สังขละ จ.กาญจนบุรี



วันพุธที่ 10 - วันพฤหัสที่ 11 ธ.ค.51

ตอนแรกตั้งใจจะไปกางเต้นท์ที่เขาใหญ่ หรือไม่ก็เขาพะเนินทุ่ง ตอนเย็นเตรียมเต้นท์พร้อมอุปกรณ์ขึ้นรถไว้แล้ว ช่วงบ่ายยังคุยกับคุณจิบเลยว่าจะไปไหนดี แต่คิดว่าจะไปเขาใหญ่ ตอนกลางคืนคุยกับแฟนว่าจะไปนอนไหนดี แฟนบอกตามใจ

เช้าตื่นขึ้นมา ไม่รู้ทำไมผมอยากไปนอนกาญจนบุรี แฟนบอกแล้วจะไปกางเต้นท์ที่ไหน ขับไปก่อนชอบที่ไหนค่อยกาง ถ้าไม่มีที่ถูกใจก็ขับกลับ

เพื่อนๆไปเที่ยวด้วยกันนะครับ





เวลา 06.00 น.ออกเดินทาง จากบ้าน(นนท์)  เซทไมล์ 0 ก.ม. ใช้เส้นทางสะพานพระราม 5 เข้านครปฐม บ้านโป่ง กาญจน์ พอถึง ทางแยก ท่าล้อ ผมเลี้ยวขวา ไม่เข้าตัวเมืองกาญจน์ ขับตรงไปจนถึงสี่แยกแก่งเสี้ยน ระยะทาง 144 ก.ม. ถึงเวลา 08.00 น. ผมแวะเติมน้ำมัน ทำธุระซื้อขนม เสร็จแล้วเดินทางต่อ

จากปั้มน้ำมันตรงไปตามเส้นทาง 323 ขับออกจากปั้มมาได้หน่อย ก็เหลือ 2 เลน รถวิ่งสวนกัน เป็นถนนราดยาง ขับได้สบายๆ ถนนเรียบ ไม่ค่อยมีรถครับ ใครจะไปเที่ยวไม่ต้องกลัวหลง มีป้ายบอกตลอดทาง (ไปน้ำตกไทรโยค) ขับตรงไปเรื่อยๆ จนมาถึงน้ำตกไทรโยคน้อย เวลา 08.40 น. ระยะทาง 200 ก.ม.พอดีครับ ผมแวะถ่ายรูป และฝากท้องไว้ที่นี่แหละครับ 





น้ำตกไทรโยคน้อย ฤดูนี้น้ำไม่ค่อยมีครับ แต่ถ้าเป็นหน้าฝน จะสวยน้ำจะเยอะ แต่ทั้งคนทั้งรถก็จะเยอะตามน้ำนั้นแหละ

ผมแวะกินอาหารตามสั่ง ซื้อเสบียง ถ่ายรูป ใช้เวลาไปประมาณ เกือบชั่วโมง ถึงเดินทางต่อครับ





ออกจากไทรโยคน้อย เวลา 09.30 น.ขับตามเส้นทาง 323 ไปเรื่อยๆ จนมาถึง ทองผาภูมิ รวมระยะทางจากนนท์ 280 ก.ม.เวลา 10.30 น.(ความเร็ว 100-120 ก.ม./ช.ม.)

ถ้าใครจะไปสังขละ ถึงสามแยกไฟแดงที่ ทองผาภูมิให้เลี้ยวขวา ถ้าขับตรง(จากสามแยกประมาณ 1 ก.ม.)จะเข้า ทองผาภูมิ จะไปเหมืองปิล็อกเข้าทางนี้ครับ ขอแวะถ่ายรูปเล่นที่ทองผาภูมิก่อนครับ





เวลา 11.20 น.เดินทางต่อไปยัง สังขละ สภาพเส้นทางเป็นทาง 2 เลนสวนกันตลอด ราดยาง ขับสบายๆครับ (เส้นทาง 323 มีที่แวะเที่ยวตลอดครับ ใครอยากจะแวะตรงไหนก็ตามสะดวกเลยนะครับ) สำหรับผมผ่านตลอด กลัวเสียเวลา ขับมาถึง จุดชมวิว ป้อมปี่ เวลา 12.10 น.ระยะทาง 335 ก.ม.

สถานที่กางเต้นท์ ป้อมปี่มี 2 จุดครับ จุดแรก car camp เลี้ยวซ้าย สามารถนำรถเข้าไปจอดยังที่เรากางเต้นท์ได้ครับ (ผมไม่ได้ถ่ายรูปมา)แต่ได้ขับเข้าไปดูแล้วสะดวกดี (ช่วงผมไปไม่เห็นมีใครมากางเต้นท์เลยครับ)แบ่งเป็นจุดๆ มีอ่างสำหรับล้างจานให้ด้วย (แต่มีที่ให้กางน้อยครับ)

ขับวนขึ้นไปทางซ้ายจะเป็นจุดกางเต้นท์ใหญ่ ด้านหน้าจะเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ห้ามนำรถเข้ามา ต้องขนเต้นท์เอง ประมาณ 500-700 ม.

แฟนผมเห็นแล้วเฉยๆ บอกไปเที่ยวสังขละก่อน แล้วค่อยกลับเข้ามากางเต้นท์




ขับจากจุดชมวิว ป้อมปี่ ไปอีกประมาณ 30 กว่ากิโล ผมก็มาถึง ที่เจดีย์แบบพุทธคยาบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ สังขละ เวลา 13.30 น.





ระยะทาง ทั้งหมดจากนนท์ 369 ก.ม.ครับ สภาพเส้นทางมีขึ้นเขาโค้งเยอะ ถ้าใครไม่เคยขับขึ้นเขาก็ให้ระวังๆหน่อยแล้วกันครับ ไม่ต้องรีบ ขับได้สบายๆ 

เจดีย์แบบพุทธคยาบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ตั้งอยู่ห่างจากตัวอำเภอสังขละบุรีประมาณ 6 กม. ห่างจากวัดวังก์วิเวการาม 1 ก.ม.เป็นที่ตั้งของเจดีย์แบบพุทธคยา มีฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส บรรจุพระบรมสารีริกธาตุส่วนที่เป็นกระดูกนิ้วหัวแม่มือขวา ขนาดเท่าเมล็ดข้าวสารครับ















ผมยังไม่ได้แวะวัดวังก์วิเวการาม ได้แต่เข้าไปทำบุญที่เจดีย์ ฯ ผมชอบดอกไม้ที่ชาวบ้านเค้าร้อยมาถวาย ดูง่ายๆ ใช้ดอกไม้ที่ปลูกกันในบ้าน สวยดี ผมชอบครับ









ไหว้พระประจำวันเกิด







พอเดินออกจากโบสถ์ ก็มีตัวแทนแพต่างๆมาเสนอ ที่พัก นั่งเรือ ขี่ช้าง หลายเจ้าเหมือนกันครับ ผมก็ลองถามไปเรื่อย มีหลายราคา แฟนผมเริ่มสนใจแล้ว

ก่อนกลับ ผมขอรวมรูปที่เจดีย์ ฯ มาฝากส่งท้ายครับ

















ข้างๆเจดีย์ จะมีร้านของชาวบ้านแถวนั้นที่ทำจากไม้มาจำหน่ายด้วยครับ







กลับออกจากเจดีย์ ฯ ขากลับแวะที่จุดชมวิว ก่อนถึงสะพานจะเป็นของ อบต.หรือเทศบาล สังขละครับ เห็นบอกตรงนี้กางเต้นท์ได้ครับ ผมแวะดูหน่อยแล้วกัน







วิวจากจุดกางเต้นท์ อบต.















จุดกางเต้นท์ยังไม่ค่อยโดน แฟนผมอยากนอนแพ ส่วนผมก็ขี้เกียจขับรถกลับไป ป้อมปี่ อีก เลยแวะเข้าไปในหมู่บ้านมอญ เข้าไปถึงสะพานไม้ ได้ที่จอดรถ ก็เดินเล่นที่สะพานไม้ เดินได้สักพักก็มีน้องเข้ามาคุย แล้วแนะนำให้นอนแพลุงบุญ ราคา 500 บ.ถ้านั่งเรือเที่ยวชมวัดบาดาน 300 บ.แฟนผมตกลงทันที

นี่ไงครับแพลุงบุญ ที่ผมมาใช้บริการ ลุงบุญใจดีครับ ให้ผมทั้งแพเลย เปิดให้อีก 2 ห้อง 







ผมพักแพเบอร์ 2 จะมี 2 ห้องนอนพร้อมอุปกรณ์เครื่องนอน 1 ห้องน้ำ โทรทัศน์ 1 เครื่องและมีที่นั่งเล่น  อุปกรณ์ทำครัวครบ ใครจะมาเป็นครอบครัว ไม่ต้องเตรียมอุปกรณ์มาครับ มีให้หมด ทั้งแก็ส หม้อ ครก จานชาม ดูเอาเองแล้วกันครับ

แพสามารถลากไปที่อื่นได้

























แพลุงบุญ อยู่ฝั่ง อ.สังขละ แต่ผมจอดรถฝั่งบ้านมอญ ต้องเดินกลับไปเอารถมาจอดที่ ซองกาเรีย รีสอร์ท อยู่ตรงคอสะพานคอนกรีต ฝั่งสังขละครับ 







แพลุงบุญมีแพไม้ไผ่เปียก เรือแจว พร้อมห่วงยางและเสื้อชูชีพไว้ให้เล่นน้ำด้วย







เย็นๆมีหลานลุงบุญมาอาสาพาเรือไปเที่ยว น้องคุยเก่งมาก คนที่เชียร์ให้มาพักแพลุงบุญ ตามมาบริการให้ถึงที่ 





