ออกจากบ้านผ่านศาลากลางนนทบุรี เลี้ยวซ้ายตรงแครายถึงสี่แยกปากเกร็ด เลี้ยวซ้ายเข้าไปปากเกร็ด ขับตรงไปเรื่อยๆ (ไม่ต้องขึ้นสะพานพระราม 4) ก็มาถึงร้านครัวพี่นันท์ ศูนย์อาหารปักษ์ใต้ ร้านจะอยู่ทางซ้ายมือติดถนนก่อนเลยทางขึ้นสะพานพระราม 4 ขับช้าๆชิดซ้ายไว้ สังเกตป้ายแล้วกัน

เรามาเติมพลังที่ร้านนี้ก่อนครับ

ที่จอดรถสะดวก ภายในร้านสะอาดดีครับ






ร้านนี้เปิดทุกวันตั้งแต่เจ็ดโมงเช้าถึงบ่ายสาม

เป็นพวกข้าวราดแกง มีขนมจีน ก๋วยเตี๋ยวด้วย อาหารมีให้เลือกเยอะดี




นั่งโต๊ะได้ก็เดินไปสั่งมากิน ของผมเนื้อขมิ้นกับไข่พะโล้ รสชาติกลมกล่อมผมมากินประจำ





ร้านนี้ชอบตรงมีผักให้เลือกเยอะดี พร้อมน้ำพริกที่สำคัญอร่อยมาก เราเดินไปตักเองได้เลยฟรี ส่วนน้ำเปล่าก็ฟรีเหมือนกัน ชอบๆๆ

มุมผัก น้ำพริก




ร้านนี้ทำอาหารอร่อยครับ เสียอย่างเดียวราคาสูงไปนิด แต่เทียบกับรสชาติแล้วรับได้ครับ

ผมออกจากร้านครัวพี่นันท์เวลา 8.38 น.ระยะทาง 8.9 ก.ม.ก็ขับไปกลับรถที่ใต้สะพานเพี่อมายูเทิร์นตรงสี่แยกปากเกร็ดแล้วขึ้นสะพานพระราม 4 ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา แล้ววิ่งเส้นชัยพฤกษ์ (304) ยิ่งตรงไปเส้นกาญจนภิเษก วิ่งตามป้ายจนถึงเส้นกาญจนภิเษกเลี้ยวซ้ายแล้วชิดขวาขึ้นสะพานเกือกม้ากลับรถที่นี้ก็ตรงยาวไปสุพรรณเลยครับ ใช้เส้น บางบัวทอง-สุพรรณ (340) ขับตามป้ายเรื่อยก็มาถึงสุพรรณบุรี แวะเติมน้ำมันทึ่ปั๊มน้ำมันเชลล์เต็มถังก่อน

ผมมาถึงปั๊มเชลล์ สุพรรณบุรี เวลา 9.59 น.ระยะทาง 101.3 กม. ทริปนี้มีแม่มาด้วยเลยขับเรื่อยๆความเร็วประมาณ 80-100 กม./ชม. แวะปั๊มน้ำมันสามครั้ง




เติมน้ำมันเสร็จก็วิ่งตรงไปทางชัยนาท ผ่านสามชุกตรงไปอีกเรื่อยๆก็จะมาถึงทางเข้าบึงฉวากจะมีป้ายขนาดใหญ่อยู่กลางถนนบอกชัดเจน 

รูปนี้ผมจิ๊กพร้อมทั้งเวปมาจากคุณมิราช พันทิปครับ บอกวิธีการเดินทางละเอียด ขออนุญาตเอามาลงประกอบการเดินทางเพื่อประโยชน์กับเพื่อนๆที่เข้ามาชมในบล็อกนี้ ขอบคุณล่วงหน้าครับ คลิ๊กเลย

มาถึงป้ายเลี้ยวซ้ายเข้าบึงฉวากขับตรงไปตามป้ายเลยครับมีบอกตลอดทางแยกไม่หลงแน่ 

มาถึงบึงฉวากจะผ่านรีสอร์ทต้นไม้ก่อนตรงไปอีกก็เป็นสวนสัตว์แล้วก็ถึงสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ บึงฉวาก

