... ชีวิตเพื่อเที่ยว หัวใจเพื่อ..ใคร ? ...
 
กันยายน 2553
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
17 กันยายน 2553

เรื่องสั้นไร้ชื่อ

...
เหตุเกิดจากการพบปะกันในเฟบุ
คุณหมูคนต้นคิดให้ช่วยกันเขียนเรื่องสั้น
เขียนคนละท่อนสองท่อน ตัดแปะ ตัดปะ
จึงออกมาเป็นเช่นนี้
เชิญท่านทัศนา
(อย่าพยายามเดาเลย ว่าใครเขียนท่อนไหนบ้าง ฮ่าๆๆ)
.
..
...
ข้าวโพดเดินอย่างหมดหวัง ไปตามถนนสายหนึ่ง หลังจากเธอเพิ่งแยกจาก ภาคภูมิ คนที่เพิ่งจะบอกเลิกเธอ. ยังไม่ทันที่เธอจะบีบน้ำตา เสียงโหยหวนก็ดังจากพงหญ้าลมแรงกรรโชกมาพร้อมกับละอองฝนเบาบาง ข้าวโพดผงะถอยหลังครึ่งก้าว สายตาพุ่งฝ่าเข้าไปในความมืด พงหญ้านั้นยิ่งสั่นไหวเกรียวกราว เสียงโหยหวนอยู่ดีๆ ก็เงียบหายไปข้าวโพดค่อยๆก้าวเข้าไป ค่อยๆ ย่อง ย่..อ..ง ย่..................อ............................ง ก้าวที่เชื่องช้าของเธอไม่ได้ทำให้บางอย่างในพงหญ้านั้นเงียบจริง ในขณะเดียวกันเธอเองก็ไม่รู้ว่าเสียงภายในใจของเธอหรือเสียงในพงหญ้านั้นดังกว่า...กัน

หญิงสาวยืนชะงักงันด้วยความรู้สึกกึ่งกลัวกึ่งอยากรู้ เธอเม้มปากนิ่งคิดอยู่ชั่วครู่ ก่อนที่จะตัดสินใจเดินบุกลุยพงหญ้ารกนั้นเข้าไป และเมื่อกวาดสายตามองหาต้นเสียงโหยหวนอยู่ได้ครู่ใหญ่ๆ เธอก็ต้องเบิกตากว้างด้วยความแปลกใจกับสิ่งที่เห็นเบื้องหน้า.....ข้าวโพด ใช้นิ้วชี้กับนิ้วโป้งของตัวเอง ค่อยๆจิ้มมาที่ตาทั้งสองข้างของตัวเอง พร้อมเบิกตาตัวเองให้กว้างขึ้นจากตาตี่ๆของเธอ เธอเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ภาคภูมิทำไมไม่ชอบหญิงตาชั้นเดียวอย่างเธอ ทั้งๆที่คนไทยคลั่งเกาหลีลงตับกันทั่วบ้านทั่วเมืองข้าวโพดค่อยๆ มองเข้าไปในความมืด พลันสายตาก็ประสานกับเจ้าของเสียงในพงหญ้า

"คุณคะ คุณ Are you all right?"

เจ้าของเสียงยังคงเงียบงัน...สายลมเริ่มโหมแรงขึ้นเหมือนมีใบพัดขนาดใหญ่ พัดหอบพงหญ้าลู่เอนจนเห็นลานกว้าง ฝนที่ตกปรอยๆเมื่อสักครู่เริ่มจะไม่ใช่อีกแล้ว ข้าวโพดรีบเอามือมาบังหน้าบานๆของเธอ พร้อมกับหลับตาซึ่งความจริงก็คงไม่ต้องหลับก็คงได้...เหมือนกัน

"อ้าว ! ...หายไปไหนฟระ มองไม่เห็นเลย"

ข้าวโพดบ่นพึมพำ พร้อมกับลืมเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นกับภาคภูมิชายคนรักไปถนัดใจมีบางอย่างกำลังเคลื่อนไหว เธอค่อยๆลืมตาอันเรียวเล็กขึ้นและมองผ่านช่องว่างระหว่างนิ้วมือที่กางออกโดยที่ยังไม่ลดมือลงอย่างกล้าๆกลัวๆ ภาพที่อยู่เบื้องหน้าระยะห่างจากเธอเพียงไม่กี่ก้าว โอว์พระเจ้า!
"คุณ!"