เลี้ยงปลาคราฟไว้หน้าแพ น้ำใสมาก 





ภายในห้องบนแพเปิดหน้าต่างจะเห็นสะพานไม้





บรรยากาศยามเย็นถ่ายจากห้องพัก 





ถ้าใครมาพักที่แพลุงบุญ เอารถมาจอดที่ ซองกาเรีย รีสอร์ท ที่จอดปลอดภัยดี จอดเสร็จ ลุงก็ให้น้องขับเรือมารับไปนอนแพครับ

แพลุงบุญ ฝั่ง อ.สังขละ







รถมาจอด รีสอร์ทซองกาเรีย











นั่งเรือจากจาก ซองกาเรีย รีสอร์ท ประมาณ 10 นาทีมาถึงแพลุงบุญ

















ได้ที่พักเรียบร้อยเก็บของเสร็จก็เดินขึ้นไปกินก๋วยเตี๋ยวร้านสะพานไม้ฝั่งแพลุงบุญ คนละชาม เสร็จก็ลงแพ แฟนผมก็ดูโทรทัศน์ ผมก็โดดน้ำเล่นที่แพ เอาประวัติสะพานมอญมาให้ดูก่อนแล้วกันครับ

สะพานมอญ อยู่ในตัวอำเภอสังขละบุรี เป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย มีความยาวถึง 850 เมตร กว้างประมาณ 4 เมตร สร้างข้ามลำน้ำซองกาเลีย สำหรับให้ประชาชนฝั่งตัวอำเภอสังขละบุรีและฝั่งหมู่บ้านชาวมอญเดินข้ามสัญจรไปมา

บริเวณสะพานแห่งนี้เป็นจุดชมวิวทะเลสาบเขื่อนวชิราลงกรณที่สวยงาม สามารถมองเห็นลำน้ำสายต่างๆ คือ ซองกาเลีย บีคลี่ และรันตี ที่ไหลมารวมกันเป็น สามประสบ



















ชอบแพหลังนี้จัง อยากมีบ้านแบบนี้





ได้เวลาเล่นน้ำแฟนผมขอถ่ายรูปตอนผมกระโดดตีลังกา ใส่เกลียว 3 รอบ เดี๋ยวจะถ่ายให้สวยเลย รับรองพี่เอารูปไปโชว์เพื่อนๆได้ ผมโดด ไป 4 ครั้ง จุกก็จุก สำลักน้ำอีกต่างหาก ขึ้นมาดูภาพ เห็นแต่ขา ตัวขาดบ้าง

ตัดสินใจเอารูปที่สวยที่สุดมาให้ดูแล้วกันครับ นี่แหละฝีมือแฝนผมเห็นแต่น้ำกระจายนะ 555 (น้ำใสมากเลยครับ ที่สำคัญทั้งแพผมไม่มีนักท่องเที่ยวมาพักเลยครับ)





ได้เวลา 5 โมงเย็น เรือก็มารับผมไปดูวัดใต้น้ำ หรือเมืองบาดาลครับ ช่วงดูวัดใต้น้ำที่สวย ช่วงเช้า 08.00-09.00 น. ช่วงเย็น 17.00 น. (ลุงบุญบอก) ใช้เวลาประมาณ 45 นาที แล้วแต่เราครับ ถ้าชอบตรงไหนก็อยู่นานหน่อย (ห่างจากแพไม่ไกลครับ) พาไปดู 3 ที่ ผ่านเจดีย์ ฯ หอระฆัง โบสถ์และต้นตาล 100 ปี





















































หลังจากนั้นก็กลับเข้าแพ เกือบ 6 โมงเย็น หิวข้าวมาก สั่งอาหารไป 5 อย่าง มีปลาแรดทอดกระเทียม(ตัวใหญ่มาก) ปลาคังลวกจิ้ม,แกงส้มปลาทอด,ผัดกระหล่ำปี,ไข่เจียวหมูสับ ข้าว 1 โถ,น้ำแข็ง 3 กิโล รอได้สักพักแพก็เอามาส่ง มาทานด้วยกันนะครับ













โชดดีที่ผมไม่ให้ลุงแกลากเรือไปนอนที่อื่น เพราะแค่นอนที่ฝั่งก็เงียบจะตายอยู่แล้ว ทั้งแพมีผมพักกับแฟนอยู่ 2 คน ส่วนแพอื่นเห็นมีนักท่องเที่ยวนอนอีก 1 ห้อง เงียบสงบดีเหลือเกิน ดีที่มีโทรทัศน์ให้ดู แพเพื่อนบ้าน เงียบเชียว





แพนี้ก็หนีไปนอนที่อื่นแล้ว เงียบเกินไปเปล่า 555





วันพฤหัสที่ 11 ธ.ค.51

ตัดมาตอนเช้า ผมกับแฟนเดินไปใส่บาตรพระที่ฝั่งบ้านมอญ เดินดูบ้านเรือน ดูวิถีชีวิตชาวบ้าน อากาศไม่หนาวอย่างที่คิด แค่เย็นๆ หลับสบายดีครับ















เจอร้านโจ๊กน่ากิน ลองชิมหน่อย อร่อยใช้ได้











ผมสังเกตทุกบ้านจะมี(เรียกอะไรไม่รู้ ตอนแรกก็สงสัย) มารู้ตอนหลังว่าไว้วางพระบูชา คล้ายหิ้ง แต่ทำยื่นออกมานอกบ้าน มีทุกหลังเลยครับ (ใครรู้บ้างครับ เรียกว่าอะไร) ผมว่ามันเป็นศิลปะ ดีครับ



















เดินไปเรื่อยๆ ก็จะถึงตลาดวัดวังก์ ตลาดจะเปิดขายตั้งแต่ ตี 5 จนถึง 2โมงเช้าตลาดก็เริ่มวาย (พวกผัดสด ปลา และของกิน) ส่วนอื่นๆ พวกของใช้ ก็คงขายไปจนเย็นครับ ส่วนตลาดฝั่ง อ.สังขละ ฝั่งเดียวที่ผมพักไม่ได้เดินไปเที่ยว จะใหญ่กว่า (ลุงบุญ บอกครับ) ผมชอบเดินตลาดที่เช้าบ้านเค้ามาขายเองมากกว่า





































มาดูขนมพื้นบ้านบ้างดีกว่า บางอย่างผมถาม แม่ค้ายังไม่รู้เลยว่าชื่อขนมอะไร หรือเค้าฟังผมไม่เข้าใจ















ส่วนสถานีรถโดยสารอยู่ด้านหน้าตลาดเลยครับ





มีโรงหนังหรือโรงละคร ด้วยนะครับ แต่ปิดกิจการไปแล้ว เสียดายไม่งั้นผมเข้าไปดูแน่ ชอบชีวิตชาวบ้านเค้าเรียบๆดี









เวลา 08.00 น.ผมก็กลับเข้าแพ ลุงบุญยก เอากาแฟ โอวันติน น้ำร้อน มาให้ผมชงกินครับ น่ารักมาก ก่อนกลับผมถ่ายรูปลุงบุญ กับแฟนลุง ครับ ผมจำชื่อแฟนลุงไม่ได้ ชื่อไปทางพม่าครับ

ผมแอบเรียกป้าว่า ป้าจำเนียร อิอิ ขอบคุณลุงและป้าด้วยนะครับ ที่ดูแลผมอย่างดี ไว้มีโอกาสจะไปใช้บริการใหม่





ร่ำลาเสร็จ ก็ออกจากแพ เวลา 09.30 น.ขับไปไว้หลวงพ่ออุตมะ ที่วัดวังก์วิเวการาม จนถึง 10.40 น.ถึงได้เดินทาง





















ออกจากวัดได้ ก็ตีรถยาว ตอนแรกว่าจะกินข้าวที่กาญจน์ แต่ไม่ไหว มาถึง อ.ทองผาภูมิ เที่ยงพอดี เลยขอแวะกินข้าวในตัวอำเภอดีกว่า แต่ยังไม่ทันข้ามสะพานเลยครับ

เห็นชื่ออาหารร้านนี้แล้วโดนครับ ต้องเลี้ยวกลับมาถ่ายรูป แต่หาร้านไม่เจอ เลยอุดหนุนร้านอาหารแถวๆนั้นแหละครับ ข้าวมันไก่ของแฟน ส่วนผม ข้าวขาหมู (ภาพนี้ขอเดียวเลยครับ ชอบชื่อเป็นพิเศษ)






เที่ยงครึ่งก็ออกจาก อ.ทองผาภูมิ ยิงยาวจนมาถึง อำเภอไทรโยค เลี้ยวขวาตรงสัญญาณจราจร เข้าไปประมาณ 7 ก.ม.(ทางลงเขา)ก็จะถึง ถ้ำกระแซ สะพานมรณะ เจอแต่นักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศครับ





















ออกจาก อ.ไทรโยค (ถ้ำกระแซ) เวลา 15.30 น.ก็ขับรถกลับบ้านครับ

ขากลับแวะซื้อของฝากที่ร้าน ท่าเรือวุ้นเส้น หลังจากนั้นก็แวะกินข้าวที่ตลาดนครชัยศรี ร้านติ๊กโภชนา อิ่มแล้วแวะเดินชมตลาดหน่อยก่อนกลับครับ





จากนครชัยศรี ผมตีรถเข้าศาลายา ออกพุทธมณฑล ขึ้นสะพานพระราม 5 ถึงบ้านผม 6 โมงเย็นพอดีครับ รวมระยะทางทั้งหมด 760 ก.ม.พอดีครับ สังขละ ไปช่วงไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยว เราจะได้พักผ่อนเต็มที่ ไม่ต้องแย่ง ไม่ต้องหงุดหงิดกับนักท่องเที่ยวด้วยกัน ได้เดินดูวิถีชีวิตชาวบ้านอย่างเรียบง่ายจริงๆ

แต่ถ้าไปช่วงเทศกาล เหมาะไปกับครอบครัวใหญ่ หรือไม่ก็เพื่อนฝูงหลายคน จะสนุก ไม่เหงา มีกิจกรรมให้ทำเยอะดีครับ ถ้าชอบตกปลา เล่นน้ำ ทำกับข้าว เป็นทางเลือกอีกทางสำหรับท่านที่ยังไม่รู้จะไปไหนครับ





ขอบคุณสำหรับเพื่อนๆทุกท่านที่ไปเที่ยวด้วยกันจนจบทริป



Create Date : 14 ธันวาคม 2551
Last Update : 25 ตุลาคม 2560 13:56:16 น. 51 comments
Counter : 9559 Pageviews.

