ขับรถเที่ยว “เมืองอุบล” กับคนรู้ใจ (วันที่ 3 โขงเจียม-สามพันโบก-อุบลราชธานี) ย้อนดู วันที่ 2 อุบลราชธานี-โขงเจียม คลิกเลย วันอังคารที่ 15 พ.ย.65 มื้อเช้าของโรงแรม วันนี้จัดเป็นบุฟเฟ่  ที่เรือนอาหารอารยา ริเวอร์ไซด์ ติดกับแม่น้ำมูล บรรยากาศดีมาก   อาหารมีให้เลือกหลายอย่าง ไลน์ ข้าวผัด ข้าวสวย ไส้กรอก มัสมั่นไก่ อร่อยใช้ได้เลย    ไลน์เครื่องดื่ม  กาแฟ โอวันติน แบบชงเอง ถัดไปเป็นปลาท่องโก๋ ขนมปังปิ้ง  ไข่กระทะแบบทำให้ชามต่อชาม   บาร์สลัด ผลไม้ มีแตงโม สับปะรด เมล่อน    ก๋วยจั๊บญวนกับข้าวต้ม  ทำร้อนๆให้ชามต่อชามเหมือนกัน   ตักมานั่งกินชมวิวแม่น้ำมูล    ลองชิมไข่กระทะ ใส่หมูยอ ไส้กรอก ทำร้อนๆราดซอสภูเขาทองกับซอสมะเขือเทศ อร่อยดีครับ    ข้าวผัด มัสมั่นไก่ ไส้กรอก อร่อยทุกอย่าง    ก๋วยจั๊บญวน  น้ำซุปนัวมากเครื่องจัดเต็ม อุบล หมูยอเจ้าไหนก็อร่อยจริง   สลัดผักมีแค่น้ำสลัดครีม  สับปะรดออกหวานติดเปรี้ยวนิดๆเข้ากับน้ำสลัด   วันนี้มีโปรแกรมขับรถเลาะริมโขงแวะเที่ยวน้ำตกไปถึงสามพันโบกแล้วเย็นๆค่อยไปนอนตัวเมืองอุบล  วันนี้เลยออกเช้าหน่อย  เวลา 09.00 น.ระยะทาง 765 กม. ออกเดินทางไปน้ำตกสร้อยสวรรค์    เส้นทางจากอารยา รีสอร์ท โขงเจียม ริเวอร์ไซด์ ไปน้ำตกสร้อยสวรรค์ ระยะทางประมาณ 30 กม. จะผ่านหมู่บ้านนาโพธิ์กลางตรงไปสุดทางน้ำตกสร้อยสวรรค์ ใครไปไม่ถูกวิ่งตามกูเกิ้ล คลิกเลย  ทางเข้าไปยังน้ำตกไม่มีป้ายบอกนะครับ ต้องใช้กูเกิ้ลนำทางหรือถามชาวบ้านแถวนั้นได้     เวลา 09.39 น.ระยะทาง 797 กม.มาถึงน้ำตกสร้อยสวรรค์ ตรงจุดนี้รถเข้าไปไม่ได้ จะมีลานจอดรถแล้วซื้อบัตรเดินเข้าไป ส่วนใครมีบัตรเข้า  อช.ผาแต้ม สามารถใช้บัตรนี้เข้าไปชมน้ำตกสร้อยสวรรค์ได้ ไม่ต้องซื้อบัตรเพิ่ม  อัตราค่าเข้า  ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท (ค่ารถไม่เสีย)   จากด่านเก็บเงินเดินเข้าไปประมาณ 800 ม.  จะมาถึงตรงจุดนี้   มีป้ายบอกเดินไปตามจุดแต่ละที่  เดินไปชมดอกไม้ป่า   ทางเดินจะผ่านสะพานเล็กๆข้ามน้ำตกไป    ผ่านสะพานไปนิดเดียวจะเป็นลานกว้าง มีผาน้ำตกสูงชัน    เดินต่อไปนิดเดียวเป็นลานดอกไม้ป่า    ตอนนี้ดอกไม้เริ่มบานเล็กน้อย ถ้าอยากมาดูตอนบานเต็มๆต้องมาช่วงปลายเดือน ธ.ค. -  กลางเดือน ม.ค.    