สัมผัสความสุขของการพักผ่อน และอาหารชั้นเลิศ ที่ Le Meridien Suvarnabhumi, Bangkok Golf Resort & Spa

 สวัสดีครับ

ตอนนี้ก็เข้าสู่ช่วงปลายปีกันแล้ว  อุณหภูมิเริ่มลดลง อากาศเริ่มเย็นสบาย  เป็นอีกฤดูที่หลายคนชอบ
นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักจะวางแผนไปสัมผัสความหนาว ชมทะเลหมอก ทางภาคเหนือ หรือภาคอีสานตอนบน

หากใครไม่อยากเดินทางไกล  แต่อยากหามุมสงบ เพื่อพักผ่อนในวันหยุด
ได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติที่ร่มรื่น  ปลดปล่อยความเหนื่อยล้า จากชีวิตในเมืองกรุง
มีอาหารอร่อยๆ  รวมถึงกิจกรรม กีฬา ที่สร้างความเพลิดเพลิน ได้ตลอดทั้งวัน
ลองมองหาโรงแรทรีสอร์ท ในละแวกรอบๆ กรุงเทพ เพื่อพักผ่อน ก็น่าสนใจไม่น้อย
อย่างเช่นที่ " โรงแรม เลอ เมอริเดียน สุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ กอล์ฟ รีสอร์ท แอนด์ สปา "



การเดินทาง
เลอเมอริเดียน สุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ กอล์ฟ รีสอร์ท แอนด์ สปา  ตั้งอยู่ที่ถนนบางนา-ตราด (ก.ม.10.5)
เป็นรีสอร์ทระดับ 5 ดาวที่อยู่ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ มากที่สุด (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที)
และอยู่ไม่ไกลจากห้างสรรพสินค้า เมกา บางนา

สามารถเดินทางเข้าสู่โรงแรมได้สองเส้นทาง ทั้งจากถนนบางนา-ตราด และ ถนนกิ่งแก้วซอย 11



หากเดินทางมาจาก ถนนบางนา-ตราด ให้สังเกตป้ายสนามกอล์ฟ ซัมมิท วินด์มิลล์
ทางเข้าจะอยู่ทางซ้ายมือ  หรือจะสังเกตป้ายใหญ่บริเวณหน้าทางเข้า ที่เขียนว่า เอกสวัสดิ์ ก็ได้





หากเดินทางมาทางถนนกิ่งแก้ว ให้เข้าทางซอยกิ่งแก้ว 11





เมื่อขับเข้ามาภายใน  จะผ่านจุดตรวจ ซึ่งต้องสแกนบัตรก่อนเข้าไปด้านใน
จากนั้นขับตามป้ายโรงแรม ผ่านหมู่บ้านไปเรื่อยๆ จะเจอโรงแรมเลอ เมอริเดียน  
ซึ่งตั้งอยู่ติดกันกับโรงแรมของสนามกอล์ฟ ซัมมิท วินด์มิลล์
แขกที่มาพักสามารถจอดรถได้ที่อาคารจอดรถ ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กัน



หากไม่ได้ขับรถมาเอง ทางโรงแรมมีบริการ Shuttle Bus ฟรี สำหรับรับและส่งแขก ที่มาพักที่นี่
ระหว่าง โรงแรมเลอ เมอริเดียน สุวรรณภูมิ - เมกา บางนา - สถานีรถไฟฟ้าอุดมสุข  ตามเวลาในตาราง

//www.lemeridiensuvarnabhumi.com/en/shuttle-service



หรือหากเดินทางมาจาก สนามบินสุวรรณภูมิ ก็สามารถจอง Limousine สำหรับรับและส่งได้เช่นกัน

//www.lemeridiensuvarnabhumi.com/en/limousine



เลอเมอริเดียน สุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ กอล์ฟ รีสอร์ท แอนด์ สปา
เป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว ในเครือสตาร์วูด โฮเต็ลส์ แอนด์ รีสอร์ท
เป็นกอล์ฟรีสอร์ทแห่งแรก ในประเทศไทย ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 500 ไร่ ของสนามกอล์ฟ ซัมมิท วินด์มิลล์