 
เจิม


โดย: ลำน้ำซอง วันที่: 14 ธันวาคม 2551 เวลา:16:02:01 น.  

 
วู๊วว หนีไปสวีตวิ๊ดวิ๊วกันอีกแล้ว
คุณแฟนน่ารักจัง จะถ่ายรูปตอนโดดน้ำให้ พี่ต้องโดดไม่ดีเองนะคะเนี่ย ไม่งั้นก็ได้รูปสวยๆมาอวดแล้ว

กลางเดือนมค.น้านิ้งมา(อีกแล้ว) นิ้งก็กำลังคิดอยู่เลยจะชวนไปไหนดี
นึกถึงสังขละเหมือนกันนะคะ
เคยไปครั้งนึงตอนปี4 ส่งsmsรายการทีวีเลยได้ไป ขับรถไปแบบคาราวาน นิ้งไปกะน้า
ตอนนั้นถ่ายรูปอะไรมาก็ไม่รู้ตลกดี นอนเต้นท์ที่พีเกสต์เฮ้าส์ค่ะ อีกคืนมานอน บ้านห้วยอู่ล่อง
เป็นครั้งแรกในชีวิตเลยที่ได้นอนเต้นท์ ไม่ใช่นอนไม่ได้นะคะ แต่ไม่มีโอกาสนอนมากกว่า
หนาวมากๆ สนุกด้วย... ไม่ได้อาบน้ำ

อาการป่วย ตอนนี้ดีขึ้นแล้วค่ะ ไม่มีไข้แล้ว ยังเจ็บคอนิดหน่อย ... ที่ผ่านมาเศร้ามาก ไข้ขึ้น อยู่คนเดียวอีก จะโทรไปบอกพ่อบอกน้าก็กลัวเค้าเป็นห่วง...
นิ้งกลัวเป็นไข้เลือดออก(บ้ามั้ย) เพราะชอบปล่อยให้ยุงกัด ไม่ค่อยตีหรือไล่ไงคะ เลยกลัว

วันก่อนไม่ค่อยสบายก็ต้องไปทำงาน...ไม่อยากลาป่วย โดนแคนเซิ่ลไฟลต์ไปเยอะ กลัวกินแกลบเดือนหน้า

เรื่องเรียน ตัดสินใจแล้วค่ะ คงไปปี2010
หลายเหตุผล
น้านิ้งเค้าได้ทุน บังคับว่าต้องไปปีหน้า เดี๋ยวไม่มีคนอยู่เลี้ยงแมว... ข้อนี้นิ้งห่วงมาก
เค้าเรียนแค่ปีเดียว กลับมานิ้งค่อยไป พอกลับมาแล้วคิดว่าเค้าคงได้อยู่ในกทม.ไม่ต้องออกตจว.ค่ะ

อีกเรื่อง สัญญางานนิ้งหมดNov.'09ค่ะ ออกก่อนมีค่าปรับ ทางบ.แจ้งแล้วว่าหลังจากเดือนนี้ใครจะออก จ่ายเงินตามเงื่อนไขเดิม
ที่ผ่านมาก็มีคนออกแล้วไม่จ่ายค่ะ หนีไปเลย แต่ถ้าถามนิ้ง นิ้งอยากออกไปแบบจากกันด้วยดี ถ้าออกก่อนก็อยากทำตามสัญญา เลยคิดว่ารอหมดดีกว่าค่ะ

ปีหน้าทั้งปี นิ้งจะได้มีเวลาดู คิด ว่าจะเรียนอะไร ที่ไหนดี แบบไม่ต้องรีบ จะได้เรียนที่เราอยากเรียนจริงๆ เตรียมตัวเรื่องภาษาด้วยค่ะ ทั้งtoefl และอาจจะพวก gmat ... ถ้าโทเฟลรอด gmat อาจจะเป็นสเต็ปต่อไป

ส่วนพี่ต้องช่วงนี้สบายดีนะคะ


โดย: n_nink วันที่: 14 ธันวาคม 2551 เวลา:17:41:39 น.  

 
^
^
โห เพิ่งรู้ว่าตัวเองพิมพ์ยาวมากกกก


โดย: n_nink วันที่: 14 ธันวาคม 2551 เวลา:17:44:21 น.  

 
ว๊าวว นอนแพด้วย น่าสนุกดีจังว่าแต่ไม่เห็นภาพตอนกระโดดน้ำล่ะค๊ะ เห็นแต่น้ำกระจาย อิอิ

เคยไปพักที่ซองกาเลีย แต่เป็นบ้านริมน้ำ ตกเย็นก็กระโดดน้ำไต่เชือกแถว ๆ ที่พักเหมือนกัน สนุกดีค่ะ

ถ่ายรูปมาสวย ๆ ทั้งนั้นเลย เจดีฯ สีเหลืองอร่ามดีเน๊าะ ตอนนั้นถ่ายมาไกลมาก เลยไม่สวยแบบนี้อ่ะ

เห็นอาหารเย็นแล้ว โห..อิ่มไปด้วยเลยค่ะ นึกว่าไปกัน 4 คน..อิอิ เห็นปลาแรดแล้วหิวข้าวอีกรอบ

ไปแล้วก็คุ้มกับระยะยางเลยน่ะค่ะ ได้ไปแวะโน่น เที่ยวนี่ เก็บรายละเอียดดีจัง ตอนไปก็คนไม่เยอะน่ะ เงียบสงบน่าเที่ยวดีไม่ต้องแย่งกันพัก ร้านอาหารก็คนไม่เยอะ เหมาะกับการไปพักผ่อนจริง ๆ ค่ะ


โดย: บ้านดินริมสวน วันที่: 14 ธันวาคม 2551 เวลา:19:38:26 น.  

 
อยากไปเห็นเจดีย์พุทธคยาจังค่ะ


โดย: รัชชี่ (รัชชี่ ) วันที่: 14 ธันวาคม 2551 เวลา:19:44:57 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณต้อง
ว่าเงียบ ๆ หาย ๆ ไปไหน แอบไปหวานแหววกันอยู่นี้เอง ที่สังขระบุรี ณียังไม่เคยไปเลย ได้แต่ดูจากรูปของเพื่อน ๆ ละค่ะ

อิๆๆๆ เห็นภาพที่แฟนคุณต้องถ่ายรูปคุณต้องตอนกระโดดน้ำแล้ว อิๆๆๆ ยังนี้โทษแฟนไม่ได้นะค่ะต้องโทษคุณต้องกระโดดน้ำไม่ดีเอง ฮะๆๆ


โดย: paerid วันที่: 14 ธันวาคม 2551 เวลา:21:36:21 น.  

 
กรี๊ดดดดด แฮ่กๆๆ เหนื่อยมั่กๆๆ เดี๋ยวมาใหม่ดีก่า


โดย: มาเรีย ณ ไกลบ้าน วันที่: 15 ธันวาคม 2551 เวลา:15:44:22 น.  

 
หุหุหุ เรียกว่าเหยียบรอยเท้ากันติดๆ เลยนะเนี่ย

เกือบตายเพราะรีดเหล็กค่ะ แล้วเหล็กมันเป็น scap (พังนั่นเอง) ติดคา stand แล้วก็มีเศษประมาณช่วงแขนกระเด็นออกมา (อุณหภูมิแค่เกือบพันองศาเองค่ะ) โชคดีหลบทัน เพราะถ้าโดนอย่างน้อยก็ตัวขาดแค่นั้นแหละค่ะ

ปล.ทำรุปอยู่ค่ะ เอาแต่รูปได้มั้ย ขี้เกียจเล่าอยากนอนแล้ว แค่ตอนทำรูปก็ลากๆ วางๆ ไม่มีอารมณ์สร้างสรรค์เลย


โดย: veeda วันที่: 15 ธันวาคม 2551 เวลา:21:17:28 น.  

 
เพิ่งไปกาญจน์มาเหมือนกันค่ะ แต่ไปสังขละกับปิล๊อก ไปดูฉากนเรศวรไม่ทัน เค้าปิดซะก่อน แต่ว่าเราพักที่เดียวกันเลยอ่า เรานอนที่แพลุงบุญเหมือนกัน


โดย: plenaka วันที่: 15 ธันวาคม 2551 เวลา:22:26:16 น.  

 
ถ้าเป็นแพเบอร์2 นี่ก็แพเดียวกันเลยนะเนี่ย


โดย: plenaka วันที่: 15 ธันวาคม 2551 เวลา:22:27:35 น.  

 
ไม่อยากบอกเลยว่าจิบเกือบไปป้อมปี่เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาเหมือนกันค่ะ เพราะจิบเล็งอยู่ หาข้อมูลการเดินทางไว้แล้ว แต่แด๊ดดี้บอกว่าทันไกลไป จิบเลยเปลี่ยนแผนไปวังน้ำเขียว และสุดท้ายมาลงเอยแค่ทานตะวันและเขื่อนป่าสักแบบเดย์ทริปเพราะเรายุ่งเตรียมตัวเรื่องเอกสารเตรียมขอวีซ่า ต้องถ่ายรูปใหม่ และแกเองก็อยากดูองค์บากด้วยน่ะค่ะ

ไปแระ เดี๋ยวมาใหม่


โดย: มาเรีย ณ ไกลบ้าน วันที่: 16 ธันวาคม 2551 เวลา:1:38:03 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณต้อง

ที่จริงณีก็อยากเที่ยวสังขระนะค่ะ แต่ณีคิดว่ามันไกลแง่ ๆ เลย แต่คุณต้องไปแจ้งไว้ว่าจากนนท์ถึงสังขระระยะทาง 280 กม. เห็นแบบนี้ใจชื้นขึ้นหน่อยยังไม่ไกลเท่าไร ยังนี้มีโอกาสเมื่อไรต้องจัดทริปเที่ยวเสียแล้ว
แต่ช่วงหยุดยาวปีใหม่คงไม่ได้ไปหลอกค่ะ เพราะต้องเดินสายตามบ้านญาติ ต่างจังหวัด ที่แรกเลยคงจะบ้านแปดริ้ว และก็ไปบ้านยายที่จันทรบุรี และก็คงมาต่อด้วยที่บ้านญาติที่กลางดง เห็นระยะทางแล้วคงไม่ได้ไปเที่ยวไหนหลอกค่ะ

ปกติหยุดช่วงปีใหม่ สงกรานต์ ไม่เคยได้ไปเที่ยวไหนหลอกค่ะ เพราะต้องกลับไปทำกิจกรรมร่วมที่บ้านละค่ะ และเที่ยวช่วงเทศกาลนี้ณีขอบายเลยค่ะ ณีไม่ชอบไปไหนแล้วผู้คนเยอะแยะ

แล้วช่วงปีใหม่คุณต้องกับแฟนมีโปรแกรมเที่ยวไหนกันค่ะ คุณต้องอย่าลืมไปซ้อมกระโดดน้ำด้วยนะค่ะ อิๆๆ เดียวรูปถ่ายจะออกมาไม่สวย

ไปก่อนนะค่ะ วันนี้มาโม้ซะเยอะเลย อิๆๆ


โดย: paerid วันที่: 16 ธันวาคม 2551 เวลา:8:56:53 น.  

 


ขนาดยุ่งๆ เมื่อคืนยังอัพบล็อคไปแล้วค่ะ อิอิ

เช้านี้เลยต้องออนทัวร์เยี่ยมสื่อมวลชนเหมือนที่คุณต้องว่าจริงๆด้วย เกรงใจเพื่อนๆหลายคนมาเยี่ยมบ่อยๆแต่จิบยังไม่ได้แวะไปทักทายเลย

อีกซักวันสองวันน่าจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร แปลนไปเที่ยวก็น่าจะลงตัวมากขึ้นเพราะจะได้ฤกษ์เสียเงินค่าตั๋ว ค่าโรงแรมซักทีค่ะ

ทริปนี้คงหมดไปหลาย และคงอดเที่ยวเมืองนอกไปอีกปี .. เอาไว้ปลายปีหน้าค่อยไปกันใหม่ คราวหน้านี้แปลนไว้ไม่ยุโรบก็เมกา นอกนั้นอีกทั้งปีก็ลัลล้านอนกินแกลบเที่ยวเมืองไทยไปน่ะค่ะ

เดี๋ยวมาใหม่เด้ออ้าย


โดย: มาเรีย ณ ไกลบ้าน วันที่: 16 ธันวาคม 2551 เวลา:9:18:10 น.  

 
กลับมาแล้วจ้า คิดถึงนะคะขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมทุกวันนะคะ


โดย: watase วันที่: 16 ธันวาคม 2551 เวลา:13:34:09 น.  

 
ส่งกล้องซ่อมแล้วค่ะ ไม่เสียตังค์ด้วย เย้ๆ
ไปศูนย์nik ที่สีลมเลย โทรไปให้รอสายนานมาก
เลยแวะถามร้านที่ซื้อมา เค้าบอกว่าถ้านิ้งไปส่งเองจะเร็วกว่า ไม่งั้นต้องรอเป็นเดือน เลยไปเอง
ไปถึงเห็นป้ายว่า ซ่อมcoolpix(compact)ภายใน3ชม.
DSLR 24 ชม.
ไม่คิดว่าจะจริง เค้าไม่ถามนิ้งสักคำมาไปโดนไรมา
ถามแค่ว่าจะรอ5โมงมั้ย (ตอนนั้น2โมงกว่า) ไม่งั้นก็มารับพรุ่งนี้
โห... รวดเร็วมากๆ นิ้งไม่ได้รอค่ะ 5โมงรถติด ยังไงช่วงนี้ก็ต้องไปแถวๆนั้นบ่อยๆ เดี๋ยวค่อยกลับไปรับ
แต่ก็อยากได้กล้องใหม่อ่ะค่ะ อยากได้compactเล็กๆๆ พกไปนู่นนี่สะดวก
นิ้งดูแบบผ่อน0%อยู่... สร้างหนี้ให้ตัวเอง ฮ่าๆๆ

รดน้ำต้นไม้ทุกวันเลยค่ะ เริ่มเบื่อ
น้องยังไม่ได้มาเรียนค่ะ จะเรียนinlingual แต่levelของน้องนิ้งยังไม่มีคอสค่ะ ไม่รู้จะให้เรียนที่ไหนดี เห็นเซ็นทรัลมีinlingual ใกล้บ้าน ก็เลยเลือกที่นี ตอนนี้น้องเลยอยู่บ้าน ทำงานตัวดำ หน้าลอก

ช่วงนี้มีน้ำมูก อยากสั่งจมูกแรงๆมากๆแต่ไม่กล้า ได้แค่ซับๆเอา อยากสวยก็ทรมานเนอะ
นอกนั้นโอเคเลยค่ะ happyมากๆ ไม่โด่งเว่อ แต่(คิดว่า)สวยขึ้น


โดย: n_nink วันที่: 16 ธันวาคม 2551 เวลา:18:34:02 น.  

 
แวะมาราตรีสวัสดิ์ค่ะ ฝันดีนะคะ อากาศยังหนาวอยู่อย่างลืมห่มผ้าหนา ๆ ด้วยนะคะ


โดย: watase วันที่: 16 ธันวาคม 2551 เวลา:20:01:04 น.  

 
แวะมาเก็บค่าอาหารเที่ยงค่ะ
กุ้งเผา ปลานิลทอดกระเทียม??
แถวนี้ใครใหญ่คะ? จ่ายด้วยค่ะ


โดย: มาเรีย ณ ไกลบ้าน วันที่: 16 ธันวาคม 2551 เวลา:23:15:19 น.  

 

แวะมาชมภาพงามๆ ก่อนนอนจ๊ะ
หลับฝันดีเน๊าะ


โดย: อุ้มสี วันที่: 17 ธันวาคม 2551 เวลา:0:12:54 น.  

 
สวัสดีตอนเช้าค่ะ มีความสุขทั้งวันนะคะ และก้อรักษาสุขภาพเหมือนกันนะคะ


โดย: watase วันที่: 17 ธันวาคม 2551 เวลา:8:37:11 น.  

 
สวัสดียามเช้าค่ะคุณต้อง

ฮะๆๆ ที่คุณต้องบอกว่าถ้าไปจันทรบุรีแล้วจะมาสอบถามข้อมูลณี สงสัยคุณต้องถามผิดคนแง่ๆๆ เชื่อไหมค่ะณีไม่เคยได้เที่ยวแถวจังหวัดจันทรบุรีเลยค่ะ ไปทีไรอยู่แค่บ้านยายเองค่ะ บ้านยายณีอยู่อำเภอเขาสอยดาว ขนาดเขาสอยดาวยังไม่ได้ไปเที่ยวเลยค่ะ ไปบ้านยายทีใช้ชีวิตวันอยู่ที่บ้านยายและเดินเล่นในไร่ละค่ะ เท่านั้นเองค่ะ ชีวิตหน้าสงสารไปถึงนั้นแล้วแต่ไม่ได้เที่ยวอะไร

ช่วงสงกรานต์นึกถึงซอยเรวดีโฮ้เคยหลงเข้าไปทีแทบแย่ค่ะกว่าจะพ้นซอยได้แย่เลย อิๆๆๆ แล้วนับตั้งแต่นั้นที่หลงเข้าไป เลยจำได้ขึ้นใจเลยว่าช่วงสงกรานต์ห้ามเฉียดไปแถวซอยเรวดีเด็ดขาด

คุณต้องเป็นคนราชบุรีแล้วกลับไปที่นั้นบ่อยไหมค่ะ แถวราชบุรีมีที่เที่ยวไหนบ้าง ณีเคยไปราชบุรี 2-3 ครั้งเองแต่ไปนานมากแล้วไปทีก็อยู่แถวในตัวเมืองละค่ะ


โดย: paerid วันที่: 17 ธันวาคม 2551 เวลา:8:55:04 น.  

 
แวะมาฟ้อง ..... ฮือๆๆๆ














ว่าทางสถานฑูตเค้าแจ้งให้ไปรับพาสปอร์ตคืนบ่ายนี่แล้วค่ะ กรี๊ดดด เร็วมั่กๆๆ

ไม่รู้ว่าเค้าจะให้วีซ่าผ่านหรือว่าแค่ให้ไปรับเล่มและมีแสต๊มป์ว่าไม่ผ่านแต่ไม่เป็นไรค่ะหัวเราะไว้ก่อนได้กำไร ฮ่าๆๆๆๆ

อ้อ ... ค่าอาหารเมื่อวานไม่เป็นไรแล้วค่ะ วันนี้ดิชั้นอารมณ์ดี เลี้ยงเลยแล้วกัน สปอร์ตมั่กๆเห็นมั้ย


แต่ว่าตอนนี้คุณติดเราอยู่มื้อนึงแล้วนะคะ อย่าลืมไปทวงด้วยเด้ออ้าย


โดย: มาเรีย ณ ไกลบ้าน วันที่: 17 ธันวาคม 2551 เวลา:10:19:22 น.  