เดินกลับเพื่อลงไปชมน้ำตกสร้อยสวรรค์    ทางลงจะทำเป็นบันไดปูนแบบธรรมชาติ เดินได้สบายไม่ลำบากแต่แอบสูงนิดนึง    ทางเดินลงไปน้ำตกจะเป็นแนวนี้   ลงมาถึงชั้นล่าง   น้ำตกจะประมาณนี้ ถ้ามาช่วงหน้าฝนน้ำจะมากกว่านี้ แต่ถ้าหลังจากกลางเดือน พ.ย.จะไม่มีแล้ว ใครจะมาเที่ยวน้ำตกโทรมาเช็คก่อนได้ ถ้าไม่มีน้ำที่นี้จะปิดไม่ให้เข้ามาเที่ยว    เดินชมน้ำตกประมาณ 1 ชม.ได้เวลาไปต่อ  เวลา 10.35 น.ไปน้ำตกแสงจันทร์ บอกทางไปไม่ถูก เปิดกูเกิ้ลอย่างเดียว คลิกเลย   ก่อนทางเข้าน้ำตกแสงจันทร์ตรงไปจะมีป้ายบอกไปต้นเถาวัลย์ยักษ์ อยู่ที่หน่วยพิทักษ์ อช.ผาแต้ม ประมาณ 1 กม.ลองขับไปดู ปรากฏเจ้าหน้าที่บอกว่าต้นเถาวัลย์ยักษ์ ตายไปแล้ว  ถ้าเลยไปหน่อยจะมีโฮมสเตย์ 3-4 เจ้า เลยไปอีกจะมีจุดกางเต็นท์ท่าเรือบุ่งยา ผมขับรถไปแค่ฟ้าใส โฮมสเตย์ ก็กลับไปน้ำตกแสงจันทร์   ฟ้าใส โฮมสเตย์ บรรยากาศดี ติดลำน้ำโขง    มาถึงน้ำตกแสงจันทร์หรือน้ำตกลงรู ไม่เสียค่าเข้า ตอนไปมีเพิงร้านค้าอยู่ 1 เจ้าแต่ไม่ได้เปิดขาย นักท่องเที่ยวก็ไม่มี มีผมกับแฟนอยู่ 2 คน ถ่ายรูปสบายเลย    ด้านบนน้ำตกจะไหลลงตรงนี้   ด้านข้างจะมีทางลงไปชมน้ำตกแสงจันทร์   ทางลงเป็นบันไดแนวนี้ ทางไม่ชัน ไม่สูงมาก เดินลงได้สบายๆ เดินสบายกว่าน้ำตกสร้อยสวรรค์    ลงมาจะเห็นน้ำตกแสงจันทร์ที่ตกลอดตรงช่อง เลยมีชื่อเรียกอีกชื่อว่า น้ำตกลงรู     เวลา 11.35 น.ระยะทาง 826 กม.เดินทางไปสามพันโบก  วิ่งตามกูเกิ้ลเหมือนเดิม คลิกเลย    เวลา 13.11 น.ระยะทาง 885 กม. มาถึงสามพันโบก จะมีที่จอดด้านใน (ฟรี) เพิ่งมาครั้งแรกไม่รู้จอดก่อนถึงตรงที่จอดเป็นของเอกชนเสียค่าจอด 20 บาท  ไม่เป็นไรนึกว่ากระจายรายได้แล้วกัน ที่จอดด้านใน ตรงนี้จอดฟรี    เดินสำรวจนิดนึง ด้านหน้าลานจอดรถเป็นทางลงไปชมสามพันโบก    มีศูนย์ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว    เข้าไปดูข้างใน จัดแสดงหินชั้นต่างๆ ประวัติสามพันโบก การล่องเรือท่องเที่ยวแต่ไม่มีเจ้าหน้าที่คอยแนะนำ    ด้านข้างเป็นร้านอาหารครัวระเบียงโขง    ตรงข้ามที่จอดรถจะมีร้านอาหารอีกร้านเป็นเพิง ชื่อร้านปูฟ้า ขายอาหารตามสั่งและส้มตำ-น้ำตก    สั่งอาหารเซฟๆ ไข่เจียวหมูสับ    กระเพราหมูสับ-ไข่ดาว  ปกติผมกินกระเพราะไม่ชอบใส่ผักต่าง ไม่ว่าจะถั่วฝักยาว หอมหัวใหญ่ ข้าวโพดอ่อน ใส่มาผมให้ติดลบหมด จานนี้ใส่ถั่วฝักยาวมาให้ถือว่ารสชาติโอเค ถ้าไม่ใส่นี้ให้ 4 