สำหรับแบรนด์เลอ เมอริเดียน นั้น  แต่ละแห่งจะมีงานศิลปะ ที่แทรกซึมเข้าไปในทุกๆจุดของตัวโรงแรม
ที่เห็นได้ชัดก็ คือ การออกแบบตัวอาคาร ที่มีน้ำล้อมรอบ ซึ่งได้แรงบันดาลใจจาก เรือสำเภาที่กำลังลอยลำบนผืนน้ำ
ประกอบด้วยกลุ่มอาคารไล่ระดับ  ทั้งหมด 5 อาคาร เชื่อมต่อกัน

www.lemeridiensuvarnabhumi.com







บริการรถรับส่งระหว่างอาคารจอดรถกับโรงแรม



บริการให้ยืมจักรยาน ฟรี ที่ด้านหน้าทางเข้าโรงแรม



เมื่อก้าวเข้าสู่ภายในโรงแรม ก็จะสะดุดตากับ Le Meridien Hub หรือ ส่วนของล็อบบี้
ภายตกแต่งอย่างหรูหราด้วยงานไม้  โอ่โถงด้วยเพดานโค้งยกสูง  
และยังได้สัมผัส กับกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ของเลอ เมอริเดียน ทั่วโลก
เสียงเพลงจากวงบอสซาโนวาจากฝรั่งเศส   Nouvelle Vagu ที่เปิดคลอเบาๆ
รวมถึงการใช้แสง ที่เป็นเอกลักษณ์ของเลอ เมอริเดียน
ซึ่งเป็นการสร้างความประทับใจตั้งแต่แรกพบ สำหรับแขกที่มาพักได้อย่างดีทีเดียว







หลังจากเช็คอินเรียบร้อย เราจะได้การ์ดเข้าห้องพักหน้าตาสวยงาม การ์ดนี้เป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรม UNLOCK ART ที่ออกแบบโดยศิลปิน
เพื่อให้แขกที่มาพักได้สัมผัส กับวัฒนธรรมอันร่วมสมัยของเลอ เมอริเดียน  โดยแขกสามารถเก็บการ์ดนี้เป็นที่ระลึกได้ด้วย



ในบริเวณเดียวกัน ใน The Hub ยังเป็นที่ตั้งของ Latitude 13º 39’
ซึ่งเป็นบาร์ในคอนเซ็ปต์สุดสร้างสรรค์ ซึ่งจะแปลงโฉม เป็นร้านกาแฟสไตล์ยุโรปในช่วงกลางวัน
และเป็นบาร์สำหรับเครื่องดื่มประเภทสปาร์คกลิ้งในช่วงกลางคืน

บาร์แห่งนี้ตั้งอยู่ในโรงแรมเลอเมอริเดียน ทุกแห่งทั่วโลก
โดยแต่ละแห่ง จะแตกต่างกันที่ตัวเลขต่อท้าย ซึ่งแสดงตำแหน่งที่ตั้งของโรงแรมแต่ละแห่ง









ที่นี่ยังมี "มาสเตอร์ บาริสต้า" ซึ่งเริ่มขึ้น เพื่อตอบสนองกับความต้องการที่เพิ่มขึ้นของบรรดาคนรักกาแฟ ที่โรงแรมเลอ เมอริเดียน ทั่วโลก
โดย มาสเตอร์ บาริสต้า จะทำหน้าที่เป็นทูตวัฒนธรรมกาแฟ ให้ความรู้เกี่ยวกับเทรนด์กาแฟในปัจจุบัน

เครื่องทำกาแฟดริปเย็น ที่ให้บริการกาแฟเย็นแบบไม่ต้องใส่น้ำแข็ง



ภายในบาร์ ตกแต่งอย่างเรียบหรู ด้วยพื้นหินอ่อน โดดเด่นด้วยโคมไฟขนาดใหญ่  
ผนังกระจกสูงตลอดแนว เพื่อรับแสงในเวลากลางวัน
มีโซฟาให้เลือกนั่งหลายมุม หรือจะเปลี่ยนบรรยากาศไปที่ระเบียงด้านนอกก็ได้









