Don't Worry, Be Happy

<<
พฤษภาคม 2552
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
21 พฤษภาคม 2552
 

Title: วันที่ใจอ่อน

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านได้มา ผมได้มีโอกาสไปทำบุญ ณ สถานที่แห่งหนึ่งมาครับ เรื่องของเรื่องก็คือว่า เมื่อบ่ายวันทำงาน ผมกำลังนอน เอ่อ...นั่งหาวหวอดอยู่ที่โต๊ะทำงานของผม เสียงโทรศัพท์บนโต๊ะก็ดังขึ้น...

“วันเสาร์ว่างไหม ไปทำบุญกัน แผนกเราไปทั้งแผนกเลย” เป็นเพื่อนสาวต่างแผนกเจ้าเก่าของผมนั่นเองที่โทรมา
“ที่ไหนล่ะ...แต่ฉันไม่เข้าวัดนะ กลัวร้อน” ผมตอบแบบที่เล่นทีจริงไป
“เห็นบอกว่าเป็นบ้างสงเคราะห์เด็กพิการซ้ำซ้อนน่ะ รายละเอียดไว้นัดคุยกันวันหลัง...”

นั่นคือที่มาของการที่ผมได้มีโอกาสไปทำบุญครั้งยิ่งใหญ่ในครั้งนี้

สถานที่ที่พวกเราไปทำบุญนั้น คือ “สถานสงเคราะห์เด็กอ่อนพิการทางสมองและปัญญา (บ้านเฟื่องฟ้า)” ครับ ซึ่งรับผิดชอบในการอุปการะเลี้ยงดูเด็กอ่อนพิการทุกประเภท ทั้งชายและหญิง ตั้งแต่อายุแรกเกิด ถึง 7 ปี จากการเรี่ยไรเงินทำบุญจากคนทั้งบริษัท พวกเราก็แบ่งเงินนั้นส่วนหนึ่งเพื่อไปซื้อแพมเพิร์สมาจากโรงงาน แล้วก็อาหารว่างมาเลี้ยงน้องในวันนั้นด้วย

เมื่อเดินทางมาถึงผมก็ได้แต่อึ้งครับ เพราะน้องๆ ในห้องเด็กอ่อนนั้นมากเหลือเกิน โดยนอนอัดกันเป็นตับอยู่ในห้อง น้องบางคนสามารถคลานได้ เดินได้ แต่ขณะที่อีกส่วนหนึ่งไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เลย ผมกับรุ่นน้องผู้ชายที่มาด้วยกัน เมื่อเห็นภาพนั้นก็สลด และทนดูไม่ไหว จนต้องผละออกจากตรงนั้นไป ส่วนเพื่อนสาวผมร้องไห้ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ

“ผมอยากให้เพื่อนๆ มันมาเห็น มันจะได้สลดบ้าง เวลามันทำอะไรลงไป” รุ่นน้องผมคนนั้นกล่าว
“ทำไมล่ะ...เพื่อนเอ็งขาฟันหรือไง” ผมถามกลับไปแบบตรงๆ
“ก็...ใช่อ่ะพี่ มันเที่ยวเก่ง”
“เออ...ดูไว้ แล้วก็จำ จำแล้วจะทำอะไรก็คิดหน้าคิดหลังก่อนก็แล้วกัน” ผมเอ่ยปากเตือนรุ่นน้อง

แน่นอนครับ น้องๆ ในบ้านเฟื่องฟ้านี้แกเกิดมาก็หมดโอกาสทางสังคมไปเรียบร้อยแล้ว พวกเขาไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะก้าวออกสู่โลกกว้าง พวกเขาไม่มีพ่อ ไม่มีแม่ ไม่มีบ้าน พวกเขาไม่มีอะไรเลย ผมรู้สึกสลดใจ กับน้องๆ ที่ผมได้ไปเจอเมื่อซักครู่นี้

ผมได้มีโอกาสคุยกับพี่คนหนึ่ง เขาบอกว่า “ถ้าเป็นเมืองนอก เขาให้เอาออกตั้งแต่อยู่ในท้องแล้ว ถ้ารู้ว่าเกิดมาแล้วจะพิการแบบนี้ เขาถือว่าเป็นภาระสังคมเลยนะ ที่นั่นไม่มีใครมาเลี้ยงดูเหมือนที่นี่หรอก ยังโชคดีที่น้องเหล่านี้เกิดเมืองไทยที่เป็นเมืองพุทธ”

ผมยิ้ม...ไม่พูดอะไร จะว่าไป ผมก็บอกไม่ถูกเหมือนกันว่า น้องๆ เหล่านี้โชคดี หรือ โชคร้ายที่ได้เกิดมา

