:: Niezzz :: ปัญหาความรักที่ได้รับคำตอบมา จากพี่ๆห้องศาสนา

ไปตั้งคำถามมาในห้องศาสนา

คิดว่า คำเตือนพี่ๆเค้า ช่างดีจัง เลยเก็บเอาไว้ในบลอคดีกว่า ^^

**

ตอนนี้หนูมีแฟน(หนูอายุ 25 ค่ะ) ตัวหนูไม่ได้จะสนใจดูหมอซักเท่าไหร่ (แต่ก็ดูบ้าง ทั้งๆที่ก็ไม่เคยจะตรง)

แต่ส่วนใหญ่น้องสาวก็จะดูให้ แล้วบอกว่าเรื่องของน้องอ่ะแม่น

เรื่องของหนูก็น่าจะแม่นนะ น้องก็บอกว่าหมอดูบอกว่าเราสองคนไม่ใช่คู่กัน หนูจะเจอคนที่ใช่ ตอน 27 แต่ง 29

ส่วนตัวหนูเคยไปดูเจ้าเข้าทรง ท่านก็บอกว่าหนูยังไม่เจอ (ก่อนมาคบกับแฟนนานเหมือนกันนะคะ)

และบอกว่า 29 จะแต่งงานแต่คนเข้ามาตอนเนี้ย จะยังไม่ใช่ ( แล้วจะใช่เมื่อไหร่หล่ะนั่น)

บางคนดูไปกราฟชีวิตให้(คุณแม่เลยค่ะ) บอกว่าจะเจอ 27 แต่ง 29

แต่...

หนูก็เชื่อในการกระทำนะคะ คิดว่าเราทำดีต่อกันให้มากที่สุด มันเป็นกรรมปัจจุบันหน่ะ

แต่ก็บ่อยครั้ง ที่คิดจะไปไหนด้วยกัน จะเจอกัน ก็ต้องมีปัญหาเรื่อยๆ เช่น อยู่ๆแม่ก็จะให้พาไปธุระ

มีรถจอดขวางทาง ไม่สามารถแวะมาหาได้ ฯลฯ

ซึ่งมันทำให้หนูรู้สึกจิตตกและหงุดหงิด หนูเล่าให้เค้าฟังก็กลายเป็นว่าหนูโทษเค้า(หนูคงพูดไม่เก่งเองค่ะ ยอมรับ)

และหนูเป็นคนขี้แงค่ะ แรกๆเค้าก็ปลอบดี หลังๆร้องทุกวัน เค้าเลยเริ่มเบื่อๆเอือมๆ ไม่ปลอบแล้ว

ก็แค่ถามว่า " ร้องไห้อีกแล้วหรอ " แต่หนูก็ไม่ตอบนะคะ เห็นๆกันอยู่ว่าตาบวมฉึ่ง

เอาละ พอมันมีปัญหามาเรื่อยๆ หนูก็คิดจะเลิกหน่ะค่ะ เพราะก็รู้สึกว่าไม่สบายใจจะคบ

ปัญหาที่เข้ามาตอนนี้ ก็เช่น

1. เคยทำงานด้วยกัน ตอนนี้เค้าย้ายที่ทำงาน ก็กลัวเค้าจะเจอใครที่ใกล้ชิดกัน

2. เค้าเป็นคนไม่ชอบโทรศัพท์ ติดต่อยาก บางทีวันหยุดโทรไปก็ไม่รับ ช่วงแรกๆจะคิดมาก ว่าทำอะไร อยู่กับใคร

แต่พอโทรเข้าบ้าน เค้าก็อยู่ข้างล่าง ดูหนัง (อันนี้แม่เค้ารับประจำค่ะ แล้วก็บอกให้) หรือไม่ก็ทำธุระอยุ่บ้านจริงๆ