Latitude 13º 39’ เปิดบริการตั้งแต่เวลา 7 โมงเช้า จนถึงเที่ยงคืน
โดยช่วงกลางวันจะบริการกาแฟหอมๆ  Illy coffee รวมถึงเครื่องดื่ม และขนมหวานหลากหลายชนิด
และช่วงหลังพระอาทิตย์ตกดิน  บาร์แห่งนี้ก็จะถูกเปลี่ยนบรรยากาศเป็นคอกเทลบาร์ สุดชิค บริการเครื่องดื่ม และไวน์มากมาย

สำหรับขนมที่โดดเด่น และถือเป็นซิกเนเจอร์ของที่นี่ ก็คือ " Eclairs "
โดยโรงแรมเลอ เมอริเดียน แต่ละแห่ง จะมีขนมเอแคลร์ ที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว  
และเนื่องจากโรงแรมตั้งอยู่ในย่านบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งมีการจัด ประเพณีรับบัว ขึ้นเป็นประจำทุกปี
ดังนั้นขนมเอแคลร์ ของเลอเมอริเดียน สุวรรณภูมิ จึงเป็น Candied Lotus Eclair หรือ เอแคลร์ดอกบัว



Vanilla Eclair



Coffee Eclair



Royal Basil Infused Chocolate Cheese Cake






Tiramisu



Butterfly Violet



งานศิลปะ ถูกสอดแทรกไว้ตามมุมต่างๆ ทั่วทั้งโรงแรม







บริเวณพื้นที่เปิดโล่งส่วนกลางระหว่างอาคาร ถูกตกแต่งด้วยน้ำตกขนาดใหญ่
และต้นไม้นานาชนิด สร้างความเป็นธรรมชาติ และความร่มรื่นให้กับพื้นที่











เลอ เมอริเดียน สุวรรณภูมิ  มีห้องพักทั้งหมด 223 ห้อง แบ่งออกเป็น

ห้อง Grand Deluxe ขนาด 48 ตารางเมตร จำนวน 140 ห้อง
ห้อง Grand Executive ขนาด 48 ตารางเมตร จำนวน 60 ห้อง  
ห้อง Grand Suite ขนาด 103 ตารางเมตร จำนวน 22 ห้อง
และห้อง Presidential Suite ขนาด  220 ตารางเมตร จำนวน 1 ห้อง

ทุกห้องมีระเบียงห้องพักหันหน้าเข้าสู่สนามกอล์ฟ



ห้องพักชั้นล่าง จะมีจุดเด่นในรูปแบบของห้องที่มีสวนส่วนตัวติดกับทะเลสาบรอบอาคาร







ส่วนห้องพักตั้งแต่ชั้น 2 ขึ้นไป จะสามารถมองเห็นวิวสนามกอล์ฟและทะเลสาบที่มีความเป็นธรรมชาติ และมีความเงียบสงบ



ห้องพักชั้นบนสุดของอาคารจะเป็นห้อง Presidential Suite ขนาดห้อง 220 ตารางเมตร
เป็นห้องที่หรูที่สุดของโรงแรม มีห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ และระเบียงกว้างพร้อมสวนหย่อมริมธารน้ำของสนามกอล์ฟ

ห้องที่เราพักเป็นห้อง  Grand Deluxe ซึ่งเป็นห้องขนาดต่ำสุดของที่นี่
แต่มีขนาดของห้องที่ใหญ่มากถึง 48 ตารางเมตร  ด้านขวาจะเป็นส่วนของห้องน้ำ
มีบานเลื่อนไม้ เชื่อมกับส่วนเตียงนอน สามารถเปิดหรือปิดได้เมื่อต้องการความเป็นส่วนตัว





ห้องน้ำตกแต่งด้วยโทนสีขาวสะอาดตา ผนังติดกระจกเงายาวตลอดแนว ช่วยเพิ่มมิติให้ห้องดูกว้างขึ้น
มีชื่อเต็มของกรุงเทพมหานคร สลักบนกระจก  สร้างเอกลักษณ์ของเลอ เมอริเดียน สุวรรณภูมิ
อ่างอาบน้ำตั้งอยู่กลางห้อง  ด้านใน มีห้องอาบน้ำ และห้องสุขา  แยกกันอย่างเป็นสัดส่วน









เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า หรูหราด้วยหินอ่อน มี Amenities ครบ
ทั้งแชมพู ครีมนวด เจลอาบน้ำ  โลชั่น และ สบู่  พร้อมน้ำสะอาดให้ 2 ขวด









ส่วนของห้องนอน ตกแต่งอย่างเรียบง่ายสไตล์โมเดิร์น
เตียงนอนของเลอ เมอริเดียน ขึ้นชื่อว่านอนสบายมาก
สามารถเลือกชนิดของหมอนได้ตามต้องการ



มีอินเตอร์เน็ท wi-fi และอินเตอร์เน็ทแบบมีสายไว้ให้บริการ
และโทรทัศน์ LCD 40 นิ้ว
ในตู้ปลายเตียง จะเป็นส่วนของมินิบาร์ และโต๊ะทำงาน



















มีโซฟาสำหรับเอนกายพักผ่อนอยู่ที่มุมห้อง





ตู้เสื้อผ้าอยู่บริเวณประตูทางเข้า พร้อมตู้เซฟ เตารีด และสลิปเปอร์









ที่ข้างเตียงยังมีนาฬิกาปลุก พร้อมลำโพง และสายชาร์จ ซึ่งมีหัวชาร์จแทบทุกแบบ





Welcome Fruits จัดใส่ตะเกียง ดูเก๋ไม่เบา



ที่ระเบียงด้านนอก มีโซฟาขนาดใหญ่  สามารถมองเห็นวิวของสนามกอล์ฟ ซัมมิท วินด์มิลล์ ได้
สนามกอล์ฟแห่งนี้ ออกแบบโดยตำนานแห่งวงการกอล์ฟอย่าง นิค ฟาลโด
เป็นสนามกอล์ฟระดับไฮเอนด์ 18 หลุม ที่มีทัศนียภาพของทะเลสาบ เนินเขา และสนามทราย อันสวยงาม
(หากสังเกตที่กระจก จะเห็นตัวเลขซึ่งแสดงพิกัดที่ตั้งของโรงแรมเลอ เมอริเดียน แต่ละแห่งทั่วโลก)









หลังจากชมห้องพักเรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวเราลงไปชมส่วนอื่นๆ ของโรงแรมกันต่อครับ





Infinity Pool เป็นสระว่ายน้ำกลางแจ้งระบบน้ำเกลือ มีความลึก 1.31 เมตร
มีสระว่ายน้ำสำหรับเด็ก ความลึก 0.30 เมตร แยกเป็นสัดส่วน
ทัศนียภาพโอบล้อมด้วยต้นปาล์ม ดูร่มรื่น มีเลานจ์พร้อมโซฟา และเก้าอี้อาบแดด สำหรับพักผ่อน
โดดเด่นด้วยงานศิลปะ รูปปั้นโลหะ ที่บริเวณปลายของสระว่ายน้ำ

สระว่ายน้ำนี้ ตั้งอยู่ติดกับห้องอาหาร Latest Recipe สามารถสั่งอาหารมานั่งทานที่ริมสระได้
เปิดบริการตั้งแต่เวลา 06:00 - 22:00 น. สำหรับแขกที่มาทาน Sunday Brunch สามารถใช้สระว่ายน้ำได้ฟรี

ส่วนของสปา อยู่ในอาคารติดกับสระว่ายน้ำ ยังไม่เสร็จเรียบร้อยดีครับ



























Business center ตั้งอยู่ที่ชั้น 2 ติดกับห้องอาหาร Latest Recipe
หากแขกที่มาพัก ต้องการติดต่อพูดคุยทางธุรกิจ ก็สามารถใช้บริการห้องนี้ เพื่อทำงานหรือประชุมได้  
มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ  ทั้ง คอมพิวเตอร์ ไฮสปีดอินเตอร์เน็ต สแกน และพิมพ์เอกสาร
รวมถึงมีอาหารว่าง และเครื่องดื่มบริการ ด้วย





