ที่บ้านเฟื่องฟ้านี้ระยะแรกมีเด็กในความอุปการะประมาณ 30-50 คน ต่อมามีจำนวนเด็กอ่อนพิการเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จึงได้สร้างอาคารต่างๆ เพิ่มขึ้นในเนื้อที่ 15 ไร่ จากการสอบถามพี่เจ้าหน้าที่ ก็รู้ได้ว่าจำนวนน้องในตอนนี้เพิ่มขึ้นถึง 500 คนแล้ว
“แล้วมีคนดูแลเพียงพอหรือครับ” ผมซักต่อ
“ก็เด็ก 10 คน ต่อผู้ดูแล 1 คน”

ผมอึ้งอีกครั้ง กับคำตอบที่ได้รับ อัตรา 1 : 10 ดูจะน้อยเกินไปสำหรับภาระหน้าที่ของผู้ดูแล

ผมกับน้องผู้ชาย ยังคงนั่งรอน้องๆ ลงมาทานอาหารว่างในตอนบ่าย 2 ขณะเดียวกันฝนก็ได้เทลงมาแล้ว


รอซักพัก ผมก็ได้ยินเสียงของเด็กๆ ที่วิ่งลงมา น้องๆ พวกนี้คือเด็กที่โตขึ้นมาวัยประมาณ 4-7 ขวบ ที่สามารถพอพูดจารู้เรื่อง สื่อสารได้ น้องๆ ที่วิ่งลงมาบางคนก็วิ่งออกนอกหลังคาทำให้เปียกฝน ร้อนถึงผมและพี่ๆ เพื่อนๆ ต้องไปต้อนให้เข้ามาอยู่ในร่ม บางคนก็วิ่งสะดุดหกล้ม ร้องไห้กระจองอแง จนพวกเราต้องเข้าไปปลอบ และจูงมือน้องไปที่ห้องอาหารแกถึงจะเงียบ น้องบางคนเห็นผมก็ดีใจ กระโดดกอดแน่นเชียว ผมจึงต้องอุ้มน้องคนนั้นไปส่งที่หน้าห้องอาหาร จะปล่อยมือแกก็ไม่ยอมปล่อย จนผมต้องบอก “เดี๋ยวพี่จะกลับมาหา เป็นเด็กดีนะครับ ไปนั่งที่ก่อนเร้ววววว” น้องก็ยิ้ม และเดินเข้าไปแต่โดยดี



เย้...

ผมรับรู้ได้เลยว่า น้องๆ เหล่านี้ถึงแม้ว่าแกจะเกิดมาไม่ครบ...แต่ ผมรู้ว่าพวกแกต้องการความอบอุ่น โหยหาความรัก แม้ว่าเจ้าหน้าที่ที่บ้านเฟื่องฟ้าจะดูแลเป็นอย่างดีแล้ว แต่ก็ไม่สามารถเติมเต็มสิ่งที่น้องๆ เหล่านี้...ขาดไปได้
จากคำบอกเล่าก่อนมา ผมฟังแล้วก็คิดไปอีกแบบหนึ่ง แต่พอมาเห็นจริงๆ สิ่งที่จินตนาการจากคำบอกเล่า ไม่ได้เพียงเศษเสี้ยวของสิ่งที่ผมได้เจอจริงๆ เลยครับ



รอยยิ้มที่ใสซื่อ

ก่อนที่จะเริ่มทานอาหารว่างน้องๆ จะบอกขอบคุณครับ/ค่ะ ด้วยเสียงอันดัง และเมื่อทานเสร็จแล้วน้องๆ ก็พร้อมใจกันยกมือไหว้ และตะโกนบอกขอบคุณพวกเราอีกครั้ง



น้องๆ อิ่มพี่ๆ ก็ดีใจ



ยิ้มแย้มแจ่มใส...

ต้องขอออกตัวก่อนเลยว่า ปกติแล้วผมไม่ใช่คนรักเด็ก และไม่ใช่คนใจบุญสุนทานอะไรนัก ค่อนออกจะไปไนทางทำบาปมากกว่าเสียด้วยซ้ำ แต่พอได้มาเจอน้องๆ แล้ว มันทำให้ผมใจอ่อนจากรอยยิ้มที่ไร้เดียงสาของพวกเขา จนต้องเผลอกอดน้องๆ เลยครับ



มีไรอ๊ะป่าววว...



ผมหล่อไหมเพ่...

อยากบอกว่าน้องๆ ยังต้องการคนใจบุญอีกมาก พวกแพมเพิร์สยังขาดอยู่ และที่บ้านเฟื่องฟ้ายังต้องการอยู่ทุกวันนะครับ นี่เป็นที่อยู่บ้านเฟื่องฟ้า เผื่อใครสนใจอยากไปช่วยเหลือน้องๆ เค้านะครับ เลขที่ 78/9 หมู่ 1 ซ.ติวานนท์ 1 ถ.ติวานนท์ ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ. นนทบุรี 11120 โทร 02-5836815, 02-5834000,
02-5834031 หรือเข้าไปดูข้อมูลก่อนที่ //www.fuengfah.com




ชาวคณะครับ...