 
อ้อ อย่าลืมไปแจกกิฟเค้าด้วยน่ะ ในห้องแกลน่ะฮับ



โดย: มาเรีย ณ ไกลบ้าน วันที่: 17 ธันวาคม 2551 เวลา:10:22:55 น.  

 
กรี๊ดดด กลับมาไปห้องแกลก่อนเลย เห็นกิฟก็ว่าตกใจแล้ว เห็นกระทู้ขึ้นเป็นกระทู้แนะนำทั้งสองกระทู้เลยนี่ตกใจกว่า
ฝีมือคุณต้องหรือปล่าวเนี่ย?

ขอบคุณสำหรับกิฟน่ะค่ะ และแถมใจดีให้กิฟคนที่เข้ามาตอบแทนจิบอีก เพราะกิฟจิบเกือบหมดแล้วค่ะ อิอิ

ว่าแต่กิฟนี่เอาไปทำอะไรได้บ้างเนี่ย ?ถ้าแลกตั๋วหนังได้จะแลกให้คุณต้องไปดูกับมาดามวันวาเลนไทน์น่ะเนี่ย

ปอลอ .. ได้พาสปอร์ตแล้วค่ะ เย้ๆๆๆ


โดย: มาเรีย ณ ไกลบ้าน วันที่: 17 ธันวาคม 2551 เวลา:18:10:08 น.  

 
ยังไม่มีรมณ์ค่ะ ง่ายๆ เนอะ แหะแหะ ขี้เกียจจริงๆ น้า

ปกติก็ไม่ได้ชิดติดขอบจอ หน้างานขนาดนั้นหรอกค่ะ พอดีวันนั้นต้องเดินผ่านจากจุดนึงไปจุดนึงพอดี เลยได้เสียวแค่นั้นเอง



โดย: veeda IP: 115.67.183.236 วันที่: 17 ธันวาคม 2551 เวลา:21:10:49 น.  

 
หวัดดีคับปู่ จะเที่ยงแล้ว....หิว ฮ่าๆ
มีไรกินมั่ง ส่งมาให้ที่บ้านเลยนะคับ

ขอบคุณคับ โฮะๆๆ


โดย: FreakGirL (FreakGirL ) วันที่: 18 ธันวาคม 2551 เวลา:11:22:08 น.  

 
สวัสดียามดึกค่าาาา
ตลาดนัดตอนเช้า สงสัยไม่ได้แวะไปแน่เลย เพราะไม่ตื่น
ช่วงนี้ว่างงานค่ะ พักร้อน(เค้าตัดสิ้นปี)กะแลกสเก็ตไปเรียน จนไม่ได้ไปทำงานเลย ฮ่าๆๆ
หยุดมากก็ฟุ๊งซ่านค่ะ อยากได้นู่นได้นี่
กล้องยังไม่เสร็จเลย ต้องรออะไหล่ เปลี่ยนเลนส์ค่ะ เห็นบอกว่ามันช๊อต ดีที่อยู่ในประกัน ไม่ต้องเสียตังค์
กำลังหาคนซื้อต่ออยู่ นิ้งอยากได้กล้องใหม่ ฮ่าๆๆ
นั่งคิด นอนคิด สงสัยได้ไปซื้อเร็วๆนี้แน่ ไม่มีกล้องเซ็งว่าไม่มีมือถืออีก.... มือถือนิ้งถ่ายรูปไม่ได้ค่ะ รุ่นเก่าๆแต่ดีที่ไม่มีใครขโมย)
ไปนอนดีกว่า ฝันดีค่าา


โดย: n_nink วันที่: 18 ธันวาคม 2551 เวลา:23:39:52 น.  

 
ดร. สาโรช Dr. Saroj


โดย: ดร. สาโรช Dr. Saroj (mlmboy ) วันที่: 19 ธันวาคม 2551 เวลา:8:47:06 น.  

 
โอ๊ย . อิจฉาพี่จังเลยไปเที่ยวกันอีกแล้วแต่ยังดีนะที่พี่ไปเที่ยวแล้วยังเที่เผื่อน้องๆที่ยังมีรูปสวยๆมาฝากกัน ขอบคุณมากพี่จากน้องที่น่ารัก


โดย: ติ๊ก IP: 222.123.62.12 วันที่: 19 ธันวาคม 2551 เวลา:14:11:34 น.  

 


สวัสดีค่ะคุณต้อง วันนี้ณีกำลังตามขอบคุณเพื่อนชาวบล็อกค่ะที่ไปอวยพรวันเกิด เลยเข้ามาหาช้าไปหน่อยนะค่ะไม่ว่ากันนะค่ะ
วันนี้ไปทำบุญไหว้พระมาค่ะ เลยนำบุญมาฝากด้วยนะค่ะ
เดี๋ยวว่าง ๆ ณีเข้ามาใหม่นะค่ะ ไปตามขอบคุณเพื่อนก่อนนะค่ะ


โดย: paerid วันที่: 19 ธันวาคม 2551 เวลา:23:12:46 น.  

 
ลังเล แคนนอนกะลูมิกค่ะ
ไม่รู้จะเลือกพี่เคน หรือ พอลล่าดี
คงซื้อคอมแพคเล็กๆแหละ dslr ไม่เอาดีกว่า คงใช้ไม่คุ้ม

ชอบแคนนอนค่ะ ส่วนลูมิค เห็นลูกเล่นเยอะเลยอยากลอง

กล้องนิ้งไม่รู้เมื่อไหร่ได้ รออะไหล่
แต่กะว่าถ้าได้ก็คงขายดีกว่า ไปซื้อที่อยากได้
...อันที่ใช้อยู่คงไม่ต้องบอกนะคะว่าใครเลือกให้ เลยไม่อยากใช้แล้ว

ก็ดูๆ คาดว่าอีกไม่นานได้ซื้อใหม่แน่ ตอนนี้พวกผ่อน0%มันล่อใจค่ะ สร้างหนี้อีกแล้ววว

เสานี้มีงานแต่งงาน(อีกแล้ว) ส่วนวันอาทิตทำงานค่าา
พี่ต้องไปไหนป่าวค่ะ


โดย: n_nink วันที่: 20 ธันวาคม 2551 เวลา:0:17:08 น.  

 
สวัสดีวันเสาร์ค่ะ มีความสุขทั้งวันนะ


โดย: watase วันที่: 20 ธันวาคม 2551 เวลา:6:19:45 น.  

 
สวัสดีวันเสาร์ค่ะ
วันนี้คุณต้องอยู่ไหนค่ะเนี้ย อยู่บ้านหรือว่าออนทัวร์ค่ะ เที่ยวไหนกลับมาอย่างลืมมาเล่าสู่กันฟังนะค่ะ


โดย: paerid วันที่: 20 ธันวาคม 2551 เวลา:14:48:52 น.  

 
แวะมาราตรีสวัสดิ์ค่ะ หลับฝันดีนะคะ


โดย: watase วันที่: 20 ธันวาคม 2551 เวลา:21:16:23 น.  

 


โดย: มาเรีย ณ ไกลบ้าน วันที่: 20 ธันวาคม 2551 เวลา:23:35:12 น.  

 
สวัสดีเช้าวันอาทิตย์ค่ะ มีความสุขทั้งวันนะคะ วันนี้ไปเที่ยวไหนหรือเปล่าเอ่ย ยังงัยก้อเที่ยวเผื่อด้วยนะคะ สงสัยวันนี้คงติดคุกไปไหนไม่ได้นะคะ อิ อิ ตอนนี้เจ้าลิงแฝดกำลังป่วนจะยึดคอมฯนะคะ มีความสุขทั้งวันนะคะ


โดย: watase วันที่: 21 ธันวาคม 2551 เวลา:8:51:51 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...



โดย: อุ้มสี วันที่: 21 ธันวาคม 2551 เวลา:20:11:03 น.  

 
มาแล้วจ้า ขอโทษค้าบที่มาสาย แบบว่าวันนี้ไปบ้านกรูดมาค่ะ ไปนั่งหม่ำหนมชายทะเลมา หนาวมากกกกกกกกกกกกกกกก อากาศบางสะพานตอนนี้เย็นใช้ได้เลย ฝุ่นเยอะด้วย จนตอนนี้ต้องพึ่งยาแก้แพ้กับแก้หอบแล้วง่ะ ไม่งั้นไม่สบายตลอดเลย

กำลังเอารูปลงนะค่ะ ยังไม่มีเวลาเล่า เอาแค่รูปไปก่อนเนอะ

ปล. ไปกับคนเล่นกีต้าร์เป็นค่ะ ให้อภัยมั้ยเอ่ย


โดย: veeda วันที่: 21 ธันวาคม 2551 เวลา:20:17:43 น.  

