ่านอึ้งไปเลยคะ
อยากให้นักศึกษาหญิงที่อยู่กับแฟนมาอ่านเจอจังค่ะ
เค้าคงจะคิดได้
...

...

จริงๆก็มีมานานแล้วหละว่ามั๊ย...คะ...?...เรื่อง "ชิงสุกก่อนห่าม" แบบนี้!
POP มาเรียนม.รามคำแหง เมื่อปี 2532 ก็เห็นว่ามันเริ่มมีอยู่เป็นคู่ๆแล้ว
ไม่ใช่แค่เด็กรามฯ แต่... นักศึกษา..ผัว-เมีย..สถาบันอื่นๆก็มาเช่าอยู่หน้ารามฯ
เริ่มจากห้องเช่าแบบบ้านไม้ ในซอยรามคำแหง 53 ..น่าจะบอกได้ว่าซอยนี้
เป็น "แหล่ง..ต้นตำหรับ"

แหล่ง..ต้นตำหรับ............."ห้องเช่าผัว-เมีย(นักศึกษา)"
ซึ่งไม่นานนัก...บรรดาบ้านไม้...ห้องเช่า...เหล่านั้น
ก็พัฒนาการ..........................มาเป็น Apartment
ทีนี้หอพัก...ละแวกรามคำแหง และที่อื่นๆ...ก็เลยหดหาย
หอพักหญิง...อย่างที่POP เคยพักเดือนละ 500 บาท แบบสมัยก่อน..
เดี๋ยวนี้แทบไม่มีแล้ว...............................น่าจะสูญพันธุ์แล้วนะ

ก็ Apartment สมัยก่อนน่ะ ราคา แค่เดือนละ 1300-1500
พวกซ่าๆ.......แสบๆ.....................11-ร.ด. ก็..เช่าไว้เป็นคู่ๆ-คู่ๆ
คู่ ญ.-ญ. และ ช.-ช. แล้วเมื่อถึงเวลา......ก็สลับคนอยู่-สลับเพศซะ!
เวลาแม่-พ่อ..............................มาจากต่างจังหวัดก็..............นะ!!!

~~~**~~กว่าพ่อ-แม่จะรู้....ลูก ญ. ของตัวเองเป็นไง?
ก็อาจจะ....นู๊น....ลูก ญ...................... ได้แต่งงานนู่นแน่ะ!
แต่งงานครั้งที่1.......แต่สามีของลูกไม่ใช่แค่คนที่1 ที่ 2 หรือที่ 4-5
เห็นเพื่อนในซุ้ม..ฯ ที่หน้าตาสวยๆก็เป็นเงี้ยะค่ะ!! เรียน 4 ปี กว่าจะเรียนจบ!
แต่ก็ยังดีนะคะ....ที่เรียนจบเพราะบางคน..ก็ท้องซะก่อนตั้งแต่เทอมที่ 2 ของปี 1
อันเนื่องมาจาก.."วัย....กะลัง...????"

พ่อแม่อาจจะสอนมาดี...เข้มงวดมากๆ หรืออาจจะปล่อยปละละเลย
แต่ทุกอย่าง...อยู่ที่ตัวของลูกเราค่ะ
เง้อ...!....เศร้าใจ...ไม่มีลูก(สาว)หรอกค่ะ แต่มีหลานสาว
....โตขึ้นมา...จะรอดพ้นปากเหยี่ยวปากกามั๊ย?
แต่ POP ว่านะ...สอนให้ลูกไม่ Innocent มากเกินไป สอนให้ทันคนน่ะดีกว่ามากๆ
ในมหาวิทยาลัย....(น่าจะทุกที่)............................มีจิ้งจอก...เกลื่อนค่ะ
เคยเจอมากับตัวเอง..............................ไอ่พวกรุ่นพี่...ที่แสนดีนี่หละ!!!
ตัวจ้อง......จะ....คร่า......."สวาท"...รุ่นน้องเลยหละ!

เรื่องการหาร "ค่าห้อง" เดี๋ยวนี้....คุณก็แทบจะตามไม่ทัน
พวกเล่นหารกัน 4 คน....................................2 ช.- 2 ญ.
เล่นกันนัว......มั่ว-ซั่ว................................ตามสูตรหละค่ะ
โอ๊ย....!!!....เด็กยุคนี้...สาระพันรูปแบบ อย่าไปรู้มากมายเลยค่ะ
เรียนไม่จบก็ให้มันกลับไปอยู่บ้าน ให้พ่อ-แม่...ก้มหน้าเลี้ยงลูก
"คRxxๆๆ"...................กันต่อไป

........................กรรมจริงๆ............................

Create Date : 25 สิงหาคม 2550

Last Update : 20 กันยายน 2550 22:09:18 น. 0 comments

Counter : 242 Pageviews.

Share
Tweet