เต็ม 5 เลย   อิ่มแล้วได้เวลาไปชมสามพันโบก  ต้องนั่งรถกระบะลงไปชมข้างล่าง ใช้แบบเหมาคันละ 200 บาท นั่งได้ไม่เกิน 8-10 คน หรือใครอยากจะเดินลงไปเองก็ได้แต่ไม่แนะนำ ส่วนลงไปแล้วใครอยากจะล่องเรือหางยาวชมแม่น้ำโขง จะมี 2 ราคา ระยะสั้น 500 บาทกับระยะยาว 1,000 บาท   ผมเหมารถ 1 คัน  จะมีไกด์ลงมาด้วย 1 คน  จะคอยพาเราไปดูจุดไฮไลท์ต่างๆ คอยดูแลเราตรงนี้ไม่เสียค่าบริการใดๆ ยกเว้นถ้าบริการถูกใจแล้วแต่เราจะให้ค่าน้ำใจ ไกด์ชื่อ คุณหน่อย  มากับเราด้วย ทางลงจะเป็นอย่างที่เห็นในรูป   รถคันนี้ที่พาเรามาถึงจุดท่องเที่ยวสามพันโบก    จุดจอดเรือ  สำหรับใครที่อยากจะล่องเรือเที่ยวลำน้ำโขงต่อ   มีร้านขายน้ำดื่มมาบริการถึงข้างล่างกันเลย  วันนี้ขาย 2 เจ้า   หลังจากนั้น ไกด์หน่อย  ได้พาเราเดินชม สามพันโบก เวลาเกือบบ่ายสอง แดดเปรี้ยงมาก    ผ่านต้นไม้ชื่ออะไรจำไม่ได้แล้ว  เวลาหน้าฝนน้ำท่วมหมดแต่ต้นไม้ไม่ตายจะเหลือแต่ต้น พอหน้าแล้งน้ำลดต้นไม้ก็กลับมีใบเหมือนเดิม   เดินผ่านโขดหินต่างๆขึ้นไป    จุดแรกถ่ายไกด์หน่อยรูปให้เราด้วย เท่เชียว    มองกลับไปยังจุดจอดรถที่เราเดินขึ้นมา   ไม่รู้จะอธิบายยังไง วันที่ผมไป แดดแรงมาก แต่ลมพัดตลอด จะว่าไม่ร้อนก็ไม่ได้ จะว่าเย็นสบายก็ไม่เชิง เอาเป็นว่าร้อนแดดแต่เย็นลมแล้วกัน ใครมาเที่ยวสามพันโบกพกร่ม หมวก แว่นตา ครีมกันแดด จัดเต็มมาได้เลย    วันนี้ถือว่าโชคดีที่แดดแรง ท้องฟ้าเคลียร์ เมฆลอยเป็นใจ ถ่ายรูปตรงไหนก็สวย    ไกด์หน่อยบอกบางวันฟ้ามืด แสงเน่า เมฆไม่มี แล้วแต่ดวงด้วยครับ แต่ส่วนมากไม่ว่ายังไง สามพันโบกก็สวยได้ทุกสถานการณ์ ยกเว้นช่วงหน้าฝน น้ำจะท่วมหมด ช่วงนี้จะปิดการท่องเที่ยว    ไกด์จะพาไปดูแต่ละจุด จะหยุดถ่ายรูปให้ รูปเดี่ยว รูปคู่ จัดท่าให้เสร็จ ไม่สวยมีถ่ายซ่อมให้ ไม่เร่ง    รูปโบก เลข 800    โบก ลูกเจี๊ยบ   โบก อุ้งเท้า แล้วแต่ใครจะจินตนาการ ไม่มีใครผิดใครถูก    Highlights โบก Mickey Mouse    มีหลายโบกที่สวยงาม ดูมีพลัง    ต่อไปเป็นรูปที่ถ่ายจากมือถือ    โบกหัวใจคู่    ทุกมุมทุกภาพ ไกด์เป็นคนเลือกมุม จัดท่า ถ่ายรูปให้ทั้งหมด    เบื้องหลังการถ่ายทำ    ไกด์ลงทุนมาก แต่ก็ได้ภาพสวยสมใจ    โดดให้ดูเป็นตัวอย่างก่อน 1 รอบ  ใครไปสามพันโบกสนใจ ไกด์หน่อย ติดต่อเบอร์นี้ 0918378374 ได้เลย (เราสามารถเลือกไกด์ได้ครับ)   กว่าจะได้รูปนี้ หลายเทกเหมือนกัน ลาสามพันโบก ด้วยรูปนี้แล้วกันครับ    ออกจากสามพันโบก  เวลา 15.23 น.