 
พี่ต้องค้าบ ห้ามแซวห้ามเอ่ยถึงคนเล่นกีต้าร์นะ เดี๋ยวเผื่อใครผ่านไปผ่านมาแถว blog ดามันมะปลอดภัย แค่นี้ก็โดนแซวทุกวันแล้ว ทั้งๆ ที่เป็นแค่พี่น้องที่สนิทกันไปหน่อยแค่นั้นเอง

ตอนนี้ดานั่งอัพรูปอยู่ รูปเยอะมาก แต่รุปส่วนใหญ่เป็นฝีมือพี่ๆ คนอื่น พวกตากล้องประจำทีมค่ะ ดาไม่ได้โชว์ฝีมือเท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะมีรูปคนเยอะง่ะ (ถ้าเป็นดาคงมีแต่วิวนั่นแหละเนอะ)

นนหนาวแล้วเหรอ บ้านดาก็หนาวค่ะ แต่ช่วงกลางวันจะสบายๆ มากกว่า เสาร์อาทิตย์นี้ดาหยุด นอนเล่นชั้นล่าง อากาศดีมากเลย เย็นสบาย แถวบ้านมีนกมีกระรอกให้ดูด้วย เลยเพลินไป

ปีใหม่นี้ดายังไม่แน่กับกระบี่ค่ะ ดูอารมณ์ก่อน ถ้าขี้เกียจนักก็นอนอยู่บ้านนี่แหละ อากาศสบายดี


โดย: veeda IP: 115.67.122.63 วันที่: 21 ธันวาคม 2551 เวลา:21:00:24 น.  

 
สวัสดีเช้าวันจันทร์ค่ะ มีความสุขกับแรกของการทำงานนะคะ


โดย: watase วันที่: 22 ธันวาคม 2551 เวลา:6:43:44 น.  

 
จ๊ะเอ๋ป๋าจ๋า แฮ่กๆๆ

เพิ่งจะมีเวลาเข้ามาเม้าท์เนี่ย ขนาดไม่ได้ทำงานกินเงินเดือนยังทำตัวยุ่งได้ขนาดนี้เนอะ

คุณต้องสบายดีป่าวคะ? หรือว่าแอบหนีเที่ยวอีก แล้วมาดามไม่ได้ทำอาหารเช้าให้เหยอ? เห็นหิวแต่เช้าเชียว อิอิ แปลนอังกฤษจิบลงตัวแล้วค่ะ ได้ตั๋วแล้ว จองโรงแรมครบทั้งสิบคืนแล้วแต่บางโรงจองแพงไปหน่อยแบบว่าจองมาสี่พันแต่ไปเห็นที่อื่นสองพันกว่าแล้วเสียดายมากเพราะเราพักที่นี่ตั้งสี่คืนแหน่ะค่ะ ไม่งั้นมีเงินเหลือเอาไว้ซื้อขนมได้อีกตั้งหลายมื้อเชียวค่ะ

ส่วนเรื่องอื่นๆก็ไม่มีอะไร แค่หาตั๋วรถไฟ หาตั๋วไปเที่ยวโน้นนี่เพราะหาก่อนล่วงหน้ามันถูกกว่าไปซื้อที่เคานท์เตอร์น่ะค่ะ

ช่วงนี้คุณต้องไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหนเหรอ หรือว่าเก็บตัวเอาไว้เที่ยวสิ้นปีเลย เห็นว่าปีนี้ได้หยุดยาวตั้ง 5 วันเชียวค่ะอีกซักพักจิบคงต้องฝากบล็อคไว้กับคุณต้องแระ เพราะคงไม่มีเวลาเข้ามาคุยมาเฝ้าบล็อคอีกหลายวันเลยค่ะ จะเดินทางเช้า 31และกว่าจะกลับมาถึงกรุงเทพก็ค่ำๆวันที่ 11 เลยแบบว่าไปเที่ยวกันเต็ม max เพราะแด๊ดดี้ต้องกลับไปทำงานวันที่ 12 ส่วนน้องโจก็เปิดเรียนวันที่ 12 เหมือนกัน

อ้อ จิบมีโครงการเอาเสื้อผ้าไปบริจาครวมทั้งหาซื้อเสื้อหนาวให้น้องๆด้วย แต่ต้องรอให้กลับมากจากอังกฤษก่อนถึงจะดำเนินการต่อ เราจะเอาไปให้ที่โน้นกันเลย (แต่เป็นที่ไหนยังไม่มีไอเดียเลยค่ะ คุณต้องพอจะช่วยคิดได้มั้ยคะ?) อยากไปกางเต็นท์ค้างซักคืนและไปที่เดินทางสะดวกนิดนึงเพราะจิบไม่มีกะบะใช้น่ะค่ะ

เราไปกันเองเป็นครอบครัว อาจจะมีแค่ครอบครัวจิบสามคนเอง ถ้าคุณต้องสนใจก็จะขับตามกันไปก็ได้น่ะค่ะ แล้วไปหาที่กางเต็นท์ที่สนามหญ้าหน้าโรงเรียนที่ไหนซักแห่งเอา น่าสนุกดีด้วย

เทคแคร์ค่า



โดย: มาเรีย ณ ไกลบ้าน วันที่: 22 ธันวาคม 2551 เวลา:10:30:00 น.  

 
ฝันดีนะคะคืนนี้


โดย: watase วันที่: 22 ธันวาคม 2551 เวลา:22:01:33 น.  

 
ได้ยินคำว่าของฝากหูผึ่งเลยค่ะ แต่อยู่หนายอ่ะ หาไม่เจอ??

อ้อ ลืมบอกชายไปว่าบล็อคนี้โดนตัดคะแนนอีกแล้วน่ะค่ะชาย เบื่อชายมั่กๆเลย ทำไมต้องให้พูดซ้ำซากบ่อยๆด้วยคะ รูปพระเอกนางเอกอ่ะค่ะชาย
กวาดตามองตามมุมหลืบเล็กๆแล้วก็หาไม่เจอค่ะ

คราวนี้โดนตัดมากหน่อยนะคะ วันหลังจะได้จำ... บล็อคนี้ให้ 9.00 ค่ะ อย่าโกรธกันน้า


โดย: มาเรีย ณ ไกลบ้าน วันที่: 22 ธันวาคม 2551 เวลา:22:05:08 น.  

 
ีพี่ต้องขาาาาา ขอบคุณมากๆๆนะคะ น่ารักมาก

วันนี้นิ้งตื่นเช้ามั้ยคะ???

ไปทำงานผิดวันอ่ะ
ตื่นตั้งแต่ตีสามครึ่ง แต่งหน้าแต่งตัว ไปถึงสแกนนิ้ว จะเซ็นต์ชื่อ เอ่...ชื่อเราหายไปไหน
ตรงที่ควรจะมีชื่อเรากลับมีชื่อเพื่อน
กรี๊ดดด... เพื่อนมาขอแลกไปแล้วนิ้งลืมค่ะ

แต่ก็คิดว่าขำๆ ไปผิดดีกว่าลืมไป

-------

งานเมื่อวันเสาร์หนุกหนานดีค่า กลับซะดึกเลย
เดี๋ยวจะอัพรูปให้ดูนะค๊า


โดย: n_nink วันที่: 23 ธันวาคม 2551 เวลา:6:41:38 น.  

 
emoemoemo

ลูกกรอกมากระซิบว่ามีคนคิดถึง ..

กร๊ากกกกกกกกกก ..

เลยรีบมาหา .. กิกิกิ ..

หญิงเพิ่งเสร็จงานบวชเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาค่ะ

แล้ววันจันทร์ก็ไปฉลองเพลพระใหม่ ..

ปลื้มใจมากเลยอ่ะค่ะชาย ..

เหนื่อยแต่ก็มีความสุขอ่ะ .. กรี๊ดดดดดดดดดดด ..

หอบบุญมาฝากนะคะ ..

ใส่บาตรหลวงพี่วันนี้วันที่สองค่ะ .. ตื่นแต่ตีห้าครึ่งเลย ..

หลวงพี่เดินบาตรพร้อมหลวงพ่ออ่ะค่ะ ..

ปลื้มใจ (อีกรอบ) ..

เออ .. ว่าแต่วันงานบวชอ่ะ .. หญิงมองหาชายแต่หาไม่เจออ่ะ .. ไหนว่าจะมาแด้นซ์หน้าขบวนอ่ะ ..

emoemoemo

ป.ล. วันนี้คุยไม่มากน๊า .. ยังเพลียๆนิ๊ดหน่อยอ่ะค่ะ .. แต่ขอบคุณชายมากเลยนะ แวะไปเยี่ยมหญิงบ่อยๆ .. (ช่วงนี้หญิงกำลังเรียบร้อย เข้าวัดทำบุญบ่อย .. กิกิกิ)

ป.ล. สอง .. ใครเกิดวันพุธเหมือนหญิงอ่ะ


โดย: บ้านอุ่นรัก วันที่: 23 ธันวาคม 2551 เวลา:12:25:29 น.  

 
ขออภัยค่ะมาเม้นท์ช้าไปหน่อยแต่คราวนี้มีเวลาอ่านจนจบเลย(ครั้งก่อนๆอ่านคร่าวๆ)ชอบตอนไปแวะตลาดดูวิถีชีวิตชาวบ้านแถวนั้นก็คงแปลกไปอีกแบบ มีคนเคยบอกว่าคนมอญสวยคุณต้องว่าสวยอย่างที่เค้าพูดหรือเปล่าคะ ฮิฮิฮิ เป็นทริปที่เรียบง่ายดีค่ะ ที่ชอบอีกอย่างคือสงบเงียบไม่วุ่นวายหรือมีคนมากๆมันจะเวียนหัวจะไม่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ พอแค่นี้ก่อนแล้วกันนะคะเริ่มหิวไปหาอะไรทานก่อนแล้ว ไว้ทริปหน้าค่อยเจอกันใหม่ ฮิฮิฮิ


โดย: คุณหนูเทวดา IP: 115.67.51.88 วันที่: 23 ธันวาคม 2551 เวลา:17:57:57 น.  

 
อยากไปกางเต้นท์ที่กาญจังเลยบรรยากาศคงจะดีมากเลย


โดย: khead555 IP: 124.120.124.182 วันที่: 28 ธันวาคม 2552 เวลา:9:57:23 น.  

