@ @ Chill out in extreme weather @ @

อาทิตย์ที่ผ่านมาแม่แทบจะไม่ได้ทำอะไรเลย


นอกจากทำงาน



แม่เข้ากะตั้งแต่ วันศุกร์เย็นถึงออกกะเอาอีกทีก็วันอังคารเช้าแล้ว


วันศุกร์แม่ไปทำงานชิลชิล ยุ่งตั้งแต่หัวค่ำกว่าแม่จะได้นั่งก็เลยเที่ยงคืนไปแล้ว


ส่วนวันเสาร์งานไม่ยุ่งเลย นั่งดูนาฬิกากันตั้งแต่สี่ทุ่ม ทำไมเวลามันเดินไปช้ามาก


หกโมงเช้าพ่อโทรมาบอกว่าหนูตื่นมาตั้งแต่ตีสองเกือบตีสามแล้วก็ไม่ยอมนอนอีกเลย



สองคนพ่อลูกดู cast away กับ forest gump กันจนเกือบจบเรื่องไม่ร้องงอแง แต่ไม่ยอมนอน


แม่กลับมาถึงบ้านอาบน้ำนอนไปแล้วหนูก็ยังไม่ยอมนอน


บ่ายโมงแม่ลุกมาป้อนนมหนู หนูผลอยหลับไปนิดหน่อยพอแม่เปลี่ยนให้พ่อกล่อมหนูก็ตาแป๋วเลย


แถมหนูเริ่มงอแง คงเพราะนอนไม่พอเป็นแน่แท้ ก็เล่นตื่นตั้งแต่ตีสองนะลูก


สุดท้ายแม่ไม่ไหว ไปนอนพ่อบอกว่าหนูหลับไปเกือบบ่ายโมง



อาทิตย์เย็นกับจันทร์เย็นหนูไปอยู่กับแอนตี้เคลลี่ก็ไม่เห็นงอแง อึ่มน่าคิด


 


แม่ทำงานอาทิตย์นี้มีเรื่องคนไข้ให้คิดด้วย


จริงๆมันเหมือนดูละครแล้วย้อนดูตัวมากกว่า


คุณป้าวัยเจ็ดสิบกว่า ต้องต่อท่อเลี้ยงอาหารทางท้อง มีสายอาหารทางจมูก มีท่อช่วยหายใจที่คอ



ทุกอย่างเกิดขึ้นจากเดือนกันยายนปีที่แล้ว จากที่เข้าโรงพยาบาลมาเพื่อซ่อมข้อเท้าที่หัก


ผ่านไปสี่เดือนทุกอย่างเหมือนจะไม่มีอะไรดีขึ้นมีแต่แย่ลง


จากสี่เดือนอยู่นอกโรงพยาบาลแค่สี่วัน


ครอบครัวลูกสาวอยากให้แม่มีชีวิตอยู่ต่อไปทั้งๆที่คุณภาพชีวิตเทียบแล้วเหมือนอยู่แต่ร่างกาย



สามีบอกถึงที่สุดแล้ว ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นให้ปล่อยให้ภรรยาไปอย่างสงบ do not resuscitate


ส่วนตัวคนไข้ไม่แน่ใจว่าสติยังอยู่ครบหรือเปล่า (alert oriented time what)


alert to situation นั่นคงไม่ใช่ << ไม่ได้เอาความคิดเห็นของแม่มาเป็นที่ตั้ง


แต่คนไข้คงไม่รู้จริงๆว่าทุกอย่างรอบข้างนั่นเป็นอย่างไร


 


อาทิตย์ที่แล้วแม่ไม่ได้ดูแลคนไข้คนนี้ แต่เป็นคนไข้ของเพื่อนแม่


ความดัน 60/30 เรียกหมอของ ICU มาดู หมออยากเปลี่ยนคนไข้เป็น DNR


ซึ่งจริงๆแล้วไม่ใช่การตัดสินใจของหมอ แต่เป็นการตัดสินใจของครอบครัว


คนไข้บอกให้ทำทุกอย่างให้เธอมีชีวิตอยู่ สามีบอกปล่อยเธอไป ลูกสาวบอกทำทุกอย่าง


น้ำเกลือผ่านไปห้าลิตร์ในเวลาสี่ชั่วโมง อาการทรงๆทรุดๆสุดท้ายสามีเป็นคนตัดสิน DNR


 