จนเดี๋ยวนี้เราลดความกลัวไปเยอะ แต่ก็ยังกลัวอยู่ดี

แต่อ่านเรื่องของคนอื่น หนูก็ว่าของหนูยังไม่มีอะไรเล้ยยยย

การที่เราร้องไห้ เป็นทุกข์ กลัวนู่นนี่ อาจเป็นเพราะตัวเราเอง

เราก็เลยคิดว่าเราจะทำตัวให้ดีที่สุด จะโอบอุ้มเค้าไว้ด้วยรัก ไม่ใช่ขังเค้าไว้ด้วยรัก

แต่บางทีที่เค้าทำเหมือนไม่ใส่ใจ เวลาเค้าหงุดหงิดเค้าก็จะมีอาการไม่ค่อยดีใส่เรา

เช่น พูดกวนๆ แบบจะทำไรก็ทำสิ หรือไม่ก็ ไม่อยากคุย วางหูไปดื้อๆ

(แต่ไม่เคยพูดไม่เพราะนะคะ พูดดีตลอดแต่น้ำเสียงจะไม่พอใจ)

ไอ่อาการจิตตกนี่ก็จะกลับมาหน่ะค่ะ หนูก็จะร้องไห้ๆๆๆๆ

(แต่หลังจากอ่านธรรมะ ก็ร้องน้อยลง เวลาที่ใช้ร้องก็น้อยลงนะ )

ก็จะเป็นสองจิตสองใจอย่างนี้อ่ะค่ะ เลิก หรือ รักแบบเมตตา

ประเด็นปัญหาหนูก็คือ ..

1. หนูจะทำไงกับความคิดดีคะ จะเลิก ก็บอกตรงๆเลิกไม่ได้ตอนนี้แน่ๆ วิธีของหนูคือจะค่อยๆทำตัวสนใจเค้าน้อยลง

หรือ

2. หนูก็รักเค้าไปอย่างที่หนูรู้สึก

เพราะเวลาที่อยู่ด้วยกัน หรือคุยกันตอนดีๆ ไม่เคยสักครั้งที่เค้าจะว่าจะบ่นหรือพูดไม่ดี

เค้าก็ทำตัวดี เป็นปกติ แต่เวลาไม่ได้อยู่ด้วยกัน หนูจะรู้สึกไม่มั่นคง

คิดถึงมากกๆๆๆๆ อยากคุย อยากเจอ(แต่ก็ห้ามใจนะคะ กลัวจิกเกินไป)

คือ รู้ว่าปัญหาเกิดจากตัวหนูเอง แต่หนูก็อยากถามพี่ๆหน่ะค่ะ ว่าหนูจะทำไงดี

หรือหนูจะเชื่อดวง เลิกไปเลย ไงก็ต้องเลิก เง้อออ + กลัวโดนทิ้ง จริงๆค่ะ

โดนมาเยอะแล้ว เลยกลัวและเข็ด มันเจ็บนี่หน่า

ไม่น่าเชื่อนะคะ มันอาจจะดูง่ายดายที่จะเลือก แต่พอโดนจริงๆก็ผงเข้าตา ทำใจไม่ได้ค่ะ

อ้อ แล้วก็มีอีกค่ะ

เค้าไม่ค่อยจะสนใจโทรหา แต่อย่างน้อยวันนึงก็จะโทรหาหนู ซักครั้ง ถ้าหนูไม่โทรไปเลยวันนั้น

ซึ่งตั้งแต่คบกันมา หนูเคยไม่โทรไป ครั้งเดียว - -*

แต่ถ้าหนูโทรไปหาแล้วเค้าไม่ว่าง หรือคุยได้แปบเดียว เค้าก็จะโทรหา

ซึ่งหนูไม่ชินหน่ะค่ะ บ้านหนูเป็นพวกติดต่อกันทางโทรศัพท์เสมอๆ เลยค่อนข้างจะไม่เข้าใจ

เรื่องก็เป็นฉะนี้แล

**

ตะกี้หกโมงเย็นเค้าเลิกงานหนูโทรไปก็พบว่าประชุมอยู่ บอกว่าแล้วจะโทรหา พอสองทุ่มโทรไป