นอกจากนั้นบนชั้น 3 ยังมีห้องประชุมขนาดใหญ่ Grande Ballroom 420 ตารางเมตร
และห้องประชุมอื่นๆ  จำนวน  7 ห้อง รวมพื้นที่กว่า 740 ตารางเมตร
ซึ่งสามารถรองรับงานประชุม งานสัมมนา งานแต่งงาน หรือกิจกรรมต่างๆ ของบริษัท และหน่วยงานได้





เดี๋ยวเราออกไปชมวิวสนามกอล์ฟ ที่ริมทะเลสาบกันต่อเลยครับ



Kid's Club อยู่บริเวณชั้น 1 ด้านล่างห้องอาหาร Latest Recipe
หรือลงบันได จากสระว่ายน้ำมาก็ได้ ส่วนของคิดส์คลับ จะเปิดให้บริการช่วงปลายเดือน พ.ย. นี้



บริเวณริมทะเลสาบ บรรยากาศร่มรื่น เหมาะสำหรับมาเดิน หรือนั่งเล่น ช่วงเช้าหรือช่วงเย็น
ส่วนหากใครอยากไปออกรอบ เล่นกอล์ฟ สนามกอล์ฟซัมมิท วินด์มิลล์ เปิดบริการถึงเที่ยงคืนเลยครับ







Fitness Centre ตั้งอยู่บนชั้น 2  เปิดบริการตลอด 24 ชั่วโมง
มีอุปกรณ์ออกกำลังกายที่ทันสมัย ทั้ง Strength-training และ Cardio
ภายในตกแต่งด้วยกระจกรอบด้าน สามารถสัมผัสวิวอันเขียวขจีของสนามกอล์ฟได้โดยรอบ



















มาชมบรรยากาศของอาคารโรงแรม ในช่วงค่ำกันครับ
มีการใช้แสงในแต่ละจุด อย่างสวยงาม
ใครชอบถ่ายรูป จะต้องชอบแน่นอน























Lemeridien Hub ในส่วนของ Lobby











ช่วงกลางคืน ที่  Latitude 13º 39’
บานเลื่อนไม้ที่ตู้ด้านหลัง ถูกเลื่อนออก กลายเป็นบาร์สุดชิค
เผยให้เห็นผลงานชิ้นเอก ของศิลปินที่มีชื่อชาวไทย













บรรยากาศสระว่ายน้ำในยามค่ำคืนก็สวยงามไม่แพ้ช่วงกลางวัน
หลังจากนั้นเราก็เตรียมตัวไปดินเนอร์กันที่ห้องอาหาร Favola กันเลยครับ





Favola เป็นห้องอาหารอิตาเลียน ตั้งอยู่บนชั้น 1 ของโรงแรมเลอเมอริเดียน สุวรรณภูมิ  
บริการอาหารอิตาเลียน รสชาติแบบพื้นเมือง ของชาวอิตาเลียนแท้ๆ  
ภายในตกแต่งผนังด้วยโทนสีน้ำตาล  มีการประดับด้วยภาพวาดบนผนัง
ช่วยสร้างบรรยากาศ และกลิ่นอาย ราวกับอยู่ในดินแดนแห่งเมืองทัสคานี อิตาลี
แสงไฟสีเหลืองนวล ยังช่วยสร้างบรรยากาศอันแสนอบอุ่น โรแมนติค เหมาะสำหรับมื้อพิเศษยามค่ำคืน  

นอกจากนั้นยังมีห้องเก็บไวน์ สำหรับเก็บไวน์ที่ได้รับการคัดเลือกจากทั่วทุกมุมโลก  
ภายในตกแต่งด้วยไม้อย่างสวยงาม มีไวน์หลากหลายชนิดให้บริการ สามารถจัดปาร์ตี้ดินเนอร์ส่วนตัวได้  

















 จุดเด่นของห้องอาหารแห่งนี้คือ เตาอบพิซซ่า ซึ่งตั้งอยู่ในส่วนของครัวที่เปิดโล่ง
เผยให้เห็นถึงขั้นตอนการปรุงอาหารจากเชฟ Marco Cammarata














ส่วนที่ระเบียงด้านนอก เป็นบรรยากาศแบบเปิดโล่ง สามารถมองเห็นวิวของสนามกอล์ฟ ยามค่ำคืน

ห้องอาหาร Favola เปิดให้บริการวันอังคารถึงวันอาทิตย์ (ปิดวันจันทร์) ตั้งแต่เวลา 18.00-23.00 น.









