BKK - NAKHONRATCHASIMA :: พีบีวัลเล่ย์ไวน์ทัวร์ @ KhaoYai
จากตอนที่แล้วเราพาเพื่อนๆ ไปชม ไร่องุ่นพีบีวัลเล่ย์ และ ร้านเกรทฮอร์นบิลกริลล์ กันมาแล้วสำหรับตอนนี้เราจะพาเพื่อนๆ เข้าไปชมกระบวนการผลิตไวน์มาดูกันสิว่ากว่าจะมาเป็นไวน์ภายใต้แบรนด์สวัสดี ภิรมย์ พีบี เค้ามีขั้นตอนการผลิตอย่างไร ตามเรามาด้านในกันเลยค่ะ
จากประตูทางเข้าเดินเข้ามาก็จะเข้ามาในห้องชิมไวน์ที่จัดแสดงประวัติความเป็นมาของเจ้าของไร่แห่งนี้ คุณปิยะ ภิรมย์ภักดี เพราะเหตุใดท่านจึงทำไร่แห่งนี้ และมารู้จักไวน์แมคเกอร์ของที่นี่กัน
สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ได้ทรงเสด็จเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดโรงไวน์ ณ วันที่ ๑๔ มกราคม ๒๕๔๔ และพระองค์ท่านได้ทรงปลูกต้น กาสะลองคำ ไว้เพื่อเป็นสิริมงคล ณ สวนหย่อมหน้าโรงไวน์แห่งนี้ด้วย ว่ากันว่าเมื่อทรงเสด็จสวรรคต ต้นกาสะลองคำก็ตายไปด้วยล่ะ
จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็อธิบายกระบวนการผลิตไวน์อย่างคร่าวๆ ให้ลูกทัวร์ได้ทราบรายละเอียดก่อนที่จะเข้าไปชมโรงงานไวน์ด้านในกัน
เริ่มจากห้องแรกกระบวนการคัดแยกองุ่น แต่ละปีไร่องุ่นแห่งนี้จะเก็บองุ่นปีละครั้งเท่านั้น เพื่อได้องุ่นที่ดีที่สุด โดยจะเก็บในช่วงเดือน ม.ค ถึง ก.พ พอเก็บองุ่นแล้วก็นำมาเข้าเครื่องคัดแยกล่ะ เดิมทีใช้แรงงานคนแยกแต่พอธุรกิจไวน์เริ่มโตขึ้นจึงเปลี่ยนมาใช้เครื่องจักรดังกล่าว
จากนั้นก็เข้าสู่เครื่องจักรตัวต่อไปนี้นั่นคือเครื่องกรอง เจ้าเครื่องที่ว่านี่จะมีลูกโป่งอยู่ด้านในคอยบดทับเมล็ดองุ่นด้านในให้ออกมาเป็นน้ำองุ่น ขั้นตอนนี้แหละจะได้เป็นน้ำองุ่นสด แต่เรามาดูเค้าทำไวน์นิน่า ไปขั้นตอนต่อไปกันเลยนะคะ
ถังหมักน้ำองุ่นขั้นตอนนี้จะใส่ยีสต์ลงไปเพื่อเปลี่ยนน้ำตาลในองุ่นเป็นแอลกอฮอลล์ โดยใช้เวลาหมักถึง ๒ เดือนเลยล่ะ เข้ามาจะได้กลิ่นแอลกอฮอลล์แรงมาก วิญญาณลำยองเข้าสิงกันเลยทีเดียว จากนั้นจึงเข้าสู่กระบวนการกรองน้ำองุ่น เพื่อนๆ สงสัยไหมว่าหลังจากเก็บเสร็จแล้วเค้าล้างองุ่นหรือเปล่า คำตอบคือไม่ค่ะ แต่เค้ามีที่มาที่ไปนะขอบอก เนื่องจากการล้างองุ่นก่อนนั้นทำให้น้ำที่ติดมาเจือปนกับน้ำองุ่น ส่งผลให้น้ำองุ่นที่ได้รสชาติไม่ดีนั่นเอง เข้าใจหรือยัง .. เอ้าตามมาดูกันต่อนะคะ กระบวนการกรองน้ำองุ่น
แล้วจะสะอาดหรือนี่ ขอบอกว่าเจ้าเครื่องกรองนี้มีแผ่นกรองหลายชั้นมาก ไม่สะอาดก็ไม่รู้จะว่าไงแล้วล่ะ เพราะแต่ละแผ่นกรองละเอียดยิบทีเดียว