ก็กำลังกินเลี้ยงวันเกิดรุ่นพี่อยู่ค่ะ ( ทำไมไม่โทรบอกจะได้ไม่ต้องห่วง เป็นงี้ตลอดเลย)

ปล. เข้าใจค่ะว่าห้องศาสนา ไม่ได้ตั้งผิดค่ะ แต่หนูจะเอาศาสนามาจับชีวิตอย่างไรดีคะ

** นั่นเป็นคำถาม

----------------------------------------------------------------------------

ในเมื่อคุณเองก็ทราบดีอยู่แล้วว่า กรรมปัจจุบันนั้นย่อมสำคัญ
ก็ควรเน้นพูดคุยปรึกษากันนะครับ ว่ารู้สึกไม่ดีไม่มั่นคง
รู้สึกอย่างไรก็บอกให้เขารับรู้ และช่วยกันปรับปรุงแก้ไข

หรืออย่างเช่น เรื่องที่เขาไม่ค่อยโทรมา คุณก็ค่อยๆพูดจาดีๆว่า
"เป็นห่วงนะ ถ้ามีธุระอะไรขอช่วยโทรมาบอก
หรือส่ง sms บอกให้รู้ก็ยังดี จะได้คลายความกังวล" เป็นต้น


และที่สำคัญ อย่าลืมว่า กรรมที่จะช่วยให้คุณสองคนผูกพันกัน เป็นคู่ครองที่ดีต่อกัน
ก็ต้องเป็นกรรมในส่วนด้านดี ซึ่งจะช่วยให้ครองคู่กันอย่างมีความสุข
.. ช่วงวันหยุด แทนที่จะเอาเวลาไปดูหนังฟังเพลง
ก็ควรชวนกันไปทำบุญเด็กกำพร้าบ้าง ปล่อยนกปล่อยปลา ให้อาหารปลาบ้าง
หรือแม้แต่ชวนกันไปฟังธรรม ศึกษาธรรม ชักชวนกันปฏิบัติธรรม ฯลฯ

นอกจากจะพิจารณาในเรื่องความเหมาะสมกัน
ในด้าน ศีล ศรัทธา จาคะ และปัญญา
(อ่านรายละเอียดคร่าวๆได้จากลิงค์ด้านบน
ในบทที่ 2 ของ ดังตฤณวิสัชนา ฉบับรู้จักรัก)

อาจพิจารณาในเรื่องของสังคหวัตถุ ๔ ได้ด้วย
ยกตัวอย่าง แฟนคุณพูดจาไม่เข้าหูเช่นนี้ จะยึดเหนี่ยวใจกันได้อย่างไร
หรือหากไม่ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ไม่ถนอมน้ำใจกัน ชีวิตคู่ก็คงระหองระแหงกันได้เช่นกัน

ปล.
ส่วนเรื่องหมอดู เรื่องดวงนั้น
หมอดูที่ดีมีศีลธรรมจรรยาบรรณ เขาไม่ทักกันแบบนั้นหรอกครับ
ส่วนใหญ่เขาก็ดูกันได้แค่กรรมเก่า ไม่ว่าจะหมอดูหรือคนทรง

แต่กรรมปัจจุบัน ที่คุณพร้อมจะร่วมมือ ร่วมใจ พร้อมปรับปรุงตัว
ไม่ว่าจะเรื่องการงอแงร้องไห้ของคุณ
(ผู้ชายยิ่งกลุ้มเรื่องงานเยอะๆ อยู่แล้ว ยังต้องมากลุ้มมาคอยปลอบบ่อยๆก็ไม่ไหวเหมือนกัน)
หรือเรื่องการพูดจาของเขา ที่จะไม่ต้องมาทำให้คุณต้องร้องไห้อีกบ่อยๆ
และพร้อมจะคอยช่วยเหลือกันฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ
เหล่านี้ต่างหากที่เป็นปัจจัยหลักสำคัญ หากอยากจะครองคู่กันต่อไปนานๆ