ชมบรรยากาศร้านเรียบร้อยแล้ว มาดูอาหารที่เชฟมาร์โคจัดเตรียมไว้ให้เรากันเลยดีกว่า ว่ามีอะไรบ้าง





ANTIPASTO ALL'ITALIANA

Parma Ham, Tuscan Salame, Wild Boar Salame, Parmesan Custard, Olives, Pickled and Crostini







PEPERONI E BURRATA

Bell Peppers and Burrata Tian with Candied cherry Tomatoes, Olives and Chocolate







PINCI ALL'AGLIONE e ARAGOSTA

Whole Lobster Cooked with Homemade Spaghetti and Pommarola Sauce or Garlic, Tuscan Olive Oil and Chilly





TAGLIATA DI CONTROFILETTO ANGUS

250 g. "Tagliata" Grilled Angus Beef Sirloin with Zucchini, Balsamic Olive Tapenade





ปิดท้ายด้วยของหวาน

TIRAMISU

Tiramisu with Cream Cheese Sorbet and Coffee Gelatin





โดยรวมแล้วรสชาติอร่อยดีครับ ชอบจานสุดท้ายมากๆ ที่เป็นเนื้อ Sirloin หอมสุดๆ

สำหรับใครที่อยากลองมาชิมอาหารอิตาเลียน รสชาติแบบพื้นเมืองแท้ๆ  ช่วงนี้ ตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน ถึง 31 ธันวาคม 2558 ห้องอาหารฟาโวล่า นำเข้า เห็ดทรัฟเฟิลสีขาว จากแคว้นปีเอมอนเต ประเทศอิตาลี ที่จะพร้อมปรุงเมนูอาหารอิตาเลียนของคุณ ด้วยรสชาติดั้งเดิมจากทัสคานี โดยฝีมือการปรุงของเชฟมากรางวัลจากอิตาลี เชฟมาโค คามารัตตะ  นอกจากนั้นยังมีวัตถุดิบพิเศษจากแคว้นปีเอมอนเต อาทิ เนื้อฟาโซน่า และชีส จากเทือกเขาลังเก ประเทศอิตาลี อีกด้วยครับ

หลังจากอิ่มอร่อยกับอาหารอิตาเลียน เรียบร้อย
ก็ได้เวลากลับห้อง พักผ่อนแล้วครับ







หลังจากหลับสบายมาทั้งคืน เช้านี้เราจะลงไปทานอาหารเช้ากันที่ห้องอาหาร Latest Recipe กันครับ



Latest Recipe ตั้งอยู่บนชั้น 2 (ชั้นเดียวกับล็อบบี้) เป็นห้องอาหารแบบ all-day-dining
บริการอาหารนานาชาติ ที่ผสมผสานความอร่อย ทั้งตะวันออก และตะวันตก อย่างลงตัว
ตกแต่งด้วยบรรยากาศแบบเรียบง่าย  ด้วยกระจกบานใหญ่ ที่สามารถมองเห็นวิวของสระว่ายน้ำด้านนอก

เปิดบริการตั้งแต่เวลา 06:00-23:00 น.
มื้อเช้า  บริการอาหารจานเดียว และบุฟเฟต์ ตั้งแต่เวลา 06:00 - 10:30 น.
มื้อกลางวันและเย็น บริการอาหารจานเดียว ตั้งแต่เวลา 10:30-23:00 น.

และสำหรับมื้อเย็น ทุกวัน พฤหัสบดี ศุกร์ และเสาร์  บริการอาหารบุฟเฟต์ ตั้งแต่เวลา 18:00-23:00 น.
ราคาเริ่มต้น 1,500++ บาทต่อท่าน ไม่รวมเครื่องดื่ม
ส่วนวันอาทิตย์  บริการอาหารซันเดย์บรันช์ ตั้งแต่เวลา 12:00-15:00 น.