เห็นไหมล่ะว่าแผ่นกรองเค้าถี่ขนาดไหนนี่แค่แผ่นเดียวนะเนี่ย คุณกระชุวิทยากรคนสวยของเราเล่าให้ฟังว่า เศษองุ่นที่เหลือจากขั้นตอนนี้ ไวน์แมคเกอร์จะเก็บใส่ขวดแล้วให้สาวๆ ในไร่เอาไปพอกหน้าพอกตัวล่ะ มิน่าล่ะสาวๆ ไร่นี้ผิวดีทุกคนเลย ใครจะรู้ต่อไปอาจจะมีผลิตภัณฑ์เสริมความงามจากไร่แห่งนี้ก็เป็นได้
พวกเราเดินต่อมายังห้องบ่ม ด้านหน้ามีอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำไวน์ด้วยล่ะ เยอะเชียว หลังจากนั้นก็เข้าไปยังห้องบ่มไวน์ซึ่งเป็นห้องเย็นล่ะ
ขั้นตอนนี้ใช้เวลายาวนานกว่า ๒ ปีเลยทีเดียว จึงจะได้มาซึ่งไวน์ไทยคุณภาพดีการันตีด้วยรางวัลมากมาย โดยการบ่มจะแบ่งหมักด้วยถัง ๓ แบบด้วยกัน แบบที่หนึ่งเป็นถังสแตนเลส มีความเหนี่ยวนำทำให้เก็บความเย็นได้ดี นิยมหมักไวน์แดงตระกูลเบอร์รี่ การหมักชนิดนี้เรียกว่า "การหมักแบบฟรุ้ตตี้" มีลักษณะสดชื่นและดื่มได้ง่าย
แบบที่สองเป็นถังไม้โอ๊คใหญ่ อายุการใช้งานถังถึง ๑๐ ปีเชียวล่ะ การบ่มในถังไม้โอ๊คจะทำให้น้ำองุ่นผสมกับกลิ่นไม้ ซึ่งจะทำให้ได้กลิ่นที่หอมโทนควันไฟ เนื้อไม้นั้นมีผลกับการบ่มไวน์ ถ้ายิ่งสัมผัสเนื้อไม้มากเท่าไหร่จะทำให้ไวน์ได้กลิ่นเบามากขึ้น
แบบที่สามถังไม้โอ๊คเล็ก มีอายุการใช้งานสั้นแค่ ๒ ปีเองล่ะ พอครบก็เปลี่ยนใหม่ คุณกระชุเล่าว่า ที่นี่เคยใช้ถังไม้โอ๊คจากอเมริกา ปรากฏว่าได้รสชาติไม่ดี จึงเปลี่ยนมาใช้ยี่ห้อ Vicard จากประเทศฝรั่งเศส เพราะไม้แต่ละประเทศก็ไม่เหมือนกัน การปลูกก็แตกต่างกันซึ่งแต่ละปัจจัยส่งผลต่อการบ่มไวน์ด้วยล่ะ
การบ่มแต่ละถังเป็นการแบ่งเกรดไวน์หรือเปล่านะ เพื่อนๆ สงสัยเหมือนกันใช่หรือเปล่า คำตอบคือ ไม่ใช่ นะจ๊ะ เพราะการบ่มแต่ละถังหมักนั้นไม่ได้แบ่งเกรดไวน์ หากแต่เป็นการหมักแต่ละเทคนิคไวน์ที่แตกต่างกัน ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของโรงไวน์นั้นๆ โดยจะมีไวน์แมคเกอร์ค่อยชิมไวน์เป็นระยะล่ะ
สำหรับที่นี่ไวน์ที่แพงที่สุดคือ ภิรมย์ บ่มด้วยถังสแตนเลส แต่ว่าองุ่นที่ใช้ทำการผลิตไวน์ภิรมย์นั้นมาจากแปลงองุ่นที่ดีที่สุดซึ่งจะต้องเป็นองุ่นที่มีอายุ ๑๒ ปีขึ้นไป เริ่มเข้าใจกระบวนการผลิตไวน์มากขึ้นแล้วใช่ไหมคะ
หลังจากที่พวกเราเดินออกจากห้องบ่มไวน์ก็เจอกับเจ้าสิ่งนี้ มันคือฟิลเตอร์ที่ใช้กรองเม็ดสี คุณกระชุเล่าว่า กระบวนการนี้จะทำให้เกิดประกาย เหมือนการแยกเม็ดสีน้ำตาลออกทำให้ ไวน์มีประกายระยับระยับล่ะ ละเอียดจังเลยอ่ะแต่ละขั้นตอน
จากนั้นจึงเข้าสู่กระบวนการแพคกิ้งและบรรจุภัณฑ์ เพื่อเตรียมส่งไปวางขายที่หน้าร้านค้าของไร่พีบีแห่งนี้ล่ะ สำหรับลูกทัวร์อย่างเราก็จะเดินกลับไปยังห้องแรกเพื่อทดลองชิมไวน์แต่ละประเภทของไร่พีบีวัลเล่ย์ล่ะ