เพราะหากปัญหาเพียงเล็กน้อยเท่านี้ คุณยังรับไม่ได้
นับประสาอะไรกับปัญหาในวันข้างหน้าที่ยังมีอีกมากมายและหนักหนาสาหัสกว่ากันนักครับ

เข้ามาอ่านใน คห.#5 ของตัวเอง
เพื่อความชัดเจน ขอเพิ่มคำว่า "และเขา" ครับ

"...แต่กรรมปัจจุบัน ที่คุณและเขาพร้อมจะร่วมมือ ร่วมใจ พร้อมปรับปรุงตัว.."



ลองนึกถึงคำว่า "ชีวิตคู่" นะครับ
เมื่อมันไม่ใช่ชีวิตเดี่ยวๆ ที่ขึ้นอยู่กับตัวคุณเพียงฝ่ายเดียว
ต่อให้คุณปรับปรุงตัวคุณได้ หรือคุณยอมรับข้อเสียของเขาได้หมด
แต่ทางฝั่งเขาไม่พร้อมที่จะยอมรับ ไม่พร้อมพูดคุย และไม่ปรับปรุงอะไรใดๆ

หรือต่างคนต่างอยู่ ต่างคนต่างมีเวลาเป็นของตนเอง
ถึงตัวจะไม่ใกล้กัน แต่หากขาดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
ขาดการพูดคุยและเรียนรู้กันเช่นนั้นแล้ว
....ก็คงไม่อาจเรียกได้ว่า "ชีวิตคู่" ได้หรอกครับ

>>>> He-Who-Must-Not-Be-Named

ธรรมดาของผู้ชายหลายๆคนกระมัง ที่จะเฉื่อยๆ ไม่ค่อยโทรหา ไม่ค่อยติดต่อ

เรื่องที่หนูมองว่ามีอุปสรรค พี่มองว่าเป็นเรื่องปกติ เรื่องดวงก็ไม่ควรจะเอามาวิตกว่าตอนนี้เราอยู่กับคนที่ไม่ใช่ เดี๋ยวก็คงต้องเลิกกัน ยิ่งคิดจะยิ่งทำให้มันเป้นจริงไปกันใหญ่

ผู้ชายถ้าไม่เจ้าชู้ ไม่ติดการพนัน ไม่ติดเหล้าบุหรี่ รักครอบครัว พอจะดูแลเรายามป่วยไข้ได้ ถือศีลห้าได้บ้าง ชี้นำเราไปในทางที่ดี ถึงจะเฉื่อยๆไปบ้าง ก็น่าจะจัดว่าเป็นผู้ชายที่ใช้ได้คนนึง

การจะอยู่กันได้นาน ก็ควรดูว่าเรารับจริตเขาแบบนั้นได้หรือเปล่า ข้อดีอะไรที่ทำให้เรารักเขา ส่วนข้อเสียนั้นมีอะไรบ้าง มองข้ามไปได้มั๊ย คนเราไม่มีใครดีได้ถูกใจเราร้อยเปอร์เซ็นต์

ปรับเปลี่ยนที่ใจเราเองว่าเรารับได้แค่ไหน ถ้ารับไม่ได้ ก็อย่าไปเปลี่ยนเขา เปลี่ยนหาแฟนคนใหม่หรืออยู่คนเดียวจะง่ายกว่าในระยะยาว

>>>> yuy (ยุ้ยหัดเขียน)

