ในสาขาหนังสารคดี อันนี้ โดนใจ เพราะเป็นไปอย่างที่คาด และสมควร ...An Inconvenient Truth ได้รางวัลนี้ไปยังจะดูน้อยซะด้วยซ้ำ เพราะคุณค่าที่หนังเรื่องนี้มันมากมายเหลือเกิน
ในสาขาหนังต่างประเทศยอดเยี่ยม ก็ยังพูดไม่ได้ว่าดีหรือไม่ เพราะยังไม่ได้ดู (ตอนนี้มีฉายที่ลิโด แต่คงไม่มีโอกาสจะตีตั๋วดู เพราะยังมีหนังออสการ์อื่นๆจ่อคิวให้ดูอีกเพียบ) ...หนังเยอรมันอาจจะดูนอกสายตาไปสักนิด เมื่อเทียบกับความดังที่กำลังมาแรงของ Pan's Labyrinth แต่ถ้าดูจากประเด็นที่ The Live ต้องการสื่อสาร มันก็น่าที่จะทำให้กรรมการอยากเต็มใจจะให้รางวัลไป
ในส่วนของเพลงบรรเลง และเพลงร้อง ประกอบหนัง ...เห็นคนในเฉลิมไทยพูดๆกันว่า Babel ดนตรีเพราะตั้งแต่ต้นจนจบ อันนี้ผมก็ต้องเชื่อไปตามน้ำคำเขาพูดกัน (แต่ก็จะไปยืนยันแน่ๆ หลังสอบแอดมิชเสร็จ) ...ส่วน I need to wake up อันนี้เห็นควรหลงตามความเป็นจริง ที่เพลงนี้ ทำออกมาได้ปลุกเร้า และปลุกปั่นความคิดของคนได้ดีจริงๆ ตอนที่เครดิตขึ้น แล้วเพลงนี้กำลังฮึมฮัม ผมรู้สึกสะดุดหูเข้าอย่างจัง เพลงนี้เป็นการสรุปตัวหนัง AIT ได้อย่างรวบรัด ชัดเจน และฝังเข้าไปในหัวใจคนดู ...แม้ผมเองก็แอบเห็นใจและเสียดาย Dreamgirls อยู่ (โดยส่วนตัว โคตรรักหนังเรื่องนี้เลย) ที่อุตส่าห์เข้าชิงตั้ง 3 ก็ต้องยอมรับแต่โดยดี ว่า I need to wake up ให้อะไรกับคนฟังมากกว่ากันเยอะเลย
ผลงานบทความที่อยู่ใน Blog นี้ สามารถให้คนอื่นนำไปเผยแพร่ในที่อื่นๆได้ แต่ต้องขอให้แจ้งทางเจ้าของ Blog ก่อน ว่าจะนำไปใช้เพื่อประโยชน์ในทางที่ถูก พร้อมทั้งให้เครดิตของเจ้าของผลงานตัวจริงด้วย โดยห้ามทำการดัดแปลงแก้ไข ด้วยภาษาของตัวคุณเอง เพื่อทำให้เจ้าของ Blog เสียหาย