ระยะทาง 885 กม. วันนี้กลับมานอนตัวเมืองอุบล วิ่งตามกูเกิ้ลเหมือนเดิม คลิกเลย  ขับมาถึงตัวเมืองวันนี้ตั้งใจย้ายมานอนโซนแถววัดพระธาตุหนองบัว ขับหาที่พักมาเจอโรงแรมนี้ มาถึงโรงแรม  เวลา 17.20 น.ระยะทาง 997 กม.   เข้าไปถามพนักงานมีห้องว่าง ขอดูห้องพัก พนักงานน่ารักมากพาไปดูทุกชั้น ตัดสินใจนอนที่นี่แล้วกัน  จองห้อง Standard Room เตียงเดี่ยว พร้อมอาหารเช้า ได้ห้อง 202 โรงแรมมี 4 ชั้น ผมอยู่ชั้น 2 ใช้ลิฟต์ขึ้นไปได้เลย (มีค่ามัดจำโรงแรม 100 บาท)   ป้ายทางเข้าโรงแรมเดอ พราวด์ อยู่ ซอย ชยางกูร 40 ออกจากซอยถึงห้างบิ๊กซี ติดตลาดโต้รุ่ง    รถเล็กสามารถจอดด้านหน้าติดกับทางเข้าโรงแรม    ถ้ารถยาวหน่อยเข้าไปจอดด้านหลังภายในโรงแรม สะดวก ปลอดภัย    ทางเข้าภายในตัวโรงแรม  จะอยู่ด้านข้าง   เปิดประตูเข้าไปจะเจอ พนักงานต้อนรับ    ด้านซ้ายมือติดถนน เป็นห้องอาหารมื้อเช้า   ขวามือเป็นทางเข้าไปยังส่วนของห้องพัก    จะมีประตูกระจกอีกชั้น ใช้คีย์การ์ดเปิดประตูเข้าไป ถือว่าปลอดภัยในระดับหนึ่ง    เข้ามาเป็นห้องนั่งเล่น เป็นกระจกใสทั้งหมด ด้านหลังห้องนั่งเล่นเป็นที่จอดรถ    มองกลับไปด้านหน้า   ได้เวลาเข้าห้อง กุญแจเป็นระบบคีย์การ์ดให้มา 1 ใบ เปิดเข้าไปเป็นเตียงเดี่ยวขนาด 6 ฟุต ให้หมอนหนุน 2 ใบ หมอนอิง 2 ใบ พร้อมผ้าเช็ดตัวและผ้าเช็ดผมพับเป็นรูปหงส์ วางไว้บนเตียง   หัวเตียงทำเป็นชั้นวางของ มีไฟนีออนฝังอยู่หัวเตียงทำให้แสงไม่เข้าตาตรงๆ ด้านซ้ายมือมีปลั๊กไฟพร้อมสวิสเปิด-ปิดไฟหัวเตียงส่วนด้านซ้ายไม่มีปลั๊กไฟ ชอบการตกแต่ง ใช้กระด้งมาประดับ ดูมีกลิ่นอายของคนพื้นเมือง    ด้านขวามือติดกับตู้เสื้อผ้าถัดไปเป็นตู้เย็น 1 ใบ    ตู้เสื้อผ้าไม่มีอะไร ให้ไม้แขวนเสื้อ 2 อัน ตู้เย็นขนาดกลาง ภายให้น้ำเปล่า 2 ขวด ส่วนถุงข้างในเป็นของผมเอง ข้างบนวางกระติกน้ำร้อน แก้วกาแฟ พร้อมกาแฟซอง    ปลายเตียงเป็นชั้นวางของเอนกประสงค์ ทำเป็นโต๊ะแต่งหน้า มีกระจกเงาบานใหญ่ ถัดมามีทีวีแขวน 1 เครื่อง    โต๊ะแต่งหน้ามีไดร์เป่าผม 1 เครื่อง  พร้อมปลั๊กไฟ   ส่วนประตูห้องเปิดเข้ามาจะเป็นห้องน้ำอยู่ด้านขวามือ ด้านซ้ายเป็นชั้นวางกระเป๋า   เปิดประตูห้องน้ำเข้าไป เป็นสุขภัณฑ์ชักโครก  