คนที่ได้เป็นเนื้อคู่กัน ได้รักกันแล้วเกิดจาก
1)อธิษฐานเป็นเนื้อคู่กันมาตั้งแต่ปางก่อน
2)ชาิตินี้ได้ดูแลเอาใจใส่ใกล้ชิดกันมีความเอื้อเฟื้อ อาทรแก่กัน
เมื่อมีรักก็ย่อมหวัง เมื่อมีความหวังก็ย่อมมีความผิดหวังเป็นธรรมดา
ทุกข์จากเป็นผู้ที่ถูกรัก ทุกข์จากเป็นผู้ให้ความรัก
ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์
ลืมอีกอย่างครับ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ! การครองเรือนเป็นเรื่องยาก เรือนที่ครองไม่ดี ย่อมก่อทุกข์ให้มากหลาย การอยู่ร่วมกับคนพาลเป็นความทุกข์อย่างยิ่ง"
"ดูกรภิกษุทั้งหลาย ! เครื่องจองจำที่ทำด้วยเชือก เหล็กหรือโซ่ตรวนใดๆ เราไม่กล่าวว่าเป็นเครื่องจองจำที่แข็งแรงทนทานเลย แต่เครื่องจองจำคือ บุตร ภรรยา และทรัพย์สมบัตินี่แล ตรึงรัดมัดผูกสัตว์ทั้งหลายให้ติดอยู่ในภพอันไม่มีที่สิ้นสุด เครื่องผูกที่ผูกหย่อนๆ แต่แก้ได้ยากคือบุตร ภรรยา และทรัพย์สมบัตินี่เอง รูป เสียง กลิ่น รส และโผฏฐัพพะนั้นเป็นเหยื่อของโลก เมื่อบุคคลยังติดอยู่ในรูปเป็นต้นนั้น เขาจะพ้นจากโลกมิได้เลย ไม่มีรูปใดที่จะรัดตรึงใจของบุรุษได้มากเท่ารูปแห่งสตรี"
"ดูกรภิกษุทั้งหลาย ! ผู้ยังตัดอาลัยในสตรีไม่ได้ ย่อมจะต้องเวียนเกิด เวียนตายอยู่ร่ำไป แม้สตรีก็เช่นเดียวกัน ถ้ายังตัดอาลัยในบุรุษไม่ได้ย่อมประสบทุกข์บ่อยๆ กิเลสนั้นมีอำนาจควบคุมอยู่โดยทั่ว ไม่เลือกว่าวัยใด และเพศใด"
พุทธโอวาทก่อนปรินิพพาน
*********
เรียนรู้ในการเป็นผู้ที่รัก และเรียนรู้ในการเป็นผู้ที่ถูกรัก ใจเขาใจเราเถิดครับ

>>>> NotUndo

ไม่ต้องสนใจเรื่องดวงครับ ดูดวงเหมือนเราได้แผนที่มา แต่เราจะเลือกเดินทางไหนก็เรื่องของเรา

สนใจความรู้สึกของตัวเองดีกว่า สิ่งที่เขาเป็นอยู่นี้ ทำให้เราอึดอัดไหม เรารับได้ไหม

พระเนี่ยให้คิดถึงเสมอว่าอาจจะตายเมื่อไหร่ก็ได้ แต่เราเป็นฆราวาสนี่ต้องคิดว่าเราอาจจะอยู่ไปอีกนาน ถ้าเราอยู่อีกนาน เราทนเขาได้ไหม

ความรักมันไม่เที่ยง
ความรักมันทำให้เราทุกข์
ความรักมันไม่มีตัวตน
ต้องทำใจยอมรับมันให้ได้ครับ
>>>> Nobody I am

เบื้องต้น แนะนำเลยครับ หมอดู+ความรัก ไปด้วยกันได้ดี

หมอได้ตังส์ คนดูได้ความสบายใจ หรือความวิตกกังวลกลับไป

เพื่อนผมหลายคู่แล้วครับ เลิกกันเพราะหมอเนี่ยแหละ (เพราะเรื่อง

ดูแลเอาใจใส่กันก็เยอะพอแล้ว ยังมีเรื่องให้ต้องระแวงระวังอีก)