ด้วยสภาพของชายหนุ่มที่ข้าวโพดมองเห็น ทำให้เธอลดฝ่ามือลงและเดินตรงเข้าไปใกล้เขา เนื้อตัวเลอะเทอะเปียกปอน ดูเหมือนเขาพยายามจะลุกขึ้นเข่าข้างหนึ่งตั้งขึ้นสองมือพยายามยันตัวลุก เขาเงยหน้าขึ้นและสบตากับเธอ ขอบคุณที่ยังมีแสงสุดท้ายของวันที่ยังไม่ลับท้องฟ้า ทำให้เธอมองเห็นใบหน้าและสภาพของเขาชัดเจน

"โอ้ย!"

ร่างของเขาทรุดลงไปก่อนเสียงอุทานจะดังขึ้นด้วยซ้ำ

"คุณคะ ....."

ก่อนที่เธอจะได้ถามอะไร ชายหนุ่มยื่นกล่องรูปไข่ใบเล็กให้เธอพร้อมกับกำชับอย่างหนักแน่น

"นี่ไม่ใช่เรื่องเล่น ช่วยส่งกล่องสำคัญนี่ ให้คนชื่อสมชาย ไปตามหาเขาที่จตุจักรโครงการสี่ "
ชายหนุ่มส่งคำวิงวอนสุดท้าย ก่อนสิ้นใจ

ข้าวโพด ...กำกล่องใบนั้นแน่น พร้อมกับอุทานว่า
"ซวยแล้วตรู...."
ข้าวโพดหันซ้ายหันขวา ฝนชักจะหนาเม็ดขึ้นทุกที รอบตัวก็ไม่มีใคร ภาคภง ภาคภูมิช่างมันไปก่อน ไอ้ผู้ชายเฮงซวย เพราะเขาแท้ๆ ที่บอกเลิก ทำให้เธอตุปัดตุเป๋มาเจอความซวยยกกำลังสองตรงนี้ ข้าวโพดดูกล่องรูปไข่ในมือ

"จตุจักรโครงการสี่... ดึกป่านนี้คงเปิดอยู่หรอก ไปพรุ่งนี้คงจะดีกว่า..."
แล้วจะทำยังไงกับศพของผู้ชายคนนี้ดีล่ะเนี่ย ต้องแจ้ง...

ความคิดของเธอขาดห้วงไป เมื่อมีเสียงปืนดังปังมาจากความมืด ตามด้วยเสียงสวบสาบเหมือนคนวิ่งฝ่าพงหญ้าตรงมา"เฮ้ย!" เธออุทานเบาในใจ พร้อมก้มตัวนั่งหลบอยู่ข้างๆศพนั้น ก็แน่ไรใครจะกล้าอุทานแรงล่ะ ดวงตาของเธอเบิกโตเพื่อที่จะให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น แต่ก็ไม่ได้กว้างกว่าเดิมเท่าไหร่นัก

"มันมาหาจิ้งหรีดกันรึเปล่าฟระ"

" แล้วนั่นมันเสียงปืนหรือประทัดที่เราคุ้นเคย วุ้ย?"

เธอคิดในใจ สารพัดคำถามผุดขึ้นมา เหมือนสิวที่ขึ้นบนใบหน้าของเธอในสมัยแรกรุ่น แต่ไม่รู้คิดอะไรดังไปหรือเปล่า เมื่อมีเงารูปร่างสูงใหญ่ดำทะมึนมายืนอยู่ด้านหลังของเธอ

"นี่ คุณๆ มายืนทำอะไรอยู่มืดๆ เปลี่ยวๆ แบบนี้"

เสียงห้าวๆ ที่ทักขึ้นพร้อมนิ้วมือจิ้มสะกิดที่สีข้าง ทำเอาเธอสะดุ้งโหยงเกือบร้องกรี๊ด วี๊ด บู้ม! ข้าวโพดหันกลับมาหาเจ้าของเสียงและพบว่า...
"ข้าวโพด"