จุดเด่นของการตกแต่งห้องอาหารนี้ อยู่ที่โซนครัวแบบเปิด ซึ่งสามารถมองเห็นการปรุงอาหารของเชฟได้อย่างชัดเจน
สำหรับไลน์อาหารเช้า ก็มีมากมายหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น ไส้กรอก แฮม เบคอน สลัด ขนมปัง ชีส แบบตะวันตก
หรืออาหารแนวเอเชียน อย่าง ก๋วยเตี๋ยว ขนมจีบ ซาลาเปา ซูชิ ก็มีให้เลือกชิม









เชฟภัทระ สังวาลย์ เชฟที่ดูแลห้องอาหารเลทเทส เรซิพี

























แต่จานที่ห้ามพลาด ก็คือ อาหารจานซิกเนเจอร์มื้อเช้าอย่าง
ครัวซองต์ลาบปลาแซลม่อน และ ออมเล็ตผัดไท
ที่ผสมผสานความเป็นตะวันตก และตะวันออกได้อย่างลงตัว
รสชาติอร่อย ถูกปากแน่นอนครับ















จัดการมื้อเช้าเรียบร้อยแล้ว พามาชมห้อง Grand Suite กันต่อเลย
ห้องนี้มีขนาด 103 ตารางเมตร มีลักษณะใกล้เคียงกับห้อง Grand Deluxe
แต่มีส่วนของห้องนั่งเล่น พร้อมระเบียงที่กว้างกว่า ที่มีทั้งโซฟา และเตียงนอน สำหรับชมวิวด้านนอก
นอกจากนั้นยังมี  Walk-in Closet รวมถึงเครื่องชงกาแฟอีกด้วย













ส่วนของห้องน้ำแยกเป็นสัดส่วนจากห้องนอน  มีบานเลื่อนไม้สำหรับเลื่อนเปิดหรือปิดได้
ตกแต่งด้วยโทนสีขาวสะอาดตา  พร้อมกระจกเงาบานใหญ่ตลอดแนว
ที่แตกต่างคือ อ่างอาบน้ำทรงกลมขนาดใหญ่ และ ห้องอาบน้ำขนาดใหญ่ พร้อมเรนชาวเวอร์













Sparkling Sunday Brunch

สำหรับมื้อเที่ยงวันอาทิตย์ แบบนี้ เรามาทานบุฟเฟต์ สปาร์คกลิ้ง ซันเดย์ บรันช์ กันที่ห้องอาหารเลทเทส เรซิพี กันต่อครับ
ที่นี่มีอาหารทะเลสดๆ มากมาย ทั้ง  ล็อบสเตอร์, กุ้ง, ปลาทูน่าครีบเหลือง, ก้ามปูอลาสก้า, หอยนางรมฝรั่งเศส " ฟิน เดอ แคลร์ ",
หอยแมลงภู่, ปลาหมึก, กั้ง พร้อมน้ำจิ้มนานาชนิด

















สำหรับครัวร้อน ก็มีเมนูหลากหลายให้ลิ้มลอง ทั้งไก่งวง สเต็ก พิซซ่า ซุป ติ่มซำ เกี๊ยว ยำต่างๆ























รวมถึงเมนูพิเศษเหล่านี้ ที่สามารถสั่งกับเชฟได้

Seared Scallop



Seared Tuna with Orange Butter Sauce



Grilled Duck with Mix Berry Sauce



Foie Gras





Carrot Soup



อาหารญี่ปุ่น มีทั้ง ปลาดิบ และข้าวปั้นหน้าต่างๆ















เมนู Pasta ต่างๆ



อาหารไทย







Salad





ของทานเล่น ประเภทค็อคเทล และยำต่างๆ









ขนมปัง ชีส และ ผลไม้แห้ง















ลาบไก่



ยำหมูย่าง



Caprese



Beef Asparagus Salad



Poached Salmon Nicoise Salad



Mushroom Salad



cold cut ประเภทต่างๆ ทั้ง Sesame Pepper, Coppa, Chorizo,
Milano, Air Dried Beef, Parma Ham และ Iberico Ham













