มันจะจบได้หรือยัง กับ The Final Destination 3D
หลังจากที่ผมได้ไปชม The Final Destination 3D มา พอหนังขึ้นเครดิตตอนจบผมก็ได้แต่รำพึง รำพันกับตัวเองว่า ภาคนี้มันคงจะเป็นตอนสุดท้ายของซีรีย์โกงความตายชุดนี้ซักทีเถอะ
สืบเนื่องมาจาก ใครที่ติดตามหนังเรื่องนี้มาตั้งแต่ภาคแรก จะเห็นได้ว่าความสดใหม่ของมันก็จมหาย จางมลายไปกับภาคถัดมา ซึ่งไม่ว่าจะมองในแง่ใดก็ตามที จุดของ FD ก็อยู่ที่ฉากตัวละครตายห่ากันด้วยลีลาท่าทางแสนวิปริตพิสดาร เกินกว่ามนุษย์ทั่วไปจะตายกัน เรื่องย่อคงไม่ต้องเล่ามั้งครับ หาอ่านจากในหนังสือเอาก็ได้ จริงๆแค่บอกชื่อเรื่องก็คงเดาเรื่องย่อกันได้หมดแล้วล่ะ
หนังในภาคนี้ขายความเป็น 3D ซึ่งตัวหนังเองใช้ประโยชน์จากจุดนี้ได้ดีในแง่ของความมีมิติที่สาม ที่ทำให้เรารู้สึกได้ว่าตัวละครกำลังลอยออกมานอกฉากหลัง ส่วนของกระเด็นใส่คนดูนั้นก็มีให้เห็นบ้างประปราย
แต่ใช่ว่าการที่มันเป็นหนังสามมิติจะช่วยให้หนังสนุกขึ้น เปล่าเลยสักกระติ้ด เพราะว่าหนังมีบทที่แห้งแล้ง ตัวละครที่แบนราบเหมือนโดนเตารีดนาบ นักแสดงที่คาดว่าอ่านบทแล้วแสดงเลย ไม่ต้องเวิร์คชอปกันให้เสียเวลา เพราะพี่ท่านเล่นกันได้สากกะเบือสุดๆ มิหนำซ้ำบางฉากพฤติกรรมของตัวละครก็ดูโง่งมสมควรตายยิ่งนัก (ซึ่งหนังก็ไม่รอช้ากำจัดตัวละครประเภทนี้ไม่ให้รกหูรกตาจนท้ายๆ ยกเว้นแต่ยัยเพื่อนนางเอกที่ไม่รู้ว่าหล่อนจะหนังเหนียวไปไหน)
ความจริงแล้วหนังก็ยังไม่ความเป็นตัวตนของผู้กำกับอย่าง เดวิด อาร์ เอลลิส อยู่บ้างในแง่ของมุกตลกร้ายทั้งฉากคุณแม่ลูกติด หรือคุณยามผิวดำที่พยายามฆ่าตัวตาย น่าเสียดายที่เขาใช้ประโยชน์ตรงนี้น้อยเกินไป (เมื่อเทียบกับหนังเรื่องก่อนอย่าง Snake on a plane)
ถ้าดูอยากลองของใหม่ว่าความตายพุ่งใส่หน้าเป็นยังไงก็ไปดูเถอะครับ แต่ผมแค่อยากบอกว่าพวกเขาเดี้ยงกันได้สามัญชนเหลือทน จนผมอยากจะจ่ายค่าตั๋วแค่ 50 เพราะมันมีดีแค่ฉากรถแข่งกับฉากห้างระเบิดแค่นั้น ส่วน 170 ผมว่าผมเอาไปทำอย่างอื่นดีกว่าแฮะ
เสียดายเงินว้อย
..