พาแม่ไปรื้อฟื้นอดีต ณ เมืองมัลลิกา



วันเสาร์ที่ 19 พ.ย.59

ทริปนี้ทะลุมิติไปเที่ยวในสมัย ร.ศ.๑๒๔ กันครับ





เวลา 08.09 น.ล้อหมุนจากบ้าน (นนทบุรี) เซทไมล์ไว้ที่ 0 น้ำมันเหลือเกือบครึ่งถัง





ใช้เส้นทางจากนนทบุรี ผ่านกระทรวงสาธารณสุข ข้ามสะพานพระราม 5 ยิงตรงไปถึงถนนกาญจนาภิเษก เลี้ยวซ้ายตรงไปถึงแยกต่างระดับฉิมพลีขึ้นสะพานเลี้ยวขวา(ป้ายบอกไปทางนครปฐม เลี้ยวตามป้ายไป) ลงสะพานจะเข้าเส้นถนนบรมราชินี ตรงไปถึงพุทธมณฑล สาย 4 ชิดซ้ายขึ้นสะพานข้ามไปศาลายา ยิงยาวไปถึงนครชัยศรีผ่านตลาดท่านา ตรงไปนครปฐม ขับไปเรื่อยๆผ่านนครปฐมไปจะมีป้ายบอกขึ้นสะพานข้ามไปบ้านโป่ง – กาญจนบุรี ขับตามป้ายกาญจนบุรีไปเรื่อยๆ จะผ่านท่าเรือ ท่าม่วงอะไรไม่ต้องไปสนใจ ตรงไปกาญจนบุรีอย่างเดียว มาถึงแยกท่าล้อ(ตรงไปเข้าตัวเมืองกาญจนบุรี) เลี้ยวขวาตรงไปเรื่อยๆก็มาถึง โรบินสัน กาญจนบุรี

ผมมาถึงโรบินสัน กาญจนบุรีเวลา 11.49 น.ระยะทาง 146 กม.นัดเจอญาติที่โรบินสัน





ที่มาช้าไม่ใช่อะไรครับ ขับเฉิ่มมาเรื่อยแวะปั๊มตลอดทางอีกอย่างไม่ได้รีบอะไรเลยขับมาชิวๆ 

ประมาณเที่ยงสมาชิกครบถือโอกาสกินข้าวเที่ยงในห้างนี้แล้วกัน สะดวดดี





ทริปนี้ไปทั้งหมด 7 คน อิ่มเสร็จได้เวลาเดินทางจากโรบินสันยิงตรงยาวไปถึงแยกแรกตรงไปจะเจอแยกแก่งเสี้ยน ให้ตรงไปทางน้ำตกไทรโยค (เลี้ยวขวาไปน้ำตกเอราวัณเลี้ยวซ้ายเข้าตัวเมืองกาญจน์) จากแยกแก่งเสี้ยนประมาณ 23 กม.ก็มาถึงเมืองมัลลิกาอยู่ทางด้านซ้ายมือติดถนน เห็นป้ายชัดเจน

ออกจากโรบินสันเวลา 13.40 น.ระยะทาง 146 กม.ถึงเมืองมัลลิกาเวลา 14.14 น.ระยะทาง 181 กม.





ทางเข้าเมืองมัลลิกาจะติดกับปั๊มน้ำมันบางจาก





ถึงแล้วก็ขับเข้าไปได้เลย ที่จอดรถจอดได้ตั้งแต่ด้านหน้าจนถึงลานจอดรถข้างใน

ถึงแล้วก็ซื้อบัตรเข้าชมสิครับ รออะไร





ค่าเข้าผู้ใหญ่คนละ 150 บาท เด็ก 75 บาท ส่วนแม่ผมอายุเกิน 70 ขึ้นไปราคา 75 บาท (ช่วงโปรโมชั่นถึงสิ้นเดือนนี้ ราคาเต็ม 300 บาท) ส่วนจุดแลกเงินสตางค์จะอยู่ใกล้กับจุดจำหน่ายบัตร (ข้างในก็มีจุดแลกสตางค์ 2 จุด)













เลยไปหน่อยจะเป็นห้องน้ำ





บัตรพร้อมเข้าไปชมข้างในกัน เย้..