ตอนเช้าหมอประจำตัวมาคนไข้เธอบอกทำทุกอย่างให้เธอรอด


หมอเปลี่ยนเธอเป็น full code


อาทิตย์หนึ่งผ่านไปเธอไปอยู่ ICU หนึ่งรอบ คืนวันอาทิตย์แม่เข้าเวร คนไข้ออกมาจาก ICU


ตกดึก เธอ code blue ลูกสาวอยู่ที่โรงพยาบาลพอดี


เห็นทุกอย่างที่เราทำ ทั้งปั๊มหัวใจ ทั้งให้ยา ผ่านไปสามสิบนาที (really long code) ยังไม่ดีขึ้น


สุดท้ายลูกสาวเห็นสภาพแม่แล้วตัดสินใจ ปล่อยให้เธอไปอย่างมีความสุขเถอะ


หกสิบนาทีผ่านไป เธอจากไปอย่างสงบ


 


ตามความคิดเห็นแม่แล้ว ถ้าครอบครัวตัดสินใจว่า DNR ตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้ว คนไข้คงจากไปตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว


เคสนี้อยู่ที่ความขัดแย้งของครอบครัวจริงๆ



สามีอยากให้ภรรยาไม่ทรมาณอีกต่อไป ลูกสาวอย่าให้แม่อยู่ต่อเพราะรักแม่


แต่อะไรเล่าที่คือสิ่งที่ดีที่สุด คงไม่มีคำตอบไหนที่เป็นคำตอบที่ถูกต้อง หรือดีที่สุด


มองย้อนกลับมาดูชีวิตเรา แม่คิดว่าคงต้องทำอะไรที่เป็นลายลักษณ์อักษรเพราะลูกก็เล็ก


ตัวแม่เองอยากเป็นคนตัดสินใจชีวิตของแม่ตั้งแต่สติยังครบถ้วน


ถ้าถึงขั้นที่แม่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจแล้ว ก็ปล่อยแม่ไปอย่างสงบดีที่สุด


ไม่อยากเป็นภาระของคนรอบข้างเลย อึม Ethical issue นะ


 


พอๆยิ่งพูดยิ่งเครียด มาพูดเรื่องดินฟ้าอากาสกันดีกว่า


ช่วงนี้หนาวมาอีกระลอกแล้ว วันเสาร์เช้าแม่กลับบ้านละอองหิมะตกนิดหน่อย


เดี๋ยวหนาวเดียวอุ่นพาลจะไม่สบายเอา


ตกเย็นวันจันทร์เค้าบอกสตอร์มมา แม่ออกจากบ้านตกมาเป็นน้ำแข็งนิดหน่อย



เปลี่ยนใจโทรไปลารู้สึกผิด แต่ยังไม่อยากตายบนถนนเพราะอุบัติเหตุ


นาทีนึงหลังลารู้สึกผิดสุดๆ โทรกลับไปบอกเจ้านายว่าจะไปทำ แต่อาจไปสายเพราะคงขับไปช้าๆ


พ่อโมโหมากมายถึงขึ้นอ้อนวอนก็แล้วบังคับกลายๆก็แล้วแม่ก็ยังไม่เปลี่ยนใจ


ความรับผิดชอบมาก่อนเสมอ สุดท้ายพ่อถึงขั้นขู่ว่าถ้าไปเกิดอะไรบนไฮเวย์ขึ้นไม่ต้องโทรหาพ่อนะ


แม่เศร้าไปนิดแต่รู้ว่าพ่อแค่ขู่


ออกกะมาอากาสไม่เลวร้ายอย่างที่เค้าคาดกันไว้หิมะตกมาสองสามนิ้วได้พอขับรถกลับบ้านได้