ว่าแต่ป๊ะป๋าหายไปไหนหว่า นั่นไงเดินชิมไวน์เนียนเชียว หลายแก้วแล้วนะเนี่ย และดูเหมือนลูกทัวร์แต่ละท่านก็จะ Enjoy การห้องนี้เป็นที่สุด ส่วนคุณหนูก็จะมีน้ำองุ่นให้ดื่มเนียนๆ ไปกับผู้ใหญ่ด้วยเช่นกัน
สำหรับไวน์แต่ละประเภทของพีบีนั้นเดิมทีมีชื่อเรียกว่า "ไวน์เขาใหญ่" แต่ต่อมาได้เปลี่ยนขวดและฉลากเนื่องจากมองว่าไม่เข้ากับตลาดบ้านเรา จึงเปลี่ยนชื่อเป็นพีบี สวัสดีและภิรมย์
โดยไวน์ภิรมย์มีทั้งไวน์ขาวและไวน์แดง ราคาสูง ส่วนไวน์พีบี ถือเป็น Best Seller เพราะทานง่ายเหมาะกับคนไทย และสุดท้ายสวัสดีราคาไม่สูงนักรสชาติหนักหน่อยเป็นที่นิยมในหมู่ชาวต่างชาติ
ซึ่งแต่ละตราสินค้าล้วนแล้วแต่ได้รับการยอมรับและเป็นที่รู้จักในหมู่ชาวต่างชาติ สวัสดีเคยได้ถูกเลือกให้เสริฟ์บนชั้น FirstClass การบินไทย อีกทั้งยังเคยได้เสริฟ์ในงานประชุมระดับชาติมาแล้วด้วย นอกจากนี้พีบีและภิรมย์ก็ชนะการประกวดในต่างประเทศได้รางวัล Silver และ Glod มาแล้ว น่าดีใจแทนผู้ผลิตเสียจริงๆ
คนไทยนิยมแต่ดื่มไวน์นอก แต่หารู้ไม่ว่าไวน์บ้านเรานี่แหละ The Best ที่ต่างชาติยังต้องมาลองถึงเมืองไทย แหมทัวร์ไวน์คราวนี้ได้ความรู้เพิ่มเติมอีกเพียบเลยล่ะ จขบ. โรงเบียร์ก็ไปแล้ว โรงไวน์ก็ไปแล้ว เหลือแต่โรงเหล้าล่ะที่นี้ อิอิ
เช้าวันนี้จึงเป็นเช้าแบบชิวๆ ของเราล่ะ ตื่นกันแต่เช้าเชียวล่ะ หาอะไรทานกันเสร็จก็ออกไปเที่ยวไร่องุ่นกันล่ะ เช้าๆ แบบนี้ยังไม่มีคนงานมาทำงานเลย ตอนแรกจะขี่จักรยานเห็นระยะทางแล้วไม่ไหวขอเป็นนั่งหลังรถกระบะคู่ใจทัวร์ไร่องุ่นดีกว่า
งานนี้ป๊ะป๋าเป็นโซเฟอร์ใจดี อยากได้รูปตรงไหนเคาะหลังคาเป็นที่รู้กันว่าให้จอดนะ พวกเราขับรถไปสำรวจรอบๆ รีสอร์ทตามภารกิจที่เราได้รับมอบหมายซึ่งเป็นที่มาของทริปนี้
พอได้ภาพถ่ายในมุมถูกใจเรียบร้อยก็กลับมาที่รีสอร์ทล่ะ มาขี่จักรยานชมไร่องุ่นกันเสียหน่อย หากใครที่รักในการปั่นจักรยานที่นี่เค้ามีแผนที่ชมไร่สองแผนล่ะ สำหรับนักท่องเที่ยวที่นิยมชมชอบการออกกำลังกายยามเช้าด้วยการปั่นจักรยาน จขบ. ไม่ค่อยนิยมเท่าไหร่ขอขี่แบบเล็กๆ ก็พอล่ะกัน
ป๊ะป๋าเห็นเอามั้ง กลัวน้อยหน้าลูกสาวขอขี่จักรยานมั้ง แต่พอขี่จริงๆ ได้แป๊บเดียวล่ะเหนื่อยล่ะ กลับเข้าบ้านพักกันดีกว่า เพราะเดี๋ยวต้องออกไปทานอาหารกันแล้นน
พวกเราก็ไปทานร้านอาหารกาสะลองที่เดิมที่เราทานเมื่อวันก่อน โดยวันนี้หลังจากทานอาหารเสร็จก็จะเข้าไปไวน์ทัวร์เก็บข้อมูลอีกรอบล่ะ จากนั้นก็จะไปสำรวจห้องพักห้องอื่นๆ ที่ที่นี่เปิดบริการ ตามเรามาดูแต่ละห้องพักของที่นี่กันดีกว่า