What Wonderful World - Louis Armstrong




 

Create Date : 21 พฤษภาคม 2552
6 comments
Last Update : 31 พฤษภาคม 2552 19:54:54 น.
Counter : 1652 Pageviews.

 
 
 
 
เเวะมาขอบคุณหนุ่มตอยที่ร่วมด้วยช่วยคลิกเพื่อช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสมาตลอดจนถึงวันสุดท้ายในวันนี้นะคะ ขอให้กุศลผลบุญจากเมตตาจิตนี้ จงส่งผลให้หนุ่มตอยเเละครอบครัวประสบเเต่ความสุขตลอดไปค่ะ






 
 

โดย: อมิธีสท์ วันที่: 1 มิถุนายน 2552 เวลา:1:08:12 น.  

 
 
 
ช่วงนี้งานบุญเเบบนี้เยอะมากเลย หนูพลอยอยากช่วยทุกงานเลย เเต่คงไม่สามารถมากมาย เเต่ก็จะทำเท่าที่ทำได้นะคะ เดี๋ยวขอลองติดต่อเพื่อนที่จะช่วยจัดการให้ก่อนค่ะ


ขอบคุณสำหรับบล๊อกดีๆเเบบนี้นะคะ
 
 

โดย: อมิธีสท์ วันที่: 1 มิถุนายน 2552 เวลา:1:11:13 น.  

 
 
 
อนุโมทนบุญครั้งนี้นะคุณยางมะตอย
รอยยิ้มเด็กๆในรูปใสมากๆค่ะ

^ _ ^
 
 

โดย: หมูปิ้งไม้ละ 5 บาท วันที่: 1 มิถุนายน 2552 เวลา:11:27:55 น.  

 
 
 
อนุโมทนาด้วยคนค่ะ

ขอให้ผลบุญส่งผลให้เจ้าของบล๊อกมีความสุขมากๆนะ
^^

 
 

โดย: ศิลาริน IP: 203.131.212.75 วันที่: 2 มิถุนายน 2552 เวลา:17:53:28 น.  

 
 
 
คุณนู๋พลอย - ขอบคุณที่มาบอกบุญดีๆ เช่นกันนะฮะ ^ ^

คุณหมูปิ้งฯ - น้องๆ น่ารักฮะ ปกติแล้วผมก็ไม่ใช่คนรักเด็กเท่าไหร่นัก แต่อย่างที่บอก มาที่นี่ใจอ่อนเลย ที่สำคัญอย่าพยามยามอุ้มแกฮะ เพราะอุ้มแล้ว ไม่ยอมปล่อย อิอิ

ยะหยาจัง - ขอบคุณฮะ...มีความสุขมากมายเช่นกันเนาะ ^ ^
 
 

โดย: ยางมะตอยสีชมพู วันที่: 2 มิถุนายน 2552 เวลา:21:33:35 น.  

 
 
 
สาธุๆ

ทักทายค่ะพี่
 
 

โดย: pimmy IP: 125.27.236.29 วันที่: 5 มิถุนายน 2552 เวลา:19:02:19 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

ยางมะตอยสีชมพู
 
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เป็นมนุษย์เงินเดือน รับใช้การตลาด
ต้องคิดงานให้เกินคาด แล้วจะได้ตังค์ใช้

ชอบดนตรี เสียงเพลงเป็น ชีวิตจิตใจ
ตัวอักษรนั้นไซร้ กัดแทะได้ ทุกวี่วัน



ลายปากกา


ของเค้าดีจริง เข้าไปเยี่ยมชมกันได้ครับ ^ ^
ถึงแม้ว่าผมอาจจะยังไม่ใช่นักเขียน ถึงแม้ว่าผมอาจจะไม่มีคุณสมบัติแม้ที่จะคิดเขียน และถึงแม้ว่า เรื่องที่ผมเขียนนั้นจะห่วยแตกแค่ไหนก็ตาม แต่ว่ามันก็ออกมาจากมันสมองอันน้อยนิดของผม ขอร้องเถิดครับ กรุณาอย่าเอาไป คัดลอก เผยแพร่ ดัดแปลง ส่วนหนี่งส่วนใดหรือทั้งหมดของงานเขียนของผมเลย (ยางมะตอยสีชมพู) ผมขอสงวนสิทธิ์ตามกฏหมาย ซึ่งหากฝ่าฝืนโดยไม่ได้รับอนุญาตแล้ว จะมีโทษ ปรับตามกฏหมายตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 200,000 บาท หรือนำเรื่องไปเสนอสำนักพิมพ์ ถือเป็น การเสนอขาย มีโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 4 ปี หรือ ปรับตั้งแต่ 100,000 บาทถึง 800,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับนะครับ ขอบพระคุณเป็นอย่างสูง ที่ยังเข้าใจ และเห็นใจคนชอบเขียนห่วยๆอย่างผม (ตามมาตรา 69 แห่ง พ.ร.บ. กฏหมายลิขสิทธิ์)
[Add ยางมะตอยสีชมพู's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com