BlogGang.com : : patthanid :

KHONKAEN :: ภารกิจเที่ยวหัวใจใหม่ไปอีสาน ตอนไปดูวิธีค้นหากระดูกไดโนเสาร์ที่อุทยานแห่งชาติภูเวียง

หลังจากตอนที่แล้วพาไปเที่ยว พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูเวียง กันมาแล้ว ตอนนี้ก็จะพาเพื่อนๆ มุ่งหน้าสู่อุทยานแห่งชาติภูเวียงค๊า ขับรถเลยจากพิพิธภัณฑ์ภูเวียงมาเพียง 7 กิโลเมตรก็จะถึงทางเข้าอุทยานแห่งชาติภูเวียงกันแล้วค่ะ ยังไม่ทันหลับเลยเหอๆ ถึงแระ พอมาถึงไกด์เราก็ทำหน้าที่ซื้อบัตรเข้าให้เรียบร้อยราคาเดียวกับอุทยานทั่วไปค่ะ ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท

อุทยานแห่งชาติภูเวียง เป็นอุทยานลำดับที่ 71 ของประเทศไทย มีพื้นที่กว่า 325 ตารางกิโลเมตร ครอบครุมพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอภูเวียง อำเภอเวียงเก่า อำเภอชุมแพ อำเภอสีชมพู และอำเภอหนองนาคำ จังหวัดขอนแก่น สภาพภูมิประเทศมีลักษณะเป็นสันเขาสูง มีแนวเทือกเขาล้อมรอบเป็นวงสองชั้น เป็นแอ่งคล้ายปล่องภูเขาไฟ สูงประมาณ 210 - 844 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง มีที่ราบลุ่ม ตอนกลางทางด้านทิศตะวันตกเป็นหน้าผาสูง บนยอดเขาสามารถมองเห็นทิวทัศน์เบื้องล่างได้ ภารกิจวันนี้เราจะไปดูหลุมขุดที่ 3 กันก่อนค่ะ เพราะใกล้สุดแระ ขุดค้นพบเมื่อปี พ.ศ. 2536 เป็นกระดูกของไดโนเสาร์กินพืช ขนาดใหญ่ชนิดเดียวกับหลุม 1 และ 2 ที่ขุดพบค่ะ ใช้เวลาเดินเท้าเข้าไป 300 เมตร ตาม จขบ. มากันเลยค่ะ

ระหว่างทางก็มีเอาไม้มาค้ำหินกันด้วยค๊า เหมือนจะเป็นสิ่งยอดฮิตที่ทำกันในหลายๆ ที่ไปเสียแล้ว ที่นี่ก็มีกะเค้าด้วยเหอะ ต่อมาก็เป็นงานสลักรักตลอดไปของคู่ใดคู่หนึ่งที่ต้องการบอกให้ประชาชีบนโลกนี้รู้เพื่อ? รักกันก็บอกกันเองดีกว่าไหม มาบอกคนทั่วไปใครเค้าจะอินล่ะเนี่ย นิสัยเสียต่างหากทำลายธรรมชาติโดยไร้จิตสำนึกเหอะ ขอสักนิดเหอะเหลือรับจริงๆ กระดาษมีให้เขียนไม่เขียนมาเขียนบนหิน เอาล่ะตอนนี้ จขบ. ก็มาถึงหลุมขุดที่ 3 แล้วค่ะ

นี่เป็นร่องรอยหลุมที่สามที่ขุดพบกระดูกไดโนเสาร์ เป็นไดโนเสาร์กินพืช (Sauropod) ที่ชื่อว่า Phuwiangosaurus Sirindhornae ดูแทบจะไม่ออกเลยอ่ะ ถ้าไม่อ่านป้ายที่เค้ากำกับไว้ เก่งเนอะคนมาค้นพบอ่ะ จขบ. เดินดูรอบๆ ก็เห็นมีเหรียญบาทด้วยค๊า โยนกันเข้าไปประหนึ่งจะขอพรจากไดโนเสาร์หรืออย่างไร คิดไหมว่าใครจะมาเก็บออก แล้วถ้ามันเยอะมากคนมาดูทีหลังจะมองเห็นไหม อุตส่าห์มาตั้งไกลไม่ได้มาดูเหรียญบาทนะค๊า .. ยังมีบนตะข่ายด้านบนอีกเหอะ

ไม่รู้ว่าโยนกระป๋องเป๊ปซี่ขึ้นไปเพื่อ? ถังขยะเค้าก็มีบริการไว้ด้านข้างๆ อาคารหลุมขุดอยู่แล้ว จะโยนขึ้นไปขอพรไดโนเสาร์หรือไงเนี่ย ไม่ดีนะคะเราควรเที่ยวอย่างเคารพสถานที่มีจิตสำนึกนะคะ อย่างน้อยๆ ก็นึกถึงเจ้าหน้าที่อุทยานที่มีหน้าที่คอยพิทักษ์อุทยานแล้วยังต้องมานั่งเก็บขยะในที่ที่ไม่ควรมีอีก มันลำบากนะจ๊ะ เอาล่ะหลังจากที่พวกเราชาวคณะเดินดูหลุมขุดกันแล้วก็ตัดสินใจไม่ไปต่อค่ะ เพราะตอนนี้ก็เย็นแล้วเกรงว่าขึ้นไปแล้วลงมาจะช้า ระยะทางก็ไกลและชันเอาเรื่องเหมือนกัน หากจะมาสำรวจเส้นทางก็ต้องมาเช้ากว่านี้ค่ะ

แล้วพวกเราก็มาถึงหลุมขุดที่ 9 หินลาดยาวขุดค้นพบเมื่อปี พ.ศ. 2536 ซึ่งจากกระดูกบ่งบอกว่าเป็นบรรพบุรุษของไดโนเสาร์กินเนื้อ Tyranosaurus Rex หรือทีเร็กซ์ ยาวประมาณ 6.5 เมตร จัดเป็นไดโนเสาร์สกุลและชนิดใหม่ของโลกมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า "Siamotyrannus Isanensis" หรือไทรันสยามนั่นเอง ป้าด..นี่แค่สะโพกด้านซ้ายปาไป 7 เมตรทั้งตัวมันจะยาวกี่เมตรฟ่ะเนี่ย ถ้าเราไปอยู่ในสมัยนั้นคงเป็นมดอ่ะ คริคริ

พี่เจ้าหน้าที่ก็เล่าความเป็นมาเรื่องการขุดค้น เก่งมากเหอะ ก็ชื่อไดโนเสาร์แต่ละพันธุ์มันจำง่ายกันซะที่ไหนล่ะ ยาวเชียวอ่ะ ก็เลยถามพี่เค้าว่าเรียนมาด้านนี้เหรอ เค้าบอกว่าเปล่าเค้าเคยมาช่วยทำการขุดค้นก็เรียนรู้จากนักวิชาการที่เข้ามาสำรวจ อืม.. นี่ขนาดไม่ได้เรียนมานะข้อมูลแน่นเชี๊ยะ นี่ล่ะที่เค้าเรียกว่าคนเราเรียนรู้จากนอกตำราได้ก็จากการลงมือปฏิบัติจริงนี่แหละ ฟังพี่เค้าเล่าก็เพิ่งรู้นี่แหละว่าประเทศไทยค้นพบซากไดโนเสาร์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลกอยู่ที่จังหวัดชัยภูมินี่เองเหอะ จากนั้นพี่เค้าก็ลงมือสาธิตวิธีการค้นหาซากไดโนเสาร์ พี่เค้าก็เดินมาตรงลานหิน ขอบอว่าลานหินแบบธรรมดาเลยนะ แล้วก็หยุดนะจุดๆ หนึ่ง