ส่วนด้านข้างประตูจะมีชุดไทยให้เช่า ผู้หญิงชุดละ 200 บาท ผู้ชายชุดละ 100 บาท พร้อมเครื่องประดับและร่ม เรียกว่าพร๊อบครบถูกใจนักท่องเที่ยวเป็นยิ่งนัก 

แม่รอชุดไทยไม่ไหว คิวเยอะมากเลยไม่ได้เช่า ทางที่ดีจัดชุดมากจากบ้านเลยก็ได้ครับ





ส่วนรถลาก ไปส่งอย่างเดียวคันละ 50 บาท ถ้าไป-กลับคันละ 100 บาท ราคานี้รับได้ จริงๆเดินเองจะเพลินกว่าแต่ถ้าอยากได้อารมณ์นั่งรถลากไว้ถ่ายรูปก็เก๋ไม่ใช่น้อย

*** 1 คันนั่งได้ 1 คน รถนี้ก็ฮอตไม่แพ้ชุดเหมือนกัน 









ได้เวลาเข้าไปย้อนอดีตแล้วครับ

แม่โผ้มมมมมม ไม่พลาดนั่งทั้งไปและกลับ เค้าจะลากไปส่งและรอแต่ละจุด





ถ่ายรูปจากด้านในเมืองมองออกไปประตูทางเข้า





ดูแผนผังกันก่อน





เข้ามาแล้วเดินข้ามสะพานหันเข้าสู่เมืองมัลลิกา ส่วนใครสนใจประวัติที่มาที่ไป ดูเวปนี้ได้ คลิ๊กเลย





บนสะพานหันจะขายผลไม้อบแห้งต่างๆมากมาย โดนไปหลายอัฐอยู่เหมือนกัน

















ข้ามสะพานจะเป็นตลาด





แลกสตางค์รูกันก่อน 1 สตางค์เท่ากับ 5 บาท







พวงนี้ 200 บาท มี 1 สตางค์ 5 สตางค์ 10 สตางค์ เวลาจ่ายดูดีๆเน้อ





แลกตังค์เสร็จ รถลากแนะนำให้ไปเที่ยวท้ายเมืองก่อนแล้วค่อยเดินกลับมาเรื่อยๆ

ท้ายเมืองจะเป็นเรือนชาวบ้าน แต่ละเรือนจะทำอาหาร ปลูกผัก สีข้าว เราสามารถข้าไปดูและลองทำเองได้ พนักงานทุกคนจะให้พูดขอรับ เจ้าค่ะตลอด ดูเป็นเจ้าคุณขึ้นมาทันที





เรือนแรกอยู่ขวามือสุดจะเป็นเรือนทำอาหาร จะทำไว้ขายจริง











แบ่งหน้าที่กันชัดเจน





มองย้อนกลับไปที่เราเดินผ่าน เป็นเรือนคหบดี ยังไม่ต้องสนใจ





เรามาเดินชมเรือนชาวบ้านต่อ ถัดมาเป็นเรือนหุงข้าวกับเจียวน้ำมันหมู เห็นกากหมูแล้วน่ากินมาก







ด้านหลังติดรั่วไม้ขัดแตะเป็นยุ้งข้าวกับเรือนเผาถ่าน





ถัดมาเป็นโรงครัว ตำน้ำพริกกันเพลินเลย





ตรงข้ามจะเป็นเรือนตำข้าว นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปลองทำได้ แม่ผมไม่พลาด