 
เราเป็นลูกสาว ลุงบุญเองนะ ตอนนี้อยู่แคนาดา ไม่ได้เจอรูปคุณพ่อกับคุณแม่ นานแล้ว ก็ของคุณมาก ที่คุณมะละกอ ถ่ายรูปคุณพ่อกับคุณแม่ มาฝาก

เท่าที่อ่านจากบันทึกการเดินทางของคุณมะละกอ โชคดีนะค่ะ ที่ได้พักแพของเรา คุณพ่อกับคุณแม่ เป็นอย่างที่คุณมะละกอ ว่าจริงๆ ใครๆ ได้ไปพักก็พากันติดใจ



โดย: กานดา IP: 206.75.233.54 วันที่: 14 มกราคม 2553 เวลา:5:00:28 น.  

 
อยากไปค่ะคิคิคิคิ


โดย: มุก IP: 124.120.212.241 วันที่: 6 พฤศจิกายน 2554 เวลา:8:26:50 น.  

 
เคยไปพักเมื่อนานมาแล้ว ลุงบุญใจดีมาก
กันเองสุดๆ ผมให้ลุงแกลากออกไปนอนกลางน้ำ บรรยากาศดีมาก ^^


โดย: NATSKI13 วันที่: 8 ธันวาคม 2554 เวลา:13:46:32 น.  

 
ที่เห็นยื่นออกมาจากบ้าน เป็นห้องพระครับ หรือ ที่มราบรรพบุรุษ ที่เค้าให้ความเคารพ จะแยกไว้ส่วงหนึ่งเลยไม่ปะปนกัน เค้าถือครับ


โดย: เครือ IP: 124.121.11.221 วันที่: 16 มีนาคม 2555 เวลา:8:13:41 น.  

 
อำเภอสังขละบุรี

อยู่ห่างจาก ศูนย์กลางของ จังหวัด ไปทาง ทิศเหนือ ประมาณ 215 กิโลเมตร มีอาณาเขต ติดต่อกับ ประเทศ เมียนม่าร์ (พม่า) นักท่องเที่ยว สามารถ เดินทางเข้า สู่ประเทศพม่า ได้โดยผ่านทาง ด่านเจดีย 3 องค์ไปยังเมือง พญาตองซู ของพม่า มีแหล่ง ท่องเที่ยว ทางธรรมชาติ อีกหลายแห่ง เช่น สามประสบ , น้ำตกตะเคียนทอง และ ทะเลสาบ เขื่อนเขาแหลม เป็นต้น และ เป็น ศูนย์รวมของ วัฒนธรรม ของชนพื้นเมือง ชาวกระเหรี่ยง และ มอญ และ สังขละบุรี ยังเป็นสถานที่ ที่เหมาะสำหรับ กิจกรรมการเดินป่า ขี่ช้างล่องแก่ง และ ตกปลา

ส่วนที่เที่ยวใกล้ๆแถวสังขละก็มี

ด่านเจดียสามองค์ (1)
กั้นพรมแดนระหว่างไทย-พม่า เป็นช่องทาง เดินทัพ ที่สำคัญของ ไทย และ พม่าในอดีต เดิมเรียกว่า "หินสามกอง" ปัจจุบัน นักท่องเที่ยว สามารถข้าม เข้าไปชมตลาด ในประเทศพม่า ได้ อยู่ห่าง จากตัวอำเภอ สังขละบุรี 22 กิโลเมตร เส้นทางราดยาง ตลอดสาย

วัดวังก์วิเวการาม (2)
ตั้งอยู่ใกล้อำเภอ สังขละบุรี อยู่ห่างจากตัว จากเจดีย์พุทธคยา ไม่มากนัก มีวิหารริมแม่น้ำ ประดิษฐานพระพุทธรูปหินอ่อนอันงดงามและเป็น ที่จำพรรษาของ หลวงพ่ออุตตมะ ซึ่งประชาชนชาวไทย ชาวมอญ รวมทั้งกระเหรี่ยง และ พม่า ที่อาศัยอยู่ใน บริเวณนั้น เคารพนับถือ จากบริเวณ วัดวังก์วิเวการาม สารีริกธาตุ ประวัติการสร้างวัดวังก์วิเวกการามในปี
พ.ศ. 2499 หลวงพ่ออุตตมะ ร่วมกับชาวบ้านที่เป็นชาวกะเหรี่ยงและชาวมอญได้พร้อมใจกัน สร้างศาลาวัดขึ้น และสร้างเสร็จใน เดือน 6 ของปีนั้นเอง แต่เนื่องจากยังมิได้มีการขออนุญาตจากกรมการศาสนา วัดที่สร้างเสร็จ จึงมีฐานะเป็นสำนักสงฆ์ แต่ชาวบ้านโดยทั่วไปเรียกว่า “ วัดหลวงพ่ออุตตมะ ” ตั้งอยู่บนเนินสูงในบริเวณที่เรียกว่า สามประสบ เพราะมีแม่น้ำ 3สายไหลมาบรรจบกัน คือแม่น้ำซองกาเลีย แม่น้ำบีคลี่ และแม่น้ำรันตี

น้ำตกเกริงกระเวีย (3)
เป็นน้ำตก ขนาดเล็ก ชั้นเตี้ย ๆ ตั้งอยู่ริม ถนนสายทองผาภูมิ-สังขละบุรี ห่างจาก อำเภอทอง ผาภูมิ ประมาณ 32 กิโลเมตร


น้ำตกไดช่องถ่อง (4)
เป็นน้ำตก ขนาดกลาง ไหลลง สู่ทะเลสาบ เขื่อนเขาแหลม ตั้งอยู่บน ถนนสาย ทองผาภูมิ - สังขละบุรี เลย น้ำตก เกริงกระเวีย ไปเล็กน้อย จะมีทาง แยกเลี้ยวซ้ายไปอีก ประมาณ 2 กม.

น้ำตกตะเคียนทอง (6)
เป็นน้ำตก ที่มีจำนวน ชั้นไหลลดหลั่น ลงมาเป็น จำนวนมาก เป็นแอ่ง น้ำกว้างใหญ่ ถูกปกคลุม ด้วยป่าไผ่และไม้ยืนต้น นานาพันธ์ ตั้งอยู่บน ถนนสาย สังขละบุรี - ด่านเจดีย์สามองค์ จะมีทางแยก เลี้ยวขวา เข้าน้ำตก อีกประมาณ 10 กิโลเมตร ควรใช้ รถยนต์ ขับเคลื่อน สี่ล้อ การเดินทาง สู่ตัวน้ำตก จะต้องเดิน เท้าประมาณ 40 นาที

เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร (7)
ภูมิประเทศ เป็นภูเขา สลับซับซ้อน ยอดเขาสูงสุดคือ เขา ใหญ่ อยู่บริเวณ ตอนกลาง ของพื้นที่ เป็นต้นน้ำ ของลำธาร หลายสาย เนื่องจาก สภาพถนน บางช่วง ไม่ดีผู้ที่ จะเข้าทุ่งใหญ ่นเรสวรต้อง ทำหนังสือ ขอ อนุญาตล่วงหน้า ไปยังเขต รักษาพันธุ์สัตว์ป่า ทุ่งใหญ่ สำนักงานป่าไม้ จังหวัด กาญจนบุรี

สะพานมอญ (8)
เป็นสะพานไม้ ที่ยาวที่สุด ในประเทศไทย สร้างให้ ประชาชน ที่อยู่ระหว่างตัว อำเภอ สังขละบุรี กับหมู่บ้าน ชาวมอญ ได้เดินทาง ติดต่อกัน

"สะพานไม้อุตตมานุสรณ์"หรือทีเรียกกันว่า "สะพานมอญ”เป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศ มีความยาว
ประมาณ ๑ กม. หลวงพ่ออุตตมะเป็นผู้ดำเนินการสร้าง โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้คนไทย กะเหรี่ยงและมอญได สัญจร ไปมาหาสู่กันได้ เป็นการสร้างความสัมพันธ์ของคนทั้งสามกลุ่ม สะพานมอญเป็นจุดท่องเที่ยวที่เรียกว่า กลายเป็นสัญลักษณ์ของสังขละบุรีไปแล้ว นักท่องเที่ยวจะนิยมมาเดินเยี่ยมชมสะพานเพื่อชมแสงสีทองของ พระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้า รวมถึงชมวิถีชีวิตของชาวไทยและมอญที่เดินข้ามไปมาหากันบนสะพานแห่งนี้ซึ่งค่อน ข้างจะคึกคักมากในช่วงเช้า

เมืองบาดาล(9)
ในอดีตเป็นวัดวังก์วิเวการามเดิมที่หลวงพ่ออุตตมะและชาวบ้านอพยพชาวกะเหรี่ยง และมอญได้ร่วมกันสร้างขึ้น เมื่อ ปี พ.ศ. 2496 ในบริเวณที่เรียกว่า สามประสบ ซึ่งเป็นจุดที่แม่น้ำสามสาย คือ แม่น้ำซองกาเลีย แม่น้ำบีคลี่ และแม่น้ำ รันตี ไหลมาบรรจบกัน ต่อมาในปี 2527 มีการก่อสร้างเขื่อนเขาแหลมทำให้น้ำท่วมตัวอำเภอสังขละบุรี เก่ารวมทั้งวัดนี้ ด้วย หลวงพ่อจึงได้ย้ายมาสร้างวัดมาอยู่บนเนินเขา ส่วนวัดเดิมได้จมอยู่ใต้น้ำมานานนับสิบปี ใน ช่วงฤดูแล้งราวเดือนมีนาคม-เมษายน น้ำจะลดจนตัวโบสถ์โผล่พ้นน้ำทั้งหมด สามารถนั่งเรือชมและขึ้นไป เดิน เที่ยวชมโบสถ์ได้ ท่านสามารถล่องเรือชมบรรยากาศสองริมฝั่งแม่น้ำ ซึ่งจะพบวิถีการดำเนินชีวิตของ ชาวมอญ และสามารถเห็นยอดเจดีย์ พุทธคยาระหว่างการล่องเรือ ในช่วงน้ำมาก น้ำจะท่วมสูงเกือบทั้งหมด เหลือเพียงยอด ของโบสถ์เท่านั้นที่โผล่ให้เห็น ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ที่น่าสนใจ มีเสน่ห์จนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว Unseen Thailand ในชื่อ เมืองบาดาล
การเดินทาง นักท่องเที่ยวสามารถเช่าเรือหางยาวไปเยี่ยมชมเมืิองบาดาลไดที่ซองกาเลียรีสอร์ท หรือถ้าหาก นอนแพ