แล้วพี่เค้าก็บอกว่าเนี่ยมีซากไดโนเสาร์ ป้าด.. รู้ได้ไงฟ่ะ เค้าก็เทน้ำแล้วค่อยๆ ถูจนเห็นเหมือนกระดูกสีขาวใกล้ๆ มือพี่เค้าอ่ะคะ เนี่ยแหละตอนมาหาเค้าก็ค่อยๆ หากันแบบนี้แหละ หลุมขุดที่เก้าเนี่ยกว่าจะเจอครบชิ้นส่วนช่วงสะโพกเนี่ยเจ็ดเดือนเลยเหอะ พวกเราก็ต่างสงสัยเค้ารู้ได้ไงฟ่ะว่าต้องนี้มีซากไดโนเสาร์ง่ะ เก่งเนอะนักสำรวจเนี่ย

พี่เจ้าหน้าที่ก็เล่าหลายๆ อย่างให้พวกเราฟัง ฟังเพลินกันเลยทีเดียว ที่นี่เค้าก็มีนักเรียนเข้ามาเดินสำรวจเส้นทางกันเรื่อยๆ ค่ะ หากใครสนใจก็ติดต่อมายังอุทยานก่อน เค้ามีกิจกรรมให้น้องๆ ได้รู้จักวิธีการค้นหาซากกระดูกด้วยนะคะ แหม.. ดีจังอยากเป็นเด็กสมัยนี้มีที่เรียนนอกห้องเรียนเยอะดีจัง เอาล่ะฟังพี่เค้าเล่ามาพอสมควรแล้วพวกเราก็เดินทางกลับออกจากหลุมที่ 9 ค่ะ แปลกเนอะทุกที่เลยตอนมาอ่ะไกลจัง ตอนกลับเนี่ยแป๊บเดียวเอง พอขึ้นรถได้หลับสนิทกันเลยทีเดียว จากอุทยานแห่งชาติภูเวียงพวกเรามุ่งหน้าเข้าสู่ตัวเมืองขอนแก่นค๊า โปรแกรมต่อไปไปทานอาหารกันที่ร้านประไพค๊า อยู่ใกล้กับสนามบินขอนแก่นเลยอ่ะ ตามไปชิมกับ จขบ. กันค๊า

พวกเราเดินเข้ามานั่งโต๊ะด้านในค่ะ ร้านนี้ตกแต่งได้หลากหลายสไตล์ในร้านเดียวกันแต่ดูจากเฟอร์นิเจอร์และการตกแต่งแล้ว น่าจะเปิดมานานแล้วล่ะ เอาล่ะอาหารที่ไกด์สั่งไว้ตอนนี้ทยอยเดินทางมาแล้วค่ะ มาดูหน้าตาแต่ละจานกันเลยดีกว่า

ผัดฟักแม้วหรือยอดฟักทอง

ทอดมันปลา

ยำรวมมิตร

แกงเลียงกุ้งสด

คั่วไก่

ลาบปลา

ผักเครื่องเคียง

ไข่เจียวหมูสับ

ผลไม้

ไม่เสียแรงที่เป็นร้านแนะนำเหอะ ถึงแม้ว่าจะเป็นเมนูธรรมดาแต่ขอบอกว่ารสชาตินั้นไม่ธรรมดาค๊า จขบ. ถูกใจทอดมันปลา แกงเลียง และลาบปลาเป็นที่สุด ชอบผักเครื่องเคียงของที่นี่อ่ะ คือผักอะไรก็ไม่รู้อ่ะ แต่รู้ว่าพอทานกับลาบเนี่ยอร่อย ส่วนใหญ่เป็นผักพื้นเมืองที่คนทางนี้เค้าทานกันอ่ะคะ ร้านนี้แนะนำค่ะ พอทานกันเสร็จพวกเราก็เข้าพักกันทีโรงแรมเจริญธานีขอนแก่นค่ะ ต้องบอกว่าเป็นครั้งแรกที่ จขบ. ได้เดินทางมายังจังหวัดนี้ ใหญ่มากเหอะการจราจรก็ติดน้องๆ กรุงเทพฯ เลยค่ะ ถนนเส้นหลักมีถึงสามเส้น น่าสนใจไม่ใช่น้อยเลยเมืองนี้ เอาล่ะไว้มาต่อกันตอนหน้านะคะ

Photo and Story By
Patthanid C.