พร้อมสายชำระ ด้านในเป็นห้องอาบน้ำมีผ้ากั้นน้ำพลาสติกใส มีเครื่องทำน้ำอุ่นพร้อมฝักบัว    อ่างล้างหน้า ชั้นวางของพร้อมผนังก่อปูนเปลือย   ยาสระผม สบู่เหลว กระดาษทิชชู แก้วน้ำ หมวกคลุมผมวางอยู่ข้างอ่างล้างหน้า    ประตูฝั่งอีกด้านเป็นประตูเลื่อนกระจกใส 2 บาน มีม่านบังแดด เปิดออกไปเป็นระเบียงเล็กๆ มีราวเหล็กกั้น ภายในห้องก็จะประมาณนี้    สรุป ห้องนอนกว้างกำลังดีแต่ไม่ใหญ่มาก ความสะอาดดีมาก ห้องไม่มีกลิ่นใดๆแต่ไม่หอม  ผ้าต่างๆสะอาดพอประมาณ  ที่นอนนุ่มกำลังดีนอนหลับสบาย  ไฟสว่างกำลังดี ไม่สว่างมากจนแทงตาแต่ก็ไม่หรี่จนมองไม่ค่อยเห็น ให้โทนไฟสบายตา  การตกแต่งห้องใช้เครื่องจักสานมาแต่งตรงนี้ให้เต็มไม่มีหัก  แอร์เปิด 24 องศาดูเหมือนจะไม่ค่อยเย็นแต่พอดึกๆเล่นเอาหนาวเหมือนกัน  ไวไฟแรงอยู่  ห้องน้ำเล็กไปหน่อยแต่ก็ไม่ถึงกับอึดอัด ห้องน้ำสะอาดไม่มีคราบราใดๆ น้ำไหลแรงทั้งฝักบัว สายชำระและก๊อกล้างหน้า  ชักโครกใช้ได้ดี สะอาดในระดับหนึ่ง เสียอย่างเดียวตรงม่านกันน้ำ เป็นพลาสติกแบบลอยพื้นเสมอกันเวลาอาบน้ำระบายไม่ทันทำให้น้ำไหลมาถึงชักโครก ห้องน้ำขอหักคะแนนตรงนี้ไม่งั้นให้เต็มแล้ว  ข้อสุดท้ายที่ตัดสินใจเลือกที่นี่เพราะพนักงานต้อนรับที่เจอครั้งแรก พาไปดูห้องทุกชั้น แนะนำอย่างดี บริการดีมากขอชมเลยครับ  ออกจากห้องชั้น 2 ด้านหน้าจะเป็นห้องออกกำลังกาย กระจกใสทั้งห้องอยู่ติดถนน มีอุปกรณ์ให้ตามรูปนั้นแหละครับ   สำรวจห้องเสร็จได้เวลามื้อเย็นขับรถไปตลาดโต้รุ่ง  อยู่แถวห้างบิ๊กซี ไม่ไกลจากโรงแรมถ้าเดินห่างประมาณ 700 ม. แต่ผมขับรถจะต้องอ้อมมายูเทิร์นก่อนตามกูเกิ้ล คลิกเลย แล้วค่อยหาที่จอดแถวบิ๊กซี (หาที่จอดรถยากมาก)   เดินสำรวจได้สองรอบ ร้านอาหารเยอะมากแต่ขายอาหารพื้นๆเหมือนที่ กทม.หากินได้ง่าย เลยไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจเท่าไหร่    เปลี่ยนใจขับมาหาอะไรกินแถวตลาดโต้รุ่งทุ่งศรีเมือง  คลิกเลย มาวันแรกยังค้างคาขนมปากหม้อร้านนี้ ครั้งที่แล้วอิ่มไม่ได้ชิม วันนี้มีโอกาสขอแวะชิมหน่อย    ทำกันสดๆ    สั่งไป 1 ชุด แบบไส้หวานกับไส้ผัก ไส้หวานกินเปล่าๆกับกระเทียม ส่วนไส้ผัก+หมูสับราดน้ำจิ้มพร้อมกับผักเครื่องเคียง ไม่ผิดหวัง แป้งบางแต่เหนียวนุ่ม ติดใจความอร่อยต้องสั่งเพิ่มมาอีกชุด ส่วนตัวชอบไส้ผักมากกว่า    ระหว่างรอขนมปากหม้อ เดินสำรวจเห็นขนมกุยฉ่ายทอด น่ากินมากลองซื้อมาชิม บอกว่าเหลือแค่ไส้เผือก 5 ชิ้น นอกนั้นหมดแล้ว  จะรออะไร เหมามาชิมสิ   แป้งกรอบมาก ไส้เนียน อร่อยมากถ้าเป็นไส้ผักคงอร่อยสุดๆ ไม่งั้นคงไม่หมดเร็ว ขอติดไว้ก่อนถ้ามีโอกาสจะมาลองมาชิมไส้กุยฉ่ายแน่ ถุงข้างๆเป็นไก่ทอดความอร่อยโดนกุยฉ่ายกับขนมปากหม้อกลบสนิท    อิ่มแล้วแวะซื้อหมูยอกลับบ้าน ครั้งนี้ได้แวะชิมหมูยอเจ้าดัง ตองหนึ่ง ด้วยครับอยู่ติดกับร้านแม่ฮาย ส่วนรสชาติเข้มข้น เนื้อแน่นจะไม่เนียนเหมือนกับ ป.อุบล คล้ายแม่ฮาย ทำสดๆห่อใบตองไม่มีแบบแช่แข็งกลับบ้าน เลยแวะซื้อเจ้า ป.อุบลที่ทำแบบแช่แข็งกลับบ้านแทน    สรุป หมูยอที่อุบล สำหรับผมที่ชิมมาร้านไหนก็อร่อยเหมือนกันหมด แตกต่างแค่ความเข้มข้นของพริกไทย เนื้อเนียน แต่รสชาติอร่อยคนละแบบแล้วแต่ใครจะชอบแบบไหน ส่วนผมชอบหมดทั้ง 3 ร้าน    ได้หมูยอเสร็จได้เวลากลับเข้าโรงแรม มาถึง เวลา 19.57 น.ระยะทาง 1,019 กม. พรุ่งนี้ไปนอนที่โคราชครับ คลิกเลย สรุป วันนี้เดินทางทั้งหมด 254 กม.  สรุป ค่าใช้จ่ายวันนี้  ข้าวเปล่า 30 บาท (3 ถุง ถุงละ 10 บาท) หมูยอ 40 บาท (4 ชิ้น ชิ้นละ 40 บาท) อาหารมื้อกลางวัน 110 บาท (ข้าวไข่เจียว 50 บาท/กระเพราไข่ดาว 60 บาท ค่าจอดรถ 20 บาท ค่ารถสองแถว 200 บาท ค่าน้ำใจไกด์ 300 บาท ค่าน้ำดื่ม 45 บาท (เป็ปซี่กระป๋องยาว 20 บาท/น้ำเปล่า 10 บาท/เป็บซี่กระป๋องสั้น 15 บาท) ค่าที่พักโรงแรม เดอ พราวด์ (De Proud Hotel) ห้อง Standard Room  1,050 บาท รวมอาหารเช้า 1 คืน หมูยอร้าน ป.อุบล 825 บาท (ขนาด 100 บาท 8 อัน/ขนาด 25 บาท 1 อัน) หมูยอร้านตองหนึ่ง 45 บาท (ห่อใบตอง 1 อัน) ปากหม้อ 80 บาท (2 ชุด ชุดละ 40 บาท มี 4 ตัว) ไก่ทอด 60 บาท (น่องไก่ 50 บาท/คอไก่ทอด 2 ชิ้น 10 บาท) กุ๋ยฉ่ายทอด 25 บาท (5 ชิ้น ชิ้นละ 5 บาท) น้ำส้ม 30 บาท (1 แก้ว)  รวมค่าใช้จ่ายวันอังคารที่ 15 พ.ย.65 ทั้งหมด 2,860 บาท   Create Date : 03 ธันวาคม 2565 2 comments Last Update : 12 ธันวาคม 2565 20:02:33 น. Counter : 1411 Pageviews. Share Tweet

ผู้โหวตบล็อกนี้...

คุณ**mp5**, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณhaiku

แวะมาเยี่ยมและส่งกำลังใจครับ   โดย: **mp5** 4 ธันวาคม 2565 18:43:27 น.

ชอบสามพันโบกครับ   โดย: ไวน์กับสายน้ำ 5 ธันวาคม 2565 8:10:16 น.