สองเสียงร้องขึ้นแทบจะพร้อมกัน ข้าวโพดเกือบจะอุ่นใจ อย่างน้อยก็ยังเป็นคน... เคยรู้จัก (แล้วเมื่อกี๊ใครบ่นว่าเป็นผู้ชายเฮงซวยเนี่ย) แต่แล้วเธอก็ต้องเบิกตากว้างเท่าปากแปะ เมื่อเห็นปืนพกสีเงินในมืออดีตคนรัก ภาคภูมิค่อยๆ ยกปืนเล็งตรงมา เสียงขึ้นนกดังสะท้านกอหญ้า (มันสะท้านได้มั้ย, ปืนสมัยใหม่ยังมีนกสับอยู่หรือเปล่า) ข้าวโพดแข้งขาสั่นระริก ไม่สามารถทรงตัวในท่านั่งยองๆ ต่อไปไหว ถึงกับหงายหลังแผละลงไปข้างๆ ศพนั่นเอง

ข้าวโพดสงบนิ่ง สติมาปัญญาเกิด เธอนึกถึงตอนเด็กที่พ่อสอนเธอ จิตที่แข็งแกร่งเอาชนะได้ทุกอย่าง เธอถีบไปที่เป้าของภาคภูมิอย่างแรง พร้อมแย่งปืนพกมาอย่างมั่นคงภาคภูมินั่งกุมเป้าหน้าเขียวคล้ำ ดูๆแล้วตอนนี้ภาคภูมิดูน่ากลัวกว่าศพอีก

"คุณมาทำไม น่ะภาคภูมิ....ไหนคุณว่าฉันมันไม่ดีพอไง"

ภาคภูมิยังหลับตาปี๋พร้อมทำปากจู๋เหมือนซุปเปอร์แมนในเรื่องอาราเล่ หาได้สนใจคำถามของข้าวโพดไม่

"ขะ ข้าวโพด ส่งปืนนั่นคืนมาให้ผมเถอะ"
ภาคภูมิกัดฟันพูดขึ้นในที่สุด 'เชอะ ฝันไปเถอะอีตาบ้า ถึงชั้นจะตาชั้นเดียว แต่ก้อไม่โง่นะเฟ้ย' ข้าวโพดคิดในใจก่อนเล็งปืนไปยังชายหนุ่มตรงหน้าอย่างเอาจริง
"คุณตอบชั้นมาก่อนสิว่า คุณมาทำอะไรที่นี่!"
"ผมมาทำงาน..และบอกคุณได้เพียงแค่นี้"
ภาคภูมิดูมีความลับบางอย่างซ่อนอยู่มากกว่าการบอกเลิกเธอด้วยข้อหาตาชั้นเดียวที่เธอได้รับแน่ๆ
"ส่งไข่ เฮ้ย!กล่องรูปไข่ใบนั้นมาให้ผม"
ภาคภูมิพูดผิดๆถูกๆเพราะอาการจุกที่อัดแน่น
"คุณรู้ได้ไง อ่ะ"
เธอสงสัยขึ้นมาทันที โดยลืมไปว่าเธอถือไว้ในมืออีกข้างหนึ่ง ในใจพลันคิดไปว่า แค่กล่องใบเล็กๆทำไมต้องฆ่ากันด้วย ทำไมต้องตามหา และทำไมต้องที่จตุจักร สารพัดคำถามถาโถมเข้าหาข้าวโพด พอๆกับยุงในพงหญ้า
"อ่ะ"
ข้าวโพดยื่นกล่องให้ภาคภูมิอย่างง่ายดาย
ภาคภูมิยื่นมือรับกล่องนั้น พร้อมกับลูกกระสุนที่ข้าวโพดเผลอลั่นไกเข้ากลางกบาลอีกหนึ่งนัด