เจดีย์ุพุทธคยา (10)
สิ่งน่าสนใจคือ เจดีย์พุทธคยา เป็นเจดีย์องค์ใหญ่ บนยอดเจดีย์ ซึ่งประดับด้วยฉัตรทองคำหนัก 400 บาท เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุที่หลวงพ่ออุตตมะอัญเชิญมาจากประเทศศรีลังกา ที่หลวงพ่ออุตตามะให้้สร้าง จำลองขึ้น เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธากระดูกนิ้วหัวแม่มือขวาของพระพุทธเจ้าที่ขนาด เท่าเมล็ดข้าวสาร ไว้เป็นที่ สักการะของพุทธศาสนิกชนเจดีย์แบบพุทธคยามีลักษณะฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสตุบริเวณใกล้กับเจดีย์พุทธคยา จำลอง มีร้านจำหน่ายสินค้าจากพม่าหลายร้านจำพวก เครื่องประดับ ผ้าแป้งพม่าเครื่องไม้ ในช่วง เดือนกุมภาพันธ์ ของทุกปี มีการจัดงานคล้ายวันเกิดหลวงพ่ออุตตมะ ในงานมีกิจกรรมต่างๆประกอบด้วยพิธีกรรมทางศาสนา การ แข่งขันชกมวยคาดเชือก การแสดงของชมรมวัฒนธรรมท้องถิ่นเช่น การรำแบบมอญ การรำตงของชาวกะเหรี่ยง และในงานประชาชนจะพร้อมใจกันแต่งกายตามแบบวัฒนธรรมของชาวไทยรามัญและจัดเตรียม สำรับ อาหารทูน บนศีรษะไปถวายพระสงฆ์ที่วัด

ชมวิถีชีวิตชาวมอญ (11)
หากข้ามสะพานไม้แห่งนี้ไปก็จะพบกับหมู่บ้านของขาวมอญ ซึ่งอพยพมาจากอำเภอเย จังหวัดเมาะละแหม่งใน รัฐมอญ ประเทศพม่า นับตั้งแต่ปี พ.ศ.2494 ปัจจุบันชาวบ้านส่วนมาก มีสถานะเป็นผู้พลัดถิ่นสัญชาติพม่าซึ่งไม่มี บัตรประชาชนไทย ชาวมอญที่นี่มีวิถีชีวิตที่เรียบง่าย ส่วนใหญ่เลี้ยงชีพด้วย เกษตรกรรม เช่น ปลูกพืช และทำ ประมง ชายฝั่ง ส่วนคนหนุ่มสาวส่วนมากนิยม ทำงานในโรงงานเย็บผ้า สิ่งที่เป็นเสน่ห์ของหมู่บ้านมอญแห่งนี้ คือวัฒนธรรม แบบมอญที่ยังคงอยู่และค่อนข้างชัดเจน ไม่ได้สูญหายไปกับ กาลเวลาและวัฒนธรรมของชาติ อื่นนัก คนที่นี่ยังคงพูด ภาษามอญ แต่งกายแบบชาวมอญ แต่สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว นอกจากการแต่งกาย แล้ว ที่เห็นปุ๊บก็รู้ปั๊บว่าเป็น สาวชาว มอญอย่างจริงแท้แน่นอน ก็คือการเทินสิ่งของไว้บนศีรษะ อย่างชำนิชำนาญ ราวกับของที่เทินอยู่นั้น เป็นส่วน หนึ่งของร่างกาย โดยไม่หวั่นเกรงแรงโน้มถ่วงของโลก ดูแล้วสง่างามมิใช่น้อย ซึ่งสาว ๆ มักจะมาพร้อมกับใบหน้า ที่ฉาบไปด้วยแป้งทะนาคาเครื่องสำอางจากภูมิปัญญาท้องถิ่นสีขาวนวล บนพวงแก้มเป็น ภาพที่น่าประทับใจเมื่อได้เห็น


การเดินทาง
นักท่องเที่ยว สามารถ ใช้บริการรถ โดยสารจากสถานี ขนส่งจังหวัด หมายเลข 8203 กาญจนบุรี - สังขละบุรี มีรถออก ทุกวันเวลา 06.00น. , 08.40 น. 10.20น. และ 12.00 น. ใช้เวลา เดินทาง 5 ชม. หรือ ใช้บริการรถ ปรับอากาศ สาย กาญจนบุรี - สังขละบุรี มีรถออก ทุกวันเวลา 07.30 น. , 09.30 น. , 10.30 น. , 12.30น. , 13.30 น., 14.30 น. ,15.30น. , และ 16.30น. ใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมง การเดินทาง จากอำเภอ สังขละบุรีไปด่านเจดีย์ 3 องค์ มีรถสองแถว ออกจากตลาด อำเภอสังขละ ทุกวัน หรือ ใช้บริการรถ เช่าเหมาก็ได้

1. โดยรถยนต์ส่วนตัว
จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) ผ่าน จ.นครปฐม ขับมาประมาณ 9 กม.จะพบสะพาน ลอยข้ามไปทาง จ.กาญจนบุรี ขับไปตามทางหลวงหมายเลข 323 ขับมาประมาณ 7 กม.ท่านจะพบสี่แยกให้ท่าน เลี้ยว ขวา(แยกซ้ายไปบ้านโป่ง ตรงไปคือถ้ำค้างคาว) เพื่อไปยัง อ.เมืองกาญจนบุรี จากนั้นมุ่งหน้าสู่สี่แยกแก่ง เสี้ยนให้ขับไปทาง อ.ทองผาภูมิ ซึ่งจะผ่านทั้งไทรโยคน้อย และไทรโยคใหญ่ ( หลักกิโลเมตรที่ 125 ทางหลวง หมายเลข 323 ) ท่านจะพบสามแยก ( ตรงไปไปอำเภอทองผาภูมิ +เขื่อนเขาแหลม ถ้าเลี้ยวขวาไป อำเภอสังขละบุรี)ให้ท่าน เลี้ยวขวามือไป สังขละบุรี ซึ่งท่านจะผ่าน น้ำตกเกริงกะเวีย+น้ำตกไดช่องถ่อง ผ่านอช. เขื่อน เขาแหลม เมื่อไปถึงแยก ด่านเจดีย์สามองค์ ท่านไม่ต้องเลี้ยวขวา ให้ขับตรงไป ประมาณ 7 กม. จะพบแยก ซ้ายมือไปสะพานอุตตมานุสรณ์ ขับเข้ามาอีกประมาณ 300 เมตร ก็จะพบสะพานอุตตมานุสรณ์ หากต้องการไป เที่ยววัดวิเววังการามจากแยกด่านเจดี่ย์สามองค์ไม่ต้องเลี้ยวขวาให้ขับตรงไป ประมาณ 7.4 กม.จะเห็นแยกขวา วัดวังก์วิเวการาม และแยกซ้ายไป เจดีย์พุทธคยา จำลอง ให้ท่านเลี้ยวซ้ายไปทางเจดีย์พุทธคยา จำลอง

2. โดยรถสาธารณะ
จากสถานีขนส่งสายใต้นั่งรถ กรุงเทพฯ - กาญจนบุรี ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง โดยสามารถนั่งรถปรับอากาศ สายกรุงเทพฯ-กาญจนบุรี แล้วไปลงที่สถานีขนส่งจังหวัดกาญจนบุรี จากนั้นนั่งรถสายกาญจนบุรี - ทองผาภูมิ - สังขละบุรี(รถไม่มีแอร์ )แล้วไปลงที่ท่ารถสังขละบุรี ใช้เวลาในการเดินทางจากตัวเมืองถึงสังขละบุรีประมาณ 4ช.ม. จากนั้นต่อรถมอเตอร์ไซต์รับจ้าง ค่ามอเตอร์ไซต์รับจ้าง 10 บาท ไปที่ ซองกาเลีย รีสอร์ท จากนั้นสามารถ ใช้บริการรถ ของบริษัท เอเซียไทรโยคเดินรถ จำกัด ตั้งอยู่ที่ตัวเมือง
- อัตราค่าโดยสาร รถตู้ปรับอากาศ118 บาท, รถปรับอากาศใหญ่ 151 บาท
- เวลารถ 7.30-16.30 น ทุก 1 ชั่วโมง
- ระยะเวลาเดินทาง ประมาณ 3 ชั่วโมง 30 นาที
- จากท่ารถสังขละบุรี นั่งรถมอเตอร์ไซต์ 10 บาท ไปยัง ซองกาเลีย รีสอร์ท

หมายเหตุ รถปรับอากาศชั้น 1 สายกรุงเทพ - กาญจนบุรี ค่าโดยสาร 79 บาท รถปรับอากาศชั้น 2 สายกรุงเทพ - กาญจนบุรี ค่าโดยสาร 62 บาท


ข้อมูลจากเวป คลิ๊กเลย

ข้อมูลจากเวป คลิ๊กเลย


โดย: nongmalakor วันที่: 12 พฤศจิกายน 2555 เวลา:21:44:13 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

nongmalakor
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 120 คน [?]




ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง
Google
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
14 ธันวาคม 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add nongmalakor's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.