ห้องพักแบบ ๘ คน ลักษณะคล้ายเข้าค่ายลูกเสือเลยล่ะ โดยมีเตียงทั้งหมด ๔ เตียงนอนได้เตียงละ ๒ คน สบายเชียวล่ะ ตามมาดูห้องน้ำกันดีกว่า
เห็นห้องล่ะ ๘ คนแบบนี้เถอะ ขอบอกว่าห้องน้ำฝั่งละ ๔ ห้องนะคะ เริ่ดไหมล่ะ เรียกว่าเค้าคำนึงถึงความสะดวกสบายเป็นที่สุดอ่ะ
ห้องสี่คนก็ห้องน้ำสี่ห้องแบบไม่ต้องแย่งกันเลยอ่ะ นอกจากนี้ยังมีห้องแบบสองคนด้วยล่ะ ห้องนี้ใกล้กับห้องอาหารที่สุด
ถึงแม้ห้องนี้วิวจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่นักเพราะอยู่ติดกับห้องอาหารกาสะลอง แต่ห้องน้ำเก๋มากๆ ล่ะเป็นแบบโอเพ่นแอร์ล่ะ
พอเสร็จจากสำรวจห้องพัก พวกเราก็เดินทางไปยังโรงไวน์ ระหว่างทางคุณกระชุพาพวกเราไปแวะดูแปลงนาทดลองด้วยล่ะ โอ้โห ครบวงจรกันเลยทีเดียว
คุณกระชุเล่าให้พวกเราฟังว่า นาทดลองแห่งนี้ปลูกขึ้นเพื่อใช้อยากให้นักท่องเที่ยวได้ทานข้าวพันธุ์อร่อยที่ปลูกเอง ณ พีบีวัลเล่ย์ ส่วนฝายที่เห็นก็เป็นฝายน้ำใช้ภายในรีสอร์ทแห่งนี้ โดยจะเปิดให้คนงานมาจับปลาปีละครั้งล่ะ จากที่เราดูมาการจัดการ ณ ไร่แห่งนี้ถือว่าดีทีเดียวครบวงจรดีจัง หลังจากนั้นเราก็เข้าไปซ่อมดูไวน์ทัวร์อีกรอบ ก่อนที่จะกลับที่พักเก็บของและไปทานอาหารเที่ยงกันเรียบร้อยก็แวะกลับมาเช็คเอ้าท์และหาซื้อของฝากติดมือกลับบ้านล่ะ
ผลิตภัณฑ์ที่นี่ก็มีหลากหลายชนิดให้เลือกไม่ว่าจะเป็นไวน์คุณภาพดี สวัสดี ภิรมย์ พีบี น้ำองุ่นสด ลูกเกต องุ่นกวน ฯลฯ และผลิตภัณฑ์จากไร่แห่งอื่นของพีบีก็มีวางจำหน่ายเช่นกัน เช่น ซีอิ้วขาวสูตรพิเศษ ชาข้าวบาร์เล่ย์ เป็นต้น
พวกเราก็เลือกซื้อน้ำองุ่นติดไม้ติดมือกลับมาฝากคนที่บ้านล่ะ เพราะชอบน้ำองุ่นที่นี่รสชาติไม่ฟาดดีอ่ะ แล้วก็องุ่นกวน ซอสเซราเต้ ขอบอกว่าอร่อยทุกอย่างเลยล่ะ โดยเฉพาะซอสเซราเต้เป็นซอสถั่วเหลืองผสมข้าวมอลต์ ขอบอกว่าปรุงรสแล้วอาหารรสชาติดีเลยล่ะ ก็เป็นอันจบทริปนี้ล่ะ
ขอขอบพระคุณ Mr. Heribert Gaksch .. General Manager and Hospitality Division ที่ส่งวิทยากรคนเก่งคุณกระชุมาให้ความรู้เรื่องไวน์โดยละเอียดทุกขั้นตอนแก่พวกเราค่ะ ลืมบอกไปว่าหากเพื่อนๆ ท่านใดสนใจไวน์ทัวร์แล้วล่ะก็สามารถติดต่อจองล่วงหน้าได้ที่เบอร์ 036-226415-16
Photo and Story By
Patthanid C.
www.patthanid.bloggang.com
| Create Date : 03 ธันวาคม 2553 |
| Last Update : 13 พฤศจิกายน 2556 0:12:29 น. |
|
2 comments
|
| Counter : 6708 Pageviews. |
|
 |
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 47 คน [