ริ้งๆๆๆๆๆๆ เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้น
ข้าวโพดหันไปมองภาคภูมิ ชายที่เธอเพิ่งแต่งงานกับเขาไปไม่ถึงอาทิตย์ การได้แต่งงานอาจจะเหมือนกับการบอกเลิกอิสระภาพของการเป็นโสด กระสุนที่เธอยิงใส่ภาคภมิในความฝัน คล้ายเป็นการจัดการจบชีวิตของชายหนุ่ม ข้าวโพดลุกขึ้นจากเตียงนอน พร้อมกับอาการวิงเวียนเธอมั่นใจว่า กล่องรูปไข่ที่เป็นปริศนาอันมืดมน บัดนี้ได้ถูกซ่อนไว้ในตัวของเธอแล้ว เธอเผลอตัวไปลูบที่ท้องเบาๆๆ พร้อมกับนึกถึงน้องชายที่ได้เสียชีวิตไปแล้วเมื่อปีที่แล้ว สมชายอาจจะมาเกิดเป็นลูกของเธออีก ตามที่เธอได้วางแผนการเพื่อแต่งงานกับภาคภูมิ เธอยิ้มในความสำเร็จ ที่แม้ว่ามันอาจจะดูเป็นเรื่องไร้สาระของใครก็ตาม........
..
หลังจากนั่งพักให้หายจากอาการวิงเวียน เธอหย่อนเท้าลงข้างเตียง บิดขี้เกียจเล็กน้อยแต่พองามยกมือขึ้นจัดผมที่กระเซอะกระเซิงให้เข้าที่ ก่อนลุกเดินเข้าห้องน้ำ วันนี้เธอตั้งใจว่ายังไงซะจะต้องลองไปเดินที่จตุจักรโครงการสี่ ..... บางอย่างอาจจะรอเธออยู่ที่นั่น
...
"แท็กซี่..จตุจักรโครงการสี่ค่ะ ไปโลด "
..........................................................

ต้นเรื่องต้นคิด คุณหมู
ต่อเรื่อง.........คุณพีท คุณ Alpha Fo คุณอุ้มสี และสิงห์อมบ๊วย




 

Create Date : 17 กันยายน 2553
10 comments
Last Update : 19 กันยายน 2553 14:02:02 น.
Counter : 465 Pageviews.

 

กร๊าก ดีจังครับ ช่วยก๊อปมาวางให้อ่านง่าย ผมพลาดฉากสุดท้ายไปแหละ อ๊าก

 

โดย: คุณพีทคุง (ลายปากกา ) 17 กันยายน 2553 20:58:47 น.  

 

อิอิอิ...มาอ่านเพลินดีเหมือนกันเน๊อะ

 

โดย: ALPHA FO 17 กันยายน 2553 21:48:37 น.  

 

..
ฮ่าๆๆ

ตกลง ชื่อเรื่องอ่ะ ชื่ออะไรดี

 

โดย: สิงห์อมบ๊วย IP: 222.123.61.132 17 กันยายน 2553 23:00:24 น.  

 


โอ้ ไม่น่าเชื่อว่าจะต่อกันเนียนขนาดนี้
ชอบ ชอบ ค่ะ

 

โดย: niree IP: 58.8.225.178 20 กันยายน 2553 11:33:49 น.  

 


โอ้ ไม่น่าเชื่อว่าจะต่อกันเนียนขนาดนี้
ชอบ ชอบ ค่ะ

 

โดย: niree IP: 58.8.225.178 20 กันยายน 2553 11:33:49 น.  

 

ชอบมากๆ ใครแต่งตอนไหนกันบ้างคะเนี่ย ฮ่าๆ เนียนจริงๆ

 

โดย: รินรดา IP: 61.90.7.166 25 กันยายน 2553 15:36:16 น.  

 

แวะมาอ่านอีกรอบ ขำดี

 

โดย: หมูเอง IP: 125.25.0.61 27 กันยายน 2553 0:52:10 น.  

 

จตุจักรโครงการสี่ บางอย่างรอเธออยู่ที่นั้น.......

 

โดย: พี่สม IP: 125.27.185.211 27 กันยายน 2553 7:40:11 น.  

 

aloooo!! phewww I thought I was real..Only dreaming!!

 

โดย: P'Corn IP: 71.81.178.101 28 กันยายน 2553 8:03:33 น.  

 

ตามคุณคอร์นมาติดๆ

 

โดย: ชวา IP: 58.8.144.47 28 กันยายน 2553 8:40:16 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


สิงห์อมบ๊วย
Location :
ขอนแก่น Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





ลายปากกา


เรื่องสำคัญ ทำความเข้าใจกันก่อนงานเขียนใน "บล็อกสิงห์อมบ๊วย" เป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน แม้ผลงานจะห่วย ก็เป็นสิทธิ์ของผู้เขียนนะคะ ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย ห้ามคัดลอก ดัดแปลง เผยแพร่ โดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นลายลักษณ์อักษร มิฉะนั้นอาจมีความผิด ตาม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 ................................
[Add สิงห์อมบ๊วย's blog to your web]