ต่อไปเป็นเรือนสีข้าวกับฝัดข้าว













ยุคแม่ผม คล่องเชียว





ครบเรือนชาวบ้าน เดินข้ามประตูเข้าไปก็เป็นเรือนคหบดี 





ใต้ถุนจะเปิดโล่ง ร่มรื่นมาก





ขึ้นไปชั้นบนเรือนคหบดี เป็นพวกงานฝีมือ เย็บปักถักร้อย แกะสลัก ทำตรงลานหน้าห้อง















เรือนเดี่ยวจะมีทั้งหมด 3 ห้องแต่ละห้องจะจำลองการใช้ชีวิตให้เหมือนสมัยก่อน













ชมเรือนเดี่ยวเสร็จเดินไปชมตลาดน้ำ ส่วนหญิงแม่นั่งรถลากไป





มาเจอกันที่ตลาดน้ำ













น้ำมะพร้าวซื้อขายกันจริง ไม่ได้พายโชว์ ลูกละ 6 ตังค์









เรือนชาวบ้านเดินไปยังตลาดน้ำจะผ่านเรือนสวน





ข้างบนเรือนยังไม่มีอะไร แต่บริเวณเรือนจะปลูกพืชผลทางเกษตรไว้ใช้ในครัวเรือน ชอบๆ





ลูกดกเชียว





เดินอ้อมไปตลาดน้ำ





ตอนเย็นๆค่อยมารอพี่มากกกกที่ท่าน้ำ ตอนนี้ขอซื้อน้ำมะพร้าวก่อน







เดินมาตลาดน้ำจะเป็นเรือนขายของกิน มีร้านกาแฟตงฮู ซึ่งสมัยก่อนนิยมมาก















สั่งน้ำพร้อมขนมมากินเล่น





อยู่โซนตลาดน้ำเสร็จก็เดินไปยังตลาด ไม่ไกลกันครับ





ผ่านป้อม จะมียามยืนเฝ้าอยู่หน้าป้อม





บันไดขึ้นไปชมวิวบนป้อม







ชมวิวข้างบนป้อมกันครับ ด้านเรือนหมู่ ไว้สำหรับนักท่องเที่ยวที่จองอาหารรอบค่ำ จะมีการแสดงพร้อมอาหาร หัวละ 500 บาท ผมไม่ได้จองครับ เลยไม่รู้ว่าอร่อยหรือเปล่า คุ้มไหม ใครสนใจลองจองได้







ถัดมาย่านตลาด มีขนมไทยของกินที่เมืองมัลลิกาทำเอง ขายเอง ไม่ได้รับจากที่อื่นมาขาย ลองชิมกันได้ครับ อร่อยหลายอย่าง





ฝั่งตลาดน้ำ 







เรือนคหบดี ด้านหลังเป็นเรือนชาวบ้าน





ลงจากหอไปเที่ยวตลาดกันครับ





เริ่มเย็น ไม่บรรยายแล้วครับ ใครชอบชิม ชอบถ่ายรูป ช่วงนี้เพลินสุดแล้ว ขอยิงภาพในตลาดยาวเลยแล้วกัน



























































ยิ่งเย็นนักท่องเที่ยวเริ่มเยอะ อาหาร ขนมก็เริ่มหมด แต่น่าเดินกว่ากลางวันเยอะ บรรยากาศดีกว่าไม่ร้อนครับ























หมีกรอบผัดกันสดๆจานต่อจาน รสมือแม่ลำดวนช่างเด็ดขาดยิ่งนัก หอมกลิ่นส้มซ่ามาก 













ข้าวเกรียบว่าว แป้งหนากรอบอร่อย ปิ้งเสร็จกินเลยหรือใครจะขอลองปิ้งเองถ่ายรูปลงโซเชี่ยลก็ได้













ข้ามไปฝั่งเรือนหมู่บ้าง โซนนี้เดินเข้าไปชมบริเวณด้านล่างได้ ส่วนตัวเรือนข้างบนไว้สำหรับนักท่องเที่ยวที่จองแพคเกจอาหารค่ำ จะมีการแสดงพร้อมเสริฟอาหารข้างบน





ถ่ายจากโซนเรือนหมู่ จะเห็นสะพานหันและตลาด









เดินตรงเรือนหมู่ได้ซักพักได้เวลากลับบ้านแล้วครับ





ผมออกจากเมืองมัลลิกาเวลา 17.11 น.เดินเพลินมาก ลืมเวลากันเลย





กลับเส้นทางเดิม ออกจากเมืองมัลลิกาเลี้ยวขวาถึง 4 แยกแก่งเสี้ยนตรงไปจนถึงสามแยกตัวที (แยกท่าล้อ) เลี้ยวซ้ายตรงไปจนถึงบ้านโป่งเลี้ยวซ้ายเลี่ยงตัวเมืองบ้านโป่ง-นครปฐมเข้านครชัยศรีแวะตลาดท่านานิดนึง

