ซีไอเอเผยสูตรลับ "น้ำหมึกล่องหน" ของสายลับสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
หน่วยสืบราชการลับกลางแห่งสหรัฐอเมริกา หรือซีไอเอ ได้ทำการเปิดเผยแฟ้มการสืบสวนที่เก่าแก่ที่สุดของสายลับชาวอเมริกันจำนวน 6 แฟ้ม ซึ่งเกิดขึ้นก่อนการถือกำเนิดของหน่วยงานดังกล่าว เมื่อปี 1947
โดยหนึ่งในรายงานเมื่อปี 1918 ระบุถึงประเภทของสารเคมีและเทคนิคที่ใช้ในการเขียนข้อความลับ และอีกฉบับในปี 1914 ซึ่งเขียนเป็นภาษาฝรั่งเศส ระบุถึงสูตรลับที่เชื่อว่าสายลับเยอรมันใช้ผลิตเป็น"หมึกล่องหน"
นายลีออน พาเน็ตต้า ผู้อำนวยการซีไอเอ กล่าวว่า เมื่อเห็นว่าข้อมูลทางประวัติศาสตร์ดังกล่าวไม่มี"ความอ่อนไหว"อีกต่อไป เขาจึงเห็นว่าซีไอเอสามารถแบ่งปันความรู้ดังกล่าวให้แก่สาธารณชนได้ทราบ
เอกสารดังกล่าว ซึ่งก่อนหน้านี้ ถูกเก็บอย่างเป็นความลับที่สำนักงานสืบราชการลับกองทัพเรือ ก่อนที่จะถูกส่งต่อมายังสำนักงานบริการด้านกลยุทธิ์ ซึ่งเป็นหน่วยงานลูกของซีไอเอ และมีบางช่วงที่เขียนด้วยลายมือ เปิดเผยกระบวนการทางเคมี ที่เจ้าหน้าที่สืบราชการลับใช้สำหรับเปิดซองจดหมายปิดผนึก โดยที่ไม่สามารถถูกตรวจพบ โดยระบุคำเตือน เช่น "ห้ามหายใจเอาไอระเหยเข้าจมูก"
บ้างก็ระบุถึงวิธีส่งข้อความลับ และนำสารประกอบที่ใช้เป็นหมึกล่องหนติดตัวไปด้วยในช่วงสงคราม โดยการจุ่มผ้าเช็ดหน้าหรือปกเสื้อลงในสารเคมี ซึ่งเป็นส่วนผสมระหว่าง ไนเตรท โซดา และแป้ง ก่อนที่จะนำไปผึ่งให้แห้ง และเมื่อจะนำไปใช้ ก็เพียงแต่นำไปแช่ในน้ำเปล่า สารเคมีผสมดังกล่าวจะหลุดออกมา และของเหลวดังกล่าวก็จะกลายสภาพเป็น"หมึกที่มองไม่เห็น"สำหรับใช้เขียนข้อความลับ ผู้ที่ต้องการอ่านข้อความ ก็เพียงแต่การป้ายสารโพแทสเซียมไอโอไดด์ลงไป
ข้อความทั้งหมดถูกบันทึกโดยนายธีโอดอร์ คิทก้า ผู้เชี่ยวชาญด้านการเขียนด้วยลายมือ ซึ่งแนะนำให้เขียนข้อความลับดังกล่าวลงบนร่างกายมนุษย์ และหากว่าต้องการอ่าน ก็เพียงแต่ใช้เครื่องพ่นละอองพ่นสารที่ใช้เป็นตัวกระทำปฏิกิริยาที่เหมาะสม
เขายังระบุวิธีการและสถานการณ์ต่างๆสำหรับการส่งข้อความลับ อาทิ การเขียนลงหลังสแตมป์ การซ่อนข้อความในแคปซูลยา และการบันทึกข้อความลงบนนิ้วเท้า
นอกจากนั้นเขายังกล่าวว่า สารเคมีบางตัวอาจมีฤทธิ์กัดกร่อนปากกาที่ทำด้วยโลหะ โดยแนะนำให้ใช้ปากกาที่ทำจากขนนกแทน
ที่มามติชนออนไลน์