ผมมาถึงบึงฉวากเวลา 10.56 น.ระยะทาง 158 กม. หาที่จอดรถได้ก็ดูแผนที่ก่อน

ได้เวลาเข้าชมแล้ว 

ซื้อบัตรเข้าชมก่อนครับ คนละ 30 บาท






มีบัตรแล้วก็เข้าไปชมกันครับ 

มีมุมถ่ายรูปให้เยอะเหมือนกัน






เข้าไปชมจุดที่ 1 ก่อนครับ อาคารแสดงปลาน้ำจืด อาคารที่ 1-2 แอร์เย็นฉ่ำ

เข้าไปก็เดินตามป้ายเลยครับ

ทักทายด้วยปลาไหลมอลเล่ย์




จะมีตู้ปลาแสดงพอประมาณ มีป้ายบอกว่าเป็นปลาพันธุ์อะไร ให้ความรู้ดี ปลาแปลกๆทั้งปลาน้ำจืดและน้ำเค็มที่ไม่เคยเห็นทั่วๆไปก็นำมาแสดงด้วย

น้องหลามครีบดำก็มาด้วย แต่ตัวยังไม่ใหญ่




อาคาร 1 มีชั้น 2 ด้วยครับ ทำทางลาดให้รถเข็นขึ้นไปชมได้ด้วย

ปลาชะโด

ตัวนี้หน้าตาไม่ค่อยเป็นมิตรเลย

ปลาช่อนงูเห่า

มาชมอาคาร 2 กันบ้างจะมีทางเชื่อมถึงกัน 

เดินเข้ามาจะมีตัว Mascot มาคอยต้อนรับ แม่ผมไม่พลาด





สำหรับอาคาร 2 จะมีอุโมงค์ปลาให้ชมพร้อมกับโชว์ให้อาหารปลาด้วยครับ

อุโมงค์ปลาไม่ใหญ่มากแต่ก็สะอาดดี

ผมไม่ได้ดูการโชว์ให้อาหารปลานะครับ ได้เวลาออกจากอาคาร 2

ไปชมอาคาร 3 กันต่อครับ

สำหรับอาคาร 3 ต้องซื้อบัตรเข้าชมคนละ 150 บาท

ได้บัตรก็เข้าไปชมกันครับ

เดินขึ้นชั้น 2 เพื่อมาลงบันไดเลื่อนเป็นอุโมงค์ปลา





บันไดจะเลื่อนช้าๆให้ได้ชมปลากัน ตรงนี้ทำได้ดีครับ

ลงมาชั้นล่างก็เดินไปยังอุโมงค์ฉลามต่อ

หลังจากนั้นก็ออก 

ทางออกจะมีขายของที่ละลึกผมไม่ได้อุดหนุนอ่ะ

ออกจากอาคาร 3 ก็ไปดูบ่อจระเข้กันต่อ

ทำตามกฎด้วยนะครับ ไม่ได้กลัวคุณเสียค่าปรับ แต่สงสารจระเข้กลัวจระเข้ตาย

นอนกันน่ารักเชียว

ป้ายนี้ฮิตมาก

ทางเดินทำแข็งแรง ป้องกันแน่นหนา ดูไม่อันตรายเลยครับ

ได้เวลากลับแล้วครับ ไว้ค่อยมาเยี่ยมใหม่ สำหรับใครสนใจบึงฉวากดูเวปนี้ได้ครับ คลิ๊กเลย

ตอนแรกว่าจะพาแม่ไปเที่ยวสวนสัตว์ต่อ แม่ไม่ยอมดูบอกหิวแล้ว เลยไปหาของกินแถวสามชุกดีกว่า

ผมออกจากบึงฉวากเวลา 12.49 น.ระยะทาง 158 กม. กลับทางเดิม มาถึงสี่แยกสามชุกเลี้ยวขวาเข้าสามชุกถามร้านกุ้งเป็นก่อนถึงตลาดสามชุก บอกว่าต้องเลยแยกไปแล้วเลี้ยวขวากลับไปทางสุพรรณ ให้กลับรถจุดที่ 2 สังเกตด้านซ้ายจะมีสถานตำรวจให้ชิดขวาแล้วกลับรถ ขับตรงมาร้านจะอยู่ทางด้านซ้ายมือ

มาถึงร้านกุ้งเป็น เวลา 13.35 น.ระยะทาง 196 ก.ม. ป้ายร้านจะเห็นเด่นเป็นสง่า มาถึงบ่ายโมงกว่ารถแน่นมากกกกก





ผมเปิดเนทดูครับ เห็นเป็นร้านแนะนำเพิ่งมากินครั้งแรก เห็นดังเรื่องกุ้งกับปลา

นั่งโต๊ะได้ก็สั่งกุ้ง 1 โลทำได้สองอย่าง ผมเรียงอาหารตามที่เสิร์ฟก่อนนะครับ

จานแรกกุ้งทอดเกลือ จานนี้ให้ 5 ดาวเลยครับ แค่เอาน้ำมันมาคลุกข้าวราดน้ำจิ้มหน่อยก็เด็ดแล้วครับ เมนูนี้แนะนำครับ





จานต่อมา ทอดมันปลากราย เฉยๆอ่ะ รู้งี้สั่งกุ้งชุบแป้งดีกว่า

ต้มยำปลาม้า หม้อนี้น้ำแซ่บเวอร์ เนื้อปลานุ่มลิ้นมาก หม้อนี้ห้ามพลาด

ปลาคังลวก เนื้อปลาสดมาก จิ้มกับน้ำจิ้มเข้ากันพอดี เนื้อปลาหวานกับน้ำจิ้มเปรี้ยวเผ็ดกำลังดี ชอบตรงกระเทียมเจียว เจียวเองไม่เหมือนบางที่ใช้กระเทียมสำเร็จรูป หมดราคา จานนี้ถ้าคอปลาอย่างลืมสั่ง





กุ้งเผา ถึงตัวไม่ใหญ่แต่ตัวกุ้งเนื้อแน่นมาก มันกุ้งเยิ้มคลุกน้ำจิ้มกินกับข้าวหรือจะเป็นกับแกล้มก็แจ่ม

จานสุดท้าย ยำสามกรอบ แม่ผมสั่งเอง รสชาติก็อร่อยตามมาตรฐาน ส่วนผมเฉยๆเจอกุ้งกะปลากลบยำซะธรรมดาเลย




ราคาทั้งหมด 1,330 บาท 

สรุป คนเยอะแต่อาหารรอไม่นาน รสชาติถูกปากมาก ราคาไม่แพง ไม่เอาเปรียบลูกค้า มีน้ำขวดใหญ่บริการให้ด้วย แต่อย่าคาดหวังการบริการ 555 สำหรับร้านนี้ขึ้นบัญชีไว้เป็นร้านโปรดสำหรับผม





อิ่มเสร็จก็ไปตลาดสามชุกต่อ 

ออกจากร้านกุ้งเป็นเวลา 14.50 น.ระยะทาง 196 กม.ตรงไปก็ถึงสี่แยกสามชุกเลี้ยวซ้ายตรงไปข้ามสะพานเลี้ยวขวาเข้าซอยตรงไปก็ถึงสามชุกแล้ว 

วนสองรอบได้ที่จอดตรงหน้าอำเภอเลย ผมมาถึงตลาดสามชุกเวลา 15.05 น.ระยะทาง 201 กม.





สำหรับตลาดสามชุกก็เดินเล่นเพลินๆ คนยังแน่นเหมือนเดิม ขนาดอิ่มแล้ว ก็ยังหมดค่าของกินไปหลายตังค์เหมือนกัน 555 

ลาตลาดสามชุกด้วยถนนเลียบนที นึกว่ามีแต่อัมพวาอีก





ออกจากตลาดเวลา 16.00 น.ว่าจะพาไปไหว้พระวัดป่าเลไลย์เที่ยวตัวเมืองสุพรรณ แม่บอกกลับบ้านเลย ง่วงนอนแล้ว 555 เอ้า...กลับก็กลับ เลยยิ่งยาวจากตลาดสามชุกวิ่งยาวมาถึงCentral WestGate เข้าเส้นรัตนาธิเบศร์ข้ามสะพานพระนั่งเกล้า ศาลากลางนนท์เข้าบ้านเวลา 17.55 น.ระยะทาง 327.7 กม. น้ำมันเหลือตามรูปเลยครับ





สรุปค่าใช้จ่าย

- ครัวพี่นันท์ 320 บาท
- น้ำมันเต็มถัง 1,000 บาท ( ดีเซล วี-เพาเวอร์ 41.85 ลิตรๆละ 23.86 บาท)
- ค่าเข้าบึงฉวาก 120 บาท (30*4 )
- ค่าเข้าสัตว์โลกใต้ทะเล 600 บาท (150*4)
- ให้อาหารปลา 3 ถุง 30 บาท
- น้ำเปล่า 2 ขวด 20 บาท
- ร้านกุ้งเป็น 1,330 บาท
ตลาดสามชุก
- ปลาสลิด 1 โล 200 บาท
- ข้าวไรซ์เบอรี่ 1 โล 60 บาท
- มะนาว 2 โล 150 บาท
- ปลากรอบ 1 โล 90 บาท
- ขนมโก๋ 90 บาท (3*35)
- ขนมชั้น 90 บาท (3*30)
- ขนมไข่ปลา 50 บาท (2*25)

รวมทั้งหมด 4,150 บาท