รวมถึงของหวาน และผลไม้









ขนมหวาน สีสันสดใส หลากหลายชนิด จากฝีมือของเชฟอนุพงษ์ นวลฉวี





Opera





Lychee Panna Cotta



Chocolate Mousse



Pistachio Griotin



Black Forest Cake







Brownie



Peach Melba







Fruit Tart



หรือจะเป็นขนมไทย ทับทิมกรอบ ก็มีเช่นกัน





หลังจากสำรวจไลน์อาหารแล้ว มาลงมือจัดการกันเลย

จานแรก ล็อบสเตอร์ ได้คนละครึ่งตัวนะครับ สดมากๆ เนื้อนุ่มกำลังดี
ทานกับน้ำจิ้มซีฟู้ด แซ่บๆ ยิ่งอร่อยขึ้นไปอีก



อาหารทะเลคุณภาพดี  สดทุกอย่าง



ฟัวร์กาส์ นุ่มลิ้น ละลายในปาก





หอยเชลล์ย่าง



ปูฝรั่งเศสผัดผงกะหรี่ รสชาติเข้มข้นมาก ถึงเครื่องจริงๆ



ซีฟู้ดผัดซอสเอ็กซ์โอ กะทะร้อน



ซุปเยื่อไผ่ ร้อนๆ คล่องคอดีเหมือนกัน



ซูชิ และซาซิมิ คุณภาพดี




ตลอดเดือนพฤศจิกายน ถึง ธันวาคม 2558 นี้ ห้องอาหารเลทเทส เรซิพี ได้นำวัตถุดิบ ปูนำเข้า จากฝรั่งเศส มาปรุงเมนูพิเศษตามที่เราต้องการ
พร้อมกับอาหารทะเลสดๆ อย่าง ล็อบสเตอร์, กุ้ง, ก้ามปูอลาสก้า, หอยนางรมฝรั่งเศส " ฟิน เดอ แคลร์ ", หอยแมลงภู่, ปลาหมึก, กั้ง
พร้อมน้ำจิ้มนานาชนิด  นอกจากนั้นยังมี ฟัวร์กาส์, ซี่โครงแกะ, บาร์บีคิวย่างสด, เป็ดย่างฮ่องกง  และขนมหวานสุดอร่อย

สำหรับ Sparkling Sunday Brunch ทุกวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 12:00 - 15:00 น.
ราคา 1,800++ ต่อท่าน รวมเครื่องดื่ม ไม่ผสมแอลกอฮอล์
ราคา 2,300++ ต่อท่าน รวมบาร์เครื่องดื่มเต็มรูปแบบ ทั้งสปาร์คกลิ้งค็อกเทลมากกว่า 10 ชนิด รวมทั้ง เบียร์และ ไวน์

โดยยังสามารถใช้สิทธิพิเศษในการเข้าใช้สระน้ำอินฟินิตี้พูล ได้ฟรี อีกด้วย

โดยสรุปแล้ว โรงแรมเลอ เมอริเดียน สุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ กอล์ฟ รีสอร์ท แอนด์ สปา เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับทุกเพศ ทุกวัย
สามารถใช้เวลาในวันหยุดพักผ่อน เพลิดเพลินไปกับบรรยากาศธรรมชาติ อันเงียบสงบ พร้อมกิจกรรมต่างๆ มากมาย
และยังมีอาหารอิตาเลียน รวมถึงบุฟเฟ่ต์ชั้นเลิศ แสนอร่อย ที่จะสร้างความสุข และรอยยิ้ม กลับไปอย่างแน่นอน

พบกันใหม่โอกาสหน้าครับ

ขอบคุณเพื่อนๆ ที่แวะมาชมนะครับ

Create Date : 06 พฤศจิกายน 2558		2 comments
Last Update : 6 พฤศจิกายน 2558 13:58:11 น.
Counter : 3374 Pageviews.
Share Tweet