 


ไดยาวแล้วต่ออีกหน่อยก็แล้วกันนะ ตอนนี้แม่เริ่มสังเกตุลูกของแม่สองอย่าง


เรื่องแรก เรื่องการเรียนรู้ แม่สังเกตุว่าหนูเริ่มเรียนรู้ไวและมากขึ้น


หมอและพยาบาลบอกแม่หลายรอบแล้วว่าหนูเป็นเด็กที่ alert มาก เค้าว่าดึ



ช่วงนี้เมื่อไรที่หนูเห็นอะไรที่หนูสนใจ หนูจะหยุดทุกอย่างที่ทำ แล้วทำหน้าสนใจสุดริด


แล้วหนูก็จะทำตามที่พ่อหรือแม่สอน แม่หวังว่าหนูโตไปหนูจะเป็นเด็กที่เรียนรู้ไวนะลูก


 


เรื่องที่สองเรื่องการหลับนอน เรื่องนี้ขอบอกว่าเป็นความผิดของพ่อและแม่จริงๆ


เพราะสี่เดือนกว่า อาทิตย์หน้าก็จะห้าเดือนแล้วหนูยังนอนด้วยตัวเองไม่ได้


อาจจะเป็นเพราะพ่อกับแม่เป็นพ่อแม่มือใหม่ แถมไม่มีผู้ใหญ่ให้ปรึกษา


เมือไรที่ลูกร้องจึงโอ๋กันเสมอ ยิ่งพ่อด้วยแล้วพอลูกร้องก็อุ้ม



ช่วงนี้แม่สังเกตุว่าหนูง่วงหนูจะงอแงเป็นพิเศษทั้งดูดนมทั้งร้องไปในเวลาเดียวกัน


หนูไม่สามารถหลับได้ถ้าแม่ปล่อยให้หนูนอนเองตอนหนูเริ่มง่วง


ต้องกล่อมกันให้หลับสนิทเท่านั้นถึงจะวางได้


แม่รู้ว่าทำไมถูก แต่ไม่สามารถจริงๆ


ตอนนี้กลัวแต่ว่าหนูโตขึ้นไปแล้วจะกลายเป็นปัญหาใหญ่


หลังจากปรึกษากับเพื่อนๆผู้มีประสบการณ์รอบตัวแล้ว


แม่คงจะเริ่มปล่อยให้หนูนอนเองแล้ว จะหมู่หรือจ่าผึกหนูได้แล้วจะมาเล่าให้ฟังนะคะ


 


เรื่องของแมเองหลังจากที่หน้าหนาวอาบน้ำร้อนตลอด ผมเลยเสียน่าดู


ปลายแตกมากแห้งกรอบจนบางทีหวีไม่ไปกันเลยทีเดียว


จะเก็บกลับไปตัดที่เมืองไทยเหมือนทุกทีคงอีกนาน


ครั้นจะตัดที่นี่ก็ยังจำได้ถึงคราวที่แล้วที่ถึงมีการหลั่งน้ำตาหลังตัดผมกันทีเดียว


สุดท้ายทำใจได้รีบนัดช่างไปหั่นผม ออกมายังไม่ได้ดังใจแต่หยวนๆไม่แย่มาก



หัวเบาเลยแฮะ


 


จบดื้อๆ.....หมดไฟ


รักลูกที่สุด


แม่จ๋า


 











IF YOU ARE HAPPY -




Create Date : 30 มกราคม 2552
Last Update : 30 มกราคม 2552 10:05:55 น.
Counter : 652 Pageviews.

2 comments
  

สวัสดีคะ แวะมาทักทาย ขอให้มีความสุขทุกวันนะจ๊ะ

โดย: หน่อยอิง วันที่: 30 มกราคม 2552 เวลา:11:06:20 น.
  
ลอง
โดย: รี (natharee ) วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:0:24:38 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

April_Gal
Location :
ปทุมธานี  United States

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]



มกราคม 2552

 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
22
23
24
25
26
27
28
29
31
 
30 มกราคม 2552