>>>> mainea

เอาล่ะ จะตอบสักหน่อย
จขกท.ก็เป็นคนที่ใจเย็นและ มีเหตุ มีผลดี

อาการเครียด อาการหงุดหงิด ขุ่นใจ ไม่พอใจของคุณ
ทั้งหลายทั้งปวงมาจาก "ความไม่ยอมรับ" ของคุณเอง
ไม่ยอมรับในสิ่งทีเกิดขึ้น ไม่ยอมรับความเป็นไปของชีวิต

หากคุณยอมรับทุกอย่างแล้ว ก็เป็นอันที่จะยุติปัญหาทั้งหมด ทั้งมวลลง
เพราะความทุกข์อยู่ที่ใจของคุณๆ ต้องแก้ปัญหาที่เรื่อง การวางใจ ของตนเองเสียใหม่นั่นเอง

คุณต้องบริหารความรักด้วย" ปัญญา"
จึงจะอยู่กับความรักได้อย่างมีความสุข

ไม่ใช่คนโสดเท่านั้นหรอกหนา ที่มีความทุกข์
คนที่มีความรักก็ทุกข์ไม่น้อยเช่นกัน...

>>>> นัยนะ

พูดตรงๆอย่างแรง ด้วยความหวังดี ไม่อยากให้คุณจขกท. เป็นเหมือนแฟนเก่าผม

ขอวิเคราะห์ปัญหาดังนี้

1. คุณเป็นพวกวิตกกังวลง่าย อะไรนิดๆหน่อยก้อจิตตก คิดมาก
คุณอายุ 25 แล้วนะ อีกหน่อย จะต้องมีหน้าที่การงาน ความรับผิดชอบมากมาย ถ้ายังทำตัวงี่เง่า แบบนี้ วันๆ ก้อไม่ต้องทำไรพอดี มัวแต่นั่งเฝ้าแฟนว่า จะไปทำไรที่ไหนกับใคร หัดไว้ใจเค้าบ้าง
คุณไม่ใช่เด็กมัธยมแล้วนะ ที่ต้องระแวงอะไรไร้สาระ ช่วยทำไรแบบมืออาชีพหน่อย ถ้าว่างมากนัก ก้อไปเรียนพิเศษเข้า เรียนภาษา หรือ เรียนต่อ ป.โท ก้อได้ ทำไรที่มันดีต่ออนาคตของคุณ


2. วันๆ คิดแต่เรื่องแฟน ถามหน่อย ถ้าวันนี้ แม่คุณไม่อยู่กับคุณแล้ว คุณจะเสียใจมั้ย วันนี้ ยังมีคนที่รักคุณมากที่สุดในโลกนี้อยู่ เพราะงั้น รักคุณแม่ให้มากๆ แฟนหน่ะไม่ต้องไปรักมันมากก้อได้ ให้เวลากับคุณแม่ให้มากๆสิครับ เค้าไม่อยู่กับคุณตลอดไปนะ


3. ไอ้ที่ถามว่า คิดจะเลิก หน่ะ ถามหน่อย เพราะมันไปดูหมอดูมาใช่มะ ถ้าหมอดูอีกคนนึง เค้าบอกว่า คนนี้เป็นเนื้อคู่หล่ะ คุณจะว่าไง แต่งงานเลยเดือนหน้างั้นเหรอ
หมอดูกับความรัก และเนื้อคู่เนี่ย ขอให้เลิกสักทีเหอะ คนเรามันดูไม่ได้หรอก ใช่เนื้อคู่หรือไม่ใช่

พิสูจน์ง่ายๆ คุณลองเอาดวงพ่อแม่ คุณ ไปให้ไอ้หมอดู คนนั้น มันดูสิ คุณคิดว่าเค้าจะว่าไง จขกท. คิดว่า พ่อแม่คุณเป็นเนื้อคู่กันรึป่าว

4. คุณคิดว่า ถ้าเลิกแล้วจะได้แฟนใหม่เป็นแบบไหน รวย 5-6 หมื่นล้าน รูปหล่อเหมือนแบรดพิทท์ แบบนั้นเหรอ คิดว่า แฟนดีๆ มันหากันได้ง่ายปานนั้นเลยเหรอ ถ้า....... แฟนคุณ ตีค่าของคุณว่าเป็นแค่ของเล่น +ทางผ่าน อีกหน่อยหาใหม่ก้อได้ คุณจะรู้สึกไง



5. มีสติเยอะๆ ทำความรักให้มีค่า ทำให้ชีวิตของคุณและแฟน เจริญก้าวหน้าดูแลกันและกัน วางอนาคตให้ดีๆ อีกไม่กี่ปี คิดว่า ไม่เกิน 4 ปี คุณน่าจะได้แต่งงานแน่ๆ 365 * 4 = 1460 วันเองนะ

คุณพร้อมรึยัง 1 พันกว่าวัน คุณอยากให้ชีวิตคุณพร้อมรึป่าว

สมัยนี้ มีบ้าน 1 หลังเล็กๆ 5 ล้าน รถ 2 คัน คันละ 6 แสน 1.2 ล้าน
ถ้าคุณมีลูก ค่าเล่าเรียนลูก แค่อนุบาล เทอมนึงก้อ 3-4 หมื่น ไหนจะค่าใช้จ่ายอีกเยอะแยะ เข้าป.1 ก้อต้องเสียเงินบำรุงโรงเรียน ถ้าให้เข้าโรงเรียน ดีๆ เอาแค่ bilingual ก้อ ต้อง เทอมละ 6 - 7 หมื่น

คิดว่า จะรอให้สิ่งเหล่านี้ หล่นมาจากฟ้าเหรอครับ
จขกท. ตั้งใจเรียนต่อ + ทำงาน อีกหน่อยจะได้มีรายได้ที่ดี ชีวิตครอบครัวจะได้สุขสบาย พ่อแม่ จะได้ retire ได้อย่างสบายใจหน่อย


สุดท้ายนี้ ขอให้ บุญกุศลที่คุณทำมา ได้ทำให้ จขกท. เลิกทำตัวโง่ๆ แล้วตั้งใจทำความรักให้ดี มีชีวิตเจริญก้าวหน้า ได้แต่งงาน มีครอบครัวที่ดี มีลูกที่น่ารัก +ได้เป็นหลานที่ดีของคุณแม่คุณ เงินทองไหลมาเทมา

ฝากไว้ว่า ขอให้ สวดมนต์ก่อนนอน + ปฎิบัติ วิปัสสนา ด้วย จะได้เห็นว่า จิตของเรา มันงี่เง่า ชอบหาเรื่องคิดอะไร เพ้อเจ้อ ส่งผลให้ชีวิต เดินผิดเรื่อยๆ ต้องรู้จักตัดระบบความคิดเพ้อเจ้อ ด้วยการ รู้สึกตัวบ่อยๆ


แถมให้นิดนึง
ไอ้เรื่อง โทรศัพท์ไปแล้ว แฟนไม่รับหน่ะ ผมเข้าใจ เพราะว่า ที่บ้านก้อแบบนี้ เพราะงั้น เวลาผมติดประชุมอะไรแบบนี้ ก้อจะใช้ sms หรือไม่ก้อ miss call กลับ เป็นอันรู้กันว่า เรารับทราบ แต่รับสายไม่ได้ (ถือว่ามีสัญญาณ สิ่งมีชีวิต)
จขกท. ก้อลองไปบอกแฟนให้ทำแบบนี้ก้อได้ ถือว่า เป็นการให้เกียรติกันดี แล้วก้อไม่บีบบังคับแฟนให้รู้สึกว่า เรื่องมากต้องรีบสายตลอดเวลา...

>>>>muangsombut

ผมอ่านแล้ว ไม่รู้สึกว่า เขาเป็นแฟนหนูเลย
เขาเป็นแน่หรือ หรือเขาคิดว่าเขาเป็นเพื่อนเท่านั้น
ร้องไห้ไม่ช่วย คิดแง่ร้ายไม่ช่วย จะบั่นทอน
ค่อยๆคุยตรงๆ ก็ได้ว่าเขาคิดอย่างไร และบอกว่า เราอยากให้เป็นอย่างไร
ความไม่เข้าใจกัน ส่วนมากแก้ได้ ด้วยการ คุยกันให้เข้าใจเท่านั้นเอง
แนะนำว่า จงทำใจให้สบาย ไม่ยึดมั่นถือมั่น
รับรองว่า ถ้าเป็นคู่กันมาแล้วไซร้อย่างไร ก็จะได้เป็นสามีภรรยากัน
แต่จะอยู่กันนานหรือไม่ก็ได้นะ
ที่เขาแต่งจนมีลูกกันและหย่า ก็เคยเป็นเนื้อคู่กันมาทั้งนั้นแหละครับ
แต่ถ้าไม่ใช่ ก็จะไม่ได้เป็นสามีภรรยากัน
และอาจจะเจอคนใหม่ ที่ดีกว่า ใช่ของเราเลยจริงๆ
หรือไม่อาจจะไม่เจอเลย แต่เราก็จะไม่ทุกข์อะไร
เป็นเพราะเราอาจเคยตั้งใจจะไม่มีคู่มาก่อน ก็ได้
จงทำใจให้สบาย อยู่ในความดี อยู่ในธรรม
เพราะธรรม และความดีนั้นแหละที่จะอยู่กับเราเสมอเลย
ไม่ไปดูหนัง ดูทีวี ด้วย
ปล่อยวาง ทำใจให้สบาย อยู่ในความดี ดูไปเรื่อยๆ ชีวิตจะมีอะไรดีๆ อีกมหาศาลเลย
ไม่ว่าจะใช่คนนี้ หรือไม่ใช่ก็ตาม นะครับ
ชีวิต ก็จะยัง มีอะไรดีๆ อีกมหาศาลเลย

>>>> จักรแก้ว

มีคำตอบหลากหลายที่อ่านแล้วตรงกับใจ

อยากเสริมให้ จขกท. รู้สึกตัวว่า ที่เขียนมาคิดไปเองเกือบทั้งหมด
มีแต่คิดว่า....แล้วจบด้วยความกลัว (ว่าจะถูกทิ้ง) ทุกที

ตอนนี้คุณอยู่กับมันตลอดเวลา มัน = กลัว

เป็นเรื่องยากที่จะชี้ให้คนไม่เคยดูใจตัวเอง เห็นแล้วนั่งดูเฉยๆ ได้ มันกลัวแล้วต้องเข้าไปคลุก (ผมก็เป็น)

ที่จะแนะนำคือ ให้ จขกท. หากิจกรรมอื่นทำบ้าง เพื่อที่จะได้ตัดวงจรความคิดซ้ำๆ เรื่องแฟน เปลี่ยนไปคิดเรื่องอื่น แล้วพอใจมันวกกลับมาคิดเรื่องแฟน ก็ให้บอกตัวเองว่าคิดเรื่องเค้าอีกแล้วนะ ใจแข็งๆ หน่อย ไปทำอะไรก็ได้ ออกกำลังกาย ว่ายน้ำ ให้เหนื่อย ช็อปปิ้งก็ได้ หัดทำกับข้าวก็ได้ ไปเดินห้างก็ได้ ชวนเพื่อนไป เดี๋ยวใจมันจะกลับมาคิดต่อเรื่องเขาอีก ไม่ต้องกลัวลืมหรอก แต่คิดปุ๊บให้รู้ทันว่าคิดเรื่องแฟนอีกแล้วนะ

เดี่ยวก็ดีขึ้นเอง

>>>> norapob

********** เป็นไง คำตอบดีๆทั้งนั้น เอาไปใช้ได้น๊า **********

Create Date : 08 เมษายน 2552 Last Update : 8 เมษายน 2552 9:28:17 น. Counter : 597 Pageviews.		4 comments
Share Tweet