ถึงตลาดท่านาเวลา 19.42 น.ระยะทาง 300 กม.พอดี







เติมพลังกระเพาะปลากับก๋วยเตี๋ยวเป็ดคนละชามสองชามรองท้อง











อิ่มเสร็จออกจากตลาดท่านาเวลา 20.15 น.ข้ามสะพานแม่น้ำนครชัยศรี วิ่งตรงไปถึงศาลายา มหิดล เข้าเส้นกาญจนภิเษก ข้ามสะพานพระราม 5 ถึงบ้านนนทบุรี เวลา 21.04 น.ระยะทางทั้งหมด 344.4 กม.น้ำมันเหลือครื่งถัง (เติมน้ำมันที่นครปฐม 1,000 บาท)





สำหรับ One day trip วันนี้จบแบบประทับใจ ไม่เหนื่อยเกิน ไว้มีทริปอื่นจะมารีวิวให้ชมอีกครับ

สรุปค่าใช้จ่าย

-ค่าน้ำมัน 1,000 บาท (เติมเชลล์ วี พาว์เวอร์ 36.20 ลิตร ลิตรละ 27.63 บาท ,*** นครปฐมแพงกว่าใน กทม.0.10 สตางค์ กาญแพงกว่ากทม. 0.13 สตางค์)
-อาหารกลางวัน Hot pot 7 คน 2,094 บาท (ใช้โปรมา 4 จ่าย 3 ราคา 1,137 บาท อีก 3 คนใช้โปรบัตรสมาชิก 975 )
-ค่าเข้าเมืองมัลลิกา 7 คน 975 บาท (ผู้ใหญ่คนละ 150 บาท 6 คน ผู้สูงอายุเกิน 70 ลดเหลือ 75 บาท 1 คน)
-ค่ารถลากไป-กลับ 2 คัน 200 บาท
-แลกสตางค์ 560 บาท
-ค่ากระเพาะปลา 190 บาท (4 ชาม น้ำเปล่า 1 ขวด)
-บะหมี่เป็ด 40 บาท(1ชาม)
-เมี่ยงคำ 50 บาท( 1ชุด)

รวมทั้งหมด 5,109 บาท



Create Date : 22 พฤศจิกายน 2559
Last Update : 23 พฤศจิกายน 2559 11:50:32 น. 5 comments
Counter : 7018 Pageviews.

 
ฮ่า ที่เที่ยวใหม่เพิ่งเคยรู้จักนี่แหละครับ


โดย: ไอฟายน้อย (Ces ) วันที่: 22 พฤศจิกายน 2559 เวลา:21:15:39 น.  

 
ภาพเยอะมากกกกกกกกกกกกกกกกกค่ะพี่ต้อง
ไว้พรุ่งนี้ค่อยมาโหวตให้นะคะ
หลับฝัะนดีค่ะ


โดย: อุ้มสี วันที่: 22 พฤศจิกายน 2559 เวลา:23:40:23 น.  

 
ขอบคุณที่แบ่งปัน


โดย: Kavanich96 วันที่: 23 พฤศจิกายน 2559 เวลา:4:14:27 น.  

 
ดูมาตั้งนาน
ไม่เห็นนืาเที่ยวตรงไหนเลย


โดย: นายขาว IP: 101.108.246.5 วันที่: 20 พฤษภาคม 2560 เวลา:18:11:12 น.  

 
นายขาว ไม่เป็นไรครับ เมืองไทยยังมีที่เที่ยวที่น่าสนใจอีกหลายที ถือว่ารีวิวบล็อกผมได้ช่วยให้คุณได้ตัดสินใจไม่ต้องไปเที่ยวที่นี่ ส่วนใครที่ชอบก็เป็นทางเลือกอีกสถานที่หนึ่ง ความชอบแต่ละท่านไม่เหมือนกันเนาะ


โดย: nongmalakor วันที่: 21 พฤษภาคม 2560 เวลา:13:17:24 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

nongmalakor
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 120 คน [?]




ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง
Google
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2559
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
22 พฤศจิกายน 2559
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add nongmalakor's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.