"กัดดาฟี" ประกาศสู้ตาย! อ้างหนีจากฐานที่มั่นเพราะเป็น "กลยุทธ์"
พ.อ.มูอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบีย ประกาศ"สู้จนตัวตาย" และจะมีชัยชนะในการต่อสู้กับนาโต หลังจากกองกำลังของฝ่ายต่อต้านสามารถบุกยึดกรุงทริโปลีได้สำเร็จ
โดยสถานีโทรทัศน์อัล-อูรูบาห์ ทีวี รายงานว่า นายกัดดาฟี ซึ่งยังไม่มีใครทราบว่าปัจจุบันเขาอยู่ ณ ที่ใด กล่าวผ่านข้อความเสียงเป็นครั้งแรกหลังถูกฝ่ายต่อต้านยึดกรุงตริโปลีว่า หนีออกฐานที่มั่นบับ อัลอาซิซิยาห์ เพราะเป็นการเคลื่อนไหวทางกลยุทธ์ ทั้งนี้ ฐานที่ที่มั่นดังกล่าวถือเป็นสถานที่สุดท้ายภายใต้การควบคุมของเขาในทริโปลี
กัดดาฟีกล่าวหลังจากกองกำลังองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ใช้ปฏิบัติการทางอากาศถล่มที่มั่น 64 ครั้งติดต่อกัน ขณะที่ฝ่ายต่อต้านต่างเฉลิมฉลองที่สามารถเขาพื้นที่เมืองหลวงได้สำเร็จ
ภาพจากโทรทัศน์แสดงให้เห็นว่า เหล่านักรบกำลังทำลายศีรษะของรูปปั้นของผู้นำลิเบีย และเตะไปมาตามท้องถนน หลังจากเข้ายึดฐานที่มั่นบับ อัลอาซิซิยาห์ได้สำเร็จเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา และสามารถฉกฉวยทรัพย์สินบางส่วนออกมาจากบ้านพักของเขา อย่างไรก็ดี ยังคงมีฐานที่มั่นของกองทัพรัฐบาลในย่านอาบู ซาลิม และเขตอัล-ฮัดบา และใกล้กับโรงแรมริซอส ซึ่งเป็นสถานที่พักของนักข่าวต่างชาติเป็นจำนวนมาก
สถานีโทรทัศน์อัล-อูรูบาห์ ทีวียังเผยแพร่การสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับนายมุสซา อิบราฮิม โฆษกรัฐบาลว่า ลิเบียกำลังจะกลายเป็นเปลวเพลิงที่ร้อนระอุภายใต้เท้าของผู้บุกรุก และอาสาสมัครกว่า 6,000 คนกำลังเดินทางมายังลิเบียเพื่อต่อสู้ให้กับนายกัดดาฟี
โฆษกยังกล่าวด้วยว่า กองกำลังกัดดาฟีได้ควบคุมตัวพลเมืองระดับสูงชาวกาตาร์ 4 คน ชาวสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 1 คน พร้อมขู่ว่าฝ่ายต่อต้านจะอยู่ไม่เป็นสุขหากย้ายที่มั่นจากเมืองเบงกาซีทางตะวันออกมาเป็นกรุงทริโปลี
ส่วนสถานการณ์ในกรุงทริโปลีขณะนี้ยังคงมีการสู้รบประปราย หลังจากฝ่ายต่อต้านต้องใช้เวลานานถึง 5 ชม. ในการเข้ายึดฐานที่มั่นบับ อัลอาซิซิยาห์ นอกจากนั้นยังเข้าทำลายรูปปั้นและอนุสาวรีย์จำนวนมาก ซึ่งรวมถึงรูปปั้นที่ทำเป็นรูปมือสีทอง กำลังบีบเครื่องบินรบของสหรัฐฯ พวกเขายิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อเฉลิมฉลอง รวมถึงเข้ายึดอาวุธยุทธภัณฑ์จากคลังแสง
ทั้งนี้ ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่านายกัดดาฟีและครอบครัวอยู่ในฐานที่มั่นบับ อัลอาซิซิยาห์เมื่อวานนี้หรือไม่ ขณะที่มีรายงานว่า ฐานที่มั่นดังกล่าวมีการขุดอุโมงค์ใต้ดินเพื่อเชื่อมกับสถานที่สำคัญอื่นๆทั่วเมืองหลวง เป็นที่เชื่อกันว่าครอบครัวกัดดาฟีได้ใช้ทางหนีดังกล่าวเพื่อซ่อนตัวในเซฟเฮาส์ในกรุงทริโปลีและพื้นที่ภายนอก
ที่มา มติชนออนไลน์
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [
